จังหวัดนครปฐม
จังหวัดนครปฐม | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Nakhon Pathom |
(ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย) พระปฐมเจดีย์, พระราชวังสนามจันทร์, พุทธมณฑล, พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย, ตลาดน้ำดอนหวาย, มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา | |
คำขวัญ: ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวงาม ข้าวหลามหวานมัน สนามจันทร์งามล้น พุทธมณฑลคู่ธานี พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า สวยงามตาแม่น้ำท่าจีน | |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดนครปฐมเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ไทย |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | ว่าง (ตั้งแต่ พ.ศ. 2567) |
พื้นที่[1] | |
• ทั้งหมด | 2,168.327 ตร.กม. (837.196 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 66 |
ประชากร (พ.ศ. 2564)[2] | |
• ทั้งหมด | 922,171 คน |
• อันดับ | อันดับที่ 24 |
• ความหนาแน่น | 425.29 คน/ตร.กม. (1,101.5 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 8 |
รหัส ISO 3166 | TH-73 |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | จัน |
• สัตว์น้ำ | กุ้งก้ามกราม |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ภายในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม เลขที่ 99 หมู่ที่ 6 ถนนบางเตย-ดอนยายหอม ตำบลถนนขาด อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 73000 |
• โทรศัพท์ | 0 3434 0003-4 |
• โทรสาร | 0 3434 0003-4 |
เว็บไซต์ | www |
นครปฐม เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางของประเทศไทย เป็นหนึ่งในห้าจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร จังหวัดนี้มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน เชื่อว่าเป็นที่ตั้งเก่าแก่ของเมืองในสมัยทวารวดี โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเป็นจำนวนมาก
ประวัติ
ก่อนประวัติศาสตร์
มีการพบหลักฐานโบราณคดีที่อาจมีอายุอยู่ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เช่น ชิ้นส่วนขวานหินขัด ชิ้นส่วนกำไรหิน เศษภาชนะสำริดลักษณะคล้ายขัน และชิ้นส่วนเศษกระดูกมนุษย์ ที่แหล่งโบราณคดีไร่นายจิ๋ว บุญรักษา ที่ตำบลบ้านยาง อำเภอเมืองนครปฐม และที่แหล่งโบราณคดีไร่จรัลเพ็ญ บ้านหนองกบ ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน[3]
แหล่งโบราณคดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ตะกวด)หมายเลข 1 ได้พบกะโหลกศีรษะมนุษย์โบราณ ลูกปัดหิน และกำไรสำริดจำนวนหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าบริเวณดังกล่าวเคยเป็นสถานที่ฝังศพของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ยุคเหล็ก กำหนดอายุราว 2,000 ปีมาแล้ว ส่วนแหล่งโบราณคดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หมายเลข 2 พบโครงกระดูกมนุษย์ซึ่งมีการนำภาชนะเครื่องดินเผาวางอุทิศ สันนิษฐานว่าแหล่งโบราณคดีนี้เป็นสถานที่ฝังศพของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย มีลักษณะเป็นสังคมแบบเกษตรกรรม[4]: 164–166
สมัยทวารวดี
