ยุทธการที่เนเธอร์แลนด์

ยุทธการเนเธอร์แลนด์
ส่วนหนึ่งของ ยุทธการที่ฝรั่งเศส
ศูนย์กลางของรอตเทอร์ดามถูกทำลายหลังจากโดนทิ้งระเบิด
วันที่ 10–14 พฤษภาคม 1940 10–17 พฤษภาคม 1940 (ซีแลนด์) สถานที่ เนเธอร์แลนด์ ผล เยอรมันได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด เนเธอร์แลนด์ภายใต้การยึดครองของเยอรมัน การก่อตั้งไรชส์คอมมิสซาเรียทนีเดอร์ลันด์เดอร์ การถอดถอนกองทัพดัตช์ที่มีอยู่ในภาคพื้นทวีปยุโรป รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ได้ลี้ภัย ไปยังสหราชอาณาจักร
คู่สงคราม
เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร	เยอรมนี
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
เฮนรี วินเคลมัน Jan Joseph Godfried van Voorst tot Voorst เฮนรี่ จีโฮค์	เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค (Army Group B) Hans Graf von Sponeck
กำลัง
9 divisions 700 guns 1 tank 5 tankettes 32 armoured cars 145 aircraft Total: 280,000 men	22 divisions 1378 guns 759 tanks 830 aircraft 6 armoured trains Total: 750,000 men
ความสูญเสีย
2332 KIA (Dutch Army) 7000 wounded 216 French KIA 43 British KIA Over 2000 civilians killed	2032 KIA 6000–7000 wounded 4 armoured trains 225–275 aircraft total loss 1350 prisoners to England

ยุทธการที่เนเธอร์แลนด์ (ดัตช์: Slag om Nederland) เป็นส่วนหนึ่งของกรณีสีเหลือง (เยอรมัน: Fall Gelb) เยอรมันได้บุกยึดครองกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำ (เบลเยี่ยม,ลักเซมเบิร์กและเนเธอร์แลนด์) และฝรั่งเศสระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง.การสู้รบได้ดำเนินการต่อไปจนกระทั่งการยอมจำนนของกองทัพหลักของเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ทหารชาวดัตช์ในจังหวัดเซลันด์ยังคงต่อสู้กับกองทัพเวร์มัคท์จนกระทั่งวันที่ 17 พฤษภาคม เมื่อเยอรมนีได้ยึดครองประเทศเอาไว้อย่างสมบูรณ์

ยุทธการที่เนเธอร์แลนด์ถือเป็นยุทธการแรกที่กองทัพอากาศเยอรมัน ใช้ทหารพลร่ม (Fallschirmjäger) โดยเข้ายึดสนามบินของฝ่ายดัตซ์และสถานที่ทางยุทธศาสตร์ในรอตเทอร์ดาม และเดอะเฮก,ความรวดเร็วเพื่อการบุกรุกประเทศและตรึงกองทัพเนเธอร์แลนด์เอาไว้

ภายหลังการทิ้งระเบิดที่รอตเทอร์ดามโดยลุฟท์วัฟเฟอ,เยอรมันได้ข่มขู่ว่าจะทิ้งระเบิดเมืองต่างๆของดัตซ์ให้ราบคาบ ถ้ากองทัพเนเธอร์แลนด์ปฏิเสธที่จะยอมจำนน เสนาธิการทหารฝ่ายดัตซ์ต่างรู้ดีว่าไม่อาจหยุดยั้งการทิ้งระเบิดได้และออกคำสั่งให้กองทัพยุติสู้รบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น.การยึดครองของเนเธอร์แลนด์ล่าสุดได้รับการปลดปล่อยในปี 1945.