คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
Faculty of Medicine, Naresuan University | |
สถาปนา | 18 มกราคม พ.ศ. 2537 |
---|---|
คณบดี | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิง พิริยา นฤขัตรพิชัย |
ที่อยู่ | |
วารสาร | ณ ใต้ร่มเสลา |
เพลง | มาร์ชคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร |
สี | สีเขียวหัวเป็ด |
มาสคอต | งูพันคบเพลิง |
สถานปฏิบัติ | โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร |
เว็บไซต์ | www.med.nu.ac.th |
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (อังกฤษ : Faculty of Medicine, Naresuan University) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2537 เป็นคณะที่จัดตั้งขึ้นเป็นลำดับที่ 5 ของมหาวิทยาลัยนเรศวร[1] และเป็นคณะแพทยศาสตร์ที่จัดตั้งขึ้นเป็นลำดับที่ 12 ของประเทศไทย[2] โดยในช่วง 10 ปีแรกได้ร่วมมือกับทางโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในการร่วมผลิตแพทย์ตามนโยบายการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในส่วนภูมิภาค และหลังจากนั้นคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงเริ่มพัฒนาโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเป็นโรงพยาบาลหลักในการทำการเรียนการสอนของนิสิตแพทย์[3][4] โดยมีความร่วมมือระหว่างเครือข่ายศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก ทั้ง 5 แห่งในการพัฒนาทางด้านวิชาการและบริการร่วมกัน
ประวัติ
[แก้]การจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ในสมัยที่มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลก โดยภายหลังจากกระทรวงมหาดไทยอนุญาตให้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลกใช้ประโยชน์ในที่ดินทุ่งหนองอ้อ-ปากคลองจิก ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน เพื่อขยายโครงการของมหาวิทยาลัยแล้ว ทางวิทยาเขตได้จัดทำ "แผนพัฒนาวิทยาเขตพิษณุโลก" ขึ้น โดยมีโครงการจัดตั้งคณะขึ้นมาใหม่ 3 คณะ คือ คณะเกษตรศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งคณะแพทยศาสตร์และพยาบาลศาสตร์ด้วย[1]
ภายหลังจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลกยกฐานะขึ้นเป็น "มหาวิทยาลัยนเรศวร" เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 แล้ว การจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ได้ดำเนินการอีกครั้งในปี พ.ศ. 2536 ซึ่งรัฐบาลในขณะนั้นมีนโยบายแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในส่วนภูมิภาค โดยจัดให้มีการผลิตแพทย์เพิ่มและกระจายแพทย์ลงสู่ส่วนภูมิภาคให้มากขึ้น รัฐบาลจึงศึกษาความเป็นไปได้ถึงความเหมาะสมของการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ขึ้นใหม่ในมหาวิทยาลัยภูมิภาค[5]
จากแนวทางดังกล่าว มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ต่อทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 โดยมีแนวทางที่จะใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยร่วมกับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดภาคเหนือตอนล่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้ลงนามความร่วมมือการผลิตแพทย์ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยนเรศวรในปี พ.ศ. 2537[6] หลังจากที่คณะรัฐมนตรีในขณะนั้นมีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับทบวงมหาวิทยาลัย จัดทำโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (The Collaborative Project to Increase Production of Rural Doctor-CPIRD)
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2537[5] และในคราวเดียวกันนั้น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยมุ่งหวังให้เป็นสถานที่สำหรับการเรียนการสอนนิสิตในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพทั้งหมดของมหาวิทยาลัย และเพื่อเป็นโรงพยาบาลหลักของคณะสำหรับการเรียนการสอนของนิสิตแพทย์ต่อไปในอนาคต ซึ่งการก่อสร้างอาคารศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพแล้วเสร็จและเริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ในช่วงแรกได้ใช้ชื่อว่า "สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร" โดยเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อความคล่องตัวในการบริหารงาน และต่อมาได้เข้ารวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ในปี พ.ศ. 2548 พร้อมทั้งใช้ชื่อเป็น "โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร"[3]
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเริ่มรับนิสิตแพทย์รุ่นแรกตั้งแต่ปีการศึกษา 2538 โดยในช่วงแรกทำการเรียนการสอนชั้นปรีคลินิก (ชั้นปีที่ 1 - 3) ที่คณะแพทยศาสตร์และคณะอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยนเรศวร จากนั้นจึงไปศึกษาต่อระดับชั้นคลินิก (ชั้นปีที่ 4 - 6) ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ซึ่งหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้รับการรับรองจากแพทยสภาเมื่อปี พ.ศ. 2539[5] จากนั้นในปี พ.ศ. 2542 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ขยายการเรียนการสอนชั้นคลินิกเพิ่มโดยร่วมมือกับทางโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ซึ่งนิสิตแพทย์ทั้งหมดจะอยู่ในโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท โดยรับนิสิตจากโควตาในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง[7]
ปีการศึกษา 2546 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดรับนิสิตแพทย์แนวใหม่ (New Tract) โดยรับจากบุคลากรสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้โอกาสผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์หรือสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพที่มีประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวกับการสาธารณสุข เข้าศึกษาต่อในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มีระยะเวลาเวลาศึกษา 5 ปี (เทียบโอนหน่วยกิตในชั้นปีที่ 1) และศึกษาตามหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต เหมือนกับนิสิตแพทย์ปกติทุกประการ ซึ่งจะอยู่ในโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทเช่นเดียวกัน โดยจะทำการเรียนการสอนชั้นคลินิกที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โรงพยาบาลแพร่ และ โรงพยาบาลพิจิตร[5]
ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดรับนิสิตแพทย์ระบบคัดเลือกจากส่วนกลางของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)[5] ซึ่งไม่ได้อยู่ในโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทของกระทรวงสาธารณสุข โดยนิสิตแพทย์กลุ่มนี้จะทำการเรียนการสอนชั้นคลินิกที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ (สำหรับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จะรับเฉพาะนิสิตแพทย์ที่เข้าทำการศึกษาในปีการศึกษา 2547 - 2548 เท่านั้น)[8] และตั้งแต่ปีการศึกษา 2550 เป็นต้นไปทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เปลี่ยนวิธีการรับนิสิตแพทย์ระบบคัดเลือกจากส่วนกลาง โดยรับร่วมกับกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.)
