โรงเรียนสตรีวิทยา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรงเรียนสตรีวิทยา
Satriwithaya School
ที่ตั้ง
แผนที่
บ้านเลขที่ 82 ถนนดินสอ

ข้อมูล
ชื่ออื่นส.ว.
ประเภทโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ
คำขวัญเรียนดี กีฬาเด่น
สถาปนา3 สิงหาคม พ.ศ. 2443 (123 ปี 229 วัน)
เขตการศึกษากรุงเทพมหานคร
หน่วยงานกำกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1
ผู้อำนวยการขจิตพันธ์ สุวรรณสิริภักดิ์
จำนวนนักเรียน2,917 คน ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน ปีการศึกษา 2562[1]
สี   แดง-ขาว
เพลงมาร์ชโรงเรียนสตรีวิทยา
ต้นไม้ประจำโรงเรียนต้นโพธิ์
เว็บไซต์http://www.satriwit.ac.th
สตรีวิทยาตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
สตรีวิทยา
สตรีวิทยา
สตรีวิทยา (กรุงเทพมหานคร)

โรงเรียนสตรีวิทยา (อักษรย่อ: ส.ว.; อังกฤษ: Satriwithaya School) เป็นโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ประเภทโรงเรียนสตรีล้วน ตั้งอยู่ที่ถนนดินสอ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้น ม.1 ถึง ม.6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 (กรุงเทพมหานคร)

ประวัติโรงเรียนสตรีวิทยา[แก้]

ด้านหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา
โรงเรียนสตรีวิทยา ด้านฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์ประชาธิปไคย

โรงเรียนสตรีวิทยาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ร.ศ. 119 พ.ศ. 2443 ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สถานที่เดิมตั้งอยู่ที่วังพระองค์เจ้าอลังการหลังโรงหวย กข.ตำบลสามยอด (ปัจจุบันเป็นตึกของบริษัทสามมิตรสงเคราะห์) กรมศึกษาธิการได้แต่งตั้ง มิสลูสี ดันแลป เป็นครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนสตรีวิทยา ต่อมาโรงเรียนได้ย้ายไปอยู่ที่ตึก 2 ชั้น ถนนเจริญกรุง หลังวังบูรพาภิรมย์ ในช่วงนั้นคนทั่วไปนิยมเรียกโรงเรียนสตรีวิทยาว่า "โรงเรียนแหม่มสี" สมัยนั้นโรงเรียนเปิดรับทั้งชายและหญิง ซึ่งนักเรียนชายต้องอายุไม่เกิน 12 ปี สอนตั้งแต่เด็กเริ่มเรียน ส่วนชั้นประถมมีการสอนภาษาอังกฤษด้วย เมื่อโรงเรียนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ มิสลูสี ดันแลป ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาที่ต้องพัฒนาในระดับสูงขึ้น จึงแจ้งความประสงค์ยกโรงเรียนสตรีวิทยาให้แก่กรมศึกษาธิการกรมธรรมการและมิสลูสี ยินยอมรับราชการต่อไป

3 สิงหาคม พ.ศ. 2444 เป็นโรงเรียนรัฐบาล กระทรวงธรรมการมีคำสั่งให้ลงแจ้งความเปิดโรงเรียนสตรีวิทยาประกาศในหนังสือราชกิจจานุเบกษาเป็นโรงเรียนของรัฐบาลให้สอนตามหลักสูตรของกรมศึกษาธิการ และได้จัดการเรียนการสอนจนถึงระดับมัธยมศึกษา

พ.ศ. 2448 โรงเรียนได้ย้ายไปที่ตึกริมถนนราชบพิธติดกับโรงพิมพ์โสภณพิพัฒนาการ

พ.ศ. 2449-พ.ศ. 2450 มิสลูสี ดันแลป ลาออกเพราะสุขภาพไม่ดี กรมศึกษาธิการ จึงให้ครูทิม กาญจนาโอวาท ครูใหญ่ โรงเรียนศึกษานารี เป็นครูใหญ่โรงเรียนสตรีวิทยาอีกแห่งหนึ่ง ต่อมากระทรวงธรรมการรวมโรงเรียนสตรีวิทยาและโรงเรียนศึกษานารีเข้าด้วยกันแล้วย้ายมาอยู่ที่ตึกดิน มุมถนนดินสอและ ถนนราชดำเนินกลาง (ปัจจุบันคือบริเวณ บริษัทธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด) โดยใช้ชื่อว่าโรงเรียนสตรีวิทยาตั้งแต่ พ.ศ. 2450 เป็นต้นมา

พ.ศ. 2482 สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ต้องการที่ดินคือเพื่อสร้างอาคารตามโครงการปรับปรุงถนนราชดำเนินใหม่ กระทรวงศึกษาธิการ โดย พล.ร.อ. หลวงสินธุสงครามชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีคำสั่งให้หาที่สร้างโรงเรียนสตรีวิทยาใหม่ อาจารย์สิริมา จิณณาสา อาจารย์ใหญ่ ตกลงเลือกที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ริมถนนดินสอ พื้นที่ 9 ไร่อยู่ตรงข้ามสถานที่เดิม พล.ร.อ.หลวงสินธุสงครามชัย ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น ผู้ชุบชีวิตสตรีวิทยา มีความประสงค์จะให้เป็นโรงเรียนตัวอย่างในเชิงก่อสร้าง โดยวางแผนผังให้เหมาะสมโอ่โถงงดงาม รายการปลูกสร้างได้แก่ ตึกเรียน 2 ชั้น 1 หลัง หอประชุมหรือโรงอาหารเป็นโรงโถงชั้นเดียว มีเวทีสำหรับการแสดง ห้องส้วม ห้องพยาบาล เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ต่อมามีการสร้างหอการฝีมือ โรงครัว บ้านพักครูใหญ่ เรือนภารโรง การก่อสร้างใช้เวลา 17 เดือน เปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2484

พ.ศ. 2487 ปิดโรงเรียนเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากเกรงจะเป็นอันตรายจากการทิ้งระเบิด

พ.ศ. 2488 โรงเรียนสตรีวิทยาได้กลับมาเปิดสอนต่อ แต่ไปเรียนที่ โรงเรียนเบญจมราชาลัย เพราะอาคารเรียนสตรีวิทยาใช้เป็นที่ตั้งหน่วยพยาบาลของทหารพันธมิตร จน เดือนเมษายน พ.ศ. 2489 ทหารย้ายออกไป จึงกลับมาเรียนที่เดิม

พ.ศ. 2490 เปิดสอนชั้นเตรียมอุดมเป็นรุ่นแรกมีแผนกอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ นักเรียนเตรียมแผนกอักษรศาสตร์สอบไล่ได้เป็นที่ 1 ของทั้งประเทศ นอกจากนั้นยังสอบได้เป็นที่ 2 และที่ 19 ในจำนวนนักเรียน 50 คนแรกที่ได้รับประกาศชื่อนับเป็นครั้งแรกที่ โรงเรียนรัฐบาล สามารถทำได้ โรงเรียนสตรีวิทยาจึงได้ริเริ่มคิดป้าย เกียรตินิยมเรียนดี ขึ้นเพื่อประกาศชื่อนักเรียนที่เรียนดีติดไว้ที่หอประชุมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

พ.ศ. 2491 จัดตั้งสตรีวิทยาสมาคมเพื่อเป็นที่พบปะติดต่อกันของศิษย์เก่าและให้ศิษย์เก่าร่วมแรงร่วมใจกันทำประโยชน์ให้แก่โรงเรียนได้ทำพิธีเปิดป้ายเมื่อวันที่ 18 มีนาคม

พ.ศ. 2492 กีฬาประเพณีสมาคมได้มอบทุนให้แก่นักเรียนชั้น ม.6 ที่สอบไล่ได้คะแนนยอดเยี่ยม จัดให้มีการแข่งขันกีฬาประเพณีซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียนจนเป็นประเพณีสืบต่อมาจนทุกวันนี้

พ.ศ. 2495-พ.ศ. 2496 ครบรอบครึ่งทศวรรษ โรงเรียนได้งบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารวิทยาศาสตร์โรงเรียนได้จัดงานฉลองโรงเรียนครบครึ่งทศวรรษเพื่อฉลองอาคารวิทยาศาสตร์ไปด้วยเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2496 งานครั้งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยทรงพระกรุณาเสร็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในงาน ยังความปลาบปลื้มปิติแก่คณะครูนักเรียนสตรีวิทยาอย่างหาที่สุดมิได้

พ.ศ. 2498 จัดตั้งสมาคมผู้ปกครองและครูสตรีวิทยาเพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างผู้ปกครองและครู ตลอดจนเป็นที่แลกเปลี่ยนความรู้ความคิด และประสบการณ์ในการแก้ปัญหาของเยาวชนร่วมกัน

พ.ศ. 2512-พ.ศ. 2515 โรงเรียนได้รับงบประมาณก่อสร้างและซ่อมแซมอาคารดังนี้

สร้างอาคารเรียน 4 ชั้น 40 ห้องเรียน พร้อมหอประชุมใหญ่ลานเอน จุคนได้ประมาณ 1,200 คน ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2514

สร้างอาคาร 5 ชั้น ด้าน ถนนราชดำเนิน ชั้นล่างเป็นโรงอาหาร เป็นอาคารที่มีห้องเรียนประมาณ 40 ห้องและมีห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ห้องพักครู ห้องฝ่ายปกครอง ห้องพิมพ์ดีด และห้องสหกรณ์โรงเรียน

พ.ศ. 2530-พ.ศ. 2532 โรงเรียนสตรีวิทยาได้รับรางวัลโรงเรียนดีเด่น 3 ปีซ้อน และโรงเรียนพระราชทาน นักเรียนพระราชทานปี 2533

พ.ศ. 2543 โรงเรียนสตรีวิทยาครบรอบ 100 ปี

เหตุการณ์สำคัญ[แก้]

ก่อตั้งโรงเรียน[แก้]

มิสลูสี ดันแลป หรือ "แหม่มสี" เป็นธิดากัปตันเรือ เป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนสตรีวังหลังก่อนจะตั้งโรงเรียนสตรีวิทยาขึ้นมา เมื่อปี พ.ศ. 2443 สมัยนั้นเปิดรับสมัครนักเรียนทั้งชายและหญิง หลักสูตรและวิธีการสอนของแหม่มสีทำให้โรงเรียนสตรีวิทยามีชื่อเสียงตั้งแต่แรกเริ่ม โรงเรียนสตรีวิทยาสมัยแรกย้ายที่ตั้งหลายแห่ง จากหลังโรงหวย ก.ข.สามยอด ไปตึกแถวหลังวังบูรพา (มุมด้านตะวันออกของถนนถนนทหารบกทหารเรือและถนนเจริญกรุง) และย้ายไปอยู่ข้างโรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร ริมถนนราชบพิธ ใน พ.ศ. 2446 นักเรียนชื่อ "นิล" อายุ 13 ปีได้รับเงินรางวัล 5 ตำลึงจากรัฐบาลเนื่องจากสอบไล่ปลายปีระดับประถม วิชาธรรมจริยาได้คะแนนสูงสุด นักเรียนผู้นี้ต่อมาได้สมัครเป็นนักเรียนสอนโรงเรียนสตรีวิทยา เริ่มเป็นครูน้อยที่โรงเรียนเสาวภา ครูทิมซึ่งขณะนั้นเป็นครูใหญ่โรงเรียนเบญจมราชาลัยได้ขอตัวให้ไปสอนที่นั่น ต่อจากนั้นได้ย้ายโรงเรียนอื่นๆ และดำรงตำแหน่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดได้เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์

ย้ายมาตึกดิน[แก้]

ครูทิม กาญจนาโอวาท ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่อ่างทองเรียนหนังสือกับแหม่มโคล์ที่โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง จนจบหลักสูตรแล้วเป็นครูที่โรงเรียนนั้นมาจนสมรสจึงลาออก พ.ศ. 2449 เริ่มรับราชการเป็นครูใหญ่ที่ โรงเรียนศึกษานารี เมื่อตั้งอยู่ที่ ถนนข้าวสาร และต้องรับตำแหน่งครูใหญ่สตรีวิทยา อีกแห่งหนึ่งจึงเสนอให้รวมทั้ง 2 โรงเรียนเข้าด้วยกันที่ตึกดินใช้ชื่อว่า "สตรีวิทยา"

ส.ว.อักษรย่อของสตรีวิทยา[แก้]

นางผจงวาด วายวานนท์ จบการศึกษาชั้นต้นทั้งประถมและมัธยมที่โรงเรียนสตรีวิทยา แล้วศึกษาต่อทางวิชาชีพครู ตลอดจนวิชาการสาขาต่างๆที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ประวัติศาสตร์ ตามระเบียบการแต่งกายของนักเรียนรัฐบาลตั้งแต่ พ.ศ. 2476 นักเรียนต้องใช้เข็มเครื่องหมายที่อักษรย่อชื่อโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงขอใช้ ส.ว.

เพิ่มชั้นม.ปลาย[แก้]

นางสาวสังวาลย์ ปุคคละนันท์ เป็นคนคลองบางหลวง เรียนที่โรงเรียนวัดอนงคาราม และ โรงเรียนศึกษานารี และศึกษาต่อจนจบครูมัธยม ตำแหน่งสูงสุดคือเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสตรีวิทยา ในสมัยอาจารย์โรงเรียนมีชื่อเสียงด้านกีฬาและอนุกาชาดได้ครองถ้วยชนะเลิศกีฬาและดัดตนหลายชนิด นอกจากนั้นยังเป็นสมัยที่โรงเรียนเริ่มสอนชั้นม.7 และ ม.8 ด้วย

ยุบหรือย้าย[แก้]

ใน พ.ศ. 2482 รัฐบาลดำเนินการปรับปรุงขยายถนนราชดำเนิน กระทรวงศึกษาธิการ ลงมติให้ยุบไม่ก็ย้ายนักเรียนไปเรียนรวมกับ โรงเรียนเบญจมราชาลัย เสีย อาจารย์สิริมาจึงขอร้อง กระทรวงศึกษาธิการ จึงไม่ยุบโรงเรียนเพียงแต่ให้ย้ายที่ตั้งใหม่ที่ริมถนนดินสอ

ยุคเรียนดีกีฬาเด่น[แก้]

คุณหญิงอาภรณ์ กฤษณามระ สำเร็จการศึกษาจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงได้เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสตรีวิทยาอยู่ 8 ปี ในยุคของคุณหญิงอาภรณ์ สตรีวิทยาเด่นทั้งด้านกีฬาและการเรียนได้รางวัลบ่อยครั้ง

ม.ศ.5 รุ่นสุดท้าย[แก้]

คุณหญิงบรรจง นิวาศะบุตร จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนสหายหญิง ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีประจำ จังหวัดสระบุรี เป็นศิษย์เก่าจากโรงเรียนสตรีวิทยาและจบการศึกษาระดับสูงสุดคืออักษรศาสตร์มหาบัณฑิต สืบเนื่องจากการปรับระบบชั้นเรียนเมื่อ พ.ศ. 2521 นักเรียนชั้น ม.ศ.5 ในปี พ.ศ. 2525 และจบการศึกษา พ.ศ. 2526 จึงเป็น ม.ศ.5 รุ่นสุดท้าย

หล่อพระพุทธรูปประจำโรงเรียน[แก้]

20 สิงหาคม พ.ศ. 2535 สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงเป็นประธานประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปประจำโรงเรียน "พระนิรันตราย" ซึ่งสรี้างขึ้นเนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษาและทรงเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ และพระราชทานเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ต่อมา 16 กันยายน พ.ศ. 2536 จึงประกอบพิธีเบิกเนตร

ความภาคภูมิใจของโรงเรียน[แก้]

  • เคยเป็นสถานศึกษาของสมเด็จย่า
  • รับเสด็จสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
  • โครงการห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก
  • สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เสด็จเยือนโรงเรียน

รายนามผู้บริหารโรงเรียนสตรีวิทยา[แก้]

ลำดับ รายนาม ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง
1 มีสลูสี ดันแลป
2 นางทิม กาญจนโอวาท พ.ศ. 2465 - 2467
3 หลวงบรรสบวิชาฉาน พ.ศ. 2457 - 2460
4 นางสุภางค์ เวช์ชะเผ่า พ.ศ. 2460 - 2462
5 คุณหญิงวัชรินเสวี พ.ศ. 2463 - 2472
6 นางสาวพร้อม บุณยมานพ พ.ศ. 2472 - 2475
7 นางผจงวาด วายวานนท์ พ.ศ. 2475 - 2477
8 นางสาวสังวาลย์ ปุคคละนันท์ พ.ศ. 2477 - 2479
9 นางสิริมา จิณณาสา พ.ศ. 2479 - 2489
10 หม่อมหลวงแสงโสม กฤษณามระ พ.ศ. 2489 - 2497
11 คุณหญิงกรองทอง​ ​สุรัสวดี พ.ศ. 2498 - 2511
12 คุณหญิงบุญเจือ ไชยภัฏ พ.ศ. 2511 - 2519
13 นางนภา หุ่นจำลอง พ.ศ. 2419 - 2523
14 คุณหญิงบรรจง นิวาศะบุตร พ.ศ. 2523 - 2527
15 นางบุษยา สาครวาสี พ.ศ. 2527- 2529
16 นางสมหมาย เอมสมบัติ พ.ศ. 2529 - 2536
17 นางลัดดา ตระหง่าน พ.ศ. 2536 - 2538
18 นางสาวเอกจิตรา ชูสกุลชาติ พ.ศ. 2539 - 2540
19 นางสาวสุวรรณา เอมประดิษฐ พ.ศ. 2540 - 2544
20 นางรังสิมา เจริญศิริ พ.ศ. 2544 - 2549
21 นางสาวเฟื่องฟ้า ประดิษฐพจน์ พ.ศ. 2549 - 2552
22 นางพัชรา ทิพยทัศน์ พ.ศ. 2552 - 2554
23 นางจำนงค์ แจ่มจันทรวงษ์ พ.ศ. 2554 - 2556
24 นางเบญญาภา คงรอด พ.ศ. 2556 - 2558
25 นางสาวสุปราณี ไกรวัตนุสสรณ์ พ.ศ. 2558 - 2561
26 นางวรรณดี นาคสุขปาน พ.ศ. 2561 - 2563
27 นางสุภาณี ธรรมาธิคม พ.ศ. 2563 - 2565
28 นายขจิตพันธ์ สุวรรณสิริภักดิ์ พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน

เกียรติประวัติของโรงเรียน[แก้]

โรงเรียนสตรีวิทยาเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษมีความมุ่งมั่นในการปรับปรุงและพัฒนารักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นสร้างจิตสำนึกและวินัยให้แก่นักเรียน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมรวมทั้งลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดมลพิษ ที่ส่งผลกระทบทั้งภายในโรงเรียนและชุมชนรอบข้างโรงเรียนจึงนำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001 มาใช้ในโรงเรียน ผลจากการร่วมมือกันทุกฝ่ายทำให้โรงเรียนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาด บรรยากาศร่มรื่น สวยงามน่าอยู่และปลอดภัยตามหลีกมาตรฐานสากล โรงเรียนได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO14001 จากสถาบัน UKAS และประกอบพิธีเปิดป้าย ISO14001 อย่างเป็นทางการในวันครบรอบ 100 ปี 3 สิงหาคม พ.ศ. 2543 โรงเรียนสตรีวิทยาในปัจจุบันได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นทุกด้าน

  • ด้านวิชาการ โรงเรียนได้รับการแต่งตั้งจากกรมสามัญศึกษาให้เป็นโรงเรียนเครือข่ายจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

ปีการศึกษา 2545 เป็นศูนย์พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษโรงเรียนได้เปิดสอน Intensive course ให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 ห้อง ได้รับความนิยมและชื่นชมจากผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ปีการศึกษา 2546 จะเปิดในระดับม.4 จำนวน 2 ห้อง นอกจากนี้ยังมีโครงการโอลิมปิกทางวิชาการ โดยเชิญวิทยากรจากภายในและภายนอกมาให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ อีกทั้งขยายห้องสืบค้นข้อมูล(IT) โดยเพิ่มจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 60 เครื่อง เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าข้อมูล ทั้งภายในและต่างประเทศ ผลจากการแข่งขันด้านวิชาการ นักเรียนได้รับรางวัลจำนวน 84 รายการ ในปีการศึกษา 2548 โรงเรียนได้เปิดรับนักเรียนโครงการความเป็นเลิศด้านวิชาการ(คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ) จำนวน 2 ห้องเรียน (80 คน)

  • ด้านบริหารจัดการ ปรับโครงสร้างการบริหารสถานศึกษาให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติและมีความคล่องตัวในการบริหารงาน

โดยแต่งตั้งฝ่ายแผนงานวิจัยและพัฒนาจัดทำคอมพิวเตอร์ระบบบริหารจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการบริหาร ได้แก่ ระบบงานทะเบียน วัดผล ระบบงานปกครอง ระบบงานพยาบาล ระบบงานแนะแนว โปรแกรมโอนคะแนนจากเครื่องตรวจกระดาษคำตอบ,โปรแกรมรูดบัตร,แสกนลายนิ้วมือ,แสกนใบหน้าในการมาโรงเรียน, โปรแกรมรูดบัตรแสดงผลการเรียน

  • ด้านอาคารสถานที่ การปรับปรุงอาคารสถานที่และแหล่งเรียนรู้

โรงเรียนที่เกี่ยวข้อง[แก้]


อ้างอิง[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

พิกัดภูมิศาสตร์: 13°45′26″N 100°30′07″E / 13.757314°N 100.502004°E / 13.757314; 100.502004