ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จอห์น ซีนา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 113: บรรทัด 113:
ในศึกรอว์ (2 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาพูด ยอมรับว่าเขาไม่คิดมาก่อนว่าจะแพ้ แต่ก็แพ้จนได้ เขาไม่ได้ออกมาเพื่อจะขอสู้กันอีกครั้ง เพราะด่ากันไปมาปีกว่าแล้ว และก็ได้ตัดสินกันไปแล้วเมื่อคืนนี้ จอห์น ซีนา บอกว่าเขาขอยอมรับว่า เดอะ ร็อค คือสตาร์ WWE ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการ แต่ บร็อก เลสเนอร์ ออกมา และขึ้นมาประจันหน้ากับ จอห์น ซีนา เพื่อขอจับมือ ที่ไหนได้ จอห์น ซีนา โดน บร็อก เลสเนอร์ จับใส่ท่า F-5 ดับสนิท<ref>http://sports.yahoo.com/top/news?slug=ycn-11188404</ref> ต่อมา ในศึกรอว์ (9 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาขัดจังหวะ แล้วก็เดินมาตบหน้า บร็อก เลสเนอร์ เลยโดน บร็อก เลสเนอร์ คร่อมต่อยเป็นชุดจนเลือดกบปาก ร้อนถึงสตาร์ WWE คนอื่น ๆ ต้องออกมาช่วยกันจับแยก และในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เดวิด โอทังก้า สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เดวิด โอทังก้า มาได้สำเร็จ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ บร็อก เลสเนอร์ โผล่มาเตะผ่าหมาก จอห์น ซีนา แล้วต่อด้วย F-5 ก่อนจะเดินจากไป<ref>{{cite web |url=http://www.wwe.com/shows/raw/2012-04-09/wwe-raw-supershow-results|title=Raw Kick Off |author=Tom Herrera |date=9.4.2012 |publisher=WWE |accessdate=April 9, 2012}}</ref> จอห์น ซีนา แค้นมากจึงขอท้าเจอกับ บร็อก เลสเนอร์ ในศึก [[เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012)]] ในแมตช์การปล้ำ เอ็กซ์ตรีมรูลส์ แมตช์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บร็อก เลสเนอร์ มาได้สำเร็จ หลังแมตช์ จอห์น ซีนา เอาไมค์มาประกาศว่าเขาอาจจะต้องจากไปสักพัก เพราะบาดเจ็บจากแมตช์นี้ แล้วก็อวยพรให้แฟนๆ กลับบ้านอย่างปลอดภัย<ref>{{cite web |url=http://www.wwe.com/shows/extremerules/2012/lesnar-cena|title=Extreme Rules Main event |author=Tom Herrera |date=9.4.2012 |publisher=WWE |accessdate=April 9, 2012}}</ref><ref>{{cite web |url=http://www.wwe.com/shows/extremerules/2012/extreme-rules-2012-results|title=Extreme Rules results |author= |date=30.4.2012 |work= |publisher=WWE |accessdate=24 April 2012}}</ref><ref>[http://www.wwe.com/shows/extremerules/2012/john-cena-injured]</ref>
ในศึกรอว์ (2 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาพูด ยอมรับว่าเขาไม่คิดมาก่อนว่าจะแพ้ แต่ก็แพ้จนได้ เขาไม่ได้ออกมาเพื่อจะขอสู้กันอีกครั้ง เพราะด่ากันไปมาปีกว่าแล้ว และก็ได้ตัดสินกันไปแล้วเมื่อคืนนี้ จอห์น ซีนา บอกว่าเขาขอยอมรับว่า เดอะ ร็อค คือสตาร์ WWE ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการ แต่ บร็อก เลสเนอร์ ออกมา และขึ้นมาประจันหน้ากับ จอห์น ซีนา เพื่อขอจับมือ ที่ไหนได้ จอห์น ซีนา โดน บร็อก เลสเนอร์ จับใส่ท่า F-5 ดับสนิท<ref>http://sports.yahoo.com/top/news?slug=ycn-11188404</ref> ต่อมา ในศึกรอว์ (9 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาขัดจังหวะ แล้วก็เดินมาตบหน้า บร็อก เลสเนอร์ เลยโดน บร็อก เลสเนอร์ คร่อมต่อยเป็นชุดจนเลือดกบปาก ร้อนถึงสตาร์ WWE คนอื่น ๆ ต้องออกมาช่วยกันจับแยก และในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เดวิด โอทังก้า สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เดวิด โอทังก้า มาได้สำเร็จ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ บร็อก เลสเนอร์ โผล่มาเตะผ่าหมาก จอห์น ซีนา แล้วต่อด้วย F-5 ก่อนจะเดินจากไป<ref>{{cite web |url=http://www.wwe.com/shows/raw/2012-04-09/wwe-raw-supershow-results|title=Raw Kick Off |author=Tom Herrera |date=9.4.2012 |publisher=WWE |accessdate=April 9, 2012}}</ref> จอห์น ซีนา แค้นมากจึงขอท้าเจอกับ บร็อก เลสเนอร์ ในศึก [[เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012)]] ในแมตช์การปล้ำ เอ็กซ์ตรีมรูลส์ แมตช์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บร็อก เลสเนอร์ มาได้สำเร็จ หลังแมตช์ จอห์น ซีนา เอาไมค์มาประกาศว่าเขาอาจจะต้องจากไปสักพัก เพราะบาดเจ็บจากแมตช์นี้ แล้วก็อวยพรให้แฟนๆ กลับบ้านอย่างปลอดภัย<ref>{{cite web |url=http://www.wwe.com/shows/extremerules/2012/lesnar-cena|title=Extreme Rules Main event |author=Tom Herrera |date=9.4.2012 |publisher=WWE |accessdate=April 9, 2012}}</ref><ref>{{cite web |url=http://www.wwe.com/shows/extremerules/2012/extreme-rules-2012-results|title=Extreme Rules results |author= |date=30.4.2012 |work= |publisher=WWE |accessdate=24 April 2012}}</ref><ref>[http://www.wwe.com/shows/extremerules/2012/john-cena-injured]</ref>


ในศึกรอว์ (30 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาโดยมีการเข้าเฝือกอ่อนที่แขนซ้าย จอห์น ซีนา ออกมาพูดว่าจากการทำ MRI สแกนพบว่ากล้ามเนื้อไม่ฉีก ดังนั้นเขาจึงยังอยู่ใน WWE มันมีการเจ็บอยู่สองประเภท คือ บาดเจ็บ กับเจ็บ ถ้าบาดเจ็บก็ต้องถูกส่งกลับบ้าน แต่ถ้าแค่เจ็บ เขาก็สามารถออกมาทำในสิ่งที่เขารักได้ [[จอห์น โลรีนายติส]] ออกมา บอกว่าเขานำเอา บร็อก เลสเนอร์ กลับมาในฐานะสัญลักษณ์คนใหม่ของสมาคม และบอกว่าคนที่จะเจอกับ จอห์น ซีนา ในศึก [[โอเวอร์เดอะลิมิต (2012)]] คือ [[แมทท์ บลูม|ลอร์ด เทนไซ]] นั่นเอง ลอร์ด เทนไซ กับ [[คาซมา (นักมวยปล้ำ)|ซะกะโมะโตะ]] ขึ้นเวทีมาเตรียมจะรุม จอห์น ซีนา ที่ไหนได้ จอห์น โลรีนายติส อัดใส่ จอห์น ซีนา จากด้านหลังแล้วบอกว่าคนที่จะเจอกับ จอห์น ซีนา ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2012) คือ เขานั่นเอง<ref>http://www.wrestlinginc.com/wi/news/2012/0504/552328/john-laurinaitis/</ref> ซะกะโมะโตะ ก็เตะแขน จอห์น ซีนา ที่เจ็บจากนั้น จอห์น โลรีนายติส เหวี่ยง จอห์น ซีนา ไปอัดมุมเวที และต่อด้วย ลอร์ด เทนไซ ใช้ท่า Running Senton จากนั้น จอห์น โลรีนายติส กระทืบ จอห์น ซีนา แล้ว ลอร์ด เทนไซ ก็ลาก จอห์น ซีนา เอาแขนข้างเจ็บไปอัดกับเสาเวทีแล้วให้ จอห์น โลรีนายติส กระทืบซ้ำปิดท้ายด้วยเก้าอี้เหล็ก ก่อนจะเดินจากไป
ในศึกรอว์ (30 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาโดยมีการเข้าเฝือกอ่อนที่แขนซ้าย จอห์น ซีนา บอกว่า ทริปเปิล เอช แขนหัก จากการถูก บร็อก เลสเนอร์ เล่นงานหักแขน และเมื่อคืนชั้นก็เจอแบบเดียวกัน แต่ตอนนี้ชั้นก็มาอยู่ที่นี่แล้ว จากการทำ MRI สแกนพบว่ากล้ามเนื้อไม่ฉีก ดังนั้นเขาจึงยังอยู่ใน WWE มันมีการเจ็บอยู่สองประเภท คือ บาดเจ็บ กับเจ็บ ถ้าบาดเจ็บก็ต้องถูกส่งกลับบ้าน แต่ถ้าแค่เจ็บ เขาก็สามารถออกมาทำในสิ่งที่เขารักได้ [[จอห์น โลรีนายติส]] ออกมา บอกว่าเขานำเอา บร็อก เลสเนอร์ กลับมาในฐานะสัญลักษณ์คนใหม่ของสมาคม และบอกว่าคนที่จะเจอกับ จอห์น ซีนา ในศึก [[โอเวอร์เดอะลิมิต (2012)]] คือ [[แมทท์ บลูม|ลอร์ด เทนไซ]] นั่นเอง ลอร์ด เทนไซ กับ [[คาซมา (นักมวยปล้ำ)|ซะกะโมะโตะ]] ขึ้นเวทีมาเตรียมจะรุม จอห์น ซีนา ที่ไหนได้ จอห์น โลรีนายติส อัดใส่ จอห์น ซีนา จากด้านหลังแล้วบอกว่าคนที่จะเจอกับ จอห์น ซีนา ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2012) คือ เขานั่นเอง<ref>http://www.wrestlinginc.com/wi/news/2012/0504/552328/john-laurinaitis/</ref> ซะกะโมะโตะ ก็เตะแขน จอห์น ซีนา ที่เจ็บจากนั้น จอห์น โลรีนายติส เหวี่ยง จอห์น ซีนา ไปอัดมุมเวที และต่อด้วย ลอร์ด เทนไซ ใช้ท่า Running Senton จากนั้น จอห์น โลรีนายติส กระทืบ จอห์น ซีนา แล้ว ลอร์ด เทนไซ ก็ลาก จอห์น ซีนา เอาแขนข้างเจ็บไปอัดกับเสาเวทีแล้วให้ จอห์น โลรีนายติส กระทืบซ้ำปิดท้ายด้วยเก้าอี้เหล็ก ก่อนจะเดินจากไป


