ข้ามไปเนื้อหา

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015–16

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล2015–16
ชนะเลิศเลสเตอร์ซิตี
แชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรก
ตกชั้นแอสตันวิลลา
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
นอริชซิตี
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอาร์เซนอล
เลสเตอร์ซิตี
แมนเชสเตอร์ซิตี
ทอตนัมฮอตสเปอร์
ยูฟ่ายูโรปาลีกแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เซาแทมป์ตัน
จำนวนการแข่งขันทั้งหมด380
จำนวนประตูทั้งหมด1026 (2.7 ต่อนัด)
ผู้ยิงประตูสูงสุดแฮร์รี เคน
(25 ประตู)[1]
ทีมเหย้าชนะสูงสุดแมนเชสเตอร์ซิตี 6–1 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
(3 ตุลาคม 2015)[2]
ทีมเยือนชนะสูงสุดแอสตันวิลลา 0–6 ลิเวอร์พูล
(14 กุมภาพันธ์ 2016)[2]
ประตูสูงสุดนอริชซิตี 4–5 ลิเวอร์พูล
(23 มกราคม 2016)
สถิติชนะติดต่อกันสูงสุด6 นัด[3]
ทอตนัมฮอตสเปอร์
สถิติไม่แพ้ติดต่อกันสูงสุด15 นัด[3]
เชลซี
สถิติไม่ชนะติดต่อกันสูงสุด19 นัด[3]
แอสตันวิลลา
สถิติแพ้ติดต่อกันสูงสุด11 นัด[3]
แอสตันวิลลา
ผู้เข้าชมมากที่สุด75,415 คน[4]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2–1 สวอนซีซิตี
(2 มกราคม 2016)
ผู้เข้าชมน้อยที่สุด10,863 คน[4]
บอร์นมัท 1–3 สโตกซิตี
(13 กุมภาพันธ์ 2016)
ผู้เข้าชมทั้งหมด13,851,698 คน[4]
ผู้เข้าชมโดยเฉลี่ย36,451 คน[4]

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015–16 (อังกฤษ: 2015–16 Premier League) เป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 24 นับแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 โดยจะเริ่มต้นฤดูกาลวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2015[5]มีทีมเข้าร่วมแข่งขันในลีก 20 ทีม โดยมี 17 ทีมเดิมจากฤดูกาลก่อน และอีก 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิพ โดยมี 2 ทีมที่ได้เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ ได้แก่ วอตฟอร์ด, เอเอฟซีบอร์นมัท และอีก 1 ทีมที่เป็นผู้ชนะในรอบเพลย์ออฟ คือ นอริชซิตี

โดยรวมแล้ว จนถึงวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2015 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่การซื้อขายผู้เล่นในทวีปยุโรปและประเทศอังกฤษจบลง พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้นับว่าเป็นฤดูกาลที่ใช้จำนวนเงินซื้อขายตัวกันในราคาที่สูงเป็นประวัติศาสตร์ โดยรวมแล้วมีมูลค่าถึง 870 ล้านปอนด์ (ประมาณ 47,850 ล้านบาท) และหากรวมถึงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในฤดูกาลก่อน ก็เป็นมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 55,000 ล้านบาท) โดยถือเป็นลีกที่ใช้เงินมากที่สุดในยุโรปด้วย

สำหรับทีมที่ใช้เงินในการซื้อตัวผู้เล่นมากที่สุด คือ แมนเชสเตอร์ซิตี (โดยฤดูกาลที่แล้ว คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด) ด้วยการซื้อตัว เกฟิน เดอ เบรยเนอ ในราคา 55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,025 ล้านบาท), ราฮีม สเตอร์ลิง ในราคา 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,695 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังจ่ายเงินเป็นค่าตัวของนีโกลัส โอตาเมนดี อีก 33 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,815 ล้านบาท)[6]

และทีมที่ราคาบัตรเข้าชมการแข่งขันที่แพงที่สุดในฤดูกาลนี้ คือ อาร์เซนอล โดยบัตรเข้าชมรายปีสูงถึง 2,013 ปอนด์ (ประมาณ 110,715 บาท) ขณะที่ทีมที่มีราคาบัตรเข้าชมถูกที่สุด คือ สโตกซิตี บัตรเข้าชมรายปีราคา 294 ปอนด์ (ประมาณ 16,170 บาท)[7]

ทีม

[แก้]

ทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม โดยเป็น 17 ทีมจากในฤดูกาล 2014-15 และอีก 3 ทีมที่เลื่อนขึ้นจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2014–15

ที่ตั้งและสนาม

[แก้]
ทีม ที่ตั้ง สนาม ความจุ[8]
เอเอฟซีบอร์นมัท บอร์นมัท ดีนคอร์ต 11,464
อาร์เซนอล ลอนดอน (ฮอลโลเวย์) เอมิเรตส์สเตเดียม 60,260
แอสตันวิลลา เบอร์มิงแฮม วิลลาพาร์ก 42,660
เชลซี ลอนดอน (ฟูลัม) สแตมฟอร์ดบริดจ์ 41,798
คริสตัลพาเลซ ลอนดอน (เซานอร์วูด) เซลเฮิสต์พาร์ก 25,073
เอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูล กูดิสันพาร์ก 39,571
เลสเตอร์ซิตี เลสเตอร์ คิงพาวเวอร์สเตเดียม 32,312
ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แอนฟีลด์ 44,742
แมนเชสเตอร์ซิตี แมนเชสเตอร์ เอติฮัดสเตเดียม 55,097
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ โอลด์แทรฟฟอร์ด 75,653
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด นิวคาสเซิลอะพอนไทน์ เซนต์เจมส์พาร์ก 52,338
นอริชซิตี นอริช แคร์โรว์โรด 27,010
เซาแทมป์ตัน เซาแทมป์ตัน เซนต์แมรีส์สเตเดียม 32,505
สโตกซิตี สโตก-ออน-เทรนต์ บริแทนเนียสเตเดียม 27,740
ซันเดอร์แลนด์ ซันเดอร์แลนด์ สเตเดียมออฟไลต์ 48,707
สวอนซีซิตี สวอนซี ลิเบอร์ตีสเตเดียม 20,909
ทอตนัมฮอตสเปอร์ ลอนดอน (ทอตนัม) ไวต์ฮาร์ตเลน 36,284
วอตฟอร์ด วอตฟอร์ด วิคาริจโรด 21,500
เวสต์บรอมมิชอัลเบียน เวสต์บรอมมิช เดอะฮอว์ธอร์น 26,850
เวสต์แฮมยูไนเต็ด ลอนดอน (อัปตันพาร์ก) บุลินกราวนด์ 35,345

