ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การทางพิเศษแห่งประเทศไทย"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
เก็บกวาด |
||
บรรทัด 100: | บรรทัด 100: | ||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
[[ไฟล์:EXAT OldestLogo.png|thumb|right|ตราสัญลักษณ์ในยุคแรกของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย]] |
|||
ในช่วงปี 2512 รัฐบาลของ [[จอมพลถนอม กิตติขจร]] ได้มีการเตรียมเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการก่อตั้งหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้างทางพิเศษโดยเฉพาะซึ่งทางรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นศึกษาผลกระทบในการก่อสร้างทางพิเศษแต่ด้วยอุปสรรคหลายอย่างทำให้รัฐบาลไม่สามารถเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่ [[สภาผู้แทนราษฎร]] ได้จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติตัวเองของจอมพลถนอมเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 |
ในช่วงปี 2512 รัฐบาลของ [[จอมพลถนอม กิตติขจร]] ได้มีการเตรียมเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการก่อตั้งหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้างทางพิเศษโดยเฉพาะซึ่งทางรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นศึกษาผลกระทบในการก่อสร้างทางพิเศษแต่ด้วยอุปสรรคหลายอย่างทำให้รัฐบาลไม่สามารถเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่ [[สภาผู้แทนราษฎร]] ได้จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติตัวเองของจอมพลถนอมเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:04, 7 พฤษภาคม 2559
Expressway Authority of Thailand | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 |
สำนักงานใหญ่ | 2380 ถ.พหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 |
งบประมาณประจำปี | 550 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1] |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
เว็บไซต์ | www.exat.co.th |
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (อังกฤษ: The Expressway Authority of Thailand ชื่อย่อ: กทพ.; EXAT) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ก่อตั้งขึ้นตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้าง หรือจัดให้มีทางพิเศษด้วยวิธีการใดๆ ตลอดจนบำรุงรักษาทางพิเศษและดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับทางพิเศษ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล[3][4]
ปัจจุบัน การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีหน้าที่เพียงจัดทำแผนแม่บทและดำเนินแผนก่อสร้างทางด่วนเส้นทางใหม่ในประเทศไทย ส่วนการบริหารทางด่วนในกำกับนั้น มีบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพเป็นผู้รับสัมปทาน และแบ่งรายได้ให้แก่กทพ.ตามสัญญาสัมปทาน
ประวัติ
ในช่วงปี 2512 รัฐบาลของ จอมพลถนอม กิตติขจร ได้มีการเตรียมเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการก่อตั้งหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้างทางพิเศษโดยเฉพาะซึ่งทางรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นศึกษาผลกระทบในการก่อสร้างทางพิเศษแต่ด้วยอุปสรรคหลายอย่างทำให้รัฐบาลไม่สามารถเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่ สภาผู้แทนราษฎร ได้จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติตัวเองของจอมพลถนอมเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514
จนกระทั่งวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 จอมพลถนอมในฐานะประธาน สภาบริหารคณะปฏิวัติ ได้ลงนามในประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 290 เรื่องจัดตั้งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยซึ่งได้ลงประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2515 แต่ทางการทางพิเศษได้ถือเอาวันที่ 27 พฤศจิกายน เป็นวันก่อตั้งองค์กรโดยในเดือนมีนาคม 2516 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติแต่งตั้งนาย ประสิทธิ์ อุไรรัตน์ เป็นผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนแรก
ในปี 2530 คณะรัฐมนตรีและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ซึ่งมีสาระสำคัญคือให้ยกเลิกบทบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ต่อ สภาผู้แทนราษฎร และได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2530
ต่อมาในปี 2550 คณะรัฐมนตรีและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเข้าสู่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2551 โดยสาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้คือให้ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 รวมถึงการแก้ไขวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัย
สายทางพิเศษ
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปัจจุบันได้เปิดให้บริการทางพิเศษ 7 สายทาง คือ
- ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1)
- ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2)
- ทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนสายถนนกาญจนาภิเษก-อาจณรงค์)
- ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี)
- ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด)
- ทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (ระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายใต้ ตอน S1)
- ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (ทางด่วนวงแหวนใต้)
ศูนย์ควบคุม
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษเฉลิมมหานคร (CCB1)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษศรีรัช (CCB2)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษฉลองรัช (CCB3)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษบูรพาวิถี (CCB4)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษอุดรรัถยา (CCB5)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษบางพลี-สุขสวัสดิ์ (CCB6)
ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์
การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เปิดให้บริการระบบจัดเก็บค่าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Toll Collection System: ETCs) โดยเรียกว่า Easy Pass เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2553 ในสายทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษวงแหวนรอบนอกด้านใต้ (บางพลี-บางขุนเทียน) และวันที่ 25 กรกฎาคม 2553 ในสายทางพิเศษศรีรัช กทพ. ได้นำ Easy Pass เข้ามาใช้แทนระบบ Tag เดิม เพื่อขยายปริมาณการรองรับการจราจรบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง โดยสามารถทำได้สูงสุด 1200 คันต่อชั่วโมงต่อช่องทาง
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/E/059/25.PDF
- ↑ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 เพื่อกำหนดให้จัดตั้ง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการสร้างทางพิเศษ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ), ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 89, ตอน 182 ก ฉบับพิเศษ, 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515.
- ↑ พระราชบัญญัติ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550, ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 125 ตอนที่ 4 ก, 8 มกราคม พ.ศ. 2551.