==เกี่ยวกับมวยปล้ำ==
==เกี่ยวกับมวยปล้ำ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:35, 15 พฤษภาคม 2555

จอห์น ซีนา
เกิด (1977-04-23) 23 เมษายน ค.ศ. 1977 (47 ปี)
เวสต์ นิวเบอร์รี, แมสซาชูเซตส์
ที่พักแทมปา ฟลอริดา[1]
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ
ชื่อบนสังเวียนจอห์น ซีนา
เดอะ โปรโตไทพ์[2]
ส่วนสูง6 ft 1 in (1.85 m)[3]
น้ำหนัก251 lb (114 กก)[3]
มาจากClassified (UPW)
เวสต์ นิวเบอร์รี, แมสซาชูเซตส์ (WWE)
ฝึกหัดโดยUltimate Pro Wrestling
Ohio Valley Wrestling
เปิดตัวค.ศ. 2001

จอห์น เฟลิกซ์ แอนโธนี ซีนา[4] (อังกฤษ: John Felix Anthony Cena) เกิดวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1977[5] ที่ เวสต์ นิวเบอร์รี, แมสซาชูเซตส์ เป็นนักแสดง นักร้อง ฮิปฮอป และ นักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกัน ปัจจุบันเซ็นสัญญาให้กับสมาคม เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือ ดับเบิลยูดับเบิลยูอี สังกัดค่าย รอว์ ในนามสังเวียนมวยปล้ำมีชื่อว่า จอห์น ซีนา[6] เป็นแชมป์โลก 12 สมัย (แชมป์ WWE 10 สมัย และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 2 สมัย)[7] แชมป์ยูเอส 3 สมัย, แชมป์โลกแทคทีม 2 สมัย, แชมป์แทคทีม WWE 2 สมัย และยังเป็นผู้ชนะในศึก รอยัลรัมเบิล ประจำปี 2008

ประวัติในวงการมวยปล้ำอาชีพ

ก่อนเข้าวงการมวยปล้ำ

หลังจบการศึกษาจากสถาบัน คุชชิง อคาเดมี ได้ศึกษาต่อที่ สปิงค์ฟิวด์ คอลเลต ที่ สปิงค์ฟิวด์,แมตซาซูเซตท์ ในสาขา สรีระวิทยา[8] และยังเป็นนักอเมริกันฟุตบอล ในดิวิชั่น 3 สวมเสื้อเบอร์ 54[9][10] และจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1998 หลังจากเรียนจบเขาได้ทำงานเป็นนักเพาะกาย[11] และ พนักงานขับรถ ลีมูซีน[12]

ในสังเวียนมวยปล้ำ

จอห์น ซีนา ได้ฝึกฝนในสมาคม Ultimate University โดยใช้ชื่อในการปล้ำว่า The Prototype หรือ Mr.P และได้แชมป์เฮฟวี่เวท ในเดือนเมษายน ปี 2000 และได้แชมป์แทคทีม คู่กับ ริโค คอนสเตนติโน 2 สมัย[13] และในปี 2001 ได้เซ็นสัญญากับ WWF (ภายหลังเปลี่ยนเป็น WWE ในปี 2002 - ปัจจุบัน) ในสไตล์เด็กแร็พและในปัจจุบันในสไตล์ทหาร

เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ / ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (2002 - ปัจจุบัน)

สแมคดาวน์ (2002 - 2005)

ปี 2002

จอห์น ซีนา ได้เปิดตัวครั้งแรกวันที่ 27 มิถุนายน ในศึก สแมคดาวน์ และเปิดศึกกับ เคิร์ต แองเกิล[14] ซึ่ง เคิร์ต แองเกิล ได้ขึ้นมาบนเวทีและท้านักมวยปล้ำคนไหนก็ได้ให้ออกมาสู้กับเขาและเป็น จอห์น ซีนา ที่ออกมารับคำท้า และแมตช์นั้นเองคือแมตช์การปล้ำแมตช์แรกของเขาใน WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เคิร์ต แองเกิล ไปในที่สุด[15] จากนั้นมา จอห์น ซีนา ก็กลายเป็นขวัญใจของแฟนๆมวยปล้ำ พร้อมทั้งหันไปเปิดศึกกับ คริส เจอริโค และเอาชนะ คริส เจอริโค ในศึก Vengeance มาได้อีกด้วย ในเดือนตุลาคม จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ บิลลี คิดแมน ร่วมปล้ำในทัวร์นาเมนต์หาแชมป์แทคทีม WWE แต่ก็แพ้ตกรอบแรกไป[16] ทำให้ จอห์น ซีนา โมโห ทำร้าย บิลลี คิดแมน และกลายเป็นฝ่ายอธรรมไปในที่สุด

ปี 2003

ในศึก Backlash 2003 จอห์น ซีนา ได้มีโอกาสชิงแชมป์ WWE กับ บร็อก เลสเนอร์[17][18][19] ตอนนี้เองที่ จอห์น ซีนา ได้คิดท่าไม้ตาย F-U (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Attiude Adjustment) ซึ่งล้อเลียนท่าไม้ตาย F-5 ของ บร็อก เลสเนอร์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ จากนั้น จอห์น ซีนา ก็ไปเปิดศึกกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ และเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ในศึก Vengeance[20] เมื่อถึงท้ายปี จอห์น ซีนา ก็หันกลับมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง และได้ร่วมทีมกับ เคิร์ต แองเกิล เอาชนะทีมของ บร็อก เลสเนอร์ ไปได้ ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ 2003[21][22]

ปี 2004
จอห์น ซีนา กับ แชมป์ยูเอส

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 จอห์น ซีนา ได้คว้าแชมป์ยูเอส จาก บิ๊กโชว์ และเป็นแชมป์เส้นแรกของเขาในสมาคม WWE[23] หลังจากนั้นก็ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นขวัญใจของแฟนๆมวยปล้ำทั่วประเทศและเขาไปดัดแปลงลักษณะของเข็มขัดให้สามารถหมุนได้เป็นที่นิยมของเด็กๆ และ วัยรุ่นเป็นอย่างมาก[24][25] และหลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็พัฒนาฝีมือการปล้ำได้เยอะเลยทีเดียว

ปี 2005

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 จอห์น ซีนา ได้คว้าแชมป์ WWE ครั้งแรกจาก JBL[26] และเมื่อ จอห์น ซีนา ได้ครองเข็มขัดแชมป์ทั้งสองเส้นนั้น เขาไปดัดแปลงลักษณะของเข็มขัดให้สามารถหมุนได้ เป็นที่นิยมของเด็กๆ และ วัยรุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งดัดแปลงเหมือน แชมป์ยูเอส อีกทั้งตัวเขายังเป็นขวัญใจสาวๆหลายๆคนอีกด้วย ต่อมา ในศึก จัดจ์เมนท์เดย์ (2005) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ JBL ในการปล้ำ I Quit Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ[27]

รอว์ (2005 - ปัจจุบัน)

ปี 2005

หลังจากนั้น แชมป์ WWE จอห์น ซีนา ก็ถูกดราฟท์ไปอยู่ รอว์ โดยสลับกับ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท บาติสต้า[28] โดย จอห์น ซีนา ได้เปิดศึกกับ คริส เจอริโค เป็นคนแรกหลังจากย้ายมาอยู่รอว์ และ จอห์น ซีนา ก็เอาชนะ คริส เจอริโค มาได้ 3-4 ครั้ง[29] จนกระทั่ง คริส เจอริโค ต้องห่างหายจากการปล้ำ จากนั้น เคิร์ต แองเกิล ก็มาขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ จอห์น ซีนา สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เอาชนะ เคิร์ต แองเกิล ได้เกือบทุกครั้ง

ปี 2006

ในศึก New Year's Revolution 2006 จอห์น ซีนา เสียแชมป์ WWE ให้กับ เอดจ์ เพราะหลังจากที่ จอห์น ซีนา ชนะทั้ง เคิร์ต แองเกิล, ชอว์น ไมเคิลส์, เคน, คริส มาสเตอร์ และ คาร์ลิโต้ สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ ในแมตช์การปล้ำ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ แต่ เอดจ์ ใช้แผนสกปรก โดยการใช้กระเป๋าเอกสารสิทธิ์ Money In The Bank ชิงแชมป์ WWE กับ จอห์น ซีนา ในสภาพไม่พร้อมปล้ำ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เสียแชมป์โลกเป็นครั้งแรก ให้กับ เอดจ์[30] ทำให้ จอห์น ซีนา แค้นมาก ต่อมา ในศึก รอยัลรัมเบิล (2006) จอห์น ซีนา ก็เอาคืน เอดจ์ และกลับมาเป็นแชมป์ WWE อีกครั้ง

