ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สุริยา ชินพันธุ์"
บรรทัด 76: | บรรทัด 76: | ||
*2527 - [[ไชยเชษฐ์]] ([[ช่อง 7]]) |
*2527 - [[ไชยเชษฐ์]] ([[ช่อง 7]]) |
||
*2528 - จินดาสมุทร ([[ช่อง 7]]) |
*2528 - จินดาสมุทร ([[ช่อง 7]]) |
||
*2529 - [[ชะนีน้อย|ทาสวังหลัง]] ([[ช่อง 3]]) |
|||
*2529 - [[ชะนีน้อย]] ([[ช่อง 3]]) |
*2529 - [[ชะนีน้อย]] ([[ช่อง 3]]) |
||
*2530 - เจ้าชายน้อย ([[ช่อง 3]]) |
*2530 - เจ้าชายน้อย ([[ช่อง 3]]) |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:25, 30 มกราคม 2560
สุริยา ชินพันธุ์ | |
---|---|
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2495 ธนยศ ชินพันธุ์ ประมูล ชินพันธุ์ (ชื่อเดิม) |
คู่สมรส | ระพีพรรณ เปรมรัศมี (เลิก) |
อาชีพ | นักแสดง, นักร้องลูกทุ่ง |
ผลงานเด่น | มนต์รักแม่น้ำมูล (พ.ศ. 2520) |
เมขลา | นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม-โอรสหมาป่า (ช่อง 3) |
ฐานข้อมูล | |
IMDb |
สุริยา ชินพันธุ์ มีชื่อจริงคือ ธนยศ ชินพันธุ์ (ชื่อเดิม: ประมูล ชินพันธุ์[1]) มีชื่อเล่นว่า "ตุ้ย" หรือ "เอ" เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2495 ที่อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นลูกชายคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 6 คนซึ่งเป็นชาย 4 หญิง 2 ในบรรดาลูก ๆ ของนายวิบูลย์และนางจิตรา ชินพันธุ์[2]
ประวัติ
สำเร็จการศึกษาระดับ มศ.3 จากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เมื่อจบแล้วได้ช่วยกิจการทางบ้าน คือคุมรถโดยสารระหว่างจังหวัด บางครั้งก็ทำหน้าที่พนักงานขับเอง จนกระทั่งอายุได้ 17 ปี อยากเป็นทหาร จึงไปสมัครเป็นทหารที่จังหวัดลพบุรี แต่สอบตกสัมภาษณ์ จึงไปหาอาซึ่งเป็นนายแพทย์ที่จังหวัดนครสวรรค์ ชื่อ น.พ.จรูญ ชินพันธุ์ ช่วยดูแลคนใข้ในคลินิกของอาที่ตัวอำเภอเมืองนครสวรรค์ ด้วยความที่ชื่นชอบเพลงลูกทุ่ง ประกอบกับมีหน่วยก้านพอที่จะเป็นดาราได้ อาจึงฝากฝังให้ ในที่สุดก็ได้เข้ากรุงเทพฯเพื่อฝึกการเป็นนักแสดง พร้อมกับ นัยนา ชีวานันท์ ที่วังละโว้ ของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล (ท่านมุ้ย) โดยทำการฝึกพร้อมกับ สรพงษ์ ชาตรี โดยครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางเข้ากรุงเทพฯเป็นครั้งแรกในชีวิตของสุริยาด้วย
เมื่อเข้ามาในกรุงเทพฯ ได้อยู่ในสังกัดของช่อง 4 บางขุนพรหม โดยระยะแรกใช้ชื่อจริงเลยว่า "ประมูล ชินพันธุ์" ได้ร้องเพลงลูกทุ่งกรุงไทย เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงบ้างแล้ว จึงได้ลองเล่นละครโทรทัศน์เรื่องแรก คือ "เลือดทาแผ่นดิน" พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น "สุริยา ชินพันธุ์" จากการตั้งชื่อให้ของ สุวัฒน์ วรดิลก พร้อมกับฝึกฝนการแสดงไปด้วย เช่นการฝึกกระบี่กระบองในละครแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ กับ กำธร สุวรรณปิยะศิริ
มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกจากเรื่อง "สวนสน" จากการชักชวนของ ชาลี อินทรวิจิตร โดยประกบคู่กับ ช้องมาศ ภุมรา ซึ่งเป็นนางเอก ทำให้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จากนั้นก็มีผลงานออกมาเรื่อย ๆ ตามมาทั้งภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เช่น "ผยอง", "ลูกเจ้าพระยา", "มือปืนนมสด", "นักเลงสามสลึง" และที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ "มนต์รักแม่น้ำมูล" ในปี พ.ศ. 2521 ซึ่งเจ้าตัวได้ร้องเพลงประกอบเรื่องไว้ด้วย โดยแสดงประกบคู่กับ กรุง ศรีวิไล ซึ่งเป็นพระเอกอีกคนด้วย