ทีมและชุดแข่งขัน

[แก้]

หมายเหตุ: ธงแสดงชาตินั้นเป็นไปภายใต้กฎของฟีฟ่า นักฟุตบอลและผู้จัดการอาจจะถือมากกว่า 1 สัญชาติ

ทีม ผู้จัดการ1 กัปตันทีม ผู้ผลิตเสื้อ สปอนเซอร์
เอเอฟซีบอร์นมัท อังกฤษ ฮาว, เอ็ดดีเอ็ดดี ฮาว อังกฤษ เอลฟิค, ทอมมีทอมมี เอลฟิค เจดีสปอร์ตส[9] แมนชันกรุ๊ป[10]
อาร์เซนอล ฝรั่งเศส แวงแกร์, อาร์แซนอาร์แซน แวงแกร์ สเปน อาร์เตตา, มีเกลมีเกล อาร์เตตา พูมา[11] เอมิเรตส์[12]
แอสตันวิลลา สกอตแลนด์ อีริค แบล็ค (รักษาการ) อังกฤษ ริชาดส์, ไมคาห์ไมคาห์ ริชาดส์ มาครอน[13] อินทูอิชควิกบุ๊คส์[14]
เชลซี เนเธอร์แลนด์ ฮิดดิงค์, กุสกุส ฮิดดิงค์ (รักษาการ) อังกฤษ เทร์รี, จอห์นจอห์น เทร์รี อาดิดาส[15] โยโกฮามา[16]
คริสตัลพาเลซ อังกฤษ พาร์ดิว, แอลันแอลัน พาร์ดิว ออสเตรเลีย เจดินัค, มีเลมีเล เจดินัค มาครอน[17] แมนชันกรุ๊ป[18]
เอฟเวอร์ตัน อังกฤษ เดวิด อันสเวิร์ธ
อังกฤษ โจ รอยล์ (รักษาการ)
อังกฤษ จากีลกา, ฟิลฟิล จากีลกา อัมโบร[19] ช้าง[20]
เลสเตอร์ซิตี อิตาลี รานีเอรี, เกลาดีโอเกลาดีโอ รานีเอรี จาเมกา มอร์แกน, เวสเวส มอร์แกน พูมา[21] คิงพาวเวอร์[22]
ลิเวอร์พูล เยอรมนี คลอพพ์, เยือร์เกินเยือร์เกิน คลอพพ์ อังกฤษ เฮนเดอร์สัน, จอร์แดนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน นิวบาลานซ์[23] สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด[24]
แมนเชสเตอร์ซิตี ชิลี เปเยกรีนี, มานวยล์มานวยล์ เปเยกรีนี เบลเยียม กงปานี, แว็งซ็องแว็งซ็อง กงปานี ไนกี้[25] เอทิฮัดแอร์เวย์[26]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เนเธอร์แลนด์ ฟัน คาล, ลูวีลูวี ฟัน คาล อังกฤษ รูนีย์, เวย์นเวย์น รูนีย์ อาดิดาส[27] เชฟโรเลต[28]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด สเปน เบนีเตซ, ราฟาเอลราฟาเอล เบนีเตซ อาร์เจนตินา โคลอชชินี, ฟาบริซิโอฟาบริซิโอ โคลอชชินี พูมา[29] วองกา[30]
นอริชซิตี สกอตแลนด์ นีล, อเล็กซ์อเล็กซ์ นีล สกอตแลนด์ มาร์ติน, รัสเซลล์รัสเซลล์ มาร์ติน เออร์เรีย[31] อาวีวา[32]
เซาแทมป์ตัน เนเธอร์แลนด์ กุมัน, โรนัลด์โรนัลด์ กุมัน โปรตุเกส ฟงตือ, ฌูแซฌูแซ ฟงตือ อาดิดาส[33] วีโฮ[34]
สโตกซิตี เวลส์ ฮิวส์, มาร์กมาร์ก ฮิวส์ อังกฤษ ชอว์ครอส, ไรอันไรอัน ชอว์ครอส นิวบาลานซ์[35] เบต365[36]
ซันเดอร์แลนด์ อังกฤษ อัลลาร์ไดซ์, แซมแซม อัลลาร์ไดซ์ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ โอเช, จอห์นจอห์น โอเช อาดิดาส[37] ดาฟาเบต[38]
สวอนซีซิตี อิตาลี ฟรันเชสโก กุยโดลิน เวลส์ วิลเลียมส์, แอชลีย์แอชลีย์ วิลเลียมส์ อาดิดาส[39] จีดับเบิลยูเอฟเอ็กซ์[40]
ทอตนัมฮอตสเปอร์ อาร์เจนตินา โปเชติโน, เมาริซิโอเมาริซิโอ โปเชติโน ฝรั่งเศส โยริส, อูว์โกอูว์โก โยริส อันเดอร์อามัวร์[41] เอไอเอ[42]
วอตฟอร์ด สเปน โฟลเรส, กีเกกีเก โฟลเรส อังกฤษ ดีนีย์, ทรอยทรอย ดีนีย์ พูมา[43] 138.com[44]
เวสต์บรอมมิชอัลเบียน เวลส์ พูลิส, โทนีโทนี พูลิส สกอตแลนด์ เฟลตเชอร์, แดร์เรนแดร์เรน เฟลตเชอร์ อาดิดาส[45] ทีแอลซีเบต
เวสต์แฮมยูไนเต็ด โครเอเชีย บีลิช, สลาเวนสลาเวน บีลิช อังกฤษ โนเบิล, มาร์กมาร์ก โนเบิล อัมโบร[46] เบตเวย์[47]

