อำเภอขุขันธ์
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
อำเภอขุขันธ์ | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Khukhan |
คำขวัญ: ขุขันธ์เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีพระแก้วเนรมิตวัดลำภูคู่หลวงพ่อโตวัดเขียน กะอูบ เกวียน ครุน้อย เครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโฎนตา | |
แผนที่จังหวัดศรีสะเกษ เน้นอำเภอขุขันธ์ | |
พิกัด: 14°42′48″N 104°11′54″E / 14.71333°N 104.19833°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ศรีสะเกษ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 914.309 ตร.กม. (353.017 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 149,683 คน |
• ความหนาแน่น | 163.71 คน/ตร.กม. (424.0 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 33140 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 3305 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอขุขันธ์ ถนนไกรภักดี ตำบลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ 33140 |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
ขุขันธ์ (ภาษาเขมร ស្រុកគោកខណ្ឌ) เป็นอำเภอหนึ่งที่ขึ้นกับจังหวัดศรีสะเกษ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตั้งแต่สมัยจักรวรรดิเขมร
และเป็นที่ตั้งดั้งเดิมของ "เมืองขุขันธ์" "จังหวัดขุขันธ์" ในอดีตมีอาณาเขตกว้างขวางครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษในปัจจุบัน และเขตอำเภอเดชอุดม อำเภอบุณฑริก ซึ่งรวมพื้นที่ของอำเภอน้ำยืน อำเภอนาจะหลวย อำเภอทุ่งศรีอุดม อำเภอน้ำขุ่น และอำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานีในปัจจุบันนี้ด้วย และยังลงไปถึงดินแดนในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งหมด 3 เมืองที่ขึ้นกับเมืองขุขันธ์ในอดีต ได้แก่ เมืองมโนไพร เมืองอุทุมพรพิไสย(บ้านกันตวด) และเมืองกันทรรักษ์(ตำบลห้วยลำแสนไพรอาบาล)
ประวัติเมืองขุขันธ์[แก้]
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา บริเวณที่เป็นเขตจังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ ในปัจจุบันนี้ เดิมเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชนชาติพันธุ์เขมรและชนชาติพันธ์กวย ซึ่งเรียกโดยรวมว่า เขมรป่าดง มีชุมชนที่สำคัญ คือ บ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน ซึ่งต่อมาเป็นเมืองขุขันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๓๐๒ รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พระยาช้างเผือกได้แตกโรงไปอยู่รวมกับโขลงช้างป่าในเขตภูเขาพนมดงรัก จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทหารคู่พระทัย คือ ทองด้วงและบุญมา นำไพร่พลออกติดตาม โดยได้รับการช่วยเหลือจาก ตากะจะ หัวหน้ากลุ่มชนบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน และเชียงขัน ร่วมกับหัวหน้ากลุ่มชาวเขมรป่าดงที่ชำนาญการจับช้างคือ เชียงปุ่มแห่งบ้านเมืองที เชียงสีแห่งบ้านกุดหวาย เชียงฆะแห่งบ้านอัจจะปะนึง และเชียงไชยแห่งบ้านจาระพัด ออกติดตามจนพบและสามารถจับพระยาช้างเผือกได้ และตามคณะนำส่งถึงกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ ตากะจะ เป็นหลวงแก้วสุวรรณ ตำแหน่งนายกองหัวหน้าหมู่บ้าน และเชียงขัน เป็นหลวงปราบ ผู้ช่วยนายกองหัวหน้าหมู่บ้าน
- ปี พุทธศักราช ๒๓๐๒ ทองด้วงและบุญมา ร่วมกับหัวหน้ากลุ่มชาวเขมรป่าดง ทั้ง 5 กลุ่มข้างต้น ออกติดตามจับพระยาช้างเผือกแห่งกรุงศรีอยุธยาได้
- ปี พุทธศักราช ๒๓๐๖ โปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน ขึ้นเป็น เมืองขุขันธ์ และ หลวงแก้วสุวรรณ ได้เลื่อนเป็น พระไกรภักดีศรีนครลำดวน เป็นเจ้าเมืองขุขันธ์คนแรก
- ปี พุทธศักราช ๒๔๔๐ โปรดเกล้าฯเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง เจ้าเมืองขุขันธ์ เป็นผู้ว่าราชการเมืองขุขันธ์
- ปลายปี พุทธศักราช ๒๔๕๐ ย้ายศาลากลางเมืองขุขันธ์ไปตั้งบริเวณศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ แต่ยังคงใช่ชื่อ ศาลากลางเมืองขุขันธ์ เปลี่ยนชื่ออำเภอขุขันธ์ เป็นอำเภอห้วยเหนือ
- ปี พุทธศักราช ๒๔๕๐ ยุบเมืองศรีสะเกษและเมืองเดชอุดมโดยให้อำเภอที่ขึ้นกับเมืองทั้งสองไปขึ้นกับเมืองขุขันธ์
- ปี พุทธศักราช ๒๔๕๙ โปรดเกล้าฯเปลี่ยนชื่อเมืองขุขันธ์ เป็นจังหวัดขุขันธ์
- ปี พุทธศักราช ๒๔๘๑ เปลี่ยนชื่อจังหวัดขุขันธ์ เป็นชื่อจังหวัดศรีสะเกษ
ประวัติการตั้งตำบลต่าง ๆ[แก้]
- วันที่ 29 เมษายน 2460 เปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอเมือง จังหวัดขุขันธ์ มณฑลอุบล เป็น อำเภอห้วยเหนือ[1]
- วันที่ 24 มิถุนายน 2466 ก่อสร้างที่ว่าการอำเภอห้วยเหนือ[2]
- วันที่ 2 ธันวาคม 2466 ยุบตำบลห้วยใต้ ไปรวมกับท้องที่ตำบลห้วยเหนือ และยุบตำบลดินแดง ไปรวมกับท้องที่ตำบลลาวเดิม[3]
- วันที่ 13 กรกฎาคม 2467 โอนพื้นที่ตำบลกันทรารมย์ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ไปขึ้นกับ อำเภอห้วยเหนือ (อำเภอขุขันธ์)[4]
- วันที่ 30 พฤษภาคม 2481 โอนพื้นที่ตำบลผักไหม (ยกเว้นหมู่ 6,10,13,14) ของอำเภอขุขันธ์ ไปขึ้นกับ อำเภออุทุมพรพิสัย[5]
- วันที่ 19 กันยายน 2481 โอนพื้นที่หมู่ 6,10,13,14 (ในขณะนั้น) ของตำบลผักไหม ไปขึ้นกับตำบลพิมาย[6]
- วันที่ 12 ธันวาคม 2481 ยุบตำบลตาอุด ไปรวมกับท้องที่ของตำบลสะเดาใหญ่[7]
- วันที่ 30 กรกฎาคม 2483 เปลี่ยนแปลงชื่อตำบลลาวเดิม อำเภอขุขันธ์ เป็น ตำบลดินแดง[8]
- วันที่ 11 พฤศจิกายน 2484 โอนพื้นที่หมู่ 12,13,14 (ในขณะนั้น) ของตำบลโสน ไปขึ้นกับตำบลปรือใหญ่[9]
- วันที่ 25 พฤศจิกายน 2484 ตั้งตำบลหนองเชียงทูน แยกออกจากตำบลสมอ[10]
- วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลในเขตท้องที่อำเภอขุขันธ์ (1,2,3)[11]
- (1) ตั้งตำบลตะเคียน แยกออกจากตำบลจะกง และตำบลดินแดง
- (2) ตั้งตำบลบักดอง แยกออกจากตำบลสิ
- (3) ตั้งตำบลดองกำเม็ด แยกออกจากตำบลใจดี
- วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2494 เปลี่ยนแปลงเขตตำบล และหมู่บ้านในท้องที่อำเภอขุขันธ์ (1,2,3,4,5,6,7)[12]
- (1) โอนพื้นที่หมู่ 12 (ในขณะนั้น) ของตำบลจะกง ไปตั้งเป็นหมู่ 1 ของตำบลตะเคียน
- (2) โอนพื้นที่หมู่ 1 (ในขณะนั้น) ของตำบลตะเคียน ไปตั้งเป็นหมู่ 4 ของตำบลจะกง
- (3) โอนพื้นที่หมู่ 7 (ในขณะนั้น) ของตำบลตะเคียน ไปตั้งเป็นหมู่ 7 ของตำบลดินแดง
- (4) โอนพื้นที่หมู่ 7 (ในขณะนั้น) ของตำบลดินแดง ไปตั้งเป็นหมู่ 11 ของตำบลปราสาทเยอ
