ภาษามลายูบางกอก
ภาษามลายูบางกอก | |
---|---|
بڠكوق ملايو 'نايو | |
ประเทศที่มีการพูด | ประเทศไทย |
ภูมิภาค | กรุงเทพมหานคร |
ชาติพันธุ์ | ไทยเชื้อสายมลายู |
จำนวนผู้พูด | ประมาณ 5,000 คน (2550) |
ตระกูลภาษา | |
ระบบการเขียน | อักษรไทย, อักษรยาวี |
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | – |
ภาษามลายูบางกอก, ภาษามลายูกรุงเทพ (อักษรยาวี: بڠكوق ملايو; บาซอนายูบาเกาะ) บ้างเรียก มลายูบางบัวทอง เป็นภาษามลายูถิ่นที่ใช้พูดกันในชุมชนชาวไทยเชื้อสายมลายูที่พำนักบริเวณชานเมืองของกรุงเทพมหานคร บ้างก็เป็นคนที่อาศัยมาแต่เดิม บ้างก็เป็นกลุ่มที่ถูกกวาดต้อนขึ้นภาคกลางของไทยช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ปัจจุบันมีผู้ใช้ภาษามลายูบางกอกไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรเชื้อสายมลายูในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในจังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี และมีจำนวนมากที่หันมาใช้ภาษาไทยมาตรฐาน
ประวัติ
[แก้]มีประวัติการตั้งถิ่นฐานของชาวไทยเชื้อสายมลายูบริเวณภาคกลางของไทยมาช้านาน บ้างก็ตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ช่วงกรุงศรีอยุธยาซึ่งรับราชการเป็นขุนนางเดิม บ้างก็มาจากการค้าขาย ดังพบว่ามีการใช้ภาษามลายูเป็นภาษากลางสำหรับการติดต่อค้าขายกับประชาคมต่างประเทศ[1] ก่อนอพยพลงมาลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างพร้อมกับมุสลิมกลุ่มอื่น ๆ หลังกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าตีแตก[2][3] บางส่วนก็สืบสันดานมาแต่บรรพบุรุษเชลยที่ถูกกวาดต้อนจากหัวเมืองแขกอันได้แก่ ปัตตานี ไทรบุรี ยะหริ่ง กลันตัน และสตูล ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว[3][4] รวมทั้งหมด 6 ครั้ง[5] และได้รับโปรดเกล้าให้ตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนทั้งในและรอบพระนคร ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มประชากรในพระนคร และลดกำลังพลของหัวเมืองแขกมิให้ก่อกบฏต่อสยามอีก[3] ทำให้ประชาคมมลายูกลายเป็นชุมชนมุสลิมขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานครมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน[2] บางกลุ่มเช่นกลุ่มมุสลิมบ้านสมเด็จเป็นกลุ่มเชื้อสายเจ้าเมืองและขุนนาง มีการใช้ราชาศัพท์ และมักสมรสกับผู้มีฐานันดรสูงด้วยกัน แต่ในระยะหลัง หญิงมุสลิมในแถบนี้มักตกเป็นภรรยาของขุนนางที่ไม่ใช่มุสลิม[6] นอกจากนี้ชาวมลายูที่มาจากไทรบุรีและสตูลบางส่วนใช้ภาษาไทยถิ่นใต้ ไม่ใช้ภาษามลายู[7]
ในกรุงเทพมหานคร มีกลุ่มชนเชื้อสายมลายู ทั้งกลุ่มแขกเก่า (คือกลุ่มที่อาศัยบริเวณภาคกลางมาแต่เดิม) กับกลุ่มแขกใหม่ที่โยกย้ายมาคราวต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งที่อพยพมาเพื่อค้าขายและถูกกวาดต้อนมา[5] อาศัยอยู่กระจายตัวตั้งแต่สี่แยกบ้านแขก ในฝั่งเขตธนบุรี ทุ่งครุ บางคอแหลม มหานาค พระโขนง คลองตัน มีนบุรี หนองจอก เรื่อยไปจนถึงอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา และยังมีคนเชื้อสายมลายูรอบ ๆ ปริมณฑลด้วย ดังพบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนครนายก จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดเพชรบุรี[2][8] ภายหลังได้มีการขยับขยายออกมาทางจังหวัดชลบุรี[3] ซึ่งชาวมลายูบางส่วนมีพัฒนาการด้านภาษา[5] หรือแม้แต่ด้านพิธีกรรมทางศาสนาบางประการต่างจากมาตุภูมิ และอนุชนส่วนใหญ่ถือตนว่าเป็นมุสลิมกรุงเทพฯ เสียมากกว่ามุสลิมเชื้อสายมลายู พวกเขาผสมกลมกลืนไปกับคนส่วนใหญ่ บางคนตักบาตรแก่พระสงฆ์ แต่จะเรียกว่า "ให้อาหารพระ" เป็นต้น[9]
สถานะปัจจุบัน
[แก้]ผู้พูดภาษามลายูบางกอกมีอยู่ประมาณ 5,000 คน[ต้องการอ้างอิง] ส่วนมากจะมีอายุเกินกว่า 40 ปีเท่านั้นที่ยังพอพูดภาษามลายูได้ แต่ความสามารถในการใช้ภาษาแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามปัจจุบันภาษาของพวกเขาเหล่านั้นมีความแตกต่างจากภาษามลายูปัตตานีบ้าง ไม่ว่าจะเป็นด้านเสียง ความหมาย และโครงสร้างประโยค ทั้งนี้เนื่องจากมีวิวัฒนาการทางภาษาที่แตกต่างกัน ชุมชนเชื้อสายมลายูหลายแห่งยุติการคุตบะห์หรือการบรรยายธรรมเป็นมลายู การศึกษากีตาบยาวี หรือแม้แต่การใช้ภาษามลายูสำหรับสื่อสารในชีวิตประจำวันเสียแล้ว[2][10]
ปัจจุบันจังหวัดปทุมธานียังมีการใช้ภาษามลายูแบบปัตตานีในการสื่อสาร[11] โดยเฉพาะในอำเภอคลองหลวง[12] และพบในอำเภอลาดหลุมแก้ว[13] ส่วนในนนทบุรีท้องที่ที่ยังใช้ภาษามลายู ได้แก่ ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด และพบที่ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง[10] ส่วนในโรงเรียนสุเหร่าบ้านดอน เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ยังมีการเรียนการสอนด้วยภาษามลายูอยู่เพื่อสืบทอดภาษาสู่ชนรุ่นต่อไป[5]
ชนรุ่นหลังส่วนใหญ่หันมาใช้ภาษาไทยมากขึ้น แต่ยังคงศัพท์เฉพาะจำพวกคนและสิ่งของต่างจากภาษาไทยมาตรฐาน และคงสำเนียงถิ่นเข้าผสมกับภาษาไทย เช่นชุมชนเชื้อสายมลายูในอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จะเรียกพ่อว่า ป๊ะ เป๊าะ เยาะห์ ป๋า ส่วนคำไทยอื่นจะมีเสียงแปร่ง เช่น เป็ด เป็น เป๊ด, ขยะ เป็น ขะยะ และ สะอาด เป็น ซะอั๊ด เป็นต้น[14]
ตัวอย่าง
[แก้]ตัวอย่างคำในภาษามลายูบางกอก ในอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี[15]
มลายูบางกอก | มลายูปัตตานี | มลายูมาตรฐาน | คำแปล |
---|---|---|---|
มาเกียง | มาแก | มากัน | กิน |
อีเกียง | อีแก | อีกัน | ปลา |
อาเญียง | อาแย | อายัม | ไก่ |
ซมีเลียง | ซิมิแล | เซิมบีลัน | เก้า |
มาเลียง | มาแล | มาลัม | กลางคืน |
ออเรียง | ออแฆ | โอรัง | คน |
เซียง | ซีแย | เซียม | สยาม |
ดาออ | ดอออ | โดอา | ดุอา (บทสวด) |
กูบา | กูบา | เกอเบา | ควาย |
ตาเนาะฮ์ | ตาเนาะฮ์ | ตานะฮ์ | ดิน |
บารู | บารู | บารู | ใหม่ |
นาซิ | นาซิ | นาซี | ข้าว |
อาญิง | อาญิง | อันจิง | หมา |
ฮาตู | ฮาตู | ฮันตู | ผี |