เปลี่ยนผู้จัดการทีม

[แก้]
ทีม ผู้จัดการคนก่อน เหตุที่ออก วันที่ อันดับในตารางคะแนน ผู้จัดการคนใหม่ วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
เวสต์แฮมยูไนเต็ด อังกฤษ แซม อัลลาร์ไดซ์ สิ้นสุดสัญญา 24 พฤษภาคม 2015[48] ก่อนเริ่มฤดูกาล โครเอเชีย สลาเวน บีลิช 9 มิถุนายน 2015[49]
วอตฟอร์ด เซอร์เบีย สลาวีชา ยอคานอวิช 5 มิถุนายน 2015[50] สเปน กีเก โฟลเรส 5 มิถุนายน 2015[50]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อังกฤษ จอห์น คาร์เวอร์ ถูกไล่ออก 9 มิถุนายน 2015[51] อังกฤษ สตีฟ แม็คคลาเรน 10 มิถุนายน 2015[52]
เลสเตอร์ซิตี อังกฤษ ไนเจล เพียร์สัน 30 มิถุนายน 2015[53] อิตาลี เกลาดีโอ รานีเอรี 13 กรกฎาคม 2015[54]
ซันเดอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ ดิก อัดโฟกาต ลาออก 4 ตุลาคม 2015[55] อันดับที่ 19 อังกฤษ แซม อัลลาร์ไดซ์ 9 ตุลาคม 2015[56]
ลิเวอร์พูล ไอร์แลนด์เหนือ เบรนดัน ร็อดเจอส์ ถูกไล่ออก 4 ตุลาคม 2015[57] อันดับที่ 10 เยอรมนี เยือร์เกิน คลอพพ์ 8 ตุลาคม 2015[58]
แอสตันวิลลา อังกฤษ ทิม เชอร์วูด 25 ตุลาคม 2015[59] อันดับที่ 19 ฝรั่งเศส เรมี การ์ด 2 พฤศจิกายน 2015[60]
สวอนซีซิตี อังกฤษ แกรี มังก์ 9 ธันวาคม 2015[61] อันดับที่ 15 เวลส์ อาลัน เคอร์ติส (รักษาการ) 7 มกราคม 2016[62]
เชลซี โปรตุเกส โชเซ มูรีนโย ความยินยอมร่วมกัน[63] 17 ธันวาคม 2015[64] อันดับที่ 16 เนเธอร์แลนด์ กุส ฮิดดิงค์ 19 ธันวาคม 2015[65]
สวอนซีซิตี เวลส์ อาลัน เคอร์ติส สิ้นสุดการคุมทีมรักษาการ 18 มกราคม 2016[66] อันดับที่ 18 อิตาลี ฟรันเชสโก กุยโดลิน 18 มกราคม 2016[66]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อังกฤษ สตีฟ แม็คคลาเรน ถูกไล่ออก 11 มีนาคม 2016[67] อันดับที่ 19 สเปน ราฟาเอล เบนีเตซ 11 มีนาคม 2016[68]
แอสตันวิลลา ฝรั่งเศส เรมี การ์ด ความยินยอมร่วมกัน 29 มีนาคม 2016[69] อันดับที่ 20 สกอตแลนด์ อีริค แบล็ค 29 มีนาคม 2016[70]
เอฟเวอร์ตัน สเปน มาร์ตีเนซ, โรเบร์โตโรเบร์โต มาร์ตีเนซ ถูกไล่ออก 12 พฤษภาคม 2016[71] อันดับที่ 12 อังกฤษ เดวิด อันสเวิร์ธ (รักษาการ) 12 พฤษภาคม 2016

ตารางคะแนน

[แก้]
อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบหรือการตกชั้น
1 เลสเตอร์ซิตี (C) 38 23 12 3 68 36 +32 81 ผ่านเข้ารอบสู่ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
2 อาร์เซนอล 38 20 11 7 65 36 +29 71
3 ทอตนัมฮอตสเปอร์ 38 19 13 6 69 35 +34 70
4 แมนเชสเตอร์ซิตี 38 19 9 10 71 41 +30 66 ผ่านเข้ารอบสู่ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ
5 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 38 19 9 10 49 35 +14 66 ผ่านเข้ารอบสู่ ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม[a]
6 เซาแทมป์ตัน 38 18 9 11 59 41 +18 63
7 เวสต์แฮมยูไนเต็ด 38 16 14 8 65 51 +14 62 ผ่านเข้ารอบสู่ ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบคัดเลือกรอบสาม[b]
8 ลิเวอร์พูล 38 16 12 10 63 50 +13 60
9 สโตกซิตี 38 14 9 15 41 55 −14 51
10 เชลซี 38 12 14 12 59 53 +6 50
11 เอฟเวอร์ตัน 38 11 14 13 59 55 +4 47
12 สวอนซีซิตี 38 12 11 15 42 52 −10 47
13 วอตฟอร์ด 38 12 9 17 40 50 −10 45
14 เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 38 10 13 15 34 48 −14 43
15 คริสตัลพาเลซ 38 11 9 18 39 51 −12 42
16 เอเอฟซีบอร์นมัท 38 11 9 18 45 67 −22 42
17 ซันเดอร์แลนด์ 38 9 12 17 48 62 −14 39
18 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (R) 38 9 10 19 44 65 −21 37 ตกชั้นสู่ ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2016–17
19 นอริชซิตี (R) 38 9 7 22 39 67 −28 34
20 แอสตันวิลลา (R) 38 3 8 27 27 76 −49 17
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2016. แหล่งที่มา : พรีเมียร์ลีก
กฎการจัดอันดับ : 1) คะแนน; 2) ผลต่างประตู; 3) ประตูรวม[72]
(C) ชนะเลิศ; (R) ตกชั้น.
หมายเหตุ :
  1. แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้ผ่านเข้ารอบเข้าไปเล่นใน ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการชนะเลิศใน เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2015–16, และจบอันดับที่ 5 ทำให้โควต้าจะถูกส่งผ่านไปยังทีมอันดับที่ 6 ในตารางคะแนนก็คือ เซาแทมป์ตัน
  2. ตั้งแต่ผู้ชนะของ ฟุตบอลลีกคัพ ฤดูกาล 2015–16, แมนเชสเตอร์ซิตี, ในขณะนี้ได้มีคุณสมบัติสำหรับการแข่งขันในสโมสรยุโรปขึ้นอยู่กับอันดับในลีกของพวกเขา, จุดนี้จึงตกมาอยู่ที่ทีมชนะเลิศฟุตบอลลีกคัพ (ยูโรปาลีก รอบคัดเลือกรอบสาม) จะถูกส่งผ่านไปยังทีมอันดับที่ 7 ก็คือ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ซึ่งเป็นทีมอันดับสูงสุดในตารางคะแนนที่ไม่ได้ไปแข่งขันในระดับสโมสรยุโรป