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 จอห์น ซีนา ได้ปะทะกับสุดยอดนักมวยปล้ำของ WWE ทริปเปิล เอช เป็นครั้งแรก สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ แต่ก็ถูก เอดจ์ ทิ้งลงแม่น้ำภายหลังจากที่เสียแชมป์ให้ และเข็มขัดก็ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นตัว "R" แต่ จอห์น ซีนา ก็สามารถปราบ เอดจ์ ได้อีกครั้งและคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้ และเปลี่ยนจากรูป "R" มาเป็น "W" ดังเดิมและหลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็สามารถชนะนักมวยปล้ำที่เก่งกาจได้หลายคนทั้ง ทริปเปิล เอช, ชอว์น ไมเคิลส์, เอดจ์, เคิร์ต แองเกิล, คริส เจอริโค, แรนดี ออร์ตัน, บิ๊กโชว์ ทำให้พูดได้ว่า จอห์น ซีนา กลายเป็นนักมวยปล้ำที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้อีกด้วย และท้ายที่สุด จอห์น ซีนา อาจจะกลายเป็นหนึ่งในตำนานของ WWE อย่างเช่น สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน, เดอะ ร็อค, ฮัลค์ โฮแกน, เบรต ฮาร์ต และ ดิอันเดอร์เทเกอร์

ปี 2007
จอห์น ซีนา กับ แชมป์ WWE ในปี ค.ศ. 2007

ในศึก รอยัลรัมเบิล (2007) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ อูมาก้า ในแมตช์การปล้ำ Last Man Standing Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์กับนักมวยปล้ำมากฝีมือระดับตำนานอย่าง ชอว์น ไมเคิลส์ ผลสรุปคือสู้กันอย่างสูสีและเป็น จอห์น ซีนา ที่ป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ได้สำเร็จ[31]

หลังจากนั้น จอห์น ซีนา ก็ครองแชมป์ได้ยาวนานตั้งแต่ปี 2006 - 2007 จนกระทั่ง แรนดี ออร์ตัน ได้ไปทำร้ายพ่อของ จอห์น ซีนา ด้วยการเตะกะโหลกศีรษะ ทำให้ จอห์น ซีนา แค้นและโมโห แรนดี ออร์ตัน มาก ต่อมา จอห์น ซีนา จึงอัดและเล่นงาน แรนดี ออร์ตัน อย่างหนักและให้พ่อของตนเอาคืน แรนดี ออร์ตัน โดยเตะกะโหลกศีรษะทำเอา แรนดี ออร์ตัน เจ็บหนักมาก ต่อมา จอห์น ซีนา ก็ต้องสละแชมป์ของตนและพักการปล้ำเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องพักการปล้ำไปเป็นเวลานานหลายเดือน[32]

ปี 2008
จอห์น ซีนา กับ แชมป์โลกแทคทีม

ในศึก รอยัลรัมเบิล (2008) จอห์น ซีนา ได้กลับมาร่วมในแมตช์การปล้ำ รอยัลรัมเบิล ครั้งนี้ ซึ่งเขาสามารถเอาชนะ ทริปเปิล เอช และ บาติสต้า ในรอบ 3 คนสุดท้าย โดยการจับเหวี่ยงจนหมด เขาเป็นผู้ชนะเลิศ รอยัลรัมเบิล ที่ขึ้นมาเป็นคนที่ 30 เช่นเดียวกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ที่ขึ้นมาเป็นคนที่ 30 เมื่อปี 2007[33] ต่อมา ในศึก โนเวย์เอาท์ (2008) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE ล่วงหน้ากับ แรนดี ออร์ตัน เจ้าของตำแหน่ง[34] สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE กลับคืนมาได้[35] ต่อมา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ แรนดี ออร์ตัน และ ทริปเปิล เอช ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า เพื่อชิงแชมป์ WWE[36] สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถนำแชมป์โลกมาสู่เข็มขัดของตนได้เหมือนนักมวยปล้ำคนก่อนๆ[37] เนื่องจากเขาก็พักการปล้ำไปเพราะอาการบาดเจ็บรบกวน[38][39] และสุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก คริส เจอริโีค ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2008) มาได้สำเร็จ[40] แต่เข็มขัดเส้นนี้ก็ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงรูปแบบแต่อย่างใด และ คริส เจอริโค พยายามชิงหลายครั้งแต่ จอห์น ซีนา ก็ชนะทุกครั้ง

ปี 2009

ในศึก โนเวย์เอาท์ (2009) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในกรงเหล็กมรณะ หรือ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ กับนักมวยปล้ำถึง 5 คน ได้แก่ เรย์ มิสเตริโอ, เคน, ไมค์ นอคซ์, คริส เจอริโค และ โคฟี คิงส์ตัน ผลปรากฏว่า ตอนเปิดตัว เอดจ์ ได้วิ่งเข้ามาลอบทำร้าย โคฟี คิงส์ตัน หลังจากเสียแชมป์ WWE ให้กับ ทริปเปิล เอช ไปแล้ว ทำให้ โคฟี คิงส์ตัน หมดสิทธิ์การปล้ำ และ เอดจ์ ก็เข้าไปในกรงแทน และก็ใช้กลโกงสารพัดจนกระชากเข็มขัดแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไปจาก จอห์น ซีนา[41]

จอห์น ซีนา แค้นมากที่ตนเสียแชมป์โลกให้ เอดจ์ ตนจึงพยายามหาโอกาสชิงเข็มขัดคืนมาแต่ก็ไม่ได้ซักที เพราะ วิคกี เกอร์เรโร ภรรยาของ เอดจ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของ สแมคดาวน์ ได้กีดกันทุกวิถีทางไม่ให้ เอดจ์ ได้เจอกับ จอห์น ซีนา แต่ ซีนา ก็ไม่ยอมแพ้ขู่ วิคกี เกอร์เรโร เรื่องที่เธอแอบเป็นกิ๊กกับ บิ๊กโชว์ จนเธอจำต้องยอมให้ จอห์น ซีนา ได้ชิงแชมป์กับ เอดจ์ แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏให้ เอดจ์ รู้ว่าเธอปันใจให้กับ บิ๊กโชว์ ทำให้คู่นี้กลายเป็นศัตรูกัน ทั้งๆที่กะจะรุม ซีนา แต่แรก 3 คนนี้ได้เจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ผลปรากฏว่า จอห์น ซีนา ได้เล่นงาน เอดจ์ และ บิ๊กโชว์ จนคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 มาได้สำเร็จ[42]

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เอดจ์ ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ จอห์น ซีนา อีกครั้ง ในศึก แบคแลช (2009) ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายของ เอดจ์ ที่จะได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ทั้งคู่เจอกันในรูปแบบการปล้ำ Last Man Standing Match ซึ่งใครล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วถูกกรรมการนับ 10 ก็จะเป็นฝ่ายแพ้ไป ผลปรากฏว่า จอห์น ซีนา ถูก บิ๊กโชว์ เล่นงานด้วยท่า โชคสแลม กับ ไฟสปอตไลท์ยักษ์ ทำให้ จอห์น ซีนา สลบและแพ้แบบหมดรูป และต้องเสียแชมป์โลกเฮฟวี่เวท คืนให้กับ เอดจ์ ไปในที่สุด[43]

จอห์น ซีนา ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2009

จอห์น ซีนา แค้นมากจึงขอท้าเจอกับ บิ๊กโชว์ ในศึก จัดจ์เมนท์เดย์ (2009) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ[44] ต่อมา บิ๊กโชว์ จึงไปขอท้าเจอกับ จอห์น ซีนา อีกครั้ง ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) ในรูปแบบการปล้ำ Submission Match ใครตบพื้นก่อนยอมแพ้ สุดท้าย บิ๊กโชว์ ต้องตบพื้นยอมแพ้ ด้วยท่า STF ทำให้ จอห์น ซีนา ได้ล้างแค้น บิ๊กโชว์ อย่างสะใจ ไปในที่สุด[45] ต่อมา จอห์น ซีนา ได้เปิดศึกกับ เดอะ มิซ ยาวนานเจอกันหลายครั้งสุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะ เดอะ มิซ ได้ตลอดเวลา ต่อมา ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ แรนดี ออร์ตัน และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 มาครองได้สำเร็จ[46] ในรูปแบบการปล้ำ ไอรอน แมน แมทช์ ซึ่งชนะไป 6-5 ต่อมา ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2009) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับกลุ่ม ดี-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ ทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า สุดท้าย จอห์น ซีนา สามารถเอาชนะทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ และป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ

แต่น่าเสียดายที่ จอห์น ซีนา ต้องเสียแชมป์โลกให้กับนักมวยปล้ำหน้าใหม่ที่ชื่อ เชมัส ในรูปแบบการปล้ำ Table Match ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2009)[47] ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา ได้รับรางวัล สแลมมีอวอร์ด รางวัลซูเปอร์สตาร์แห่งปี ประจำปี 2009 โดยต้องปล้ำรอบ 4 คนสุดท้าย โดย จอห์น ซีนา ชนะ ซีเอ็ม พังค์ และเข้ารอบชิงชนะเลิศกับ แรนดี ออร์ตัน หลังจาก แรนดี ออร์ตัน เอาชนะ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้ในรอบ 4 คนสุดท้าย และเป็น จอห์น ซีนา ที่เอาชนะ แรนดี ออร์ตัน ได้และคว้ารางวัลนี้ไปครองได้สำเร็จ

ปี 2010
จอห์น ซีนา กับ แชมป์ WWE ในปี ค.ศ. 2010

ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) จอห์น ซีนา สามารถคว้าแชมป์ WWE กลับคืนมาจาก เชมัส ได้อีกครั้งโดยปล้ำ ในกรงเหล็กมรณะ หรือ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ โดย จอห์น ซีนา เอาชนะทั้ง 5 คน มาได้สำเร็จ คือ เชมัส, ทริปเปิล เอช, แรนดี ออร์ตัน, โคฟี คิงส์ตัน และ เท็ด ดิบิอาซี่ แต่หลังจากจบการแข่งขัน บาติสต้า กลับออกมาเล่นงาน จอห์น ซีนา จนทำให้ต้องเสียแชมป์ WWE ให้กับ บาติสต้า อย่างรวดเร็ว[48] จนทำให้ จอห์น ซีนา โมโหมากแต่ก็ถูก บาติสต้า เข้ามาลอบทำร้ายตลอดเวลา จอห์น ซีนา ถึงกับขอท้าชิงแชมป์ WWE คืนจาก บาติสต้า ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 และสรุปว่า จอห์น ซีนา สามารถเอาชนะ บาติสต้า ได้ด้วยท่า STF ทำให้ จอห์น ซีนา ได้แชมป์โลกเป็นสมัยที่ 9 และเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของ จอห์น ซีนา และเป็นครั้งแรกด้วยที่ จอห์น ซีนา เอาชนะ บาติสต้า มาได้สำเร็จ[49]

