รายพระนามจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล
จักรพรรดิโมกุล ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ถึงกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งปกครองในจักรวรรดิโมกุลบนอนุทวีปอินเดีย ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นประเทศอินเดีย, ปากีสถาน, อัฟกานิสถาน และบังกลาเทศ. พวกโมกุลแยกมาจากราชวงศ์ตีมูร์แห่งเติรโก-มองโกล (Turco-Mongol) ที่มีเชื้อสายจากเอเชียกลาง โดยจักรพรรดิบาบูร์ ทรงเป็นลูกหลานของตีมูร์ (รู้จักกันในตะวันตกว่า แทมเมอร์เลนด์ (Tamerlane)) และทรงร่วมกับเจงกีส ข่านในตอนที่ตีมูร์แต่งงานกับเจ้าหญิงตระกูลเจงกิซิด. (Genghisid)
จักรวรรดิโมกุลช่วงหลังที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวอินเดียราชพุทธ (Rajput) และเปอร์เซียจากการแต่งงานของจักรพรรดิที่ประสูติในราชพุทธกับเจ้าหญิงเปอร์เซีย[1][2] ตัวอย่างเช่น จักรพรรดิอักบัร ทรงเป็นลูกครึ่งเปอร์เซ๊ย (มารดาพระองค์มีเชื้อสายเป็นชาวเปอร์เซีย), จักรพรรดิชะฮันคีร์ทรงเป็นลูกครึ่งราชพุทธ และหนึ่งส่วนสี่ของเปอร์เซีย และจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ทรงเป็นหนึ่งส่วนสามของราชพุทธ[3]
ในสมัยการปกครองตามหลักชะรีอะฮ์ของจักรพรรดิออรังเซพ จักรวรรดิโมกุลครองทรัพย์สินไปกว่า 25% ของหุ้นส่วนโลกตาม GDP โดยควบคุมทั้งอนุทวีปอินเดีย โดยขยายจากจิตตะกอง ไปทางตะวันออกสุดที่คาบูล ทางตะวันตกสุดที่แคว้นบาโลชิสถาน ทางเหนือสุดที่รัฐชัมมูและกัศมีร์ และทางใต้สุดที่แม่น้ำคะเวรี (Kaveri River)[4] ประชากรในจักรวรรดิเวลานั้นอยู่ที่ระหว่าง 110 และ 150 ล้านคน (หนึ่งส่วนสี่ของประชากรโลกในสมัยนั้น) ในพื้นที่มากกว่า 4 ล้านตารางกิโลเมตร (1.2 ล้านตารางไมล์)[5] อำนาจของจักรวรรดิลดลงอย่างมากในศตวรรษที่ 18 และบาฮาดูร์ ชาฮ์ที่ 2 จักรพรรดิองค์สุดท้าย ถูกปลดในปีค.ศ.1857 ด้วยการสถาปนาบริติชราช.[6]
รายพระนามจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล
[แก้]- ช่องสีเงินหมายถึงจักรพรรดิที่มาจากราชวงศ์ซูรี ปกครองทางตอนเหนือของอินเดีย.
พระบรมสาทิสลักษณ์ | พระนามเมื่อราชาภิเษก | พระนามเดิม | ประสูติ | รัชสมัย | สวรรคต | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|
จักรพรรดิบาบูร์ بابر |
ซาฮีร์-อุด-ดิน มูฮัมมัด บาบูร์ ظہیر الدین محمد |
23 กุมภาพันธ์ 1483 | 30 เมษายน 1526 – 26 ธันวาคม 1530 | 26 ธันวาคม 1530 (พระชนม์ 47) | ||
จักรพรรดิหุมายุน ہمایوں |
นาซีร์ อุด-ดิน โมฮัมมัด หุมายุน نصیر الدین محمد ہمایوں (รัชสมัยแรก) |
17 มีนาคม 1508 | 26 ธันวาคม 1530 – 17 พฤษภาคม 1540 | 27 มกราคม 1556 (พระชนม์ 47) | ||
เชอร์ชาห์สุรี شیر شاہ سوری |
ฟารีด ข่าน فرید خان |
1486 | 17 พฤษภาคม 1540 – 22 พฤษภาคม 1545[7] | 22 พฤษภาคม 1545 | ||
อิสลามชาห์สุรี اسلام شاہ سوری |
จาลาล ข่าน جلال خان |
? | 26 พฤษภาคม 1545 – 22 พฤศจิกายน 1554[8] | 22 พฤศจิกายน 1554 | ||
จักรพรรดิหุมายุน ہمایوں |
นาซีร์ อุด-ดิน โมฮัมมัด หุมายุน نصیر الدین محمد ہمایوں (รัชกาลที่ 2) |
