ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสยามเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2476"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาด +แจ้งรอตรวจสอบด้วยบอต
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2476''' เป็น[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]ครั้งแรกใน[[ประเทศไทย]] และเป็น ''"การเลือกตั้งทางอ้อมครั้งแรกและครั้งเดียวของไทย"'' ตราบจนปัจจุบัน โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ [[15 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2476]]
{{รอการตรวจสอบ}}
'''การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2476''' เป็น[[การเลือกตั้ง]]ทั่วไปครั้งแรกใน[[ประเทศไทย]] การเลือกตั้งจัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ [[15 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2476]] เป็นการเลือกตั้งโดยอ้อมแบบรวมเขต กำหนดให้[[สภาผู้แทนราษฎร]]ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้ง 78 คน และสมาชิกซึ่งมาจากการแต่งตั้งอีกจำนวนเท่ากัน รวมเป็น 156 คน


ที่มาของ[[การเลือกตั้ง]]ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังที่เหตุการณ์[[กบฎบวรเดช]]ยุติลงในวันที่ [[28 ตุลาคม]] พ.ศ. 2476 เมื่อ พันเอก[[พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน)|พระยาพหลพลพยุหเสนา]] [[นายกรัฐมนตรีไทย|นายกรัฐมนตรี]]ได้แถลงต่อ[[รัฐสภาไทย|รัฐสภา]]ว่า[[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 4 ของไทย|รัฐบาล]]ได้ปราบกบฏเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
การเลือกตั้งครั้งนี้จัดให้มีการเลือกผู้แทนตำบลก่อน ตำบลละหนึ่งคน แล้วให้ผู้แทนตำบลเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัด โดยคิดจำนวน ส.ส. หนึ่งคนต่อราษฎร 100,000 คน ได้ ส.ส. 78 คน สมาชิกสภาประเภทที่สองส่วนใหญ่เป็นพวกของ[[คณะราษฎร]]หรือเป็นคนที่คณะราษฎรสนับสนุน


ในขณะนั้น[[ประเทศไทย]] (ยังคงใช้ชื่อเดิมว่า สยาม อยู่) แบ่งการปกครองเป็น[[จังหวัด]] มีจังหวัดทั้งสิ้น 70 จังหวัด ตาม[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475]] แล้ว สามารถเลือก[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]ประเภทที่หนึ่ง (ส.ส.) ได้ทั้งหมด 78 คน โดยส่วนใหญ่จะสามารถเลือกผู้แทนฯได้จังหวัดละคน มีบางจังหวัดที่มีผู้แทนฯได้มากกว่าหนึ่งคน ได้แก่ [[จังหวัดเชียงใหม่]], [[จังหวัดร้อยเอ็ด]], [[จังหวัดมหาสารคาม]], [[จังหวัดนครราชสีมา]] มีผู้แทนฯได้ 2 คน ขณะที่[[จังหวัดพระนคร]]และ[[จังหวัดอุบลราชธานี]] มีผู้แทนฯได้ 3 คน ซึ่งขณะนั้นรัฐธรรมนูญกำหนดอัตราประชากร 200,000 คนต่อการมีผู้แทนฯได้หนึ่งคน
ปัญหาที่พบในการเลือกตั้งครั้งนี้คือการบิดเบือนในข้อมูลข่าวสาร (โฆษณาชวนเชื่อ)


และบวกรวมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สอง ที่[[พระมหากษัตริย์ไทย|พระมหากษัตริย์]]ทรงแต่งตั้งขึ้นอีก 78 คน รวมทั้งสิ้นเป็น 156 คน
== อ้างอิง ==

ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนั้น เป็น[[การเลือกตั้งทางอ้อม]] โดยได้มี[[พระราชกฤษฎีกา]]กำหนดให้กรมการอำเภอ ดำเนินการเลือกตั้งผู้แทนตำบลขึ้นทั่วประเทศในวันที่ [[1 ตุลาคม]] ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 จากนั้นผู้แทนตำบลก็จะไปเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกขั้นหนึ่ง

ในขณะนั้นมีผู้มีสิทธิออกเสียงอยู่ทั้งหมด 4,278,231 คน มีผู้ออกไปใช้สิทธิทั้งหมด 1,773,532 คน คิดเป็น[[ร้อยละ]] 41.5 โดยจังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิมากที่สุด คือ [[จังหวัดเพชรบุรี]] คิดเป็นร้อยละ 78.82 และจังหวัดที่มีผู้ออกไปใช้สิทธิน้อยที่สุด คือ [[จังหวัดแม่ฮ่องสอน]] คิดเป็นร้อยละ 17.71

ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกนี้นั้น ต่อมาได้กลายมาเป็น[[นักการเมือง]]ที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทในเวลาต่อมา ได้แก่ นาย[[ทองอินทร์ ภูริพัฒน์]], นาย[[เลียง ไชยกาล]], นาย[[โชติ คุ้มพันธ์]] เป็นต้น

