เวลาออมแสง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แม้จะไม่ได้ใช้โดยประชากรส่วนใหญ่ของโลก แต่เวลาออมแสงก็เป็นเรื่องที่พบได้ปกติในบริเวณซีกโลกเหนือ
  บริเวณที่มีการใช้เวลาออมแสง
  บริเวณที่ใช้เวลาออมแสงในอดีต
  บริเวณที่ไม่เคยมีการใช้เวลาออมแสง

เวลาออมแสง (อังกฤษ : Daylight Saving Time, อักษรย่อ : DST) หรือ เวลาฤดูร้อน (อังกฤษ : Summer Time) เป็นข้อตกลงในการปรับนาฬิกาไปข้างหน้า เพื่อให้มีแสงอาทิตย์ในช่วงเวลาบ่ายมากขึ้นและมีแสงอาทิตย์ในช่วงเวลาเช้าน้อยลง โดยปกติแล้วการปรับจะปรับไปข้างหน้าหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้าฤดูใบไม้ผลิ และปรับกลับหลังในฤดูใบไม้ร่วง เวลาออมแสงในยุคสมัยใหม่ถูกเสนอขึ้นครั้งแรกโดย William Willett นักก่อสร้างชาวอังกฤษ[1] หลายประเทศได้เริ่มใช้การปรับเวลาลักษณะนี้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีรายละเอียดแตกต่างไปตามสถานที่และมีการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว

การเลื่อนนาฬิกาตามหลักเวลาออมแสงนี้ก่อให้เกิดความท้าทายในหลายด้าน เช่น อาจทำให้การรักษาเวลายุ่งยากขึ้น และกระทบการนัดหมาย การเดินทาง การบัญชี การลงบันทึก อุปกรณ์การแพทย์ รวมไปถึงเครื่องจักรอุตสาหกรรม[2] ระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติการส่วนมากสามารถปรับนาฬิกาของตัวได้อัตโนมัติ แต่การปรับนี้ก็อาจทำได้จำกัดและมีความผิดพลาด โดยเฉพาะเมื่อกฎของเวลาออมแสงเปลี่ยน[3]

ระบบเวลาออมแสงมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีช่วงแสงสว่างที่ "เหมาะสม" ตามความต้องการของท้องถิ่น โดยปรับนาฬิกาให้เข้ากับการขึ้นลงของดวงอาทิตย์ ซึ่งเปลี่ยนไปตามฤดูกาลตามความเอียงของแกนโลก

ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ได้เริ่มทำการปรับเวลาออมแสงแตกต่างจากประเทศอื่นโดยเริ่มต้น 3 อาทิตย์ก่อนเวลาออมแสงปกติ และสิ้นสุด 1 อาทิตย์หลังเวลาออมแสงปกติ การปรับเปลี่ยนดังกล่าวได้รับการรับรองโดยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ในวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2005

ในประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เคยมี DST ได้แก่ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์

ศัพทวิทยา[แก้]

ในภาษาอังกฤษ Daylight Saving Time บางครั้งอาจเขียนเชื่อมกันด้วยเครื่องหมายยัติภังค์ (-) เป็น Daylight-Saving Time 'saving' ในที่นี้เป็นคำคุณศัพท์ เหมือนกับในคำว่า labor saving device (เครื่องทุ่นแรง, เครื่องประหยัดแรง) ส่วนการใช้คำอื่น ๆ เช่น daylight savings time, daylight savings, และ daylight time ก็พบเห็นได้ทั่วไป โดย 'savings' ในที่นี้เป็นการเปรียบเหมือนใน savings account (บัญชีออมทรัพย์)[4] ในข้อเสนอต้นฉบับของ Willett นั้น ใช้ศัพท์ว่า daylight saving แต่ใน ค.ศ. 1911 คำว่า summer time ก็ได้มาแทนที่คำว่า daylight saving time ในร่างกฎหมายในสหราชอาณาจักร[5]

ชื่อเขตเวลานั้นมักจะเปลี่ยนไปเมื่อใช้เวลาออมแสง ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันแทนที่คำว่า standard (มาตรฐาน) ด้วย daylight (ออมแสง): เช่น Pacific Standard Time (PST) กลายเป็น Pacific Daylight Time (PDT) ภาษาอังกฤษแบบบริเตนใช้ summer (ฤดูร้อน): เช่น Greenwich Mean Time (GMT) กลายเป็น British Summer Time (BST) ตัวย่อนั้นไม่ได้เปลี่ยนตามเสมอ เช่น ชาวออสเตรเลียจำนวนมาก (แม้ไม่ทั้งหมด) เรียก Eastern Standard Time (EST) กลายเป็น Eastern Summer Time (ซึ่งย่อว่า EST เช่นกัน)

อ้างอิง[แก้]

  • Spring Forward: The Annual Madness of Daylight Saving Time.
  • Seize the Daylight: The Curious and Contentious Story of Daylight Saving Time. The British version, focusing on the UK, is

ดูเพิ่ม[แก้]

  1. Prerau. Seize the Daylight. p. 3.
  2. Peter G. Neumann (1994). "Computer date and time problems". Computer-Related Risks. Addison-Wesley. ISBN 0-201-55805-X. สืบค้นเมื่อ 2007-05-26.
  3. Stephen Tong; Joseph Williams (2007). "Are you prepared for daylight saving time in 2007?". IT Professional. IEEE Computer Society. 9 (1): 36–41. doi:10.1109/MITP.2007.2. สืบค้นเมื่อ 2007-05-16.
  4. Daylight saving time and its variants:
    • Richard A. Meade (1978). "Language change in this century". English Journal. 67 (9): 27–30. doi:10.2307/815124.
    • Joseph P. Pickett (บ.ก.). "daylight-saving time". The American Heritage Dictionary of the English Language (4th (2000) ed.). Boston: Houghton Mifflin. ISBN 0-395-82517-2. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-13. สืบค้นเมื่อ 2007-05-26. variant forms: or daylight-savings time
    • "daylight saving time". Merriam-Webster's Online Dictionary. สืบค้นเมื่อ 2009-02-13. called also daylight saving, daylight savings, daylight savings time, daylight time
    • "15 U.S.C. § 260a notes". สืบค้นเมื่อ 2007-05-09. Congressional Findings; Expansion of Daylight Saving Time
  5. Prerau. Seize the Daylight. p. 22.