แต่เรื่องยังไม่จบ บาติสต้า ได้มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา ในศึกรอว์ และ บาติสต้า ขอชิงแชมป์ WWE คืนจาก จอห์น ซีนา ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010) และเจอกันในรูปแบบการปล้ำ Last Man Standing Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ บาติสต้า ไปได้อีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ทำให้ จอห์น ซีนา ป้องกันแชมป์ WWE ของตนเอาไว้ได้[50] หลังจาก จอห์น ซีนา ชนะ บาติสต้า แล้ว บาติสต้า ก็ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 อีกครั้งหลังจากเอาชนะ แรนดี ออร์ตัน และ เชมัส ในการปล้ำ 3 เส้า และเจอกับ จอห์น ซีนา ในแมตช์การปล้ำ I Quit Match ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2010) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บาติสต้า ไปได้เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน และ จอห์น ซีนา ก็ป้องกันแชมป์ WWE ของตนเอาไว้ได้อีกครั้ง[51] และทำให้ บาติสต้า ได้ประกาศลาออกจากวงการมวยปล้ำของ WWE ไปในที่สุด

หลังจากนั้น ในศึก ไฟเทิล โฟร์เวย์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน, เชมัส และ เอดจ์ ในแมตช์การปล้ำ 4 เส้า สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ต้องเสียแชมป์คืนให้กับ เชมัส เพราะกลุ่มเอ็นเอกซ์ที ซีซั่น 1 มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา ทำให้เขาเสียแชมป์ในที่สุด[52] ต่อมา จอห์น ซีนา ขอท้าชิงแชมป์โลก WWE คืนจาก เชมัส ในศึก มันนี่อินเดอะแบงค์ (2010) ในรูปแบบการปล้ำกรงเหล็ก สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนจาก เชมัส มาได้ เนื่องจากกลุ่มเดอะเน็กซัส ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ตลอดเวลา[53] ทำให้ จอห์น ซีนา แค้นมากแล้วไปมีเรื่องกับพวกกลุ่มเดอะเน็กซัส แล้วท้าเจอกันแบบแทคทีม 7 ต่อ 7 ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2010) โดย จอห์น ซีนา จับคู่กับ เบรต ฮาร์ต, เอดจ์, คริส เจอริโค, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์-ทรูธ และ เดอะ เกรท คาลี เพื่อมาปราบกลุ่มเดอะเน็กซัส ก่อนถึงศึก ซัมเมอร์สแลม นั้น เดอะ เกรท คาลี ถูกกลุ่มเดอะเน็กซัส ลอบทำร้าย ทำให้ไม่สามารถมาร่วมปล้ำในครั้งนี้ได้ และต้องหาคนมาแทนโดย จอห์น ซีนา ได้เลือก แดเนียล ไบรอัน อดีตสมาชิกกลุ่มเดอะเน็กซัส มาปล้ำแทน คาลี โดยสุดท้าย จอห์น ซีนา จัดการ เวด บาร์เร็ตต์ หัวหน้ากลุ่มเดอะเน็กซัส เป็นคนสุดท้าย ทำให้ทีม WWE เอาชนะกลุ่มเดอะเน็กซัส มาได้สำเร็จ[54] ต่อมา ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เชมัส, แรนดี ออร์ตัน, เอดจ์, คริส เจอริโค และ เวด บาร์เร็ตต์ หัวหน้ากลุ่มเดอะเน็กซัส ในการปล้ำ 6 คน เพื่อชิงแชมป์ WWE สุดท้ายกลายเป็น แรนดี ออร์ตัน ที่สามารถคว้าแชมป์ WWE มาครองได้ โดยจัดการ เชมัส เป็นคนสุดท้าย

จอห์น ซีนา ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010

ในศึก เฮลล์อินเอเซลล์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เวด บาร์เร็ตต์ โดยถ้า จอห์น ซีนา ชนะ กลุ่มเดอะเน็กซัส จะต้องแตกทีมกันไป แต่ถ้า เวด บาร์เร็ตต์ ชนะ จอห์น ซีนา จะต้องเข้ากลุ่มเดอะเน็กซัส แต่สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็แพ้ไปให้กับ เวด บาร์เร็ตต์ ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องเข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มเดอะเน็กซัส ไปในที่สุด[55] ต่อมา ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) จอห์น ซีนา จะต้องคู่กับ เดวิด โอทังก้า หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเดอะเน็กซัส เจอกับ ดรูว์ แมคอินไตย์ และ โคดี้ โรดส์ ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์แทคทีม WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา กับ เดวิด โอทังก้า ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ ดรูว์ แมคอินไตย์ และ โคดี้ โรดส์ และคว้าแชมป์แทคทีม WWE มาได้สำเร็จ[56] แต่ก็เสียแชมป์แทคทีม WWE ให้กับ จัสติน เกเบรียล และ ฮีท สเลเตอร์ 2 สมาชิกในกลุ่มเดอะเน็กซัส โดย ซีนา กับ เดวิด โอทังก้า ครองแชมป์แทคทีม WWE ได้แค่วันเดียวเท่านั้น[57] ต่อมา ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2010) จอห์น ซีนา ต้องเป็นกรรมการพิเศษคู่ชิงแชมป์ WWE ระหว่าง แรนดี ออร์ตัน กับ เวด บาร์เร็ตต์ โดยถ้า เวด บาร์เร็ตต์ ชนะก็จะได้ แชมป์ WWE และ จอห์น ซีนา ก็จะได้ออกจากกลุ่มเดอะเน็กซัส อย่างถาวรแต่ถ้า เวด บาร์เร็ตต์ แพ้ จอห์น ซีนา ก็ต้องออกจาก WWE และเป็น แรนดี ออร์ตัน ที่ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องออกจาก WWE ไปในที่สุด

ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา ได้มาก่อกวนการปล้ำของ เวด บาร์เร็ตต์ ในแมตช์การปล้ำชิงแชมป์ WWE กับ แรนดี ออร์ตัน โดย จอห์น ซีนา ได้เล่นงาน เวด บาร์เร็ตต์ ด้วยท่า Attitude Adjustment ทำให้ เวด บาร์เร็ตต์ เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ แรนดี ออร์ตัน[58] หลังจากนั้น เวด บาร์เร็ตต์ ได้เรียก จอห์น ซีนา กลับมา WWE อีกครั้ง[59] ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2010) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เวด บาร์เร็ตต์ ในรูปแบบการปล้ำ Chairs Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะ และล้างแค้น เวด บาร์เร็ตต์ มาได้สำเร็จ[60]

ปี 2011
ไฟล์:Cenainwm27.png
จอห์น ซีนา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27

ในศึก รอยัลรัมเบิล (2011) จอห์น ซีนา ได้เข้าร่วมในแมตช์การปล้ำ รอยัลรัมเบิล โดยออกมาเป็นคนที่ 22 สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะ เพราะ เดอะ มิซ เจ้าของแชมป์ WWE ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ต่อมา ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ แรนดี ออร์ตัน, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์-ทรูธ, เชมัส และ ซีเอ็ม พังค์ ในแมตช์การปล้ำ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ โดยถ้าใครชนะก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE ในศึก เรสเซิลเมเนีย สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะ โดยจัดการ ซีเอ็ม พังค์ เป็นคนสุดท้าย ทำให้ จอห์น ซีนา ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27[61] ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา เจอกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ แต่ เดอะ มิซ ก็ปลอมตัวเป็น เดอะ ร็อค มาลอบทำร้าย จอห์น ซีนา จนได้รับบาดเจ็บ และในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้ เพราะ เดอะ ร็อค ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เดอะ มิซ ไปในที่สุด[62]

จอห์น ซีนา และ เดอะ ร็อค ได้จับมือกันและพร้อมเจอกันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28

ในศึกรอว์ (4 เมษายน 2011) หลังจบ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 จอห์น ซีนา เรียก เดอะ ร็อค ออกมาที่เวที และท้า เดอะ ร็อค ว่าจะเจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 โดย เดอะ ร็อค ก็รับข้อเสนอของ จอห์น ซีนา โดยที่ ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน โดยทั้งคู่ก็จับมือรับข้อเสนอไปด้วยดี ต่อมา ในศึกรอว์ (25 เมษายน 2011) จอห์น ซีนา ได้ย้ายไปอยู่ สแมคดาวน์ จากผลการดราฟท์ ในศึกรอว์ (25 เมษายน 2011) ที่ผ่านมา ต่อมา ในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา ได้ย้ายกลับไปอยู่ รอว์ จากผลการดราฟท์ ในศึกรอว์ (25 เมษายน 2011) ที่ผ่านมา ต่อมา ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011) จอห์น ซีนา ต้องเจอกับ เดอะ มิซ และ จอห์น มอร์ริสัน ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า ในกรงเหล็ก โดยมีแชมป์ WWE เป็นเดิมพัน สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายชนะและคว้าแชมป์ WWE ไปครอง ทำให้ จอห์น ซีนา สามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 10 ได้สำเร็จ[62] หลังจกที่ไม่ได้แชมป์โลกมา 10 เดือน ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ สุดท้าย เดอะ มิซ ถูกจับแพ้ฟาล์ว ทำให้ จอห์น ซีนา ยังเป็นแชมป์ต่อไป ต่อมา ในศึก โอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ ในการปล้ำ I Quit Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์โลก WWE เอาไว้ได้สำเร็จ[63]

