จอห์น ซีนา
จอห์น ซีนา | |
|---|---|
| เกิด | จอห์น เฟลิกซ์ แอนโธนี ซีนา 23 เมษายน ค.ศ. 1977 เวสต์ นิวเบอร์รี, รัฐแมสซาชูเซตส์, สหรัฐอเมริกา |
| ศิษย์เก่า | Springfield College |
| อาชีพ |
|
| ปีปฏิบัติงาน | 1999–ปัจจุบัน |
| คู่สมรส |
|
| ญาติ |
|
| ชื่อบนสังเวียน | John Cena[1] The Prototype[2] Juan Cena Mr. P[3] |
| ส่วนสูง | 6 ฟุต 1 นิ้ว (185 เซนติเมตร)[4] |
| น้ำหนัก | 251 ปอนด์ (114 กิโลกรัม)[4] |
| มาจาก | "Classified"[5] West Newbury, Massachusetts[4] Los Angeles, California |
| ฝึกหัดโดย | Christopher Daniels[6] Mike Bell[6] Tom Howard[6] Fit Finlay[7] |
| เปิดตัว | 5 พฤศจิกายน 1999[6] |
| ลายมือชื่อ | |
จอห์น เฟลิกซ์ แอนโธนี ซีนา (John Felix Anthony Cena)[8] เกิดวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1977 ที่ เวสต์ นิวเบอร์รี, รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นนักมวยปล้ำอาชีพ, นักแสดง, นักร้อง และฮิปฮอป ชาวอเมริกัน เป็นที่รู้จักดีในฐานะนักมวยปล้ำของสมาคมWWEในนาม จอห์น ซีนา (John Cena)[1] เป็นแชมป์โลก 17 สมัย (แชมป์ WWE 14 สมัย และแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สมัย)[9], แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล 1 สมัย, แชมป์ยูเอส 5 สมัย, แชมป์แท็กทีม WWE 4 สมัย, แกรนด์สแลมและทริปเปิลคราวน์ของ WWE ผู้ชนะรอยัลรัมเบิล ประจำปี 2008 และ 2013 เป็นเจ้าของท่าไม้ตายชื่อดังอย่าง AA - Attitude Adjustment (ชื่อเดิม F-U) เขาเป็นแชมป์โลก 17 สมัย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด และถือครองตำแหน่งแชมป์โลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ WWE นอกจากนี้ เขายังได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำอาชีพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของ WWE อีกด้วย[10][11][12][13]
นอกเหนือจากอาชีพนักมวยปล้ำ จอห์น ซีนา ยังได้แสดงทั้งในภาพยนตร์ตลกและภาพยนตร์แอ็กชัน โดยได้รับคำชมจากบทบาทของเขาในเรื่อง Trainwreck (2015), Blockers (2018) และ The Suicide Squad (2021) ในปี 2005 เขาออกอัลบั้มแร็ปชื่อว่า “You Can't See Me” ซึ่งขึ้นไปสูงสุดถึงอันดับที่ 15 บนชาร์ต Billboard 200 ซีนายังเป็นที่รู้จักจากการทำงานการกุศล โดยเขาได้มอบความปรารถนาให้กับเด็กๆ ผ่านโครงการ Make-A-Wish Foundation มากกว่า 650 ครั้ง ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติศาสตร์ขององค์กรนี้เลยทีเดียว[14]
ชีวิตวัยเยาว์
[แก้]จอห์น เฟลิกซ์ แอนโธนี ซีนา (John Felix Anthony Cena) เกิดที่เมืองเวสต์นิวเบอรี รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1977[1][15] เป็นบุตรของแครอล (สกุลเดิม ลูเปียง) และจอห์น โจเซฟ ซีนา อดีตผู้ประกาศในเวทีมวยปล้ำของค่าย Chaotic Wrestling เขามีพี่ชายหนึ่งคนชื่อแดน และน้องชายอีกสามคนชื่อแมตต์, สตีฟ และฌอน[16] ทางฝั่งมารดา ปู่ของเขาคือโทนี ลูเปียง อดีตนักเบสบอล และเป็นบุตรของยูไลซิส เจ. ลูเปียง นักธุรกิจชื่อดัง นอกจากนี้ เขาและพี่น้องยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นาตาลี เอ็นไรท์ เจอร์เกอร์ อีกด้วย[17] ตอนซีนาเกิด สายสะดือพันรอบคอถึงสามรอบ[1] เขาเป็นแฟนมวยปล้ำมาตั้งแต่เด็ก และมักทำเข็มขัดแชมป์จากกระดาษแข็งขึ้นมาเล่นกับพี่น้องของเขา[16]
ซีนาเรียนที่ Central Catholic High School เมืองลอว์เรนซ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ก่อนจะย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนประจำเอกชน Cushing Academy เมืองแอชเบิร์นแฮม จากนั้นเข้าเรียนที่ Springfield College เมืองสปริงฟิลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ที่นั่นเขาเป็นนักอเมริกันฟุตบอลตำแหน่งเซ็นเตอร์ระดับ NCAA ดิวิชัน 3 ได้รับเกียรติเป็น All-American และเป็นกัปตันทีม หลังจากจบการศึกษาในปี 1999 ด้วยปริญญาด้านสรีรวิทยาการออกกำลังกายและวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว (Exercise Physiology and Kinesiology) เขาก็หันไปเอาดีทางสายเพาะกาย และทำงานเป็น คนขับรถลิมูซีน[18][19] รวมถึงทำงานในส่วนร้านค้าของ Gold’s Gym โดยได้เงินเพียงชั่วโมงละ 6 ดอลลาร์เท่านั้น[20]
อาชีพนักมวยปล้ำ
[แก้]ก่อนเข้าวงการมวยปล้ำ
[แก้]หลังจบการศึกษาจากสถาบัน คุชชิง อคาเดมี ได้ศึกษาต่อที่สปิงค์ฟิวด์ คอลเลต ที่สปิงค์ฟิวด์,แมตซาซูเซตท์[21] และยังเป็นนักอเมริกันฟุตบอลในดิวิชั่น 3 สวมเสื้อเบอร์ 54[22][23] และจบการศึกษาในปี 1998 หลังจากเรียนจบเขาได้ทำงานเป็นนักเพาะกาย[24] และพนักงานขับรถลีมูซีน[25]
ในอาชีพมวยปล้ำ
[แก้]ซีนาได้ฝึกฝนในสมาคม Ultimate University โดยใช้ชื่อในการปล้ำว่า เดอะ โปรโตไทพ์ หรือ มิสเตอร์พี[5][2] และได้แชมป์เฮฟวี่เวท ในเดือนเมษายน 2000 และได้แชมป์แทคทีมคู่กับ ริโก คอนสแตนติโน 2 สมัย[26] และในปี 2001 ซีนาได้เซ็นสัญญากับ WWF (ภายหลังเปลี่ยนเป็น WWE) ในสไตล์เด็กแร็พและในปัจจุบันในสไตล์ทหาร[15][27]
ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (2002–ปัจจุบัน)
[แก้]ช่วงแรกเริ่ม
[แก้]
ซีนาได้เปิดตัวครั้งแรกในสแมคดาวน์ วันที่ 27 มิถุนายน 2002 และเปิดศึกกับเคิร์ต แองเกิล[28] ซึ่งแองเกิลได้ขึ้นมาบนเวทีและท้านักมวยปล้ำคนไหนก็ได้ให้ออกมาสู้กับเขาและเป็นซีนาที่ออกมารับคำท้า และแมตช์นั้นเองคือแมตช์แรกของเขาใน WWE สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายแพ้ให้กับแองเกิล[29] จากนั้นมา ซีนาก็กลายเป็นขวัญใจของแฟนๆมวยปล้ำ พร้อมทั้งหันไปเปิดศึกกับคริส เจอริโค และเอาชนะเจอริโคในเวนเจินส์ (2002) มาได้อีกด้วย ในเดือนตุลาคม ซีนาได้จับคู่กับบิลลี คิดแมน ร่วมปล้ำในทัวร์นาเมนต์หาแชมป์แทคทีม WWE แต่ก็แพ้ตกรอบแรกไป ทำให้ซีนาโมโหทำร้ายคิดแมน และกลายเป็นฝ่ายอธรรม[30]
ในแบคแลช 2003 ซีนาได้มีโอกาสชิงแชมป์ WWE กับบร็อก เลสเนอร์[31][32][33] ตอนนี้เองที่ซีนาได้คิดท่าไม้ตาย F-U (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Attiude Adjustment) ซึ่งล้อเลียนท่าไม้ตาย F-5 ของ บร็อก เลสเนอร์ สุดท้ายซีนาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ จากนั้นซีนาก็ไปเปิดศึกกับดิอันเดอร์เทเกอร์ และเป็นฝ่ายแพ้ไปในเวนเจินส์ (2003)[34] เมื่อถึงท้ายปี ซีนาก็หันกลับมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง และได้ร่วมทีมกับเคิร์ต แองเกิล เอาชนะทีมของบร็อก เลสเนอร์ ไปได้ ในเซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ 2003[35][36] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ซีนาได้คว้าแชมป์ยูเอสจากบิ๊กโชว์ และเป็นแชมป์เส้นแรกของเขาในสมาคม WWE[37] หลังจากนั้นก็ทำให้ซีนาเป็นขวัญใจของแฟนๆ มวยปล้ำทั่วประเทศและเขาไปดัดแปลงลักษณะของเข็มขัดให้สามารถหมุนได้เป็นที่นิยมของเด็กๆ และวัยรุ่นเป็นอย่างมาก[38][39]
การครองแชมป์โลก
[แก้]
จากนั้นซีนาก็พัฒนาฝีมือการปล้ำได้เยอะเลยทีเดียวจนในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 ซีนาได้คว้าแชมป์ WWE ครั้งแรกจาก เจบีแอล[40] และเมื่อซีนาได้ครองเข็มขัดแชมป์ทั้งสองเส้นนั้น เขาไปดัดแปลงลักษณะของเข็มขัดให้สามารถหมุนได้ เป็นที่นิยมของเด็กๆ และวัยรุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งดัดแปลงเหมือนแชมป์ยูเอส อีกทั้งตัวเขายังเป็นขวัญใจสาวๆหลายๆคนอีกด้วย ในศึก จัดจ์เมนท์เดย์ (2005) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับเจบีแอล ในแมตช์การปล้ำ ไอควิต แมทช์ สุดท้ายซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ[41] หลังจากนั้น ซีนาเจ้าของแชมป์ WWE ก็ถูกดราฟท์ไปอยู่รอว์ โดยสลับกับแชมป์โลกเฮฟวี่เวท บาทิสตา ที่ถูกดราฟท์ไปอยู่สแมคดาวน์[42] โดยซีนาได้เปิดศึกกับ คริส เจอริโค เป็นคนแรกหลังจากย้ายมาอยู่รอว์ และซีนาก็เอาชนะเจอริโคมาได้หลายต่อหลายครั้ง[43] จนกระทั่งเจอริโคต้องห่างหายจากการปล้ำ จากนั้น เคิร์ต แองเกิล ก็มาขอท้าชิงแชมป์ WWE กับซีนา สุดท้ายซีนาก็เอาชนะแองเกิลได้เกือบทุกครั้ง
ในนิวเยียร์สเรโวลูชั่น (2006) ซีนาได้เสียแชมป์โลกเป็นครั้งแรกให้กับเอดจ์ เพราะหลังจากที่ ซีนาชนะทั้ง เคิร์ต แองเกิล, ชอว์น ไมเคิลส์, เคน, คริส มาสเตอส์ และคาร์ลีโต สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ ในแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ แต่เอดจ์ใช้แผนสกปรกโดยการใช้กระเป๋าเอกสารสิทธิ์มันนีอินเดอะแบงก์ชิงแชมป์กับซีนาในสภาพไม่พร้อมปล้ำ[44] ทำให้ซีนาแค้นมาก หลังจากนั้น ซีนาได้เปิดศึกกับเอดจ์ และขอท้าชิงแชมป์ WWE ในศึก รอยัลรัมเบิล (2006) สุดท้ายซีนาก็สามารถเอาชนะเอดจ์ และคว้าแชมป์ WWE สมัยที่ 2 มาครองได้สำเร็จ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับหนึ่งในสุดยอดนักมวยปล้ำของ WWE ทริปเปิล เอช เป็นครั้งแรก และซีนาก็เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ[45][46] ในศึก อีซีดับเบิลยู วันไนท์สแตนด์ (2006) ซีนาเสียแชมป์ WWE ให้กับ ร็อบ แวน แดม เจ้าของกระเป๋าเอกสารสิทธิ์มันนีอินเดอะแบงก์ จากการที่เอดจ์ได้มาก่อกวนการปล้ำ ทำให้ซีนาเสียแชมป์ให้กับแวน แดม และก็ถูกเอดจ์ทิ้งลงแม่น้ำภายหลังจากที่เสียแชมป์ให้ และเข็มขัดก็ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นตัว "R"[47] ในศึก อันฟอร์กิฟเว่น (2006) ซีนาได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ เอดจ์ ในการต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้ ซีนาก็สามารถเอาชนะเอดจ์ได้อีกครั้งและคว้าแชมป์ WWE สมัยที่ 3 ได้สำเร็จ[48][49] และเปลี่ยนจากรูป "R" มาเป็น "W" ดังเดิม[50] และหลังจากนั้นซีนาก็สามารถชนะนักมวยปล้ำที่เก่งกาจได้หลายคนทั้ง ทริปเปิล เอช, ชอว์น ไมเคิลส์, เอดจ์, เคิร์ต แองเกิล, คริส เจอริโค, แรนดี ออร์ตัน, บิ๊กโชว์ ทำให้พูดได้ว่า ซีนากลายเป็นนักมวยปล้ำที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้อีกด้วย และท้ายที่สุดซีนาอาจจะกลายเป็นหนึ่งในตำนานของ WWE อย่างเช่น สตีฟ ออสติน, เดอะ ร็อก, ฮัลค์ โฮแกน, เบรต ฮาร์ต และดิอันเดอร์เทเกอร์

ซีนาได้เปิดศึกกับอูมากา นักมวยปล้ำที่ยังไม่เคยแพ้ใคร ในนิวเยียร์สเรโวลูชั่น (2007) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ อูมาก้า สุดท้ายซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ และเป็นคนแรกที่ชนะอูมาก้า ในศึก รอยัลรัมเบิล (2007) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ อูมาก้า ในแมตช์การปล้ำ Last Man Standing Match สุดท้ายซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ[51][52] ต่อมา ซีนาจับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ เอาชนะ เรท-อาร์เคโอ (เอดจ์ และ แรนดี ออร์ตัน) และคว้าแชมป์โลกแทคทีมได้สำเร็จ ในศึก โนเวย์เอาท์ (2007) ซีนาต้องจับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ เจอกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ และบาทิสตา สุดท้ายซีนาและชอว์นก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ ชอว์น ไมเคิลส์ ผลสรุปคือสู้กันอย่างสูสีและเป็นซีนาที่ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ[53] หลังจากนั้นซีนาก็ครองแชมป์ได้ยาวนานตั้งแต่ปี 2006-2007 ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2007) ซีนาก็ป้องกันแชมป์กับ แรนดี ออร์ตัน เอาไว้ได้สำเร็จ[54] ต่อมาออร์ตันได้ไปทำร้ายพ่อของซีนา ด้วยการเตะศีรษะ ทำให้ซีนาแค้นและโมโหออร์ตันมาก ต่อมาซีนาจึงอัดและเล่นงานออร์ตันอย่างหนักและให้พ่อของตนเอาคืนออร์ตัน โดยเตะกะโหลกศีรษะทำเอาออร์ตันเจ็บหนักมาก ต่อมาซีนาก็ต้องสละแชมป์ของตนและพักการปล้ำเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ซีนาต้องพักการปล้ำไปเป็นเวลานานหลายเดือน[55]
ในรอยัลรัมเบิล (2008) ซีนาได้กลับมาร่วมในแมตช์การปล้ำ รอยัลรัมเบิล ครั้งนี้ ซึ่งเขาสามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช และ บาทิสตา ในรอบ 3 คนสุดท้าย โดยการจับเหวี่ยงจนหมด เขาเป็นผู้ชนะเลิศ รอยัลรัมเบิล ที่ขึ้นมาเป็นคนที่ 30 เช่นเดียวกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ที่ขึ้นมาเป็นคนที่ 30 เมื่อปี 2007[56] ในศึก โนเวย์เอาท์ (2008) ซีนาได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE ล่วงหน้ากับ แรนดี ออร์ตัน เจ้าของตำแหน่ง[57] สุดท้ายซีนาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE กลับคืนมาได้[58] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 ซีนาได้ปล้ำชิงแชมป์ WWE 3 เส้ากับ แรนดี ออร์ตัน และทริปเปิล เอช[59] สุดท้ายซีนาก็ไม่สามารถนำแชมป์โลกกลับมาเป็นของตนได้[60] ต่อมาซีนาได้หันไปเปิดศึกกับ บาทิสตา เนื่องจากมีปัญหาเข้าใจผิดที่ซีนาจะใช้เก้าอี้ตีใส่เจบีแอล แต่เจบีแอลหลบได้ เลยพลาดไปถูกบาทิสตา ทำให้คู่นี้กลายเป็นคู่กรณีกันโดย 2 คนนี้ถูกให้จับคู่กันเพื่อไปชิงแชมป์แทกทีมกับเดอะเลกาซี (โคดี โรดส์ และเท็ด ดิบิอาซี) ซึ่งก็สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ[61] แต่เป็นเพราะคู่นี้เป็นคู่กรณีกัน จึงไม่มีความสามัคคี ทำให้อีก 1 อาทิตย์ต่อมา ต้องเสียแชมป์กลับคืนให้กับเดอะเลกาซี[62] ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2008) ซีนาได้เจอกับบาทิสตาแต่ก็โดนท่าไม้ตาย Batista Bomb แพ้ไปอย่างหมดรูป[63] ทำให้ซีนาต้องพักการปล้ำไปนานพอควรเลยทีเดียว[64][65] แต่ซีนาก็ได้กลับมาชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจาก คริส เจอริโค ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2008) และเอาชนะมาได้สำเร็จ[66] แต่เข็มขัดเส้นนี้ก็ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงรูปแบบแต่อย่างใด ในศึก อาร์มาเกดดอน (2008) ซีนาต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับเจอริโค สุดท้ายซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ[67]

ในรอยัลรัมเบิล (2009) ซีนาต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับเจบีแอล สุดท้ายซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ ในศึก โนเวย์เอาท์ (2009) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ในกรงเหล็กมรณะ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์กับนักมวยปล้ำถึง 5 คน ได้แก่ เรย์ มิสเตริโอ, เคน, ไมค์ นอคซ์, คริส เจอริโค และโคฟี คิงส์ตัน ผลปรากฏว่าตอนเปิดตัวเอดจ์ได้วิ่งเข้ามาลอบทำร้ายโคฟี หลังจากเสียแชมป์ WWE ให้กับทริปเปิลเอชไปแล้ว ทำให้โคฟีหมดสิทธิ์ปล้ำ และเอดจ์ก็เข้าไปในกรงแทน และก็ใช้กลโกงสารพัดจนกระชากเข็มขัดแชมป์โลกไปจากซีนา[68] ซีนาแค้นมากที่ตนเสียแชมป์โลกให้เอดจ์ ตนจึงพยายามหาโอกาสชิงเข็มขัดคืนมาแต่ก็ไม่ได้ซักที เพราะวิคกี เกอร์เรโร ภรรยาของเอดจ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของสแมคดาวน์ ได้กีดกันทุกวิถีทางไม่ให้เอดจ์ได้เจอกับซีนา แต่ซีนาก็ไม่ยอมแพ้ขู่วิคกีเรื่องที่เธอแอบเป็นกิ๊กกับบิ๊กโชว์ จนเธอจำต้องยอมให้ซีนาได้ชิงแชมป์กับเอดจ์ แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏให้เอดจ์รู้ว่าเธอปันใจให้กับบิ๊กโชว์ ทำให้คู่นี้กลายเป็นศัตรูกัน ทั้งๆที่กะจะรุมซีนาแต่แรก 3 คนนี้ได้เจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ผลปรากฏว่าซีนาได้จัดการใส่ Attitude Adjustment เล่นงานทั้งเอดจ์และบิ๊กโชว์ จนคว้าแชมป์โลกสมัยที่5 ได้สำเร็จ[69] แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เอดจ์ได้มีโอกาสชิงแชมป์กับซีนาอีกครั้งในแบคแลช (2009) ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายของเอดจ์ที่จะได้ชิงแชมป์ ทั้งคู่เจอกันในรูปแบบ Last Man Standing Match ซึ่งใครล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วถูกกรรมการนับ 10 ก็จะเป็นฝ่ายแพ้ไป ผลปรากฏว่าซีนาถูกบิ๊กโชว์เล่นงานด้วยท่า โชคสแลม กับไฟสปอตไลท์ยักษ์ ทำให้ซีนาสลบและแพ้แบบหมดรูป และต้องเสียแชมป์คืนให้กับเอดจ์[70] ซีนาแค้นมากจึงขอท้าเจอกับบิ๊กโชว์ ในศึก จัดจ์เมนท์เดย์ (2009) สุดท้ายซีนาก็เอาชนะไปได้สำเร็จ[71] ต่อมาบิ๊กโชว์จึงไปขอท้าเจอกับซีนาอีกครั้งในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) ในแมตช์การปล้ำ Submission Match ใครตบพื้นก่อนยอมแพ้ สุดท้ายบิ๊กโชว์ต้องตบพื้นยอมแพ้ ด้วยท่า STF ทำให้ซีนาได้ล้างแค้นบิ๊กโชว์ อย่างสะใจ[72]
ซีนาได้เปิดศึกกับแรนดี ออร์ตัน ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2009)ซีนาต้องเจอกับออร์ตันและทริปเปิลเอชในแมตช์ 3 เส้า ชิงแชมป์ WWE แต่ซีนาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์คืนมาได้[73] ในศึก เบรกกิ้งพอยท์ (2009) ซีนาก็สามารถเอาชนะออร์ตันไปได้ ในแมตช์ I Quit Match ชิงแชมป์ WWE และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 มาครองได้สำเร็จ[74] ในศึก เฮลอินเอเซล (2009) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับออร์ตัน ในเฮลล์อินเอเซลล์ แมทช์ หรือ นรกในกรงเหล็ก สุดท้ายซีนาก็เสียแชมป์ให้กับออร์ตัน[75] ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) ซีนาได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับออร์ตันอีกครั้ง ในแมตช์การปล้ำ ไอรอน แมน แมทช์ โดยถ้าซีนาแพ้ ซีนาจะต้องออกจากรอว์ และย้ายไปอยู่สแมคดาวน์ สุดท้ายซีนาก็สามารถเอาชนะออร์ตัน และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งชนะไป 6-5[76] ในเซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2009) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับกลุ่ม ดี-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ ทั้งทริปเปิล เอช และชอว์น ไมเคิลส์ ในการปล้ำ 3 เส้า สุดท้ายซีนาสามารถเอาชนะทั้งทริปเปิล เอช และชอว์น ไมเคิลส์ และป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ ต่อมาซีนาได้เปิดศึกกับนักมวยปล้ำหน้าใหม่ เชมัส ในศึก ทีแอลซี (2009) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับเชมัส ในแมตช์การปล้ำ Table Match สุดท้ายซีนาก็เสียแชมป์ให้กับเชมัส[77] ในรอว์ ซีนาได้รับรางวัลสแลมมีอะวอร์ด ซูเปอร์สตาร์แห่งปี ประจำปี 2009 โดยต้องปล้ำรอบ 4 คนสุดท้าย โดยซีนาชนะซีเอ็ม พังก์ และเข้ารอบชิงชนะเลิศกับออร์ตัน หลังจากออร์ตันเอาชนะอันเดอร์เทเกอร์ ได้ในรอบ 4 คนสุดท้าย และเป็นซีนาที่เอาชนะออร์ตันได้และคว้ารางวัลนี้ไปครอง
ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) ซีนาสามารถคว้าแชมป์ WWE กลับคืนมาจากเชมัสได้อีกครั้งโดยปล้ำอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์เอาชนะทั้ง 5 คนได้สำเร็จ แต่หลังจากจบการแข่งขัน วินซ์ แม็กแมนได้สั่งให้ซีนาป้องกันแชมป์กับ บาทิสตาทันที จนทำให้ต้องเสียแชมป์อย่างรวดเร็ว[78] จนทำให้ซีนาโมโหมาก แต่ก็ถูกบาทิสตาเข้ามาลอบทำร้ายตลอดเวลา ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 ซีนาได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ บาทิสตา สุดท้ายซีนาก็สามารถเอาชนะมาได้ด้วยท่า STF ทำให้ซีนาได้แชมป์โลกเป็นสมัยที่9 และเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของซีนา และเป็นครั้งแรกด้วยที่ซีนาเอาชนะ บาทิสตา ได้สำเร็จ[79][80] แต่เรื่องยังไม่จบ บาทิสตา ได้มาลอบทำร้ายซีนา ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับบาทิสตา ในแมตช์ Last Man Standing Match สุดท้ายซีนาก็สามารถเอาชนะไปได้อีกครั้งเป็นครั้งที่2 ทำให้ซีนาป้องกันแชมป์ของตนเอาไว้ได้สำเร็จ[81] ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2010) ซีนาต้องป้องกันแชมป์กับบาทิสตาอีกครั้งใน I Quit Match แต่ซีนาก็เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้เป็นครั้งที่3 ติดต่อกัน และซีนาก็ป้องกันแชมป์ของตนเอาไว้ได้อีกครั้ง และทำให้บาทิสตาประกาศลาออกจาก WWE[82]
เรื่องราวกับเดอะเน็กซัส