- (5) โอนพื้นที่หมู่ 4 (ในขณะนั้น) ของตำบลดินแดง ไปตั้งเป็นหมู่ 12 ของตำบลปราสาทเยอ
- (6) โอนพื้นที่หมู่ 6 (ในขณะนั้น) ของตำบลดินแดง ไปตั้งเป็นหมู่ 13 ของตำบลปราสาทเยอ
- (7) โอนพื้นที่หมู่ 10 (ในขณะนั้น) ของตำบลสมอ ไปตั้งเป็นหมู่ 12 ของตำบลกันทรารมย์
- วันที่ 21 มิถุนายน 2498 แยกพื้นที่ตำบลขุนหาญ ตำบลสิ ตำบลกันทรอม และตำบลบักดอง อำเภอขุขันธ์ มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอขุนหาญ ขึ้นกับอำเภอขุขันธ์ และเปลี่ยนแปลงเขตอำเภอขุขันธ์ และอำเภอกันทรลักษ์ โดย โอนพื้นที่ตำบลพราน และตำบลไพร อำเภอกันทรลักษ์ ไปขึ้นกับ กิ่งอำเภอขุนหาญ อำเภอขุขันธ์ และโอนพื้นที่หมู่ 6,7 (ในขณะนั้น) ของตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ ไปขึ้นกับตำบลบักดอง กิ่งอำเภอขุนหาญ อำเภอขุขันธ์[13]
- วันที่ 30 พฤษภาคม 2499 จัดตั้งสุขาภิบาลห้วยเหนือ ในท้องที่บางส่วนของตำบลห้วยเหนือ[14]
- วันที่ 7 มกราคม 2500 จัดตั้งสุขาภิบาลขุนหาญ ในท้องที่บางส่วนของตำบลสิ[15]
- วันที่ 22 กรกฎาคม 2501 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอขุนหาญ อำเภอขุขันธ์ เป็น อำเภอขุนหาญ[16]
- วันที่ 27 ธันวาคม 2503 แยกพื้นที่ตำบลหนองเชียงทูน ตำบลสมอ ตำบลพิมาย และตำบลกู่ อำเภอขุขันธ์ มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอปรางค์กู่ ขึ้นกับอำเภอขุขันธ์[17]
- วันที่ 16 กรกฎาคม 2506 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอปรางค์กู่ อำเภอขุขันธ์ เป็น อำเภอปรางค์กู่[18]
- วันที่ 7 ตุลาคม 2512 แยกพื้นที่ตำบลไพรบึง ตำบลสำโรงพลัน ตำบลปราสาทเยอ และตำบลดินแดง อำเภอขุขันธ์ มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอไพรบึง ขึ้นกับอำเภอขุขันธ์[19]
- วันที่ 5 ตุลาคม 2514 ตั้งตำบลตาอุด แยกออกจากตำบลสะเดาใหญ่[20]
- วันที่ 5 กันยายน 2515 ตั้งตำบลห้วยใต้ แยกออกจากตำบลห้วยเหนือ[21]
- วันที่ 14 สิงหาคม 2516 ตั้งตำบลละลม แยกออกจากตำบลโสน[22]
- วันที่ 21 สิงหาคม 2518 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอไพรบึง อำเภอขุขันธ์ เป็น อำเภอไพรบึง[23]
- วันที่ 10 ตุลาคม 2529 ตั้งตำบลโคกตาล แยกออกจากตำบลปรือใหญ่ ตั้งตำบลนิคมพัฒนา แยกออกจากตำบลปรือใหญ่ ตำบลห้วยเหนือ ตำบลห้วยใต้ และตำบลตาอุด[24]
- วันที่ 11 ธันวาคม 2529 ตั้งตำบลห้วยตามอญ แยกออกจากตำบลละลม[25]
- วันที่ 23 กรกฎาคม 2530 ตั้งตำบลโคกเพชร แยกออกจากตำบลใจดี[26]
- วันที่ 31 สิงหาคม 2531 ตั้งตำบลปราสาท แยกออกจากตำบลกันทรารมย์ ตั้งตำบลตะเคียนราม แยกออกจากตำบลปรือใหญ่ ตั้งตำบลห้วยตึ๊กชู แยกออกจากตำบลละลม และตำบลโสน[27]
- วันที่ 18 ตุลาคม 2532 ตั้งตำบลสำโรงตาเจ็น แยกออกจากตำบลหัวเสือ ตั้งตำบลห้วยสำราญ แยกออกจากตำบลห้วยเหนือ[28]
- วันที่ 17 สิงหาคม 2533 ตั้งตำบลดงรัก แยกออกจากตำบลโคกตาล ตั้งตำบลกฤษณา แยกออกจากตำบลจะกง[29]
- วันที่ 31 มกราคม 2534 แยกพื้นที่ตำบลโคกตาล ตำบลห้วยตามอญ ตำบลห้วยตึ๊กชู ตำบลละลม ตำบลตะเคียนราม และตำบลดงรัก อำเภอขุขันธ์ มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอภูสิงห์ ขึ้นกับอำเภอขุขันธ์[30]
- วันที่ 1 สิงหาคม 2534 ตั้งตำบลลมศักดิ์ แยกออกจากตำบลตะเคียน ตั้งตำบลหนองฉลอง แยกออกจากตำบลนิคมพัฒนา[31]
- วันที่ 13 พฤศจิกายน 2535 ตั้งตำบลศรีตระกูล แยกออกจากตำบลตาอุด[32]
- วันที่ 20 สิงหาคม 2536 ตั้งตำบลไพรพัฒนา แยกออกจากตำบลห้วยตามอญ[33]
- วันที่ 8 สิงหาคม 2538 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอภูสิงห์ อำเภอขุขันธ์ เป็น อำเภอภูสิงห์[34]
- วันที่ 9 พฤศจิกายน 2538 ตั้งตำบลศรีสะอาด แยกออกจากตำบลกันทรารมย์[35]
- วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะสุขาภิบาลห้วยเหนือ เป็นเทศบาลตำบลห้วยเหนือ[36]
- วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 เปลี่ยนแปลงชื่อเทศบาลตำบลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์ เป็น เทศบาลตำบลเมืองขุขันธ์[37]
ดูเพิ่ม[แก้]
- ตาลโตนดมียอดถึง 9 ยอด และมีอายุอยู่คู่กับเจ้าเมืองถึง 9 คน เป็นต้นตาลที่มีความแปลกเพราะลำต้นเดียว แต่แตกแขนงลำต้นออกเป็น 9 แขนง 9 ยอด เคยมีชีวิตและตั้งต้นตระหง่านมาตั้งแต่กำเนิดเมืองขุขันธ์ ณ หมู่บ้านตาดม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยใต้ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษได้ล้มตายลงเมื่อปี พ.ศ. 2509 ปัจจุบันยังคงเหลือแต่เพียงร่องรอยภาพถ่ายแห่งอดีตมาถึงปัจจุบัน
- วัดทั้ง 4 แห่งเมืองขุขันธ์ ประกอบด้วย วัดเจ๊กโพธิพฤกษ์ วัดเขียนบูรพาราม วัดบกจันทร์นคร และวัดไทยเทพนิมิต วัดทั้ง 4 วัด เป็นวัดที่เก่าแก่มีความเป็นมาอันยาวนาน ตั้งอยู่ทั้ง 4 ทิศของเมือง คู่กับชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัดกลางอัมรินทราวาสเป็นศูนย์กลาง
วัดเก่าแก่ของเมืองขุขันธ์[แก้]
- ทิศเหนือ วัดเจ๊กโพธิพฤกษ์ ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ปัจจุบันคือ บ้านเจ๊ก หมูที่ 7 ตำบลห้วยเหนือ
- ทิศตะวันออก วัดเขียนบูรพาราม (เดิมชื่อ วัดเขมร แต่เรียกเพี้ยนเป็น วัดเขียน) ชุมชนชาวเขมร ปัจจุบันคือ บ้านพราน หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยเหนือ
- ทิศใต้ วัดบกจันทร์นคร ชุมชนชาวลาว(เวียงจันทน์) ปัจจุบันคือ บ้านบก หมู่ที่ 13 ตำบลห้วยเหนือ
- ทิศตะวันตก วัดไทยเทพนิมิต ชุมชนชาวไทย ปัจจุบันคือ บ้านห้วย หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยเหนือ
ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]
อำเภอขุขันธ์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านขาม บ้านหนองครอง บ้านหนองหิน บ้านหนองตลาด ตำบลดู่ ตำบลโพธิ์ศรี ตำบลสมอ ตำบลหนองเชียงทูน อำเภอปรางค์กู่ และ ตำบลศรีสำราญ ตำบลวังหิน อำเภอวังหิน
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลโนนปูน ตำบลดินแดง ตำบลไพรบึง ตำบลสำโรงพลัน อำเภอไพรบึง
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลโพธิ์กระสังข์ ตำบลกันทรอม อำเภอขุนหาญ และ ตำบลโคกตาล ตำบลตะเคียนราม ตำบลห้วยตึ๊กชู ตำบลละลม อำเภอภูสิงห์
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลตาวัง อำเภอบัวเชด ตำบลตาคง อำเภอสังขะ ตำบลหนองแวง อำเภอศรีณรงค์ (จังหวัดสุรินทร์)
ทำเนียบผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอขุขันธ์[แก้]
ลำดับ | รายนาม | ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | หลวงสุรัตนามัย (บุญมี ขุขันธิน) | 2450-2453 |
2 | พระพิชัยราชวงษา (บุญมี ศรีอุทุมพร) | 2453-2456 |
3 | ขุนศิริไศลรักษ์ (แป้น ส่องศรี) | 2459-2461 |
4 | นายสุวรรณ ศรีเพ็ญ | 2461-2462 |
5 | ขุนชิต สารการ (เคลือบ ประถมรักษ์) | 2462-2464 |
6 | หลวงวัฒนวงษ์ โทนุบล (โทน สุวรรณกูฎ) | 2464-2468 |
7 | หลวงประชากรเกษม (เป้ย ส่องศรี) | 2468-2476 |
8 | นายโสภณ อรจันทร์ | 2476-2480 |
9 | นายตุ้ม สุวรรณกูฎ | 2480-2488 |
10 | นายสุวิช ศิริกูล | 2488-2493 |
11 | นายมนูญ สุวรรณสำริด | 2493-2495 |
12 | ร.ต.ท. ยนต์ ประพิตภา | 2495-2499 |
13 | นายอำนาจ รักษาสัตย์ | 2499-2500 |
14 | นายเทิ้ม ช่างเรียน | 2500-2501 |
15 | นายยอด อ่อนโอภาส | 2501-2511 |
16 | นายสม ทัดศรี | 2511-2514 |
17 | นายสมศักดิ์ ไทยสะเทือน | 2514-2519 |
18 | นายสมัย รัตนจันทร์ | 2519-2520 |
19 | นายสงวน วัฒนานันท์ | 2520-2521 |
20 | ร.อ.อริยะ อุปาระมี | 2521-2523 |
21 | นายวิศิษฐ์ วรรณศิริ | 2523-2526 |
22 | นายบุญตา หาญวงศ์ | 2526-2529 |
23 | นายปริญญา ปานทอง | 2529-2530 |
24 | เรือตรี สนอง มโหทาน | 2530-2532 |
25 | นายสุนาย ลาดคำกรุง | 2532-2535 |
26 | นายวนิชย์ ฤทธิ์เดช | 2535-2539 |
27 | นายเนาวรัตน์ บุญหล้า | 2539-2542 |
28 | นายฉันท์ กาเมือง | 2542-2543 |
29 | นายชูศักดิ์ อุปนันท์ | 2543-2547 |
30 | นายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา | 2547-2550 |
31 | นายเผด็จ แนบเนียน | 2550-2551 |
32 | นายอนุรัตน์ ลีธีระประเสริฐ | 2551-2557 |
33 | นายสมศักดิ์ นิสัยสม | 2557-2558 |
34 | นายสำรวย เกษกุล | 2558-2560 |
35 | นายสุรชัย ยุติธรรมนนท์ | 2560-2561 |
36 | นายสะอาด วงศ์รักษ์ | 2561-2563 |
37 | นายสุริยา บุตรจินดา | 2563-2564 |
38 | นายอรรถพล อรรคบุตร | 2564-2565 |
ลักษณะภูมิประเทศ[แก้]
อำเภอขุขันธ์ มีพื้นที่ทั้งหมด 914.3 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย ซึ่งเหมาะสำหรับการทำนาปลูกข้าวและเพาะปลูกพืชไร่
สภาพสังคม[แก้]
อำเภอขุขันธ์ ทั้งหมดเป็นสังคมชนบทแบบเกษตรกรรม ประกอบด้วยประชากรหลายกลุ่มชนชาติพันธุ์ ได้แก่ เขมร กูย(กวย) ลาว และจีน โดยภาษาที่ใช้ ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาไทยอีสาน ภาษาถิ่นเขมร และภาษากูย(กวย) ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
สภาพเศรษฐกิจ[แก้]
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก คือ เกษตรกรรม จะประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ทำไร่ โดยมีพื้นที่การเกษตร 313,504 ไร่ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา และพืชไร่ มีอาชีพเสริม ที่สำคัญ ตามข้อมูลจากโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เช่น จัดตั้งกลุ่มทอผ้าไหม กลุ่มผลิตภัณฑ์จากมือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ครุน้อย กลุ่มผลิตภัณฑ์เกวียนน้อย และ กลุ่มผลิตอบใบตาล ฯลฯ รายได้เฉลี่ยต่อคน/ต่อปี 32,440 บาท โรงงานอุตสาหกรรม 3 แห่ง ธนาคาร 8 แห่ง
การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]
การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]
อำเภอขุขันธ์แบ่งพื้นที่การปกครองย่อยออกเป็น 22 ตำบล 276 หมู่บ้าน ได้แก่
|
|
การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]
ท้องที่อำเภอขุขันธ์ประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 23 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลเมืองขุขันธ์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยเหนือ เฉพาะหมู่ที่ 1, 6, 14
- เทศบาลตำบลศรีสะอาด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีสะอาดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลกันทรารมย์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกันทรารมย์ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลจะกง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลจะกงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลใจดี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลใจดีทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลดองกำเม็ด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดองกำเม็ดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโสน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโสนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลปรือใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปรือใหญ่ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสะเดาใหญ่ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลตาอุด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตาอุดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยเหนือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยเหนือ เฉพาะหมู่ที่ 2–5, 7–13
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยใต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยใต้ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหัวเสือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวเสือทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลตะเคียน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตะเคียนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลนิคมพัฒนา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนิคมพัฒนาทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเพชร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกเพชรทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลปราสาท ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปราสาททั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรงตาเจ็น ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสำโรงตาเจ็นทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสำราญ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยสำราญทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลกฤษณา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกฤษณาทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลลมศักดิ์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลลมศักดิ์ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองฉลอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองฉลองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลศรีตระกูล ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีตระกูลทั้งตำบล
