ภาษามลายูเกอดะฮ์
ภาษามลายูเกอดะฮ์ | |
---|---|
ประเทศที่มีการพูด | มาเลเซีย, ไทย, พม่า, อินโดนีเซีย |
ภูมิภาค | เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
จำนวนผู้พูด | ประมาณ 4 ล้านคน (3.1 ล้านคนใช้เป็นภาษาที่สอง) ประมาณ 6,800 คน (เฉพาะในจังหวัดสตูล) (ไม่พบวันที่) |
ตระกูลภาษา | ออสโตรนีเซียน
|
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | meo |
ภาษามลายูเกอดะฮ์, ภาษามลายูไทรบุรี หรือ ภาษามลายูสตูล (มลายู: Bahasa Melayu Kedah) เป็นสำเนียงหนึ่งของภาษามลายู ใช้พูดในทางภาคตะวันตกของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเกอดะฮ์ (ไทรบุรี) รัฐปีนัง รัฐปะลิส และทางตอนเหนือของรัฐเปรัก ในประเทศไทยมีผู้พูดในจังหวัดสตูล[1] บางส่วนของจังหวัดตรังและระนอง ข้ามไปยังเขตเขตเกาะสองของประเทศพม่า และยังพบว่ามีการพูดบางพื้นที่ทางตอนบนของเกาะสุมาตรา ของประเทศอินโดนีเซียด้วย
ภาษามลายูเกอดะฮ์ในไทย[แก้]
ผู้ใช้ภาษามลายูเกอดะฮ์ในไทยสามารถใช้พูดภาษาไทยได้ มีความแตกต่างจากภาษามลายู และภาษามลายูปัตตานีไม่มากนัก แต่ในช่วงระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งร้อยปีชาวสตูลก็ลืมภาษามลายูถิ่นของตน เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีไม่มีใครพูดภาษามลายูถิ่นได้[1] ด้วยเหตุผลทางภูมิศาสตร์ที่ทำให้สตูลต้องติดต่อกับสงขลามากกว่าไทรบุรี[1] ปัจจุบันในสตูลผู้ใช้ภาษานี้ไม่มาก เพราะนิยมใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันมากกว่าในอดีต
ชาวสตูลที่ใช้ภาษามลายูถิ่นนี้เป็นชาวไทยมุสลิมเชื้อสายมลายูที่อยู่ในบางหมู่บ้าน บางตำบลของสตูลเท่านั้น เช่น ตำบลเจ๊ะบิลัง, ตำบลตำมะลัง, ตำบลปูยู และตำบลฉลุง แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 3 ตำบล คือ ตำบลเจ๊ะบิลัง, ตำบลตำมะลัง และตำบลบ้านควนเท่านั้นที่ยังใช้ในการอ่านคุตบะห์บรรยายธรรมในมัสยิด[1] แม้ผู้ใช้ภาษาจะมีน้อยลง แต่อิทธิพลของภาษามลายูถิ่นนี้ยังมีปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน เช่น บ้านกุบังปะโหลด (แปลว่า บ้านหนองปลาไหล), บ้านภูเก็ตยามู (แปลว่า บ้านเขาที่มีต้นฝรั่ง), คลองบันนังปุเลา (แปลว่า เกาะที่มีการทำนา), หนองน้ำทุ่งปาดังกลิงค์ (แปลว่า บริเวณที่แขกกลิงคราษฎร์ตั้งถิ่นฐานอยู่) และเขาปูยู (แปลว่า เขาที่กั้นลมพายุ) เป็นต้น[2]
ยังมีจำนวนหนึ่งใช้พูดในจังหวัดตรัง แต่ได้รับอิทธิพลจากภาษาไทยค่อนข้างมาก[3] ในปี พ.ศ. 2544 มีเพียงผู้สูงอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ที่สามารถใช้ภาษามลายูถิ่นได้ พบได้ในตำบลเกาะลิบง (แปลว่า ต้นหลาวชะโอน) และในตำบลบ่อน้ำร้อน เช่น บ้านสิเหร่ (แปลว่า พลู) และท่าปาบในอำเภอกันตัง[4] ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเขาอพยพมาจากเกาะหมาก (ปีนัง) ในมาเลเซีย[5] นอกจากสำเนียงเกอดะฮ์แล้ว ก็ยังพบผู้ใช้ภาษามลายูสำเนียงชวา ซึ่งมีผู้ใช้บนเกาะมุก อำเภอกันตัง[4]