[แก้]ในเฟทัลโฟร์เวย์ (2010) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน, เชมัส และ เอดจ์ ในแมตช์การปล้ำ 4 เส้า สุดท้ายซีนาก็ต้องเสียแชมป์ WWE คืนให้กับเชมัส เพราะกลุ่มเอ็นเอ็กซ์ที ซีซั่น 1 มาลอบทำร้ายซีนา[83] ในมันนีอินเดอะแบงก์ซีนาได้ชิงกับเชมัสในกรงเหล็กแต่ก็ไม่สามารถคว้าคืนได้ เนื่องจากกลุ่มเดอะเน็กซัสมาก่อกวนการปล้ำของซีนาตลอดเวลา[84] ทำให้ซีนาแค้นมากจึงตั้งทีม WWE ต่อกรกับพวกกลุ่มเน็กซัสแบบแทกทีม 7 ต่อ 7 ในซัมเมอร์สแลม (2010) แต่ก่อนถึงซัมเมอร์สแลมนั้น สมาชิกอย่างเดอะเกรทคาลีถูกกลุ่มเน็กซัสลอบทำร้าย จึงไม่สามารถมาร่วมปล้ำได้ ซีนาได้เลือกแดเนียล ไบรอัน อดีตสมาชิกกลุ่มเน็กซัส มาปล้ำแทน โดยสุดท้ายซีนาจัดการเวด บาร์เร็ตต์ หัวหน้ากลุ่มเป็นคนสุดท้ายด้วยท่า STF ทำให้ทีม WWE เอาชนะกลุ่มเน็กซัส มาได้สำเร็จ[85][86] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010) ซีนาได้ปล้ำชิงแชมป์ WWE 6 คน แบบคัดออก เจอกับ เชมัส, แรนดี ออร์ตัน, เอดจ์, คริส เจริโค และ เวด บาร์เร็ตต์ หัวหน้ากลุ่มเน็กซัส สุดท้ายกลายเป็น แรนดี ออร์ตัน ที่สามารถคว้าแชมป์ WWE ไปครองได้สำเร็จ
ในเฮลอินเอเซล (2010) ซีนาได้เจอกับ เวด บาร์เร็ตต์ โดยถ้า ซีนาชนะ กลุ่มเน็กซัสจะต้องแตกทีม แต่ถ้าบาร์เร็ตต์ชนะ ซีนาจะต้องเข้ากลุ่มเดอะเน็กซัส แต่สุดท้ายซีนาก็แพ้ให้บาร์เร็ตต์ จากการช่วยเหลือของ ฮัสกี แฮร์ริส และ ไมเคิล แมคกิลลิคัตตี ทำให้ซีนาต้องเข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มเน็กซัส[87] ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) ซีนาต้องจับคู่กับเดวิด โอทังกา หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเน็กซัส ชิงแชมป์แทกทีม WWE กับ ดรูว์ แม็กอินไทร์ และโคดี โรดส์ สุดท้ายทีมซีนาก็คว้าแชมป์ได้สำเร็จ[88] แต่ก็เสียแชมป์ให้จัสติน เกเบรียลและฮีท สเลเตอร์ 2 สมาชิกในกลุ่มเน็กซัส เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น[89] ในเซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2010) ซีนาต้องเป็นกรรมการพิเศษคู่ชิงแชมป์ WWE ระหว่าง แรนดี ออร์ตัน กับ เวด บาร์เร็ตต์ โดยถ้าบาร์เร็ตต์ชนะก็จะได้แชมป์ WWE และซีนา ก็จะได้ออกจากกลุ่มเดอะเน็กซัส อย่างถาวรแต่ถ้าบาร์เร็ตต์แพ้ ซีนาก็ต้องออกจาก WWE และเป็นออร์ตันที่ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ทำให้ซีนาต้องออกจาก WWE จากนั้นในรอว์ ซีนาได้มาก่อกวนการปล้ำของบาร์เร็ตต์ในการชิงแชมป์ WWE กับออร์ตัน โดยซีนาได้เล่นงานบาร์เร็ตต์ด้วยท่า Attitude Adjustment ทำให้บาร์เร็ตต์แพ้[90] จากนั้นบาร์เร็ตต์ได้เรียกซีนากลับมา WWE[91] และได้ท้าเจอกันในรูปแบบการปล้ำ Chairs Match ในทีแอลซี (2010) และซีนาก็เป็นฝ่ายชนะล้างแค้นบาร์เร็ตต์ได้สำเร็จ[92][93]
เปิดศึกกับเดอะร็อก
[แก้]
ในรอยัลรัมเบิล (2011) ซีนาได้เข้าร่วมรอยัลรัมเบิล โดยออกมาเป็นคนที่22 แต่ไม่ได้เป็นผู้ชนะ เพราะแชมป์ WWE เดอะมิซได้มาก่อกวนซีนา ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) ซีนาได้เป็นผู้ชนะในแมตช์ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ทำให้ซีนาได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับเดอะมิซ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27[94] ในรอว์ 14 มีนาคม ซีนาได้เจอกับอัลเบร์โต เดล รีโอ แต่เดอะมิซก็ปลอมตัวเป็นเดอะ ร็อกมาลอบทำร้ายซีนา[95] และในเรสเซิลเมเนีย ซีนาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้ เพราะเดอะ ร็อกได้มาก่อกวนการปล้ำของซีนา จนแพ้ให้กับมิซ[96] ในรอว์คืนต่อมาหลังจบเรสเซิลเมเนีย ซีนาเรียกเดอะ ร็อก ออกมาที่เวที และท้าเดอะ ร็อก ว่าจะเจอกัน ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 โดยเดอะ ร็อกก็รับข้อเสนอของซีนา โดยที่ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน โดยทั้งคู่ก็จับมือรับข้อเสนอไปด้วยดี ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011) ซีนาสามารถคว้าแชมป์จากมิซเป็นสมัยที่10 มาได้ในกรงเหล็ก หลังจากที่ไม่ได้แชมป์โลกมา 10 เดือน[97] ในรอว์ต่อมาซีนาต้องป้องกันแชมป์กับมิซ สุดท้ายมิซถูกปรับแพ้ฟาล์ว ทำให้ซีนายังเป็นแชมป์ ในโอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011) ซีนาต้องป้องกันแชมป์กับเดอะมิซ ใน I Quit Match โดยมีอเล็กซ์ ไรลีย์มาช่วยมิซด้วย แต่ซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ[98] ในแคปิเทล พูนิชเมนท์ ซีนาสามารถป้องกันแชมป์ WWE กับ อาร์-ทรูธ เอาไว้ได้สำเร็จ[99]
ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2011) ซีนาต้องป้องกันแชมป์ WWE กับซีเอ็ม พังก์ โดยถ้าซีนาแพ้ พังก์จะลาออกจากสมาคมพร้อมเข็มขัดแชมป์ WWE และซีนาก็ต้องออกจาก WWE อีกด้วย สุดท้ายซีนาก็พ่ายแพ้และเสียแชมป์ให้กับพังก์ ทำให้พังก์ได้เอาเข็มขัดแชมป์ออกจากสมาคม และซีนาต้องออกจาก WWE[100][101][102] ในรอว์ 18 กรกฎาคม ทริปเปิลเอช ประธาน COO ของ WWE คนใหม่ ได้มาบอกว่า ซีนาจะไม่ถูกไล่ออกจาก WWE ในรอว์ 25 กรกฎาคม ซีนาได้ปล้ำชิงแชมป์ WWE กับ เรย์ มิสเตริโอ สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายเอาชนะเรย์คว้าแชมป์ WWE เส้นใหม่ เป็นสมัยที่9 ได้สำเร็จ ทำให้เรย์เป็นแชมป์ได้ไม่ถึง 1 คืนเสียด้วยซ้ำ หลังจากที่ซีนากำลังฉลองชัยชนะอยู่บนเวที ซีเอ็ม พังก์ ได้ออกมาพร้อมกับเข็มขัดแชมป์ WWE เส้นเก่า และยืนจ้องหน้ากับซีนา จากนั้นต่างฝ่ายต่างชูเข็มขัดของตัวเองประกาศศักดา[103] ในซัมเมอร์สแลม (2011) ซีนาต้องเจอกับพังก์ ในแมตช์ชิงแชมป์โลกอันดิสพิวเด็ด โดยมี ทริปเปิล เอช เป็นกรรมการพิเศษ โดยซีนาเป็นฝ่ายแพ้ให้กับพังก์ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ เควิน แนชได้ออกมาลอบทำร้ายพังก์ ทำให้อัลเบร์โต เดล รีโอได้ขอใช้สิทธิ์กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ และกระชากเข็มขัดแชมป์ WWE ไปจากพังก์ได้สำเร็จ[104] ในรอว์ 22 สิงหาคม ซีนาได้ชนะซีเอ็ม พังก์ ได้สิทธิ์เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์กับอัลเบร์โต เดล รีโอ ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2011) และซีนาก็คว้าแชมป์ไปครอง ทำให้เป็นแชมป์ WWE สมัยที่10[105] ในเฮลอินเอเซล (2011) ซีนาเสียแชมป์ให้กับเดล รีโอ ในกรงเหล็กเฮลอินเอเซล 3 เส้า โดยมีซีเอ็ม พังก์ร่วมปล้ำ[106] ในเวนเจินส์ (2011) ซีนาได้สามารถคว้าแชมป์จากเดล รีโอในลาสแมนสแตนดิงแมตช์ได้ เพราะเดอะมิซ และอาร์-ทรูธ ได้มาก่อกวนการปล้ำของซีนา และก็ได้หมดสิทธิ์ที่จะชิงแชมป์ WWE แล้วในตอนนี้[107] ในรอว์ 24 ตุลาคม ในตอนแรกซีนาจะต้องจับคู่กับแซค ไรเดอร์ เจอกับมิซและทรูธ ระหว่างสัมภาษณ์ แซคก็ถูกมิซและทรูธมาลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ ทำให้เป็น 2 รุม 1 ผลปรากฏว่า ซีนาชนะฟาล์ว หลังแมตช์ มิซและทรูธได้รุมทำร้ายต่อจนผู้จัดการทั่วไปชั่วคราว จอห์น โลรีนายติส ได้ออกมาห้าม และสั่งให้ซีนาเลือกนักมวยปล้ำ 1 คน เพื่อจะจับคู่เจอกับมิซและทรูธ โดยซีนาได้เลือกเดอะ ร็อกมาเป็นคู่แทกทีมในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011) ซีนากับเดอะ ร็อกเอาชนะมิซและทรูธไปได้ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ ร็อกได้จับซีนาใส่ Rock Bottom เป็นการปิดท้ายรายการอีกด้วย[108]
ในสแลมมีอะวอร์ด 2011 หรือรอว์ 12 ธันวาคม ซีนาได้เจอกับมาร์ก เฮนรี ระหว่างแมตช์ เคนได้กลับมาจากอาการบาดเจ็บโดยใส่หน้ากากอีกครั้ง และได้มาเล่นงานซีนาด้วยท่าโชคสแลม[109] ปี 2012 ในรอว์ 2 มกราคม ซีนาได้จับคู่กับบิ๊กโชว์ และแซค ไรเดอร์ เจอกับ เคน, มาร์ก เฮนรี และแจ็ก สแวกเกอร์ แต่ว่าเคนไม่ออกมาเลยให้เป็น 3 รุม 2 สุดท้าย ซีนา, บิ๊กโชว์ และไรเดอร์ ก็เอาชนะมาได้สำเร็จ แต่หลังจบแมตช์เพลงเปิดตัวของเคนดังขึ้น ซีนาเลยลงจากเวทีเดินตรงไปที่ทางเดินเปิดตัวเพื่อจะเคลียร์กับเคน แต่ว่าเคนโผล่มาจากใต้เวทีแล้วกระทืบแซคบนเวทีจากนั้นเคนก็ลากขาแซคกลับหลุมบนเวที แต่ซีนาก็มาช่วยแซคได้สำเร็จแล้วพยายามคลานนี้ห่างออกมาทันทีทันใดนั้นหลุมก็ระเบิดและมีเพลิงโหมออกมาจากปากหลุมทันที ในรอยัลรัมเบิล (2012) ซีนาได้เจอกับเคน สุดท้าย ผลออกมาเป็นถูกนับ 10 แพ้ทั้งคู่ หลังแมตช์ ซีนาและเคน ยังสู้กันต่อแลกหมัดกันไปจนเข้าไปถึงหลังเวที เคนต่อยซีนาร่วง แต่ซีนายังเตะสวนและจับเหวี่ยงไปอัดถังขยะ เคน เอาเก้าอี้กระทุ้งใส่ท้องซีนา จากนั้นเคน ก็ตีใส่หลังไม่ยั้งจนซีนาแน่นิ่ง เคนมองเห็นประตูห้องๆ หนึ่งที่มีชื่อแซค ไรเดอร์แปะอยู่ เคนเลยถีบประตูพังแล้วเข้าไปเจอแซค เคนเลยบีบคอแซคจนสลบ จากนั้นก็เข็นรถเข็นแซคเข้าไปในสนาม จากนั้นก็ผลักแซคตกไปกระแทกพื้น เคนลากแซคขึ้นเวทีและถีบเล่น อีฟ ทอร์เรสออกมาขอร้องแต่เคนไม่ฟังแถมจับแซคใส่ Tombstone Piledriver ทำให้แซคบาดเจ็บอย่างหนัก แล้วก็หันไปหาอีฟ แต่ซีนาออกมาช่วยก็โดนเคนจับใส่โชคสแลม[110] ในรอว์ 13 กุมภาพันธ์ ซีนากำลังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเดอะ ร็อก แต่ซีนายังไม่ทันจะตอบ เสียงกริ๊ดก็ดังขึ้น!! ซีนาเลยวิ่งไปตามเสียง ก็เห็น เคนล็อกขังอีฟในรถพยาบาล พอซีนาจะเข้าไปช่วย เคนก็ออกมาลอบทำร้ายซีนา แต่ซีนาก็สู้กลับและพยายามบอกให้อีฟปลดล็อกออกมา เคนก็หนีและพยายามจะขับรถพยาบาลหนีไป แต่จังหวะนั้นอีฟเปิดประตูออกได้ แล้วกระโดดพุ่งเข้าสุ่อ้อมกอดของซีนาทันที และจังหวะที่ทั้งคู่รอดพ้นจากอันตราย ทั้งคู่ก็จูบกัน แต่แซคที่เข็นรถมาพร้อมกับดอกไม้ในมือ ดันเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้า!! ทั้ง ซีนา และ อีฟ เลยผลักกันออกมา แต่สายไปเสียแล้ว แซคได้แต่ทำหน้าผิดหวังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในคืนเดียวกัน เคน ได้มาลอบทำร้ายแซค โดยการเข็นรถเข็นของแซค พุ่งกระเด็นไปกระแทกพื้นคอนกรีต ซีนาเห็นเข้าจึงรีบวิ่งมาดูอาการแล้วส่งสัญญาณมือ "X" ทันที อีฟก็ออกมาดูอาการ ทีมงานก็เอาเตียงพยาบาลมาช่วยพยุงร่างแซค โดยซีนาดูอาการอย่างใกล้ชิด ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012) ซีนาเอาชนะเคนไปได้ในแมตช์จับคู่ต่อสู้ยัดใส่รถพยาบาล และล้างแค้นให้แซคได้สำเร็จ[111]

ในรอว์ 20 กุมภาพันธ์ ซีนาออกมา และพูดถึง เดอะ ร็อก ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ แต่สัปดาห์หน้าเขาจะมา เพื่อมาคุยกับชั้น เมื่อก่อนชั้นก็เคยชอบเค้านะ แต่ตอนนี้น่ะเอียนแล้ว ก็ยินดีกับมันด้วยละกันกับการที่แสดงหนังอันดับหนึ่งของบ๊อกซ์ออฟฟิซ สัปดาห์หน้ามันก็คงมารอว์ ทำท่ายักคิ้วให้คนดูดีใจ จากนั้นก็กลับไปฮอลลีวู้ดเหมือนเดิม สิ่งที่ชั้นภาคภูมิใจก็คือ ชั้นอยู่กับ WWE มาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และไม่เคยจากไปไหน แล้วที่ เดอะ ร็อก มันกลับมาคราวก่อนน่ะนะ มันก็แค่มาโปรโมต Fast Five กับทวิตเตอร์ของมันเท่านั้น ชั้นคนนี้คือคนที่อยู่กับ WWE ตลอด ชั้นขึ้นปล้ำในเรสเซิลเมเนีย 28 อย่างภาคภูมิใจในฐานะนักมวยปล้ำ พาดหัวข่าวหลังจากคืนนั้นจะต้องเป็น ซีนา เอาชนะ เดอะ ร็อก ในบ้านเกิดของเขา ไมอามี ฟลอริดา เอาไว้เจอกันในเรสเซิลเมเนีย ก็แล้วกัน ในรอว์ 27 กุมภาพันธ์ เดอะ ร็อกออกมาทักทายแฟนๆ ในสนาม และพูดถึงซีนา ว่า ชั้นไม่คิดว่านายเป็นคนเลวหรอกนะ แต่นายแค่เป็นคนกระจอกๆ เท่านั้นเอง สัปดาห์ก่อนนายพูดจาพาดพิงถึงชั้น นายบอกว่านายจะต่อสู้ในฐานะตัวแทนนักมวยปล้ำทุกคน แต่ชั้นจะสู้เพื่อแฟนๆ ทุกคน แฟนๆ ที่เบื่อหน่ายแกที่ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ ทุกค่ำคืน ซีนา ออกมาตอบโต้ และบอกว่าเขาไม่ชอบ ดเวย์น จอห์นสัน จะจัดการกับมันในศึก เรสเซิลเมเนีย ก่อนจะเดินจากไป เดอะ ร็อก บอกว่าความจริงแล้ว เดอะ ร็อก กับ ดเวย์น จอห์นสัน มันก็คนเดียวกัน และมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะว่าในเรสเซิลเมเนีย ชั้นจะเตะก้นแก If You Smell What the Rock is Cooking? ในรอว์ 12 มีนาคม ซีนาออกมาในมาดของ Dr.Thuganomics ใส่หมวกกลับหัว, โซ่ห้อยคอ, เสื้อบาสเก็ตบอล และใช้เพลงเปิดตัวแบบเก่าของตัวเองด้วย ซีนา เริ่มพูดด้วยสำเนียงเด็กแร็ปด่า เดอะ ร็อก ว่าเป็นพวกทรยศเหมือนกับ ลีบอร์น เจมส์ (นักบาสเก็ตบอลที่ย้ายหนีไปจากคลีฟแลนด์) สัปดาห์ก่อน เดอะ ร็อก หรือไอ้ ดเวย์น จอห์นสัน มันโกรธว่ะ มันบอกให้ชั้นหุบปาก แต่หลังจากวันที่ 1 เมษายน มันจะต้องไปศัลยกรรมใบหน้าเหมือนกับที่มันเคยทำศัลยกรรมนมมาแล้ว Team Bring It เหรอ พวกมันไม่น่ากลัวหรอก เพราะ เดอะ ร็อก มันเป็น Tooth Fairy ชั้นจะกระทืบก้นแกในศึก เรสเซิลเมเนีย และเอาถั่วยัดใส่หน้าแก ในคืนเดียวกัน เดอะ ร็อก ออกมาพร้อมกับกีตาร์โปร่งเพื่อจัด Rock Concert ทักทายแฟนๆ ชาวคลีฟแลนด์แล้ว เดอะ ร็อก ก็เริ่มเล่นกีตาร์และร้องเพลงที่แต่งเอง เป็นเพลงด่า ซีนา หลังร้องเสร็จแล้ว เดอะ ร็อก ก็ประกาศจะกระทืบซีนา ในเรสเซิลเมเนีย ต่อด้วยเปิดเพลง We Will Rock You ฉบับดัดแปลงด่าซีนา มาร้องกับแฟนๆ ในสนามเป็นการปิดรายการ ในเรสเซิลเมเนีย แมตช์ขวัญใจทั้ง 2 ยุคระหว่าง ซีนา กับ เดอะ ร็อก โดยซีนาเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เดอะ ร็อก[112]

ในรอว์ 2 เมษายน ซีนาออกมาพูด ยอมรับว่าเขาไม่คิดมาก่อนว่าจะแพ้ แต่ก็แพ้จนได้ เขาไม่ได้ออกมาเพื่อจะขอสู้กันอีกครั้ง เพราะด่ากันไปมาปีกว่าแล้ว และก็ได้ตัดสินกันไปแล้วเมื่อคืนนี้ ซีนา บอกว่าเขาขอยอมรับว่า เดอะ ร็อก คือสตาร์ WWE ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการ แต่ บร็อก เลสเนอร์ ก็ได้กลับมาอีกครั้งในรอบ 8 ปี และขึ้นมาจับซีนาใส่ท่า F-5[113] ในรอว์ 9 เมษายน ซีนาออกมาขัดจังหวะ แล้วก็เดินมาตบหน้าเลสเนอร์ เลยโดนเลสเนอร์ คร่อมต่อยเป็นชุดจนเลือดกบปาก ร้อนถึงสตาร์ WWE คนอื่นๆ ต้องออกมาช่วยกันจับแยก คืนเดียวกัน หลังจากแมตช์ของซีนา เลสเนอร์โผล่มาเตะผ่าหมาก แล้วต่อด้วย F-5[114] ในรอว์ 23 เมษายน ซีนาและเลสเนอร์จะต้องเซ็นสัญญาเพื่อที่จะเจอกันในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012) ในช่วงต้นรายการ ทีโอดอร์ ลอง ประกาศแนะนำตัวซีนา ออกมาก่อนจากนั้นก็ประกาศเรียกเลสเนอร์ คนที่ออกมากลายเป็น จอห์น โลรีนายติส บอกว่า เลสเนอร์ยังมาไม่ถึงและสั่งให้ซีนากลับไปก่อน และเอดจ์ก็ออกมาคุยกับซีนา บอกว่าชั้นไม่ได้มาเพื่อพูดกับ จอห์น ซีนา คนนี้ ชั้นไม่รู้จัก จอห์น ซีนา คนนี้ รู้จักแต่ จอห์น ซีนา ที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลของชั้น คนที่พ่อของมันเคยถูกฉันตบหน้า แล้วมันก็มาเอาคืนด้วยการอัดฉันตกบันไดทะลุโต๊ะในแมตช์ TLC นายอย่าลืมว่า เลสเนอร์ มันไม่ได้มาเพื่อแฟนๆ มันมาเพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าของมันเท่านั้น มันออกไปจากสมาคมเมื่อ 8 ปีก่อนในขณะที่เราสองคนช่วยกันประคองสมาคมมา นายเป็นตัวแทนของบรรดานักมวยปล้ำที่ทุ่มเทเพื่อสมาคมมาตลอด ถ้านายไปแพ้เลสเนอร์ มันก็เท่ากับเป็นการตบหน้าคนอย่าง ชอว์น ไมเคิลส์, ดิอันเดอร์เทเกอร์ และตบหน้าฉันด้วย ฉันไม่ได้ขอให้แกเอาชนะเลสเนอร์ แต่ชั้นขอสั่งให้แกทำ ในช่วงท้ายรายการ โลรีนายติสได้ออกมาเตรียมการเซ็นสัญญาระหว่างซีนา กับเลสเนอร์ ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ ซีนาออกมาโดยใส่โซ่คล้องคอมาด้วยจากนั้นก็ถอดโซ่ออกมากำไว้ในมือแต่เลสเนอร์ก็ไม่กลัว เลสเนอร์บอกให้ซีนาเซ็นสัญญา เลสเนอร์บอกว่าแกกำลังกลัวอยู่ใช่มั้ยล่ะฉันสัมผัสได้ถึงกระแสจิตที่ออกมาจากตัวแกว่าแกกำลังกลัว ซีนาเซ็นเสร็จแล้วก็โยนใส่เลสเนอร์ เลยทำท่าเหมือนจะต่อยกัน เลสเนอร์แค่ล้มโต๊ะ ซีนาก็สะดุ้งและถอยเล็กน้อย เลสเนอร์หัวเราะเยาะก่อนจะเดินกลับไป[115] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ ในแมตช์การปล้ำเอ็กซ์ตรีมรูลส์ ระหว่างซีนา กับเลสเนอร์ และเป็นซีนาที่เอาชนะไปได้ หลังแมตช์ ซีนาเอาไมค์มาประกาศว่าเขาอาจจะต้องจากไปสักพัก เพราะบาดเจ็บจากแมตช์นี้ แล้วก็อวยพรให้แฟนๆ กลับบ้านอย่างปลอดภัย[116][117][118]
ในรอว์ 30 เมษายน ซีนาออกมาโดยมีการเข้าเฝือกอ่อนที่แขนซ้าย ซีนาบอกว่า ทริปเปิล เอช แขนหัก จากการถูก เลสเนอร์ เล่นงานหักแขน และเมื่อคืนชั้นก็เจอแบบเดียวกัน แต่ตอนนี้ชั้นก็มาอยู่ที่นี่แล้ว จากการทำ MRI สแกนพบว่ากล้ามเนื้อไม่ฉีก ดังนั้นเขาจึงยังอยู่ใน WWE มันมีการเจ็บอยู่สองประเภท คือ บาดเจ็บ กับเจ็บ ถ้าบาดเจ็บก็ต้องถูกส่งกลับบ้าน แต่ถ้าแค่เจ็บ เขาก็สามารถออกมาทำในสิ่งที่เขารักได้ จอห์น โลรีนายติส ออกมา บอกว่าเขานำเอา เลสเนอร์ กลับมาในฐานะสัญลักษณ์คนใหม่ของสมาคม และบอกว่าคนที่จะเจอกับซีนา ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2012) ออกมาแล้วคือลอร์ด เทนไซ ขึ้นเวทีมาเตรียมจะรุมซีนา ที่ไหนได้ โลรีนายติส อัดใส่ซีนาจากด้านหลังแล้วบอกว่าคนที่จะเจอกับซีนา ในโอเวอร์เดอะลิมิต คือ โลรีนายติส นั่นเอง จากนั้นซีนาก็ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บหนักที่แขนซ้าย[119] ในรอว์ 14 พฤษภาคม โลรีนายติสออกมาล้อเลียนคนดูที่เชียร์ซีนาว่าเป็นไอ้พวกขี้แพ้ เพราะซูเปอร์สตาร์ที่คุณชอบก็สะท้อนถึงตัวตนคุณ ซีนาเป็นไอ้ขี้แพ้ ทำให้แฟนๆ ของเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ด้วยมันแพ้ เดอะ ร็อก และถูกเลสเนอร์อัดเละ ซีนาออกมาล้อเลียนโลรีนายติส และอีฟ ก็ออกมายื่นแฟกซ์ให้อ่าน ซีนาแย่งเอาไปอ่าน บอกว่าเป็นแฟกซ์จากสำนักงานใหญ่ WWE สั่งให้แมตช์ระหว่างซีนากับโลรีนายติส เป็นแมตช์ตัวต่อตัว ห้ามมีผู้ติดตาม ไม่มีกรรมการพิเศษ ชนะด้วยการกดหรือซับมิชชั่นเท่านั้น ถ้าซูเปอร์สตาร์คนไหนเข้ามาก่อกวนจะถูกไล่ออกทันที และถ้าโลรีนายติสแพ้ ก็จะถูกไล่ออกเช่นกัน ในโอเวอร์เดอะลิมิต ซีนาก็เป็นฝ่ายแพ้ให้โลรีนายติส[120] จากการช่วยเหลือของบิ๊กโชว์ ที่ถูกไล่ออกไปแล้ว[121] ในรอว์ 21 พฤษภาคม โลรีนายติส ได้ประกาศแนะนำคู่ต่อสู้คนต่อไปของซีนาในโนเวย์เอาท์ (2012) นั่นคือบิ๊กโชว์[122] คืนเดียวกัน ซีนาต้องปล้ำแฮนดิแคปจับคู่กับเชมัส เจอกับ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์, แจ็ก สแวกเกอร์ และเทนไซ โดยมีนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรมอยู่ข้างเวทีเป็นลัมเบอร์แจ็ก สุดท้ายแมตช์จบลงโดยไม่มีผลการตัดสินเพราะนักมวยปล้ำข้างเวทีขึ้นมารุม หลังแมตช์ บรรดาฝ่ายธรรมะก็รีบวิ่งออกมาช่วย ซีนารีบวิ่งไปหลังเวทีเพื่อไปตามหา บิ๊กโชว์ แต่กลายเป็นเจอหมัดน็อคจนสลบไป ในโนเวย์เอาท์ ซีนาได้เจอกับ บิ๊กโชว์ ในแมตช์การปล้ำในกรงเหล็ก โดยถ้าซีนา แพ้จะต้องถูกไล่ออก และถ้า บิ๊กโชว์ แพ้ โลรีนายติส จะถูกไล่ออก[123] สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะ และทำให้โลรีนายติสถูกไล่ออก หลังแมตช์โลรีนายติสจะเอาไม้เท้ามาฟาดซีนา แต่โดนจับแบก วินซ์เอาไมค์มาและจัดการ You're Fired!! ใส่หน้าโลรีนายติส แล้วซีนาก็ AA ทะลุโต๊ะปิดรายการ[124] ในรอว์ 25 มิถุนายน ซีนาออกมาล้อเลียน บิ๊กโชว์ ต่างๆ นานา คริส เจอริโค ออกมาแล้วก็ไล่ซีนา บอกว่าคืนนี้เป็นคืนที่จะต้องต้อนรับการกลับมาของชั้น ไม่ใช่ให้แกมาเล่นตลกโชว์ ซีนาบอก ตอนนี้บิ๊กโชว์ มันกำลังคลั่ง มันจะเข้าร่วมแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์ เพราะฉะนั้นชั้นจึงขอเข้าร่วมแมตช์นี้ด้วยเพื่อหยุดยั้งบิ๊กโชว์ เจอริโคบอกว่า แกจะเล่นบทฮีโร่ไปถึงไหนแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นแมตช์ที่โหดและอาจทำให้ต้องยุติอาชีพได้เลย วิคกี เกอร์เรโร ออกมา และบอกว่าจะมีแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์สองแมตช์ทั้งรอว์และสแมคดาวน์ โดยฝั่งรอว์จะอนุญาตให้เฉพาะอดีตแชมป์ WWE เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าร่วมผู้ที่จะได้เข้าร่วมก็คือ บิ๊กโชว์, เคน, คริส เจอริโค และ ซีนา[125] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2012) ซีนาได้คว้ากระเป๋าเอกสารสิทธิ์ในการชิงแชมป์ WWE[126][127]
