ข้ามไปเนื้อหา

อาณาจักรหริภุญชัย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก หริภุญไชย)
หริภุญชัย

ᩋᩣᨱᩣᨧᩢᨠ᩠ᨠ᩺ᩉᩕᩥᨽᩩᨬᩱ᩠ᨩ᩠ᨿ
Haripuñjaya (บาลี)
พุทธศตวรรษที่ 13–พ.ศ. 1835
พ.ศ. 1543–1643                   
 เขียว: หริภุญไชย  ฟ้าอ่อน: อาณาจักรละโว้  แดง: จักรวรรดิเขมร เหลือง: อาณาจักรจามปา  ฟ้า: ได่เวียด  ชมพู: อาณาจักรพุกาม  มะนาว: อาณาจักรศรีวิชัย
พ.ศ. 1543–1643
เขียว: หริภุญไชย
ฟ้าอ่อน: อาณาจักรละโว้
แดง: จักรวรรดิเขมร
เหลือง: อาณาจักรจามปา
ฟ้า: ได่เวียด
ชมพู: อาณาจักรพุกาม
มะนาว: อาณาจักรศรีวิชัย
เมืองหลวงลำพูน (พ.ศ. 1172-1835)
การปกครองราชาธิปไตย
ยุคประวัติศาสตร์ยุคกลาง
 ก่อตั้ง
ราว พ.ศ. 1172
 สิ้นสุด
ราว พ.ศ. 1743
ก่อนหน้า
ถัดไป
อาณาจักรละโว้
อาณาจักรล้านนา

อาณาจักรหริภุญชัย หรือ หริภุญไชย (ไทยถิ่นเหนือ: ᩋᩣᨱᩣᨧᩢᨠ᩠ᨠ᩼ᩕᩉᩥᨽᩩᨬᩱ᩠ᨩ᩠ᨿ) เป็นอาณาจักรมอญ[1]ที่ตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทยปัจจุบัน

นามอาณาจักร

[แก้]

จารึก

[แก้]

จารึกอักษรมอญโบราณสมัยหริภุญไชยระบุชื่อไว้ดังนี้

  • ปุนเชญํ[2] (อ่านแบบมอญว่า ปุนะเจณง) จากจารึกอาณาจักรปุนไชย (ลพ.5) วัดจามเทวี
  • (ปุ)ญฺเชยฺย[2] (อ่านแบบมอญว่า ปุญเจ้ยยะ) จากจารึกวัดแสนข้าวห่อ (ตะจุ๊มหาเถร) (ลพ.7)
  • ภุญเชยฺย[2] จากจารึกวัดดอนแก้ว (ลพ.4) จารึกวัดบ้านหลวย (ลพ.6) ด้านที่ 2 บรรทัดที่ 2 และจารึกจากเวียงเถาะ ด้านที่ 1

จารึกสมัยล้านนา–รัตนโกสินทร์ระบุชื่อไว้ดังนี้

  • หริบุญไชย และ หรี(ริ)บุญไช[2] จากจารึกพระยืน (หลักที่ 62) พ.ศ. 1913 อักษรไทยล้านนา (ฝักขาม) ภาษาบาลี-ไทย
  • หะริภุนไช[2] จากจารึกพระมหาเถรนำพระพุทธศาสนาจากลังกามาหริภุญไชย (ชร.4) พ.ศ. 2041 อักษรฝักขาม ภาษาไทย
  • หริบูญชบุรี[2] จากจารึกหริปุญชบุรี (ลพ.15 หลักที่ 71) พ.ศ. 2043 อักษรฝักขาม ภาษาไทย
  • หรีบูรไชญบูริ[2] จากจารึกวัดพระนอนม่องช้าง (ลพ.39) พ.ศ. 2339 รัชกาลพระเจ้ากาวิละ อักษรฝักขาม ภาษาไทย
  • หะริพรูนใช[2] จากจารึกบนฆ้อง (กังสดาล) วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร สมัยรัชกาลที่ 3
  • หริภุญเชยฺย[2] จากจารึกบนแผงพระพิมพ์ไม้บรรจุพระพุทธรูป 28 องค์ อักษรธรรมล้านนา ภาษาไทย

เอกสาร

[แก้]
  • หริบุญฺเชยฺยนามกํ และ หริปุญจปุระ[2] ใน คัมภีร์จามเทวีวํส ต้นฉบับภาษาบาลีรจนาโดยพระโพธิรังสี พระเถระชาวเชียงใหม่ ปี พ.ศ.1953–60
  • หริภุญไชย[2] ใน ตำนานมูลศาสนา ต้นฉบับภาษาพื้นเมืองโบราณรจนาพระพุทธญาณเถระ และพระพุทธพุกาม วัดสวนดอก ปี พ.ศ.1960–72
  • หริปุญเชยฺย[2] ใน ชินกาลมาลีปกรณ์ พ.ศ. 2071
  • หริปุญไชย[2] ใน ตำนานพระธาตุหริปุญไชย พ.ศ. 2108
  • หริปุญช์[2] ใน ตำนานเมืองลำพูน ต้นฉบับจากหลวงพระบาง พ.ศ. 2289
  • หริภุญชัย และ เวียงละพูน[2] ใน ตำนานสิบห้าราชวงศ์ ฉบับวัดเมธังกราวาส จังหวัดแพร่ พ.ศ. 2432
  • หริภุญไชย[2] ใน พงศาวดารโยนก พ.ศ. 2442–43 โดยพระยาประชากิจกรจักร์ (แช่ม บุนนาค) สมัยรัชกาลที่ 5
  • หริภุญช์ หริภูญช์ หริปุญช์ และ หริปุญชยะ[2] ใน ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี พ.ศ. 2538

ประวัติ

[แก้]