และหลังการเลือกตั้ง ก็ได้มีการจัดตั้งคณะรัฐบาลขึ้นมาใหม่ โดยเสียงส่วนใหญ่เลือกเอา พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง (เป็นสมัยที่ 2) และถือเป็น[[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 5 ของไทย]]<ref>คอลัมน์ ส่วนร่วมสังคมไทย โดย [[นรนิติ เศรษฐบุตร]] หน้า 8 [[หนังสือพิมพ์]][[เดลินิวส์]]ฉบับที่ 22,324 ประจำ[[วันศุกร์]]ที่ [[26 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2553]]</ref> ซึ่งคณะรัฐมนตรีคณะนี้ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ [[22 กันยายน]] [[พ.ศ. 2477]] ด้วยเหตุที่รัฐบาลได้เสนอญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบด้วยความตกลงระหว่างประเทศ เรื่องควบคุมการจำกัด[[ยางพารา|ยาง]]แต่สภาฯไม่เห็นชอบด้วยกับความตกลงที่รัฐบาลได้ลงนามไปก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้งคณะจึงกราบถวายบังคมทูลลาออกจากตำแหน่ง<ref>[http://www.cabinet.thaigov.go.th/cab_05.htm คณะรัฐมนตรีไทย]</ref>

==ดูเพิ่ม==
*[[กบฏบวรเดช]]

==อ้างอิง==
*{{รายการอ้างอิง}}
* โคทม อารียา, สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. ๒๕๔๐) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่อง ๕. ระบบการเลือกตั้ง, กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2544, หน้า 11. ISBN 974-00-8586-5
* โคทม อารียา, สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. ๒๕๔๐) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่อง ๕. ระบบการเลือกตั้ง, กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2544, หน้า 11. ISBN 974-00-8586-5
* สิริรัตน์ เรืองวงษ์วาร, ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน, กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2539, หน้า 111. ISBN 974-599-876-1
* สิริรัตน์ เรืองวงษ์วาร, ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน, กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2539, หน้า 111. ISBN 974-599-876-1
บรรทัด 14: บรรทัด 27:


[[หมวดหมู่:การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย|2476]]
[[หมวดหมู่:การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย|2476]]
[[หมวดหมู่:พ.ศ. 2476]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:27, 26 พฤศจิกายน 2553

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2476 เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในประเทศไทย และเป็น "การเลือกตั้งทางอ้อมครั้งแรกและครั้งเดียวของไทย" ตราบจนปัจจุบัน โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476

ที่มาของการเลือกตั้งครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังที่เหตุการณ์กบฎบวรเดชยุติลงในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2476 เมื่อ พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภาว่ารัฐบาลได้ปราบกบฏเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

ในขณะนั้นประเทศไทย (ยังคงใช้ชื่อเดิมว่า สยาม อยู่) แบ่งการปกครองเป็นจังหวัด มีจังหวัดทั้งสิ้น 70 จังหวัด ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 แล้ว สามารถเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่หนึ่ง (ส.ส.) ได้ทั้งหมด 78 คน โดยส่วนใหญ่จะสามารถเลือกผู้แทนฯได้จังหวัดละคน มีบางจังหวัดที่มีผู้แทนฯได้มากกว่าหนึ่งคน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดร้อยเอ็ด, จังหวัดมหาสารคาม, จังหวัดนครราชสีมา มีผู้แทนฯได้ 2 คน ขณะที่จังหวัดพระนครและจังหวัดอุบลราชธานี มีผู้แทนฯได้ 3 คน ซึ่งขณะนั้นรัฐธรรมนูญกำหนดอัตราประชากร 200,000 คนต่อการมีผู้แทนฯได้หนึ่งคน

และบวกรวมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สอง ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งขึ้นอีก 78 คน รวมทั้งสิ้นเป็น 156 คน

ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนั้น เป็นการเลือกตั้งทางอ้อม โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้กรมการอำเภอ ดำเนินการเลือกตั้งผู้แทนตำบลขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 จากนั้นผู้แทนตำบลก็จะไปเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกขั้นหนึ่ง

ในขณะนั้นมีผู้มีสิทธิออกเสียงอยู่ทั้งหมด 4,278,231 คน มีผู้ออกไปใช้สิทธิทั้งหมด 1,773,532 คน คิดเป็นร้อยละ 41.5 โดยจังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิมากที่สุด คือ จังหวัดเพชรบุรี คิดเป็นร้อยละ 78.82 และจังหวัดที่มีผู้ออกไปใช้สิทธิน้อยที่สุด คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน คิดเป็นร้อยละ 17.71

ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรกนี้นั้น ต่อมาได้กลายมาเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทในเวลาต่อมา ได้แก่ นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์, นายเลียง ไชยกาล, นายโชติ คุ้มพันธ์ เป็นต้น

และหลังการเลือกตั้ง ก็ได้มีการจัดตั้งคณะรัฐบาลขึ้นมาใหม่ โดยเสียงส่วนใหญ่เลือกเอา พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง (เป็นสมัยที่ 2) และถือเป็นคณะรัฐมนตรีคณะที่ 5 ของไทย[1] ซึ่งคณะรัฐมนตรีคณะนี้ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2477 ด้วยเหตุที่รัฐบาลได้เสนอญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบด้วยความตกลงระหว่างประเทศ เรื่องควบคุมการจำกัดยางแต่สภาฯไม่เห็นชอบด้วยกับความตกลงที่รัฐบาลได้ลงนามไปก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้งคณะจึงกราบถวายบังคมทูลลาออกจากตำแหน่ง[2]

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. คอลัมน์ ส่วนร่วมสังคมไทย โดย นรนิติ เศรษฐบุตร หน้า 8 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับที่ 22,324 ประจำวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
  2. คณะรัฐมนตรีไทย
  • โคทม อารียา, สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. ๒๕๔๐) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่อง ๕. ระบบการเลือกตั้ง, กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2544, หน้า 11. ISBN 974-00-8586-5
  • สิริรัตน์ เรืองวงษ์วาร, ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน, กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2539, หน้า 111. ISBN 974-599-876-1