ข้ามไปเนื้อหา

บุญศรี รัตนัง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บุญศรี รัตนัง
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด5 มีนาคม พ.ศ. 2496
อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
เสียชีวิต19 สิงหาคม พ.ศ. 2564 (68 ปี)
โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
คู่สมรสจินตนา รัตนัง (สมรส 2520)
บุตร
  • นพดล
  • มณีรัตน์
อาชีพนักร้อง นักดนตรี
นักแต่งเพลง
ปีที่แสดงพ.ศ. 2525 - 2564
รางวัล
ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีพื้นบ้านล้านนา)

บุญศรี รัตนัง (5 มีนาคม พ.ศ. 2496 - 19 สิงหาคม พ.ศ. 2564) เป็นนักร้องเพลงซอที่มีผลงานอย่างแพร่หลายในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง จนได้รับการยกย่องเป็นบุคคลดีเด่นทางวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2533

ประวัติ

[แก้]

บุญศรี เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2496 ที่บ้านป่าเหมือด ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรนายดวงคำ นางจันทร์เที่ยง รัตนัง มีพี่น้อง 4 คน ด้านครอบครัวสมรสนางจินตนา รัตนัง เมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2520 มีบุตร 2 คน คือนพดล รัตนัง และมณีรัตน์ รัตนัง (อ้อม รัตนัง) ศิลปินและนักร้อง

บุญศรีมีนิสัยการดีด สี ตีเป่า มาตั้งแต่เล็ก ได้ฝึกการเล่นดนตรีพื้นเมืองประเภทซึง-สะล้อ ขลุ่ย จากลุงของตน คือ นายสิงห์คำ รัตนัง ตั้งแต่เยาว์วัย สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านป่าเหมือด เมื่อปี 2506 เริ่มเรียนเป่าปี่กับพ่อสม บุญเรือง ช่างเป่าปี่ มีชื่อในขณะนั้น พ.ศ. 2515 หันมาเรียนขับซอกับพ่อหนานตา ตันเงิน ที่บ้านป่าแงะ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม

บุญศรีได้รับการประกาศเกียรติคุณให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2560 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีพื้นบ้านล้านนา) และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์

การทำงาน

[แก้]

บุญศรี มีอาชีพทำไร่ทำนาเช่นเดียวกับบิดามารดา ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 เริ่มรับจ้างเป่าปี่ในงานซอ เล่นตลกประจำคณะละครซอลูกเอื้องเมืองเหนือ ในปี พ.ศ. 2516 ทำงานทั่วไปประจำวงดนตรี คณะอำนวยโชว์ ของอำนวย กลำพัด ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ตั้งวงดนตรีพื้นเมืองประยุกต์ชื่อวง “ลูกทุ่ง ลานทอง” และย้ายมาเล่นตลกในคณะประสิทธิ ศรีสมเพชร ในตลกคณะ “จอกจมูกแดง” ในปี พ.ศ. 2522 ปีต่อมาเข้าสู่วงการซอโดยได้รับการสนับสนุนจากประสิทธิ ศรีสมเพชร และเริ่มฝึกแต่งเพลง ใส่ทำนองเพลงแนวพื้นบ้านภาคเหนือ

ในปี พ.ศ. 2525 เริ่มร้องเพลงลูกทุ่งคำเมืองชุด "ลุงอดผ่อบ่ได้" และ "บ่าวเคิ้น" ได้รับการสนับสนุนจากแฟนเพลงในภาคเหนือ และเป็นนักร้องประจำอยู่วงดนตรีคณะศรีสมเพชรวงใหญ่ ถือว่าเป็นบุคคลแรกที่เริ่มต้นสร้างแนวเพลงนี้ขึ้น[1] จากนั้น พ.ศ. 2526 - พ.ศ. 2528 ได้ตั้งกิจการวงดนตรีตนเอง แต่ประสบปัญหาขาดทุนจึงต้องหยุดการแสดง จึงหันเข้าสู่วงการซออีกครั้งหนึ่งทำผลงานซอออกมาอีก นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา

อัลบั้ม ลุงอดผ่อบ่อได้ พ.ศ. 2525

ผลงาน

[แก้]

อัลบั้ม

[แก้]
  • พ.ศ. 2526 - เมาตึงวัน, สามตอง และเบื่อผัวสามตอง
  • พ.ศ. 2527 - หนุ่มรถอีแต๋นครวญ และ คุณนายป่ามป้าม
  • พ.ศ. 2528 - เฒ่าจอมโว และ เฒ่าชีกอ
  • พ.ศ. 2529 - ซอลูกทุ่งเบิกฟ้า, ผัวเปรต และเมียยักษ์
  • พ.ศ. 2530 - ผัวอี่แก้ว และ ซอสามจังหวะ
  • พ.ศ. 2531 - มันง่ายดี และ อย่าปิ๊งเดี๋ยวป่อง
  • พ.ศ. 2532 - ปอแล้วหวย และ รักเมียหลวงห่วงเมียน้อย
  • พ.ศ. 2533 - ไม่บอกก็รู้ และ ปี๋ใหม่เมือง
  • พ.ศ. 2534 - คนอู้เอ็น และ คนมักไมค์
  • พ.ศ. 2535 - นักเลงไก่ชน และ ไม่มีสิทธิ์อย่ามาขวาง
  • พ.ศ. 2536 - ว.2 ว.8 และ เมียบ่ฮู้ใจ๋
  • พ.ศ. 2537 - แตงดังควาย และ นักมวยขี้ไห้
  • พ.ศ. 2538 - บ่ฮู้คิง และ เงินบาทลอยตัว
  • พ.ศ. 2539 - อเมดซิ่งไทยแลนด์ และ กลองยาวสามช่า ปี๋ใหม่เมือง แห่ครัวตาน (ซึ่งอัลบั้ม กลองยาวสามช่านี้ มีเพลงที่ทำให้ได้รับรางวัล ศิลปินเพลงยอดเยี่ยมพื้นบ้านภาคเหนือ รางวัลพระพิฆเนศทองพระราชทาน ครั้งที่ ๑ จากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย คือ เพลง แห่ครัวตาน ได้เข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี)
  • พ.ศ. 2543 - ขี้เมาอ้อนเมีย
  • พ.ศ. 2544 - จัดระเบียบสังคม
  • พ.ศ. 2548 - ขี้เมาสามช่า และได้ทำอัลบั้มเพลงลูกทุ่งคำเมืองให้กับ น.ส.มณีรัตน์ รัตนัง โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า “ สาวเคิ้น ”
  • พ.ศ. 2549 - แหล่หอยไห้ เป็นการนำเอาเพลงเก่า มาบันทึกเสียงใหม่
  • พ.ศ. 2550 - กะเทยเฒ่า

เพลงประจำโรงเรียน

  • พ.ศ. 2554 - เพลงไหว้สาเจ้าพิริยะเทพวงศ์ (ได้รับเชิญให้ขับร้องเป็นเพลงเทิดพระเกียรติเจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์[2] เจ้าผู้ครองเมืองแพร่ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนเทพวงษ์ ปัจจุบันนามว่า โรงเรียนพิริยาลัยและในโอกาสโรงเรียนอายุครบ 111 ปี[3] ประพันธ์โดย ครูสุกัญญา วุฒิเจริญ ทำนองโดย ครูวันชัย คุณาคำ บรรเลงโดย วงโยธวาทิตโรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ ซึ่งอยู่ในการควบคุมโดย ครูวันชัย ขณะนั้น) โดยเนื้อหาจะกล่าวถึงคุณงามความดีและพระเมตตาของเจ้าหลวงที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาทรงอยากให้เยาวชนในจังหวัดแพร่มีความรู้เพื่อใช้ในการพัฒนาจังหวัดและประเทศชาติ ทรงสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่อยากให้คนไทยมีการศึกษาและทรงสร้างโรงเรียนขึ้นเป็นโรงเรียนแห่งแรกในจังหวัดแพร่ความทราบถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5 ทรงดีพระทัยและทรงยินดีจึงโปรดเกล้าพระราชทานนามโรงเรียนว่า "โรงเรียนเทพวงษ์"

รางวัลเกียรติประวัติ

[แก้]
  • ชนะการแข่งขันการประกวดวงดนตรีพื้นเมืองประยุกต์ ในนามวง “ ลูกทุ่งลานทอง ” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ที่รายการลูกทุ่งลานนา สถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 ลำปาง เมื่อปี พ.ศ. 2526
  • ได้รับโล่ประเภทสื่อชาวบ้าน จากพลเอกประจวบ สุนทรางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2525 เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2526
  • ได้รับการประกาศให้เป็นบุคลากรดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม จากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม วิทยาลัยครูเชียงใหม่ และศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2533
  • ได้รับโล่เกียรติคุณจากมหาวิทยาลัยพายัพ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 [4]
  • ได้รับการประกาศเกียรติคุณให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2560 สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีพื้นบ้านล้านนา) และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ ๔ ชื่อ จตุตถดิเรกคุณาภรณ์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

การเสียชีวิต

[แก้]

บุญศรี รัตนัง เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.45 น. ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ สิริอายุ 68 ปี[6] เมื่อแฟนเพลงและศิลปินคนอื่น ๆ ที่รู้จักบุญศรี ต่างรู้สึกตกใจและเสียใจ

มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.00 น. ณ วัดหนองเต่าคำ ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเครื่องประกอบเกียรติยศ คือ หีบลายก้านแย่ง ซึ่งมีท่านวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานในพิธี รวมถึงการสวดอภิธรรมในคืนแรก

และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:00 น. ณ สุสานบ้านหนองเต่าคำ ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระครูอดุลสีลกิตติ์ เป็นประธานในพิธี

อ้างอิง

[แก้]
  1. "[[มหาวิทยาลัยพายัพ]]มอบโล่เกียรติคุณ แด่ พ่อครูบุญศรี รัตนัง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-27. สืบค้นเมื่อ 2010-08-06.
  2. เจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์
  3. โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่
  4. "มหาวิทยาลัยพายัพมอบโล่เกียรติคุณ แด่ พ่อครูบุญศรี รัตนัง วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-14. สืบค้นเมื่อ 2010-08-06.
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๖๔ เก็บถาวร 2022-05-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๒ ข หน้า ๒๔๐, ๒๙ มกราคม ๒๕๖๔
  6. อาลัย ‘พ่อครูบุญศรี รัตนัง’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง เสียชีวิตในวัย 68 ปี