ในรอว์ 16 กรกฎาคม หลังแมตช์ระหว่างซีเอ็ม พังก์ กับบิ๊กโชว์ ซีนาวิ่งออกมาพร้อมกับกระเป๋าสิทธิ์ และบิ๊กโชว์ ก็ยุให้ซีนาใช้กระเป๋าเลยแต่ซีนาไม่ยอมใช้ และบอกกับพังก์ว่าจะขอท้าชิงแชมป์ WWE กับพังก์ ในรอว์ ตอนที่ 1000 (23 กรกฎาคม) ในสภาพที่สมบูรณ์ทั้งคู่ สุดท้ายซีนาไม่สามารถใช้สิทธิ์กระเป๋าได้ เพราะบิ๊กโชว์ได้มาเล่นงานซีนา ทำให้กรรมการปรับซีนาชนะฟาวล์ และเป็นคนแรกที่ใช้กระเป๋าและไม่ได้แชมป์[128][129] หลังแมตช์ บิ๊กโชว์กระทืบซีนาไม่ยั้ง แต่พังก์ ก็ยืนดูเฉยๆ ไม่ยอมช่วย เดอะ ร็อก ออกมาช่วยซีนา และจะใช้ People's Elbow ใส่บิ๊กโชว์ แต่พังก์ขึ้นมาโคลทส์ไลน์ เล่นงานใส่ เดอะ ร็อก และจับใส่ GTS แล้วก็เดินจากไปท่ามกลางเสียงโห่ของคนดู[130] หลังจบรอว์ ตอนที่ 1,000 แล้วก็มีเหตุการณ์แถมท้าย บิ๊กโชว์ลุกขึ้นมาอัดซีนาอีกรอบ และเดอะ ร็อกก็จัดการ Rock Bottom ใส่บิ๊กโชว์ ก่อนที่ซีนาจะซ้ำด้วย Attitude Adjustment หลังจากนั้น ซีนาก็ถอดปลอกแขนอันหนึ่งมาให้เดอะ ร็อก แต่เดอะ ร็อกบอกว่า นายคงจะเอาที่คาดหัวมาใส่เป็นปลอกแขนแน่นอน เพราะคงไม่มีใครแขนใหญ่ขนาดนี้ ซีนาและคนดูก็หัวเราะกันสนุกสนาน จากนั้นเดอะ ร็อก ก็ใช้ People's Elbow ใส่บิ๊กโชว์ แล้วเดอะ ร็อกกับซีนา ได้จับมือกันก่อนที่ซีนาเดินกลับไป ในรอว์ 30 กรกฎาคม ซีนาได้เจอกับบิ๊กโชว์ เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์ WWE กับพังก์ ในซัมเมอร์สแลม (2012) โดยมีพังก์มานั่งเป็นผู้บรรยายอยู่ข้างเวที แต่แมตช์จบลงโดยไม่มีผลการตัดสิน หลังแมตช์พังก์เตะก้านคอบิ๊กโชว์ แล้วก็เอาไมค์มาประกาศว่าไม่มีใครชนะแมตช์นี้เลย พวกมันเป็นพวกขี้แพ้ทั้งคู่ พังก์เดินกลับไป แต่เอเจ ลีออกมาประกาศให้ทั้งซีนา และบิ๊กโชว์ ได้ชิงแชมป์ WWE ในรูปแบบ 3 เส้า[131] ในซัมเมอร์สแลม ซีนาได้ปล้ำแมตช์การปล้ำ 3 เส้าชิงแชมป์ WWE ซีเอ็ม พังก์ และบิ๊กโชว์ โดยพังก์ใช้ท่า Koji Clutch ใส่บิ๊กโชว์ แล้วซีนาก็เข้ามา STF ใส่บิ๊กโชว์อีกคน ทำให้บิ๊กโชว์ยอมแพ้ แต่กรรมการไม่รู้จะให้ใครชนะดี เอเจออกมาสั่งให้เริ่มปล้ำกันใหม่ คราวนี้เป็นซีนาจับบิ๊กโชว์ใส่ Attitude Adjustment ได้ แต่พังก์มาฉวยโอกาสกดนับ 3 ป้องกันแชมป์ไว้ได้[132] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2012) ซีนาได้ชิงแชมป์ WWE กับพังก์ ผลปรากฏว่า ซีนาใช้ท่าเยอรมันซูเปอร์เพล็กซ์ และกดด้วยสะพานโค้ง นับ 3 ไปได้ แต่กรรมการบอกว่าตอนที่กดนั้น ไหล่ของซีนาก็แตะพื้นด้วย แมตช์นี้เลยเสมอกัน ทำให้ซีนาไม่สามารถคว้าแชมป์คืนมาได้[133] หลังจากนั้นซีนาต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณแขน หลังจากที่มีเศษกระดูกที่แตกออกมาจากข้อศอกของซีนา ทำให้แพทย์ต้องผ่าตัดนำเอาเศษกระดูกเหล่านั้นออก และต้องพักการปล้ำ[134] ในรอว์ 8 ตุลาคม ซีนาออกมาท้าให้พังก์ยอมป้องกันแชมป์กับเขาในเฮลอินเอเซล (2012) คืนเดียวกันแมตช์ไม่มีกฎกติการะหว่างพังก์กับวินซ์ แม็กแมน ซีนากับไรแบ็กได้ออกมาช่วยวินซ์ ทำให้พังก์รีบหนีลงเวที แล้วก็หยิบเข็มขัดหนีเข้าไปบนอัฒจรรย์ หลังแมตช์วินซ์ประกาศให้พังค์ตัดสินใจเอาว่าจะเจอกับไรแบ็กหรือซีนาในเฮลอินเอเซล และถ้าไม่ตัดสินใจภายในสัปดาห์หน้า วินซ์จะตัดสินใจให้เอง ในรอว์ 15 ตุลาคม ในช่วงการเซ็นสัญญาชิงแชมป์ WWE วินซ์ก็เลือกไรแบ็กให้ชิงแชมป์กับพังก์ โดยที่ซีนาก็สนับสนุนและช่วยเชียร์ด้วย[135]
ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012)ซีนาได้ปล้ำสามเส้าชิงแชมป์ WWEกับซีเอ็ม พังก์ และไรแบ็ก โดยพังก์เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์ได้ครบ 1 ปี[136][137] จากนั้นได้มีเรื่องราวความรักกับเอเจ และเปิดศึกกับดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ในรอว์ 19 พฤศจิกายน วิกกีออกมาพูดถึงเรื่องซีนากับเอเจ โดยซีนากับเอเจออกมาจูบโชว์ซะเลย เป็นการยอมรับไปว่าคบกันอยู่จริงๆ ซิกก์เลอร์ออกมาลอบทำร้ายซีนา แต่ซีนาก็สวนกลับ จนกระทั่งซิกก์เลอร์ต้องหนีกลับไป ทำให้ซีนาวิ่งตามไป แต่ขณะวิ่งก็เกิดบาดเจ็บหัวเข่า เอเจเข้าไปในห้องแต่งตัวชาย แล้วก็ตรงเข้าไปหาเรื่องซิกก์เลอร์ แต่โดนซิกก์เลอร์ด่าแหลกไม่มีชิ้นดี ทำให้เอเจโมโหตบซิกก์เลอร์ ซีนาเข้ามาห้ามเอเจ แต่โดนซิกก์เลอร์ถีบเข้าให้ จากนั้นซิกก์เลอร์ก็กระทืบหัวเข่าข้างบาดเจ็บของซีนา แล้วก็ต่อยกันจนห้องน้ำพังยับเยิน กรรมการต้องมาช่วยห้าม ในทีแอลซี (2012) ซีนาได้เจอกับซิกก์เลอร์ในการไต่บันไดชิงกระเป๋าเอกสิทธิ์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ผลปรากฏว่าซีนากำลังจะได้อยู่แล้ว แต่เอเจกลับหักหลังด้วยการผลักบันไดซีนาตกลงมา ทำให้ซิกก์เลอร์ขึ้นไปเอากระเป๋าได้[138] ในสแลมมีอะวอร์ด หรือรอว์ 17 ธันวาคม ซีนาได้ออกมาขัดขวางซิกก์เลอร์ไม่ให้ใช้กระเป๋า คืนเดียวกันซีนาได้จับคู่กับวิกกีเจอกับซิกก์เลอร์จับคู่กับเอเจ ซีนากำลังจะชนะด้วย STF แต่เอเจไปพาบิ๊กอีมาเล่นงานซีนา[139] ในรอว์ส่งท้ายปี 31 ธันวาคม เดอะมิซเชิญซีนามาเป็นแขกรับเชิญ MizTV โดยถามเกี่ยวกับเรื่องของเอเจ แต่โคดี โรดส์และแดเมียน แซนดาวออกมาขัดจังหวะ ซีนาก็ท้าให้เจอกันแบบแท็กทีม โดยซีนากับเดอะมิซเอาชนะไปได้ คืนเดียวกันซิกก์เลอร์กับเอเจเชิญซีนามาร่วมฉลองปีใหม่ด้วยกัน แล้วซีนาก็ให้ของขวัญด้วยขี้หล่นลงมาจากด้านบน ในรอว์ 7 มกราคม ตอนแรกของปี 2013 ซีนาออกมาบอกว่าซีเอ็ม พังก์จะป้องกันแชมป์ WWE กับไรแบ็กในการต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้ และเดอะร็อกก็จะกลับมาด้วย ซิกก์เลอร์, เอเจ และบิ๊กอีออกมาขัดจังหวะ ซีนาพยายามเล่นมุกกลบเกลื่อน แล้วซิกก์เลอร์ก็บอกว่าเวลาซีนาแพ้ใครแล้วก็ชอบทำหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อหวังให้เขาไปไกลๆ แต่ชั้นจะไม่ไปไหนหรอก ซีนาเลยท้าซิกก์เลอร์มาเจอกันเดี๋ยวนี้เลย สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะ[140] ในรอว์ 14 มกราคม เอาชนะซิกก์เลอร์ไปได้ในกรงเหล็กและยุติเรื่องราว[141]
ในรอยัลรัมเบิล (2013) ซีนาได้เป็นผู้ชนะแมตช์รอยัลรัมเบิล 30 คน โดยออกมาเป็นคนที่19 และสามารถจับเหวี่ยงไรแบ็กได้เป็นคนสุดท้าย[142] ในรอว์ 28 มกราคม หลังจากซีนาเอาชนะโคดี โรดส์ไปได้ ซีนาประกาศเลือกท้าชิงแชมป์ WWE ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 แต่เดอะชีลด์(ดีน แอมโบรส, เซท โรลลินส์ และโรแมน เรนส์) ก็มารุมลอบทำร้ายซีนา แม้ว่าเชมัสกับไรแบ็กจะออกมาช่วยแต่ก็โดนรุมทำร้าย สุดท้ายเดอะชีลด์เล่นงานซีนาด้วยท่า Triple Powerbomb[143] ในรอว์ 4 กุมภาพันธ์ ซีนาเข้าไปบอกกับวิคกีว่าเขาต้องการให้เดอะชีลด์หยุดการกระทำ คืนเดียวกันแบรด แมดด็อกซ์เรียกเดอะชีลด์ให้ออกมาช่วยคืนความเป็นธรรม เลยโดนเดอะชีลด์ออกมารุมอัดเละ ซีนา, เชมัส และไรแบ็กออกมาล้อมเดอะชีลด์เอาไว้ ทำให้เดอะชีลด์วิ่งหนีไปทางหลังเวทีแต่แรนดี ออร์ตันนำทัพนักมวยปล้ำออกมาขวางเอาไว้ เดอะชีลด์เลยโดนทีมซีนาอัดจนน่วม ก่อนที่จะหนีไปทางอัฒจรรย์[144] ในรอว์ 11 กุมภาพันธ์ เดอะชีลด์ออกมาท้าทายกลุ่มของซีนาว่าถ้าอยากมีเรื่องก็ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้ได้เลย ปรากฏว่าไฟในสนามดับ แล้วกลุ่มของซีนาก็ออกมาไล่อัดเดอะชีลด์จนหนีกระเจิง ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013) ทีมซีนาได้แพ้ให้เดอะชีลด์[145] ในรอว์ 25 กุมภาพันธ์ ซีนาได้เอาชนะซีเอ็ม พังก์ ทำให้ป้องกันสิทธิ์ผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับเดอะร็อก ในเรสเซิลเมเนียได้สำเร็จ[146] ในรอว์ 25 มีนาคม มีการจัดดีเบตระหว่าง เดอะ ร็อก กับ ซีนา เดอะ ร็อก บอกกับซีนา ว่ามาเจอกันเดี๋ยวนี้เลย ซีนาทำท่า You Can't See Me ใส่ร็อก เลยโดนร็อกผลัก ซีนาจับร็อกแบกจะใช้ Attitude Adjustment แต่ร็อกดิ้นหลุดแล้วจับ Rock Bottom[147][148] ในรอว์ 1 เมษายน ซีนาออกมาพูดชื่นชมเดอะร็อกว่าเป็นแชมป์ WWE ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และถ้าหากว่าเขาเอาชนะเดอะ ร็อก ได้ในเรสเซิลเมเนีย มันก็จะสุดยอดมากๆ เวลาของเดอะ ร็อก มันหมดลงแล้ว มันจะเป็นเวลาของซีนา ซีนาบอกว่า เดอะ ร็อกจะได้ลิ้มรสความล้มเหลวบ้าง หลังจากที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเรสเซิลเมเนีย 28 มาแล้ว ซีนาบอกว่าทนดูร็อกเปลี่ยนเข็มขัดแชมป์ WWE แบบใหม่แล้วเจ็บปวด แต่เขาจะไม่เปลี่ยนมันหรอก จะแย่งชิงมันมาครองและเขาเหนือกว่าร็อก[149] ในเรสเซิลเมเนีย 29 ซีนาสามารถคว้าแชมป์ WWE ไปครองอีกครั้ง ทำให้ซีนาสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 11 ได้สำเร็จ หลังจากที่ไม่ได้แชมป์โลกมา 1 ปี หลังแมตช์ร็อกก็มาจับมือและกอดซีนา เพื่อแสดงความยินดีกับซีนาอีกด้วย[150]

ในรอว์ 8 เมษายน ซีนาได้มีแมตช์เจอกับมาร์ก เฮนรี โดยซีนาเป็นฝ่ายชนะเคาต์เอาต์ หลังแมตช์เฮนรีขึ้นมาอัดซีนา แล้วจับใส่ World Stornges Slam เฮนรีเอาเข็มขัดแชมป์มาชูเล่น ท่ามกลางเสียงโห่ของคนดู แต่ไรแบ็ก ออกมาเล่นงานเฮนรีจนกลิ้งหนีลงเวทีไป ไรแบ็กฉลองกับซีนาบนเวที แต่ไรแบ็กโคทส์ไลน์ใส่ซีนาแล้วก็จับใส่ Shellshocked จากนั้นก็เอาเข็มขัดมาชู[151][152] ในรอว์ 29 เมษายน หลังจากซีนาจับคู่กับทีมเฮลโน(เคน และแดเนียล ไบรอัน) แพ้ให้เดอะชีลด์ ไรแบ็กออกมายืนจ้องซีนา โดยประกาศว่าแมตช์ของเขากับซีนา จะเป็นแมตช์ลาสแมนสแตนดิ้ง คืนเดียวกันหลังจากไรแบ็กเอาชนะเคนไปได้ เดอะชีลด์ออกมาทำให้ไรแบ็กหนีไป ปล่อยให้เคนนอนอยู่บนเวทีคนเดียว ไบรอันวิ่งออกมาช่วยเคนตามมาด้วยซีนา สุดท้ายไรแบ็กก็ขึ้นมาพร้อมกับเก้าอี้ ไบรอันกับซีนาช่วยกันอัดเดอะชีลด์ แต่ไรแบ็กเอาเก้าอี้มาฟาดซีนา[153] ในรอว์ 13 พฤษภาคม ซีนาได้จับคู่กับทีมเฮลโน เจอกับ เดอะชีลด์ ในการปล้ำแทคทีม 6 คน แบบคัดออก ผลปรากฏว่าทีมซีนาชนะฟาวล์ไป หลังแมตช์เดอะชีลด์จับซีนาใส่ Triple Powerbomb ไรแบ็กออกมาและหยิบเอาเก้าอี้มาฟาดใส่ขาซีนา[154] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) ซีนาต้องป้องกันแชมป์กับไรแบ็กในแมตช์ลาสแมนสแตนดิ้ง แต่แมตช์จบลงไม่มีผลตัดสิน โดยไรแบ็กจับซีนาพุ่งชนทะลุมินิตรอนเข้าไปนอนกองกันอยู่ข้างใน กรรมการเห็นท่าไม่ดีเลยยุติแมตช์ไปเลย[155] ในรอว์ 20 พฤษภาคม ไรแบ็กออกมายืนบนรถพยาบาล บอกว่าซีนาแม้จะเป็นแชมป์อยู่แต่ก็ต้องถูกหามออกไปจากสนาม ถึงแม้ว่ามันจะปฏิเสธที่จะขึ้นรถพยาบาล แต่คราวหน้ามันจะไม่มีทางปฏิเสธได้แน่นอน เพราะเขาจะท้าเจอกับซีนา ในแมตช์ยัดรถพยาบาลในเพย์แบ็ค (2013) ในรอว์ 27 พฤษภาคม ซีนาออกมาและบอกว่าพร้อมที่จะปล้ำแมตช์ Ambulance Match ในเพย์แบ็ค แล้วซีนาบอกไรแบ็กว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบ 3 Stages of Hell ทั้งคู่จะต้องปล้ำ 3 แมตช์ติดต่อกัน แมตช์ต่างๆจะมีกติกาเงื่อนไขพิเศษแตกต่างกันโดยมี Lumberjack Match, Tables Match และ Ambulance Match ผู้ที่จะได้แชมป์ WWE จะต้องชนะ 2 ใน 3 แมตช์ และไรแบ็กก็ตอบตกลง คืนเดียวกันซีนาได้มีแมตช์เจอกับเคอร์ติส แอ็กเซล โดยไรแบ็กออกมาเปิดหวอรถพยาบาล ทำให้ซีนาลงไปดูเลยทำให้โดนนับ 10 แพ้ไปจากนั้นไรแบ็กก็ออกมาและเข้าข้างหลังและจะจับซีนาเหวี่ยงชนกับมินิตรอนอีกแต่ซีนาหลบได้ทำให้ไรแบ็กวิ่งหนีไปหลังฉาก ในเพย์แบ็คในแมตช์นรก 3 ขุม แมตช์ที่1 Lumberjack Match ไรแบ็กจับซีนาแบกแล้ว Shellshocked ทันที กดนับ 3 เป็นฝ่ายเอาชนะไปก่อน แมตช์ที่2 Tables Match ซีนาจับไรแบ็กใส่ Attitude Adjustment ใส่โต๊ะพัง ตีเสมอได้สำเร็จ แมตช์ที่3 Ambulance Match ซีนาจัดการ Attitude Adjustment ใส่ไรแบ็กจนทะลุหลังคารถพยาบาลลงไป ทำให้ซีนาป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ[156] ในรอว์ 17 มิถุนายน ซีนาออกมาพูดถึงการที่เขาสามารถเอาชนะได้ทั้งเดอะ ร็อก และไรแบ็ก จากนั้นก็ท้าใครก็ได้ที่คิดว่าตัวเองคู่ควร มาท้าชิงแชมป์เป็นคนต่อไปได้เลย มาร์ก เฮนรีออกมาในชุดสูท พร้อมกับถือรองเท้ามวยปล้ำของเขาออกมาด้วย เฮนรีจับมือซีนา ก่อนจะประกาศว่าเขาอยู่ในวงการมานาน วันนี้ถึงเวลาเสียทีที่จะแขวนรองเท้าได้แล้ว เฮนรี พูดไปก็ร้องไห้ไป ส่วนคนดูก็ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ ซีนาเข้ามาชูมือเฮนรีและสวมกอด แต่เฮนรีจับใส่ World's Strongest Slam แล้วก็บอกว่ามันไม่จบง่ายๆ อย่างงั้นหรอก ก่อนจะประกาศท้าชิงแชมป์โดยโยนเข็มขัดแชมป์ใส่ซีนา[157] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2013) ซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ[158]
ในรอว์ 15 กรกฎาคม ซีนาออกมาเพื่อเลือกผู้ท้าชิง โดยมีบรรดาซูเปอร์สตาร์มายืนอยู่ที่เวทีเปิดตัว ซีนาเรียกชื่อนักมวยปล้ำทีละคนเพื่อให้แฟนๆ ช่วยกันส่งเสียงสนับสนุนคนที่อยากให้ชิงแชมป์ ฮีท สเลเตอร์? คนดูโห่ ใครก็ได้จาก 3MB? คนดูโห่ แรนดี ออร์ตัน? โห่ผสมเฮ เกรทคาลี? โห่หนัก บวกเฮนิดหน่อย อัลเบร์โต เดล รีโอ? โห่ คริส เจอริโค? เฮปานกลาง ร็อบ แวน แดม? เฮดัง ฟันดังโก? โห่ เชมัส? โห่หนัก ไรแบ็ก? โห่ ซีนาถามว่าเขาลืมใครไปหรือเปล่า คนดูตะโกน Yes! Yes! Yes! ซีนาประกาศเลือก แดเนียล ไบรอัน เป็นผู้ท้าชิงของเขาในซัมเมอร์สแลม ไบรอันออกมาตะโกน Yes! Yes! Yes! และคนดูก็ตะโกนตามกันทั้งสนาม[159] ในซัมเมอร์สแลม (2013) ซีนาได้เป็นฝ่ายแพ้และเสียแชมป์ WWE ให้กับ ไบรอัน โดยมี ทริปเปิล เอช เป็นกรรมการพิเศษ หลังแมตช์ ไบรอันกำลังฉลองแชมป์ แต่ซีนา มาขัดจังหวะเหมือนจะหาเรื่อง แต่สุดท้ายก็จับมือแสดงความยินดี ซีนาเดินกลับไปและปล่อยให้ ไบรอัน ฉลองบนเวทีโดยมีการจุดพลุฉลองอย่างยิ่งใหญ่ แต่แล้ว ออร์ตันก็เดินถือกระเป๋าออกมา ออร์ตันชูกระเป๋าข่มขวัญและเดินกลับไป แต่ ทริปเปิล เอช จับไบรอัน ใส่ Pedigree แล้วออร์ตัน ก็กลับมาใช้กระเป๋าและกดนับ 3 ชนะไปสบายๆ ออร์ตันได้แชมป์ไปครองโดย ทริปเปิล เอช ก็ร่วมฉลองด้วย[160] คืนต่อมาในรอว์ ซีนาออกมาท่ามกลางเสียงโห่ ซีนาบอกว่าเขารู้สึกขยะแขยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ซีนาพูดเข้าข้างไบรอัน แต่คนดูโห่และตะโกน Cena Sucks!! ซีนาบอกว่าข้อศอกของเขาบวมเพราะกล้ามเนื้อฉีกขาด และหมอบอกว่าควรจะยกเลิกแมตช์ในศึกซัมเมอร์สแลม และต้องผ่าตัดทันที แต่ซีนาบอกว่าเขาไม่ยอมยกเลิกและขอปล้ำทั้งๆที่บาดเจ็บ แต่เขาจะไม่เอามาเป็นข้ออ้างหรอก เขาแพ้เพราะว่าคู่ต่อสู้ของเขาเหนือกว่าจริงๆ เขาแพ้อย่างขาวสะอาด แต่เขารู้สึกขยะแขยงที่ทริปเปิลเอชทำแบบนั้นแล้วเอาแชมป์ให้ออร์ตันไป ซีนาบอกว่าเขาคงต้องขออำลาไปสักพักเพื่อไปผ่าตัด โดยต้องเข้ารับการผ่าตัดบริเวณข้อศอกซ้าย และอาจจะต้องพักยาวถึง 4-6 เดือน[161]
แชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE
[แก้]ในรอว์ (7 ตุลาคม 2013) อัลเบร์โต เดล รีโอ เจ้าของแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เปิดตัวออกมา และวิคกี ก็ตามออกมาเพื่อประกาศคู่ต่อสู้ของเดล รีโอคือริคาร์โด โรดรีเกซ และวิคกียังประกาศอีกว่าผู้ท้าชิงของเดล รีโอ ในเฮลอินเอเซล คือ จอห์น ซีนา เดล รีโอกำลังช็อคและมัวแต่โวยวายเลยโดน ริคาร์โด รวบกดนับ 3 ชนะไป หลังแมตช์ เดล รีโอ เล่นงานริคาร์โดระบายอารมณ์ จากนั้นก็เอาเก้าอี้มาหนีบแขนแล้ว Cross ArmBreaker จนกรรมการต้องมาห้าม[162] ในเฮลอินเอเซล (2013) ซีนาได้กลับมาอีกครั้งและเอาชนะเดล รีโอ คว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไปครอง ทำให้ซีนาสามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 14 ได้สำเร็จ[163] ในรอว์ (28 ตุลาคม 2013) ซีนา แชมป์โลกเฮฟวี่เวทคนใหม่ บอกว่าเขาชินกับเสียงโห่พวกนี้แล้ว เมื่อคืนนี้มีหลายคนมีความสุขแต่ก็มีหลายคนไม่พอใจ แต่นั่นก็หมายความว่าเขากลับมาแล้ว!! คิดถึงไหมล่ะ? คิดว่าเขาควรจะหายไปนานกว่านี้หรือเปล่า? และ เจบีแอล ก็มักจะพูดอยู่ตลอดว่าถ้าเขากลับมาเขาจะโดน เดล รีโอ อัดจนต้องเลิกปล้ำ แต่ เจบีแอล ก็คิดผิดเพราะเขาเป็นแชมป์โลกคนใหม่แล้ว แดเมียน แซนดาว ออกมา และบอกว่า ซีนาอาจจะหลอกคนดูได้ หลอกหมอได้ แต่หลอกเขาไม่ได้หรอก ซีนาไม่มีทางหายเจ็บเร็วขนาดนั้น แกต้องเจ็บมากกว่าที่แสดงออกให้คนเห็น และที่ออกมาโม้ในวันนี้ก็เพราะว่าซีนากลัวว่าเขาจะออกมาใช้กระเป๋า MITB แซนดาวบอกว่าเขาจะใช้กระเป๋าเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คงไม่ใช่คืนนี้ ว่าแล้วก็เดินจากไป แต่ซีนา ทำท่าจะหาเรื่องแซนดาว ทำให้แซนดาวกระทืบซีนาทันที แล้วก็ใช้กระเป๋าฟาดรัวใส่แขนของซีนา จากนั้นแซนดาว เรียกกรรมการออกมาและขอใช้กระเป๋าเดี๋ยวนี้!! ทำให้ซีนาต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับแซนดาว สุดท้ายซีนาจับแซนดาวใส่ Attitude Adjustment และกดนับ 3 ไป ป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ได้สำเร็จ และแซนดาว กลายเป็นคนที่สองที่ใช้กระเป๋า MITB แล้วไม่สำเร็จ ต่อจากซีนา[164] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013) ซีนาต้องป้องกันแชมป์กับเดล รีโอ และซีนาเป็นฝ่ายชนะป้องกันแชมป์ไว้ได้สำเร็จ[165]
ในรอว์ (25 พฤศจิกายน 2013) แรนดี ออร์ตันออกมาบอกว่าพวกแกคงจะไม่คิดล่ะสิว่าชั้นคนนี้จะออกมาที่นี่ในฐานะแชมป์ WWE แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คาใจ จึงขอให้ทริปเปิลเอชกับสเตฟานีออกมา และออร์ตันบอกว่าทำไมต้องออกมาช่วยเขาด้วย? ก็ไหนบอกว่าไม่ต้องมีการก่อกวนไง เขาเอาชนะด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาช่วย เพราะเขาคือผู้เป็นหน้าเป็นตาของ WWE เป็นแชมป์ WWE เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ WWE ตลอดกาลและไม่มีใครจะมาแย่งชิงอะไรไปจากเขาได้ ซีนาออกมาและก็บอกว่าเขานี่แหละที่จะทำได้ ขอท้าเจอออร์ตันโดยเอาแชมป์ทั้งสองเส้นเป็นเดิมพัน ทริปเปิล เอช กับสเตฟานี ก็เห็นชอบด้วย และ ทริปเปิล เอช ก็จัดแมตช์ในศึก TLC ให้ทั้งสองคนเจอกันและจะเอาแชมป์ทั้งสองเส้นแขวนไว้ในแมตช์ โต๊ะ, บันได, และเก้าอี้ ซีนากับออร์ตัน ชูเข็มขัดแชมป์ข่มกันก่อนจะแยกย้ายกันกลับ คืนเดียวกัน ซีนาได้จับคู่กับ บิ๊กโชว์ เจอกับ ออร์ตัน และเดล รีโอ สุดท้ายซีนา และบิ๊กโชว์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ หลังแมตช์ เดล รีโอมาเล่นงานซีนา แต่โดนซีนาจับ Attitude Adjustment แต่ออร์ตันเอาเข็มขัด WWE ฟาดหัวซีนา ออร์ตันไปเอาเข็มขัด WHC ของซีนามา แล้วประกาศศักดาด้วยการชูเข็มขัดสองเส้น[166] ในรอว์ (2 ธันวาคม 2013) ช่วงท้ายรายการ มีการเซ็นสัญญาแมตช์การปล้ำชิงแชมป์โลกทั้งสองเส้นใน TLC ทั้งซีนา และออร์ตัน เซ็นสัญญากันเสร็จก็ตีกันจนได้ เป็นซีนาที่เหนือกว่าและเป็นฝ่ายไล่อัดออร์ตันได้ก่อน แต่ออร์ตันเอาคืนด้วยการใช้เก้าอี้ฟาดรัวๆ ออร์ตันไปเอาโต๊ะมาวาง แต่ซีนาฟื้นมาจับออร์ตันใส่ Attitude Adjustment ลงบนโต๊ะจนพัง ในทีแอลซี (2013)ในแมตช์การต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้ ชิงแชมป์ WWE และแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ซีนาเป็นฝ่ายแพ้เสียแชมป์โลกเฮฟวี่เวทให้กับออร์ตัน ทำให้ออร์ตันเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE[167] ในรอว์ (13 มกราคม 2014) ออร์ตันโมโหโวยวายทำลายโต๊ะผู้บรรยาย หลังจากแพ้ให้โคฟี คิงส์ตัน จากนั้นก็เหลือบไปเห็นพ่อของซีนา นั่งดูอยู่ที่ข้างเวทีพอดี เลยเข้าไปต่อยพ่อซีนาจนร่วง ซีนาออกมาไล่ออร์ตันไป และเรียกแพทย์ WWE มาดูอาการพ่อ ซีนาได้รีแมตช์กับออร์ตันชิงแชมป์โลกในรอยัลรัมเบิล (2014) แต่ถูกเดอะไวแอ็ตต์แฟมิลีก่อกวน ทำให้ซีนาแพ้ไม่ได้แชมป์คืน[168] ในรอว์ (27 มกราคม 2014) ซีนาได้จับคู่กับแดเนียล ไบรอันและเชมัสเจอกับเดอะชีลด์ โดยทีมที่ชนะได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงแชมป์โลกในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) สุดท้ายแมตช์จบลงโดยไม่มีผลการตัดสิน เพราะไวแอ็ตต์แฟมิลีมาก่อกวนการปล้ำ หลังแมตช์ทีมซีนาช่วยกันไล่อัดพวกไวแอ็ตต์จนต้องหนีไป แล้วโฆษกก็ประกาศว่าทีมของซีนาชนะฟาวล์ได้สิทธิ์เข้าร่วมอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์[169] แต่ซีนาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ เพราะไวแอ็ตต์แฟมิลีมาก่อกวนอีกครั้ง[170]