เมืองนครปฐมโบราณเริ่มมีชุมชนมาตั้งถิ่นฐานมาแล้วอย่างน้อยตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 8–11 โดยมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13–14 และเสื่อมความสำคัญลงในพุทธศตวรรษที่ 17[5]
บริเวณที่ตั้งของเมืองนครปฐมโบราณในราวพุทธศตวรรษที่ 11–16 ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเล เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก[6] จากหลักฐานทางโบราณคดีพบสมอเรือขนาดใหญ่ที่วัดธรรมศาลา นอกจากนั้นยังมีชื่อหมู่บ้านในเขตเมืองนครปฐมที่แสดงถึงพื้นที่ที่เคยอยู่ริมทะเล เช่น แหลมบัว แหลมกระเจา แหลมมะเกลือ แหลมชะอุย หรือบ้านอ่าว เป็นต้น[4]: 55
เมืองนครปฐมโบราณที่สำคัญในสมัยทวารวดี คือ เมืองนครชัยศรี หรือเรียกว่า นครไชยลิน หรือ เมืองพระประโทณ เมืองตั้งอยู่ห่างจากพระปฐมเจดีย์ออกไปทางทิศตะวันออกราว 2 กิโลเมตร มีศูนย์กลางอยู่ที่วัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร เป็นเมืองใหญ่ขนาด 3,600 × 2,000 เมตร ภายในเมืองนี้พบร่องรอยโบราณสถานจำนวนมาก อาทิ พระประโทณเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง กับเจดีย์จุลประโทน ส่วนโบราณสถานที่อยู่นอกเมืองคือ วัดพระเมรุ พระปฐมเจดีย์ วัดพระงามอยู่ทางทิศตะวันตก ทิศตะวันออกคือ วัดธรรมศาลา ทางทิศใต้คือ วัดดอนยายหอม
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงกล่าวด้วยว่าเมืองนครปฐมเป็นราชธานีของเมืองทวารวดี ส่วนชนชาติที่อาศัยอยู่ขณะนั้นคือ พวกละว้า[7]
ยังมีเมืองโบราณอีกแห่ง คือ เมืองกำแพงแสน อยู่ห่างจากตัวจังหวัดนครปฐมไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร มีรูปร่างเกือบกลมล้อมรอบด้วยคูน้ำคันดิน มีเนื้อที่ประมาณ 315 ไร่ คูเมืองมีความกว้าง 30 เมตร พบโบราณวัตถุเช่น ธรรมจักรศิลา พระพุทธรูปสำริด ระฆังหิน ลายปูนปั้นประดับศาสนาสถาน หินบดยา แหวนโลหะ และเนื่องจากเมืองกำแพงแสนตั้งอยู่ระหว่างเมืองอู่ทองและเมืองนครชัยศรี จึงสันนิษฐานว่าเมืองกำแพงแสนเป็นเมืองเศรษฐกิจทั้งทางน้ำและทางบก เป็นสถานที่พักและเปลี่ยนสินค้า จากหลักฐานทางโบราณคดีทั้งเมืองนครชัยศรีและเมืองกำแพงแสน แสดงให้เห็นว่าประชาชนนับถือทั้งศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู[4]: 56–59
สมัยสุโขทัย
ในสมัยสุโขทัยยังไม่ปรากฏชื่อนครปฐม เมืองนครปฐมโบราณในสมัยสุโขทัยมีฐานะอยู่ใต้การปกครองของสุโขทัย และยังให้ความสำคัญกับเมือง มีการบูรณะมหาเจดีย์และซ่อมแซมพระพุทธรูป ดังปรากฏว่าในศิลาจารึกวัดศรีชุม[4]: 59 โดยเรียกเมืองนครปฐมโบราณว่า นครพระกฤษณ์[8]
สมัยอยุธยา
ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เป็นช่วงเวลาที่พม่ายกทัพมาโจมตีอยุธยาหลายครั้ง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิโปรดให้รวมพื้นที่เมือง 3 เมืองขึ้นเป็นเมือง และตั้งชื่อตามเมืองโบราณว่า เมืองนครชัยศรี เป็นเมืองที่ตั้งขึ้นเพื่อเตรียมการระดมไพร่พลเพื่อรับศึกและควบคุมไพร่ไม่ให้หลบหนี ยังเป็นเมืองที่มีย่านการค้าและรับสินค้าจากภายนอกเข้ามาขาย เมืองนครชัยศรีที่ตั้งใหม่เป็นเมืองขนาดเล็กอยู่ห่างจากเมืองนครชัยศรีเดิมไปทางทิศตะวันออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร ปรากฏฐานะในกฎหมายตราสามดวงระบุถึงตำแหน่งผู้ปกครอง คือ "ออกพระสุนธรบุรียศรีพิไชยสงคราม" เมืองนครชัยศรีอยู่ในฐานะเมืองจัตวา เป็นเมืองในเขตการปกครองชั้นในและเมืองในวงราชธานี เช่นเดียวกับเมืองราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และสมุทรสาคร