17 มีนาคม 1508 | 22 กุมภาพันธ์ 1555 – 27 มกราคม 1556 | 27 มกราคม 1556 (age 47) | ||
จักรพรรดิอักบัรที่ 1 اکبر اعظم |
ญะลาล อุดดีน มุฮัมมัด อักบัร جلال الدین محمد اکبر |
14 ตุลาคม 1542 | 27 มกราคม 1556 – 27 ตุลาคม 1605 | 27 ตุลาคม 1605 (พระชนม์ 63) | ||
จักรพรรดิชะฮันคีร์ جہانگیر |
นูรุดดีน สะลีม ชะฮันคีร์ نور الدین محمد سلیم |
20 กันยายน 1569 | 15 ตุลาคม 1605 – 8 พฤศจิกายน 1627 | 8 พฤศจิกายน 1627 (พระชนม์ 58) | ||
จักรพรรดิชาห์ชะฮันที่ 1 شاہ جہان اعظم |
ชาฮาบุดดีน มุฮัมมัด คุรรัม شہاب الدین محمد خرم |
5 มกราคม 1592 | 8 พฤศจิกายน 1627 – 2 สิงหาคม 1658 | 22 มกราคม 1666 (พระชนม์ 74) | ||
จักรพรรดิออรังเซพที่ 1 عالمگیر |
อาบุล มูซัฟฟาร์ มูฮี-อุด-ดิน โมฮัมมัด ออรังเซพ محی الدین محمداورنگزیب |
4 พฤศจิกายน 1618 | 31 กรกฎาคม 1658 – 3 มีนาคม 1707 | 3 มีนาคม 1707 (พระชนม์ 88) | ||
จักรพรรดิอาซัม ชาห์ | อับดุล ฟาอิซ คัตบุตดีน มูฮัมหมัด อาซัม | 28 มิถุนายน 1653 | 14 มีนาคม 1707 – 8 มิถุนายน 1707 | 8 มิถุนายน 1707 (พระชนม์ 53) | ||
จักรพรรดิบาฮาดูร์ ชาห์ที่ 1 | คุธบุดดีน มูฮัมหมัด มูอัซซาม | 14 ตุลาคม 1643 | 19 มิถุนายน 1707 – 27 กุมภาพันธ์ 1712
(4 years, 253 days) |
27 กุมภาพันธ์ 1712 (พระชนม์ 68) | ทรงผูกมิตรกับผู้นับถือศาสนาซิกข์ในปัญจาบ | |
จักรพรรดิจาฮานดาร์ ชาห์ | มาอาซุดดีน จาฮานดาร์ ชาห์ บาฮาดูร์ | 9 May 1661 | 27 กุมภาพันธ์ 1712 – 11 กุมภาพันธ์ 1713
(0 years, 350 days) |
12 กุมภาพันธ์ 1713 (พระชนม์ 51) | Highly influenced by his Grand Vizier Zulfikar Khan. | |
จักรพรรดิฟารุกซียะห์ | ฟารุกซียะห์ | 20 สิงหาคม 1685 | 11 มกราคม 1713 – 28 กุมภาพันธ์ 1719
(6 years, 48 days) |
29 เมษายน 1719 (พระชนม์ 33) | Granted a firman to the East India Company in 1717 granting them duty-free trading rights for Bengal, strengthening their posts in east coast. | |
จักรพรรดิราฟี อุด ดาราจัต | ราฟี อุด ดาราจัต | 30 พฤศจิกายน 1699 | 28 กุมภาพันธ์ – 6 มิถุนายน 1719
(0 years, 98 days) |
9 June 1719 (พระชนม์ 19) | เกิดกบฏ พี่น้องซัยยิด . | |
จักรพรรดิชาห์ชะฮันที่ 2 | ราฟี อุดดอเลาะห์ | มิถุนายน 1696 | 6 มิถุนายน 1719 – 19 กันยายน 1719
(0 years, 105 days) |
19 กันยายน 1719 (พระชนม์ 23) | ---- | |
จักรพรรดิมูฮัมหมัด ชาห์ | โรชาน อัคทาร์ บาฮาดูร์ | 17 สิงหาคม 1702 | 27 กันยายน 1719 – 26 เมษายน 1748
(28 years, 212 days) |
26 April 1748 (พระชนม์ 45) | พี่น้องซัยยิดก่อกบฏ. เกิดสงครามระยะยาวกับพวกมราฐะส่งผลให้เสีย เดกกัน และ มัลวะ ในภายหลัง Suffered the invasion of Nadir Shah of Persia in 1739. ทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์สุดท้ายที่มีพระราชอำนาจปกครองจักรวรรดิอย่างแท้จริง | |
อาเหม็ด ชาห์ บาฮาดูร์ | อาเหม็ด ชาห์ บาฮาดูร์ | 23 ธันวาคม 1725 | 26 เมษายน 1748 – 2 มิถุนายน 1754
(6 years, 37 days) |
1 January 1775 (พระชนม์ 49) | จักรวรรดิโมกุลแพ้ในยุทธการสิกานการาบาต | |