ตามตำนานเรื่องจามเทวีวงศ์ ชินกาลมาลีปกรณ์ และสิงหนวัติ บันทึกไว้ว่าพระฤๅษีทั้งสี่ตนเป็นผู้สร้างเมืองหริภุญชัย (ลัมภูญนคร) ขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1200–6[3] (ยอร์ช เซเดส์ ระบุเจาะจงว่าเป็นปี ค.ศ. 661 หรือ พ.ศ. 1204)[4] ปรากฏนามว่า ฤๅษีวาสุเทพ ฤๅษีสุกกทันตะ ฤๅษีตะปนานะ และจันทสิกตุงคฤาษี[3] แล้วทูลเชิญพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นเจ้าหญิงจากอาณาจักรละโว้ ขึ้นมาครองเมืองหริภุญชัย ในครั้งนั้นพระนางจามเทวีได้นำพระภิกษุ นักปราชญ์ และช่างศิลปะต่าง ๆ จากละโว้ขึ้นไปด้วยเป็นจำนวนมากราวหมื่นคน พระนางได้ทำนุบำรุงและก่อสร้างบ้านเมือง ทำให้เมืองหริภุญชัย (ลำพูน) นั้นเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ต่อมาพระนางได้สร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) ขึ้นอีกเมืองหนึ่งให้เป็นเมืองสำคัญ สมัยนั้นปรากฏมีการใช้ภาษามอญโบราณในศิลาจารึกของหริภุญชัย มีหนังสือหมานซูของจีนสมัยราชวงศ์ถัง กล่าวถึงนครหริภุญชัยไว้ว่าเป็น “อาณาจักรของสมเด็จพระราชินีนาถ” (女王國 หนี่ว์ หวัง กว๋อ)

ต่อมา พ.ศ. 1824 พญามังรายมหาราชผู้สถาปนาอาณาจักรล้านนา ได้ยกกองทัพเข้ายึดเอาเมืองหริภุญชัยจากพญาญี่บาได้ อาณาจักรหริภุญชัยจึงสิ้นสุดลงหลังจากรุ่งเรืองมา 618 ปี มีพระมหากษัตริย์ครองเมือง 47 พระองค์

ปัจจุบัน โบราณสถานสำคัญของอาณาจักรหริภุญชัยคือพระธาตุหริภุญไชยที่จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นบริเวณที่สันนิษฐานว่าเป็นราชธานีในสมัยนั้น และยังมีโบราณสถานอีกหลายแห่งที่จังหวัดเชียงใหม่เช่น เวียงมโน ตำบลหนองตอง อำเภอหางดง, เวียงเถาะ ตำบลบ้านสองแคว อำเภอดอยหล่อ และเวียงท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง

ได้มีการพบจารึกอักษรมอญโบราณสมัยหริภุญไชย ราวพุทธศตวรรษที่ 17 จำนวน 7 หลัก ที่ลำพูน ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย จังหวัดลำพูน[5] บางหมู่บ้านของจังหวัดลำพูนพบว่ายังมีคนพูดภาษามอญและอนุรักษ์วัฒนธรรมมอญอยู่

รายพระนามผู้ปกครอง

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. David K. Wyatt, Thailand: A Short History, Chaing Mai : Silkworm Book, 2004, pg. 21
  2. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 ณัฏฐภักร จันทวิช และเพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์. (2548). ปริวรรตภาษา ชื่อบ้านนามเมือง สืบค้นความหมาย ถ่ายทอดอักขระ คำว่า "หริภุญไชย" และ "ลำพูน". กรุงเทพฯ: สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม. น. 9–19. ISBN 9744177691
  3. 1 2 อ้างอิงหลายแหล่ง:
    • ส่งศรี ประพัฒน์ทอง. (2536). ประณีตศิลป์ไทย. กรุงเทพฯ: กองพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร. หน้า 162. ISBN 9789744250056
    • ปรีชา กาญจนาคม. (2532). "เมืองหริภญไชย," แนวทางศึกษาโบราณคดี. นครปฐม: คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร. หน้า 95. OCLC 992241694
    • พระโพธิรังษี และราชบัณฑิตยสภา (รวบรวม). (2473). จามเทวีวงษ์ พงศาวดารเมืองหริภุญไชย ทั้งภาษาบาลีและคำแปล. แปลโดยพระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษมณ์) กับพระญาณวิจิตร (สิทธิ โลจนานนท์). พระนคร: ม.ป.ท.
      • เพิ่งอ้าง. จามเทวีวงษ์ ปริเฉท 2. หน้า 23–52.
      • เพิ่งอ้าง. จามเทวีวงษ์ ปริเฉท 3. หน้า 53–76.
  4. R. Halliday, D. Litt (1932). "The Mon Inscription of Siam: The Mon People," Journal Of The Burma Research Society, 22(3)(1932): 109. cited in BEFEO, t.XXV. 1925 p. 19 f. para. 2 "In the VIIth century of our era a princess the daughter of the king of Lavo (Lophburi) ... [sic] ..., went north with a following and found Haripuñjaya on the site of the modern Lamphun. Coedes gives the date as 661 A.D."
  5. นิทรรศการถาวร/item/การจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุ-ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ-หริภุญไชย[ลิงก์เสีย]
  • 'Historic Lamphun: Capital of the Mon Kingdom of Haripunchai', in: Forbes, Andrew, and Henley, David, Ancient Chiang Mai Volume 4. Chiang Mai, Cognoscenti Books, 2012. ASIN: B006J541LE
  • Swearer, Donald K. and Sommai Premchit. The Legend of Queen Cama: Bodhiramsi's Camadevivamsa, a Translation and Commentary. New York: State University of New York Press, 1998.