จากหลักฐานทางโบราณคดีในยุคนี้ สันนิษฐานว่าวัดกลางบางแก้วน่าจะเป็นวัดประจำเมืองนครชัยศรีสมัยอยุธยา วัดในสมัยอยุธยา ได้แก่ วัดศรีมหาโพธิ์ วัดห้วยพลู วัดตุ๊กตา และวัดบางพระ[4]: 60–61
สมัยธนบุรี
เมืองนครชัยศรีในสมัยธนบุรีมีความสำคัญด้านสงคราม เป็นเส้นทางเดินทัพของพม่า ผู้ครองเมืองนครชัยศรีเป็นผู้มีความสามารถในการรบ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ยกฐานะเจ้าเมืองเป็นพระยานครชัยศรี ในภาวะขาดแคลนข้าว สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ขุนนางควบคุมไพร่ออกบุกเบิกพื้นที่โดยรอบ รวมถึงเมืองนครชัยศรี เมืองในสมัยนี้เป็นเมืองขนาดเล็กและเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ[4]: 61
สมัยรัตนโกสินทร์
จากบันทึกของสังฆราชปาเลอกัว บริเวณเมืองนครชัยศรีมีการตั้งโรงงานน้ำตาลทรายมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการเจรจาในสนธิสัญญาเบอร์นี มีชาวจีนมาเป็นกรรมกรในโรงงานและประกอบอาชีพอื่น เช่น เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ชาวจีนได้รวมตัวกันมากขึ้นจนได้ตั้งสมาคมลับหรืออั้งยี่ที่เมืองนครชัยศรี จน พ.ศ. 2390 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) (ต่อมาคือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค)) เข้ามาปราบปรามอั้งยี่[4]: 63
จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะที่ทรงยังผนวชได้ธุดงค์ไปพบพระปฐมเจดีย์ และทรงเห็นว่าเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ไม่มีที่ใดเทียบเท่า ครั้นเมื่อได้ครองราชย์ จึงโปรดฯ ให้ก่อเจดีย์แบบลังกาครอบองค์เดิมไว้ โดยให้ชื่อว่า “พระปฐมเจดีย์” ทรงปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ ในบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ให้มีสภาพดี และโปรดฯ ให้ขุดคลองเจดีย์บูชาเพื่อให้การเสด็จมานมัสการสะดวกขึ้น[9]
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนภูมิภาคจาก "กินเมือง" มาเป็น "เทศาภิบาล" โดยรวมเอาหัวเมืองเข้าเป็นกลุ่มเรียกว่า "มณฑล" ให้รวมอำนาจขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย โดยมณฑลนครชัยศรีก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2438 ประกอบด้วยเมืองนครชัยศรี เมืองสุพรรณบุรี และเมืองสมุทรสาคร ตั้งที่ว่าการมณฑลที่เมืองนครชัยศรี และได้เริ่มก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ผ่านเมืองนครปฐม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นป่ารก พระองค์จึงโปรดฯ ให้ย้ายเมืองจากตำบลท่านา อำเภอนครชัยศรี มาตั้งที่บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์เหมือนเช่นครั้งสมัยโบราณ
