สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล
สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล | |
---|---|
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 – 21 พฤษภาคม 2562 | |
สมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 – 30 กันยายน พ.ศ. 2560 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 |
คู่สมรส | จุรีภรณ์ นิลบรรเจิดกุล |
ศิษย์เก่า | โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 16 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 27 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก |
ศาสนา | พุทธ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ![]() |
สังกัด | ![]() |
ยศ | ![]() |
พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล (22 ตุลาคม พ.ศ. 2499-) ราชองครักษ์พิเศษ[1]ราชองครักษ์เวร[2] รองประธานกรรมการคณะกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ[3] อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ,สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ[4]อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 อดีตอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ[5] และอดีตผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา
ประวัติ[แก้]
พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล เกิดวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 เป็นบุตรของนายนิยม และ นางเข็มทราย นิลบรรเจิดกุล มีพี่น้อง 5 คนเป็นบุตรชายคนโต
ได้สมรสกับ คุณจุรีภรณ์ นิลบรรเจิดกุล[6]ได้รับ พระราชทานยศ พลเอก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559
การศึกษา[แก้]
พลเอกสมศักดิ์จบการศึกษาจาก โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 16 (ตท.16) และ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 27 (จปร.27) และโรงเรียนเสนาธิการทหารบกหลักสูตรหลักประจำชุดที่ 67/31
รับราชการ[แก้]
เริ่มรับราชการครั้งแรก ตำแหน่งผู้บังคับหมวดเครื่องยิงลูกระเบิด กองร้อยเครื่องยิงลูกระเบิด กรมทหารม้าที่ 3 ต่อมาเป็นหัวหน้าฝ่ายยุทธการ กองพลทหารม้าที่ 1 ต่อมาเป็นผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 13 เป็นผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนที่ 38 และเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ[7]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2560 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[8]
- พ.ศ. 2558 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[9]
- พ.ศ. 2525 –
เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 2 (ส.ช.)[10]
- พ.ศ. 2535 –
เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)[11]
- พ.ศ. 2549 –
เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)
อ้างอิง[แก้]
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/027/7.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/195/1.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/086/5.PDF
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพิ่มเติม ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนพิเศษ 230 ง หน้า 1-2 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/E/163/17.PDF
- ↑ พิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 3 phitsanulokhotnews.com วันศุกร์ 2 ตุลาคม 2015
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพิ่มเติม, เล่มที่ 133, ตอนพิเศษ 230 ง, 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559, หน้า 1-2
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๐, เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ข หน้า ๓, ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๘, เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๓๑ ข หน้า ๑๗, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๙๙ ตอนที่ ๕๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒๔, ๑๙ เมษายน ๒๕๒๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๔๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๓๗, ๓ เมษายน ๒๕๓๕