ในรอว์ (24 กุมภาพันธ์ 2014) ซีนาออกมาพูดถึงการเริ่มเปิดบริการ WWE Network และอนาคตของ WWE ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ดาวรุ่งคนไหนอยากจะเป็นอนาคตของสมาคมก็ต้องผ่านด่านเขาไปก่อน ซีนาบอก บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่นี่คือความจริง อนาคตของสมาคมนี้ก็คือเขาคนนี้ และคนที่มาท้าทายตอนนี้ก็คือเบรย์ ไวแอ็ตต์ ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้เลย!! เบรย์ออกมาพร้อมกับลุก ฮาร์เปอร์ และอีริก โรแวน จากนั้นเบรย์ก็บอกว่าเขาเห็นด้วยที่จะต้องผ่านซีนาไปสู่อนาคต แล้วก็รุมกระทืบซีนา จนซีนามีอาการเจ็บที่ขา ก่อนที่ไวแอ็ตต์จะเดินจากไป และซีนาก็ต้องลงเปลหามกลับไปด้วย ในรอว์ (10 มีนาคม 2014) ซีนาได้ออกมาประกาศว่าเขาจะเข้าร่วมแมตช์การปล้ำ แบทเทิลรอยัล 30 คน ที่ประกาศโดย ฮัลค์ โฮแกน แต่กลุ่มไวแอ็ตต์แฟมิลีก็ออกมา ซีนาก็บอกกับโฮแกนว่าเขาอาจจะไม่ได้เข้าร่วมปล้ำแบทเทิลรอยัลแล้ว เพราะตอนนี้เขาขอท้าไวแอ็ตต์เจอกันเดี่ยวๆตัวๆ ในเรสเซิลเมเนีย[171] ในรอว์ (24 มีนาคม 2014) ซีนาได้เจอกับฮาร์เปอร์ สุดท้ายแมตช์จบลงโดยไม่มีผลการตัดสิน เพราะซีนากำลังจับฮาร์เปอร์จะใช้ Attitude Adjustment แต่ไฟก็ดับลงและพอสว่างอีกที ซีนาก็โดนจับมัดอยู่กับเชือกเวทีและมีหน้ากากแพะสวมหัวอยู่ แล้วเบรย์ก็หัวเราะเยาะเย้ย ในรอว์ (31 มีนาคม 2014) ซีนาสวมหน้ากากแพะมาแอบเข้ากลุ่มกับไวแอ็ตต์ จากนั้นก็ไล่อัดพวกไวแอ็ตต์ซะกระเจิง ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30 ซีนาเอาชนะเบรย์ ไวแอ็ตต์ไปได้สำเร็จ[172][173][174] ในรอว์ (14 เมษายน 2014) เบรย์ออกมาที่เวที และซีนาก็ตามออกมาเปิดเผยภาพครอบครัวไวแอ็ตต์ที่เหลืออยู่โดยเป็นรูปตัดต่อของ เบรย์, ฮาร์เปอร์ และโรแวน จากนั้นซีนาก็ท้าเบรย์เจอกันในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2014) ในกรงเหล็ก ในรอว์ (21 เมษายน 2014) ซีนาต้องปล้ำแฮนดิแคป 3 รุม 1 กับไวแอ็ตต์แฟมิลี สุดท้ายซีนาชนะฟาล์ว เพราะซีนากำลังจะจับกดเบรย์นับ 3 แต่ฮาร์เปอร์และโรแวน เข้ามารุมกระทืบซีนา จนกรรมการปรับให้ซีนาชนะฟาวล์ไป หลังแมตช์ ซีนาโดนรุมกระทืบจนหมดสภาพ ในรอว์ (28 เมษายน 2014) เปิดรายการด้วยไฮไลท์ความขัดแย้งระหว่างซีนากับไวแอ็ตต์แฟมิลี จากนั้นกรงเหล็กก็ถูกหย่อนลงมาครอบเวที และซีนาก็เปิดตัวออกมา ซีนาเข้าไปในกรงเหล็กและพูดถึงแมตช์ที่เขาจะเจอกับเบรย์ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ แต่แล้วไฟในสนามก็ดับลงและมีเสียงเด็กร้องเพลงกล่อมเด็ก ก่อนที่ไวแอ็ตต์จะออกมา พร้อมกับเด็กสวมหน้ากากแพะล้อมเวทีเอาไว้[175] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ ในแมตช์กรงเหล็กระหว่าง ซีนากับไวแอ็ตต์ ซีนาจัดการอัดทั้งเบรย์และพวกลูกน้องจนหมดแล้ว และก็จะออกทางประตู แต่มีเด็กมายืนร้องเพลงขวางเอาไว้ และเบรย์ก็ได้โอกาสมา Sister Abigail ใส่ซีนาก่อนจะเดินออกไปทางประตูได้สำเร็จ ทำให้ซีนาเป็นฝ่ายแพ้[176] ในเพย์แบ็ค (2014) ซีนาได้รีแมตช์เอาชนะเบรย์ไปได้ ในแมตช์ Last Man Standing โดยการจับเบรย์มา Attitude Adjustment ลงบนกล่องเก็บของจนกล่องทะลุ แล้วซีนาก็ไปผลักกล่องอีกใบมาทับไว้อีกที ทำให้เบรย์ลุกไม่ได้แล้วก็โดนนับ 10 แพ้[177] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2014) ซีนาสามารถเอาชนะนักมวยปล้ำทั้ง7คน และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 15 ได้สำเร็จ[178]
ในรอว์ (30 มิถุนายน 2014) ดิออธอริตี ทริปเปิลเอช กับสเตฟานี ออกมาประกาศแนะนำตัวซีนา แชมป์โลกคนใหม่ แชมป์ 15 สมัย สเตฟานีประกาศว่าในฐานะที่ซีนาเป็นแชมป์ เขาจะได้เป็นนายแบบปกเกม WWE 2K15 ด้วย และ ทริปเปิล เอช ได้ประกาศจัดแมตช์ให้ซีนาป้องกันแชมป์แบบ 4 เส้าในแบทเทิลกราวด์ (2014) และคนที่จะได้เข้าร่วมนั้นคือ แรนดี ออร์ตัน, เคน และโรแมน เรนส์ คืนเดียวกัน ซีนาได้จับคู่กับ เรนส์ เจอกับ ออร์ตัน และเคน สุดท้ายแมตช์จบลงโดยซีนากับเรนส์ชนะฟาล์ว หลังแมตช์เคนลากซีนามาใส่ท่า Tombstone ทำให้เซท โรลลินส์เจ้าของกระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ รีบวิ่งออกมาขอใช้สิทธิ์นั้นทันที!! แต่ยังไม่ทันได้เริ่มแมตช์ ดีน แอมโบรส ก็มาไล่ต่อยโรลลินส์ และตามเข้าไปต่อยกันในอัฒจรรย์ ทำให้อดใช้กระเป๋าไป เคนไปเอาเก้าอี้มาและเตรียมอัดซีนาต่อ แต่เรนส์วิ่งมา Spear ใส่เคน แล้วก็ยืนจ้องหน้ากับทริปเปิลเอช ในแบทเทิลกราวด์ ซีนาสามารถป้องกันแชมป์ได้ในแบบ 4 เส้ากับ ออร์ตัน, เคน และเรนส์[179] ในซัมเมอร์สแลม (2014) ซีนาเสียแชมป์ให้กับบร็อก เลสเนอร์[180] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2014) ซีนาได้รีแมตช์ชิงแชมป์กับเลสเนอร์อีกครั้ง แต่โรลลินส์มาก่อกวน ทำให้ซีนาไม่ได้แชมป์[181] ในรอว์ (13 ตุลาคม 2014) ได้มีการเปลี่ยนแปลงแมตช์ของซีนากับแอมโบรสให้เป็นคู่เอกในคืนนั้น จะเป็นแบบ No Holds Barred ไม่มีกฏกติกาใดๆทั้งสิ้น และผู้ชนะคือคนที่สามารถปีนไปเอาใบสัญญาที่แขวนอยู่บนเสาเหนือมุมได้ (Contract on a Pole) ใครคว้าสัญญาได้ก็จะเจอเซท โรลลินส์ ผู้แพ้ก็จะต้องไปเจอกับแรนดี ออร์ตัน ในแมตช์เฮลอินเอเซล เช่นกัน ผลปรากฏว่าแอมโบรสชนะ ทำให้แอมโบรสได้เจอกับโรลลินส์ และซีนาจะต้องเจอกับออร์ตัน ในรอว์ (20 ตุลาคม 2014) ทริปเปิลเอชได้ประกาศว่าแมตช์ระหว่างออร์ตันกับซีนาจะเป็นการหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์โลกกับเลสเนอร์ ในเฮลอินเอเซล (2014) ซีนาได้เอาชนะแรนดี ออร์ตัน ได้สิทธิ์เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ชิงแชมป์กับเลสเนอร์ในโอกาสต่อไป[182] ต่อมาซีนาได้เปิดศึกกับทีมออธอริตีนำโดยทริปเปิลเอช กับสเตฟานี ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2014) ซีนาได้นำทีมเอาชนะทีมออธอริตีไปได้ จากการช่วยเหลือของสติง ทำให้ออธอริตีต้องสลายกลุ่ม และหมดอำนาจลง[183][184] ในทีแอลซี (2014) ซีนาเอาชนะโรลลินส์ไปได้ในการปล้ำจับฟาดใส่โต๊ะ จากการช่วยเหลือของโรแมน เรนส์ ทำให้ซีนารักษาสิทธิ์เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์โลกกับเลสเนอร์ได้สำเร็จ[185] ในรอว์ (29 ธันวาคม 2014) ซีนาได้เรียกออธอริตีกลับมา ตามคำสั่งของโรลลินส์[186] ในรอว์ (5 มกราคม 2015) ทริปเปิลเอชกับสเตฟานี ได้ประกาศให้โรลลินส์เข้าร่วมชิงแชมป์โลกเป็นสามเส้าในรอยัลรัมเบิล (2015) สุดท้ายเลสเนอร์ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้[187]
ทำสถิติ
[แก้]
ซีนาได้เปิดศึกกับเจ้าของแชมป์ยูเอส และผู้ที่ยังไม่เคยแพ้ใครอย่างรูเซฟ โดยซีนาท้าชิงแชมป์กับรูเซฟในฟาสต์เลน (2015) โดยซีนาเป็นฝ่ายแพ้ด้วยท่าซับมิสชั่น The Accolade จนสลบไป ทำให้ซีนาไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[188] หลังจากนั้น ซีนาได้ขอรีแมตช์เจอกับรูเซฟอีกครั้งแต่รูเซฟไม่ยอมรับคำท้า[189] ในรอว์ 9 มีนาคม รูเซฟ ได้มีแมตช์กับเคอร์ติส แอ็กเซล และรูเซฟเอาชนะไปได้ หลังแมตช์ซีนาได้มาเล่นงานรูเซฟและจับล็อกด้วยท่า STF เพื่อหวังจะให้รูเซฟตอบรับคำท้าของซีนาในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31 ทำให้ลานาต้องยอมให้ซีนาได้เจอกับรูเซฟในเรสเซิลเมเนีย และเป็นแมตช์ชิงแชมป์ยูเอส[190] สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะและคว้าแชมป์ยูเอส สมัยที่4 มาครองได้สำเร็จ และเป็นคนแรกที่ชนะรูเซฟ[191] จากนั้นซีนาต้องป้องกันแชมป์รูเซฟทั้งในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2015) และเพย์แบ็ก (2015) แต่ซีนาก็สามารถเอาชนะรูเซฟไปได้ถึง 2 ศึกใหญ่ติดต่อกัน[192][193] ต่อมาซีนาได้เปิดศึกกับเควิน โอเวนส์ และได้ท้าเจอกันในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2015) โดยโอเวนส์เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ ก่อนจะรีแมตช์กันอีกครั้งในมันนีอินเดอะแบงก์ (2015) สุดท้ายซีนาเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ หลังแมตช์โอเวนส์เล่นงานซีนาด้วยท่า Pop-up powerbomb กับขอบเวที[194][195] ในรอว์ 22 มิถุนายน ซีนาได้รับคำท้าของโอเวนส์ในการชิงแชมป์ยูเอสในแบทเทิลกราวด์ (2015) สุดท้ายซีนาสามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ[196] ในรอว์ 20 กรกฎาคม ซีนาได้ขอท้าชิงแชมป์โลกกับเซท โรลลินส์ ซึ่งโรลลินส์ได้ปฏิเสธ[197] ในรอว์สัปดาห์ต่อมา 27 กรกฎาคม ซีนาต้องป้องกันแชมป์ยูเอสกับโรลลินส์ สุดท้ายซีนาก็สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ ระหว่างแมตช์ ซีนาได้ถูกโรลลินส์เข่าใส่จนดั้งจมูกหัก[198][199] ในรอว์ 3 สิงหาคม โรลลินส์ได้ออกมาท้าซีนาในการรวมแชมป์โลกและแชมป์ยูเอส ผู้ชนะจะได้ครองแชมป์ทั้งสองเส้นในซัมเมอร์สแลม (2015) สุดท้ายซีนาเป็นฝ่ายแพ้และเสียแชมป์ยูเอสให้กับโรลลินส์ จากการก่อกวนของจอน สจ๊วต ทำให้ซีนาพลาดโอกาสการเป็นแชมป์โลกสมัยที่16[200]
ในรอว์ 24 สิงหาคม จอน สจ๊วตออกมาอธิบายว่าทำไมเขาถึงทำร้ายซีนา อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้ทำเพื่อช่วยโรลลินส์ แต่เขาทำเพื่อป้องกันไม่ให้ ซีนาทำสถิติเทียบเท่ากับริก แฟลร์ เพราะเขาคิดว่า แฟลร์คือแชมป์ตัวจริง ริก แฟลร์ออกมาและก็บอกว่าซีนา คือคนที่เขาเคารพ และเขาก็ยินดีที่ซีนาจะทำลายสถิติของเขา ซีนาออกมาและก็พยายามจะเคลียร์กับสจ๊วต ซีนาบอกว่าการที่สจ๊วตทำแบบนั้นนอกจากโรลลินส์จะยังเป็นแชมป์โลกแล้ว ยังทำให้โรลลินส์ได้แชมป์ยูเอสไปอีกด้วย ซีนาบอกว่าเขาอุตส่าห์แย่งแชมป์นั้นมาจากรูเซฟ และนำมาเป็นสัญลักษณ์ของการให้โอกาสคนอื่น เขาให้โอกาสเด็กดาวรุ่งหลายคนมาชิงแชมป์ เขาช่วยผลักดันเด็กรุ่นใหม่อยู่เสมอ สจ๊วตบอกว่าเขาเคารพซีนา แต่ซีนาไม่ดีพอที่จะเทียบสถิติ ริก แฟลร์ และซีนาก็มีโอกาสที่จะชิงแชมป์ยูเอสกลับมา ซีนาบอกว่าเขาพยายามต่อสู้กับพวกออโทริตีมาตลอดเพราะพวกมันไม่สนใจแฟนๆ เอาแต่ทำสิ่งที่ดีสำหรับธุรกิจอย่างเดียว แล้วตอนนี้ออโทริตีได้แชมป์ไปครองสองเส้นแล้ว สจ๊วตบอกว่าเขาแค่ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำเท่านั้น ซีนาจับสจ๊วตมา AA เป็นการเอาคืนก่อนจะเดินกลับไป ซีนาให้สัมภาษณ์ที่หลังฉาก บอกว่าเขาเคลียร์ไปแล้ว 1 คน หลังจากนี้เขาจะต้องไปเคลียร์กับโรลลินส์อีกคน ในรอว์สัปดาห์ต่อมา ซีนาออกมาเพื่อขอใช้สิทธิ์รีแมตช์กับโรลลินส์ ในการชิงแชมป์ยูเอสคืนในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2015) และสเตฟานีก็ตอบตกลง และซีนาก็สามารถคว้าแชมป์ยูเอสเป็นสมัยที่5ได้สำเร็จ[201] และเสียแชมป์ให้กับอัลเบร์โต เดล รีโอ ในการโอเพนชาเลนซ์ในเฮลอินเอเซล (2015) ก่อนจะห่างหายจากการปล้ำชั่วคราว[202] ในรอว์ 28 ธันวาคม ซีนาได้กลับมาปล้ำอีกครั้งโดยเอาชนะอัลเบร์โต เดล รีโอไปได้ด้วยการทำฟาล์ว ในการรีแมตช์ชิงแชมป์ยูเอส[203] วันที่ 7 มกราคม 2016 ซีนาได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวไหล่ฉีกขาด ต้องพักการปล้ำ 4-6 เดือน[204][205] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32 ซีนาได้ออกมาช่วยเดอะ ร็อกปราบกลุ่มไวแอ็ตต์แฟมิลี[206]
25 เมษายน 2016 ซีนาเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ของตนเองว่ามีกำหนดการจะกลับคืนสู่สังเวียน WWE ในรายการรอว์ 30 พฤษภาคม (วันทหารผ่านศึก)[207] ในรอว์ 30 พฤษภาคม ซีนาได้ออกมาทักทายแฟนๆ ก่อนที่เอเจ สไตส์ออกมาเพื่อกล่าวต้อนรับซีนา แกลโลส์และแอนเดอร์สันออกมาจะหาเรื่อง แต่ซีนาก็ถูกเอเจหักหลัง[208] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2016)ซีนาได้มีแมตช์กับเอเจ ผลปรากฏว่าเดอะคลับออกมาเล่นงานซีนาจนแพ้[209][210] ในสแมคดาวน์ 19 กรกฎาคม ซีนาได้ถูกดราฟท์ไปอยู่สแมคดาวน์จากการเลือกของเชน แม็กแมน[211] ในแบทเทิลกราวด์ (2016) ซีนาได้ร่วมทีมกับเอ็นโซและแคสเจอกับเดอะคลับ ในแมตช์แทกทีม 6 คน[212] และเป็นทีมซีนาที่ชนะหลังจากซีนาจับเอเจใส่ AA บนเทิร์นบักเคิลและกดนับ3[213] ในสแมคดาวน์ 2 สิงหาคม ซีนาและเอเจได้ประกาศท้าเจอกันอีกครั้งในซัมเมอร์สแลม (2016) โดยซีนาแพ้ให้เอเจ หลังแมตช์ซีนาถอดปลอกแขน Never Give Up ออก แล้ววางทิ้งไว้บนเวทีก่อนจะเดินกลับไป[214][215][216] หลังจากเอเจได้แชมป์ WWE จากดีน แอมโบรสในแบ็กแลช (2016) 2 วันต่อมาในสแมคดาวน์ 13 กันยายน ซีนาได้ออกมาขอท้าชิงแชมป์กับเอเจและแอมโบรสในแมตช์สามเส้าในโนเมอร์ซี (2016) แต่ไม่สามารถคว้าแชมป์สมัยที่16มาได้[217] ในสแมคดาวน์ส่งท้ายปี 27 ธันวาคม ซีนาได้กลับมาและประกาศท้าชิงแชมป์ WWE กับผู้ชนะในแมตช์ชิงแชมป์คืนนั้น โดยเป็นเอเจ สไตส์ที่ป้องกันแชมป์ไว้ได้ ทำให้ซีนาได้ชิงแชมป์กับเอเจ[218] ในรอยัลรัมเบิล (2017) ซีนาสามารถคว้าแชมป์จากเอเจได้เป็นสมัยที่16 ทำให้สถิติแชมป์โลกเทียบเท่าของริก แฟลร์[219] ก่อนเสียแชมป์ให้เบรย์ ไวแอ็ตต์ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2017)หลังจากครองได้แค่ 2 สัปดาห์[220][221] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 33ได้จับคู่กับแฟนสาวของเขา นิกกี เบลลาเอาชนะเดอะมิซและมารีสไปได้ หลังแมตช์ซีนาได้ขอนิกกีแต่งงาน[222]
ฟรีเอเย่นต์
[แก้]
ซีนากลับมาในสแมคดาวน์ 4 กรกฎาคม 2017 ออกมาเปิดรายการเนื่องในวันประกาศเอกราชของอเมริกา และก็พูดยกย่องประเทศสหรัฐฯ รูเซฟก็ออกมาด่าซีนาและคนอเมริกัน ซีนาเลยท้าให้มาเจอกัน แต่รูเซฟบอกว่าเอาไว้วันหลัง เขาจะเป็นคนเลือกวันเวลาเอง ก่อนจะมีการประกาศเจอกันแบบ Flag match ในแบทเทิลกราวด์ (2017)โดยซีนาชนะไปได้[223][224] ในสแมคดาวน์ 8 สิงหาคม 2017 ซีนาออกมาที่เวทีเพื่อยอมรับความพ่ายแพ้ต่อชินซูเกะ นากามูระเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่แบรอน คอร์บินออกมาขัดจังหวะ ทำให้ซีนาท้าคอร์บินให้มาเจอกัน คอร์บินไม่เอาด้วยและจะเดินกลับ แต่ GM แดเนียล ไบรอันออกมาสั่งให้ทั้งสองคนเจอกันในซัมเมอร์สแลม (2017)โดยซีนาชนะไปได้[225] คืนต่อมาซีนาได้ย้ายมาอยู่รอว์ในฐานะฟรีเอเย่นต์ ในโนเมอร์ซี (2017)ได้รับความพ่ายแพ้ต่อพระเอกยุคใหม่อย่างโรแมน เรนส์[226] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2017)ซีนาได้ร่วมทีมสแมคดาวน์แพ้ทีมรอว์[227]
ซีนาได้ร่วมรอยัลรัมเบิล (2018)เป็นคนที่20แต่ไม่ชนะ[228] ในรอว์คืนต่อมาชนะฟิน บาเลอร์ได้สิทธิ์เข้าร่วมอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2018)เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์ยูนิเวอร์แซล WWEกับบร็อก เลสเนอร์ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 34แต่ไม่ชนะ[229] คืนถัดมาในรอว์ซีนาออกมาพูดถึงเรื่องที่เขาไม่มีแมตช์ปล้ำในเรสเซิลเมเนีย ดังนั้นเขาจึงอยากจะท้าเจอกับดิอันเดอร์เทเกอร์แต่ WWE ก็ไม่ยอมจัดให้ คือถัดมาในสแมคดาวน์ ซีนาได้ชนะแชมป์ WWE เอเจ สไตส์ แบบนอกรอบ ทำให้ได้สิทธิ์ร่วมชิงแชมป์ WWE 6 เส้าในฟาสต์เลน (2018)แต่ก็ไม่ได้แชมป์[230] หลังจากนั้นซีนาได้ขอท้าเจออันเดอร์เทเกอร์ที่เรสเซิลเมเนีย 34 แต่เทเกอร์ก็ยังไม่ตอบรับคำท้าสักที จนในเรสเซิลเมเนียเทเกอร์ได้ปรากฏตัวออกมารับคำท้าในการขึ้นปล้ำกับซีนาและเทเกอร์ก็เอาชนะไปได้ในเวลาไม่ถึง 5 นาที[231] ซีนาได้ร่วมปล้ำในเกรเทสต์ รอยัลรัมเบิลที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยเอาชนะทริปเปิลเอชไปได้และเป็นการเจอกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกในรอบ 8 ปี[232] ในซูเปอร์โชว์-ดาวน์ซีนาได้ร่วมปล้ำจับคู่กับบ็อบบี แลชลีย์เอาชนะเควิน โอเวนส์และอีไลแอสไปได้[233]
ในปี 2019 ซีนาได้ประกาศจะเข้าร่วมรอยัลรัมเบิลแต่ก็ได้รับบาดเจ็บทำให้ไม่สามารร่วมปล้ำได้[234][235] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 35 ซีนาได้กลับมาใช้กิมมิคเด็กแร็ป Doctor of Thuganomics โดยออกมาขัดขวางคอนเสิร์ตของอีไลแอสและจับใส่ FU ชื่อท่าไม้ตายเดิม[236] และยังได้ปรากฏตัวในรอว์รียูเนียนวันที่ 22 กรกฎาคม 2019[237] หลายเดือนต่อมาซีนาได้ปรากฏในสแมคดาวน์วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2020 เพื่อมาประกาศว่าเขาจะไม่เข้าร่วมในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 36 ก่อนที่ "The Fiend" Bray Wyatt จะออกมาท้าเจอซีนาในเรสเซิลเมเนีย โดยซีนารับคำท้า ซึ่งยังเป็นการรีแมตช์จากเรสเซิลเมเนีย 30 ในปี 2014[238] ต่อมาเบรย์ได้ประกาศเพิ่มกติกาเป็น Firefly Fun House match ซึ่งซีนาแพ้ไป[239]
ในเดือนกรกฎาคม 2021 ซีนาได้เซอร์ไพรส์ปรากฏตัวในศึกมันนีอินเดอะแบงก์หลังจากที่แชมป์ยูนิเวอร์แซล WWE โรแมน เรนส์ ป้องกันแชมป์ได้จากเอดจ์[240] โดยซีนาท้าทายเรนส์เพื่อชิงแชมป์ในศึกซัมเมอร์สแลมเดือนถัดมาแต่ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้[241] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 39 ได้ท้าชิงแชมป์ยูเอสกับออสติน เธียรี แต่ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้[242] ใน Crown Jewel 2023 แพ้ให้กับสมาชิกเดอะบลัดไลน์อย่างโซโล ซิโกอา[243] วันที่ 7 เมษายน 2024 ในแมตช์คู่เอก WrestleMania XL คืนที่ 2 ระหว่างโรแมน เรนส์และโคดี โรดส์นั้น ซีนาได้ออกมาช่วยโคดีจัดการกับโซโลและเรนส์ด้วยท่า Attitude Adjustment ก่อนจะถูกเดอะร็อกจับใส่ Rock Bottom[244]
ทัวร์อำลาสังเวียน
[แก้]
ซีนาปรากฏตัวแบบเซอร์ไพรส์ใน Money in the Bank เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2024 เพื่อประกาศอำลาสังเวียนในอนาคต เขาประกาศว่า WrestleMania 41 จะเป็นศึก WrestleMania ครั้งสุดท้ายของเขา แต่เขาจะยังคงปล้ำต่อไปจนถึงสิ้นปี 2025[245] ในระหว่างรอบปฐมทัศน์ของ Raw บน Netflix เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2025 ซีนาประกาศว่าเขาจะเข้าร่วมแข่งขันแมตช์ Royal Rumble ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งเขาปราบคู่แข่งได้ 3 คน และจบลงที่เป็นรองแชมป์โดยถูกผู้ชนะอย่าง Jey Uso ผลักออกจากเวทีเป็นคนสุดท้าย[246][247] ในศึกอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์: โตรอนโต เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ซีนาชนะการแข่งขันอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ และกลายเป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ Undisputed WWE ในศึกเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 41 หลังจบแมตช์ ซีนาได้เข้าข้างเดอะร็อกและโจมตีแชมป์ Undisputed WWE อย่างโคดี โรดส์ อย่างรุนแรงจนกลายเป็นฝ่ายอธรรมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003[248] ในเรสเซิลเมเนีย 41 ซีนสามารถเอาชนะโคดี โรดส์และคว้าแชมป์โลก WWE เป็นสมัยที่ 17 ทำลายสถิติ 16 สมัยของริก แฟร์ได้สำเร็จ[249] ในแบ็กแลชซีนาสามารถป้องกันแชมป์กับออร์ตันไปได้ในการเจอกันตัวต่อตัวครั้งสุดท้าย[250][251] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ที่ซาอุสามารถป้องกันแชมป์กับซีเอ็มพังก์ไว้ได้[252]
ในซัมเมอร์สแลมซีนาเสียแชมป์คืนให้โคดีและกลับมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง ก่อนจะถูกบร็อก เลสเนอร์ที่รีเทิร์นออกมาเล่นงานด้วย F-5 หลังแมตช์[253] และแมตช์นี้ยังได้ 5 ดาวจากเดฟ เมลท์เซอร์[254] ใน Clash in Paris เอาชนะโลแกน พอลไปได้[255] ใน Wrestlepalooza พ่ายแพ้ต่อเลสเนอร์ไปอย่างง่ายดาย[256] ใน Crown Jewel เอาชนะเอเจ สไตลส์ไปได้อย่างสุดมันส์และเป็นชัยชนะแมตช์ที่ 100 ของซีนาในการปล้ำศึกใหญ่ของ WWE[257][258][259] เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ในรายการ Saturday Night's Main Event มีการประกาศว่า คู่ต่อสู้คนสุดท้ายของซีนาในรายการ Saturday Night's Main Event ตอนถัดไป วันที่ 13 ธันวาคม จะถูกตัดสินจากการแข่งขันชื่อว่า “Last Time Is Now Tournament” ซึ่งจะเริ่มขึ้นในตอนของ Raw วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ใกล้บ้านเกิดของซีนา[260] ในตอนนั้นของ Raw ซีนาได้เอาชนะดอมินิก มิสเตริโอ คว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลมาครองเป็นครั้งแรกในอาชีพ ส่งผลให้เขากลายเป็นทั้งแชมป์ทริปเปิลคราวน์และแชมป์แกรนด์สแลมอย่างสมบูรณ์[261]
อาชีพนักแสดง
[แก้]ภาพยนตร์
[แก้]WWE Studios ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ WWE ที่ผลิตและจัดหาทุนสร้างภาพยนตร์ ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องแรกของจอห์น ซีนา คือเรื่อง The Marine โดยจัดจำหน่ายโดย 20th Century Fox America และออกฉายครั้งแรกในวันที่ 13 ตุลาคม 2006 ในสัปดาห์แรก หนังทำรายได้ประมาณ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบ็อกซ์ออฟฟิศของสหรัฐฯ[262] และหลังจากฉายครบ 10 สัปดาห์ ทำรายได้รวม 18.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[262] เมื่อภาพยนตร์วางจำหน่ายในรูปแบบ DVD กลับประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม โดยทำรายได้จากการเช่า 30 ล้านดอลลาร์ ภายใน 12 สัปดาห์แรก[262]
ภาพยนตร์เรื่องที่สองของซีนา ซึ่งยังคงสร้างโดย WWE Studios และจัดจำหน่ายโดย 20th Century Fox เช่นเดิม คือเรื่อง 12 Rounds[263] เริ่มถ่ายทำเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2008 ที่เมืองนิวออร์ลีนส์[263][264] และออกฉายในวันที่ 27 มีนาคม 2009[265]