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้สร้างพระราชวังสนามจันทร์ เป็นที่เสด็จแปรพระราชฐานและฝึกซ้อมรบแบบเสือป่า โดยโปรดฯ ให้ตัดถนนเพิ่มขึ้นอีกหลายสาย รวมทั้ง สร้างสะพานเจริญศรัทธาข้ามคลองเจดีย์บูชาเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟกับองค์พระปฐมเจดีย์ ตลอดจนสร้างพระร่วงโรจนฤทธิ์ทางด้านทิศเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์และบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ให้สมบูรณ์สวยงามดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน พระองค์โปรดให้เรียกชื่อเมืองนครปฐม ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานนามพระราชวังว่า "ปฐมนคร" และได้เปลี่ยนชื่อ จากเมือง "นครไชยศรี" เป็น "นครปฐม" เมื่อ พ.ศ. 2459[10]
พ.ศ. 2475 ได้มีประกาศยกเลิกมณฑลนครไชยศรีและโอนให้การปกครองจังหวัดในมณฑลนครไชยศรีไปรวมกับมณฑลราชบุรี และเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2476 จังหวัดนครปฐมซึ่งเคยขึ้นกับมณฑลราชบุรีก็แยกมาเป็นเขตการปกครองส่วนภูมิภาคอิสระเป็นจังหวัดนครปฐมจนถึงปัจจุบัน[11]
ภูมิศาสตร์
จังหวัดนครปฐมตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณที่ราบลุ่มภาคกลาง โดยหน่วยงานบางแห่ง เช่น คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดให้จังหวัดนครปฐมอยู่ภาคตะวันตก จังหวัดนี้ตั้งอยู่ระหว่างเส้นละติจูดที่ 13 องศา 45 ลิปดา 10 พิลิปดา เส้นลองจิจูดที่ 100 องศา 4 ลิปดา 28 พิลิปดา มีพื้นที่ 2,168.327 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,355,204 ไร่ เท่ากับ ร้อยละ 0.42 ของประเทศ และมีพื้นที่เป็นอันดับที่ 62 ของประเทศ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษม 56 กิโลเมตร หรือตามเส้นทางถนนบรมราชชนนี 51 กิโลเมตร และตามเส้นทางรถไฟ 62 กิโลเมตร
จังหวัดที่ติดต่อกับจังหวัดนครปฐม วนตามเข็มนาฬิกาจากทิศเหนือ ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนนทบุรี กรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
-
ตราประจำจังหวัด
-
ธงประจำจังหวัด
- ตัวอักษรย่อ: นฐ
- ตราประจำจังหวัด: รูปพระปฐมเจดีย์ ประดับด้วยเครื่องหมายเลข 4 ไทยในพระมหาพิชัยมงกุฎ
- คำขวัญประจำจังหวัด: ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวงาม ข้าวหลามหวานมัน สนามจันทร์งามล้น พุทธมณฑลคู่ธานี พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า สวยงามตาแม่น้ำท่าจีน
- พันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัด: จันทน์ชะมดชนิด Mansonia gagei หรือจันทน์หอม
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: จัน (Diospyros decandra)
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: แก้ว (Murraya paniculata)
- สัตว์น้ำประจำจังหวัด: กุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii)
การเมืองการปกครอง
หน่วยการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
การปกครองส่วนภูมิภาคในจังหวัดนครปฐม แบ่งออกเป็น 7 อำเภอ ประกอบด้วย 106 ตำบล และ 930 หมู่บ้าน โดยอำเภอต่าง ๆ มีดังนี้
เลขในแผนที่ | อำเภอ | ประชากร (พ.ศ. 2562) |
ระยะห่างจากศาลากลาง (กม.) |
---|---|---|---|
1 | อำเภอเมืองนครปฐม | 280,482 | — |
2 | อำเภอกำแพงแสน | 128,568 | 26 |
3 | อำเภอนครชัยศรี | 111,658 | 15 |
4 | อำเภอดอนตูม | 48,871 | 19 |
5 | อำเภอบางเลน | 94,239 | 35 |
6 | อำเภอสามพราน | 213,646 | 23 |
7 | อำเภอพุทธมณฑล | 42,572 | 34 |
รวม | 920,030 |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
พื้นที่จังหวัดนครปฐมประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 117 แห่ง แบ่งตามประเภทและอำนาจบริหารจัดการภายในท้องที่ได้เป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 5 แห่ง เทศบาลตำบล 20 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 90 แห่ง[12]
แผนที่ | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | ชื่อเทศบาล | พื้นที่ (ตร.กม.) |
ตั้งเมื่อ (พ.ศ.)[# 1] |
อำเภอ | ครอบคลุมตำบล | ประชากร สิ้นปี 2561 (คน)[13] | |||||||||||
ทั้งตำบล | บางส่วน | รวม | |||||||||||||||
เทศบาลนคร | |||||||||||||||||
1 | เทศบาลนครนครปฐม | 19.85 | 2542 | เมืองนครปฐม | 1 | 8 | 9 | 75,955 | |||||||||
เทศบาลเมือง | |||||||||||||||||
2 (1) | เทศบาลเมืองสามพราน | 8.15 | 2551[14] | สามพราน | – | 4 | 4 | 17,622 | |||||||||
3 (2) | เทศบาลเมืองไร่ขิง | 25.40 | 2551[15] | สามพราน | 1 | – | 1 | 32,094 | |||||||||
4 (3) | เทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม | 10.90 | 2551[16] | สามพราน | 1 | – | 1 | 27,080 | |||||||||
5 (4) | เทศบาลเมืองนครปฐม | 22.20 | 2556[17] | เมืองนครปฐม | – | 1 | 1 | 13,766 | |||||||||
6 (5) | เทศบาลเมืองสามควายเผือก | 14.72 | 2562[18] | เมืองนครปฐม | 1 | – | 1 | 10,837 | |||||||||
เทศบาลตำบล | |||||||||||||||||
7 (1) | เทศบาลตำบลดอนยายหอม | 4.64 | 2542 | เมืองนครปฐม | – | 1 | 1 | 6,526 | |||||||||
8 (2) | เทศบาลตำบลธรรมศาลา | 3.64 | 2542 | เมืองนครปฐม | – | 1 | 1 | 7,153 | |||||||||
9 (3) | เทศบาลตำบลโพรงมะเดื่อ | 14.80 | 2542 | เมืองนครปฐม | – | 1 | 1 | 10,844 | |||||||||
10 (4) | เทศบาลตำบลกำแพงแสน | 2542 | กำแพงแสน | – | 2 | 2 | 7,041 | ||||||||||
11 (5) | เทศบาลตำบลนครชัยศรี | 4.54 | 2542 | นครชัยศรี | – | 5 | 5 | 8,261 | |||||||||
12 (6) | เทศบาลตำบลห้วยพลู | 2542 | นครชัยศรี | – | 1 | 1 | 2,196 | ||||||||||
13 (7) | เทศบาลตำบลสามง่าม | 2542 | ดอนตูม | 2 | – | 2 | 13,929 | ||||||||||
14 (8) | เทศบาลตำบลบางเลน | 16.14 | 2542 | บางเลน | – | 2 | 2 | 8,383 | |||||||||
15 (9) | เทศบาลตำบลบางหลวง | 2542 | บางเลน | – | 1 | 1 | 2,167 | ||||||||||
16 (10) | เทศบาลตำบลรางกระทุ่ม | 6.08 | 2542 | บางเลน | – | 1 | 1 | 2,209 | |||||||||
17 (11) | เทศบาลตำบลลำพญา | 4.00 | 2542 | บางเลน | – | 1 | 1 | 1,961 | |||||||||
18 (12) | เทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ | 12.00 | 2542 | สามพราน | 1 | 1 | 2 | 23,988 | |||||||||
19 (13) | เทศบาลตำบลศาลายา | 13.50 | 2542 | พุทธมณฑล | – | 1 | 1 | 11,071 | |||||||||
20 (14) | เทศบาลตำบลคลองโยง | 31.63 | 2550 | พุทธมณฑล | 1 | – | 1 | 10,306 | |||||||||
21 (15) | เทศบาลตำบลบางกระทึก | 12.85 | 2551 | สามพราน | 1 | – | 1 | 12,619 | |||||||||
22 (16) | เทศบาลตำบลมาบแค | 20.15 | 2555 | เมืองนครปฐม | 1 | – | 1 | 8,591 | |||||||||
23 (17) | เทศบาลตำบลบ่อพลับ | 4.90 | 2555 | เมืองนครปฐม | – | 1 | 1 | 9,331 | |||||||||
24 (18) | เทศบาลตำบลขุนแก้ว | 10.80 | 2556 | นครชัยศรี | 1 | – | 1 | 7,880 | |||||||||
25 (19) | เทศบาลตำบลศีรษะทอง | 2563 | นครชัยศรี | 1 | – | 1 | |||||||||||