โดย ณ ปัจจุบัน - พ.ศ. 2569 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรมีวิสัยทัศน์ คือ "โรงเรียนแพทย์ระดับโลกเพื่อสร้างสังคมที่มีสุขภาพที่ดี" และพันธกิจ ได้แก่ 1. การผลิตบัณฑิตแห่งอนาคตที่พร้อมต่อสังคมแห่งผู้ประกอบการ ด้วยการจัดการเรียนการสอนมาตรฐานระดับโลก 2. การสร้างผลงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ 3. การบริการสุขภาพที่มีคุณภาพมาตรฐานสากลและการบริการวิชาการเพื่อส่งเสริมสังคมที่มีสุขภาวะดี 4.การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมโดยส่งเสริมการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ส่งเสริมสุขภาวะมาศึกษาต่อยอด
ภาควิชา
[แก้]ปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรประกอบด้วยภาควิชาทั้งสิ้น 15 ภาควิชา[8][9][10]ดังต่อไปนี้
|
|
การศึกษา
[แก้]หลักสูตรการศึกษา
[แก้]ปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดทำการเรียนการสอนในหลักสูตรต่างๆ ดังต่อไปนี้
หลักสูตรที่เปิดสอนในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร | |||
---|---|---|---|
ปริญญาตรี | ปริญญาโท | วุฒิบัตร | ปริญญาเอก |
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.)
|
วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม (ว.ว.) |
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)
|
การรับบุคคลเข้าศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
[แก้]คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มีโครงการรับนิสิตแพทย์เข้าทำการศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตทั้งสิ้น 4 โครงการ โดยจัดให้นิสิตแพทย์ได้ฝึกปฏิบัติงานในชั้นคลินิกที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักของคณะในการจัดการเรียนการสอน และโรงพยาบาลสมทบอีก 5 แห่งตามโครงการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- โครงการรับตรงร่วมกับ กสพท. (Direct Admissions)
รับนักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศร่วมกับกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) นิสิตแพทย์กลุ่มนี้จะทำการเรียนชั้นคลินิกที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อจบการศึกษาแล้วจะต้องจับสลากเพื่อทำงานใช้ทุนเป็นเวลา 3 ปี โครงการนี้จะดำเนินการเปิดรับสมัครในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี
- โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD)
รับนักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตพื้นที่บริการการศึกษาของมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี โดยนิสิตแพทย์กลุ่มนี้จะทำการเรียนชั้นคลินิกที่ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก หรือศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เมื่อจบการศึกษาแล้วจะต้องทำงานใช้ทุนในจังหวัดภูมิลำเนาของตนเองเป็นเวลา 3 ปี โครงการนี้จะดำเนินการเปิดรับสมัครในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี
- โครงการแพทย์แนวใหม่ (New Tract)
โครงการนี้อยู่ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD) เช่นเดียวกัน รับเฉพาะข้าราชการหรือพนักงานของรัฐในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่สำเร็จการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์สุขภาพ และมีประสบการณ์การทำงานทางด้านสาธารณสุขไม่น้อยกว่า 2 ปี และอายุนับถึงวันสมัครไม่เกิน 30 ปี[33] โดยนิสิตแพทย์กลุ่มนี้จะทำการเรียนชั้นคลินิกที่ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลแพร่ หรือศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลพิจิตร เมื่อจบการศึกษาแล้วจะต้องทำงานใช้ทุนในจังหวัดภูมิลำเนาของตนเองเป็นเวลา 3 ปี โครงการนี้จะดำเนินการเปิดรับสมัครในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี
- โครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOD)
รับนักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีภูมิลำเนาในเขต 7 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ โดยการสอบคัดเลือกจะต้องผ่านการคัดเลือกในรอบแรกจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดก่อนแล้วจึงสามารถสอบข้อเขียนของทางมหาวิทยาลัยได้ นิสิตแพทย์กลุ่มนี้จะทำการเรียนชั้นคลินิกที่ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก หรือศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ โดยจะมีทุนการศึกษาและทุนค่าใช้จ่ายให้ตลอดระยะเวลาการเรียน 6 ปี เมื่อจบการศึกษาแล้วจะต้องทำงานใช้ทุนในจังหวัดภูมิลำเนาของตนเองเป็นเวลา 12 ปี โครงการนี้จะดำเนินการเปิดรับสมัครในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี
การเรียนการสอนในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
[แก้]การเรียนการสอนในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ ระดับชั้นปรีคลินิก (ชั้นปีที่ 1 - 3) และระดับชั้นคลินิก (ชั้นปีที่ 4 - 6)[34] ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ระดับชั้นปรีคลินิก
[แก้]ในระดับชั้นนี้จะเป็นการเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐานก่อนที่จะนำไปใช้กับผู้ป่วยในระดับชั้นคลินิกต่อไป โดยในชั้นปีที่ 1 นิสิตแพทย์จะเรียนในรายวิชาศึกษาทั่วไปร่วมกับนิสิตคณะอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนใหญ่จะเรียนที่อาคารเรียนรวม 72 พรรษาบรมราชินีนาถ (ยกเว้นโครงการแพทย์แนวใหม่ (New tract) ที่ไม่ต้องเรียนในชั้นปีที่ 1[33]) ส่วนในชั้นปีที่ 2 - 3 จะเรียนในรายวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ตามระบบต่างๆ ของร่างกายโดยคณาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ และบูรณาการร่วมกับความรู้ในชั้นคลินิกโดยคณาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งการเรียนในชั้นปีที่ 2 - 3 นี้จะเน้นการเรียนแบบการใช้ปัญหาเป็นพื้นฐาน (Problem-based learning) เป็นหลัก โดยส่วนใหญ่จะเรียนที่อาคารคณะแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์
