ข้ามไปเนื้อหา

แม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แม่พระแห่งลูร์ด
แม่พระปฏิสนธินิรมล
รูปปั้นพระแม่มารีย์ในถ้ำมาซาเบียล จำลองเหตุการณ์การประจักษ์ในปี ค.ศ. 1858
สถานที่ลูร์ด
วันที่11 กุมภาพันธ์ ถึง 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1858
ผู้พบแบร์นาแด็ต ซูบีรู (ต่อมาได้รับการประกาศเป็นนักบุญ)
ประเภทการประจักษ์ของพระแม่มารีย์
การรับรอง3 กรกฎาคม 1876, สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 9
สักการสถานสักการสถานแม่พระแห่งลูร์ด, ลูร์ด ประเทศฝรั่งเศส
องค์อุปถัมภ์ลูร์ด ประเทศฝรั่งเศส, เกซอนซิตี, แดกู, ประเทศเกาหลีใต้, เทนเนสซี, ผู้ป่วย และการปกป้องจากความเจ็บป่วย
วันฉลอง11 กุมภาพันธ์

แม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด[1] เป็นการประจักษ์ของพระแม่มารีย์ต่อเด็กหญิงแบร์นาแด็ต ซูบีรู อายุ 14 ปี ที่เมืองลูร์ด จังหวัดโอต-ปีเรเน แคว้นมีดี-ปีเรเน ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1858 รวมทั้งสิ้น 18 ครั้ง การประจักษ์ครั้งนี้ทำให้คริสตจักรโรมันคาทอลิกถวายสมัญญาแด่พระนางมารีย์พรหมจารีว่าแม่พระแห่งลูร์ด (Our Lady of Lourdes)

การประจักษ์

[แก้]
  1. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1858 ระหว่างที่แบร์นาแด็ต ซูบีรู ตัวแน็ต น้องสาวของเธอ และเพื่อนอีกคน กำลังหาเก็บฟืนมาหุงข้าว เมื่อมาถึงถ้ำเล็กริมฝั่งแม่น้ำ แบร์นาแด็ตก็พบสตรีท่านหนึ่งยืนอยู่ที่ปากถ้ำ แบร์นาแด็ตคุกเข่าสวดสายประคำ เสร็จแล้วสตรีนั้นก็หายเข้าไปในถ้ำ
  2. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ แบร์นาแด็ตกับเพื่อนกลุ่มเดิมไปที่ถ้ำอีก และได้เจอกับสตรีคนเดิม แบร์นาแด็ตสาดน้ำมนต์ใส่สตรีท่านนั้น เพื่อจะดูว่าเป็นปีศาจหรือไม่ ปรากฏว่าท่านก้มศีรษะรับแล้วยิ้ม
  3. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ สตรีท่านนั้นนัดให้แบร์นาแด็ตมาหาท่านอีก 15 ครั้ง และบอกแบรนาแด็ตว่าเธอจะมีความสุขในโลกหน้าอย่างแน่นอน
  4. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ สตรีท่านนั้นบอกแบร์นาแด็ตว่าครั้งหน้าท่านมีความลับจะบอกเธอ
  5. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ สตรีท่านนั้นสอนให้แบร์นาแด็ตสวดภาวนาบทหนึ่ง เนื้อหาของบทภาวนาถูกปิดเป็นความลับจนตลอดชีวิต
  6. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีหลายคนตามแบร์นาแด็ตมาเพื่อจับผิดว่าเธอได้เห็นแม่พระประจักษ์จริงหรือไม่ ครั้งนี้ท่านบอกแบร์นาแด็ตให้สวดให้คนบาปและโลก
  7. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ สตรีนั้นบอกความลับ 3 ข้อแก่แบร์นาแด็ต ซึ่งเธอได้เก็บไว้จนตลอดชีวิต
  8. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ แบร์นาแด็ตรำพึงธรรมออกว่า “ใช้โทษบาป ๆ ๆ”
  9. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ สตรีนั้นให้แบร์นาแด็ตไปดื่มน้ำและล้างหน้า เธอจึงใช้มือคุ้ยดินขึ้น มีน้ำซึมขึ้นมา ปัจจุบันกลายเป็นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่มีน้ำไหลออกมาไม่ขาดสาย
  10. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ สตรีท่านนั้นฝากให้แบร์นาแด็ตไปบอกอธิการโบสถ์ให้สร้างโบสถ์น้อยขึ้นหลังหนึ่งบริเวณนี้
  11. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ แบร์นาแด็ตถามชื่อของสตรีนั้น แต่ท่านไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้ม
  12. วันที่ 1 มีนาคม พ่อแม่ของแบร์นาแด็ตมาด้วย
  13. วันที่ 2 มีนาคม สตรีนั้นฝากให้แบร์นาแด็ตไปบอกให้อธิการโบสถ์จัดขบวนแห่มายังที่นี้
  14. วันที่ 3 มีนาคม สตรีนั้นย้ำให้แบร์นาแด็ตกำชับให้อธิการโบสถ์มาสร้างโบสถ์ แบร์นาแด็ตบอกท่านว่าอธิการต้องการให้ท่านแสดงปาฏิหาริย์เพื่อพิสูจน์ตนเอง สตรีท่านนั้นได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบอะไร
  15. วันที่ 14 มีนาคม มีคนตามแบร์นาแด็ตมากว่า 8,000 คน สตรีท่านนั้นยังฝากแบร์นาแด็ตไปกำชับเรื่องการสร้างโบสถ์
  16. วันที่ 25 มีนาคม แบร์นาแด็ตพยายามถามชื่อสตรีท่านนั้นอีก ในที่สุดท่านก็บอกว่า “ฉันคือการปฏิสนธินิรมล
  17. วันที่ 7 เมษายน พระแม่มารีย์มาประจักษ์อีก นานราว 45 นาที
  18. วันที่ 16 กรกฎาคม พระแม่มารีย์มาประจักษ์อีก นานราว 15 นาที โดยไม่พูดอะไร แบร์นาแด็ตกล่าวว่าครั้งนี้ท่านดูสวยที่สุดเท่าที่แบร์นาแด็ตเคยเห็นมา

นับแต่นั้นมา พระแม่มารีย์ก็ไม่ได้มาประจักษ์แก่แบร์นาแด็ตอีก

ท่าทีของคริสตจักร

[แก้]
สักการสถานแม่พระแห่งลูร์ด

คริสตจักรโรมันคาทอลิกที่ลูร์ดได้สอบสวนเหตุการณ์นี้ จนกระทั่งวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1862 มุขนายกแห่งตาร์บจึงประกาศรับรองว่าพระนางมารีย์พรหมจารีได้มาประจักษ์แก่แบร์นาแด็ตที่ลูร์ดจริง[2][3] และเริ่มดำเนินการสร้างสักการสถานแม่พระแห่งลูร์ดขึ้น ตามที่พระแม่มารีย์บอกผ่านแบร์นาแด็ต

อ้างอิง

[แก้]