26 (20) | เทศบาลตำบลตาก้อง | 2563 | เมืองนครปฐม | 1 | – | 1 |
- ↑ หมายถึงปีที่ได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลในระดับปัจจุบัน
รายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
|
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
2549 | 820,704 | — |
2550 | 830,970 | +1.3% |
2551 | 843,599 | +1.5% |
2552 | 851,426 | +0.9% |
2553 | 860,246 | +1.0% |
2554 | 866,064 | +0.7% |
2555 | 874,616 | +1.0% |
2556 | 882,184 | +0.9% |
2557 | 891,071 | +1.0% |
2558 | 899,342 | +0.9% |
2559 | 905,008 | +0.6% |
2560 | 911,492 | +0.7% |
อ้างอิง:กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย[22] |
สถานศึกษา
- ระดับอุดมศึกษา
- ระดับอาชีวศึกษา
|
|
- โรงเรียน
- ดูที่ รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดนครปฐม
สถานที่ท่องเที่ยว
|
|
บุคคลที่มีชื่อเสียง
- ศาสนา
- สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) – สมเด็จพระราชาคณะ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๑-๒-๓,๑๒-๑๓ (ธรรมยุต) รองแม่กองธรรมสนามหลวงรูปที่ ๑ ฝ่ายนักธรรม เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร
- พระจำนงค์ ธมฺมจารี – อดีตพระราชาคณะเจ้าคณะรอง อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตเจ้าคณะภาค ๔-๕-๖-๗ (ธรรมยุต) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร
- พระธรรมบัณฑิต (อภิพล อภิพโล) – พระราชาคณะชั้นธรรม กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก และรักษาการเจ้าอาวาสวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร
- พระราชวรเมธี (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรังสี) – ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
- บันเทิง
- ภาวนา ชนะจิต – นักแสดงภาพยนตร์
- วรนุช ภิรมย์ภักดี (นุ่น) – นักแสดง
- มนตรี เจนอักษร – นักแสดง พิธีกร นักพาทย์
- ภัสรนันท์ อัษฎมงคล (เบียร์ เดอะวอยซ์) – นักร้อง
- วีรยุทธ จันทร์สุข – นักร้อง/นักแสดง
- อิสราภา ธวัชภักดี (ตาหวาน BNK48) – นักร้อง
- ศุภกร ศรีโพธิ์ทอง – นักร้อง/นักแสดง
- นารา เทพนุภา – นักแสดง
- วชิรวิชญ์ ชีวอารี – นักแสดง
- จิดาภา แช่มช้อย (แพนด้า BNK48) – นักร้อง
- นภัสนันท์ ธรรมบัวชา (แองเจิ้ล CGM48) – นักร้อง
- ชยานันท์ เจ็ดพี่น้องร่วมใจ (มิลค์ CGM48) – นักร้อง
- ศุภิสรา วุฒิศาสตร์ (จีจี้ DaruNi) – นักร้อง
- กีฬา
- ชนาธิป สรงกระสินธ์ – นักฟุตบอล
- นางงาม
- บุญญาณี สังข์ภิรมย์ – มิสอินเตอร์คอนติเนนตัลไทยแลนด์ 2015, มิสยูไนเต็ดคอนติเนนท์ 2016, ท็อปโมเดลออฟเดอะเวิลด์ 2017
- ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ – นางสาวไทย 2563
- ข้าราชการ
- ประทีป เพ็งตะโก - อธิบดีกรมศิลปากร
ดูเพิ่ม
- ย่าเหล
- สโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด
- รายชื่อวัดในจังหวัดนครปฐม
- รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดนครปฐม
- รายชื่อห้างสรรพสินค้าในจังหวัดนครปฐม
อ้างอิง
- ↑ ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm เก็บถาวร 2016-03-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_64.pdf 2564. สืบค้น 7 มีนาคม 2565.