นอกจากนี้ยังมีการเรียนโดยเน้นการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งการเข้าหาผู้ป่วยเพื่อการปรับตัวสู่ความเป็นแพทย์ในรายวิชาการพัฒนาพื้นฐานวิชาชีพแพทย์ (Professional development) ซึ่งมีการเรียนตลอดทั้ง 3 ปี[34]
ระดับชั้นคลินิก
[แก้]เป็นการเรียนต่อยอดจากระดับชั้นปรีคลินิกโดยเน้นการนำไปใช้กับผู้ป่วยจริง ในระดับชั้นนี้นิสิตแพทย์จะแยกกันเรียนในโรงพยาบาลต่างๆ ตามโครงการที่เข้ามาตั้งแต่แรกรับ โดยนิสิตแพทย์ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทและโครงการแพทย์แนวใหม่จะแยกไปเรียนในโรงพยาบาลร่วมผลิตแพทย์ ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนจะอยู่ในกำกับของคณะแพทยศาสตร์ ในส่วนของคณะแพทยศาสตร์จะจัดการเรียนการสอนที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยในชั้นปีที่ 4 - 5 จะเรียนโดยการตรวจรักษาผู้ป่วยในหอผู้ป่วยต่างๆ ร่วมกับการเรียนภาคบรรยาย และในชั้นปีที่ 6 (Extern) จะเน้นการเรียนเสมือนการทำงานจริงภายใต้การควบคุมของแพทย์ใช้ทุน (Intern) และอาจารย์แพทย์ โดยจะมีการออกฝึกในโรงพยาบาลอื่นๆ ได้แก่ โรงพยาบาลกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร โรงพยาบาลลำปาง จังหวัดลำปาง โรงพยาบาลพิจิตร จังหวัดพิจิตร และโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
ก่อนจบการศึกษา นิสิตแพทย์จะต้องผ่านการสอบวัดความรู้รวบยอดภาคทฤษฎี ในชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 5 และสอบวัดผลภาคปฏิบัติในชั้นปีที่ 6 โดยเป็นการสอบเพื่อปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (Comprehensive examination) ซึ่งจัดสอบโดยคณะแพทยศาสตร์เอง รวมทั้งการสอบเพื่อใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (National license) ซึ่งเป็นการสอบส่วนกลาง จัดสอบโดยศูนย์ประเมินและรับรองความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทยสภา (ศรว.) ทั้งนี้เพื่อควบคุมให้บัณฑิตแพทย์มีมาตรฐานเดียวกัน
เมื่อจบการศึกษา บัณฑิตแพทย์ทุกคนจากทุกโครงการจะได้รับปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยนเรศวรเหมือนกัน ซึ่งหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ตามมาตรฐานสากลจากสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ (สมพ.) เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560[35]
การวิจัย
[แก้]จากการที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้วางเป้าหมายให้เป็น "มหาวิทยาลัยวิจัย (Research University) "[36] ดังนั้น คณะแพทยศาสตร์จึงสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์แพทย์ นิสิตแพทย์ รวมถึงบุคลากรของคณะในการทำวิจัย โดยได้มีการจัดตั้ง "งานวิจัย" ในสังกัด "ฝ่ายประกันคุณภาพและวิจัย" ภายใต้การกำกับของรองคณบดีและผู้ช่วยคณบดีฝ่ายประกันคุณภาพและวิจัย[37] เพื่อเป็นหน่วยงานในการบริหาร ประสานงานและพัฒนางานวิจัยของคณะ[38]
ผลงานวิจัยของอาจารย์แพทย์และบุคลากรของคณะที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ ระดับชาติ รวมทั้งที่ได้รับการเผยแพร่ในที่ประชุม สัมมนา ระดับนานาชาติและระดับชาตินับตั้งแต่ พ.ศ. 2544 จนถึงปีงบประมาณปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) มีมากกว่า 472 ผลงาน[39] โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 มีผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์และเผยแพร่รวมทั้งสิ้น 47 ผลงาน[40]
ในส่วนของนิสิตแพทย์นั้น ทางคณะได้กำหนดให้นิสิตแพทย์ได้เรียนรู้และทำการวิจัยระหว่างการเรียนในชั้นคลินิก โดยจัดให้มีการเรียนการสอนในรายวิชาวิจัยทางการแพทย์พื้นฐาน ซึ่งเป็นวิชาเอกบังคับในหลักสูตรแพทยศ่าสตรบัณฑิต นอกจากนี้ยังมีรายวิชาวิจัยครอบครัว และวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐานและระบบสาธารณสุข ซึ่งบรรจุให้เป็นวิชาเลือกเสรีอีกด้วย[8] ปัจจุบันมีผลงานวิจัยของนิสิตแพทย์ที่เผยแพร่ในฐานข้อมูลการวิจัยของคณะไม่ต่ำกว่า 340 เรื่อง[41]
ศูนย์
[แก้]คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มีการจัดตั้งศูนย์ต่าง ๆ เพื่อดำเนินการวิจัยและพัฒนาขีดความสามารถในการรักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ต่าง ๆ ดังนี้[3][42]
ศูนย์โรคหัวใจ
[แก้]ศูนย์โรคหัวใจภาคเหนือตอนล่างได้จัดตั้งขึ้นสืบเนื่องมาจากมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีการจัดการศึกษาสาขาวิชาแพทยศาสตร์และสาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่น ๆ โดยมีการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงมีความพร้อมในด้านอาคารสถานที่และบุคลากรที่จะให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์โรคหัวใจได้ ทางสภามหาวิทยาลัยนเรศวรจึงมีมติให้จัดตั้งศูนย์โรคหัวใจภาคเหนือตอนล่าง เมื่อ พ.ศ. 2543 ณ สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร (ในขณะนั้น) ซึ่งเป็นสถานที่หลักในการปฏิบัติงานในด้านการเรียนการสอน และการวิจัยทางด้านคลินิกของคณะต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยแบ่งเนื้อที่บางส่วนของอาคารสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพให้เป็นสถานที่ตั้งของศูนย์โรคหัวใจ โดยให้เกิดการพัฒนาด้านความรู้ตลอดจนเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านการตรวจวินิจฉัย รักษา การเรียนการสอน และศึกษาวิจัยให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาคและนานาชาติ ทั้งนี้ในเรื่องของบุคลากรทางการแพทย์จะดำเนินการโดยใช้บุคลากรที่เป็นอาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์และคณะอื่นๆ เช่น อายุรแพทย์โรคหัวใจ กุมารแพทย์โรคหัวใจ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก จากคณะแพทยศาสตร์ นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก และ นักรังสีเทคนิค จากทั้งคณะแพทยศาสตร์และคณะสหเวชศาสตร์ รวมทั้งเภสัชกร จากคณะเภสัชศาสตร์ด้วย
ต่อมาเมื่อสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร สังกัดคณะแพทยศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2548 ศูนย์โรคหัวใจภาคเหนือตอนล่างจีงเป็นหน่วยงานในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และมีการพัฒนาต่อมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยทางโรคหัวใจในเขตภูมิภาคภาคเหนือตอนล่างทั้งหมด
ศูนย์วิจัยโลหิตวิทยา
[แก้]ศูนย์วิจัยโลหิตวิทยา เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2545 โดยเริ่มจากงานควบคุมและป้องกันโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ในช่วงแรกนั้น ศูนย์วิจัยโลหิตวิทยาอยู่ในกำกับของสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งขึ้นตรงกับมหาวิทยาลัยนเรศวร ภายหลังจากสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้ควบรวมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อ พ.ศ. 2548 ศูนย์วิจัยโลหิตวิทยา จึงเป็นหน่วยงานหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ และทำหน้าที่เพิ่มเติมในการให้บริการทางด้านห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจวินิจฉัยพาหะ และโรคธาลัสซีเมียให้กับโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการเรียนการสอน ให้แก่นิสิตแพทย์ และนิสิตสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่น ๆ
ปัจจุบัน ศูนย์วิจัยโลหิตวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นศูนย์กลางในการศึกษาค้นคว้าวิจัยด้านโลหิตวิทยาในประชากรเขตภาคเหนือตอนล่าง และให้บริการสนับสนุนระบบการแพทย์ในการแก้ไขปัญหาด้านโลหิตวิทยาให้แก่ประชากร รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ทางโลหิตวิทยาโดยเฉพาะที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศแก่นิสิตและบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและประชาชนทั่วไป
ศูนย์วิจัยและติดตามความเป็นธรรมทางสุขภาพ
[แก้]ศูนย์วิจัยและติดตามความเป็นธรรมทางสุขภาพ เป็นหน่วยงานอิสระในคณะแพทยศาสตร์ ด้านดัชนีความเป็นธรรมทางการแพทย์และการสาธารณสุข สภามหาวิทยาลัยนเรศวรจึงได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้งศูนย์วิจัย ใน พ.ศ. 2541 ต่อมานายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดพิษณุโลก ได้อนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิศูนย์วิจัยและติดตามความเป็นธรรมทางสุขภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
การจัดตั้งศูนย์มีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยค้นหาดัชนีความเป็นธรรมทางสุขภาพ และทดสอบความน่าเชื่อถือ ส่งเสริมการวิจัยและการใช้ประโยชน์จากดัชนีความเป็นธรรมทางสุขภาพ และวางแผนนโยบายสาธารณสุขและนโยบายสาธารณะ เป็นศูนย์ข้อมูลและเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงสถานภาพของความเป็นธรรมทางสุขภาพในประเทศไทย
และยังมีศูนย์อื่น ๆ ได้แก่
- ศูนย์มะเร็ง
- ศูนย์ปลูกถ่ายกระจกตาและผ่าตัดแก้ไขสายตา
- ศูนย์โรคไต
- ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก
- สถานรักษาแก้ไขภาวะปากแหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้า[43]
ความร่วมมือระดับนานาชาติ
[แก้]คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏาน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการรับนักเรียนทุนเพื่อมาศึกษาต่อในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัย[44][45] นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2551 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอีสต์ แองเกลีย สหราชอาณาจักร ในการรับนักศึกษาแพทย์มาทำการศึกษาวิชาเลือกเสรีในชั้นคลินิก ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร[44] และในปี พ.ศ. 2553 ทางคณะมีโครงการแลกเปลี่ยนนิสิตแพทย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย[45] ในส่วนของสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์นั้นได้ทำความร่วมมือกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติ (IFMSA) ในการประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และทำข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนนิสิตแพทย์ร่วมกัน[45]
สถานที่ภายในคณะ
[แก้]คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรมีพื้นที่ในส่วนต่างๆ ดังนี้
- อาคารคณะแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์
- อาคารคณะแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นอาคารรูปตัวยู สูง 5 ชั้น อยู่ด้านข้างกลุ่มอาคารคณะเภสัชศาสตร์ และด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินินาถ โดยอาคารนี้ได้รับงบประมาณผูกผันในการก่อสร้างในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2541[1] แต่เดิมอาคารทั้งหมดนั้นเป็นของคณะแพทยศาสตร์ แต่เมื่อทางมหาวิทยาลัยได้จัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อเดือน กันยายน พ.ศ. 2544[46] จึงได้โอนพื้นที่ส่วนใหญ่ของอาคารให้คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์จึงเหลือพื้นที่ในฝั่งใต้ของอาคาร โดยเป็นที่ตั้งของภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว ศูนย์วิจัยและติดตามความเป็นธรรมทางสุขภาพ (ศธส.) สำนักงานกิจการนิสิตและสร้างเสริมสุขภาพ ห้องออกกำลังกายคณะแพทยศาสตร์ และสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
- ประกอบด้วยอาคาร 3 หลัง[3] ดังนี้
- อาคารสิรินธร เป็นอาคารโรงพยาบาล สูง 9 ชั้น โดยนอกจากเป็นอาคารบริการทางด้านการรักษาพยาบาลแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานภาควิชาต่างๆ อีก 12 ภาควิชา ศูนย์ต่างๆ ของคณะแพทยศาสตร์ และศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์[47]
- อาคารบริการ เป็นอาคารสูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเป็นที่ตั้งของภาควิชานิติเวชศาสตร์ หน่วยโภชนาการ หน่วยซักล้าง และศูนย์อาหาร
- อาคารรังสีรักษา ดำเนินการก่อสร้างระหว่างปี พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2556 เพื่อรองรับการบริการทางด้านรังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ รวมทั้งเป็นหอผู้ป่วยสงฆ์อาพาธด้วย โดยเป็นอาคารสูง 2 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่างอาคารสิรินธร และอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 2 (ที่ดินอาคารโภชนาการเดิม)
- กลุ่มอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา
- เป็นโครงการก่อสร้างอาคารใหม่เพื่อพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเพิ่มศักยภาพการเรียนการสอนของนิสิตแพทย์ นอกจากนี้ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 อีกด้วย โดยได้รับอนุมัติวงเงินงบประมาณภายใต้โครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งการก่อสร้างเริ่มในช่วงปลายปี พ.ศ. 2552 และมีกำหนดการแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2555 แต่เดิมเรียกกลุ่มอาคารใหม่นี้ว่ากลุ่มอาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่ออาคารใหม่นี้ว่า "อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 1" และ "อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 2"[48]
กลุ่มอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ประกอบด้วยอาคาร 3 หลัง[49] ดังนี้
- อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 1 เป็นอาคารโรงพยาบาลสูง 9 ชั้น สร้างขึ้นเพื่อรองรับการขยายการบริการทางการแพทย์เพิ่มเติมจากอาคารสิรินธร
- อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 2 เป็นอาคารศูนย์ความเป็นเลิศของคณะแพทยศาสตร์ มีความสูง 8 ชั้น สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเรียนการสอนนิสิตแพทย์และเป็นศูนย์กลางงานบริหารของคณะ โดยภายในจะประกอบด้วยด้วยห้องเรียนกลุ่มย่อย ห้องสโมสรนิสิต สมาคมศิษย์เก่า ห้องสมุดวิทยาศาสตร์สุขภาพ ห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยา Clinical skill center โรงอาหารสำหรับผู้รับบริการของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร รวมทั้งสำนักงานคณบดี สำนักงานแพทยศาสตรศึกษา และงานสนับสนุนต่างๆ อีกด้วย
- อาคารที่จอดรถ สูง 7 ชั้น รองรับการจอดรถได้ 354 คัน
- หอพักนิสิตแพทย์
- เป็นอาคารหอพักสูง 4 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร บริเวณด้านข้างหอพักอาจารย์ มน.นิเวศ 6 โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2550
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยและสถาบันร่วมผลิตแพทย์
[แก้]คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดการเรียนการสอนนิสิตแพทย์ในชั้นคลินิก (ชั้นปี 4 - 6) ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลสมทบที่ผลิตแพทย์ร่วมกับทางคณะอีก 5 โรงพยาบาล โดยได้มีการจัดตั้ง "ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก" ในโรงพยาบาลต่างๆ ที่ร่วมผลิตแพทย์ เพื่อเป็นหน่วยงานในการจัดการเรียนการสอน และเป็นเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและการบริการร่วมกับทางคณะ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเน้นมาตรฐานคุณภาพของบัณฑิตแพทย์จากทุกสถาบันชั้นคลินิกภายใต้การประสาทปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยนเรศวรให้มีคุณภาพเดียวกัน[4] โดยมีดังนี้
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย | จังหวัด | สังกัด |
---|---|---|
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร | จังหวัดพิษณุโลก | คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร |
- หมายเหตุ ในปีการศึกษา 2550 - 2551 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดตั้งศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อเป็นโรงพยาบาลสมทบในการผลิตแพทย์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันได้ผลิตแพทย์ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กิจกรรมและประเพณีของคณะ
[แก้]สโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และสำนักงานกิจการนิสิตและสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของคณะ โดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นกิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่คณะแพทยศาสตร์เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมและประเพณีอื่นๆ ที่จัดขึ้นโดยคณะแพทยศาสตร์เอง หรือเป็นกิจกรรมที่เข้าร่วมกับสถาบันแพทยศาสตร์อื่นๆ ในประเทศไทย โดยมีรายละเอียดดังนี้
