โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
Buddhachinaraj Phitsanulok Hospital
กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2
Logo of Buddhachinaraj Hospital.jpg
ภูมิศาสตร์
ที่ตั้ง90 ถนนศรีธรรมไตรปิฎก ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก, ประเทศไทย
พิกัด16°48′30″N 100°15′49″E / 16.808436°N 100.263549°E / 16.808436; 100.263549พิกัดภูมิศาสตร์: 16°48′30″N 100°15′49″E / 16.808436°N 100.263549°E / 16.808436; 100.263549
หน่วยงาน
ประเภทภูมิภาค
สังกัดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
บริการสุขภาพ
จำนวนเตียง1,063 เตียง
ประวัติ
ชื่อเดิมโรงพยาบาลพิษณุโลก
เปิดให้บริการ20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2483
ลิงก์
เว็บไซต์www.budhosp.go.th/home/

โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เป็นโรงพยาบาลหลักของจังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย และจัดอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะโรงพยาบาลระดับภูมิภาค โดยมีศูนย์แพทยศาสตรศึกษา โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท ซึ่งจัดอบรมแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร[1] ตลอดจนเป็นโรงพยาบาลในเครือคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล[2]

ประวัติ[แก้]

ก่อน พ.ศ. 2483 จังหวัดพิษณุโลกมีเพียงสถานีอนามัยชื่อ 'สถานีอนามัยเบญจมราชานุสรณ์' หรือ 'สุขศาลาเบญจมราชานุสรณ์' ซึ่งมีที่ตั้งเป็นที่แห่งเดียวกับเทศบาลนครพิษณุโลก(หลังเก่า) ตรงข้ามกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก [ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานเทศกิจ เทศบาลนครพิษณุโลก] ใน พ.ศ. 2482 พ.อ.หลวงยุทธศาสตร์ประสิทธิ์ (เมี้ยน โรหิตเสรนี) ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ณ ขณะนั้น ร่วมกับพระยาสุราษฎร์ธานีศรีเกษตรนิคม (เต่า ศตะกุมะระ) และนายแพทย์ บุญเกิด ธนชาติ อนามัยจังหวัดพิษณุโลก(เปลี่ยนเรียกตำแหน่ง 'อนามัยจังหวัด' เป็น 'นายแพทย์ใหญ่' เมื่อปี พ.ศ.2516 และภายหลังเปลี่ยนมาเป็น 'นายแพทย์สาธารณสุขประจำจังหวัด' ในปี พ.ศ.2521) พร้อมด้วยแพทย์และขุนนางในท้องที่ได้ร้องขอเงินทุนจากกองสาธารณสุข (ปัจจุบันคือกระทรวงมหาดไทย) เพื่อทำการก่อสร้างโรงพยาบาลในพิษณุโลก และได้ประมูลทำสัญญาการก่อสร้างโรงพยาบาลในสมัยที่ พ.อ. พระศรีราชสงคราม(ศรี สุขะวาที) ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก(ข้าหลวง) ท่านต่อมา โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2483 ซึ่งถือเป็นวันก่อตั้งโรงพยาบาล แรกเริ่มตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนครูมูลกสิกรรม (ขณะนั้นเลิกกิจการไปเพราะเลิกล้มโครงการผลิตครูเกษตรกรรม ได้ย้ายไปที่ตั้งใหม่ที่ตำบลบ้านกร่าง คือ โรงเรียนเกษตรบ้านกร่าง และไปเปิดโรงเรียนช่างไม้ฝึกอาชีพฝีมือแทนการเกษตร คือ โรงเรียนจ่านกร้องในปัจจุบัน ต่อมาโรงเรียนวัดท่ามะปรางมาขอใช้สถานที่เดิมจะใช้อาคารของโรงเรียนเป็นที่ทำการของโรงพยาบาลระหว่างรอการก่อสร้างโรงพยาบาลแต่อาคารเรียนของโรงเรียนทั้งหมดถูกเพลิงไหม้) หรือ โรงเรียนพิษณุโลกวิทยายนเดิม ณ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านที่เรียกว่า "สระแก้ว" (ซึ่งเคยมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์โดยสันนิษฐานว่าเคยเป็นที่ตั้งชุมชนไพร่พลของสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุตเมื่อครั้งเสด็จฯ ยกทัพตีเมืองพิษณุโลก) ที่มีพื้นที่น้ำท่วมไม่ถึงเพียง 1 ใน 20 ของพื้นที่ทั้งหมด พร้อมทั้งได้ติดต่อนายแพทย์เบนทูล บุญอิต อดีตอาจารย์ศัลยศาสตร์จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาล คาร์ล เจ.เชลแมน (พ.ศ.2477 - 2481) ที่เปิดคลินิคอยู่ในตลาดเมืองพิษณุโลก