- ↑ "พัฒนาการทางวัฒนธรรมของเมืองนครปฐมโบราณในช่วงก่อนพุทธศตวรรษที่ 2" (PDF). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 "ปกิณกศิลปวัฒนธรรม เล่ม 26 จังหวัดนครปฐม". กรมศิลปากร. 2563.
- ↑ ผาสุข อินทราวุธ. รายงานการขุดค้นที่ตำบลพระประโทน อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม. (กรุงเทพฯ: ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2526). หน้า 73.
- ↑ พนมกร นวเสลา. "นครปฐมเมืองท่าแห่งสหพันธรัฐทวารวดี". มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-14. สืบค้นเมื่อ 2021-03-24.
- ↑ สฤษดิ์พงศ์ ขุนทรง. "โบราณคดีเมืองนครปฐม: การศึกษาอดีตของศูนย์กลางแห่งทวารวดี" (PDF). คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร. p. 38.
- ↑ วินัย พงศ์ศรีเพียร. "ประวัติศาสตร์และหลักฐานประวัติศาสตร์สุโขทัย" (PDF). p. 8. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-02-14. สืบค้นเมื่อ 2021-03-24.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-05-09. สืบค้นเมื่อ 2012-02-14.
- ↑ "จังหวัดนครปฐมมาจากไหน พระปฐมเจดีย์มีที่มาอย่างไร". ศิลปวัฒนธรรม.
- ↑ ประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค จังหวัดนครปฐม. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์อักษรสมัย, 2528.
- ↑ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. กระทรวงมหาดไทย. "สรุปข้อมูล อปท ทั่วประเทศ." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dla.go.th/work/abt/index.jsp 2556. สืบค้น 20 กันยายน 2556.
- ↑ สำนักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน ประจำปี พ.ศ. 2561." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.dopa.go.th/stat/statnew/statTDD/views/showDistrictData.php?rcode=73&statType=1&year=61 2562. สืบค้น 23 กันยายน 2562.
- ↑ สำนักงานเทศบาลเมืองสามพราน. "ข้อมูลทั่วไป: สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐานสำคัญ." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.samphrancity.go.th/index.php?options=content&mode=cate&id=1 เก็บถาวร 2015-05-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 23 ธันวาคม 2555.
- ↑ กระทรวงมหาดไทย. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นเทศบาลเมืองไร่ขิง.
- ↑ สำนักงานเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม. "ข้อมูลสภาพทั่วไป." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.krathumlom.com/basic/general.php เก็บถาวร 2014-02-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 19 กุมภาพันธ์ 2556.
- ↑ กระทรวงมหาดไทย. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เป็นเทศบาลเมืองนครปฐม.
- ↑ "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลสามควายเผือก อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เป็นเทศบาลเมืองสามควายเผือก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 136 (พิเศษ 237 ง): 18. 23 กันยายน 2562. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-09-23. สืบค้นเมื่อ 2020-03-27.
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
- ↑ สำนักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "จำนวนประชากรและบ้าน." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.dopa.go.th/xstat/popyear.html 2555. สืบค้น 3 เมษายน 2556.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัด เก็บถาวร 2006-01-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
13°49′N 100°04′E / 13.82°N 100.06°E
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดนครปฐม
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย