ข้ามไปเนื้อหา

สโมสรฟุตบอลโตโก คัสตอม ยูไนเต็ด

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โตโก คัสตอม ยูไนเต็ด
ชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลโตโก คัสตอม ยูไนเต็ด
ฉายาสิงห์นายด่าน
ก่อตั้ง1954; 70 ปีที่แล้ว (1954) ในนาม สโมสรศุลกากร
2015; 9 ปีที่แล้ว (2015) ในนาม เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด
2021; 3 ปีที่แล้ว (2021) ในนาม คัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด
2022; 2 ปีที่แล้ว (2022) ในนาม คัสตอม ยูไนเต็ด
2024; 0 ปีที่แล้ว (2024) ในนาม โตโก คัสตอม ยูไนเต็ด
สนามโตโก คัสตอม สเตเดียม
(ถนนวัดศรีวารีน้อย/ลาดกระบัง 54)
ประธานไทย ยุทธนา หยิมการุณ
ผู้จัดการไทย เปรมสุข ภู่พลับ
ผู้ฝึกสอนญี่ปุ่น เกอิตะ โงโตะ
ลีกไทยลีก 3
2566–67ไทยลีก 2, อันดับที่ 17 (ตกชั้น) ลดลง
สีชุดทีมเยือน

สโมสรฟุตบอลโตโก คัสตอม ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย ปัจจุบันแข่งขันในไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก เจ้าของสโมสรคือ กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง

ประวัติสโมสร

[แก้]

สโมสรศุลกากร ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้พนักงานในองค์กรมีสุขภาพแข็งแรง และต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการกีฬาไทย สโมสรเคยส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน "ถ้วยน้อย" ซึ่งจัดโดย สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อ พ.ศ. 2511 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้ยุติมิได้ส่งทีมฯ เข้าร่วมแข่งขันอีกเลย [1]

จวบจนเมื่อ พ.ศ. 2536 ได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลศุลกากรระหว่างประเทศขึ้น โดยมี ฮ่องกง เป็นเจ้าภาพการแข่งขันครั้งแรก โดยทีมฟุตบอล สโมสรศุลกากร จึงได้ส่งทีมและเข้าร่วมแข่งขันตลอดมาตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปีปัจจุบัน[1]

ก้าวสู่วงการลูกหนังแบบเต็มตัว

[แก้]

ต่อมา สโมสรฯ ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในปี พ.ศ. 2541 [1] และได้ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ทุกชั้น ทั้ง ถ้วย ง., ถ้วย ค. และ ถ้วย ข. ตามระบบคัดกรอง นอกจากนั้นยังได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลกระทรวงและการแข่งขันทุกรายการที่มีโอกาส โดยในปีแรกที่ส่งทีมเข้าแข่งขัน สโมสรทำผลงานได้ดีจนคว้าตำแหน่งชนะเลิศ "ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง." ได้ทันที ทำให้ทีมได้รับการจับตามองมากขึ้น และในปีเดียวกัน สโมสรยังชนะเลิศ "ฟุตบอลศุลกากรระหว่างประเทศ ครั้งที่ 6" ซึ่งจัดขึ้นที่ ฮ่องกง ได้อีกด้วย ก่อนปีต่อมาจะชนะเลิศการแข่งขันนี้ใน ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทย

ไต่เต้าสู่ลีกสูงสุด

[แก้]

ในช่วงเวลาระหว่าง พ.ศ. 2543 - พ.ศ. 2545 สโมสรฯ มีผลงานในสนามที่ดีขึ้น โดยในระหว่างนั้น สโมสรได้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันต่างๆมากมาย อาทิ [1]

สู่ลีกสูงสุด

[แก้]

สโมสรกรมศุลกากรได้รองชนะเลิศในการแข่งขัน ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ข. พร้อมกับสิทธิ์ได้เลื่อนชั้นสู่ลีกรองของประเทศอย่าง "ดิวิชั่น 1" ทันที ในปี พ.ศ. 2547 แถมยังหนีบถ้วยชนะเลิศฟุตบอลภายใน กระทรวงการคลัง (วายุภักษ์เกมส์) พ.ศ. 2547 อีกด้วย สโมสรกรมศุลกากร ใช้เวลาอยู่ในลีกดิวิชั่น 1 เพียง 3 ปี ก่อนจะชนะเลิศการแข่งขัน พร้อมกับเลื่อนชั้นไปเล่นใน "ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก" ได้สำเร็จ ในปี พ.ศ. 2552 แต่ทว่าผลงานของสโมสรฯ ไม่ดีนัก โดยจบด้วยอันดับที่ 16 มีเพียง 20 คะแนน จาก 30 นัด ตกชั้นพร้อมกันกับ ยอดทีมอย่าง ธนาคารกรุงเทพ และ ทหารบก ในที่สุด

หลังจากตกชั้น

[แก้]

หลังจากการตกชั้นในปี 2552 สโมสรฯ ก็ได้ทำการเปลื่ยนชื่อเป็น สมาคมสโมสรสุวรรณภูมิ ศุลกากร ซึ่งทำผลงานได้ดี โดยได้อันดับที่ 7 เกือบที่จะได้ร่วมเพลย์ออฟเลื่อนชั้น เนื่องจากในฤดูกาลนั้น ทาง ไทยพรีเมียร์ลีก ต้องการเพิ่มทีม เป็น 18 ทีม ภายหลังในฤดูกาล 2554 สโมสรกรมศุลกากรได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้เปลื่ยนชื่อมาเป็น สโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ศุลกากร ยูไนเต็ด โดยที่ทีมบริหารทั้งหมดยังเป็นของกรมศุลกากร และมีเป้าหมายคือ ปฏิเสธการซื้อผู้เล่นที่ราคาแพงเกินจริง เพื่อสวนทางกับระบบทำลายเพดานเงินเดือนของทีมใหญ่ๆในไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 และเน้นสร้างผู้เล่นดาวรุ่งสู่ทีมชุดใหญ่ วางรากฐานระบบจัดการแบบมืออาชีพ[2] ซึ่งเพราะเหตุผลนี้ ทำให้ผลงานของทีมไม่ดีนัก จนตกชั้นไปเล่น ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ในปี 2554