ในศึกรอว์ จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ เรย์ มิสเตริโอ เจอกับ อาร์-ทรูธ และ ซีเอ็ม พังค์ โดยมี เบรต ฮาร์ต เป็นกรรมการพิเศษ สุดท้าย จอห์น ซีนา และ เรย์ มิสเตริโอ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก แคปิเทล พูนิชเมนท์ จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ อาร์-ทรูธ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้สำเร็จ[64] ต่อมา ในศึกรอว์ (20 มิถุนายน 2011) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ แรนดี ออร์ตัน และ อเล็กซ์ ไรลีย์ เจอกับ อาร์-ทรูธ, คริสเตียน และ เดอะ มิซ ในแมตช์การปล้ำแทคทีม 6 คน สุดท้าย จอห์น ซีนา, แรนดี ออร์ตัน และ อเล็กซ์ ไรลีย์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ

ไฟล์:Cenainraw2011.png
จอห์น ซีนา กับ แชมป์ WWE ในปี ค.ศ. 2011

ในศึก มันนีอินเดอะแบงก์ (2011) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ ซีเอ็ม พังค์ โดยถ้า จอห์น ซีนา แพ้ ซีเอ็ม พังค์ จะลาออกจาก WWE พร้อมกับเข็มขัดแชมป์ WWE และ จอห์น ซีนา ก็ต้องออกจาก WWE อีกด้วย สุดท้ายแล้ว จอห์น ซีนา ก็พ่ายแพ้และเสียแชมป์ WWE ให้กับ ซีเอ็ม พังค์ ทำให้ ซีเอ็ม พังค์ ได้เอาเข็มขัดแชมป์ออกจาก WWE และ จอห์น ซีนา ต้องออกจาก WWE ไปในที่สุด[65][66][67] ต่อมา ในศึกรอว์ (18 กรกฎาคม 2011) ทริปเปิล เอช ประธานของ WWE คนใหม่ ได้มาบอกว่า จอห์น ซีนา จะไม่ถูกไล่ออกจาก WWE และในศึกรอว์ (25 กรกฎาคม 2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เรย์ มิสเตริโอ ในการปล้ำชิงแชมป์ WWE สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เรย์ มิสเตริโอ และได้คว้าแชมป์ WWE เส้นใหม่ เป็นสมัยที่ 11 มาได้สำเร็จ หลังจากที่ จอห์น ซีนา กำลังฉลองชัยชนะอยู่บนเวที ซีเอ็ม พังค์ ได้ออกมาพร้อมกับเข็มขัดแชมป์ WWE เส้นเก่า และยืนจ้องหน้ากับ จอห์น ซีนา จากนั้นต่างฝ่ายต่างชูเข็มขัดของตัวเองประกาศศักดา[68]

ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ซีเอ็ม พังค์ ในแมตช์ชิงแชมป์โลกอันดิสพิวเด็ด โดยมี ทริปเปิล เอช เป็นกรรมการพิเศษ แต่สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายแพ้และเสียแชมป์โลก WWE ให้กับ ซีเอ็ม พังค์ ไปในที่สุด แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ เควิน แนช ได้ออกมาลอบทำร้าย ซีเอ็ม พังค์ ทำให้ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ได้ขอใช้สิทธิ์กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ และกระชากเข็มขัดแชมป์ WWE ไปจาก ซีเอ็ม พังค์ ได้สำเร็จ[69] ต่อมา ในศึกรอว์ (22 สิงหาคม 2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ ซีเอ็ม พังค์ โดยถ้าใครชนะก็จะได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2011) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็สามารถเอาชนะ ซีเอ็ม พังค์ มาได้สำเร็จ ทำให้ จอห์น ซีนา ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2011) สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ อัลเบอร์โต เดล รีโอ และคว้าแชมป์ WWE ไปครอบครอง ทำให้ จอห์น ซีนา สามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 12 มาได้สำเร็จ[70] ต่อมา ในศึก เฮลอินเอเซล (2011) จอห์น ซีนา จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ และ ซีเอ็ม พังค์ ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้า ในแมตช์เฮลอินเอเซล สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เสียแชมป์ WWE ให้กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ไปในที่สุด[71]

ในศึกรอว์ (3 ตุลาคม 2011) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ ซีเอ็ม พังค์, เชมัส, โคฟี คิงส์ตัน, อีแวน บอร์น และ เมสัน ไรอัน เจอกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ, คริสเตียน, โคดี้ โรดส์, ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์, แจ๊ค สแวกเกอร์ และ เดวิด โอทังก้า ในการปล้ำแทคทีม 12 คน สุดท้าย จอห์น ซีนา, ซีเอ็ม พังค์, เชมัส, โคฟี คิงส์ตัน, อีแวน บอร์น และ เมสัน ไรอัน ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมา ในศึกรอว์ (17 ตุลาคม 2011) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ จิม รอสส์ เจอกับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ และ ไมเคิล โคล ในการปล้ำแทคทีม สุดท้าย จอห์น ซีนา และ จิม รอสส์ ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก เวนเจินส์ (2011) จอห์น ซีนา ได้ขอท้าชิงแชมป์ WWE กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ในแมตซ์การปล้ำ Last Man Standing Match สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE คืนมาได้ เพราะ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ อัลเบอร์โต เดล รีโอ ไปในที่สุด[72] และก็ได้หมดสิทธิ์ที่จะชิงแชมป์ WWE แล้วในตอนนี้

จอห์น ซีนา ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2011

ในศึกรอว์ (24 ตุลาคม 2011) ในตอนแรก จอห์น ซีนา จะต้องจับคู่กับ แซค ไรเดอร์ เจอกับ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ ระหว่างสัมภาษณ์ของ แซค ไรเดอร์ ก็ได้ถูก เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ มาลอบทำร้าย จนบาดเจ็บ ทำให้เป็นแมทช์การปล้ำ 2 รุม 1 ผลปรากฏว่า จอห์น ซีนา ชนะฟาล์ว หลังแมทช์ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ ได้รุมทำร้ายต่อ จนผู้จัดการทั่วไปชั่วคราว จอห์น โลรีนายติส ได้ออกมาห้าม และสั่งให้ จอห์น ซีนา เลือกนักมวยปล้ำ 1 คน เพื่อจะจับคู่เจอกับ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ โดย จอห์น ซีนา ได้เลือก เดอะ ร็อค มาเป็นคู่แทกทีม ต่อมา ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011) จอห์น ซีนา ได้จับคู่กับ เดอะ ร็อค เจอกับ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ สุดท้าย จอห์น ซีนา และ เดอะ ร็อค ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ เดอะ ร็อค ได้เล่นงาน จอห์น ซีนา ด้วยท่า Rock Bottom เป็นการปิดท้ายรายการอีกด้วย[73] ต่อมา ในศึกรอว์ (12 ธันวาคม 2011) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ มาร์ก เฮนรี ระหว่างแมตช์การปล้ำ เคน ได้กลับมาจากอาการบาดเจ็บโดยใส่หน้ากากอีกครั้ง และได้มาเล่นงาน จอห์น ซีนา ด้วยท่า โชคสแลม หลังแมตช์[74]

ปี 2012

ในศึกรอว์ (2 มกราคม 2012) จอห์น ซีนา จับคู่กับ บิ๊กโชว์ และ แซค ไรเดอร์ เจอกับ เคน, มาร์ก เฮนรี และ แจ๊ค สแวกเกอร์ ในการปล้ำแทคทีม 6 คน แต่ว่า เคน ไม่ออกมาเลยให้เป็นการปล้ำ 3 รุม 2 สุดท้าย จอห์น ซีนา, บิ๊กโชว์ และ แซค ไรเดอร์ ก็เอาชนะมาได้สำเร็จ แต่หลังจบแมตช์เพลงเปิดตัวของ เคน ดังขึ้น จอห์น ซีนา เลยลงจากเวทีเดินตรงไปที่ทางเดินเปิดตัวเพื่อจะเคลียร์กับ เคน แต่ว่า เคน โผล่มาจากใต้เวทีแล้วกระทืบ แซค ไรเดอร์ บนเวทีจากนั้น เคน ก็ลากขา แซค ไรเดอร์ กลับหลุมบนเวทีแต่ จอห์น ซีนา ก็มาช่วย แซค ไรเดอร์ ได้สำเร็จแล้วพยายามคลานนี้ห่างออกมาทันทีทันใดนั้นหลุมก็ระเบิดและมีเพลิงโหมออกมาจากปากหลุมทันที

จอห์น ซีนา กับ เดอะ ร็อค ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28

จอห์น ซีนา แค้นมากจึงขอท้าเจอกับ เคน ในศึก รอยัลรัมเบิล (2012) สุดท้ายผลออกมาเป็นถูกนับ 10 แพ้ทั้งคู่ หลังแมตช์ จอห์น ซีนา และ เคน ยังสู้กันต่อแลกหมัดกันไปจนเข้าไปถึงหลังเวที เคน ต่อย จอห์น ซีนา ร่วงแต่ จอห์น ซีนา ยังเตะสวนและจับเหวี่ยงไปอัดถังขยะ เคน เอาเก้าอี้กระทุ้งใส่ท้อง จอห์น ซีนา จากนั้น เคน ก็ตีใส่หลังไม่ยั้งจน จอห์น ซีนา แน่นิ่ง เคน มองเห็นประตูห้องๆ หนึ่งที่มีชื่อ แซค ไรเดอร์ แปะอยู่ เคน เลยถีบประตูพังแล้วเข้าไปเจอ แซค ไรเดอร์ เคน เลยบีบคอ แซค ไรเดอร์ จนสลบ จากนั้นก็เข็นรถเข็น แซค ไรเดอร์ เข้าไปในสนาม จากนั้นก็ผลัก แซค ไรเดอร์ ตกไปกระแทกพื้น เคน ลาก แซค ไรเดอร์ ขึ้นเวทีและถีบเล่น อีฟ ทอร์เรส ออกมาขอร้องแต่ เคน ไม่ฟังแถมจับ แซค ไรเดอร์ ใส่ท่า Tombstone Piledriver แล้วก็หันไปหา อีฟ ทอร์เรส แต่ จอห์น ซีนา ออกมาช่วยก็โดน เคน จับใส่ โชคสแลม ไปในที่สุด[75] ต่อมา ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012) จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เคน อีกครั้ง ในแมตช์การปล้ำจับคู่ต่อสู้ยัดใส่รถพยาบาล สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เคน มาได้สำเร็จ[76] ต่อมา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เดอะ ร็อค โดยทั้งคู่ได้ท้าเจอกันตั้งแต่ ในศึกรอว์ (4 เมษายน 2011) เป็นแมตช์ที่ ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เดอะ ร็อค ไปในที่สุด[77]