ผลการแข่งขัน

[แก้]
เหย้า \ เยือน1 ARS AST BOU CHE CRY EVE LEI LIV MCI MUN NEW NOR SOU STK SUN SWA TOT WAT WBA WHU
อาร์เซนอล 4–0 2–0 0–1 1–1 2–1 2–1 0–0 2–1 3–0 1–0 1–0 0–0 2–0 3–1 1–2 1–1 4–0 2–0 0–2
แอสตันวิลลา 0–2 1–2 0–4 1–0 1–3 1–1 0–6 0–0 0–1 0–0 2–0 2–4 0–1 2–2 1–2 0–2 2–3 0–1 1–1
เอเอฟซีบอร์นมัท 0–2 0–1 1–4 0–0 3–3 1–1 1–2 0–4 2–1 0–1 3–0 2–0 1–3 2–0 3–2 1–5 1–1 1–1 1–3
เชลซี 2–0 2–0 0–1 1–2 3–3 1–1 1–3 0–3 1–1 5–1 1–0 1–3 1–1 3–1 2–2 2–2 2–2 2–2 2–2
คริสตัลพาเลซ 1–2 2–1 1–2 0–3 0–0 0–1 1–2 0–1 0–0 5–1 1–0 1–0 2–1 0–1 0–0 1–3 1–2 2–0 1–3
เอฟเวอร์ตัน 0–2 4–0 2–1 3–1 1–1 2–3 1–1 0–2 0–3 3–0 3–0 1–1 3–4 6–2 1–2 1–1 2–2 0–1 2–3
เลสเตอร์ซิตี 2–5 3–2 0–0 2–1 1–0 3–1 2–0 0–0 1–1 1–0 1–0 1–0 3–0 4–2 4–0 1–1 2–1 2–2 2–2
ลิเวอร์พูล 3–3 3–2 1–0 1–1 1–2 4–0 1–0 3–0 0–1 2–2 1–1 1–1 4–1 2–2 1–0 1–1 2–0 2–2 0–3
แมนเชสเตอร์ซิตี 2–2 4–0 5–1 3–0 4–0 0–0 1–3 1–4 0–1 6–1 2–1 3–1 4–0 4–1 2–1 1–2 2–0 2–1 1–2
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3–2 1–0 3–1 0–0 2–0 1–0 1–1 3–1 0–0 0–0 1–2 0–1 3–0 3–0 2–1 1–0 1–0 2–0 0–0
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 0–1 1–1 1–3 2–2 1–0 0–1 0–3 2–0 1–1 3–3 6–2 2–2 0–0 1–1 3–0 5–1 1–2 1–0 2–1
นอริชซิตี 1–1 2–0 3–1 1–2 1–3 1–1 1–2 4–5 0–0 0–1 3–2 1–0 1–1 0–3 1–0 0–3 4–2 0–1 2–2
เซาแทมป์ตัน 4–0 1–1 2–0 1–2 4–1 0–3 2–2 3–2 4–2 2–3 3–1 3–0 0–1 1–1 3–1 0–2 2–0 3–0 1–0
สโตกซิตี 0–0 2–1 2–1 1–0 1–2 0–3 2–2 0–1 2–0 2–0 1–0 3–1 1–2 1–1 2–2 0–4 0–2 0–1 2–1
ซันเดอร์แลนด์ 0–0 3–1 1–1 3–2 2–2 3–0 0–2 0–1 0–1 2–1 3–0 1–3 0–1 2–0 1–1 0–1 0–1 0–0 2–2
สวอนซีซิตี 0–3 1–0 2–2 1–0 1–1 0–0 0–3 3–1 1–1 2–1 2–0 1–0 0–1 0–1 2–4 2–2 1–0 1–0 0–0
ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2–2 3–1 3–0 0–0 1–0 0–0 0–1 0–0 4–1 3–0 1–2 3–0 1–2 2–2 4–1 2–1 1–0 1–1 4–1
วอตฟอร์ด 0–3 3–2 0–0 0–0 0–1 1–1 0–1 3–0 1–2 1–2 2–1 2–0 0–0 1–2 2–2 1–0 1–2 0–0 2–0
เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2–1 0–0 1–2 2–3 3–2 2–3 2–3 1–1 0–3 1–0 1–0 0–1 0–0 2–1 1–0 1–1 1–1 0–1 0–3
เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3–3 2–0 3–4 2–1 2–2 1–1 1–2 2–0 2–2 3–2 2–0 2–2 2–1 0–0 1–0 1–4 1–0 3–1 1–1

