ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จื๋อโนม"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 6: | บรรทัด 6: | ||
[[เวียดนาม]]ถูก[[จีน]]ปกครองนานนับพันปีระหว่างพ.ศ. 432 – 1481 เป็นผลให้ภาษาเขียนในทางราชการเป็น[[ภาษาจีน]]โบราณที่รู้จักในชื่อจื๋อโญ (Chữ Nho; 字儒) ใน[[ภาษาเวียดนาม]]ซึ่งยังใช้ต่อมาในเวียดนามคู่กับอักษรจื๋อโนม (Chữ Nôm; 字喃) และ{{nowrap|โกว๊กหงือ}} (Quốc Ngữ) จนถึง พ.ศ. 2461 |
[[เวียดนาม]]ถูก[[จีน]]ปกครองนานนับพันปีระหว่างพ.ศ. 432 – 1481 เป็นผลให้ภาษาเขียนในทางราชการเป็น[[ภาษาจีน]]โบราณที่รู้จักในชื่อจื๋อโญ (Chữ Nho; 字儒) ใน[[ภาษาเวียดนาม]]ซึ่งยังใช้ต่อมาในเวียดนามคู่กับอักษรจื๋อโนม (Chữ Nôm; 字喃) และ{{nowrap|โกว๊กหงือ}} (Quốc Ngữ) จนถึง พ.ศ. 2461 |
||
ในช่วงประมาณ พ.ศ. 1500 ชาวเวียดนามปรับปรุงอักษรจีนใช้เขียนภาษาของตน เรียกว่าอักษรจื๋อโนมหรืออักษรใต้ ตัวอย่างที่เก่าที่สุดของอักษรนี้คือจารึกโลหะที่เจดีย์เบ๋าอัน (Bao An) ในเยนลัง (Yen Lang) จังหวัด |
ในช่วงประมาณ พ.ศ. 1500 ชาวเวียดนามปรับปรุงอักษรจีนใช้เขียนภาษาของตน เรียกว่าอักษรจื๋อโนมหรืออักษรใต้ ตัวอย่างที่เก่าที่สุดของอักษรนี้คือจารึกโลหะที่เจดีย์เบ๋าอัน (Bao An) ในเยนลัง (Yen Lang) จังหวัดวิญฝู (Vinh Phu) อายุราว พ.ศ. 1752 ในช่วง พ.ศ. 1800 อักษรนี้ได้เริ่มมีการนำมาใช้ทางวรรณคดี นักเขียนชาวเวียดนามที่มีชื่อเสียงหลายคนเขียนงานของตนด้วยอักษรจื๋อโนม เช่น กวี เหงียน เทียน (Nguyen Thuyen) และเหงียน สีโก (Nguyen Si Co; พ.ศ. 1900) เหงียนจ๊าย (Nguyen Trai; พ.ศ. 2000) โห่กุ๋ยลี (HoQuy Ly; พ.ศ. 1900) ผู้แปลภาษาจีนเป็นภาษาเวียดนามและเขียนประกาศของทางราชการ |
||
เมื่อมิชชันนารีชาวตะวันตกเข้ามาถึงเวียดนามเมื่อประมาณ พ.ศ. 2200 พวกเขาได้คิดค้นการเขียนภาษาเวียดนามด้วย[[อักษรละติน]] เรียก '''โกว้กหงือ''' ใช้ในหนังสือสวดมนต์และหนังสือทางศาสนา ฯลฯ อักษรนี้มีผู้ประดิษฐ์หลายคน แต่ผู้ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคือ อเล็กซองดร์ เดอ |
เมื่อมิชชันนารีชาวตะวันตกเข้ามาถึงเวียดนามเมื่อประมาณ พ.ศ. 2200 พวกเขาได้คิดค้นการเขียนภาษาเวียดนามด้วย[[อักษรละติน]] เรียก '''โกว้กหงือ''' ใช้ในหนังสือสวดมนต์และหนังสือทางศาสนา ฯลฯ อักษรนี้มีผู้ประดิษฐ์หลายคน แต่ผู้ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคือ อเล็กซองดร์ เดอ โรดซ์ (Alexandre de Rhodes) มิชชันนารี[[นิกายเยซูอิต]] [[ชาวฝรั่งเศส]] และต่อมาเริ่มมีการสอนอักษรโกว้กหงือ ในโรงเรียนต่างๆ ตั้งแต่ราว พ.ศ. 2300 เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ในอีก 200 ปีต่อมา ปัจจุบัน ภาษาเวียดนามเขียนด้วยอักษรโกว้ก หงือ เพียงอย่างเดียว ส่วน อักษรจื๋อโนมใช้ในทางวิชาการเท่านั้น |
||
อักษรจื๋อโนมเป็นรูปแบบผสมของ[[อักษรจีน]]มาตรฐานกับสัญลักษณ์ที่ใช้เฉพาะภาษาเวียดนาม (อักษรจีนหลายตัวที่ถูกดัดแปลงไม่มีความหมายในภาษาจีน) ในการนำอักษรจีนมาใช้ ผู้ประดิษฐ์จื๋อโนมยืมคำจีนมาเป็นจำนวนมากและปรับให้เป็นการออกเสียงของภาษาเวียดนาม ทำให้มี 2 คำสำหรับสิ่งเดียวกันคือ คำ จีน-เวียดนาม กับ คำที่มีต้นกำเนิดในภาษาเวียดนาม สัญลักษณ์ใหม่จะรวมสัญลักษณ์ที่แสดงความหมายและแสดงการออกเสียงในภาษาเวียดนาม |
