ข้ามไปเนื้อหา

อิสอัค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อิสอัค
อิสอัคสั่งให้สร้างบ่อน้ำ ภาพประกอบในคำภีร์ไบเบิล (ค.ศ.1900)
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
คู่สมรสรีเบคคา
บุตรอีเซา
ยาโคบ

อิสอัค (อังกฤษ: Isaac) เป็นบุตรคนที่สองของอับราฮัม ที่เกิดจากนางซาราห์ ภรรยาคนแรกของอับราฮัม เรื่องราวของอิสอัค ถูกบันทึกไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ในส่วนของพระธรรมปฐมกาล บทที่ 22-27

กำเนิดอิสอัค

[แก้]

เมื่อพระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมให้ออกจากบ้านเกิดของตน และเดินทางไปยังดินแดนที่พระเจ้าทรงตั้งไว้นั้น พระองค์มีพระสัญญาแก่อับราฮัมว่า จะให้เขาเป็นบิดาของพงศ์พันธุ์ใหญ่โต แต่ในขณะนั้น นางซาราห์ ภรรยาของอับราฮัมเป็นหมัน ไม่มีบุตร

เมื่ออับราฮัมได้เดินทางมาอยู่ในดินแดนคานาอันแล้ว พระเจ้าจึงทรงมาหาอับราฮัม และประทานบุตรชายแก่อับราฮัม ซึ่งเป็นบุตรคนเดียวที่เกิดกับนางซาราห์ ภรรยาหลวงที่อับราฮัมรักมากที่สุด เมื่ออิสอัคอายุครบแปดวัน ก็ได้ทำพิธีเข้าสุหนัต ตามที่พระเจ้าทรงบัญชาไว้ เมื่ออิสอัคโตขึ้น พระเจ้าทรงลองใจอับราฮัมผู้เป็นบิดา โดยการให้นำอิสอัคไปเป็นเครื่องถวายบูชาแด่พระองค์ และในที่สุดอับราฮัมผู้มีความเชื่อในพระเจ้า ก็ตัดสินมอบอิสอัคเป็นเครื่องถวาย แต่ทูตสวรรค์ได้มายั้งมาอับราฮัมไว้ก่อน

กำเนิดอิสอัค ที่ระบุในพระมหาคัมภีร์ อัล-กุรอาน ของอิสลาม

[แก้]

แท้จริง เขา (อิบรอฮีม), อับราฮัม เป็นคนหนึ่งในปวงบ่าวของเราผู้ศรัทธา

เรา (อัลลอฮฺ) ได้แจ้งข่าวดีแก่เขาว่า จะได้ (ลูกคนหนึ่ง) อิสฮาก เป็นนบี (จะเป็นหนึ่ง) ในหมู่คนดีทั้งหลาย

อัซ-ซ๊อฟฟาต : 111-112

การหาคู่ให้อิสอัค

[แก้]

เมื่ออิสอัคถึงวัยที่จะมีคู่ครอง อับราฮัมก็ได้ให้คนใช้ของท่านออกเดินทางไปยังดินแดนบ้านเกิดของท่าน เพื่อหาหญิงสาวที่เหมาะสมมาเป็นภรรยาให้แก่อิสอัค เมื่อคนใช้ไปยังบ้านเกิดของอับราฮัม ก็อธิษฐานต่อพระเจ้าว่า "ขอให้หญิงสาวคนที่ข้าพระองค์พูดกับนางว่า โปรดลดเหยือกของเธอลง ให้ฉันดื่มน้ำ และผู้ซึ่งตอบว่า เชิญดื่มเถิดและดิฉันจะให้น้ำอูฐของท่านกินด้วย นั้นเป็นคนที่พระองค์ทรงกำหนดให้เป็นภรรยาอิสอัคผู้รับใช้ของพระองค์..."[1] คนรับใช้นั้นก็ได้พบกับ เรเบคาห์ (Rebecca) บุตรสาวของเบธูเอล บุตรของมิลคาห์ บุตรของเทราห์ ผู้เป็นบิดาของอับราฮัม บิดาและพี่ชายของนาง ก็ได้มอบเรเบคาห์ ให้เป็นภรรยาของอิสอัคตั้งแต่นั้น

อิสอัคมีอายุสี่สิบปี เมื่อได้นางเรเบคาห์เป็นภรรยา นางเรเบคาห์คลอดลูกแฝด คนแรกคลอดออกมาตัวแดง มีขนอยู่ทั่วตัวไปหมด จึงตั้งชื่อว่า เอซาว ภายหลังน้องเขาก็คลอดออกมา มือของเขาจับส้นเท้าของเอซาวไว้ จึงตั้งชื่อว่า ยาโคบ[2] เมื่อเด็กทั้งสองโตขึ้น เอซาวเป็นพรานมือแม่น เป็นชาวทุ่ง ส่วนยาโคบเป็นคนเงียบ ๆ อยู่กับบ้าน อิสอัค รักเอซาว แต่นางเรเบคาห์ รักยาโคบ[3]


อิสอัคอวยพรยาโคบ

[แก้]

เมื่ออิสอัคอายุมากขึ้น ท่านได้เรียกเอซาว บุตรคนโตเข้ามาพบ และบอกให้เอซาวไปล่าสัตว์เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารให้แก่ตน และอิสอัคจะได้อวยพรแก่เอซาว ในฐานะของบุตรหัวปี แต่เหตุการณ์นี้หาได้รอดพ้นสายตาของนางเรเบคาห์ ผู้เป็นมารดา นางจึงปรุงอาหาร และเรียกให้ยาโคบ เป็นผู้นำอาหารนั้นเข้าไปมอบให้แก่อิสอัค เพื่อให้ได้รับคำอวยพรแทนเอซาว

เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เอซาว และยาโคบ ต้องบาดหมางใจกัน และเป็นเหตุให้ยาโคบต้องเดินทางไปอาศัยอยู่กับลาบัน ลุงของตนเป็นเวลากว่า 14 ปี เพื่อรอให้เอซาวนั้นคลายโมโหลง

บั้นปลายชีวิตของอิสอัค

[แก้]

อิสอัคมีชีวิตอยู่ได้ 180 ปีจึงเสียชีวิต ณ ดินแดนที่อับราฮัมได้มาตั้งรกรากอยู่ ตามพระสัญญาที่พระเจ้าทรงมีต่ออับราฮัมนั่นเอง และยาโคบ ได้เป็นผู้รับสิทธิบุตรหัวปี ในการรับมรดกและสืบทอดเชื้อสายของอิสอัคต่อมา ดังที่อิสอัคได้อวยพรไว้ ฝ่ายเอซาวนั้นได้พาบุตรชายหญิงของตนไปพำนักอยู่เมืองอื่น

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. พระธรรมปฐมกาล บทที่ 24 ข้อที่ 1-33
  2. แปลว่า เขาจับส้นเท้า หรือ เขาหลอก
  3. พระธรรมปฐมกาล บทที่ 25 ข้อ 19-28