เลยขึ้นไปพบผู้ใช้สำเนียงถิ่นนี้บนเกาะสินไห จังหวัดระนอง[6][7] และพบผู้ใช้จำนวนหนึ่งในบ้านคลองดิน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และกำลังลดจำนวนผู้พูดอย่างรวดเร็วเนื่องจากวัยรุ่นหันมาใช้ภาษาไทยถิ่นใต้[8] นอกจากนี้ยังเคยมีการใช้ภาษามลายูถิ่นนี้ในแถบจังหวัดภูเก็ต แต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวเสด็จประพาสก็พบว่าชาวภูเก็ตพูดภาษามลายูไม่ได้แล้ว[9]
ตัวอย่างภาษามลายูไทรบุรี[แก้]
ภาษามลายูไทรบุรี | ภาษามลายูกลาง (ทางราชการ) | คำแปล | |
---|---|---|---|
1 | Hang | Kamu, Engkau | คุณ (เอกพจน์) |
2 | Cek | Saya, Kamu | ฉัน, คุณ (เอกพจน์) |
3 | Depa | Mereka | พวกเขา |
4 | Hangpa | Kalian | คุณ (พหูพจน์) |
5 | Sepa (ใช้ในบางพื้นที่) | Kami | พวกเรา |
6 | Pi | Pergi | ไป |
7 | Mai | Datang, Mari | มา |
8 | Awat, Pasepa | Mengapa | ทำไม? |
9 | La | Sekarang | ตอนนี้ |
10 | Sat | Sebentar, Sekejap | ซักครู่ |
11 | Mengkala | Bila, Apabila | เมื่อ |
12 | KetegaR | Degil, Keras Kepala | ดื้อรั้น |
13 | Jom (ใช้ทั่วไปในภาษามลายูในมาเลเซีย) | Ayuh, Mari | ไปกันเถอะ |
14 | Kot (ใช้ทั่วไปในภาษามลายูในมาเลเซีย) | Mungkin, Barangkali | อาจจะเป็นไปได้ |
15 | GeRek | Basikal (ภาษามลายูเกอดะฮ์มีใช้ในกลุ่มคนในเมือง) | จักรยาน |
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ - ปัญหา สตูล ปัตตานี กับวัฒนธรรมที่ถูกทำลาย
- ↑ ประพนธ์ เรืองณรงค์. "บทผนวกเกียรติยศ". ใน รัฐปัตตานีใน "ศรีวิชัย" เก่าแก่กว่ารัฐสุโขทัยในประวัติศาสตร์. สุจิตต์ วงษ์เทศ (บรรณาธิการ). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : มติชน. 2547, หน้า 357
- ↑ http://books.google.co.uk/books?lr=&q=%22as+they+often+do%2C+their+dialect+is%22&btnG=Search+Books
- ↑ 4.0 4.1 BLOG ANDADUGONG ประวัติศาสตร์เกาะลิบง
- ↑ Thai Tambon.com - ตำบลเกาะลิบง
- ↑ ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรมจังหวัดระนอง - บ้านเกาะสินไห
- ↑ เกาะสินไห...ความเป็นไทยที่ถูกละเลย
- ↑ อับดุลเลาะ วันอะฮ์หมัด (23 กุมภาพันธ์ 2559). "เมื่อภาษามลายูที่นครศรีฯ กำลังจะถูกหลงลืม!". ฟาตอนีออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 4 ตุลาคม 2559. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ นิธิ เอียวศรีวงศ์. กรุงแตก พระเจ้าตากฯ และประวัติศาสตร์ไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : มติชน. 2553, หน้า 178
- Gordon, Raymond G., Jr. (ed.), 2005. Ethnologue: Languages of the World, Fifteenth edition. Dallas, Tex.: SIL International. Online version: http://www.ethnologue.com/.