อะการะฮ์ | ไอร์บาตู | ไอซ์ | น้ำแข็ง |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ กัณหา แสงรายา (3 สิงหาคม 2554). "คำเรียก มลายู มลายูมุสลิม ไทย ไทยมุสลิม ไทยมลายู และ 'แขก' ในสังคมไทย (1)". สำนักข่าวอิศรา. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 "ค้นหารากเหง้า 'มลายูกรุงเทพ มุสลิมบางกอก' ผ่านมุมมองของ 'ศุกรีย์ สาเร็ม' เลขาฯ สโมสรมลายูแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา". ประชาไท. 16 มกราคม 2558. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 "มุสลิมในประเทศไทย". กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา. 27 พฤศจิกายน 2554. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ปราณี กล่ำส้ม. ย่านเก่าในกรุงเทพฯ [เล่ม 1]. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, พิมพ์ครั้งที่ 2, หน้า 88
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 ณัฐวิทย์ พิมพ์ทอง (25 พฤษภาคม 2558). "มลายูบางกอก:ที่มา การกระจายตัว และวัฒนธรรมการเปลี่ยนแปลง". วรสารเมืองโบราณ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-02. สืบค้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ เสาวนีย์ จิตต์หมวด, ผศ. (2531). กลุ่มชาติพันธุ์ : ชาวไทยมุสลิม (PDF). กรุงเทพฯ: กองทุนสง่ารุจิระอัมพร. p. 115. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2023-10-11. สืบค้นเมื่อ 2022-04-10.
- ↑ เสาวนีย์ จิตต์หมวด, ผศ. (2531). กลุ่มชาติพันธุ์ : ชาวไทยมุสลิม (PDF). กรุงเทพฯ: กองทุนสง่ารุจิระอัมพร. p. 114. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2023-10-11. สืบค้นเมื่อ 2022-04-10.
- ↑ "Wed Guide: เรื่องความเป็นมาของศาสนาอิสลามในประเทศไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-02. สืบค้นเมื่อ 2009-09-26.
- ↑ ประคอง นิมมานเหมินท์และอื่น ๆ. "คติความเชื่อและศาสนา" (PDF). คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 10.0 10.1 "ย้อนรอยมลายูบางกอก...ที่สุเหร่าแดง". วอยซ์ทีวี. 26 มีนาคม 2559. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-12. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ชุมชนมุสลิมปทุมฯ จัดงาน "มลายูปทุมธานี ไม่มีวันตาย"". สำนักข่าวอะลามี่. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "'ปทุมธานีโมเดล' การแก้ปัญหารุกริมคลอง". คมชัดลึก. 12 กรกฎาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "มลายูพลัดถิ่น : รายการทางนำชีวิต อิสลาม ชุด สลามประเทศไทย". ฮาลาลไลฟ์. 16 มิถุนายน 2559. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ความรู้เรื่องชาวมุสลิมในจังหวัดปทุมธานี". เครือข่ายกาญจนภิเษก. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-01. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Umaiyah Haji Umar (2005). "Bang Bua Thong Dialect – A Lexicon Study". Journal of Language and Culture. 24 (2): 5–22. สืบค้นเมื่อ 28 September 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Umaiyah Haji Umar (2005), Bang Bua Thong Melayu Dialect - a Lexicon Study, Journal Language and Culture, Bangkok:The Research Institute for Languages and Cultures of Asia (RILCA), Mahidol University, online edition