ซีนายังร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องที่สามของ WWE Studios ชื่อว่า Legendary ซึ่งเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บางแห่งแบบจำกัดตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2010[266][267] และออกวางจำหน่ายในรูปแบบ DVD วันที่ 28 กันยายนปีเดียวกัน[268] ในปีเดียวกันนั้น ซีนายังแสดงในภาพยนตร์สำหรับเด็กเรื่อง Fred: The Movie ซึ่งสร้างจากวิดีโอใน YouTube ของ Lucas Cruikshank โดยซีนารับบทเป็น พ่อในจินตนาการของ Fred[269] ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง Nickelodeon ในเดือนกันยายน 2010[270]
ในปี 2015 ซีนาได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ตลกหลายเรื่อง ได้แก่ Trainwreck, Sisters และมีบทรับเชิญในเรื่อง Daddy’s Home[271][272][273] ปี 2017 เขาแสดงนำในภาพยนตร์สงครามดราม่าเรื่อง The Wall[274] และพากย์เสียงในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Surf’s Up 2: WaveMania และ Ferdinand[275][276] ในปีเดียวกันเขากลับมารับบทเดิมอีกครั้งใน Daddy’s Home 2 โดยมีบทบาทมากกว่าภาคแรก[277] ปี 2018 ซีนาแสดงนำในภาพยนตร์ตลกเรื่อง Blockers และรับบทนำในภาพยนตร์พรีเควลภาคแยกของ Transformers เรื่อง Bumblebee[278][279] ปี 2019 เขาแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Playing with Fire รับบทเป็นหัวหน้าหน่วยดับเพลิงทางอากาศชื่อ Jake Carson[280] ปี 2020 เขาให้เสียงพากย์เป็น Yoshi หมีขั้วโลก ในภาพยนตร์ผจญภัยตลกเรื่อง Dolittle[281]
ในปี 2019 ซีนาได้รับบทเป็น Jakob Toretto น้องชายของตัวละคร Dominic Toretto (รับบทโดย Vin Diesel) ในภาพยนตร์ของผู้กำกับ Justin Lin เรื่อง F9[282] ระหว่างการโปรโมตภาพยนตร์ในปี 2021 ซีนาได้กล่าวถึง ไต้หวันว่าเป็นประเทศ ซึ่งทำให้เกิดกระแสในจีน เนื่องจากจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน หลังจากนั้นซีนาได้ออกมาโพสต์ขอโทษผ่านโซเชียลมีเดีย[283]
ซีนายังได้รับบทเป็น Christopher Smith / Peacemaker ในภาพยนตร์ของ James Gunn เรื่อง The Suicide Squad ซึ่งเดิมทีบทนี้ตั้งใจให้ Dave Bautista แสดง[284] ต่อมาในปี 2023 เขากลับมารับบท Jakob Toretto อีกครั้งในภาพยนตร์ Fast X ซึ่งเข้าฉายวันที่ 19 พฤษภาคม[285] และในปีเดียวกัน เขาได้พากย์เสียงเป็น Rocksteady ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Teenage Mutant Ninja Turtles: Mutant Mayhem ซึ่งออกฉายในวันที่ 2 สิงหาคม[286]
การปรากฏตัวในฐานะแขกรับเชิญ
[แก้]ก่อนเปิดตัวใน WWE ซีนาได้ปรากฏตัวในเว็บแคสต์ชื่อ Go Sick ในปี 2001 ในบท “Bruebaker” นักมวยปล้ำจอมโกรธที่ชอบสบถ ระหว่างอาชีพใน WWE ซีนาเคยไปออกรายการ Jimmy Kimmel Live! ทางช่อง ABC ถึงสามครั้ง[287]
เขายังเคยไปออกรายการวิทยุตอนเช้า เช่น Opie and Anthony ทั้งเวอร์ชันของ CBS และ XM ในช่วง “walkover” เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2006[288] การปรากฏตัวอื่น ๆ รวมถึง รายการ Late Night with Conan O’Brien ทางช่อง NBC[289] รายการ Celebrity Playlist ทางช่อง Fuse[288] รายการ The Best Damn Sports Show Period ทางช่อง Fox Sports Net[288] รายการตลก MADtv ทางช่อง FOX[290] รายการ Training Camp ทางช่อง G4 (ร่วมกับ Shelton Benjamin)[291] และสองครั้งในรายการ MTV’s Punk’d (เดือนสิงหาคม 2006 และพฤษภาคม 2007) ซึ่งเขาเป็น “เหยื่อ” ของการเล่นตลก[292][293] นอกจากนี้ เขายังเคยเป็นพิธีกรร่วมกับ Hulk Hogan ในงานประกาศรางวัล Teen Choice Awards ปี 2005, เป็นกรรมการรับเชิญในสัปดาห์ที่สามของรายการ Nashville Star ฤดูกาล 2006[294], และไปปรากฏตัวในงาน Nickelodeon UK Kids Choice Awards ปี 2007 อีกด้วย[295]
ในเดือนมกราคม ปี 2007 จอห์น ซีนา, บาติสตา และ แอชลีย์ มาซซาโร เป็นตัวแทน WWE ปรากฏตัวในรายการ Extreme Makeover: Home Edition โดยพวกเขามอบของที่ระลึกจาก WWE และบัตรชม WrestleMania 23 จำนวน 8 ใบให้กับลูก ๆ ของครอบครัวที่บ้านกำลังได้รับการปรับปรุงใหม่[296][297] สองเดือนต่อมา ซีนาและบ็อบบี แลชลีย์ได้ไปออกรายการเกมโชว์ Deal or No Deal ทางช่อง NBC เพื่อให้ “กำลังใจทางใจ” แก่แฟนมวยปล้ำตัวยงและผู้ชมแถวหน้าอย่าง Rick "Sign Guy" Achberger ขณะเดียวกัน Edge และ Randy Orton ก็ไปปรากฏตัวในฐานะ “ฝ่ายตรงข้าม”[298] วันที่ 9 เมษายน 2008 ซีนาพร้อมกับนักมวยปล้ำร่วมรุ่นอย่าง Triple H และ Chris Jericho ได้ร่วมรายการพิเศษเพื่อการกุศล Idol Gives Back[299] ในเดือนมีนาคม 2009 ซีนาได้ปรากฏตัวในรายการ Saturday Night Live ในช่วงเปิดรายการ (cold opening)[300] และในวันที่ 7 มีนาคม เขาได้เป็นแขกรับเชิญในรายการตอบคำถามของสถานี NPR ชื่อ Wait Wait... Don't Tell Me! ในช่วง “Not My Job” ตอนที่มีชื่อว่า “แน่นอน การเป็นนักมวยปล้ำก็ดีอยู่หรอก แต่เวลาเราชนะ เขาโยนตุ๊กตาหมีเข้ามาในเวทีรึเปล่า?”[301]
โทรทัศน์
[แก้]ในปี 2001 ระหว่างที่จอห์น ซีนา กำลังฝึกอยู่กับ Ultimate Pro Wrestling และ Ohio Valley Wrestling[26] เขาได้เข้าร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์ของช่อง UPN ที่ชื่อ Manhunt ซึ่งเขารับบทเป็น Big Tim Kingman หัวหน้ากลุ่มนักล่าค่าหัวที่ออกตามล่าผู้เข้าแข่งขันที่แสดงเป็นผู้หลบหนี อย่างไรก็ตาม รายการนี้มีประเด็นอื้อฉาวเมื่อมีการกล่าวหาว่าบางส่วนของรายการถูกจัดฉาก เช่น การกำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันบางคนต้องถูกคัดออก การถ่ายฉากใหม่เพื่อเพิ่มความดราม่า และให้ผู้เข้าแข่งขันอ่านบทพูดจากสคริปต์[302][303]
ซีนายังได้ปรากฏตัวในรายการเรียลลิตี้ของช่อง ABC ชื่อ Fast Cars and Superstars: The Gillette Young Guns Celebrity Race ซึ่งออกอากาศในเดือนมิถุนายน ปี 2007[304] โดยเขาเข้าสู่รอบสุดท้ายก่อนถูกคัดออกในวันที่ 24 มิถุนายน และได้อันดับที่ 3 โดยรวม[305]
ในปีเดียวกัน ซีนาได้ให้สัมภาษณ์ในสารคดีของหน่วยสืบสวนพิเศษของ CNN ชื่อ Death Grip: Inside Pro Wrestling ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องการใช้สเตียรอยด์และยาในวงการมวยปล้ำมืออาชีพ เมื่อถูกถามว่าเขาเคยใช้สเตียรอยด์หรือไม่ ซีนาตอบว่า “ผมไม่สามารถบอกได้ว่าผมไม่เคยใช้ แต่คุณจะไม่มีวันพิสูจน์ได้ว่าผมเคยใช้”[306] วันรุ่งขึ้น WWE กล่าวหาว่า CNN ตัดต่อคำพูดของซีนาให้ดูมีอคติ โดยได้เผยแพร่วิดีโอที่ถ่ายจากมุมของ WWE เอง ซึ่งเผยให้เห็นว่าซีนาเริ่มคำตอบเดียวกันด้วยคำว่า “แน่นอนไม่เคย (absolutely not)”[307] ต่อมาในการสัมภาษณ์แบบข้อความบนเว็บไซต์ ซีนากล่าวว่า CNN ควรออกมาขอโทษที่บิดเบือนคำพูดของเขา[308] แต่ CNN ปฏิเสธ โดยอ้างว่าคำตอบที่แท้จริงเริ่มต้นตรงช่วง “คำตอบของผมต่อคำถามนั้นคือ...”[309] อย่างไรก็ตาม CNN ได้ตัดต่อเวอร์ชันใหม่ของสารคดีเพื่อใส่คำว่า “absolutely not” กลับเข้าไปในรอบออกอากาศถัดมา[309]
ซีนาเป็นพิธีกรร่วมกับ นาตาลี แบสซิงธ์เวต (Natalie Bassingthwaighte) ในงาน Australian Nickelodeon Kids’ Choice Awards เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2008 ที่เมืองเมลเบิร์น[310] เขายังรับบทเป็น Ewan O’Hara พี่ชายของ Juliet O’Hara ในตอนหนึ่งของซีซั่น 4 ของซีรีส์คอมเมดี้–ดราม่าเรื่อง Psych[311] และปรากฏตัวเป็นตัวเองในตอนที่ 7 ของซีรีส์ Hannah Montana Forever ทางช่อง Disney Channel[312] เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2015 ซีนาได้เป็นพิธีกรร่วมรายการ Today ทางช่อง NBC[313] และสามคืนต่อมาเขาปรากฏตัวในรายการ Late Night with Seth Meyers[314]
ซีนายังเป็นพิธีกรรายการเรียลลิตี้ American Grit ทางช่อง Fox จำนวนสองซีซั่น รายการนี้มีผู้เข้าแข่งขันชายหญิง 16 คน แบ่งออกเป็น 4 ทีม เพื่อแข่งขันในภารกิจต่าง ๆ โดยทีมที่ชนะจะได้รับรางวัลมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายการออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2016 และตอนจบซีซั่นแรกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน[315]
ต่อมาในปีเดียวกัน ซีนาเป็นพิธีกรงานประกาศรางวัล ESPY Awards ของ ESPN เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม[316] และในวันที่ 10 ธันวาคม เขาเป็นพิธีกรรับเชิญในรายการ Saturday Night Live ทางช่อง NBC[317]
วันที่ 24 มกราคม 2017 ช่อง Nickelodeon ประกาศว่าซีนาจะเป็นพิธีกรงาน Nickelodeon Kids’ Choice Awards 2017 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม[318] และในวันที่ 11 มกราคม 2018 มีการประกาศว่าเขาจะกลับมาเป็นพิธีกรอีกครั้งในวันที่ 24 มีนาคม ทำให้เขากลายเป็นคนที่ 3 ต่อจาก วิทนีย์ ฮูสตัน และ โรซี่ โอดอนเนลล์ ที่ได้เป็นพิธีกรติดต่อกันสองปี สองวันต่อมา รายการเกมโชว์ Keep It Spotless ซึ่งซีนาเป็นผู้อำนวยการสร้างเปิดตัวออกอากาศ นอกจากนี้เขายังให้เสียงพากย์ตัวร้ายชื่อ Baron Draxum ในอนิเมชั่น Rise of the Teenage Mutant Ninja Turtles[319][320] เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 มีการประกาศว่าซีนาจะเป็นพิธีกรในรายการรีไววัลของ Are You Smarter than a 5th Grader ซึ่งออกอากาศตอนแรกในวันที่ 10 มิถุนายน[321]
ในปี 2021 ซีนารับหน้าที่เป็นพิธีกรร่วมในเกมโชว์ Wipeout[322] และในเดือนมีนาคม 2024 เขาปรากฏตัวเกือบเปลือยบนเวทีงานประกาศรางวัล ออสการ์ครั้งที่ 96 เพื่อมอบรางวัลสาขา “ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม” โดยเป็นการล้อเหตุการณ์ที่มีคนเปลือยวิ่งขึ้นเวทีในพิธีเมื่อปี 1974[323]
อาชีพทางดนตรี
[แก้]จอห์น ซีนา | |
|---|---|
| แนวเพลง | ฮิปฮอป |
| ช่วงปี | 2004–2005, 2014, 2022 |
| ค่ายเพลง | Columbia, WWE |
นอกเหนือจากอาชีพนักมวยปล้ำแล้ว ซีนายังเป็นแร็ปเปอร์อีกด้วย เขาเป็นผู้ร้องเพลงธีมมวยปล้ำลำดับที่ห้าของตัวเองชื่อ “Basic Thuganomics” ซึ่งอยู่ในอัลบั้มเพลงประกอบของ WWE ชื่อ WWE Originals เขายังได้บันทึกเพลง “Untouchables” สำหรับอัลบั้มเพลงประกอบถัดไปของ WWE คือ WWE ThemeAddict: The Music, Vol. 6 และได้ร่วมฟีเจอริ่งในรีมิกซ์ของเพลง “H-U-S-T-L-E” ของแร็ปเปอร์ Murs โดยปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอของเพลงนั้นด้วย[324]
อัลบั้มเปิดตัวของซีนาชื่อ You Can't See Me บันทึกร่วมกับลูกพี่ลูกน้องของเขา Tha Trademarc ภายในอัลบั้มมีเพลงดังอย่างเพลงเปิดตัว “The Time is Now” และซิงเกิล “Bad, Bad Man” ที่ทำร่วมกับ Bumpy Knuckles โดยมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้เป็นการล้อเลียนวัฒนธรรมยุค 1980s โดยเฉพาะซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง The A-Team นอกจากนี้ยังมีมิวสิกวิดีโอเพลง “Right Now” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในรายการ WWE Monday Night Raw เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2005[325] ต่อมาซีนาและ Tha Trademarc ยังได้ไปร่วมร้องในเพลงของกลุ่ม The Perceptionists ชื่อ “Champion Scratch” และซีนายังมีส่วนร่วมในอัลบั้มที่เลื่อนออกของนักร้อง T-Boz ชื่อ Still Cool อีกด้วย[326]
ในเดือนตุลาคม ปี 2014 ซีนาได้ร่วมงานกับแร็ปเปอร์ Wiz Khalifa ในสองเพลงคือ “All Day” และ “Breaks” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซาวด์แทร็กเกม WWE 2K15[327]
ซีนายังเป็นนักเปียโนที่สอนตัวเอง โดยเริ่มเรียนตั้งแต่ปี 2016[328] และในปี 2022 เขาได้แสดงเพลงเปียโน “Home Sweet Home” ของวง Mötley Crüe สำหรับซาวด์แทร็กซีรีส์ Peacemaker โดยเขาเล่นเพลงนี้ในฉากสุดท้ายของตอน “Murn After Reading” ในบทของตัวละคร Peacemaker[328]
ผลงานเพลง
[แก้]Studio albums
- You Can't See Me (2005)
Soundtrack albums
- Peacemaker (2022)
ชีวิตส่วนตัว
[แก้]ซีนาอาศัยอยู่ที่เมืองแลนด์โอเลกส์ รัฐฟลอริดา[329] เขาเคยกล่าวหลายครั้งว่าไม่ต้องการมีบุตร เพราะไม่อยากเป็นพ่อที่ละเลยครอบครัวเนื่องจากทุ่มเทให้กับอาชีพการงาน[330]
ระหว่างโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง 12 Rounds ในปี 2009 ซีนาได้ประกาศหมั้นกับเอลิซาเบธ ฮิวเบอร์เดา[331][332] ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2009 ต่อมาซีนายื่นฟ้องหย่าเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2012[333] และการหย่าร้างเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมปีเดียวกัน[334] หลังจากนั้นไม่นาน เขาเริ่มคบหากับนักมวยปล้ำหญิง นิกกี เบลลา[335] ทั้งคู่หมั้นกันเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2017 หลังจากซีนาขอเธอแต่งงานที่ WrestleMania 33[222] แต่ได้ยุติความสัมพันธ์ในเดือนเมษายน 2018[335] ทั้งที่เดิมวางแผนจะแต่งงานกันในวันที่ 5 พฤษภาคม[336]
ซีนาเริ่มคบหากับวิศวกรชื่อ เชย์ ชาเรียตซาเดห์ ตั้งแต่ต้นปี 2019 และแต่งงานกันเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2020 ในพิธีส่วนตัวที่เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ทั้งคู่พบกันระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ Playing with Fire (2019) ซึ่งถ่ายทำที่เมืองแวนคูเวอร์ ขณะนั้นชาเรียตซาเดห์ทำงานอยู่ที่นั่น[337][338]
ซีนาเริ่มเรียนภาษาจีนกลางตั้งแต่ปี 2016 เพื่อช่วยให้ WWE ขยายฐานแฟนคลับในประเทศจีน และเขาได้พูดภาษาจีนกลางในงานแถลงข่าวที่ประเทศจีนด้วย[339]
ในเดือนธันวาคม 2017 บริษัทฟอร์ดยื่นฟ้องซีนาในข้อหาผิดสัญญา หลังจากเขาขายรถ Ford GT 2017 ที่เพิ่งซื้อไปเพื่อทำกำไร ทั้งที่ในสัญญาระบุว่าต้องครอบครองไว้อย่างน้อยสองปี ก่อนจะขายได้[340] ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2018 โดยรายละเอียดส่วนใหญ่ไม่เปิดเผย แต่มีรายงานว่าซีนาได้ขอโทษฟอร์ด และฟอร์ดก็บริจาคเงินที่ได้จากการตกลงครั้งนั้นให้กับการกุศล[341]
ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน 2018 ซีนาอาศัยอยู่ที่เมืองหยินชวน ประเทศจีน เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ Hidden Strike ร่วมกับเฉินหลง ระหว่างนั้นเขายังสร้างรายการบนช่อง YouTube ของ WWE ที่นำเสนอการเดินทางของเขาไปยังตลาดและร้านค้าท้องถิ่นในจีนอีกด้วย[342]
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2025 ซีนาเปิดเผยว่าเขาเคยป่วยเป็นมะเร็งผิวหนัง[343]
รางวัลและการเสนอชื่อเข้าชิง
[แก้]| ปี | รางวัล | หมวดหมู่ | ผลงานที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง | ผล | อ้างอิง |
|---|---|---|---|---|---|
| 2017 | CinemaCon | Action Star of the Year | — | ชนะ | |
| 2017 | Teen Choice Awards | Choice Male Athlete | — | เสนอชื่อเข้าชิง | |
| 2018 | People's Choice Awards | The Comedy Movie Star of 2018 | Blockers | เสนอชื่อเข้าชิง | |
| 2019 | Teen Choice Awards | Choice Action Movie Actor | Bumblebee | เสนอชื่อเข้าชิง | |
| 2020 | Nickelodeon Kids' Choice Awards | Favorite TV Host | Are You Smarter than a 5th Grader? | เสนอชื่อเข้าชิง | |
| 2022 | Critics' Choice Super Awards | Best Actor in a Superhero Movie | The Suicide Squad | เสนอชื่อเข้าชิง | [344] |
| 2022 | Nickelodeon Kids' Choice Awards | Favorite Movie Actor | F9 | เสนอชื่อเข้าชิง | [345] |
| 2022 | MTV Movie & TV Awards | Best Comedic Performance | Peacemaker | เสนอชื่อเข้าชิง | [346] |
| 2022 | Hollywood Critics Association TV Awards | Best Actor in a Streaming Series, Comedy | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
| 2023 | Critics' Choice Super Awards | Best Actor in a Superhero Series | เสนอชื่อเข้าชิง | [347] |
ผลงานแชมป์และรางวัลความสำเร็จต่างๆ
[แก้]มวยปล้ำอาชีพ
[แก้]- The Baltimore Sun
- Ohio Valley Wrestling
- Guinness World Records
- Longest WWE face run before turning heel (7,786 days)[353]
- Pro Wrestling Illustrated
- Feud of the Year (2006) vs. Edge[354]
- Feud of the Year (2011) vs. CM Punk[355]
- Match of the Year (2007) vs. Shawn Michaels on Raw[356]
- Match of the Year (2011) vs. CM Punk at Money in the Bank[357]
- Match of the Year (2013) vs. Daniel Bryan at SummerSlam[358]
- Match of the Year (2014) vs. Bray Wyatt in a Last Man Standing match at Payback[359]
- Match of the Year (2016) vs. AJ Styles at SummerSlam[360]
- Most Improved Wrestler of the Year (2003)[361]
- Most Popular Wrestler of the Decade (2000–2009)[362]
- Most Popular Wrestler of the Year (2004, 2005, 2007, 2012)[363]
- Wrestler of the Year (2006, 2007)[364]
- Ranked No. 1 of the top 500 singles wrestlers in the PWI 500 in 2006, 2007 and 2013[365][366][367]
- Rolling Stone
- Best Promos (2015) tied with Kevin Owens[368]
- Best Storyline (2015) vs. Kevin Owens[369]
- WWE Match of the Year (2015) vs. Kevin Owens at Money in the Bank[369]
- Sports Illustrated
- Muhammad Ali Legacy Award (2018)[370]
- Ranked No. 4 of the top 10 wrestlers in 2017[371]
- Ranked No. 4 of the 20 Greatest WWE Wrestlers Of All Time[10]
- Ultimate Pro Wrestling
- UPW Heavyweight Championship (1 time)[372]
- World Wrestling Entertainment / WWE
- WWE Championship[a][b] (14 times)
- World Heavyweight Championship (3 times)[373]
- WWE Intercontinental Championship (1 time)[261]
- WWE United States Championship (5 times)
- WWE Tag Team Championship (2 times) – with The Miz (1) and David Otunga (1)
- World Tag Team Championship (2 times) – with Batista (1) and Shawn Michaels (1)
- Money in the Bank (2012)
- Royal Rumble (2008, 2013)
- WWE Championship No. 1 Contender's Tournament (2003, 2005)
- Slammy Award (11 times)[374]
- Game Changer of the Year (2011) – with The Rock[375]
- Hero in All of Us (2015)[376]
- Holy $#!+ Move of the Year (2010) – sending Batista through the stage with an Attitude Adjustment off the top of a car (occurred at Over the Limit, accepted by Wade Barrett on Cena's behalf) [92]
- Insult of the Year (2012) – "You're the exact opposite. One enjoys eating a lot of nuts and the other is still trying to find his" (to Dolph Ziggler and Vickie Guerrero)[377]
- Kiss of the Year (2012) – with AJ Lee[377]
- Match of the Year (2013, 2014) – vs. The Rock for the WWE Championship at WrestleMania 29, Team Cena vs. Team Authority at Survivor Series[378][379]
- Superstar of the Year (2009, 2010, 2012)
- OMG Moment of the Year (2025) – turning on Cody Rhodes at Elimination Chamber: Toronto[380]
- 35th Triple Crown Champion
- 18th Grand Slam Champion (under current format; 25th overall)
- Wrestling Observer Newsletter
- Best Box Office Draw (2007)[381]
- Best Gimmick (2003)[381]
- Best on Interviews (2007)[381]
- Feud of the Year (2011) vs. CM Punk[382]
- Match of the Year (2011) vs. CM Punk at Money in the Bank on July 17[382]
- Most Charismatic (2006–2010)[381]
- Most Charismatic of the Decade (2000–2009)[383]
- Wrestler of the Year (2007, 2010)[381]
- Worst Feud of the Year (2012) vs. Kane[384]
- Worst Worked Match of the Year (2012) vs. John Laurinaitis at Over the Limit[384]
- Worst Worked Match of the Year (2014) vs. Bray Wyatt at Extreme Rules[385]
- Wrestling Observer Newsletter Hall of Fame (Class of 2012)[386]
รางวัลและเกียรตินิยมอื่นๆ
[แก้]- NCAA Division III All-American[26]
- Springfield College Athletic Hall of Fame inductee (Class of 2015)[387]
- Make-A-Wish Foundation Chris Greicius Celebrity Award[388]
- Make-A-Wish Foundation Special Recognition Award (for being the first to grant 300 wishes)[389]
- Guinness World Records - Most wishes granted through the Make-A-Wish Foundation (650+)[14]