อัปเดตล่าสุดวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2016
แหล่งข้อมูล: สกอร์และผลการแข่งขันฟุตบอลบาร์เคลย์สพรีเมียร์ลีก
1คอลัมน์ด้านซ้ายมือหมายถึงทีมเหย้า
สี: ฟ้า = ทีมเหย้าชนะ; เหลือง = เสมอ; แดง = ทีมเยือนชนะ
สำหรับแมตช์ที่กำลังมาถึง อักษร a หมายถึง มีบทความเกี่ยวกับแมตช์นั้น

สถิติตลอดฤดูกาล

[แก้]

การทำประตู

[แก้]

ผู้ทำประตูสูงสุด

[แก้]
ณ วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2016[1]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร ประตู
1 อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ 25
2 อาร์เจนตินา เซร์คีโอ อะกูเอโร แมนเชสเตอร์ซีตี้ 24
อังกฤษ เจมี วาร์ดี เลสเตอร์ซิตี
4 เบลเยียม โรเมลู ลูกากู เอฟเวอร์ตัน 18
5 แอลจีเรีย ริยาด มาห์เรซ เลสเตอร์ซิตี 17
6 ฝรั่งเศส ออลีวีเย ฌีรู อาร์เซนอล 16
7 อังกฤษ เจอร์เมน เดโฟ ซันเดอร์แลนด์ 15
ไนจีเรีย โอดิออน อิกฮาโล วอตฟอร์ด
9 อังกฤษ ทรอย ดีนีย์ วอตฟอร์ด 13
ชิลี อาเลกซิส ซานเชซ อาร์เซนอล 12 8

แฮท-ทริคส์

[แก้]
ผู้เล่น ทีม พบกับทีม ผล วันที่ อ้างอิง
อังกฤษ วิลสัน, คัลลัมคัลลัม วิลสัน เอเอฟซีบอร์นมัท เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4–3 22 สิงหาคม 2015 [73]
สกอตแลนด์ เนสมิธ, สตีเวนสตีเวน เนสมิธ เอฟเวอร์ตัน เชลซี 3–1 12 กันยายน 2015 [74]
ชิลี ซานเชซ, อาเลกซิสอาเลกซิส ซานเชซ อาร์เซนอล เลสเตอร์ซิตี 5–2 26 กันยายน 2015 [75]
อาร์เจนตินา อะกูเอโร, เซร์คีโอเซร์คีโอ อะกูเอโร5 แมนเชสเตอร์ซิตี นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 6–1 3 ตุลาคม 2015 [76]
อังกฤษ สเตอร์ลิง, ราฮีมราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี เอเอฟซีบอร์นมัท 5–1 17 ตุลาคม 2015 [77]
เนเธอร์แลนด์ ไวนัลดึม, จอร์จีนีโยจอร์จีนีโย ไวนัลดึม4 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด นอริชซิตี 6–2 18 ตุลาคม 2015 [78]
อังกฤษ เคน, แฮร์รีแฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ เอเอฟซีบอร์นมัท 5–1 25 ตุลาคม 2015 [79]
โกตดิวัวร์ โคเน่, อารูน่าอารูน่า โคเน่ เอฟเวอร์ตัน ซันเดอร์แลนด์ 6–2 1 พฤศจิกายน 2015 [80]
แอลจีเรีย มาห์เรซ, ริยาดริยาด มาห์เรซ เลสเตอร์ซิตี สวอนซีซิตี 3–0 5 ธันวาคม 2015 [81]
อังกฤษ เดโฟ, เจอร์เมนเจอร์เมน เดโฟ ซันเดอร์แลนด์ สวอนซีซิตี 4–2 13 มกราคม 2016 [82]
อังกฤษ แคร์โรลล์, แอนดีแอนดี แคร์โรลล์ เวสต์แฮมยูไนเต็ด อาร์เซนอล 3–3 9 เมษายน 2016 [83]
อาร์เจนตินา อะกูเอโร, เซร์คีโอเซร์คีโอ อะกูเอโร แมนเชสเตอร์ซิตี เชลซี 3–0 16 เมษายน 2016 [84]
เซเนกัล มาเน, ซาดีโยซาดีโย มาเน เซาแทมป์ตัน แมนเชสเตอร์ซิตี 4–2 1 พฤษภาคม 2016 [85]
ฝรั่งเศส ฌีรู, ออลีวีเยออลีวีเย ฌีรู อาร์เซนอล แอสตันวิลลา 4–0 15 พฤษภาคม 2016 [86]
หมายเหตุ

4 ผู้เล่นที่ทำคนเดียว 4 ประตู
5 ผู้เล่นที่ทำคนเดียว 5 ประตู.

คลีนชีตส์

[แก้]
ณ วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2016[87]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร คลีน
ชีตส์
1 เช็กเกีย เปเตอร์ เช็ค อาร์เซนอล 16
2 สเปน ดาบิด เด เคอา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 15
อังกฤษ โจ ฮาร์ต แมนเชสเตอร์ซิตี
เดนมาร์ก แคสเปอร์ สไมเกิล เลสเตอร์ซิตี
5 ฝรั่งเศส อูว์โก โยริส ทอตนัมฮอตสเปอร์ 13
6 บราซิล เอวเรลยู โกมีส วอตฟอร์ด 11
เบลเยียม ซีมง มีญอแล ลิเวอร์พูล
8 อังกฤษ แจ็ก บัตแลนด์ สโตกซิตี 10
9 สเปน เอเดรียน เวสต์แฮมยูไนเต็ด 9
โปแลนด์ วูกัช ฟาเบียญสกี สวอนซีซิตี

การลงโทษ

[แก้]
ณ วันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2016

ผู้เล่น

[แก้]

สโมสร

[แก้]
  • ใบเหลืองมากที่สุด: 74[89]
    • แอสตันวิลลา
  • ใบแดงมากที่สุด: 6[89]
    • เซาธ์แฮมป์ตัน

รางวัล

[แก้]

รางวัลประจำเดือน

[แก้]
เดือน ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน ผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือน อ้างอิง
ผู้จัดการทีม สโมสร ผู้เล่น สโมสร
สิงหาคม ชิลี มานวยล์ เปเยกรีนี แมนเชสเตอร์ซิตี กานา อ็องเดร อายิว สวอนซีซิตี [90]
กันยายน อาร์เจนตินา เมารีซีโอ โปเชตีโน ทอตนัมฮอตสเปอร์ ฝรั่งเศส อ็องตอนี มาร์ซียาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด [91]
ตุลาคม ฝรั่งเศส อาร์แซน แวงแกร์ อาร์เซนอล อังกฤษ เจมี วาร์ดี เลสเตอร์ซิตี [92]
พฤศจิกายน อิตาลี เคลาดีโอ รานีเอรี เลสเตอร์ซิตี อังกฤษ เจมี วาร์ดี เลสเตอร์ซิตี [93]
ธันวาคม สเปน กีเก ซานเชซ โฟลเรส วอตฟอร์ด ไนจีเรีย โอดิออน อิกฮาโล วอตฟอร์ด [94]
มกราคม เนเธอร์แลนด์ โรนัลด์ กุมัน เซาแทมป์ตัน อาร์เจนตินา เซร์คีโอ อะกูเอโร แมนเชสเตอร์ซิตี [95]
กุมภาพันธ์ อาร์เจนตินา เมารีซีโอ โปเชตีโน ทอตนัมฮอตสเปอร์ อังกฤษ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เซาแทมป์ตัน [96]
มีนาคม อิตาลี เคลาดิโอ รานิเอรี เลสเตอร์ซิตี อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ [97]
เมษายน อิตาลี เคลาดิโอ รานิเอรี เลสเตอร์ซิตี อาร์เจนตินา เซร์คีโอ อะกูเอโร แมนเชสเตอร์ซิตี [98]

รางวัลประจำปี

[แก้]

ทีมยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ

[แก้]

ทีมยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ ได้แก่:[99]

ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก

[แก้]

เคลาดิโอ รานิเอรี่

นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก

[แก้]

เจมี วาร์ดี ได้ถูกเสนอชื่อ นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก.[100]

นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ

[แก้]

รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ได้แก่ ริยาด มาห์เรซ.[101]


นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ

[แก้]

รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ ได้แก่ เจมี วาร์ดี.[102]

นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ

[แก้]

รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ได้แก่ เดเล อัลลี.[103]

ผู้เข้าชม

[แก้]
อันดับ ทีม รวม สูงสุด ต่ำสุด เฉลี่ย เปลี่ยนแปลง
1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 225,962 75,354 75,261 75,321 0.0%
2 อาร์เซนอล 180,039 60,080 59,963 60,013 0.0%
3 แมนเชสเตอร์ซิตี 107,549 54,331 53,218 53,775 +18.5%
4 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 99,407 50,388 49,019 49,704 −1.3%
5 ลิเวอร์พูล 87,782 44,102 43,680 43,891 −1.7%
6 เชลซี 82,813 41,581 41,232 41,407 −0.3%
7 ซันเดอร์แลนด์ 120,880 41,379 39,198 40,293 −6.6%
8 เอฟเวอร์ตัน 116,586 39,063 38,523 38,862 +1.2%
9 แอสตันวิลลา 77,599 42,200 35,399 38,800 +13.7%
10 ทอตนัมฮอตสเปอร์ 71,869 36,004 35,865 35,935 +0.6%
11 เวสต์แฮมยูไนเต็ด 104,741 34,977 34,857 34,914 +0.1%
12 เลสเตอร์ซิตี 64,213 32,242 31,971 32,107 +1.3%
13 เซาแทมป์ตัน 60,539 30,966 29,573 30,270 −1.2%
14 สโตกซิตี 54,401 27,654 26,747 27,201 +0.4%
15 นอริชซิตี 80,825 27,036 26,771 26,942 +2.2%1
16 คริสตัลพาเลซ 75,194 25,295 24,732 25,065 +2.6%
17 เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 72,085 24,564 23,256 24,028 −4.1%
18 สวอนซีซิตี 20,678 20,678 20,678 20,678 +0.6%
19 วอตฟอร์ด 60,234 20,166 20,011 20,078 +20.5%1
20 เอเอฟซีบอร์นมัท 22,310 11,155 11,155 11,155 +8.7%1
รวม 1,655,288 75,354 11,155 35,985 −0.5%

ปรับปรุงล่าสุดในนัดการแข่งขันเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2015
แหล่งข้อมูล: [104][105][106]
หมายเหตุ:'
1: ทีมที่ไม่ได้ลงเล่นเมื่อฤดูกาลที่แล้วในพรีเมียร์ลีก