ค่าย และการรับน้องใหม่
[แก้]- งานแรกพบ สพท. (สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย) จัดในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ภายหลังจากการประกาศผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว โดยเป็นงานรวมตัวกันของนิสิตนักศึกษาแพทย์น้องใหม่จากทุกสถาบันของประเทศไทย เพื่อทำความรู้จักกันระหว่างสถาบันผลิตแพทย์ต่างๆ งานนี้จัดขึ้นที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- รับน้องเฟรชชี่และบีกินนิ่งแคมป์ (Beginning Camp)
- กิจกรรมรับน้องใหม่ก่อนเปิดเรียนภาคการศึกษาที่ 1 สำหรับนิสิตใหม่ชั้นปีที่ 1 โดยจะจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อให้นิสิตใหม่รู้จักมหาวิทยาลัยรวมถึงคณะให้มากขึ้น และเป็นการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนใหม่ๆ รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ระหว่างน้อง-พี่
- กิจกรรมประชุมเชียร์
- เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วง 3 สัปดาห์แรกของการเปิดเรียนภาคการศึกษาที่ 1 เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความสามัคคีของนิสิตแพทย์ชั้นปี 1 และเป็นการสอนร้องเพลงมหาวิทยาลัยและเพลงต่างๆ ของคณะให้แก่นิสิตแพทย์ชั้นปี 1 ซึ่งภายหลังกิจกรรมประชุมเชียร์แล้ว ทางสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ก็จะให้มีการซ้อมการแสดงสแตนเชียร์ต่อเนื่องไปอีก 1 สัปดาห์ ก่อนการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย โดยกิจกรรมประชุมเชียร์นี้จะจัดขึ้นในห้องเชียร์ ซึ่งในส่วนของคณะแพทยศาสตร์จัดให้ห้องเรียนรวมในอาคารคณะแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นห้องเชียร์
- ค่ายนิสิตสัมพันธ์อนุรักษ์ธรรมชาติ
- เป็นกิจกรรมการเข้าค่ายนอกสถานที่ของนิสิตแพทย์ชั้นปี 1 ในช่วงเดือนมิถุนายน
- ค่ายซีเพิร์ด (CPIRD)
- เป็นกิจกรรมสานความสัมพันธ์ระหว่างนิสิตนักศึกษาแพทย์จากสถาบันต่างๆ ในประเทศไทยที่อยู่ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท โดยจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม โดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเคยได้รับเป็นเจ้าภาพเมื่อปี พ.ศ. 2547
- ค่ายเส้นทางฝัน เพื่อวันเป็นหมอ (Med Camp)
- เป็นค่ายแนะนำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และแนะแนวการเรียนแพทย์ให้แก่นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 โดยรับสมัครจากนักเรียนทั่วประเทศในช่วงเดือนมกราคม และจัดค่ายในช่วงเดือนมีนาคม ของทุกปี
กิจกรรมกีฬา
[แก้]- หนองอ้อเกมส์
- กีฬาภายในของมหาวิทยาลัยนเรศวรที่จัดขึ้นเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนิสิตคณะต่างๆ ซึ่งนอกจากการแข่งขันกีฬาแล้ว ยังมีจุดที่น่าสนใจที่สุดของงานก็คือ การแสดงสแตนเชียร์ของคณะต่างๆ โดยจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม ของทุกปี
- กีฬาเมดเกมส์ (Med Games)
- งานกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ภายในคณะแพทยศาสตร์ โดยจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม ของทุกปี
- กีฬาเข็มสัมพันธ์ (Syringes Games)
- หรือที่ในอดีตเรียกว่า "กีฬา 13 เข็มสัมพันธ์" เป็นกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันผลิตแพทย์ต่างๆ ของประเทศไทย โดยจัดขึ้นทุกปีในช่วงปลายเดือนตุลาคม สถาบันที่เป็นเจ้าภาพนั้นจะจัดหมุนเวียนสลับกันไป โดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเคยได้รับเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 17 เมื่อปี พ.ศ. 2546 และได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพอีกครั้งในปี พ.ศ. 2554 แต่เนื่องจากประสบภาวะมหาอุทกภัย จึงเลื่อนการจัดงานไปในปีถัดไป ระหว่างวันที่ 20 - 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555 (ซึ่งถือเป็นกีฬาเข็มสัมพันธ์ ครั้งที่ 25)[50]
- กีฬาเฮลธ์ไซนซ์ (Health Sciences Games)
- เป็นการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคณะต่างๆ ในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ 7 คณะ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม ของทุกปี
กิจกรรมวิชาการ
[แก้]- สัปดาห์วิทยาศาสตร์
- จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ของทุกปี โดยในส่วนของคณะแพทยศาสตร์นั้นมีการจัดงานใน 2 ส่วน คือ อาคารคณะแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะเป็นการให้ผู้ที่สนใจได้สัมผัสและเรียนรู้ทางด้านกายวิภาคศาสตร์ของมนุษย์จากร่างอาจารย์ใหญ่ ส่วนที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรนั้นมีนิทรรศการและการให้ความรู้ทางด้านสุขภาพ
กิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม
[แก้]- พิธีไหว้ครูคณะแพทยศาสตร์
- เป็นกิจกรรมที่ให้นิสิตแพทย์ทุกชั้นปีได้น้อมรำลึกถึงพระคุณของอาจารย์แพทย์ ซึ่งนอกจากพิธีไหว้ครูแล้ว ยังมีพิธีการมอบประกาศนียบัตรแก่นิสิตแพทย์ที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละสาขาวิชาในแต่ละชั้นปี การมอบประกาศนียบัตรแก่นิสิตแพทย์ที่ดำรงตำแหน่งในสโมสรนิสิตแพทย์ในปีที่ผ่านมา รวมถึงการมอบประกาศนียบัตรแก่อาจารย์ในดวงใจที่นิสิตโหวตให้คะแนนสูงสุด และมอบโล่เกียรติคุณจากแพทยสภาให้แก่อาจารย์แพทย์ที่มีคุณธรรม จริยธรรม[51]
- วันมหิดล