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากสงครามฝรั่งเศส-ไทย กับอินโดจีนของฝรั่งเศส นายแพทย์เบนทูล บุญอิตได้ทำการติดต่อขอเช่าสถานที่พร้อมเครื่องมือเครื่องใช้ของโรงพยาบาลโดยโรงพยาบาลคาร์ล เจ.เชลแมน ซึ่งได้ปิดกิจการลงเนื่องจากขาดแพทย์และเงินทุนสนับสนุนตั้งแต่ พ.ศ.2481 ในราคมเดือนละ 100 บาท โรงพยาบาลได้เปิดทำการชั่วคราวเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2484 เริ่มแรกมีข้าราชการสามัญ 9 คน วิสามัญ 16 คน เป็นแพทย์ 2 คน แพทย์อีกคน คือ แพทย์หญิง สุขี (โปตรนันทน์) อนุสารสุนทร และ พยาบาล 5 คน กระทั่งการก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบให้จังหวัดพิษณุโลกเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2484 และเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน โดยนางผกา (เหมินทร์) บุญอิต(ได้เข้ารับราชการโดยปฏิบัติงานที่สุขศาลาเบญจมราชานุสรณ์ตั้งแต่ พ.ศ.2482) หัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลพุทธชินราชในปัจจุบันมีเนื้อที่ 164 ไร่ 1 งาน 25 ตารางวา อาคารโรงพยาบาลที่สร้างรุ่นแรกมี 9 หลัง คือ

- ตึกอำนวยการ ด้านหน้ารับตรวจผู้ป่วยนอกซึ่งมีที่นั่งรอตรวจประมาณ 50 คน (ได้รื้อถอนในปี พ.ศ.2523

- เรือนคนไข้ชายและเรือนคนไข้หญิงโดยมีความจุ 50 เตียง แบ่งเป็นครึ่งหนึ่งสำหรับแต่ละเพศ (ชาย 25 เตียง - หญิง 25 เตียง)

- ตึกผ่าตัดอานันทมหิดล (ด้านหน้าเป็นธนาคารเลือดถึงปี พ.ศ.2522 และใช้เป็นธนาคารเลือดอีกในปี พ.ศ.2528 รื้อถอนเมื่อปี พ.ศ.2543 เพื่อก่อสร้างอาคารรังสีและผ่าตัด)

- โรงซักฟอก

- โรงครัว

- โรงเก็บศพ

- เรือนแถว 10 ห้องสำหรับเจ้าหน้าที่พัก

- บ้านพักผู้อำนวยการโรงพยาบาล(เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูงได้รื้อถอนเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ.2538)

วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2485 กรมสาธารณสุขได้แยกจากสังกัดเดิมคือกระทรวงมหาดไทย มาเป็นกระทรวงสาธารณสุข เดิมโรงพยาบาลชื่อ 'โรงพยาบาลพิษณุโลก' แต่ต่อมา พ.อ.หลวงยุทธศาสตร์ประสิทธิ์ (เมี้ยน โรหิตเสรนี) ผู้ว่าราชการ(ข้าหลวง)จังหวัดพิษณุโลกดำริขอให้เพิ่มคำว่า 'พุทธชินราช' ขึ้นนำหน้าเพื่อเป็นสิริมงคล จึงได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น 'โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก' เพื่อเป็นเกียรติแก่พระพุทธชินราช ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อักษรย่อของโรงพยาบาลจึงเป็น พ.พ. และได้เริ่มพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2485(เดิมกำหนดเปิดวันและเดือนเดียวกันในปี พ.ศ.2484) โดย พ.ต.นายแพทย์นิตย์ เวชชวิศิษฎ์ อธิบดีกรมการแพทย์ในขณะนั้นเป็นประธานในพิธีเปิด

ราวปี พ.ศ.2491-2492 ได้แบ่งงานเป็นแผนกสูติกรรม กุมารเวชกรรม ศัลยกรรม อายุรกรรม และรังสี นับเป็นโรงพยาบาลในต่างจังหวัดแห่งแรกของกรมการแพทย์ที่แบ่งงานเป็นแผนกดังกล่าวนี้ ต่อมาในปี พ.ศ.2492 นายแพทย์เบนทูล บุญอิตและนางผกา บุญอิตได้เปิดดำเนินการ 'โรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัย โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก' เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2491 เปิดการสอนรุ่นแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2492 (ซึ่งถือเป็นวันสถาปนาวิทยาลัยพยาบาลแห่งนี้ในปัจจุบัน) ซึ่งประสบความสำเร็จภายใต้การสนับสนุนของท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม เป็นโรงเรียนพยาบาลแห่งแรกในส่วนภูมิภาค และในขณะเดียวกันตั้งแต่เริ่มเปิดโรงเรียนพยาบาล นางผกาได้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ผู้ปกครองนักเรียนพยาบาลควบกับตำแหน่งหัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลพุทธชินราช อีกทั้งเมื่อนายแพทย์เบนทูลเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2501 นางผกาได้รักษาทั้งสองตำแหน่งนี้จนถึงปี พ.ศ.2506 ต่อมาในปี พ.ศ.2518 ได้ยกฐานะขึ้นเป็น 'วิทยาลัยพยาบาลพุทธชินราช' ได้รับการจัดตั้งขึ้น โดยเป็นวิทยาลัยพยาบาลแห่งแรกนอกกรุงเทพมหานคร และเมื่อปี พ.ศ.2536 ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่รู้จักในนาม "วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พุทธชินราช" เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

โรงพยาบาลพุทธชินราชได้มีการจัดประชุมแพทย์ในภาคเหนือเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2493 มีการสร้างสโมสรและสนามเทนนิสเป็นที่พบปะของข้าราชการจังหวัดพิษณุโลก(ปัจจุบันสนามเทนนิสได้ย้ายไปที่บริเวณศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก) อนึ่ง นายแพทย์เบนทูล บุญอิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนแรกหลังจากเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2501 แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอาจารย์พิเศษจนถึงปี พ.ศ.2509 และเสียชีวิตลงในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ.2511 ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2504 ได้ริเริ่มเปิดรับแพทย์ฝึกหัดครั้งแรกจำนวน 3 คน กระทั่งต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ.2517 นายแพทย์อัฐ เกตุสิงห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในขณะนั้นได้ริเริ่มจัดสร้างอนุเสาวรีย์เบนทูล-ผกา บุญอิตเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของท่านทั้งสอง โดยนายอัมพร จันทรวิจิตร รองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นประธานในพิธีเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2519(วันคล้ายวันเกิดนายแพทย์เบนทูล บุญอิต)

นอกจากนี้โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลกได้รับการจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลมหาราชด้วยตั้งแต่ พ.ศ.2525 ให้บริการด้านการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคทุกสาขาวิชาแพทย์ในระดับตติยภูมิ รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพ ส่งเสริมสุขภาพและการควบคุมป้องกันโรค ทั้งยังเป็นสถานที่ศึกษาและฝึกอบรมบุคลากรด้านกิจการสาธารณสุขต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขและของสถาบันระดับอุดมศึกษาอื่นๆ ทั้งของรัฐและเอกชน ตลอดจนรับนักศึกษาแพทย์จากต่างประเทศที่สนใจเข้าอบรม

ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2537 และวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2538 กำหนดให้โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก สังกัดกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีครั้งเดียวกันด้วยข้อตกลงเรื่องความร่วมมือในการผลิตแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและทบวงมหาวิทยาลัย และอบรมแพทย์ในโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ทางโรงพยาบาลพุทธชินราชรับผิดชอบการเรียนการสอนแพทยศาสตร์ในระดับคลินิกคือชั้นปีที่ 4-6 ได้เริ่มรับนิสิตแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร(เริ่มทำการสอนนิสิตแพทย์รุ่นแรกในปลายชั้นปีที่ 3 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2540) ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ.2541 เป็นรุ่นแรก ทั้งนี้นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 มีบัณฑิตแพทย์ที่เรียนชั้นคลินิกที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลกสำเร็จการศึกษามาแล้วถึง 18 รุ่น รวมจำนวนทั้งสิ้น 985 คน[3]

ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก[แก้]

ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก
โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก
โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
ชื่ออังกฤษBuddhachinaraj Phitsanulok Hospital
Medical Education Center
ผู้อำนวยการพญ.อรวรรณ ไชยมหาพฤกษ์
สัญลักษณ์ตราสัญลักษณ์โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
วารสารพุทธชินราชเวชสาร
สถานปฏิบัติการโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
ที่อยู่90 ถนนศรีธรรมไตรปิฎก ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 65000

ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เป็นศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก สังกัดโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก และเป็นสถาบันร่วมผลิตแพทย์แห่งแรกกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2537

ประวัติ[แก้]

ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2537 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2538 ที่เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินโครงการร่วมผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท โดยกำหนดให้โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่เป็นสถาบันการศึกษาแพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และมีการทำข้อตกลงเรื่องความร่วมมือในการร่วมผลิตแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2538 โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก จึงได้เริ่มรับนิสิตแพทย์รุ่นแรกจำนวน 33 คน จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรตั้งแต่เดือน เมษายน พ.ศ. 2541 โดยทางโรงพยาบาลได้รับจัดสรรงบประมาณในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข เป็นเงิน 555.68 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารเรียนรวม 1 หลัง และอาคารหอพักนิสิตแพทย์ 1 หลัง

ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้ามาร่วมพัฒนาในด้านการจัดทำหลักสูตรรายวิชาและการพัฒนาอาจารย์แพทย์และบุคลากรร่วมกัน รวมทั้งการชี้แจงนโยบายด้านการประกันคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัยนเรศวร ต่อมาได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้อำนวยการศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก เป็นรองคณบดีฝ่ายคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาจนถึงปัจจุบัน

ลักษณะพิเศษของ โครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทก็คือ การคัดเลือกนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากภูมิภาคและให้กลับไปทำงานที่ภูมิลำเนาเดิม เพื่อเป็นการกระจายโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาวิชาแพทยศาสตร์มากขึ้น เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องปฏิบัติงานในภูมิลำเนาเดิมไม่น้อยกว่า 3 ปี หากไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ จะต้องชดใช้ทุนให้แก่กระทรวงสาธารณสุขตามที่กำหนด

หลักสูตรการศึกษา[แก้]

ปัจจุบัน ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก จัดการเรียนการสอนในระดับชั้นคลินิก ตามหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ใน 1 หลักสูตร คือ

ปริญญาตรี
สถาบันอุดมศึกษา

ระยะเวลาในการศึกษา[แก้]

ใช้ระยะเวลาในการศึกษาตลอดหลักสูตรรวม 6 ปี ดังนี้

ระดับชั้น
สถานที่ศึกษา
  • ระดับชั้นเตรียมแพทยศาสตร์และชั้นปรีคลินิก (ชั้นปี 1 - 3)
  • ระดับชั้นคลินิก (ชั้นปี 4 - 6)

การรับบุคคลเข้าศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต[แก้]

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

โครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD) ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รับนักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตพื้นที่บริการการศึกษาของมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี และพะเยา โดยนิสิตแพทย์กลุ่มนี้จะทำการเรียนชั้นคลินิกที่ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก หรือศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เมื่อจบการศึกษาแล้วจะต้องทำงานใช้ทุนในจังหวัดภูมิลำเนาของตนเองเป็นเวลา 3 ปี โครงการนี้จะดำเนินการเปิดรับสมัครในช่วงประมาณเดือนกันยายนของทุกปี ตามประกาศรับตรงประจำปีของมหาวิทยาลัยนเรศวร

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "CPIRD". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-05-02. สืบค้นเมื่อ 2018-05-24.
  2. "หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต (ฉบับปรับปรุงพ.ศ.๒๕๕๖) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล" (PDF). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-09-12.
  3. "ประวัติโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-03-04. สืบค้นเมื่อ 2022-03-04.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]