สู่ไทยลีก 3 และเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2

[แก้]

หลังจากที่เล่นในดิวิชั่น 2 มาเป็นเวลาถึง 5 ปี โดยลงแข่งขันในโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ใน ดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2559 ในโซน สโมสรฯ ทำผลงานจบด้วยอันดับที่ 2 ของสาย ทำให้ผ่านเข้ารอบแชมเปี้ยนลีก แต่แพ้ สโมสรราชประชา จากการดวลจุดโทษ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเล่นใน ไทยลีก 2 อย่างไรก็ดีด้วยนโยบายของ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่จะจัดตั้งลีกระดับ 3 แทนที่ ทำให้สโมสรได้ลงเล่นใน ไทยลีก 3 โซนตอนล่างของประเทศในปี 2560 ต่อมาในฤดูกาล 2561 สโมสรสามารถจบอันดับที่ 1 และเลื่อนชั้นสู่ ไทยลีก 2 ได้สำเร็จ

ชื่อและอัตลักษณ์ของสโมสร

[แก้]

ผู้เล่น

[แก้]

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

[แก้]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK ไทย เจมส์ โอเวน ชานาแฮม (ยืมตัวจาก อยุธยา ยูไนเต็ด)
2 FW ไทย วรากร ทองใบ (ยืมตัวจาก ชลบุรี)
3 DF บราซิล อาร์ตูร์
4 MF ไทย นรากรณ์ นุ่มจันทร์สกุล (ยืมตัวจาก อุทัยธานี)
6 DF ไทย ประวีณวัช บุญยงค์
7 FW ญี่ปุ่น ไทกะ มัตสึนากะ
9 FW อียิปต์ วะลีด อะเดล
11 FW ไทย วรินทร วัชรไพรงาม
14 FW ไทย รณชัย รังสิโย
16 MF ไทย สันติธร สัทธิรมย์
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
17 MF ไทย ธนวัฒน์ ทรายเพชร (ยืมตัวจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
18 DF ไทย สาธิต ศรีอุทัย
20 DF ไทย กฤตพงศ์ มาลากาญจน์
22 FW ไทย นรินทร์ ชาญนรงค์
23 MF ไทย ภานุวัฒน์ จินตะ
28 GK ไทย อนุพงษ์ กันยาลัง
29 FW ไทย กนกพล เชิดโกทา
66 FW ไทย ณัฐวุฒิ ศรีจันทร์
77 FW ไทย อภิวิชญ์ เสมอเหมือน
99 FW ไทย วีรภัทร นิลบูรพา

ทีมงาน

[แก้]
ตำแหน่ง ชื่อ
ประธานสโมสร ยุทธนา หยิมการุณ
ผู้จัดการทีม เปรมสุข ภู่พลับ
หัวหน้าผู้ฝึกสอน KEITA GOTO
ผู้ช่วยหัวหน้าผู้ฝึกสอน JUN HIRABAYASHI
ทีมชุดใหญ่ผู้ฝึกสอน
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู
ผู้ฝึกสอนฟิตเนส
ทีมแพทย์ประจำสโมสร
นักกายภาพบำบัด
ล่ามประจำสโมสร

ผลงาน

[แก้]

การแข่งขันภายใต้สมาคมฯ

[แก้]

ผลงานอื่น ๆ

[แก้]
  • ฟุตบอลศุลกากรระหว่างประเทศ - ชนะเลิศ 3 ครั้ง 2541 (ฮ่องกง), 2542 (ไทย), 2544 (มาเก๊า)
  • กีฬาฟุตบอลข้าราชการพลเรือน - ชนะเลิศ พ.ศ. 2545
  • ฟุตบอลศุลกากรลุ่มแม่น้ำโขง - ชนะเลิศ พ.ศ. 2545 ที่เชียงใหม่
  • ฟุตบอลภายในกระทรวงการคลัง (วายุภักษ์เกมส์) - ชนะเลิศ พ.ศ. 2547

ผลงานของสโมสรในแต่ละฤดูกาล

[แก้]
ฤดูกาล ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพ ผู้ยิงประตูสูงสุด
ระดับ แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย คะแนน อันดับ ชื่อ จำนวนประตู
2564–65 ไทยลีก 2 34 9 8 17 44 63 35 อันดับที่ 15 รอบ 64 ทีมสุดท้าย ไม่ได้เข้าร่วม บราซิล เอลีอัส 11
2565–66 ไทยลีก 2 34 17 7 10 45 31 58 อันดับที่ 4 รอบ 64 ทีมสุดท้าย รอบ 32 ทีมสุดท้าย ญี่ปุ่น ไดซูเกะ ซากาอิ 10
2566–67 ไทยลีก 2 34 4 9 21 26 63 21 อันดับที่ 17 ไม่ได้เข้าร่วม รอบเพลย์ออฟ ไทย นราธิป เครือรัญญา 5
2567–68 ไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก รอบแรก รอบคัดเลือกรอบสอง
แชมป์ รองแชมป์ อันดับที่สาม เลื่อนชั้น ตกชั้น

สโมสรพันธมิตร

[แก้]

พันธมิตรในประเทศ

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]