- 2014 Sports Social TV Entertainer of the Year[390]
- 2014 Rumble Royalty Hall of Game Award
- 2014 Susan G. Komen Race for the Cure Grand Marshal[391]
- 2016 USO Legacy of Achievement Award[392]
- 2024 NCAA Silver Anniversary Award[393]
เกร็ดความรู้และสถิติต่างๆ
[แก้]- ได้แชมป์โลกทั้งหมด 17 สมัย (แชมป์ WWE 14 สมัย และแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สมัย) ทำลายสถิติแชมป์โลก 16 สมัยของริก แฟลร์
- เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่คว้าแชมป์ WWE ได้มากกว่า 10 สมัย
- ได้แชมป์ยูเอสครั้งแรกในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ชนะ บิ๊กโชว์
- ได้แชมป์ WWE ครั้งแรกในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 ชนะ เจบีแอล
- ได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ครั้งแรกในเซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2008) ชนะ คริส เจริโค
- เคยได้แชมป์แท็กทีมร่วมกับ ชอว์น ไมเคิลส์, บาทิสตา และเดอะมิซ ทั้งที่เป็นคู่กรณีกัน
- เป็นผู้ชนะรอยัลรัมเบิลถึง 2 ครั้งในปี 2008 และ 2013
- เป็นคนแรกที่ใช้กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์และไม่ได้แชมป์
- ดัดแปลงเข็มขัดแชมป์ WWE แบบหมุนได้ ทำให้เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดในรอบ 5 ปี
- เปิดตัวในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ใช้งบประมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 100,000 ดอลลาร์
- ซีนา และ เรย์ มิสเตริโอ คือสองคนที่แฟนๆ ต้องการลายเซ็นมากที่สุด
- เป็นนักมวยปล้ำคนเดียวที่เพลงเปิดตัวมีผู้โหลดในไอทูนส์สูงสุดอันดับที่ 1 โดยครองถึง 2 สัปดาห์
- เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่ชนะ อูมากา, เบรย์ ไวแอ็ตต์, รูเซฟ, เควิน โอเวนส์
- สามารถยกนักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่าเขาได้ทุกคน เช่น บิ๊กโชว์, มาร์ก เฮนรี เป็นต้น
- ปล้ำเป็นคู่เอกปิดเรสเซิลเมเนียมาแล้ว 6 ครั้ง (ครั้งที่ 22, 23, 27, 28, 29, 41)
- เคยชนะผู้ที่เคยก่อตั้งทีมเดียวกันในนามดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ ทั้งทริปเปิลเอช และชอว์น ไมเคิลส์มาแล้วในเรสเซิลเมเนีย
- เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 เป็นครั้งแรกที่ปล้ำโดยที่ไม่มีเข็มขัดเส้นใดเป็นเดิมพัน
- เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32 เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ร่วมปล้ำเพราะบาดเจ็บ
- เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 33 เป็นครั้งแรกที่ปล้ำแบบแท็กทีม
- ปล้ำไอควิต แมทช์มาแล้ว 5 ครั้ง และยังไม่เคยแพ้ใคร
- จัดจ์เมนท์เดย์ (2005) ชนะ เจบีแอล ชิงแชมป์ WWE
- เบรกกิ้งพอยท์ (2009) ชนะ แรนดี ออร์ตัน ชิงแชมป์ WWE
- โอเวอร์เดอะลิมิต (2010) ชนะ บาทิสตา ชิงแชมป์ WWE
- โอเวอร์เดอะลิมิต (2011) ชนะ เดอะมิซ ชิงแชมป์ WWE
- เพย์แบ็ก (2015) ชนะ รูเซฟ ชิงแชมป์ยูเอส
- ปล้ำไอเอิร์น แมน แมทช์ครั้งแรก ชนะ แรนดี ออร์ตัน 6-5 ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2009)
- ปล้ำมันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ครั้งแรกในปี 2012
- เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 41 เป็นเรสเซิลเมเนียครั้งสุดท้ายที่ขึ้นปล้ำก่อนรีไทร์
- การคว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลทำให้เขาคว้าแชมป์เดี่ยวเมเจอร์หลักทุกเส้นและกลายเป็นแชมป์แกรนด์สแลมและทริปเปิลคราวน์ของ WWE
- ใช้เวลาในการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเส้นแรกและเส้นสุดท้ายห่างกันนานที่สุดถึง 7911 วันหรือ 21 ปี (US 2004 — IC 2025)
- เป็นแชมป์แกรนด์สแลมที่อายุมากที่สุดทำได้ในตอนอายุ 48 ปี
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ Both the WWE Championship and the 2002–2013 version of the World Heavyweight Championship are recognized as world titles in WWE, making Cena a record-breaking 17-time world champion under the company’s banner.
- ↑ Known as the WWE World Heavyweight Championship during his 12th reign and as the Undisputed WWE Championship during his 14th reign.
อ้างอิง
[แก้]- 1 2 3 4 John Cena: My Life (DVD). World Wrestling Entertainment. 2007.
- 1 2 "John Cena's WWE History". UPW. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 30, 2007. สืบค้นเมื่อ July 4, 2007.
- ↑ br/"John Cena on Wrestlingdata.com". Wrestlingdata. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 31, 2019. สืบค้นเมื่อ April 1, 2018.
- 1 2 3 "WWE Profile - John Cena". ESPN. August 1, 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 12, 2022. สืบค้นเมื่อ June 12, 2022.
- 1 2 "UPW: John "Prototype" Cena". Ultimate Pro Wrestling. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 17, 2008. สืบค้นเมื่อ March 13, 2008.
- 1 2 3 4 "John Cena". Cagematch. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 11, 2020. สืบค้นเมื่อ June 25, 2020.
- ↑ "WWE Legend Who Trained John Cena and Randy Orton Owns Conor McGregor in One Line". Essentially Sports. May 4, 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 25, 2023. สืบค้นเมื่อ December 25, 2023.
- ↑ "Fast Cars & Superstars - Gillette Young Guns Celebrity Race Driver Bios". ABC Media Net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-06. สืบค้นเมื่อ 2007-06-11.
- ↑ "9 WWE Titles". WWE. สืบค้นเมื่อ September 18, 2011.
- 1 2 III, Sid Pullar (January 8, 2025). "20 Greatest WWE Wrestlers Of All Time". Sports Illustrated. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 23, 2025. สืบค้นเมื่อ May 7, 2025.
- ↑ Fowler, Matt (April 5, 2024). "The Top 25 Wrestlers of All Time". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 29, 2024. สืบค้นเมื่อ May 7, 2025.
- ↑ Lovine, Jamie (August 1, 2024). "The Top 50 Greatest WWE Wrestlers Of All Time". Complex. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 18, 2024. สืบค้นเมื่อ May 7, 2025.
- ↑ Erik, Beaston (April 4, 2024). "B/R Wrestling's Top 50 Greatest WWE Superstars of All Time Rankings". Bleacher Report. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2025. สืบค้นเมื่อ May 7, 2025.
- 1 2 Punt, Dominic (September 20, 2022). "John Cena breaks Make-A-Wish record after granting hundreds of wishes". Guinness World Records. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2022. สืบค้นเมื่อ October 24, 2022.
- 1 2 "John Cena bio". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. February 6, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 29, 2012. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007.
{{cite web}}: CS1 maint: unfit URL (ลิงก์) - 1 2 Albright, Bob (June 11, 2007). "Heavyweight homecoming: WWE champion John Cena reflects on road to stardom". The Daily News of Newburyport. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 19, 2011. สืบค้นเมื่อ September 9, 2010.
- ↑ "Edith Mildred Lupien | 1924 - 2015 | Obituary". Knight Funeral Home & Crematory. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 4, 2021. สืบค้นเมื่อ June 20, 2025.
- ↑ Warner, Kara (July 28, 2021). "John Cena Started Working Out at 13 Years Old Because He Was 'Tired of Getting Beaten Up'". People. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 12, 2022. สืบค้นเมื่อ June 4, 2025.
- ↑ Zeigler, Zack (June 26, 2006). "Inside WWE's New Magazine". WWE. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 23, 2008. สืบค้นเมื่อ June 20, 2025.
Who would have guessed John Cena was once a limo driver
- ↑ Rovell, Darren (January 25, 2017). "John Cena a champion in the ring and in the sports business world". ESPN.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2022. สืบค้นเมื่อ October 26, 2022.
- ↑ "1998 Football Roster". Springfield College. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-03. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007.
- ↑ "John Cena Bulldog Basketball Jersey". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-11. สืบค้นเมื่อ May 6, 2007.
- ↑ "John Cena Personalized Beware of Dog Football Jersey". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-25. สืบค้นเมื่อ January 3, 2008.
- ↑ Perkins, Brad (February 2001). "Training Ground". Wrestling Digest. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-24. สืบค้นเมื่อ July 17, 2008.
- ↑ "Inside WWE's New Magazine". WWE. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007.
Who would have guessed John Cena was once a limo driver
- 1 2 3 Sherman, Dale (July 10, 2002). "Whatever Happened to Manhunt's "Big Tim"?". Reality News Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2006. สืบค้นเมื่อ June 13, 2006.
- ↑ Kreikenbohm, Philip. "John Cena's matches in Ultimate Pro Wrestling". Cagematch.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2022. สืบค้นเมื่อ January 16, 2016.
- ↑ Hamilton, Ian. Wrestling's Sinking Ship (p.67)
- ↑ "SmackDown! results – June 27, 2002". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
- ↑ "SmackDown! results – October 10, 2002". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
- ↑ "SmackDown! results – March 6, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
- ↑ "SmackDown! results – March 13, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
- ↑ "SmackDown! results – March 20, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
- ↑ "Backlash 2003 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
- ↑ "SmackDown! results – November 13, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ July 6, 2007.
- ↑ "Survivor Series 2003 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ December 29, 2007.
- ↑ "WrestleMania XX results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
- ↑ "SmackDown! results – November 18, 2004". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
- ↑ "John Cena's Second Reign as US Champion". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-06-24. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
- ↑ "No Way Out 2005 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
- ↑ "Judgment Day 2005 results". Pro Wrestling history. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-07. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
- ↑ Evans, Ant. "Power Slam". What’s going down... SW Publishing LTD. p. 4. 132.
- ↑ "RAW results – August 22, 2005". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
- ↑ "2007 Wrestling Almanac & Book of Facts". Wrestling’s Historical Cards. Kappa Publishing. 2007. p. 119.
- ↑ Scaia, Rick. "RAW results – March 20, 2006". Online Onslaught. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-05. สืบค้นเมื่อ July 10, 2007.
For Cena's initial entrance, it's high pitched squeals, and the requisite 40–50% boos ... there were significant cheers for Trips, which is the REAL issue in play, here.
- ↑ "RAW results – April 2, 2006". Online Onslaught. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-05. สืบค้นเมื่อ July 10, 2007.
What [Cena] hears is the same thing he heard last night: 10,000 lustily booing the hell out of him, and maybe 5,000 frantically cheering to try to match that volume level.
- ↑ "RAW results – July 3, 2006". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 11, 2007.
- ↑ "RAW results – August 28, 2006". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 5, 2007.
- ↑ "Unforgiven 2006 results". Pro Wrestling History. สืบค้นเมื่อ May 11, 2007.
- ↑ "RAW results – September 18, 2006". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 5, 2007.
- ↑ "RAW results – November 27, 2006". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 5, 2007.
- ↑ "RAW results – January 1, 2007". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 11, 2007.
- ↑ McElvaney, Kevin (June 2007). "Pro Wrestling Illustrated, July 2007". WrestleMania 23. Kappa Publishing. pp. 74–101.
- ↑ "SummerSlam 2007 Results". WWE. August 26, 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-29. สืบค้นเมื่อ August 26, 2007.
- ↑ "WWE RAW Results – December 24, 2007". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ December 25, 2007.
- ↑ "Royal Rumble 2008 results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ January 29, 2008.
- ↑ "RAW results – January 28, 2008". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
- ↑ "No Way Out 2008 results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ February 19, 2008.
- ↑ "Raw results – February 18, 2008". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
- ↑ "WrestleMania XXIV results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
- ↑ Sitterson, Aubrey (August 5, 2008). "Championship scramble". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ August 5, 2008.
- ↑ Sitterson, Aubrey (August 11, 2008). "Bracing for a SummerSlam". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-16. สืบค้นเมื่อ August 12, 2008.
- ↑ Plummer, Dale; Nick Tylwalk (August 17, 2008). "SummerSlam comes close to 'blockbuster' status". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-19. สืบค้นเมื่อ August 12, 2009.
- ↑ "Cena out, vows to return". World Wrestling Entertainment. August 26, 2008. สืบค้นเมื่อ August 27, 2008.
- ↑ "John Cena: Post-surgery interview". World Wrestling Entertainment. August 26, 2008. สืบค้นเมื่อ August 27, 2008.
- ↑ Sitterson, Aubrey (November 23, 2008). "The Champ is back!". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-02. สืบค้นเมื่อ November 24, 2008.
- ↑ "World Heavyweight Champion John Cena def. Chris Jericho". World Wrestling Entertainment. December 14, 2008. สืบค้นเมื่อ June 5, 2012.
- ↑ "Edge wins World Heavyweight Title Elimination Chamber Match". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ June 5, 2012.
- ↑ Passero, Mitch (April 5, 2009). "Cena reclaims his gold". World Wrestling Entertainment. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-18. สืบค้นเมื่อ April 6, 2009.
- ↑ Passero, Mitch (April 26, 2009). "Fueled by hatred and desperation". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-28. สืบค้นเมื่อ April 26, 2009.
- ↑ Sitterson, Aubrey (May 17, 2009). "Results:Conservation of momentum leads to victory". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-28. สืบค้นเมื่อ May 17, 2009.
- ↑ Murphy, Ryan (June 7, 2009). "Results:Submission Accomplished". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-11. สืบค้นเมื่อ June 14, 2009.
- ↑ "WWE Champion Randy Orton def. Triple H & John Cena". World Wrestling Entertainment. July 26, 2009. สืบค้นเมื่อ October 21, 2011.
- ↑ "John Cena def. Randy Orton ("I Quit" Match - New WWE Champion)". World Wrestling Entertainment. September 13, 2009. สืบค้นเมื่อ June 5, 2012.
- ↑ Sokol, Chris; Sokol, Brian (October 7, 2009). "Title changes highlight Hell in a Cell". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-19. สืบค้นเมื่อ October 6, 2009.
- ↑ Tello, Craig (October 25, 2009). "One Hour, Anything Goes WWE Iron Man Match scorecard". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ October 21, 2011.
- ↑ Caldwell, James (December 13, 2009). "Caldwell's WWE TLC PPV Report 12/13: Complete PPV report on Cena vs. Sheamus, DX vs. JeriShow, Taker vs. Batista". PWTorch. สืบค้นเมื่อ December 14, 2009.
- ↑ Plummer, Dale; Nick Tylwalk (February 22, 2010). "Batista, Jericho and Michaels capitalize on Elimination Chamber opportunities". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-06. สืบค้นเมื่อ February 22, 2010.
- ↑ Adkins, Greg (February 22, 2010). "Taking the bull by the horns". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ March 29, 2010.
- ↑ Adkins, Greg (March 28, 2010). "Results:Cena uncorks the "Champ pain"". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-02. สืบค้นเมื่อ March 29, 2010.
- ↑ "WWE Champion John Cena def. Batista (Last Man Standing Match)". World Wrestling Entertainment. April 25, 2010. สืบค้นเมื่อ June 5, 2012.
- ↑ Bishop, Matt (May 23, 2010). "Batista quits to end disappointing Over The Limit". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-19. สืบค้นเมื่อ May 26, 2010.
- ↑ "CANOE – SLAM! Sports – Wrestling – RAW: Vote early, vote often; NXT takes over". Slam.canoe.ca. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-06. สืบค้นเมื่อ March 28, 2011.
- ↑ Adkins, Greg (July 18, 2010). "Results: Bank robbery". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ August 13, 2010.
- ↑ Adkins, Greg (August 15, 2010). "Results: The Seventh Sign". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ August 16, 2010.
- ↑ http://cdn46.castfire.com/audio/522/3398/25156/2025156/2025156_2013-12-23-195856-7770-0-0-0.64k.mp3?cdn_id=46&uuid=a3f843b4fffda2b7dea93b3b241641ae&referer=http%3A%2F%2Fpodcastone.com%2FTalk-Is-Jericho%5Bลิงก์เสีย%5D
- ↑ Hillhouse, Dave (October 4, 2010). "Hell in a Cell: Betrayal, fan interference, and flying shoes". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-03. สืบค้นเมื่อ October 4, 2010.
- ↑ Sokol, Bryan (October 25, 2010). "Cena central to Bragging Rights; Smackdown wins again". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-18. สืบค้นเมื่อ October 26, 2010.
- ↑ Wilkenfeld, Daniel (October 25, 2010). "Caldwell's WWE Raw results 10/25: Complete "virtual time" coverage of live Raw following Bragging Rights, Bryan vs. Ziggler". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ October 26, 2010.
- ↑ Plummer, Dale (November 22, 2010). "RAW: The Miz cashes in as Nexus costs Orton WWE title". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-29. สืบค้นเมื่อ November 23, 2010.