สภาพทางสังคม[แก้]
การสาธารณสุข[แก้]
- โรงพยาบาลขนาด 120 เตียง ระดับแม่ข่าย 1 แห่ง
- โรงพยาบาลขุขันธ์
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 27 แห่ง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกโพน
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตะเคียนบังอีง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจะกง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใจดี
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกันจาน
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอาวอย
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขนุน
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองคล้า
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปรือใหญ่
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปรือคัน
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทับทิมสยาม 06
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองลุง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสมบูรณ์
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวเสือ
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตะเคียนช่างเหล็ก
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกวางขาว
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองกลาง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกเพชร
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปราสาท
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ่อทอง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรงตาเจ็น
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาก๊อก
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกฤษณา
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวิทย์
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตรอย
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนิคมซอยกลาง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโนน
- ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง 1 แห่ง
- ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองห้วยเหนือ
- สำนักงานสาธารณสุข 1 แห่ง
- สำนักงานสาธารณสุขอำเภอขุขันธ์
การศึกษา[แก้]
โรงเรียนในตัวอำเภอ 4 แห่ง[แก้]
- โรงเรียนอนุบาลศรีประชานุกูล
- โรงเรียนขุขันธ์วิทยา
- โรงเรียนขุขันธ์
- โรงเรียนขุขันธ์ราษฎร์บำรุง
ระดับประถมศึกษา 89 แห่ง[แก้]
อาทิ
- โรงเรียนทับทิมสยาม 06
- โรงเรียนบ้านโนนสมบูรณ์
- โรงเรียนบ้านปรือใหญ่
- โรงเรียนบ้านหลัก
- โรงเรียนบ้านปรือคัน
- โรงเรียนบ้านสมบูรณ์
- โรงเรียนบ้านแขว
- โรงเรียนตาดม
- โรงเรียนบ้านปราสาทกวางขาว
ระดับมัธยมศึกษา 9 แห่ง[แก้]
- โรงเรียนขุขันธ์
- โรงเรียนสวงษ์วิทยาคม
- โรงเรียนสะเดาใหญ่ประชาสรรค์
- โรงเรียนปรือใหญ่วิทยบัลลังก์
- โรงเรียนบ้านกันทรารมย์
- โรงเรียนศรีตระกูลวิทยา
- โรงเรียนลมศักดิ์วิทยาคม
- โรงเรียนขุขันธ์ราษฎร์บำรุง
- โรงเรียนชุมชนบ้านหัวเสือ
สถาบันการอาชีวศึกษา 2 แห่ง[แก้]
- วิทยาลัยการอาชีพขุขันธ์
- วิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจรักไทย ขุขันธ์
สถาบันอุดมศึกษา 4 แห่ง[แก้]
- มหาวิทยาลัยปทุมธานี ศูนย์ขุขันธ์ (โต้รุ่งขุขันธ์)
- สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน มหาวิทยาลัยชีวิตขุขันธ์ (มรภ.สุรินทร์)
- วิทยาลัยเอเชียไซเบอร์เทคโนโลยี ศูนย์โรงเรียนขุขันธ์ราษฎร์บำรุง
- มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ศูนย์การศึกษาทางไกล ศูนย์อำเภอขุขันธ์
อื่น ๆ[แก้]
- สกร.อำเภอขุขันธ์ (เดิม กศน.อำเภอขุขันธ์)
- ห้องสมุดประชาชนอำเภอขุขันธ์
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษเขต 3
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน[แก้]
- สถานีตำรวจ 3 แห่ง
- สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์
- สถานีตำรวจภูธรปรือใหญ่
- สถานีตำรวจภูธรจะกง
- ตู้ยาม 6 แห่ง
- ตู้ยามรัตนากรวิสุทธิ์ (สภ.ขุขันธ์)
- ตู้ยามตรางสวาย (สภ.ขุขันธ์)
- ตู้ยามนาเจริญ (สภ.ขุขันธ์)
- ตู้ยามกันทรารมย์-ปราสาท-ศรีสะอาด (สภ.ขุขันธ์)
- ตู้ยามสะเดาใหญ่ประชาร่วมใจ (สภ.ขุขันธ์)
- ตู้ยามนิคมพัฒนา (สภ.ปรือใหญ่)
ธนาคาร 7 แห่ง[แก้]
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาขุขันธ์
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัส ขุขันธ์
- ธนาคารออมสิน สาขาขุขันธ์
- ธนาคารกรุงไทย สาขาโลตัส ขุขันธ์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาขุขันธ์
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาขุขันธ์
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาขุขันธ์
การศาสนา[แก้]
วัดและที่พักสงฆ์สังกัดมหานิกาย แบ่งการปกครองออกเป็น ๑๖ ตำบลคณะสงฆ์ ดังนี้
- คณะสงฆ์ตำบลห้วยเหนือ ประกอบด้วย
- วัดกลาง ขุขันธ์ พระราชปริยัตยาทร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ
- วัดไทยเทพนิมิตร
- วัดเขียนบูรพาราม
- วัดสะอางโพธิญาณ
- วัดบกจันทร์นคร
- วัดเจ๊กโพธิพฤกษ์
- ที่พักสงฆ์ชัยมงคลพัฒนาราม
- ที่พักสงฆ์บ้านตะแบก
- คณะสงฆ์ตำบลห้วยใต้ ประกอบด้วย
- วัดปราสาทใต้
- วัดบ้านแขว
- วัดสมบูรณ์
- วัดตาดม
- วัดนิคมสายเอก
- ที่พักสงฆ์บ้านสระรุน
- ที่พักสงฆ์ทุ่งอินทราวาส
- คณะสงฆ์ตำบลห้วยสำราญ ประกอบด้วย
- วัดบ้านแทรง
- วัดเสลานาก๊อก
- วัดราษีพัฒนา
- วัดคะนาสามัคคี
- ที่พักสงฆ์บ้านนาก๊อก
- ที่พักสงฆ์ป่าทอง
- คณะสงฆ์ตำบลใจดี-ศรีสะอาด ประกอบด้วย
- วัดทะลอก
- วัดลำภู
- วัดใจดี
- วัดศรีสะอาด
- วัดทุ่งบังอีงวิหาร
- ที่พักสงฆ์อังกุลสมใจ
- ที่พักสงฆ์ป่าพะเยียว
- ที่พักสงฆ์ภูมิร่มเย็น
- คณะสงฆ์ตำบลดองกำเม็ด ประกอบด้วย
- วัดกระโพธิ์ช่างหม้อ
- วัดบ้านบิง
- วัดดองกำเม็ด
- วัดกันจาน
- วัดตราดพัฒนาราม
- ที่พักสงฆ์พิหารตรางสวาย
- ที่พักสงฆ์ตาโคล
- คณะสงฆ์ตำบลโคกเพชร ประกอบด้วย
- วัดโนนสำราญ
- วัดภูมิศาลา
- วัดโคกเพชร
- วัดระกา
- วัดเสลาสุขเกษม
- วัดเกาะบึงโบราณ
- ที่พักสงฆ์เปี่ยมตะลวก
- คณะสงฆ์ตำบลหัวเสือ ประกอบด้วย
- วัดหัวเสือ พระสุภัทรกิจจากร รองเจ้าคณะอำเภอขุขันธ์
- วัดบ้านสวงษ์
- วัดห้วยสระภูมิ
- วัดคลองสุด
- วัดประปุนราษฎร์บำรุง
- วัดหนองกันแจ่ม
- คณะสงฆ์ตำบลสำโรงตาเจ็น ประกอบด้วย
- วัดบ้านศาลา
- วัดสำโรงตาเจ็น
- วัดป่าโนนสาย
- วัดกระโพธิ์เริมรมย์
- วัดเริงรมย์
- วัดเสวตวนาราม
- คณะสงฆ์ตำบลกฤษณา ประกอบด้วย
- วัดกฤษณา
- วัดสวัสดี
- วัดฮ่องธาตุ
- วัดหนองเข็ง
- วัดสระบานสนวน
- คณะสงฆ์ตำบลจะกง ประกอบด้วย
- วัดกะกำ
- วัดตาสุด
- วัดจะกง
- วัดตะเคียนน้อย
- วัดศรีกองหลวง
- วัดไลย์ชัยมงคล
- ที่พักสงฆ์โนนเจียงเฒ่า
- คณะสงฆ์ตำบลตะเคียน-ลมศักดิ์ ประกอบด้วย
- วัดตะเคียน
- วัดจันลม
- วัดหนองกาด
- วัดอาทิ
- วัดบ้านกลาง-ป่าใหญ่
- ที่พักสงฆ์ตาเสก
- ที่พักสงฆ์ป่ามหาศรีนวล
- ที่พักสงฆ์ประชานิมิตบ้านเวียน
- คณะสงฆ์ตำบลสะเดาใหญ่ ประกอบด้วย
- วัดเขวิกศรีสระจันทร์
- วัดสำโรงสูง
- วัดบ้านติมรัตนาราม
- วัดตาอุด
- วัดศรีโกธาราราม
- ที่พักสงฆ์อุดมมงคล
- คณะสงฆ์ตำบลนิคมพัฒนา-ศรีตระกูล ประกอบด้วย
- วัดค่ายนิคม
- วัดกวางขาว
- วัดตรอยนิคม
- วัดเคาะกุปวารีย์
- วัดศรีตระกูล
- ที่พักสงฆ์สนวนไตรสามัคคี
- คณะสงฆ์ตำบลปรือใหญ่ ประกอบด้วย
- วัดปรือคัน พระครูพิศิษฏ์ธรรมานุศาสก์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอขุขันธ์
- วัดปรือใหญ่ พระครูประภัศรสุตาลังการ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์
- วัดตาเบ๊าะเกษมงคล พระครูโสตถิขันธคุณ เจ้าคณะตำบลปรือใหญ่
- วัดโนนสมบูรณ์
- วัดโพธิ์สว่าง
- วัดป่าเสรีธรรม
- ที่พักสงฆ์คลองแก้ว
- ที่พักสงฆ์ร่มโพธิ์บุญ
- คณะสงฆ์ตำบลโสน ประกอบด้วย
- วัดอาวอย พระครูสุตธรรมวิวัฒน์ รองเจ้าคณะอำเภอขุขันธ์
- วัดขนุน
- วัดโสน
- วัดหนองคล้า
- วัดป่าหนองคล้าใต้
- วัดสนามสามัคคี
- วัดนาเจริญพัฒนา
- วัดหนองผือเทพสถิตย์
- ที่พักสงฆ์ป่าหนองจอก
- ที่พักสงฆ์ป่าบารมีธรรม (สวาย)
- ที่พักสงฆ์คำเผือ
- ที่พักสงฆ์โคกกี่
- ที่พักสงฆ์แหลมทอง
- คณะสงฆ์ตำบลกันทรารมย์-ปราสาท ประกอบด้วย
- วัดโคกโพน พระมหามังกร กนฺตปุญโญ เจ้าคณะอำเภอขุขันธ์
- วัดโสภณวิหาร
- วัดโคกสูง
- วัดจันทราปราสาท
- วัดบ่อทอง
- ที่พักสงฆ์ศรีหนองไผ่
- ที่พักสงฆ์บ้านสะพาน
- ที่พักสงฆ์โคกเพชรสวาย
วัดและที่พักสงฆ์สังกัดธรรมยุติกนิกาย ได้แก่
- วัดป่าหนองโพธิ์ พระครูวิศาลธรรมพินิจ เจ้าคณะอำเภอขุขันธ์ (ธ)
- วัดถ้ำสระพงษ์ พระครูเขมจิตสุนทร เจ้าคณะอำเภอบัวเชด-สังขะ (ธ)
- วัดป่าอาวอย
- ที่พักสงฆ์ป่าเรียมพัฒนาราม
- ที่พักสงฆ์ป่ามะม่วงบารมีธรรม
การคมนาคม[แก้]
ทางหลวงแผ่นดินที่ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ[แก้]
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 (สีคิ้ว-อุบลราชธานี) ระยะทางรวม 420.145 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 25.7 กม.
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220 (ศรีสะเกษ-ขุขันธ์) ระยะทางรวม 56 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 26.1 กม.
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2157 (ขุขันธ์-โคกตาล) ระยะทางรวม 15 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 15 กม.
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2167 (ตรางสวาย-สำโรงทาบ) ระยะทางรวม 48.6 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 8 กม.
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2201 (ขุขันธ์-ช่องสะงำ) ระยะทางรวม 38 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 17.8 กม.
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2341 (ไพรพัฒนา-กันทรอม-หนองบัวเรณ) ระยะทางรวม 72 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 10.7 กม.
ทางหลวงชนบทที่ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ[แก้]
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.2002 (บ้านตาคง-บ้านนาเวียง) ระยะทางรวม 21.3 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 13 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.2043 (บ้านตาอุด-ขุนหาญ) ระยะทางรวม 19.3 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 6.03 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.2046 (แยก ทล.24-บ้านห้วย) ระยะทางรวม 20.7 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 0.2 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.2048 (บ้านสมบูรณ์-บ้านแดง) ระยะทางรวม 7.51 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 7.51 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.3015 (แยก ทล.221-บ้านจันลม) ระยะทางรวม 36.09 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 3.49 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.3016 (บ้านบิง-ไพรบึง) ระยะทางรวม 17.9 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 12.4 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.3023 (บ้านบุสูง-บ้านตะเคียนช่างเหล็ก) ระยะทางรวม 27 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 15.1 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.3027 (บ้านศาลา-บ้านกำแมด) ระยะทางรวม 7.41 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 6.38 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.3082 (เลียบคลองส่งน้ำชลประทานเขื่อนห้วยศาลา-บ้านสวายเพ็ง) ระยะทางรวม 17.98 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 9.18 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.4035 (บ้านละลม-แยก รร.ปรือใหญ่วิทยบัลลังก์) ระยะทางรวม 15.9 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 1.11 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.4047 (บ้านราษีพัฒนา-บ้านบ่อทอง) ระยะทางรวม 24.8 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 24.8 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.4066 (เลียบคลองส่งน้ำชลประทานเขื่อนห้วยศาลา-บ้านกระเบา) ระยะทางรวม 21.13 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 11.2 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.5050 (ขุขันธ์-บ้านสำโรงพลัน) ระยะทางรวม 16.72 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 12.2 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.5079 (ทางไปฝายบ้านยางชุมภูมิตำรวจ) ระยะทางรวม 2.56 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 2.56 กม.
- ทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.5080 (ทางไปฝายบ้านเศวต) ระยะทางรวม 1.67 กม. ตัดผ่านพื้นที่อำเภอ 1.67 กม.
แยกที่สำคัญ[แก้]
- แยกขุขันธ์ ตำบลห้วยเหนือ (จุดเริ่มต้นของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2201 และทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.5050 ที่แยกออกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220)
- แยกขุขันธ์ ตำบลห้วยใต้ (จุดสิ้นสุดของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220 ที่บรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24)
- แยกโคกตาล ตำบลนิคมพัฒนา (จุดตัดของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2157 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24)
- แยกนาเจริญ ตำบลโสน (จุดตัดของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2201 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24)
- แยกนิคมสายเอก ตำบลหนองฉลอง (จุดเริ่มต้นของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2157 ที่แยกออกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220)
- แยกตรางสวาย ตำบลดองกำเม็ด (จุดเริ่มต้นของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2167 ที่แยกออกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220)
- แยกบ้านบิง ตำบลดองกำเม็ด (จุดเริ่มต้นของทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.3016 ที่แยกออกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220)
- แยกบ้านแทรง ตำบลห้วยสำราญ (จุดเริ่มต้นของทางหลวงชนบทหมายเลข ศก.7075 ที่แยกออกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2201)
ระยะทางจากอำเภอขุขันธ์ไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัด[แก้]
อำเภอ | ระยะทาง (กิโลเมตร) |
---|---|
อำเภอเมืองศรีสะเกษ | 50 |
กันทรลักษ์ | 59 |
กันทรารมย์ | 77 |
อุทุมพรพิสัย | 76 |
ราษีไศล | 86 |
อำเภอไพรบึง | 25 |
อำเภอขุนหาญ | 33 |
ปรางค์กู่ | 30 |
ห้วยทับทัน | 87 |
บึงบูรพ์ | 90 |
อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ | 78 |
อำเภอเมืองจันทร์ | 80 |
อำเภอศิลาลาด | 112 |
อำเภอโนนคูณ | 85 |
อำเภอศรีรัตนะ | 42 |
อำเภอพยุห์ | 40 |
อำเภอเบญจลักษ์ | 66 |
อำเภอยางชุมน้อย | 80 |
อำเภอวังหิน | 26 |
อำเภอภูสิงห์ | 26 |
อำเภอน้ำเกลี้ยง | 70 |
ระยะทางจากอำเภอขุขันธ์ไปยังอำเภอสำคัญต่าง ๆ ในจังหวัดใกล้เคียง[แก้]
อำเภอ | ระยะทาง (กิโลเมตร) |
---|---|
เมืองอุบลราชธานี | 122 |
วารินชำราบ | 118 |
เดชอุดม | 109 |
พิบูลมังสาหาร | 153 |
น้ำยืน | 112 |
เมืองสุรินทร์ | 93 |
สังขะ | 45 |
ปราสาท | 93.4 |
รัตนบุรี | 105 |
เมืองบุรีรัมย์ | 148 |
ประโคนชัย | 128 |
นางรอง | 160 |
ลำปลายมาศ | 180 |
เมืองนครราชสีมา | 260 |
ปักธงชัย | 250 |
โชคชัย | 231 |
สีคิ้ว | 289 |
ปากช่อง | 325 |
กรุงเทพมหานคร | 483 |
สถานที่ท่องเที่ยว[แก้]
วัดเจ๊กโพธิพฤกษ์[แก้]
อยู่ในตำบลห้วยเหนือ เป็นวัดที่มีประวัติแปลกไปจากวัดอื่น ๆ เพราะสร้างโดยคนไทยเชื้อสายจีนในเมืองขุขันธ์ในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ
- ปราสาทกุด หรือปราสาทวัดเจ๊กโพธิ์พฤกษ์ ตั้งอยู่ในเขตวัดเจ๊กโพธิ์พฤกษ์ บริเวณบ้านเจ๊ก ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ เป็นโบราณสถานก่อด้วยอิฐ ปัจจุบันอยู่ในสภาพพังทลาย กลายเป็นเนินโบราณสถาน มีลักษณะเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสบนเนินดินใหญ่ ผนังแต่ละด้านจะก่ออิฐเป็นช่องคล้ายประตู โดยก่ออิฐทึบทั้งหมด มีความสูงประมาณ 15 เมตร ส่วนยอดหักพังลงมาจนถึงเรือนธาตุ โบราณสถานแห่งนี้คงสร้างมาในสมัยอยุธยาตอนปลายหรือพุทธศตวรรษที่ 23-24 และปราสาทนี่เองสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น ปราสาทสี่เลี่ยมโคกลำดวน ในอดีต ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน หรือเมืองขุขันธ์
- ตู้พระธรรมของวัดเจ๊กโพธิ์พฤกษ์ เป็นงานศิลปะฝีมือที่สวยงามมาก ผู้พระธรรมลายรดน้ำมีขนาด 1.58 เมตร กว้าง 0.64 เมตร ยาว 0.93 เมตร บานประตูเขียนลายกนกเปลว ด้านข้างทั้งสองเขียนลวดลายพันธุ์ไม้ลวดลายที่เขียนขึ้นมีภาพเล่าเรื่องประกอบทุกด้านลักษณะลวดลายของตู้พระธรรมนี้น่าจะได้รับอิทธิพลมาจาก ภาคกลางอยู่มาก ถึงแม้จะมีสอดแทรกลายพื้นเมืองอยู่บ้านก็ตามลายกรอบบานประตูดอกไม้คล้ายดอกพุดตานและขาตู้ซึ่งมีลักษณะแบบจีนนิยมทำกันอย่างแพร่หลายในสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงสันนิษฐานได้ว่าตู้พระธรรมนี้มีอายุได้ 100 ปี มาแล้วหรือ ในราวต้นกรุงรัตนโกสินทร์
วัดเขียนบูรพาราม[แก้]
วัดเขียนบูรพาราม เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของอำเภอขุขันธ์ ตั้งอยู่ที่บ้านพราน ตำบลห้วยเหนือ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2323 สมัยพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน(เชียงขัน) เจ้าเมืองขุขันธ์ ท่านที่ 2 ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองขุขันธ์อีกองค์หนึ่ง ที่พุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกลต่างพากันมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต เมื่อได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนเมืองขุขันธ์ ผนังและฐานของอุโบสถก่อด้วยอิฐฉาบปูน หลังคาเป็นโครงไม้มุงด้วยสังกะสี ที่ขอบโครงหลังคาโดยรอบแกะสลักเป็นลายพันธุ์พฤกษา ส่วนที่จั่วสลักเป็นภาพในเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งแกะสลักในสมัยรัตนโกสินทร์ ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่เรียกว่า หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 3.50 เมตร สูง 6.80 เมตร มีลักษณะศิลปะที่ผสมผสานกัน ระหว่างศิลปล้านช้าง และศิลปะอยุธยาตอนปลาย เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวขุขันธ์มาแต่ในอดีต ภายนอกอุโบสถทั้งสี่มุมมีธาตุ ลักษณะศิลปะล้านช้างตั้งอยู่ ปัจจุบันเหลือเพียงสามองค์ องค์ที่สมบูรณ์ที่สุด อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะคล้ายกับพระธาตุก่องข้าวน้อย ที่จังหวัดยโสธร วัดเขียนบูรพาราม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ และกำหนดขอบเขตโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ. 2533 มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 50 ตารางวา
วัดกลางอัมรินทราวาส[แก้]
เป็นวัดขนาดใหญ่ และเป็นศูนย์การศึกษาและการบริหารการปกครองสงฆ์อำเภอขุขันธ์
วัดโสภณวิหาร[แก้]
ตั้งอยู่ที่ ตำบลกันทรารมย์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
วัดลำภูรัมพนิวาส[แก้]
วัดลำภู ตั้งอยู่ ณ ตำบลใจดี เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในยุคแรกเริ่มของการก่อเกิดของเมืองขุขันธ์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2133 เชื่อกันว่าเป็นวัดเคยเป็นที่จำพรรษาของพระราชครูบัว ซึ่งเป็นอาจารย์ของตากะจะ หรือพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์ท่านแรก เมื่อระหว่างปี พ.ศ. 2249-2321 ในอดีตยุคนั้นวัดลำภู แห่งนี้เป็นจุดรวมพล และเป็นสถานที่ประกอบพิธีปรกพลให้ฮึกเหิมก่อนที่จะนำทัพของเมืองขุขันธ์ออกไปร่วมรบกับกองทัพของกรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี ในสมรภูมิต่างๆจนได้รับชัยชนะทุกครั้ง และนอกจากนี้ วัดลำภู ยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระแก้วเนรมิต และองค์พญาครุฑ” สิ่งศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองขุขันธ์ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพุทธศาสนิกชนทั่วทุกสารทิศต่างแวะเวียนกันมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลและเจริญรุ่งเรืองในชีวิต
ศาลหลักเมืองขุขันธ์[แก้]
- ศาลหลักเมืองเก่า ตั้งอยู่ติดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220 (ศรีสะเกษ-ขุขันธ์) บริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวัดกลางอัมรินทราวาส มีลักษณะเหมือนศาลเจ้าของคนไทยเชื้อสายจีน เนื่องจากได้รับการดูแลจากชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ ไม่ทราบหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างมาพร้อมกับการสร้างเมืองขุขันธ์ ซึ่งมีอายุ 200 กว่าปีมาแล้ว และมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2488 ฝ่ายพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดที่เมืองขุขันธ์ กะจะทิ้งระเบิดให้ตกลงตรงใจกลางเมือง ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนควบม้าไปทั่วเมือง ทำให้นักบินมองไม่เห็น จึงได้ปลดระเบิดลงที่"เวียลตาย"แทน ซึ่งก็คือพื้นที่ระหว่างโรงเรียนขุขันธ์วิทยากับบ้านบกในปัจจุบัน จึงทำให้เมืองขุขันธ์รอดพ้นจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายพันธมิตรในคราวนั้น
- ศาลหลักเมืองใหม่ ตั้งอยู่ติดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220 (ศรีสะเกษ-ขุขันธ์) บริเวณอนุสาวรีย์พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน(ตากะจะ) วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554 และยกเสาเอกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เนื่องจากมีการประชุมกันระหว่างฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาสในพื้นที่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน เห็นว่าศาลหลักเมืองเก่ามีขนาดเล็ก พื้นที่คับแคบ ทัศนียภาพไม่สง่างาม และไม่เป็นที่สังเกตของผู้ที่ผ่านไปมา จึงมีมติให้สร้างศาลหลักเมืองใหม่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว โดยมีท่านเจ้าคุณพระรัตนากรวิสุทธิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการดำเนินการก่อสร้าง และได้รับการร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนในการบริจาคทุนทรัพย์เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ในปัจจุบันก่อสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อนุสาวรีย์พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ)[แก้]
ตั้งอยู่ติดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220 (ศรีสะเกษ-ขุขันธ์) บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของที่ว่าการอำเภอ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548 ดำเนินการก่อสร้างโดยเทศบาลตำบลห้วยเหนือ (ปัจจุบัน คือ เทศบาลตำบลเมืองขุขันธ์) โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน และได้รับงบประมาณสนับสนุนในการก่อสร้างส่วนหนึ่งจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ บริเวณโดยรอบของอนุสาวรีย์จะเป็นสวนหย่อม บริเวณด้านทิศใต้จะมีรูปปั้นพระยาช้างเผือกและครอบครัว ส่วนบริเวณด้านหน้าจะเป็นลานอนุสาวรีย์ ซึ่งจะถูกใช้ประโยชน์เป็นลานออกกำลังกายของผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไปชาวอำเภอขุขันธ์ ทุก ๆ ช่วงเวลาเย็น และใช้เป็นลานจัดกิจกรรม "งานรำลึกพระยาไกรภักดีฯ ประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี" ซึ่งเป็นงานบุญปประเพณีที่สำคัญของอำเภอขุขันธ์ และจัดอย่างยิ่งใหญ่ทุก ๆ ปี
- วัตถุประสงค์ในการสร้างอนุสาวรีย์เจ้าเมืองขุขันธ์
- 1. เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ระลึกถึงประวัติศาสตร์ของเมืองขุขันธ์และความดีของบรรพบุรุษ สมัยนั้นมีเจ้าเมืองทั้งหมดกี่คนและมีใครบ้าง
- 2. เพื่อต้องการเทิดทูนความกล้าหาญ คุณงามความดีที่ท่านได้ก่อตั้งเมืองขุขันธ์ขึ้นมาเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกเกียรติคุณของเจ้าเมืองขุขันธ์
- 3. เป็นศูนย์รวมใจของชาวอำเภอขุขันธ์
- 4. เป็นที่สักการะบูชาของชาวอำเภอขุขันธ์ และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาได้กราบไหว้
- 5. เสริมสร้างความสามัคคีของชาวอำเภอขุขันธ์ทุกคนให้เกิดความรักชาติ รักแผ่นดินเกิด
- 6. ให้เกิดความภาคภูมิใจในบ้านเกิด
วิหารเจ้าแม่กวนอิมพันมือ[แก้]
ตั้งอยู่ติดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220 (ศรีสะเกษ-ขุขันธ์) บริเวณด้านทิศเหนือของวัดเจ็กโพธิพฤกษ์
ปราสาทตาเล็ง[แก้]
ปราสาทตาเล็ง ตั้งอยู่ที่บ้านปราสาท หมู่ที่ 1 ตำบลปราสาท เป้นปราสาทหินโบราณที่สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17
หนองสะอาง[แก้]
ตั้งอยู่ที่หมู่ 12 บ้านสะอาง ตำบลห้วยเหนือ เป็นหนองน้ำที่มีขนาดใหญ่ และเป็นหนองที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของอำเภอขุขันธ์ และยังเป็นแหล่งหาปลาของคนในชุมชน
โครงการทับทิมสยาม 06[แก้]
- หมู่บ้านทับทิมสยาม 06
- อ่างเก็บน้ำทับทิมสยาม 06
- สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ตั้งอยู่ภายในโครงการทับทิมสยาม 06 บ้านนาจะเรีย หมู่ที่ 13 ตำบลปรือใหญ่ อยู่ทางทิศใต้ของตำบลตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก ระยะทางห่างจากตัวอำเภอขุขันธ์ ประมาณ 18 กิโลเมตร โดยตั้งอยู่ระหว่างพื้นที่สองตำบลในสองอำเภอ คือ ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ กับ ตำบลกันทรอม อำเภอขุนหาญ
- ผาประสพชัย เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
- สถานีเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ทับทิมสยาม 06
วัดถ้ำสระพงษ์[แก้]
ประเพณีที่สำคัญ[แก้]
ถึงแม้ว่าอำเภอขุขันธ์ ในปัจจุบันจะมีหลายเผ่าพันธุ์ มีจารีตประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงามของท้องถิ่นอันหลากหลาย แต่เราทุกชนทุกเผ่าก็อาศัยอยู่ร่วมกันมาอย่างมีความสุข เมื่อสังคมเปลี่ยน อารยธรรมเปลี่ยน ศิลปวัฒนธรรมย่อมบูรณาการ ดังจะเห็นได้ว่า การจัดงานประเพณีแซนโฎนตาของอำเภอขุขันธ์ทุกปีนั้น ไม่ได้มีเฉพาะคนไทยเชื้อสายเขมร กูย(กวย) เท่านั้น แต่ยังมีคนไทยเชื้อสายลาว ไทย และจีน มาร่วมกันบูชาเซ่นไหว้บรรพบุรุษของเมืองขุขันธ์ร่วมกันอีกด้วย ซึ่งก็ยิ่งทำให้ “งานประเพณีแซนโฎนตาของอำเภอขุขันธ์” เป็นที่รู้จักเลื่องลือไปไกลระดับประเทศ และต่างประเทศ ประเพณีแซนโฎนตาของอำเภอขุขันธ์ เป็นประเพณีแห่งความกตัญญูของลูกหลาน ช่วงแห่งการรวมญาติ และแสดงออกถึงความสมัครสมานสามัคคีของบุตรหลานที่จะต้องมาร่วมกันเซ่นไหว้ทำบุญอุทิสส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษของตน และเมืองขุขันธ์ร่วมกัน
อำเภอขุขันธ์ ร่วมกับ ส่วนราชการ กลุ่มพลังมวลชน ราชการท้องถิ่น ท้องที่ และสภาวัฒนาธรรมอำเภอขุขันธ์ จึงได้ร่วมกันจัดงาน และยกระดับการจัดงานเป็นประเพณีแซนโฎนตาของอำเภอขุขันธ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงาม และให้คนไทยทุกชนชาติพันธุ์ที่อาศัยในพื้นที่อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้สมัครสมานสามัคคีกัน ร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน และส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามของบรรพบุรุษ และร่วมกันแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบรรพบุรุษของชาวเมืองขุขันธ์ทุกท่าน และเป็นการประชาสัมพันธ์ประเพณีสำคัญอันเป็นรากเหง้าของความรุ่งเรืองด้านวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณของเมืองขุขันธ์ ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ภายใต้ชื่องานอันเป็นที่รู้จักกันดีว่า "งานรำลึกพระยาไกรภักดีฯ ประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี" ซึ่งลูกหลานชาวอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในช่วงข้างแรม ของเดือนสิบ ทุกปี
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ [1] เก็บถาวร 2011-11-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนชื่ออำเภอ
- ↑ [2]แจ้งความกระทรวงมหาดไทย แผนกสุขาภิบาล เรื่อง สร้างที่ว่าการอำเภอห้วยเหนือ
- ↑ [3]ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พุทธศักราช ๒๔๖๔ ในท้องที่อำเภอห้วยเหนือ จังหวัดขุขันธ์ สำหรับตำบลห้วยใต้ ซึ่งยุบไปรวมกับตำบลห้วยเหนือ และตำบลดินแดง ซึ่งยุบไปรวมกับตำบลลาวเดิม
- ↑ [4]ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พุทธศักราช ๒๔๖๔ ในตำบลกันทรารมย์ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งโอนไปขึ้นในท้องที่อำเภอห้วยเหนือ จังหวัดขุขันธ์
- ↑ [5]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตต์อำเภอในจังหวัดขุขันธ์
- ↑ [6]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในอำเภอห้วยเหนือ จังหวัดขุขันธ์
- ↑ [7]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [8] เก็บถาวร 2011-11-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนนามอำเภอและตำบลบางแห่ง พุทธศักราช ๒๔๘๓
- ↑ [9]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในจังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [10]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในจังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [11] เก็บถาวร 2011-11-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งตำบลในจังหวัดต่าง ๆ
- ↑ [12]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์ และอำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [13]พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำเภอกันทรลักษณ์ และอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. ๒๔๙๘
- ↑ [14]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศีรษะเกษ
- ↑ [15]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลขุนหาร กิ่งอำเภอขุนหาร อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [16] เก็บถาวร 2012-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งอำเภอกระสัง อำเภอกระนวน อำเภอบางกอกใหญ่ อำเภอขุนหาร อำเภอพนา อำเภอปากช่อง อำเภอวังเหนือ อำเภอวังชิ้น อำเภอแม่ทา อำเภอหนองหมู อำเภอสระแก้ว อำเภออมก๋อย อำเภอบางซ้าย อำเภอทับสะแก อำเภอบุณฑริก อำเภอลานสะกา อำเภอจอมบึง อำเภอท่ายาง อำเภอสามเงา อำเภอฟากท่า อำเภอบ้านเขว้า อำเภอชานุมาน อำเภอแม่พริก อำเภอท่าสองยาง อำเภอสะเมิง อำเภอหนองแขม และอำเภอพระแสง พ.ศ. ๒๕๐๑
- ↑ [17] เก็บถาวร 2012-05-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ยกฐานะตำบลขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ
- ↑ [18] เก็บถาวร 2009-05-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอบ่อพลอย อำเภอไทรโยค อำเภอหนองปรือ อำเภอหนองสองห้อง อำเภอประทาย อำเภอห้วยแถลง อำเภอละหานทราย อำเภอกุยบุรี อำเภอตาพระยา อำเภอหนองไผ่ อำเภอนาเชือก อำเภอวัดเพลง อำเภอพนัสนิคม อำเภอภูกระดึง อำเภอปรางค์กู่ อำเภอท่าช้าง อำเภอบ้านด่านลานหอย อำเภอบ้านดง อำเภอสว่างอารมณ์ และอำเภอกุดชุม พ.ศ. ๒๕๐๖
- ↑ [19] เก็บถาวร 2012-03-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งท้องที่ตั้งเป็นกิ่งอำเภอ
- ↑ [20]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์ อำเภอปรางค์กู่ และอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [21]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบล ในท้องที่อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [22]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์และอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [23] เก็บถาวร 2007-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอแวงน้อย อำเภอป่าแดด อำเภอเรณูนคร อำเภอคูเมือง อำเภอคุระบุรี อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอเสริมงาม อำเภอไพรบึง และอำเภหนองโดน พ.ศ. ๒๕๑๘
- ↑ [24]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอกันทรลักษณ์ อำเภอกันทรารมย์ และอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [25]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์ อำเภอกันทรลักษณ์ และอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [26]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์ กันทรลักษ์ ราษีไศลปรางค์กู่ และอำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [27]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [28]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและกำหนดเขตตำบล ในท้องที่อำเภอกันทรลักษ์ และอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [29]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์ อำเภอกันทรลักษณ์ อำเภอยางชุมน้อย กิ่งอำเภอน้ำเกลี้ยง และกิ่งอำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [30] เก็บถาวร 2012-03-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งเขตท้องที่อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งเป็นกิ่งอำเภอภูสิงห์
- ↑ [31]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอขุขันธ์ อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [32]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์ และอำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [33]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและกำหนดเขตตำบลในท้องที่กิ่งอำเภอภูสิงห์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [34] เก็บถาวร 2009-01-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอแก่งหางแมว อำเภอภักดีชุมพล อำเภอเวียงแก่น อำเภอแม่วาง อำเภอถ้ำพรรณรา อำเภอบ่อเกลือ อำเภอโนนสุวรรณ อำเภอห้วยราช อำเภอแม่ลาน อำเภอบางแก้ว อำเภอป่าพะยอม อำเภอหนองม่วงไข่ อำเภอยางสีสุราช อำเภอจังหาร อำเภอบ้านธิ อำเภอภูสิงห์ อำเภอบางกล่ำ อำเภอวังม่วง และอำเภอนายูง พ.ศ. ๒๕๓๘
- ↑ [35]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอขุขันธ์ อำเภอปรางค์กู่ อำเภอวังหินและอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ
- ↑ [36] เก็บถาวร 2008-04-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะของสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ. ๒๕๔๒
- ↑ [37]ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนชื่อเทศบาล