- ตรงกับวันที่ 24 กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันทิวงคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทางคณะแพทยศาสตร์ได้จัดให้มีพิธีวางพวงมาลาหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และมีกิจกรรมเพื่อสาธารณกุศล เช่น การตรวจสุขภาพโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นต้น และในส่วนของสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ได้จัดให้นิสิตแพทย์ได้รับบริจาคเงินจากบุคคลทั่วไปโดยสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
- งานลอยกระทง เทิดไท้องค์ราชันย์ มิ่งขวัญนเรศวร
- งานประเพณีลอยกระทงของมหาวิทยาลัยที่จัดขึ้นทุกปีในวันลอยกระทง โดยภายในงานจะมีขบวนแห่กระทงยักษ์ งานจัดร้านขายของและซุ้มเกมส์ของนิสิตคณะแพทยศาสตร์และคณะอื่นๆ รวมทั้งงานแสดงมหรสพอีกมากมาย
- งานทำบุญและพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่
- จัดขึ้นโดยภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งนิสิตแพทย์ชั้นปี 2 ที่เรียนในรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับกายวิภาคศาสตร์เป็นเจ้าภาพงานร่วมด้วย งานทำบุญอาจารย์ใหญ่จะจัดขึ้นก่อนเปิดภาคเรียนในช่วงเดือนพฤษภาคม ส่วนงานพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ของปีถัดไปหลังจากที่การเรียนแล้วเสร็จ
กิจกรรมสานสัมพันธ์ภายในคณะ
[แก้]- งานเมดไนท์ (Med Night)
- เป็นงานราตรีสังสรรค์ของคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงปลายเดือนมกราคม หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้นิสิตแพทย์ทุกชั้นปี ทุกศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกได้มาพบปะ พูดคุย สังสรรค์กัน นอกจากนี้ในงานยังมีพิธีรับขวัญโดยอาจารย์แพทย์ให้แก่นิสิตแพทย์ชั้นปี 3 ที่เตรียมตัวขึ้นเรียนในชั้นคลินิก รวมทั้งนิสิตแพทย์ชั้นปี 6 ที่กำลังจะจบการศึกษา
- งานปัจฉิมนิเทศนิสิตแพทย์ชั้นปี 3
- จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ภายหลังจบภาคเรียนที่ 2 ของนิสิตแพทย์ชั้นปี 3 โดยในงานนอกเหนือจากการปัจฉิมนิเทศโดยผู้บริหารคณะ รวมทั้งการแนะนำโรงพยาบาล และศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกต่างๆ ให้แก่นิสิตแพทย์ชั้นปี 3 ที่กำลังจะขึ้นเรียนต่อในชั้นปี 4 แล้ว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยนิสิตแพทย์ชั้นปี 1 และ 2 เพิ่อขอบคุณและเลี้ยงส่งพี่ๆ นิสิตแพทย์ปี 3 ที่จะแยกย้ายไปเรียนในโรงพยาบาลต่างๆ อีกด้วย
- งานปัจฉิมนิเทศนิสิตแพทย์ชั้นปี 6
- จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เช่นเดียวกัน โดยในงานจะเป็นการกล่าวให้โอวาทของผู้บริหารมหาวิทยาลัยและผู้บริหารคณะให้แก่นิสิตแพทย์ชั้นปี 6 ที่กำลังจะจบการศึกษา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเลี้ยงส่งซึ่งเป็นงานสังสรรค์ที่จัดขึ้นโดยคณะแพทยศาสตร์อีกด้วย
การพักอาศัยของนิสิตแพทย์
[แก้]สำหรับนิสิตแพทย์ชั้นปี 1 ทางมหาวิทยาลัยให้นิสิตชั้นปี 1 ทุกคณะ ทุกคน พักอาศัยอยู่ภายในหอพักนิสิตของมหาวิทยาลัยเพื่อให้มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเพื่อนนิสิตคณะอื่นๆ ซึ่งหอพักนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรนั้นตั้งอยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัยบริเวณข้างอ่างเก็บน้ำ เป็นอาคาร 4 ชั้น มีทั้งสิ้น 15 อาคาร โดยมี "อาคารขวัญเมือง" เป็นอาคารบริการและอาคารอเนกประสงค์ของหอพักนิสิต การพักอาศัยในหอพักของมหาวิทยาลัยนั้นจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายรายเทอม[52]
ในส่วนของนิสิตแพทย์ชั้นปี 2 - 6 สามารถย้ายเข้ามาพักอาศัยในหอพักนิสิตแพทย์ซึ่งเป็นหอพักของคณะแพทยศาสตร์เอง โดยเป็นอาคารหอพักสูง 4 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร บริเวณด้านข้างหอพักอาจารย์ มน.นิเวศ 6 และมีการเก็บค่าใช้จ่ายเป็นรายปี[53] การพักอาศัยในหอพักนิสิตแพทย์นี้ไม่เป็นการบังคับ ซึ่งนิสิตแพทย์สามารถเช่าหอพักเอกชนที่มีอยู่โดยรอบมหาวิทยาลัยได้[54]
ในส่วนของนิสิตแพทย์ชั้นปี 4 - 6 ที่ศึกษา ณ ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกในแต่ละแห่งนั้น นิสิตแพทย์สามารถพักอาศัยในหอพักนิสิตแพทย์ในโรงพยาบาลแต่ละแห่ง โดยมีการเก็บค่าใช้จ่ายเป็นรายปีเช่นเดียวกัน
ทำเนียบคณบดี
[แก้]รายนามคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบันมีดังนี้
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร | |
รายนามคณบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง |
---|---|
1. ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์สุจินต์ อึ้งถาวร | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 – 17 เมษายน พ.ศ. 2541 (รักษาการ) 18 เมษายน พ.ศ. 2541 – 17 เมษายน พ.ศ. 2545 |
2. รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ชุมนุม พรหมขัติแก้ว | 18 เมษายน พ.ศ. 2545 – 24 มกราคม พ.ศ. 2546 (รักษาการ) 25 มกราคม พ.ศ. 2546 – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2548 |
3. ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ศุภสิทธิ์ พรรณารุโณทัย | 1 กันยายน พ.ศ. 2548 – 26 มกราคม พ.ศ. 2550 (รักษาการ) 27 มกราคม พ.ศ. 2550 – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557 |
4. ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ศิริเกษม ศิริลักษณ์ | 1 กันยายน พ.ศ. 2557 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565 |
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพิริยา นฤขัตรพิชัย | 1 กันยายน พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 รังสรรค์ วัฒนะ. อนุทินของการเป็นมหาวิทยาลัยนเรศวร. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา,2547.