หลังจากนั้น สุริยา ชินพันธุ์ ก็ได้มีผลงานทางละครโทรทัศน์แนวจักร ๆ วงศ์ ๆ อีกหลายเรื่องทาง ช่อง 7 เช่น "สิงหไกรภพ" (คู่กับ ดวงพร เอกศาสตร์), "ไชยเชษฐ์" (คู่กับ ผุสรัตน์ ดารา) กับช่อง 3 เช่น "ชะนีน้อย" (คู่กับ ผุสรัตน์ ดารา) ฯลฯ โดยเป็นทั้งผู้จัด, ผู้กำกับฯ และแสดงเอง และได้รับรางวัลเมขลาจากเรื่อง "โอรสหมาป่า"
ในส่วนของผลงานเพลง สุริยา ชินพันธุ์ ยังเป็นเจ้าของเสียงต้นฉบับในเพลง "รักเก่าที่บ้านเกิด" เป็นคนแรกอีกด้วย ซึ่งเพลงนี้ต่อมาได้มีนักร้องในรุ่นหลังหลายคนนำกลับมาร้องใหม่ และต่อมาได้ก่อตั้งวงดนตรีลูกทุ่งขึ้นมาด้วย ประสบความสำเร็จอยู่ได้ 3 ปีก่อนจะยุบวงลงในที่สุด พร้อมกับปัญหาสุขภาพที่เข้ามา
ชีวิตครอบครัว สุริยา ชินพันธุ์ สมรสกับ ระพีพรรณ เปรมรัศมี มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 ซึ่งมีครอบครัวกันหมดแล้ว ชีวิตปัจจุบัน สุริยา ชินพันธุ์ ไม่ได้มีผลงานในวงการบันเทิงอีกแล้วเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน จนกระทั่งมีอาการอัมพฤกษ์ ภรรยาก็เลิกรากันไป จึงได้รับความช่วยเหลือจาก สรพงษ์ ชาตรี เพื่อนนักแสดงร่วมรุ่น เมื่อหายเป็นปกติ สุริยาหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพสารพัด ทั้งขับแท็กซี่, ทำร้านอาหาร, เป็นผู้จัดละครโทรทัศน์
ปัจจุบัน ป่วยเป็นโรคไวรัสซีที่ตับ และอีกหลายโรค ต้องรับประทานยาเป็นจำนวนมากและเข้ารับตรวจสุขภาพเป็นประจำในทุกเดือน ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการขายรองเท้ามือสองและเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัดจังหวัดต่าง ๆ [3] และรับจ้างร้องเพลงบ้างตามงานต่าง ๆ แล้วแต่ผู้ว่าจ้าง และได้อยู่กินกับ บูรพา ชินพันธุ์ ภรรยาคนปัจจุบันมานานกว่า 20 ปี ซึ่งทั้งคู่ไม่มีบุตรด้วยกัน ที่บ้านพักส่วนตัวที่ย่านคลองสาม ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยภรรยาไม่ได้ทำงานเนื่องจากเคยป่วยเป็นมะเร็งมาก่อนเหมือนกัน และลาออกจากงานประจำเพื่อดูแลสุริยาโดยเฉพาะ ทำให้สุริยาต้องเป็นเรี่ยวแรงหลักในการหาเลี้ยงชีพแต่เพียงผู้เดียว[4]
ผลงานภาพยนตร์
- พ.ศ. 2516 - ขอบฟ้าเขาเขียว
- พ.ศ. 2517 - คนกินเมีย
- พ.ศ. 2517 - คู่หู
- พ.ศ. 2517 - ทองประกายแสด
- พ.ศ. 2518 - เผ็ด
- พ.ศ. 2519 - กระดังงากลีบทอง
- พ.ศ. 2519 - อีสาวอันตราย
- พ.ศ. 2520 - ตบะแตก
- พ.ศ. 2520 - มนต์รักแม่น้ำมูล
- พ.ศ. 2520 - แม่ดอกกัญชา
- พ.ศ. 2520 - สิงห์สำออย
- พ.ศ. 2521 - ทายาทป๋องแป๋ง
- พ.ศ. 2527 - ลูกสาวคนใหม่
- พ.ศ. 2528 - ปาฏิหาริย์กุมารทอง
ฯลฯ
ผลงานละครทีวี
- 2526 - น้ำฝน (ช่อง 5)
- 2526 - สิงหไกรภพ (ช่อง 7)
- 2527 - ไชยเชษฐ์ (ช่อง 7)
- 2528 - จินดาสมุทร (ช่อง 7)
- 2529 - ทาสวังหลัง (ช่อง 3)
- 2529 - ชะนีน้อย (ช่อง 3)
- 2530 - เจ้าชายน้อย (ช่อง 3)
- 2531 - พยัคฆ์สองแผ่นดิน (ช่อง 3)
- 2531 - โอรสหมาป่า (ช่อง 3)
- 2532 - ทายาทสวรรค์ (ช่อง 3)
- 2534 - มณีอาชา (ช่อง 3)
- 2538 - นางสิบสอง (ช่อง 5)
- 2539 - มาหยารัศมี (ช่อง 3)