อักษรจื๋อโนมเป็นรูปแบบผสมของ[[อักษรจีน]]มาตรฐานกับสัญลักษณ์ที่ใช้เฉพาะภาษาเวียดนาม (อักษรจีนหลายตัวที่ถูกดัดแปลงไม่มีความหมายในภาษาจีน) ในการนำอักษรจีนมาใช้ ผู้ประดิษฐ์จื๋อโนมยืมคำจีนมาเป็นจำนวนมากและปรับให้เป็นการออกเสียงของภาษาเวียดนาม ทำให้มี 2 คำสำหรับสิ่งเดียวกันคือ คำ จีน-เวียดนาม กับ คำที่มีต้นกำเนิดในภาษาเวียดนาม สัญลักษณ์ใหม่จะรวมสัญลักษณ์ที่แสดงความหมายและแสดงการออกเสียงในภาษาเวียดนาม |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:14, 15 กันยายน 2554
อักษรจื๋อโนม (เวียดนาม: Chữ Nôm, 字喃/𡨸喃/𡦂喃) เป็นระบบอักษรที่ใช้เขียนภาษาเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันเลิกใช้แล้ว อักษรจื๋อโนมใช้อักษรจีน ("ฮั่นจื้อ" เรียกเป็นภาษาเวียดนามว่า "อักษรฮั้นถื่อ" - "Hán tự") และอักขระที่ประดิษฐ์ขึ้นตามแบบอักษรจีน ตัวอย่างที่เก่าที่สุดอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 มักนิยมใช้เฉพาะในหมู่ชนชั้นสูงของเวียดนาม โดยส่วนใหญ่ใช้บันทึกวรรณคดีเวียดนาม (งานเขียนที่เป็นทางการส่วนใหญ่จะใช้ภาษาจีนแบบแผน ไม่ใช่ภาษาเวียดนาม) ปัจจุบันถือว่าถูกแทนที่โดยสมบูรณ์ด้วยอักษรโกว้กหงือ ซึ่งดัดแปลงจากอักษรละติน
ประวัติ
เวียดนามถูกจีนปกครองนานนับพันปีระหว่างพ.ศ. 432 – 1481 เป็นผลให้ภาษาเขียนในทางราชการเป็นภาษาจีนโบราณที่รู้จักในชื่อจื๋อโญ (Chữ Nho; 字儒) ในภาษาเวียดนามซึ่งยังใช้ต่อมาในเวียดนามคู่กับอักษรจื๋อโนม (Chữ Nôm; 字喃) และโกว๊กหงือ (Quốc Ngữ) จนถึง พ.ศ. 2461
ในช่วงประมาณ พ.ศ. 1500 ชาวเวียดนามปรับปรุงอักษรจีนใช้เขียนภาษาของตน เรียกว่าอักษรจื๋อโนมหรืออักษรใต้ ตัวอย่างที่เก่าที่สุดของอักษรนี้คือจารึกโลหะที่เจดีย์เบ๋าอัน (Bao An) ในเยนลัง (Yen Lang) จังหวัดวิญฝู (Vinh Phu) อายุราว พ.ศ. 1752 ในช่วง พ.ศ. 1800 อักษรนี้ได้เริ่มมีการนำมาใช้ทางวรรณคดี นักเขียนชาวเวียดนามที่มีชื่อเสียงหลายคนเขียนงานของตนด้วยอักษรจื๋อโนม เช่น กวี เหงียน เทียน (Nguyen Thuyen) และเหงียน สีโก (Nguyen Si Co; พ.ศ. 1900) เหงียนจ๊าย (Nguyen Trai; พ.ศ. 2000) โห่กุ๋ยลี (HoQuy Ly; พ.ศ. 1900) ผู้แปลภาษาจีนเป็นภาษาเวียดนามและเขียนประกาศของทางราชการ
เมื่อมิชชันนารีชาวตะวันตกเข้ามาถึงเวียดนามเมื่อประมาณ พ.ศ. 2200 พวกเขาได้คิดค้นการเขียนภาษาเวียดนามด้วยอักษรละติน เรียก โกว้กหงือ ใช้ในหนังสือสวดมนต์และหนังสือทางศาสนา ฯลฯ อักษรนี้มีผู้ประดิษฐ์หลายคน แต่ผู้ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคือ อเล็กซองดร์ เดอ โรดซ์ (Alexandre de Rhodes) มิชชันนารีนิกายเยซูอิต ชาวฝรั่งเศส และต่อมาเริ่มมีการสอนอักษรโกว้กหงือ ในโรงเรียนต่างๆ ตั้งแต่ราว พ.ศ. 2300 เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ในอีก 200 ปีต่อมา ปัจจุบัน ภาษาเวียดนามเขียนด้วยอักษรโกว้ก หงือ เพียงอย่างเดียว ส่วน อักษรจื๋อโนมใช้ในทางวิชาการเท่านั้น
อักษรจื๋อโนมเป็นรูปแบบผสมของอักษรจีนมาตรฐานกับสัญลักษณ์ที่ใช้เฉพาะภาษาเวียดนาม (อักษรจีนหลายตัวที่ถูกดัดแปลงไม่มีความหมายในภาษาจีน) ในการนำอักษรจีนมาใช้ ผู้ประดิษฐ์จื๋อโนมยืมคำจีนมาเป็นจำนวนมากและปรับให้เป็นการออกเสียงของภาษาเวียดนาม ทำให้มี 2 คำสำหรับสิ่งเดียวกันคือ คำ จีน-เวียดนาม กับ คำที่มีต้นกำเนิดในภาษาเวียดนาม สัญลักษณ์ใหม่จะรวมสัญลักษณ์ที่แสดงความหมายและแสดงการออกเสียงในภาษาเวียดนาม
แหล่งข้อมูลอื่น
- จื๋อโนม (อังกฤษ)