ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปฏิวัติ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
ลีนทะแสง สอปัณญา(เอี้ล) เกีดเมี่อวันที่18สีงหา 2546 ที่ ฉะเชีงเทรา ปะเทดไทยชี่งเปันลูกสาว ชี่งเปันลูกครี่ง ไทย ลาว แดนมากร ชี่ง บีดาเปันคนไทย ชี่อ เตี้ล รนพล นี่มไทยสุช สอปัณญา และมานดาชี่อ เปี้ล วงแสวง สุลียะจักร์ เอี้ลมีพี่น้องร่อมกัน2คนคีอ พี่ชายชี่อ รันวา สุริยะจักร์ เปันนักแสดง เอี้ล เปันน้องสาวคนเลัก เปันนักเรียนที่ สปป ลาว เรอไฝฝัน อยากเปันนักร้อง นักสแดง อย่างพ่อ และ พี่ชาย

==นิยาม==
==นิยาม==
คำว่าปฏิวัติในภาษาอังกฤษ (revolution) มีรากศัพท์จากภาษาละตินคือ ''revolutio'' และ ''revolvere'' แปลว่า หมุนกลับ (to turn around) คำนี้มีใช้ทั่วไปในทาง[[สังคมศาสตร์]] แต่ก็มีใช้ในทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน เช่น [[การปฏิวัติวิทยาศาสตร์]] เป็นต้น<ref>Richard Pipes, "A Concise History of the Russian Revolution," Cited by http://chagala.com/russia/pipes.htm</ref>
คำว่าปฏิวัติในภาษาอังกฤษ (revolution) มีรากศัพท์จากภาษาละตินคือ ''revolutio'' และ ''revolvere'' แปลว่า หมุนกลับ (to turn around) คำนี้มีใช้ทั่วไปในทาง[[สังคมศาสตร์]] แต่ก็มีใช้ในทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน เช่น [[การปฏิวัติวิทยาศาสตร์]] เป็นต้น<ref>Richard Pipes, "A Concise History of the Russian Revolution," Cited by http://chagala.com/russia/pipes.htm</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:02, 1 กุมภาพันธ์ 2561

นิยาม

คำว่าปฏิวัติในภาษาอังกฤษ (revolution) มีรากศัพท์จากภาษาละตินคือ revolutio และ revolvere แปลว่า หมุนกลับ (to turn around) คำนี้มีใช้ทั่วไปในทางสังคมศาสตร์ แต่ก็มีใช้ในทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน เช่น การปฏิวัติวิทยาศาสตร์ เป็นต้น[1]

สารานุกรมเมอร์เรียม-เวบสเตอร์ (Merriam-Webster Encyclopedia) อธิบายว่า ปฏิวัติทางการเมืองคือการเปลี่ยนแปลงการตัดรูปแบบของการเมืองการปกครองในระดับฐานราก (fundamentally)[2] สารานุกรมบริทานิกา คอนไซส์ (Briyanica Concise Encyclopedia) อธิบายว่าปฏิวัติในทางสังคมศาสตร์ และการเมือง คือการกระทำความรุนแรงต่อโครงสร้าง ระบบ สถาบัน ฯลฯ ทางสังคมการเมือง ปฏิวัติทางสังคมการเมืองจะเป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากมาตรฐานต่าง ๆ ที่สังคมการเมืองเป็นอยู่เดิม เพิ่มจัดตั้ง หรือสถานามาตรฐานของสังคมการเมืองแบบใหม่ให้เกิดขึ้น[3]

อาริสโตเติลอธิบายการปฏิวัติทางการเมืองไว้สองประเภท ดังนี้

  1. การเปลี่ยนแปลงจากรัฐธรรมนูญฉบับหนึ่งเป็นอีกฉบับหนึ่งโดยสมบูรณ์
  2. การดัดแปรรัฐธรรมนูญที่มีอยู่เดิม[4]

โดยสรุป ปฏิวัติมีความหมายว่าการเปลี่ยนแปลงระบอบ (regime) ในทางสังคมการเมืองอาทิ วัฒนธรรมทางการเมือง อุดมการณ์ทางการเมือง เป็นต้น ปฏิวัติจึงไม่ต่างจากการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางการเมือง (political paradigm) ซึ่งเกิดได้ยากกว่ารัฐประหาร ซึ่งเพียงการเปลี่ยนแปลงระบบทางการเมือง (political system) อาทิ ประมุขแห่งรัฐหรือผู้นำรัฐบาลเท่านั้น[5]