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "Barclays Premier League Statistics – Top Scorers". ESPN FC. Entertainment and Sports Programming Network (ESPN). สืบค้นเมื่อ 8 August 2015.
  2. 2.0 2.1 "Barclays Premier League football scores & results". premierleague.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-26. สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2015.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 "Premier League Summary". whoscored.com. สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2015.
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 "Barclays Premier League Statistics – 2015–16". ESPN FC. Entertainment and Sports Programming Network (ESPN). สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2015.
  5. "Premier League 2015–16 season to kick off early on Aug. 8". 8 มกราคม 2015. สืบค้นเมื่อ 2 มีนาคม 2015.
  6. หน้า 19 ต่อจากหน้า 17 กีฬา, พรีเมียร์ลีกทุบสถิติซื้อนักเตะ. "พรีเมียร์ลีกมือเติบ พังตลาดนัดเตะ". เดลินิวส์ฉบับที่ 24,066: วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 แรม 5 ค่ำ เดือน 9 ปีมะแม
  7. หน้า 19 ต่อจากหน้า 17 กีฬา, ปืนแชมป์ค่าตั๋วแพงสุดพรีเมียร์ลีก. "ทอฟฟี่มีสโตนส์ ดวลแข้ง 'ผีแดง'". เดลินิวส์ฉบับที่ 24,109: วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม
  8. "Premier League – Handbook Season 2015/16" (PDF). premierleague.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-06. สืบค้นเมื่อ 8 August 2015.
  9. "AFC Bournemouth reveal home kit for the 2015/16 season".
  10. "AFC Bournemouth unveil Mansion Group as Premier League shirt sponsor". afcb.co.uk. สืบค้นเมื่อ 30 June 2015.
  11. "PUMA and Arsenal announce partnership". Arsenal Broadband. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  12. "Arsenal football club in £150m Emirates deal". BBC News. 23 November 2012. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  13. "Aston Villa secure new £15 million kit deal with Macron". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-25. สืบค้นเมื่อ 2015-06-26.
  14. "Intuit QuickBooks announced as main club sponsor". 9 January 2015.
  15. "Chelsea agree whopping £300m kit deal with sportswear giants adidas". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  16. "Chelsea seal £200m shirt sponsorship deal with Yokohama Rubber". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  17. "CPFC And Macron Sign New Kit Deal". Crystal Palace FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-06. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  18. "Cabaye Signs For Palace". cpfc.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-23. สืบค้นเมื่อ 10 July 2015.
  19. "Everton agree five-year deal with Umbro to supply club kits from start of next season". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  20. "Blues Strike Record Chang Deal". Everton FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-24. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  21. "Leicester City announce Puma Kit Deal". footballshirtculture.com. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  22. "2014/15 PUMA Home Kit Now On Sale!". lcfc.com. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  23. "Liverpool announce record-breaking £300m kit deal with New Balance from next season". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  24. "Liverpool stick with shirt sponsor Standard Charter after penning two-year extension". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  25. Ogden, Mark (4 May 2012). "Manchester City's six-year kit deal with Nike could earn the Premier League leaders up to £12million a year". The Daily Telegraph. London. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  26. Taylor, Daniel (8 July 2011). "Manchester City bank record £400m sponsorship deal with Etihad Airways". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  27. "Manchester United and Adidas in £750m deal over 10 years". BBC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  28. "Manchester United's £53m shirt deal with Chevrolet unaffected despite likely absence of Champions League". Telegraph Media Group. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  29. "Newcastle Unveil 2014/15 Away Kit". nufc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  30. "Newcastle Agree Four-Year Wonga Deal". nufc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  31. "Norwich City Partners". Norwich City FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-26. สืบค้นเมื่อ 25 June 2015.
  32. "Norwich City Partners". Norwich City FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-26. สืบค้นเมื่อ 25 June 2015.
  33. "adidas to return for 2015/16 season". Southampton FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-02. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  34. "Veho announced as new Main Club Sponsor". Southampton FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-15. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  35. "Stoke City FC Announce New Balance Kit Deal". Stoke City FC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  36. "Stoke City: bet365 put their shirts on Stoke City". thisisstaffordshire.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-14. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  37. "SAFC and adidas partnership extended". Sunderland AFC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  38. "Sunderland announce Dafabet as new club sponsor". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  39. "Swansea Extend Adidas Kit Deal". footballshirtculture.com. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  40. "NEW SWANSEA CITY 14-15 KITS RELEASED". สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  41. "Spurs announce £50million kit deal". Daily Mirror. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  42. "AIA TO BECOME TOTTENHAM HOTSPUR'S NEW PRINCIPAL PARTNER". tottenhamhotspur.com. Tottenham Hotspur FC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  43. "WATFORD FC HOME KIT 2015-16: Your Time Is Now!". www.watfordfc.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-12. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  44. "138.COM: Watford's New Principal Partner". www.watfordfc.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-11. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  45. "West Brom extend Adidas deal". expressandstar.com. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  46. "West Ham re-united with Umbro". whufc.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-02. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  47. "Hammers announce Betway sponsorship". whufc.com. West Ham United FC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  48. "West Ham United's managers contract has ended". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2015.
  49. "Slaven Bilic: West Ham appoint former defender as manager". BBC Sport. 9 มิถุนายน 2015. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2015.
  50. 50.0 50.1 "Flores Installed as New Watford Head Coach". Watford Football Club. 5 มิถุนายน 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-28. สืบค้นเมื่อ 5 มิถุนายน 2015.
  51. "Newcastle United: John Carver & Steve Stone sacked by Newcastle". BBC Sport. 9 มิถุนายน 2015. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2015.
  52. "Steve McClaren: Newcastle appoint ex-England manager". BBC Sport. 10 มิถุนายน 2015. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2015.