- ↑ Plummer, Dale; Tylwalk, Nick (November 22, 2010). "The fate of Cena is finally decided at so-so Survivor Series". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-19. สืบค้นเมื่อ November 22, 2010.
- 1 2 Plummer, Dale (December 13, 2010). "RAW: The Slammy Awards falls flat". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 10, 2015. สืบค้นเมื่อ December 20, 2010.
- ↑ Murphy, Ryan (December 19, 2010). "Unseating Barrett". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 19, 2011. สืบค้นเมื่อ December 19, 2010.
- ↑ Adkins, Greg (January 31, 2011). "It's good to be "King"". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ February 22, 2011.
- ↑ Adkins, Greg (February 21, 2011). "Intermitten reign". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-16. สืบค้นเมื่อ February 22, 2011.
- ↑ "Results:WWE Champion The Miz def. John Cena". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ April 5, 2011.
- ↑ "John Cena won a Triple Threat Steel Cage Match (New WWE Champion)". WWE. สืบค้นเมื่อ May 2, 2011.
- ↑ Wortman, James. "WWE: Homepage > TV Shows > WWE Over The Limit > WWE Over The Limit 2011 > WWE Champion John Cena vs. The Miz ("I Quit" Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ May 14, 2011.
- ↑ Wortman, James. "WWE Champion John Cena vs. R-Truth". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-10. สืบค้นเมื่อ June 9, 2011.
- ↑ "WWE Chairman Vince McMahon suspends CM Punk". World Wrestling Entertainment. June 28, 2011. สืบค้นเมื่อ June 28, 2011.
- ↑ James Wortman (July 4, 2011). "Raw results: Stars and gripes". WWE. สืบค้นเมื่อ July 5, 2011.
- ↑ Tello, Craig (July 17, 2011). "Homepage > TV Shows > Money in the Bank > Money in the Bank 2011 > CM Punk def. John Cena (New WWE Champion)". WWE. สืบค้นเมื่อ September 4, 2011.
- ↑ Rey Mysterio relinquishes belt on Raw (July 26, 2011). "Story:Title Glory for Cena". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ September 4, 2011.
- ↑ "John Cena vs. CM Punk – Undisputed WWE Championship Match". WWE. สืบค้นเมื่อ August 1, 2011.
- ↑ Murphy, Ryan. "John Cena def. Alberto Del Rio (New WWE Champion)". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-15. สืบค้นเมื่อ December 5, 2011.
- ↑ "WWE Championship Triple Threat Hell in a Cell Match". WWE. สืบค้นเมื่อ September 20, 2011.
- ↑ "WWE Championship Last Man Standing Match". WWE. สืบค้นเมื่อ October 11, 2011.
- ↑ "The Miz and R-Truth vs. John Cena and The Rock". WWE. สืบค้นเมื่อ October 31, 2011.
- ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 12/12: Complete "virtual-time" coverage of live three-hour Raw – Henry vs. Cena, Slammys, final TLC hype". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 20, 2011.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Mitch Passero (January 30, 2012). "John Cena vs. Kane (Double Count-Out)". WWE. สืบค้นเมื่อ January 30, 2012.
- ↑ Giannini, Alex (February 6, 2012). "John Cena vs. Kane (Ambulance Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ February 13, 2012.
- ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE WRESTLEMANIA 28 PPV REPORT 4/1: Ongoing "virtual time" coverage of live PPV – Rock-Cena, Taker-Hunter, Punk-Jericho". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ April 2, 2012.
- ↑ Drew, Ryan. "Brock Lesnar Returns to WWE and Attacks John Cena; A Fan's Reaction - Yahoo! Sports". Sports.yahoo.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-06. สืบค้นเมื่อ 2012-06-09.
- ↑ Tom Herrera (9.4.2012). "Raw Kick Off". WWE. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=(help) - ↑ Tom Herrera (23.4.2012). "Raw Results". WWE. สืบค้นเมื่อ April 24, 2012.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=(help) - ↑ Tom Herrera (9.4.2012). "Extreme Rules Main event". WWE. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=(help) - ↑ "Extreme Rules results". WWE. 30.4.2012. สืบค้นเมื่อ 24 April 2012.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=(help) - ↑ "John Cena injured against Brock Lesnar at Extreme Rules". WWE.com. 2012-04-01. สืบค้นเมื่อ 2012-06-09.
- ↑ "FCW Star Asks For Help, Cena Vs. Laurinaitis News, Extreme Reunion Attendance, Taker Shirt". WrestlingInc.com. 2012-05-04. สืบค้นเมื่อ 2012-06-09.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-06. สืบค้นเมื่อ 2012-05-23.
- ↑ May 21, 2012 (2012-05-21). "WWE Over the Limit Recap: John Laurinaitis Defeats John Cena In Main Event". Midwestsportsfans.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-06. สืบค้นเมื่อ 2012-06-09.
- ↑ http://www.wwe.com/shows/nowayout/2012/john-cena-big-show
- ↑ "WWE News: Big stipulation added to the John Cena vs. Big Show main event for No Way Out". Prowrestling.net. 2012-06-12. สืบค้นเมื่อ 2012-08-15.
- ↑ http://www.wwe.com/shows/nowayout/2012/no-way-out-2012-results
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 6/25: Ongoing "virtual-time" coverage of live Raw #995 - Cena vs. Jericho, MITB hype".
- ↑ http://www.wwe.com/shows/raw/2012-06-25/wwe-raw-results/page-5
- ↑ Money in the Bank Ladder Match for a WWE Championship Contract, WWE, สืบค้นเมื่อ 2012-06-25
- ↑ Styles, Joey (23 July 2012). "Was CM Punk justified?". WWE. สืบค้นเมื่อ 23 July 2012.
- ↑ Martin, Todd (23 July 2012). "Raw 1000th Episode Report". Wrestling Observer. สืบค้นเมื่อ 23 July 2012.
- ↑ Herrera, Tom (23 July 2012). "Raw 1,000 results: John Cena failed to win the WWE Title; The Rock floored by CM Punk". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-05. สืบค้นเมื่อ 23 July 2012.
- ↑ "Raw results: Raw General Manager AJ Lee gets the last laugh on WWE Champion CM Punk". WWE. สืบค้นเมื่อ 2012-07-30.
- ↑ "SummerSlam | Matches, Results, Videos, Photos, and More". WWE.com. สืบค้นเมื่อ 2012-12-09.
- ↑ "John Cena undergoes arm surgery?". WWE. 18 September 2012. สืบค้นเมื่อ 13 September 2012.
- ↑ "John Cena undergoes arm surgery?". WWE. 18 September 2012. สืบค้นเมื่อ 13 September 2012.
- ↑ Giannini, Alex (2012-10-16). "Did John Cena 'pass the torch' to Ryback on Raw?". WWE.com. สืบค้นเมื่อ 2012-12-09.
- ↑ "WWE Championship Triple Threat Match". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-09. สืบค้นเมื่อ 2012-11-05.
- ↑ Murphy, Ryan (November 19, 2012). "WWE Champion CM Punk def. John Cena and Ryback (Triple Threat Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ 2012-11-24.
- ↑ Styles, Irfan Nasir (2012-12-16). "WWE.com: Dolph Ziggler def. John Cena (Ladder Match for the World Heavyweight Championship Money in the Bank contract)". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2012-12-16.
Dolph Ziggler def. John Cena (Ladder Match for the World Heavyweight Championship Money in the Bank contract)
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 12/17".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 1/7".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 1/14".
- ↑ "Full list of Royal Rumble Match participants and eliminations". WWE. January 28, 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-30. สืบค้นเมื่อ January 28, 2012.
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 1/28".
- ↑ "WWE Raw Report CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 2/4".
- ↑ "CALDWELL'S WWE ELIMINATION CHAMBER PPV RESULTS 2/17".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 2/25".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 3/4".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 3/25".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 3/25".
- ↑ "CALDWELL'S WWE WRESTLEMANIA 29 PPV RESULTS".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 4/8".
- ↑ "RYBACK SAYS HE'S THE VILLAIN AGAINST CENA, CM PUNK NOT WORKING LIVE EVENTS & MORE".[ลิงก์เสีย]
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 4/29 (Hour 3)".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 5/13 (Hour 2)".
- ↑ "CALDWELL'S WWE EXTREME RULES PPV RESULTS 5/19 (Hour 3)".
- ↑ "CALDWELL'S WWE PAYBACK PPV RESULTS 6/16 (Hour 3)".
- ↑ Trionfo, Richard. "WWE RAW REPORT: TOO McMANY McMAHONS?; WHAT HAPPENS WHEN YOU ARE NO LONG A HEYMAN 'CLIENT'; MARK HENRY GIVES AN EMOTIONAL SPEECH; A SCARE FOR DANIEL BRYAN; IS STEPHANIE MCMAHON THE NEW KAREN JARRETT?; WHAT IF PEOPLE DON'T COME OUT DURING PROMO SEGMENTS, HOW WOULD WE GET MATCHES?; AND MORE". PWInsider. สืบค้นเมื่อ June 20.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ "CALDWELL'S WWE MITB PPV RESULTS 7/14 (Hour 3): Ongoing "virtual-time" coverage of live PPV - Cena vs. Henry, MITB All-Stars".
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2013-09-08.
- ↑ "CALDWELL'S WWE SSLAM PPV RESULTS 8/18 (Hour 3): Cena vs. Bryan WWE Title main event, did Orton cash in?".
- ↑ "RAW NEWS: Cena gone 4-6 months, Triple H explanation, WWE Title & World Title pictures, RVD, new tag team, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 20 August 2013.
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 10/7 (Hour 3): Cena's return announced, Triple H finally gets KO'ed, Shield vs. Team Bryan & Rhodes main event, Miz TV, more".
- ↑ "CALDWELL'S WWE HIAC PPV RESULTS (Hour 2): Cena returns in World Title match, Punk vs. Ryback HIAC match".
- ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 10/28 (Hour 1): Cena opens Raw, Sandow attempts MITB cash-in, Shield".
- ↑ "World Heavyweight Champion John Cena def. Alberto Del Rio".
- ↑ http://bleacherreport.com/articles/1864402-wwe-survivor-series-2013-wwe-is-smart-to-start-randy-orton-vs-john-cena-feud
- ↑ Clapp, John (2013-11-25). "World Heavyweight Champion John Cena vs. WWE Champion Randy Orton (Tables, Ladders & Chairs Match)". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2013-12-03.
- ↑ "WWE World Heavyweight Champion Randy Orton def. John Cena BY ANTHONY BENIGNO - wwe.com". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-24. สืบค้นเมื่อ 2014-01-28.
- ↑ "Raw highlights: Jan. 27, 2014 - Daniel Bryan, Sheamus and John Cena vs. The Shield - Elimination Chamber Qualifying Match: Raw, Jan. 27, 2014".
- ↑ "WWE World Heavyweight Championship Elimination Chamber Match BY John Clapp - wwe.com".
- ↑ Caldwell, James. "Caldwell's WWE Raw results 3/10: Complete "virtual-time" coverage of live Raw – Bryan "hi-jacks" Raw, Taker & Hogan back on TV, Cena vs. Wyatts feud continues". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ April 3, 2014.
- ↑ "John Cena vs. Bray Wyatt". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 14, 2014. สืบค้นเมื่อ April 3, 2014.
- ↑ Guillot, Gene. "John Cena vs. Bray Wyatt centers on Cena's legacy". The Times-Picayune. สืบค้นเมื่อ April 5, 2014.
- ↑ Caldwell, James. "WrestleMania 30 PPV results (Hour 2): Complete "virtual-time" coverage of Cena vs. Bray, big moment for Cesaro in the Andre Battle Royal, Shield vs. Outlaws". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ April 10, 2014.
- ↑ Caldwell, James. "Caldwell's WWE Raw result 4/28: Complete "virtual-time" coverage of live Raw – final PPV hype, Bryan returns from injury, Flair, Tag Title match, Tourney Finals, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ May 6, 2014.
- ↑ Caldwell, James. "Caldwell's Extreme Rules PPV results 5/4: Complete "virtual-time" coverage of live PPV – Bryan vs. Kane, Evolution vs. Shield, Cena vs. Wyatt steel cage match". Pro Wrestling Torch. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-06. สืบค้นเมื่อ May 6, 2014.
- ↑ Asher, Matthew. "Shield gets suicidal and Cena looks for some Payback against Wyatt". slam.canoe.ca. SLAM! Wrestling. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-02. สืบค้นเมื่อ 2 June 2014.
- ↑ "WWE Money in the Bank 2014 results". WWE. สืบค้นเมื่อ June 30, 2014.
- ↑ "WWE Battleground 2014 results". WWE. สืบค้นเมื่อ July 20, 2014.
- ↑ "SummerSlam 2014 results: Brock Lesnar decimates John Cena, wins WWE World Heavyweight Championship". SB Nation. สืบค้นเมื่อ August 18, 2014.
- ↑ Namako, Jason. "WWE Main Event Results - 8/19/14 (Big Show vs. Rowan)". wrestleview.com. WWE. สืบค้นเมื่อ 20 August 2014.
- ↑ Burdick, Michael. "WWE Hell in a Cell 2014 results". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-06. สืบค้นเมื่อ October 26, 2014.
- ↑ Tedesco, Mike. "WWE RAW Results – 10/27/14 (John Cena vs. Seth Rollins)". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ October 28, 2014.
- ↑ Murphy, Ryan. "Team Cena def. Team Authority". wwe.com. WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-15. สืบค้นเมื่อ November 23, 2014.
- ↑ Murphy, Ryan. "John Cena def. Seth Rollins (Tables Match)". wwe.com. WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-13. สืบค้นเมื่อ December 14, 2014.
- ↑ Keller, Wade. "Keller's WWE Raw report 12/29: Lesnar and Heyman show up, Ziggler vs. Rusev in a champion vs. champion match, Edge & Christian host, Bryan's big announcement". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ December 31, 2014.
- ↑ McCauley, Kevin. "Brock Lesnar retains WWE title in classic at Royal Rumble, beating John Cena, Seth Rollins". SB Nation. สืบค้นเมื่อ 26 January 2015.
- ↑ Caldwell, James. "WWE Fast Lane PPV results 2/22: Complete "virtual-time" coverage of Bryan vs. Reigns, Cena vs. Rusev, Sting-Hunter confrontation, final PPV before WM31". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 23 February 2015.
- ↑ Caldwell, James. "WWE Raw results 3/2: Ongoing "virtual-time" coverage of live Raw - Heyman speaks for Lesnar, Rollins-Daily Show angle, WM31 build continues". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 3 March 2015.
- ↑ Tedesco, Mike. "WWE RAW Results - 3/9/15 (Orton gets revenge on Rollins)". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 10 March 2015.
- ↑ Caldwell, James (March 29, 2015). "CALDWELL'S WM31 PPV RESULTS 3/29: Ongoing "virtual-time" coverage of WWE World Title match, Taker's return, Sting vs. Triple H, Cena vs. Rusev, more big matches". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ March 29, 2015.
- ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S EXTREME RULES PPV REPORT 4/26: Complete "virtual-time" coverage of live PPV - Rollins vs. Orton steel cage, Cena vs. Rusev, Last Man Standing, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 27 April 2015.
- ↑ Melok, Bobby. "United States Champion John Cena def. Rusev ("I Quit" Match)". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-15. สืบค้นเมื่อ 17 May 2015.
- ↑ Melok, Bobby. "NXT Champion Kevin Owens def. United States Champion John Cena (Champion vs. Champion Match: Non-Title)". wwe.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 31 May 2015.
- ↑ Laboon, Jeff. "John Cena def. Kevin Owens". wwe.com. สืบค้นเมื่อ 14 June 2015.
- ↑ Caldwell, James. "WWE PPVs CALDWELL'S WWE BATTLEGROUND PPV REPORT 7/19: Complete "virtual-time" coverage of live PPV - Rollins vs. Lesnar, Cena vs. Owens III, Orton returns home, more". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ 19 July 2015.
- ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 7/20: Complete "virtual-time" coverage of live Raw - Battleground fall-out, Taker-Lesnar pullapart, big six-man tag main event, Divas, more". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ 20 July 2015.
- ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 7/27: Complete "virtual-time" coverage of live Raw - Cena vs. Rollins for U.S. Title, SSlam hype, Owens vs. RKO, two Divas matches, more". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ 27 July 2015.
- ↑ "John Cena suffers broken nose on Raw". WWE.com. สืบค้นเมื่อ 27 July 2015.
- ↑ Artus, Matthew. "WWE World Heavyweight Champion Seth Rollins def. United States Champion John Cena in a Winner Takes All Match". wwe.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 23 August 2015.
- ↑ Melok, Bobby. "John Cena def. Seth Rollins to win the United States Championship". wwe.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-09. สืบค้นเมื่อ 20 September 2015.
- ↑ Artus, Matthew. "Alberto Del Rio def. U.S. Champion John Cena in the U.S. Open Challenge". wwe.com. สืบค้นเมื่อ 25 October 2015.
- ↑ "WWE Raw live results: Dec. 28, 2015". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-29. สืบค้นเมื่อ December 29, 2015.
- ↑ Wortman, James (January 8, 2016). "John Cena undergoes shoulder surgery". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-09. สืบค้นเมื่อ January 13, 2016.
- ↑ Nason, Josh. "John Cena likely out for Wrestlemania due to shoulder injury". f4wonline.com. สืบค้นเมื่อ 10 January 2016.
- ↑ Adkins, Greg. "John Cena returns and joins The Rock at WrestleMania". WWE.com. สืบค้นเมื่อ 4 April 2016.
- ↑ Pappolla, Ryan. "John Cena announces his return date on Twitter". WWE. สืบค้นเมื่อ April 27, 2016.
- ↑ Tedesco, Mike. "WWE RAW RESULTS – 5/30/16 (LIVE RESULTS FROM GREEN BAY, AJ STYLES AND THE CLUB ATTACK JOHN CENA, SIX MAN TAG MAIN EVENT)". Wrestleview. สืบค้นเมื่อ May 30, 2016.
- ↑ Clapp, John. "John Cena vs. AJ Styles". WWE. สืบค้นเมื่อ June 3, 2016.
- ↑ Caldwell, James. "6/19 WWE MITB PPV Results – CALDWELL'S Complete Live Report". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ June 19, 2016.
- ↑ "2016 WWE Draft results: WWE officially ushers in New Era". WWE. สืบค้นเมื่อ July 19, 2016.
- ↑ Caldwell, James. "7/4 WWE Raw Results – CALDWELL'S Complete Live TV Report". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ July 4, 2016.
- ↑ Powers, Kevin. "John Cena, Enzo Amore & Big Cass def. The Club". WWE. สืบค้นเมื่อ July 24, 2016.
- ↑ Parks, Greg. "8/16 WWE Smackdown LIVE – Parks's Complete, Real-Time Report". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ August 17, 2016.
- ↑ Clapp, John. "John Cena vs. AJ Styles". WWE. สืบค้นเมื่อ August 2, 2016.
- ↑ Caldwell, James. "8/21 WWE Summerslam Results – CALDWELL'S Complete Live Report". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ August 21, 2016.
- ↑ Benigno, Anthony. "WWE World Champion AJ Styles vs. Dean Ambrose vs. John Cena". WWE. สืบค้นเมื่อ September 13, 2016.
- ↑ Parks, Greg (December 20, 2016). "12/20 WWE Smackdown LIVE – Parks's Complete, Real-Time Report". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 20, 2016.
- ↑ Powell, Jason. "1/29 Powell's WWE Royal Rumble 2017 live review: AJ Styles vs. John Cena for the WWE Championship, Kevin Owens vs. Roman Reigns in a No DQ match for the WWE Universal Championship with Chris Jericho in a shark cage". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ January 29, 2017.
- ↑ "WWE Championship Elimination Chamber Match". WWE. สืบค้นเมื่อ January 17, 2017.
- ↑ http://www.wrestlinginc.com/wi/news/2017/0212/623188/wwe-begins-build-for-john-cena-wrestlemania-33-match-video/
- 1 2 Burdick, Michael (April 2, 2017). "John Cena & Nikki Bella def. Miz & Maryse; Cena asks Nikki to marry him". WWE. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 5, 2017. สืบค้นเมื่อ April 2, 2017.
- ↑ Melok, Bobby (June 14, 2017). "What does John Cena's Free Agent status mean?". WWE.com. สืบค้นเมื่อ June 15, 2017.
- ↑ "Cena and Rusev to go to war in a Flag Match". WWE. สืบค้นเมื่อ July 5, 2017.
- ↑ "John Cena def. Baron Corbin". WWE. August 20, 2017. สืบค้นเมื่อ August 21, 2017.
- ↑ Benigno, Anthony. "Roman Reigns def. John Cena". WWE. สืบค้นเมื่อ September 24, 2017.
- ↑ Wortman, James. "Team Raw def. Team SmackDown in a Men's 5-on-5 Traditional Survivor Series Elimination Tag Team Match". WWE. สืบค้นเมื่อ November 19, 2017.
- ↑ Powell, Jason. "WWE Royal Rumble 2018 live review: Men's and Women's Royal Rumble matches, Brock Lesnar vs. Braun Strowman vs. Kane for the WWE Universal Championship, AJ Styles vs. Kevin Owens and Sami Zayn in a handicap match for the WWE Championship". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ January 28, 2018.
- ↑ Powell, Jason. "WWE Elimination Chamber 2018 live review: Men's and Women's Elimination Chamber matches, Ronda Rousey contract signing, Asuka vs. Nia Jax, Matt Hardy vs. Bray Wyatt, Sheamus and Cesaro vs. Titus O'Neil and Apollo for the Raw Tag Titles". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 25, 2018.
- ↑ Benigno, Anthony. "WWE Champion AJ Styles def. John Cena, Kevin Owens, Sami Zayn, Dolph Ziggler and Baron Corbin (Six-Pack Challenge)". WWE. สืบค้นเมื่อ March 11, 2018.
- ↑ Benigno, Anthony. "The Undertaker def. John Cena". WWE. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 10, 2018. สืบค้นเมื่อ April 8, 2018.
- ↑ Benigno, Anthony. "John Cena def. Triple H". WWE.com. สืบค้นเมื่อ May 1, 2018.
- ↑ Wortman, James. "John Cena & Bobby Lashley def. Kevin Owens & Elias". WWE. สืบค้นเมื่อ October 6, 2018.
- ↑ Powell, Jason (January 14, 2019). "1/14 Powell's WWE Raw TV Review: Dean Ambrose vs. Bobby Lashley vs. Seth Rollins in a Triple Threat for the Intercontinental Championship, Ronda Rousey and Sasha Banks vs. Nia Jax and Tamina, the Royal Rumble build continues". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ January 15, 2019.
- ↑ "Braun Strowman to replace John Cena in Men's Royal Rumble Match due to injury". WWE. January 27, 2019. สืบค้นเมื่อ January 27, 2019.
- ↑ "WWE WrestleMania 35 results, matches, videos, card, surprises". tennessean.com. สืบค้นเมื่อ May 18, 2020.
- ↑ Powell, Jason (July 22, 2019). "7/22 WWE Raw Results: Powell's review Raw Reunion featuring Steve Austin, Ric Flair, DX, Hulk Hogan, and many more, Alexa Bliss talkshow with Becky Lynch, the build to SummerSlam continues". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ July 23, 2019.
- ↑ Barnett, Jake (February 28, 2020). "2/28 WWE Friday Night Smackdown results: Barnett's review of John Cena's return, Goldberg's first appearance since winning the WWE Universal Championship at WWE Super ShowDown". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ February 29, 2020.
- ↑ Chiari, Mike. "'Fiend' Bray Wyatt Beats John Cena in Epic Firefly Fun House WrestleMania Match". Bleacher Report. สืบค้นเมื่อ April 6, 2020.
- ↑ Chiari, Mike. "John Cena Confronts Roman Reigns in Surprise Appearance at WWE Money in the Bank". Bleacher Report. สืบค้นเมื่อ July 18, 2021.
- ↑ Lelinwalla, Mark (August 22, 2021). "WWE SummerSlam 2021: ROMAN REIGNS TAKES BEST FROM JOHN CENA TO RETAIN TITLE; BROCK LESNAR RETURNS". Dazn.com. สืบค้นเมื่อ August 22, 2021.
- ↑ Sam, Doric (March 6, 2023). "John Cena vs. Austin Theory Set for U.S. Title Match at WWE WrestleMania 39". Bleacher Report (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ March 19, 2023.
- ↑ Powell, Jason (November 4, 2023). "WWE Crown Jewel results: Powell's review of Roman Reigns vs. LA Knight for the WWE Universal Title, Seth Rollins vs. Drew McIntyre for the World Heavyweight Title, Rey Mysterio vs. Logan Paul for the U.S. Title". Pro Wrestling Dot Net (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ January 24, 2024.
- ↑ Rathi, Ishaan (April 8, 2024). "Cody Rhodes Wins Undisputed WWE Championship In Match Filled with Surprises at WrestleMania 40 Sunday". Ringside News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ April 8, 2024.
- ↑ Mendoza, Jordan (July 6, 2024). "John Cena announces he will retire in 2025; WrestleMania 41 will be his last". USA Today. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2024. สืบค้นเมื่อ July 6, 2024.
- ↑ Keller, Wade (January 6, 2025). "WWE Raw results (1/6): Keller's report Netflix debut with Reigns vs. Solo, Morgan vs. Ripley, Punk vs. Seth, Drew vs. Jey Uso, John Cena, Logan Paul". Pro Wrestling Torch. TDH Communications Inc. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 15, 2025. สืบค้นเมื่อ January 6, 2025.
- ↑ Mahjouri, Shakiel (February 1, 2025). "WWE Royal Rumble 2025 results, winners, grades: Jey Uso, Charlotte Flair punch their tickets to WrestleMania". CBSSports.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2025. สืบค้นเมื่อ April 23, 2025.
- ↑ Powell, Jason (March 1, 2025). "WWE Elimination Chamber results: Powell's live review of Cody Rhodes responding to The Rock's offer, two Elimination Chamber matches, Kevin Owens vs. Sami Zayn in an unsanctioned match". Pro Wrestling Dot Net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2025. สืบค้นเมื่อ March 1, 2025.
- ↑ "WrestleMania 41 Night 2 results: Cena makes history, beats Rhodes for WWE Undisputed title". ESPN.com. April 20, 2025. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 21, 2025. สืบค้นเมื่อ April 21, 2025.
- ↑ Powell, Jason (April 21, 2025). "WWE Raw results (4/21): Powell's live review of the Raw after WrestleMania 41". Pro Wrestling Dot Net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 22, 2025. สืบค้นเมื่อ April 22, 2025.
- ↑ Powell, Jason (May 10, 2025). "WWE Backlash results: Powell's live review of John Cena vs. Randy Orton for the WWE Championship, Gunther vs. Pat McAfee, Dominik Mysterio vs. Penta for the Intercontinental Title". Pro Wrestling Dot Net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 14, 2025. สืบค้นเมื่อ May 11, 2025.
- ↑ Powell, Jason (June 28, 2025). "WWE Night of Champions results: Powell's live review of John Cena vs. CM Punk for the WWE Championship, Randy Orton vs. Cody Rhodes in the KOTR final, Asuka vs. Jade Cargill in the QOTR final". Pro Wrestling Dot Net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 28, 2025. สืบค้นเมื่อ June 28, 2025.
- ↑ Powell, Jason (August 3, 2025). "WWE SummerSlam results: Powell's live review of night two with John Cena vs. Cody Rhodes in a Street Fight for the WWE Championship, Naomi vs. Rhea Ripley vs. Iyo Sky for the Women's World Championship". Pro Wrestling Dot Net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 5, 2025. สืบค้นเมื่อ August 3, 2025.
- ↑ F4W staff (August 8, 2025). "August 11, 2025 Observer Newsletter: WWE PLEs heading to ESPN, Brock Lesnar's controversial return at SummerSlam". Wrestling Observer Figure Four Online. สืบค้นเมื่อ August 8, 2025.
- ↑ McGuire, Colin (August 31, 2025). "WWE Clash in Paris results: McGuire's review of Seth Rollins vs. CM Punk vs. Jey Uso vs. LA Knight for the World Hvt. Championship, John Cena vs. Logan Paul, Roman Reigns vs. Bronson Reed". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ August 31, 2025.
- ↑ Barnett, Jake (September 20, 2025). "WWE Wrestlepalooza results: Barnett's review of AJ Lee and CM Punk vs. Becky Lynch and Seth Rollins, John Cena vs. Brock Lesnar, Iyo Sky vs. Stephanie Vaquer for the Women's World Championship". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ September 20, 2025.
- ↑ Triple H [@TripleH] (September 23, 2025). "@JohnCena vs. @AJStylesOrg is a match we all want to see. And at #WWECrownJewel…we will. Saturday, October 11 on @espn & @netflix" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ September 24, 2025 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
- ↑ Powell, Jason (October 11, 2025). "WWE Crown Jewel Perth results: Powell's review of Cody Rhodes vs. Seth Rollins for the men's Crown Jewel Championship, Stephanie Vaquer vs. Tiffany Stratton for the women's Crown Jewel Championship". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ October 11, 2025.
- ↑ Mango, Anthony (October 11, 2025). "John Cena Scores 100th Premium Live Event Win Over AJ Styles At WWE Crown Jewel". TheRingReport. สืบค้นเมื่อ October 14, 2025.
- ↑ Powell, Jason (November 1, 2025). "WWE Saturday Night's Main Event results (11/1): Powell's live review of CM Punk vs. Jey Uso for the vacant World Heavyweight Championship, Cody Rhodes vs. Drew McIntyre for the WWE Championship". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ November 1, 2025.
- 1 2 Powell, Jason (November 10, 2025). "WWE Raw results (11/10): Powell's live review of John Cena's final homecoming, Charlotte Flair and Alexa Bliss vs. The Kabuki Warriors for the WWE Women's Tag Team Titles". Pro Wrestling Dot Net. สืบค้นเมื่อ November 11, 2025.
- 1 2 3 "The Marine: Box Office Summary". Rotten Tomatoes. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 29, 2007. สืบค้นเมื่อ July 4, 2007.
- 1 2 Millado, Nate (March 2009). "John Cena on Acting". Men's Fitness. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 1, 2009. สืบค้นเมื่อ March 16, 2009.
- ↑ Carrow-Jackson, Roberta (December 7, 2007). "State Film Office announces 2007 statistics". NOLA.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 28, 2008. สืบค้นเมื่อ January 11, 2008.
- ↑ Nelson, Rob (March 27, 2009). "12 Rounds". Variety. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 27, 2019. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "Patricia Clarkson, John Cena lead cast for WWE Studios' 'Legendary'". WWE. December 8, 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 14, 2010. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "Legendary (2010): Reviews". Metacritic. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 15, 2010. สืบค้นเมื่อ September 13, 2010.
- ↑ "Legendary DVD Release Date 9/28/10". Yardbarker. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 10, 2012. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Csonka, Larry (March 24, 2010). "John Cena To Star In Nickelodeon's Fred: The Movie". 411Mania.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 4, 2025. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Benet, Lorenzo (September 18, 2010). "5 Things to Know About Lucas Cruikshank". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 21, 2010. สืบค้นเมื่อ September 20, 2010.
- ↑ Ford, Rebecca; Kit, Borys (March 18, 2014). "Judd Apatow's Amy Schumer Comedy 'Trainwreck' Adding Three to Cast (Exclusive)". The Hollywood Reporter. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 25, 2021. สืบค้นเมื่อ December 30, 2016.
- ↑ Yamato, Jen (July 1, 2014). "WWE Star John Cena To Turn Heel In Universal Comedy 'The Nest'". Deadline. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 25, 2014. สืบค้นเมื่อ December 30, 2016.
- ↑ Berkshire, Geoff (December 22, 2015). "Film Review: 'Daddy's Home'". Variety. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 1, 2016. สืบค้นเมื่อ May 12, 2017.
- ↑ Pennacchio, George (May 12, 2017). "John Cena wrestles with SoCal desert heat while filming 'The Wall'". ABC7 Los Angeles. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2021. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "WWE Superstars John Cena, Undertaker, Triple H, Paige and Mr. McMahon are "The Hang 5" in the Totally Tubular "Surf's Up 2: WaveMania"". WWE. November 30, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 14, 2016. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Flores, Terry (December 11, 2017). "'Ferdinand' Director on Why John Cena Was Perfect for Title Role". Variety. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 11, 2017. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Fleming, Mike Jr. (March 10, 2017). "John Cena Back For 'Daddy's Home 2'". Deadline. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 12, 2017. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Hensley, Ellie (March 23, 2017). "Universal's "The Pact" to shoot in Atlanta". Atlanta Business Chronicle. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2017. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "John Cena joins 'Transformers' franchise in new action-filled 'Bumblebee'". ABC7 Los Angeles. December 26, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 17, 2022. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Bugbee, Teo (November 7, 2019). "'Playing With Fire' Review: A Firefighter Comedy Running on Embers". The New York Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 11, 2019. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Howard, Courtney (January 15, 2020). "'Dolittle': Film Review". Variety. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 15, 2020. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ D'Alessandro, Anthony (June 7, 2019). "John Cena Officially Joins Fast & Furious 9". Deadline. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 8, 2019. สืบค้นเมื่อ June 11, 2019.
- ↑ Victor, Daniel (May 25, 2021). "John Cena Apologizes to China for Calling Taiwan a Country". The New York Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 26, 2021. สืบค้นเมื่อ June 5, 2021.
- ↑ Kroll, Justin (April 17, 2019). "John Cena Eyed for Suicide Squad Sequel (EXCLUSIVE)". Variety. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 18, 2019. สืบค้นเมื่อ June 11, 2019.
- ↑ Pulliam-Moore, Charles (May 19, 2023). "Fast X's running on the highest-octane fumes you've ever huffed". The Verge. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 19, 2023. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Couch, Aaron (March 5, 2023). "Seth Rogen Unveils 'Teenage Mutant Ninja Turtles' Movie Cast". The Hollywood Reporter. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 7, 2023. สืบค้นเมื่อ March 5, 2023.
- ↑ "Go Sick: Psycho Auditions". AtomFilms. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 6, 2007.
- 1 2 3 Medalis, Kara A. (October 9, 2006). "Cena's busy week". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 6, 2007. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Medalis, Kara A. (October 11, 2006). "Cena up for 'Late Night'". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 13, 2007. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "Episode 7". MADtv. ฤดูกาล 11. ตอน 7. November 26, 2005. FOX.
- ↑ "WWE: Smackdown vs. Raw 2006". G4. 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 4, 2005. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "Cena Punk'd". WWE. August 31, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 31, 2007. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "The Champ gets 'Punk'd'". WWE. May 29, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 9, 2007. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ McDonough, Kevin (March 13, 2006). "'Nashville' stars as talented as rival idols". The Standard-Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 4, 2025. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Medalis, Kara A. (October 26, 2007). "Cena on Nick U.K. Kids' Choice Awards". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 4, 2007. สืบค้นเมื่อ October 30, 2007.
- ↑ Hunt, Jen; McAvennie, Mike (January 10, 2007). "WWE Superstars aid family's "Extreme Makeover"". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 15, 2007. สืบค้นเมื่อ August 2, 2007.
- ↑ John Cena, Batista, and Ashley on Extreme Makeover: Home Edition (WMV). WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2007. สืบค้นเมื่อ August 1, 2007.
- ↑ Zeigler, Zack (March 1, 2007). "Sign-ing a Deal?". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 3, 2007. สืบค้นเมื่อ May 25, 2007.
- ↑ "Superstars join 'Idol Gives Back'". WWE. April 9, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 12, 2008. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "Tracy Morgan/Kelly Clarkson". Saturday Night Live. ฤดูกาล 34. ตอน 654. March 14, 2009. 90–92 นาที. NBC.
- ↑ "Wait Wait... Don't Tell Me!". National Public Radio. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 24, 2009. สืบค้นเมื่อ June 25, 2009.
- ↑ Smith, Melinda (March 10, 2004). "UPN's 'Manhunt' a Maggot For Real". Reality News Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 22, 2006. สืบค้นเมื่อ June 13, 2006.
- ↑ Smith, Melinda (July 10, 2002). "Coming Up to Date on the Manhunt Scandal". Reality News Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 2, 2006. สืบค้นเมื่อ June 13, 2006.
- ↑ Medalis, Kara A. (March 12, 2007). "Cena gets revved up". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 25, 2009. สืบค้นเมื่อ March 20, 2007.
- ↑ Medalis, Kara A. (June 25, 2007). "Cena races into third on 'Fast Cars' finale". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 25, 2009. สืบค้นเมื่อ July 8, 2007.
- ↑ Atkinson, Dan (November 13, 2007). "WWE wrestles CNN over Cena interview response". The Daily News of Newburyport. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 4, 2012. สืบค้นเมื่อ March 24, 2009.
- ↑ "Cena: Steroids? Absolutely not". WWE. November 9, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 16, 2007. สืบค้นเมื่อ November 18, 2007.
- ↑ Zeigler, Zack (November 13, 2007). "Cena reacts to CNN". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 28, 2007. สืบค้นเมื่อ November 18, 2007.
- 1 2 "CNN to WWE: No Apology". WWE. November 14, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 18, 2007. สืบค้นเมื่อ November 18, 2007.
- ↑ Ganska, Helen (October 12, 2008). "WWE champion John Cena to host Nickelodeon awards". The Sunday Times (Western Australia). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 28, 2009. สืบค้นเมื่อ March 2, 2009.
- ↑ Goldman, Eric (August 5, 2009). "WWE's John Cena Guests on Psych". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 9, 2009. สืบค้นเมื่อ August 28, 2009.
- ↑ "John Cena guest stars on 'Hannah Montana'". WWE. September 9, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 27, 2024. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "John Cena guest co-hosts 'Today'". WWE. August 17, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 20, 2015. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "Seth Meyers accidentally uncovers John Cena's secret tea parties". Sports Illustrated. August 21, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 6, 2015. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "American Grit". TV Guide. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 17, 2016. สืบค้นเมื่อ March 18, 2016.
- ↑ "John Cena to host 2016 ESPYS". WWE. May 19, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2016. สืบค้นเมื่อ July 14, 2016.
- ↑ Lawrence, Derek (December 11, 2016). "'Saturday Night Live' recap: John Cena". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2016. สืบค้นเมื่อ December 11, 2016.
- ↑ "John Cena to host Nickelodeon's 2017 Kids' Choice Awards". WWE. January 24, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2017. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ "John Cena and Nickelodeon team up for Kids Choice Awards, "Turtles" and more in 2018". WWE. January 11, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 16, 2018. สืบค้นเมื่อ June 3, 2025.
- ↑ Nordyke, Kimberly (January 11, 2018). "John Cena to Voice 'Ninja Turtles' Character, Produce Competition Series for Nickelodeon". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 12, 2018. สืบค้นเมื่อ January 11, 2018.
- ↑ Caron, Emily (February 14, 2019). "John Cena to Host Nickelodeon Revival of 'Are You Smarter Than a Fifth Grader'". Sports Illustrated. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2019. สืบค้นเมื่อ February 14, 2019.
- ↑ Schneider, Michael (March 31, 2021). "'Wipeout' Creator on How the TBS Revival Went Ballsier With New Hosts John Cena and Nicole Byer". Variety. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 22, 2021. สืบค้นเมื่อ May 29, 2021.
- ↑ Rosenbloom, Alli; Garvey, Marianne; Elizabeth, Wagmeister (March 11, 2024). "John Cena gives out costume design Oscar in his 'birthday suit'". CNN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 11, 2024. สืบค้นเมื่อ March 11, 2024.
- ↑ "John Cena's Forgotten Rap Cameo With Murs On The Song "Hustle"". The Sportster. February 27, 2023.
- ↑ "Icon and Legend face to face". WWE. August 8, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 27, 2007. สืบค้นเมื่อ June 4, 2025.
Cena fans also were treated to the world premiere of his new music video. The Champ always dreamed of being a WWE Superstar. His new music video, “Right Now,” told that story Monday night.
- ↑ "Perceptionists – 'Black Dialogue/ 5 O'Clock/ Champion Scratch'". UndergroundHiipHop.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 30, 2009. สืบค้นเมื่อ May 17, 2007.
- ↑ Gallo, Phil (October 13, 2014). "John Cena & Wiz Khalifa Team Up on 'WWE 2K15' Video Game Soundtrack". Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 15, 2014. สืบค้นเมื่อ December 29, 2019.
- 1 2 Hall, Sophia Alexandra (February 7, 2022). "Can John Cena play the piano? Inside the former WWE star's melancholy 'Peacemaker' solo". Classic FM. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 4, 2022. สืบค้นเมื่อ January 17, 2024.
- ↑ Lonon, Sherri (April 9, 2013). "Cena Brings WWE Title Home to Land o' Lakes". Patch. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 2, 2015. สืบค้นเมื่อ August 15, 2019.
- ↑ Corinthios, Aurelie (April 17, 2018). "Why John Cena Doesn't Want to Become a Dad — and How He Gave Nikki Bella 'False Hope,' Source Says". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 23, 2018. สืบค้นเมื่อ June 13, 2024.
- ↑ Moore, Jim (February 16, 2009). "Cena works hard on his rags to riches story". Seattle Post-Intelligencer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 10, 2015. สืบค้นเมื่อ February 16, 2009.
- ↑ Varsallone, Jim (March 23, 2009). "Cena, WWE score knockout in 12 Rounds". The Miami Herald. p. 3.
- ↑ "Petition for Dissolution of Marriage" (PDF). The Miami Herald. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ June 20, 2012. สืบค้นเมื่อ June 20, 2012.
- ↑ "John Cena Makes Peace In Divorce War". TMZ. July 18, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 21, 2012. สืบค้นเมื่อ December 1, 2012.
- 1 2 Longeretta, Emily (April 15, 2018). "Nikki Bella and John Cena Break Up After 6 Years Together, End Engagement". Us Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 8, 2018. สืบค้นเมื่อ April 18, 2018.
- ↑ Mizoguchi, Karen (May 5, 2018). "John Cena & Nikki Bella: Inside Their Canceled Nuptials on What Would Have Been Their Wedding Day". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 5, 2018. สืบค้นเมื่อ May 10, 2018.
- ↑ Johnson, Mike (October 14, 2020). "Exclusive: Top WWE superstar gets married". Pro Wrestling Insider. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2020. สืบค้นเมื่อ October 14, 2020.
- ↑ Mauch, Ally (October 15, 2020). "John Cena and Shay Shariatzadeh's Whirlwind Romance: From Meeting on Set to Marrying the Next Year". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 16, 2020. สืบค้นเมื่อ November 4, 2020.
- ↑ Souza, Alison de (December 20, 2017). "Professional wrestler John Cena punches above his weight in Mandarin". The Straits Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 24, 2018. สืบค้นเมื่อ March 22, 2018.
- ↑ Woodyard, Chris (December 2, 2017). "John Cena sued by Ford for selling GT supercar". USA Today. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2018. สืบค้นเมื่อ December 4, 2017.
- ↑ Markovich, Tony (June 19, 2018). "The Flip That Flopped: John Cena and Ford Settle GT Resale Lawsuit". Car and Driver. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 11, 2020. สืบค้นเมื่อ July 28, 2023.
- ↑ Zhang, Jing (June 21, 2018). "Shanghai: Jackie Chan, John Cena Talk Action Collaboration on 'Project X'". The Hollywood Reporter. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 5, 2021. สืบค้นเมื่อ February 24, 2020.
- ↑ Fields, Jackie (March 31, 2025). "John Cena Reveals Past Skin Cancer Diagnosis as He Teams with Neutrogena on a Sun Care Campaign (Exclusive)". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 2, 2025. สืบค้นเมื่อ March 31, 2025.
- ↑ Davis, Clayton (February 22, 2022). "Critics Choice Super Awards: 'Spider-Man,' 'Justice League' Among Film Nominees; 'Evil,' 'Midnight Mass' Lead TV". Variety. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 24, 2022. สืบค้นเมื่อ May 10, 2022.
- ↑ Haring, Bruce (April 9, 2022). "Nickelodeon's Kids' Choice Awards Sets Sliming Record — Winners List". Deadline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 10, 2022. สืบค้นเมื่อ April 9, 2022.
- ↑ Hipes, Patrick (May 11, 2022). "MTV Movie & TV Awards Unveil Scripted And Unscripted Nominations: 'Spider-Man: No Way Home', 'Euphoria' Lead Way For Now-Combined Event". Deadline. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 11, 2022. สืบค้นเมื่อ May 13, 2022.
- ↑ Vlessing, Etan (March 16, 2023). "Everything Everywhere All at Once Wins Big at 2023 Critics Choice Super Awards". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 16, 2023. สืบค้นเมื่อ January 3, 2024.
- ↑ Eck, Kevin (January 11, 2010). "Best of the Decade awards". The Baltimore Sun. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 4, 2021. สืบค้นเมื่อ December 20, 2020.
- 1 2 Eck, Kevin (December 30, 2007). "2007 Awards". The Baltimore Sun. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 26, 2020. สืบค้นเมื่อ September 25, 2020.
- 1 2 Eck, Kevin (February 14, 2011). "2010 Awards". The Baltimore Sun. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 5, 2022. สืบค้นเมื่อ September 25, 2020.
- ↑ "OVW Heavyweight Title". Wrestling-Titles.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2012. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- ↑ "OVW Southern Tag Team Title". Wrestling-Titles.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 22, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- ↑ Wilson, Dave (March 5, 2025). "WWE legend John Cena earns unlikely record as he shocks with evil heel turn". Guinness World Records. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 6, 2025. สืบค้นเมื่อ March 8, 2025.
- ↑ "Feud of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 3, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- ↑ "PWI Awards: Feud of the year". Pro Wrestling Illustrated. Vol. 33 no. 3. Kappa Publishing Group. 2012. pp. 74–75.
- ↑ "Match of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 15, 2008. สืบค้นเมื่อ April 17, 2008.
- ↑ "PWI Awards: Match of the year". Pro Wrestling Illustrated. Vol. 33 no. 3. Kappa Publishing Group. 2012. pp. 80–81.
- ↑ "PWI Awards: Match of the year". Pro Wrestling Illustrated. Vol. 34 no. 2. Kappa Publishing Group. 2014. pp. 40–4.
- ↑ "PWI Awards: Match of the year". Pro Wrestling Illustrated. Vol. 36 no. 2. Kappa Publishing Group. 2015. pp. 30–31.
- ↑ "Match of the Year". Pro Wrestling Illustrated. Kappa Publishing Group. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2021. สืบค้นเมื่อ January 16, 2017.
- ↑ "Most Improved Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- ↑ "Triple H: Wrestler of the Decade". Pro Wrestling Illustrated. Vol. 31 no. 2. Kappa Publishing Group. February 2010.
- ↑ "Most Popular Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- ↑ "Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- ↑ "Pro Wrestling Illustrated Top 500 – 2006". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 12, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- ↑ "2007 PWI 500 edition of Pro Wrestling Illustrated – cover". Pro Wrestling Illustrated. Kappa Publishing Group. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 5, 2007. สืบค้นเมื่อ September 3, 2007.
- ↑ "Pro Wrestling Illustrated (PWI) 500 for 2013". The Internet Wrestling Database. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 6, 2015. สืบค้นเมื่อ August 22, 2013.
- ↑ Herzog, Kenny (July 1, 2015). "WWE Wrestler of the Year (So Far): Kevin Owens". Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 15, 2018. สืบค้นเมื่อ December 20, 2020.
- 1 2 Herzog, Kenny (December 14, 2015). "WWE Wrestler(s) of the Year". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 2, 2018. สืบค้นเมื่อ December 14, 2015.
- ↑ "John Cena to receive prestigious Muhammad Ali Legacy Award". WWE. November 29, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 15, 2019. สืบค้นเมื่อ January 23, 2024.
- ↑ Barrasso, Justin (December 29, 2017). "Top 10 Wrestlers of the Year". Sports Illustrated. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 29, 2017. สืบค้นเมื่อ December 30, 2017.
- ↑ "UPW Heavyweight Title". Wrestling-Titles.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 21, 2013. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
- ↑ "World Heavyweight Title". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 27, 2023. สืบค้นเมื่อ June 7, 2025.
- ↑ "What is a Slammy?". WWE. February 23, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 1, 2023. สืบค้นเมื่อ April 17, 2016.
- ↑ "2011 Slammy Award Winners". WWE. December 12, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 29, 2012. สืบค้นเมื่อ April 17, 2016.
- ↑ "2015 Slammy Award winners". WWE. December 16, 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 8, 2022. สืบค้นเมื่อ April 17, 2016.
- 1 2 "2012 WWE Slammy Awards and WWE.com Slammy Awards winners". WWE. December 17, 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 21, 2017. สืบค้นเมื่อ April 17, 2016.
- ↑ "2013 Slammy Award winners". WWE. December 6, 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 1, 2022. สืบค้นเมื่อ April 17, 2016.
- ↑ Laboon, Jeff (December 8, 2014). "2014 Slammy Award winners". WWE. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 16, 2020. สืบค้นเมื่อ April 17, 2016.
- ↑ Lambert, Jeremy (April 20, 2025). "Cody Rhodes And Drew McIntyre Win Multiple Slammys; Full List Of WWE Slammy Award 2025 Winners". Fightful.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 21, 2025. สืบค้นเมื่อ June 8, 2025.
- 1 2 3 4 5 Meltzer, Dave (January 26, 2011). "Biggest issue of the year: The 2011 Wrestling Observer Newsletter Awards Issue". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, California. pp. 1–40. ISSN 1083-9593.
- 1 2 Meltzer, Dave (January 30, 2012). "January 30 Wrestling Observer Newsletter: Gigantic year-end awards issue, best and worst in all categories plus UFC on FX 1, death of Savannah Jack, ratings, tons and tons of news". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, California. ISSN 1083-9593.
- ↑ Beltrán, William (August 3, 2010). "Según el Wrestling Observer... ¿Quiénes son los mejores los mejores de la década?" [According to the Wrestling Observer… Who are the best of the decade?]. Súper Luchas (ภาษาสเปน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 6, 2010. สืบค้นเมื่อ August 5, 2010.
- 1 2 Meltzer, Dave (January 23, 2013). "The 2012 Wrestling Observer Newsletter Annual Awards Issue". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, California. ISSN 1083-9593. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 24, 2013.
- ↑ Meltzer, Dave (January 26, 2015). "Jan. 26, 2015 Wrestling Observer Newsletter: 2014 awards issue w/ results & Dave's commentary, Conor McGregor, and much more". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, California. p. 30. ISSN 1083-9593. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2015. สืบค้นเมื่อ February 15, 2015.
- ↑ Meltzer, Dave (November 12, 2012). "Nov. 12, 2012 Wrestling Observer Newsletter: WON Hall of Fame 2012 double issue, six men inducted, all the news and info from around the world and more!". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, California. p. 8. ISSN 1083-9593.
- ↑ "John Cena to be inducted in Springfield College Athletic Hall of Fame". WWE. March 6, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 8, 2015. สืบค้นเมื่อ March 6, 2015.
- ↑ "Make-A-Wish Foundation honors John Cena". WWE. September 14, 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 22, 2009. สืบค้นเมื่อ June 8, 2025.
- ↑ "2012 Wish Granter Awards". Make-A-Wish® America. Make A Wish Foundation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 23, 2015. สืบค้นเมื่อ October 28, 2012.
- ↑ "2014 Sports Social TV Awards winners". Sports Social TV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 11, 2015. สืบค้นเมื่อ July 16, 2014.
- ↑ "WWE® Superstar John Cena® to Serve as Grand Marshal at 25th Annual Susan G. Komen Global Race for the Cure®". Business Wire. April 3, 2014.
- ↑ @TripleH (Apr 19, 2016). "Congrats @JohnCena for being honored w/ the 2016 Legacy of Achievement Award tonight @USOMetroDC 75th anniversary" (ทวีต). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 8, 2025. สืบค้นเมื่อ June 8, 2025 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
- ↑ McGuire, Corbin (December 20, 2023). "Meet the 2024 Silver Anniversary Award recipients". NCAA. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 25, 2023. สืบค้นเมื่อ December 25, 2023.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- จอห์น ซีนา ที่ WWE.com
- จอห์น ซีนา ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- จอห์น ซีนา ที่เฟซบุ๊ก
- จอห์น ซีนา ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- จอห์น ซีนา ที่อินสตาแกรม
- จอห์น ซีนา ที่ติ๊กต็อก
| ก่อนหน้า | จอห์น ซีนา | ถัดไป | ||
|---|---|---|---|---|
| Jeff Foxworthy | Host of Are You Smarter Than A 5th Grader? (2019–present) |
Incumbent | ||
| The Undertaker | Royal Rumble winner (2008 2013) |
Randy Orton | ||
| Daniel Bryan (WHC) Alberto Del Rio (WWEC) |
Mr. Money in the Bank (2012 (WWEC)) |
Damien Sandow (WHC) Randy Orton (WWEC) |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2520
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกัน
- นักแสดงภาพยนตร์ชายชาวอเมริกัน
- นักฟุตบอลชาวอเมริกัน
- นักมวยปล้ำอาชีพจากรัฐฟลอริดา
- นักมวยปล้ำอาชีพจากรัฐแมสซาชูเซตส์
- ชาวอเมริกันเชื้อสายแคนาดา
- ชาวอเมริกันเชื้อสายฝรั่งเศส
- ชาวอเมริกันเชื้อสายอังกฤษ
- ชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี
- คริสต์ศาสนิกชนนิกายคาทอลิกชาวอเมริกัน
- อินเทอร์เน็ตมีม