อนึ่งปฏิวัติทางการเมืองเป็นมโนทัศน์ที่สำคัญในการอธิบายปฏิวัติสังคมในลัทธิทรอทสกี (Trotskyism)

ตัวอย่างของการปฏิวัติทางการเมืองในประวัติศาสตร์ทางการเมืองโลก[6]

  • คำว่าปฏิวัติถูกใช้ครั้งแรกในอังกฤษ ค.ศ. 1688 - 89 เพื่ออธิบายการที่กษัตริย์เจมส์ที่ 2 ถูกยึดอำนาจ ศัพท์ในทางสังคมศาสตร์เรียกเหตุการณ์นี้ว่า การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ (The Glorious Revolution) การปฏิวัติครั้งนี้ทำให้อำนาจสมบูรณ์ของกษตริย์อังกฤษถูกถ่ายโอนมาสู่สภา
  • ในศตวรรที่ 18 ในประเทศอเมริกาเกิดการปฏิวัติอเมริกา (The American Revolution) ซึ่งเป็นการปฏิวัติประเทศอเมริกาให้ปกครองตนเองแและแยกออกจากการปกครองของอังกฤษ
  • ใน ค.ศ. 1789 เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส (The French Revolution) เมื่อปัญญาชน และประชาชนนำโดยโรแบร์สปิแอร์ (Maximilien de Robespierre) ปฏิวัติการปกครองของกษัตริย์หลุยส์ที่ 16 (Louise XVI) การปฏิวัติครั้งนี้มักถูกยกย่องว่าเป็นการปฏิวัติประชาธิปไตยครั้งแรก รวมถึงเป็นการปฏิวัติครั้งแรกของโลกสมัยใหม่ด้วย
  • ในศตวรรษที่ 19 การแพร่กระจายของลัทธิคอมมิวนิสต์ (Communism) ทำให้ประเทศจำนวนมากเกิดการปฏิวัติการปกครองโดยประชาชน (People Revolution) ขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสังคมนิยม/คอมมิวนิสต์

สำหรับในสังคมการเมืองไทยเกิดการปฏิวัติทางการเมืองขึ้นเพียงครั้งเดียวคือ การปฏิวัติสยาม ในวันที่24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เป็นการปฏิวัติการปกครองโดยเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monachy) กลายเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (Constitutional Monarchy) ส่วนการล้มล้างรัฐบาลในครั้งต่อมานั้นเป็นเพียงการรัฐประหาร เพราะไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ทว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ผู้นำของรัฐบาล หรือเป็นการยืดอายุของรัฐบาลอุปถัมป์อำนาจนิยม (Suzerain-Authoritarianism) ของสังคมไทยเพียงเท่านั้น[7]

แต่ในความเห็นอีกด้านหนึ่ง กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครอง วันที่24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 เป็นการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monachy) กลายเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (Constitutional Monarchy) อันเป็นการปฏิวัติ แต่ก็เป็นการรัฐประหาร (coup d'état) ด้วย เพราะใช้กำลังทหาร ควบคุม บังคับ ทำให้อำนาจรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสิ้นสุดลง(สำหรับฝ่ายที่ต่อต้านการปฏิวัติ) แต่กลุ่มการเมืองฝ่ายต่อต้านระบอบกษัตริย์ พยายามสร้างภาพให้เป็นเชิงบวก ว่าเป็นการปฏิวัติ หรืออภิวัฒน์ จนเรียกว่า สยามภิวัฒน์

อ้างอิง

  1. Richard Pipes, "A Concise History of the Russian Revolution," Cited by http://chagala.com/russia/pipes.htm
  2. http://www.merriam-webster.com/dictionary/revolution
  3. http://www.britannica.com/EBchecked/topic/500584/revolution
  4. Aristotle, The Politics V,http://classics.mit.edu/Aristotle/politics.5.five.html accessed 2013/4/24
  5. พิสิษฐิกุล แก้วงาม. เอกสารประกอบการบรรยายวิชาสหวิทยาการสังคมศาสตร์ (มธ 120) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2550.
  6. Richard Pipes, "A Concise History of the Russian Revolution," Cited by http://chagala.com/russia/pipes.htm
  7. พิสิษฐิกุล แก้วงาม. เอกสารประกอบการบรรยายวิชาสหวิทยาการสังคมศาสตร์ (มธ 120) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2550.

ดูเพิ่ม