- ↑ "สถาบันแพทยศาสตร์ในประเทศไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-10. สืบค้นเมื่อ 2008-06-14.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 ประวัติโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร[ลิงก์เสีย]
- ↑ 4.0 4.1 [http://www.med.nu.ac.th/anniversary/index-inout.html[ลิงก์เสีย] การผลิตบัณฑิตแพทย์ รูปแบบมหาวิทยาลัยนเรศวร
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 "ประวัติคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-10. สืบค้นเมื่อ 2008-06-04.
- ↑ "ประวัติ-ความเป็นมา ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-12. สืบค้นเมื่อ 2007-12-12.
- ↑ "ประวัติ-ความเป็นมา ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลอุตรดิตถ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-10. สืบค้นเมื่อ 2008-06-14.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 คู่มือนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2551
- ↑ "การจัดการศึกษาในหลักสูตรต่างๆ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-09. สืบค้นเมื่อ 2008-05-09.
- ↑ "การขออนุมัติเปลี่ยนแปลงชื่อภาควิชาและจัดตั้งภาควิชาเพิ่มเติมของคณะแพทยศาสตร์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-18. สืบค้นเมื่อ 2010-05-17.
- ↑ "ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-23. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-11. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-23. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-30. สืบค้นเมื่อ 2011-08-23.
- ↑ "ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-23. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-03. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-23. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-30. สืบค้นเมื่อ 2013-10-29.
- ↑ "ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-23. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-23. สืบค้นเมื่อ 2010-07-05.
- ↑ "ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-05. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-04. สืบค้นเมื่อ 2010-07-05.
- ↑ "ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-23. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-23. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ "ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-23. สืบค้นเมื่อ 2008-03-12.
- ↑ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
- ↑ [1]
- ↑ ภาควิชารเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
- ↑ [2]
- ↑ [3]
- ↑ [4]
- ↑ [5]
- ↑ 33.0 33.1 "ประกาศมหาวิทยาลัยนเรศวร เรื่อง การรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้าศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (แนวใหม่) โครงการการผลิตแพทย์เพิ่มแนวใหม่เพื่อชาวชนบท" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 2012-07-22.
- ↑ 34.0 34.1 "หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2551". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 2010-02-17.
- ↑ ณะแพทยศาสตร์ต่าง ๆ ในประเทศ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ตามมาตรฐานสากล WFME Global Standards, Basic Medical Education จากสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ (สมพ.)
- ↑ "เป้าหมายในการบริหารมหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-12-28. สืบค้นเมื่อ 2005-12-28.
- ↑ "โครงสร้างองค์กรงานวิจัย ฝ่ายประกันคุณภาพและวิจัย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-07. สืบค้นเมื่อ 2008-06-15.
- ↑ "นโยบาย ยุทธศาสตร์และภารกิจการวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-20. สืบค้นเมื่อ 2008-06-15.
- ↑ "ผลงานวิจัย อาจารย์แพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-06. สืบค้นเมื่อ 2018-02-24.
- ↑ "ผลงานวิจัย อาจารย์แพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีงบประมาณ 2560". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-11-26. สืบค้นเมื่อ 2018-02-24.
- ↑ "ฐานข้อมูลผลงานวิจัยนิสิตแพทย์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-12. สืบค้นเมื่อ 2008-06-15.
- ↑ ศูนย์โรคเฉพาะทาง โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
- ↑ "สถานรักษาแก้ไขภาวะปากแหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้า มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-03-11. สืบค้นเมื่อ 2018-02-24.
- ↑ 44.0 44.1 "วารสารใต้ร่มเสลา ปีที่ 1 ฉบับที่ 4 พฤษภาคม 2551" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-12-22. สืบค้นเมื่อ 2021-09-07.
- ↑ 45.0 45.1 45.2 NU Newsletter Volume 6 Number 24 October-December 2007
- ↑ "ประวัติคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-12. สืบค้นเมื่อ 2007-05-12.
- ↑ "ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์และหน่วยงานปฏิบัติการกลางและส่งเสริมงานวิจัย คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-23. สืบค้นเมื่อ 2007-08-23.
- ↑ "มติที่ประชุมโดยย่อ คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยครั้งที่ 171 (5/2555) วันที่ 27 พฤษภาคม 2555 เรื่องรับทราบการพระราชทานชื่ออาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 1" และ "อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 2". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 2012-06-21.
- ↑ "โครงการพัฒนาระบบบริการระดับตติยภูมิ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 2009-11-26.
- ↑ "เวปไซต์กีฬาเข็มสัมพันธ์ครั้งที่ 25 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 2012-10-18.
- ↑ "พิธีไหว้ครู คณะแพทยศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2551". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 2008-06-19.
- ↑ "หอพักนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-21. สืบค้นเมื่อ 2021-08-14.
- ↑ ประกาศคณะแพทยศาสตร์ เรื่องการเข้าพักในหอพักนิสิตแพทย์ ปีการศึกษา 2551
- ↑ "รายชื่อหอพักเอกชนรอบบริเวณมหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-15. สืบค้นเมื่อ 2008-06-21.