จอห์น ซีนา กับ บร็อก เลสเนอร์ ในศึกรอว์ (2 เมษายน 2012)

ในศึกรอว์ (2 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาพูด ยอมรับว่าเขาไม่คิดมาก่อนว่าจะแพ้ แต่ก็แพ้จนได้ เขาไม่ได้ออกมาเพื่อจะขอสู้กันอีกครั้ง เพราะด่ากันไปมาปีกว่าแล้ว และก็ได้ตัดสินกันไปแล้วเมื่อคืนนี้ จอห์น ซีนา บอกว่าเขาขอยอมรับว่า เดอะ ร็อค คือสตาร์ WWE ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการ แต่ บร็อก เลสเนอร์ ออกมา และขึ้นมาประจันหน้ากับ จอห์น ซีนา เพื่อขอจับมือ ที่ไหนได้ จอห์น ซีนา โดน บร็อก เลสเนอร์ จับใส่ท่า F-5 ดับสนิท[78] ต่อมา ในศึกรอว์ (9 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาขัดจังหวะ แล้วก็เดินมาตบหน้า บร็อก เลสเนอร์ เลยโดน บร็อก เลสเนอร์ คร่อมต่อยเป็นชุดจนเลือดกบปาก ร้อนถึงสตาร์ WWE คนอื่น ๆ ต้องออกมาช่วยกันจับแยก และในคืนเดียวกัน จอห์น ซีนา จะต้องเจอกับ เดวิด โอทังก้า สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เดวิด โอทังก้า มาได้สำเร็จ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ บร็อก เลสเนอร์ โผล่มาเตะผ่าหมาก จอห์น ซีนา แล้วต่อด้วย F-5 ก่อนจะเดินจากไป[79] จอห์น ซีนา แค้นมากจึงขอท้าเจอกับ บร็อก เลสเนอร์ ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012) ในแมตช์การปล้ำ เอ็กซ์ตรีมรูลส์ แมตช์ สุดท้าย จอห์น ซีนา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ บร็อก เลสเนอร์ มาได้สำเร็จ หลังแมตช์ จอห์น ซีนา เอาไมค์มาประกาศว่าเขาอาจจะต้องจากไปสักพัก เพราะบาดเจ็บจากแมตช์นี้ แล้วก็อวยพรให้แฟนๆ กลับบ้านอย่างปลอดภัย[80][81][82]

ในศึกรอว์ (30 เมษายน 2012) จอห์น ซีนา ออกมาโดยมีการเข้าเฝือกอ่อนที่แขนซ้าย จอห์น ซีนา บอกว่า ทริปเปิล เอช แขนหัก จากการถูก บร็อก เลสเนอร์ เล่นงานหักแขน และเมื่อคืนชั้นก็เจอแบบเดียวกัน แต่ตอนนี้ชั้นก็มาอยู่ที่นี่แล้ว จากการทำ MRI สแกนพบว่ากล้ามเนื้อไม่ฉีก ดังนั้นเขาจึงยังอยู่ใน WWE มันมีการเจ็บอยู่สองประเภท คือ บาดเจ็บ กับเจ็บ ถ้าบาดเจ็บก็ต้องถูกส่งกลับบ้าน แต่ถ้าแค่เจ็บ เขาก็สามารถออกมาทำในสิ่งที่เขารักได้ จอห์น โลรีนายติส ออกมา บอกว่าเขานำเอา บร็อก เลสเนอร์ กลับมาในฐานะสัญลักษณ์คนใหม่ของสมาคม และบอกว่าคนที่จะเจอกับ จอห์น ซีนา ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2012) คือ ลอร์ด เทนไซ นั่นเอง ลอร์ด เทนไซ กับ ซะกะโมะโตะ ขึ้นเวทีมาเตรียมจะรุม จอห์น ซีนา ที่ไหนได้ จอห์น โลรีนายติส อัดใส่ จอห์น ซีนา จากด้านหลังแล้วบอกว่าคนที่จะเจอกับ จอห์น ซีนา ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2012) คือ เขานั่นเอง[83] ซะกะโมะโตะ ก็เตะแขน จอห์น ซีนา ที่เจ็บจากนั้น จอห์น โลรีนายติส เหวี่ยง จอห์น ซีนา ไปอัดมุมเวที และต่อด้วย ลอร์ด เทนไซ ใช้ท่า Running Senton จากนั้น จอห์น โลรีนายติส กระทืบ จอห์น ซีนา แล้ว ลอร์ด เทนไซ ก็ลาก จอห์น ซีนา เอาแขนข้างเจ็บไปอัดกับเสาเวทีแล้วให้ จอห์น โลรีนายติส กระทืบซ้ำปิดท้ายด้วยเก้าอี้เหล็ก ก่อนจะเดินจากไป

เกี่ยวกับมวยปล้ำ

จอห์น ซีนา เล่นงาน บาติสต้า ด้วยท่า STF (ชื่อเดิม STFU)
จอห์น ซีนา เล่นงาน เคิร์ต แองเกิล ด้วยท่า Attitude Adjustment (ชื่อเดิม F-U)
จอห์น ซีนา ใช้ท่า Five Knuckle Shuffle เล่นงาน คริส มาสเตอร์
  • ท่าไม้ตาย
    • STF (ชื่อเดิม STFU)
      • วิธีใช้ : จับคู่ต่อสู้งัดคอและงอขาไปหาเอวทำให้คู่ต่อสู้ตบพื้นยอมแพ้
    • AA - Attitude Adjustment (ชื่อเดิม F-U)[84]
      • วิธีใช้ : จับคู่ต่อสู้ยกแล้วจับทุ่มเต็มๆ ทำให้คู่ต่อสู้เจ็บหลัง
    • Five Knuckle Shuffle
      • วิธีใช้ : จับคู่ต่อสู้ยกแล้วทุ่มแล้วเด้งเชือกและทิ้งหมัดใส่คู่ต่อสู้บริเวณหน้าผาก
  • ท่าเอกลักษณ์
    • Diving leg drop bulldog
    • Dropkick, sometimes from the top rope[85]
    • Emerald Flowsion
    • Five Knuckle Shuffle[86] (Running delayed fist drop, with theatrics, sometimes diving from the top rope)
    • Fisherman suplex
    • Gutwrench suplex
    • Spin-out powerbomb
    • Running leaping shoulder block
    • Running one–handed bulldog
    • Sitout hip toss
    • Spinebuster – 2002 – 2005; used rarely thereafter
    • Throwback[87] (Running neck snap to a bent–over opponent) - used the last time in 2011
    • Twisting belly to belly suplex
  • ฉายาและชื่ออื่นๆ
    • "The Doctor of Thuganomics"[88]
    • "The Champ" (as either the WWE Champion or the World Heavyweight Champion)[89] - 2005 - ปัจจุบัน
    • "The Chain Gang Soldier"
    • "The Cenation Leader"[3] – 2011 – ปัจจุับัน
  • เพลงเปิดตัว
    • "The Beautiful People (Instrumental)" โดย Marilyn Manson (WWE) (2002)
    • "Slam Smack" โดย Jim Johnston (WWE) (2002)
    • "Insert Bass Here" โดย Jim Johnston (WWE) (2002)
    • "Freestyles Beat" โดย Jim Johnston (WWE) (2003)
    • "Basic Thuganomics" โดย John Cena (WWE) (2003 - 2005)
    • "The Time is Now" โดย John Cena และ Tha Trademarc (WWE) (2005 - ปัจจุบัน)

ผลงานในสมาคม WWE

จอห์น ซีนา กับ แชมป์ WWE
จอห์น ซีนา กับ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท
  • เวิลด์ เฮฟวี่เวท แชมเปียนชิป (2 สมัย)[91]
    • ชนะ คริส เจอริโค ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ 2008
    • ชนะ เอดจ์ และ บิ๊กโชว์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25
  • ยูไนเต็ด สเตทส์ แชมเปียนชิป (3 สมัย)[92]
  • เวิลด์ แทคทีม แชมเปียนชิป (2 สมัย)[93]

ผลงานทั้งหมด

  • Ohio Valley Wrestling
    • OVW Heavyweight Championship (1 สมัย)
    • OVW Southern Tag Team Championship (1 สมัย)[94] – คู่กับ ริโก้ คอนสเตนติโน
  • Pro Wrestling Illustrated
    • PWI Feud of the Year (2006) vs. Edge[95]
    • PWI Feud of the Year (2011) vs. CM Punk[96]
    • PWI Match of the Year (2007) vs. Shawn Michaels on Raw on April 23[97]
    • PWI Match of the Year (2011) vs. CM Punk at Money in the Bank[98]
    • PWI Most Improved Wrestler of the Year (2003)[99]
    • PWI Most Popular Wrestler of the Year (2004, 2005, 2007)[100]
    • PWI Wrestler of the Year (2006, 2007)[101]
    • PWI จัดในอันดับที่ 1 ของท็อป 500 อันดับ นักมวยปล้ำซิงเกิ้ลใน PWI 500 ในปี 2006 และในปี 2007[102][103]
  • Pro Wrestling Report
    • Match of the Year (2006) vs. Rob Van Dam at ECW One Night Stand II
  • Slammy Award
    • Superstar of the Year (2009, 2010)
    • Holy $#!+ Move of the Year (2010) Sends Batista through the stage with an Attitude Adjustment.
    • Game Changer of the Year (2011) – คู่กับ เดอะ ร็อค
  • Ultimate Pro Wrestling
    • UPW Heavyweight Championship (1 สมัย)[104]
  • Wrestling Observer Newsletter Awards
    • 5 Star Match vs. CM Punk at WWE Money in the Bank on July 17, 2011
    • Wrestler of the Year (2007, 2010)[105]
    • Best Box Office Draw (2007)
    • Best on Interviews (2007)
    • Feud of the Year (2011) vs. CM Punk[106]
    • Match of the Year (2011) vs. CM Punk at WWE Money in the Bank
    • Most Charismatic (2006 – 2010)
    • Most Charismatic of the Decade (2000 – 2009)[107]
    • Best Gimmick (2003)