  53. "Leicester City sack manager Nigel Pearson". BBC Sport. 30 มิถุนายน 2015. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2015.
  54. "BBC Sport - Claudio Ranieri: Leicester City appoint ex-Chelsea manager". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2015.
  55. "Dick Advocaat: Sunderland boss quits Premier League strugglers". BBC Sport. 4 October 2015. สืบค้นเมื่อ 4 October 2015.
  56. "Sunderland appoint Sam Allardyce as new manager on two-year deal". BBC Sport. 9 October 2015. สืบค้นเมื่อ 9 October 2015.
  57. "Brendan Rodgers: Liverpool boss sacked by club". BBC Sport. 4 October 2015. สืบค้นเมื่อ 4 October 2015.
  58. "Liverpool FC confirm Jürgen Klopp appointment". Liverpool F.C. 8 October 2015. สืบค้นเมื่อ 8 October 2015.
  59. "Tim Sherwood: Aston Villa manager sacked after eight months". BBC Sport. 25 October 2015. สืบค้นเมื่อ 25 October 2015.
  60. "Remi Garde: Aston Villa confirm ex-Lyon boss as manager". BBC Sport. 2 November 2015. สืบค้นเมื่อ 2 November 2015.
  61. "Garry Monk: Swansea City part company with manager". BBC Sport. 9 December 2015. สืบค้นเมื่อ 9 December 2015.
  62. "Swansea City: Alan Curtis to take charge until end of the season". BBC Sport. 7 January 2016. สืบค้นเมื่อ 7 January 2016.
  63. "Club statement", Chelsea Football Club, 17 December 2015, สืบค้นเมื่อ 19 December 2015
  64. "Jose Mourinho sacked as Chelsea manager". BBC Sport. 17 December 2015. สืบค้นเมื่อ 17 December 2015.
  65. "Guus Hiddink: Chelsea appoint interim manager until end of season". BBC Sport. 19 December 2015. สืบค้นเมื่อ 19 December 2015.
  66. 66.0 66.1 "Francesco Guidolin: Swansea City name Italian as new head coach". BBC Sport. 18 January 2016. สืบค้นเมื่อ 18 January 2016.
  67. "Steve McClaren: Newcastle United sack head coach", BBC Sport, 11 March 2016, สืบค้นเมื่อ 11 March 2016
  68. "Rafael Benitez: Newcastle United appoint Spaniard as Steve McClaren's successor". BBC Sport. 11 March 2016. สืบค้นเมื่อ 11 March 2016.
  69. "Remi Garde: Aston Villa manager leaves after four months in charge". BBC Sport. 29 March 2016. สืบค้นเมื่อ 29 March 2016.
  70. "Remi Garde: Aston Villa manager leaves after four months in charge". BBC Sport. 29 March 2016. สืบค้นเมื่อ 29 March 2016.
  71. "Roberto Martinez: Everton sack manager after three years in charge". BBC Sport. 12 May 2016. สืบค้นเมื่อ 12 May 2016.
  72. "Premier League Handbook 2015/16" (pdf). The Football Association. 19 June 2015. p. 96. สืบค้นเมื่อ 19 August 2015.
  73. "West Ham 3 Bournemouth 4". BBC Sport. 22 สิงหาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2015.
  74. "Everton 3 Chelsea 1". BBC Sport. 12 กันยายน 2015. สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2015.
  75. "Leicester City 2 Arsenal 4". BBC Sport. 26 กันยายน 2015. สืบค้นเมื่อ 26 กันยายน 2015.
  76. "Manchester City 6 Newcastle 1". BBC Sport. 3 ตุลาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2015.
  77. "Manchester City 5 Bournemouth 1". BBC Sport. 17 ตุลาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 17 ตุลาคม 2015.
  78. "Newcastle United 6–2 Norwich City". BBC Sport. 18 ตุลาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 18 ตุลาคม 2015.
  79. "Bournemouth 1 Spurs 5". BBC Sport. 25 ตุลาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2015.
  80. "Everton 6 Sunderland 2". BBC Sport. 1 พฤศจิกายน 2015. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2015.
  81. "Swansea 0 Leicester 3". BBC Sport. 5 ธันวาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 5 ธันวาคม 2015.
  82. "Swansea 2 Sunderland 4". BBC Sport. 13 มกราคม 2016. สืบค้นเมื่อ 13 มกราคม 2016.
  83. "West Ham United 3 Arsenal 3". BBC Sport. 9 เมษายน 2016. สืบค้นเมื่อ 9 เมษายน 2016.
  84. "Chelsea 0 Manchester City 3". BBC Sport. 16 เมษายน 2016. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2016.
  85. "Southampton 4 Manchester City 2". BBC Sport. 1 พฤษภาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 1 พฤษภาคม 2016.
  86. "Arsenal 4 Aston Villa 0". BBC Sport. 15 พฤษภาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2016.
  87. "Statistical Leaders – 2015". NBC Sports. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-15. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2015.
  88. 88.0 88.1 "Players Index". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-29. สืบค้นเมื่อ 29 กันยายน 2015.
  89. 89.0 89.1 "Club Index". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-23. สืบค้นเมื่อ 29 กันยายน 2015.
  90. "Andre Ayew & Manuel Pellegrini win Premier League awards". BBC Sport. 11 กันยายน 2015. สืบค้นเมื่อ 11 กันยายน 2015.
  91. "Anthony Martial: Man Utd forward wins player of the month". BBC Sport. 16 ตุลาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 16 ตุลาคม 2015.
  92. "Jamie Vardy: Leicester striker named October player of month". BBC Sport. 10 พฤศจิกายน 2015. สืบค้นเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2015.
  93. "Leicester's Claudio Ranieri & Jamie Vardy win Premier League's November awards". Sky Sports. 11 ธันวาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 11 ธันวาคม 2015.
  94. "Odion Ighalo: Watford striker 'honoured' by award". BBC Sport. 15 มกราคม 2016. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2016.
  95. "Aguero and Koeman claim Barclays awards for January". Premier League. 4 กุมภาพันธ์ 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-27. สืบค้นเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2016.
  96. "Tottenham's Mauricio Pochettino and Southampton's Fraser Forster win February awards". Sky Sport. 11 มีนาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 11 มีนาคม 2016.
  97. "kane-named-player-of-the-month-as-ranieri-scoops-manager". Goal.com. 8 เมษายน 2016. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2016.
  98. "Claudio Ranieri named Premier League Manager of the Month with Sergio Aguero collecting player's award". DailyMail.com. 11 พฤษภาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 11 พฤษภาคม 2016.
  99. 99.0 99.1 "Leicester and Tottenham dominate PFA Premier League team of the year". The Guardian. 21 เมษายน ค.ศ. 2016. สืบค้นเมื่อ 21 เมษายน ค.ศ. 2016. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= และ |date= (help)
  100. "Vardy wins Barclays Player of the Season award". Premier League. 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-10. สืบค้นเมื่อ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2016. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  101. Thomas, Lyall (25 April 2016). "Riyad Mahrez wins PFA Player of the Year 2015-16". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน ค.ศ. 2016. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  102. "Jamie Vardy named Football Writers' Association Footballer of the Year for 2015/16". Sky Sports. 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2016. สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2016. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  103. Thomas, Lyall (25 เมษายน ค.ศ. 2016). "Dele Alli wins PFA Young Player of the Year 2015-16". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน ค.ศ. 2016. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= และ |date= (help)
  104. 2014–15 Premier League attendances
  105. 2014–15 Football Championship attendances
  106. Barclays Premier League football scores & results

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

|}