จักรพรรดิออรังเชพที่ 2 | อาซิสอุดดีน | 6 มิถุนายน 1699 | 2 มิถุนายน 1754 – 29 พฤศจิกายน 1759
(5 years, 180 days) |
29 November 1759 (พระชนม์ 60) | เป็นหุ่นเชิดของวิเชียร์ อิมัด อัล มรรค | |
จักรพรรดิชาห์ชะฮันที่ 3 | มูฮี อัล มิลัต | 1711 | 10 ธันวาคม 1759 – 10 ตุลาคม 1760 | 1772 | มีการรวมตัวของเจ้าเมืองในเบงกอล, พิหาร, และโอดิชา, เกิดเหตุ ยุทธการบูซาร์. ไฮเดอร์ อาลี ตั้งตนเป็น สุลต่าน แห่ง ไมซอเร ในปี 1761; | |
จักรพรรดิชาห์ อาลัมที่ 2 | อาลี กอฮาร์ | 25 มิถุนายน 1728 | 24 ธันวาคม 1759 – 19 พฤศจิกายน 1806 (46 years, 330 days) | 19 พฤศจิกายน 1806 (พระชนม์ 78) | The execution of Tipu Sultan of Mysore in 1799 | |
จักรพรรดิอักบัรที่ 2 | ไมร์ซา อักบาร์ | 22 เมษายน 1760 | 19 พฤศจิกายน 1806 – 28 กันยายน 1837 | 28 กันยายน 1837 (พระชนม์ 77) | Titular figurehead under British protection. | |
จักรพรรดิบาฮาดูร์ ชาห์ที่ 2 | อะบู ซาฟาร์ ศิลาจุดดิน มูอัมหมัด บาฮาดูร์ ชาห์ ซาฟาร์ | 24 ตุลาคม 1775 | 28 กันยายน 1837 – 14 กันยายน 1857 (19 years, 351 days) | 7 พฤศจิกายน 1862 | จักรพรรดิพระองค์สุดท้าย. ถูกปลดโดยอังกฤษและถูกเนรเทศไปที่ พม่า หลังจากเกิดกบฏซีปอย |
หมายเหตุ:จักรพรรดิจักรวรรดิโมกุลมีคติพหุภรรยา ทรงมีพระชายามากมายฮาเร็ม เพื่อให้มีรัชทายาท จึงเป็นการยากที่จะระบุจำนวนพระราชโอรสธิดาในจักรพรรดิแต่ละพระองค์ [9]
รัฐถัดไป
[แก้]ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Jeroen Duindam (2015), Dynasties: A Global History of Power, 1300–1800, page 105, Cambridge University Press
- ↑ Mohammada, Malika (January 1, 2007). The Foundations of the Composite Culture in India. Akkar Books. p. 300. ISBN 978-8-189-83318-3.
- ↑ Dirk Collier (2016). The Great Mughals and their India. Hay House. p. 15.
- ↑ Chandra, Satish. Medieval India: From Sultanate To The Mughals. p. 202.
- ↑ Richards, John F. (January 1, 2016). Johnson, Gordon; Bayly, C. A. (บ.ก.). The Mughal Empire. The New Cambridge history of India: 1.5. Vol. I. The Mughals and their Contemporaries. Cambridge: Cambridge University Press. pp. 1, 190. doi:10.2277/0521251192. ISBN 978-0521251198.
- ↑ Spear 1990, pp. 147–148
- ↑ Majumdar, R.C. (ed.) (2007). The Mughul Empire, Mumbai: Bharatiya Vidya Bhavan, ISBN 81-7276-407-1, p.83
- ↑ Majumdar, R.C. (ed.) (2007). The Mughul Empire, Mumbai: Bharatiya Vidya Bhavan, ISBN 81-7276-407-1, pp.90–93
- ↑ Dalrymple, William (2006). The Last Mughal. London: Bloomsbury Publishing Plc. p. 44. ISBN 978-1-4088-0092-8.
- บทความนี้รวมเอางานสาธารณสมบัติจากประเทศศึกษา หอสมุดรัฐสภา - อินเดีย ปากีสถาน
สารานุกรม
[แก้]- Majumdar, R. C. (ed.), The History and Culture of the Indian People, Volume VI, The Delhi Sultanate, Bombay, 1960; Volume VII, The Mughal Empire, Bombay, 1973.