ผลงานอื่นๆ

นอกจาก ซีนา จะมีผลงานในสังเวียนมวยปล้ำแล้ว ยังมีผลงานอื่นๆ ดังนี้

ผลงานเพลง

  • ในปี 2004 ซีนา ได้ร้องเพลงในอัลบัม WWE Originals ของ WWE คือเพลง Basic Thuganomics
  • ในปี 2005 ในอัลบัมของเขาเองอย่าง You Can't See Me[108][109]

ภาพยนตร์

ปี ภาพยนตร์ รับบท หมายเหตุ
2006 เดอะมาริน คนคลั่งล่าทะลุสุดขีดนรก จอห์น ไตรตัน บทนำ
2009 ฝ่าวิกฤติ 12 รอบระห่ำนรก แดนนี่ ฟิชเชอร์ บทนำ
2010 Psych Ewan O'Hara Guest appearance; episode: "You Can't Handle This Episode"
True Jackson, VP Himself Guest appearance; episode: "Pajama Party"
Legendary Mike Chetley
แฮนนาห์ มอนทานา...สาวเด่น, เต้น, ร้อง... ตัวเขาเอง แขกรับเชิญ; ตอน: "Love That Let's Go"
Fred: The Movie Fred's Dad Television film
2011 The Reunion Sam Cleary
Fred 2: Night of the Living Fred Fred's (imaginary) Dad TV film

โทรทัศน์

ปี รายการ รับบท หมายเหตุ
2001 Manhunt Big Tim Kingman
2007 Fast Cars and Superstars: The Gillette Young Guns Celebrity Race Himself
2010 Psych Ewan O'Hara "You Can't Handle This Episode" (season 4: episode 10)
True Jackson, VP Himself "Pajama Party" (season 2: episode 12)
Hannah Montana Himself "Love That Lets Go" (season 4: episode 7)
Generator Rex Hunter Cain Voice role
"The Hunter" (season 1: episode 13)

เกร็ดความรู้

  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลกทั้งหมด 12 สมัย (แชมป์ WWE 10 สมัย และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 2 สมัย)
  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์ยูเอส ครั้งแรกในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 โดยชนะ บิ๊กโชว์
  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์ WWE ครั้งแรกในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 โดยชนะ เจบีแอล
  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ครั้งแรกในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2008) โดยชนะ คริส เจอริโก้
  • จอห์น ซีนา ได้ แชมป์โลกแทคทีม ครั้งแรกโดยจับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ เอาชนะ เรต ราเคโอ
  • จอห์น ซีนา สามารถยกนักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่าเขาได้ทุกคน เช่น เดอะ เกรท คาลี นักมวยปล้ำที่สูงที่สุดในยุคปัจจุบัน บิ๊กโชว์ นักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่ที่สุดและน้ำหนักมากที่สุดในยุคปัจจุบัน เป็นต้น
  • จอห์น ซีนา ชนะเลิศ รอยัลรัมเบิล ปี 2008
  • จอห์น ซีนา เคยชนะผู้ที่เคยก่อตั้งทีมเดียวกันในนาม ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ ทั้ง ทริปเปิล เอช และ ชอว์น ไมเคิลส์ มาแล้ว ในศึก เรสเซิลเมเนีย
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ชนะ ทริปเปิล เอช
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ชนะ ชอว์น ไมเคิลส์
  • จอห์น ซีนา ปล้ำศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งแรกคือครั้งที่ 20 โดยปล้ำกับ บิ๊กโชว์ โดยมี แชมป์ยูเอส เป็นเดิมพัน และ ซีนาคือผู้ชนะและได้แชมป์ไปครอง
  • จอห์น ซีนา ปล้ำศึก เรสเซิลเมเนีย มาแล้ว 9 ครั้ง โดย ซีนา ชนะ 6 แพ้ 3
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ชนะ บิ๊กโชว์
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 ชนะ เจบีแอล
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 ชนะ ทริปเปิล เอช
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ชนะ ชอว์น ไมเคิลส์
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 แพ้ แรนดี ออร์ตัน โดยมี ทริปเปิล เอช ร่วมปล้ำด้วย
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ชนะ เอดจ์ และ บิ๊กโชว์
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 ชนะ บาติสต้า
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 แพ้ เดอะ มิซ
    • เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 แพ้ เดอะ ร็อค
  • จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่เอาชนะ อูมาก้า มาได้สำเร็จ
  • จอห์น ซีนา ปล้ำ ไอควิต แมทท์ มาแล้ว 4 ครั้ง และยังไม่เคยแพ้ใคร
  • จอห์น ซีนา ปล้ำ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ มาแล้ว 4 ครั้ง โดยชนะ 3 แพ้ 1
    • ในศึก New Year's Revolution 2006 ชนะ เคิร์ต แองเกิล, ชอว์น ไมเคิลส์, เคน, คริส มาสเตอร์ และ คาร์ลิโต้
    • ในศึก โนเวย์เอาท์ (2009) แพ้ เอดจ์ ร่วมด้วย เรย์ มิสเตริโอ, เคน, ไมค์ นอคซ์ และ คริส เจอริโก้
    • ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) ชนะ เชมัส, ทริปเปิล เอช, แรนดี ออร์ตัน, โคฟี คิงส์ตัน และ เท็ด ดิบิอาซี่
    • ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) ชนะ แรนดี ออร์ตัน, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์-ทรูธ, เชมัส และ ซีเอ็ม พังค์
  • จอห์น ซีนา ใช้ท่าไม้ตาย STF (ชื่อเดิม STFU) ครั้งแรก เมื่อปี 2005 โดยผู้ที่โดนคนแรกคือ คริส มาสเตอร์
  • จอห์น ซีนา ปล้ำ ไอรอน แมน แมทช์ ครั้งแรก โดยชนะ แรนดี ออร์ตัน 6-5 ในศึก แบรกกิ้ง ไรท์ส (2009)
  • จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำที่เอาชนะ แรนดี ออร์ตัน ได้บ่อยมากที่สุด
  • จอห์น ซีนา จับคู่กับ ชอว์น ไมเคิลส์ และ บาติสต้า จนได้แชมป์โลกแทคทีม โดยเป็นคู่กรณีกัน
  • จอห์น ซีนา เปิดตัว ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23 ใช้งบประมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 100,000 ดอลลาร์
  • จอห์น ซีนา ดัดแปลงเข็มขัด แชมป์โลก WWE แบบหมุนได้ ทำให้เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดในรอบ 5 ปี
  • จอห์น ซีนา และ เรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์ คือสองคนที่แฟนๆต้องการลายเซ็นมากที่สุด
  • จอห์น ซีนา เป็นนักมวยปล้ำคนแรกที่คว้าแชมป์ WWE ได้ถึง 10 สมัย

อ้างอิง

  1. Keck, William (2006-10-08). "A new action star/femme fatale pairing?". USA Today. สืบค้นเมื่อ 2007-03-27. At his Tampa home, Cena maintains a humidor that holds more than 300 cigars.
  2. "UPW: John "Prototype" Cena". UPW. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 17, 2008. สืบค้นเมื่อ March 13, 2008.
  3. 3.0 3.1 3.2 "John Cena". WWE. สืบค้นเมื่อ 2007-05-05. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "WWEProfile" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  4. "Fast Cars & Superstars - Gillette Young Guns Celebrity Race Driver Bios". ABC Media Net. สืบค้นเมื่อ 2007-06-11.
  5. "SLAM! Sports biography". CANOE. February 6, 2005. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007.
  6. Sokol, Bryan (December 20, 2010). "TLC delivers highs, lows and a new champ". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ December 20, 2010.
  7. "9 WWE Titles". WWE. สืบค้นเมื่อ September 18, 2011.
  8. "1998 Football Roster". Springfield College. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007.
  9. "John Cena Bulldog Basketball Jersey". WWE. สืบค้นเมื่อ May 6, 2007.
  10. "John Cena Personalized Beware of Dog Football Jersey". WWE. สืบค้นเมื่อ January 3, 2008.
  11. Perkins, Brad (February 2001). "Training Ground". Wrestling Digest. สืบค้นเมื่อ July 17, 2008.
  12. "Inside WWE's New Magazine". WWE. สืบค้นเมื่อ May 5, 2007. Who would have guessed John Cena was once a limo driver
  13. "OVW Heavyweight Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  14. Hamilton, Ian. Wrestling's Sinking Ship (p.67)
  15. "SmackDown! results – June 27, 2002". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  16. "SmackDown! results – October 10, 2002". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  17. "SmackDown! results – March 6, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  18. "SmackDown! results – March 13, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  19. "SmackDown! results – March 20, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  20. "Backlash 2003 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 9, 2007.
  21. "SmackDown! results – November 13, 2003". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ July 6, 2007.
  22. "Survivor Series 2003 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ December 29, 2007.
  23. "WrestleMania XX results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  24. "SmackDown! results – November 18, 2004". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  25. "John Cena's Second Reign as US Champion". WWE. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  26. "No Way Out 2005 results". Pro Wrestling history. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  27. "Judgment Day 2005 results". Pro Wrestling history. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 7, 2007. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  28. Evans, Ant. "Power Slam". What’s going down... SW Publishing LTD. p. 4. 132.
  29. "RAW results – August 22, 2005". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ May 10, 2007.
  30. "2007 Wrestling Almanac & Book of Facts". Wrestling’s Historical Cards. Kappa Publishing. 2007. p. 119.
  31. McElvaney, Kevin (June 2007). "Pro Wrestling Illustrated, July 2007". WrestleMania 23. Kappa Publishing. pp. 74–101.
  32. "WWE RAW Results – December 24, 2007". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ December 25, 2007.
  33. "Royal Rumble 2008 results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ January 29, 2008.
  34. "RAW results – January 28, 2008". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
  35. "No Way Out 2008 results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ February 19, 2008.
  36. "Raw results – February 18, 2008". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
  37. "WrestleMania XXIV results". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ April 1, 2008.
  38. "Cena out, vows to return". World Wrestling Entertainment. August 26, 2008. สืบค้นเมื่อ August 27, 2008.
  39. "John Cena: Post-surgery interview". World Wrestling Entertainment. August 26, 2008. สืบค้นเมื่อ August 27, 2008.
  40. Sitterson, Aubrey (November 23, 2008). "The Champ is back!". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ November 24, 2008.
  41. Tello, Craig. "Gold way out". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ February 19, 2009.
  42. Passero, Mitch (April 5, 2009). "Cena reclaims his gold". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 18, 2009. สืบค้นเมื่อ April 6, 2009.
  43. Passero, Mitch (April 26, 2009). "Fueled by hatred and desperation". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ April 26, 2009.
  44. Sitterson, Aubrey (May 17, 2009). "Results:Conservation of momentum leads to victory". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ May 17, 2009.
  45. Murphy, Ryan (June 7, 2009). "Results:Submission Accomplished". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ June 14, 2009.
  46. Tello, Craig (October 25, 2009). "One Hour, Anything Goes WWE Iron Man Match scorecard". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ October 21, 2011.
  47. Caldwell, James (December 13, 2009). "Caldwell's WWE TLC PPV Report 12/13: Complete PPV report on Cena vs. Sheamus, DX vs. JeriShow, Taker vs. Batista". PWTorch. สืบค้นเมื่อ December 14, 2009.
  48. Plummer, Dale (February 22, 2010). "Batista, Jericho and Michaels capitalize on Elimination Chamber opportunities". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ February 22, 2010. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |coauthors= ถูกละเว้น แนะนำ (|author=) (help)
  49. Adkins, Greg (February 22, 2010). "Taking the bull by the horns". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ March 29, 2010.
  50. "Results: Tale of the tape". World Wrestling Entertainment. April 25, 2010. สืบค้นเมื่อ April 29, 2010.
  51. Bishop, Matt (May 23, 2010). "Batista quits to end disappointing Over The Limit". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ May 26, 2010.
  52. Eck, Kevin (June 21, 2010). "Fatal Fourway thoughts". The Baltimore Sun. สืบค้นเมื่อ June 21, 2010.
  53. Adkins, Greg (July 18, 2010). "Results: Bank robbery". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ August 13, 2010.
  54. Adkins, Greg (August 15, 2010). "Results: The Seventh Sign". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ August 16, 2010.
  55. Hillhouse, Dave (October 4, 2010). "Hell in a Cell: Betrayal, fan interference, and flying shoes". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ October 4, 2010.
  56. Sokol, Bryan (October 25, 2010). "Cena central to Bragging Rights; Smackdown wins again". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ October 26, 2010.
  57. Wilkenfeld, Daniel (October 25, 2010). "Caldwell's WWE Raw results 10/25: Complete "virtual time" coverage of live Raw following Bragging Rights, Bryan vs. Ziggler". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ October 26, 2010.
  58. Plummer, Dale (November 22, 2010). "RAW: The Miz cashes in as Nexus costs Orton WWE title". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ November 23, 2010.
  59. Plummer, Dale (December 7, 2010). "RAW: Cena pushes Nexus, Barrett to the breaking point". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ December 7, 2010.
  60. Plummer, Dale (December 13, 2010). "RAW: The Slammy Awards falls flat". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ December 20, 2010.
  61. Adkins, Greg (January 31, 2011). "It's good to be "King"". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ February 22, 2011.
  62. 62.0 62.1 "Results:WWE Champion The Miz def. John Cena". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ April 5, 2011. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "WWEChampionship" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  63. Wortman, James. "WWE: Homepage > TV Shows > WWE Over The Limit > WWE Over The Limit 2011 > WWE Champion John Cena vs. The Miz ("I Quit" Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ May 14, 2011.
  64. Wortman, James. "WWE Champion John Cena vs. R-Truth". WWE. สืบค้นเมื่อ June 9, 2011.
  65. "WWE Chairman Vince McMahon suspends CM Punk". World Wrestling Entertainment. June 28, 2011. สืบค้นเมื่อ June 28, 2011.
  66. James Wortman (July 4, 2011). "Raw results: Stars and gripes". WWE. สืบค้นเมื่อ July 5, 2011.
  67. Tello, Craig (July 17, 2011). "Homepage > TV Shows > Money in the Bank > Money in the Bank 2011 > CM Punk def. John Cena (New WWE Champion)". WWE. สืบค้นเมื่อ September 4, 2011.
  68. Rey Mysterio relinquishes belt on Raw (July 26, 2011). "Story:Title Glory for Cena". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ September 4, 2011.
  69. "John Cena vs. CM Punk – Undisputed WWE Championship Match". WWE. สืบค้นเมื่อ August 1, 2011.
  70. Murphy, Ryan. "John Cena def. Alberto Del Rio (New WWE Champion)". WWE. สืบค้นเมื่อ December 5, 2011.
  71. "WWE Championship Triple Threat Hell in a Cell Match". WWE. สืบค้นเมื่อ September 20, 2011.
  72. "WWE Championship Last Man Standing Match". WWE. สืบค้นเมื่อ October 11, 2011.
  73. "The Miz and R-Truth vs. John Cena and The Rock". WWE. สืบค้นเมื่อ October 31, 2011.
  74. Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 12/12: Complete "virtual-time" coverage of live three-hour Raw – Henry vs. Cena, Slammys, final TLC hype". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 20, 2011.
  75. Mitch Passero (January 30, 2012). "John Cena vs. Kane (Double Count-Out)". WWE. สืบค้นเมื่อ January 30, 2012.
  76. Giannini, Alex (February 6, 2012). "John Cena vs. Kane (Ambulance Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ February 13, 2012.
  77. Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE WRESTLEMANIA 28 PPV REPORT 4/1: Ongoing "virtual time" coverage of live PPV – Rock-Cena, Taker-Hunter, Punk-Jericho". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ April 2, 2012.
  78. http://sports.yahoo.com/top/news?slug=ycn-11188404
  79. Tom Herrera (9.4.2012). "Raw Kick Off". WWE. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  80. Tom Herrera (9.4.2012). "Extreme Rules Main event". WWE. สืบค้นเมื่อ April 9, 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  81. "Extreme Rules results". WWE. 30.4.2012. สืบค้นเมื่อ 24 April 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  82. [1]
  83. http://www.wrestlinginc.com/wi/news/2012/0504/552328/john-laurinaitis/
  84. "Home > Superstars > Raw > John Cena > Bio". WWE.com. World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ February 3, 2009.
  85. "John Cena profile". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ July 3, 2007.
  86. "Five Knuckle Shuffle". John Cena > Photos. WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 31, 2008. สืบค้นเมื่อ February 20, 2008.
  87. Golden, Hunter (January 13, 2009). "Raw Results – 1/12/09 – Sioux City, IA". WrestleView.com. สืบค้นเมื่อ March 25, 2009.
  88. "John Cena And Method Man: Thuganomics 101". MTV News. March 12, 2004. สืบค้นเมื่อ March 26, 2009.
  89. Dunham, Jeremy (October 23, 2006). "IGN: SmackDown Countdown 2006: John Cena". IGN. สืบค้นเมื่อ March 26, 2009.
  90. "WWWF/WWF/WWE World Heavyweight Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ May 17, 2007.
  91. "World Heavyweight Championship title history". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ December 12, 2008.
  92. "WWWF/WWE United States Heavyweight Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ May 17, 2007.
  93. "WWWF/WWF/WWE World Tag Team Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ May 17, 2007.
  94. "OVW Southern Tag Team Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  95. "Feud of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 3, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  96. Pro Wrestling Illustrated. 33 (3): 74–75. 2012. {{cite journal}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  97. "Match of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 15, 2008. สืบค้นเมื่อ April 17, 2008.
  98. Pro Wrestling Illustrated. 33 (3): 80–81. 2012. {{cite journal}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  99. "Most Improved Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  100. "Most Popular Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  101. "Wrestler of the Year". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 10, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  102. "Pro Wrestling Illustrated Top 500 – 2006". Wrestling Information Archive. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 12, 2007. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  103. "2007 PWI 500 edition of Pro Wrestling Illustrated – cover". Pro Wrestling Illustrated. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 5, 2007. สืบค้นเมื่อ September 3, 2007. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |deadurl= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  104. "UPW Heavyweight Title". Wrestling-Titles. สืบค้นเมื่อ April 12, 2007.
  105. Meltzer, Dave (January 26, 2011). "Biggest issue of the year: The 2011 Wrestling Observer Newsletter Awards Issue". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, CA: 1–40. ISSN 1083-9593.
  106. Meltzer, Dave (January 30, 2012). "January 30 Wrestling Observer Newsletter: Gigantic year-end awards issue, best and worst in all categories plus UFC on FX 1, death of Savannah Jack, ratings, tons and tons of news". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, CA. ISSN 1083-9593.
  107. Beltrán, William (August 3, 2010). "Según el Wrestling Observer... ¿Quiénes son los mejores los mejores de la década?". SuperLuchas Magazine (ภาษาSpanish). สืบค้นเมื่อ August 5, 2010.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  108. "John Cena – Artist Chart History". Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 20, 2007. สืบค้นเมื่อ May 19, 2007. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |deadurl= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  109. "Chart Log UK – 2005". สืบค้นเมื่อ September 6, 2007.

แหล่งข้อมูลอื่น

แม่แบบ:Link GA แม่แบบ:Link GA แม่แบบ:Link FA