บรรทัด 1,189:
บรรทัด 1,189:
<references />
<references />
{{reflist|2}}
{{ทีมพรีเมียร์ลีก}}
{{ทีมพรีเมียร์ลีก}}
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011–12 (หรือเรียกว่า บาร์เคลย์สพรีเมียร์ลีกด้วยเหตุผลด้านการสนับสนุน) เป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 20 นับแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 เริ่มต้นฤดูกาลวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2011 และสิ้นสุดวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กลับมาป้องกันตำแหน่งแชมป์
มีทีมเข้าร่วมแข่งขันในลีก 20 ทีม โดยมี 17 ทีมเดิมจากฤดูกาลก่อน และอีก 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ได้แก่ ผู้ชนะ ควีนส์ปาร์กเรนเจิร์ส และรองชนะเลิศ ทีมนอริชซิตี ส่วนสวอนซี ได้เลื่อนชั้นจากการแข่งรอบเพลย์ออฟ ชนะเรดดิง 4–2
ทีม
ทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม โดยเป็น 17 ทีมจากในฤดูกาล 2010-11 และอีก 3 ทีมที่เลื่อนขึ้นจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2010-11
สนามแข่งขัน
ที่อยู่ของทีมในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011-12
ทีม
สถานที่
สนามแข่งขัน↓
ความจุ
อาร์เซนอล
ลอนดอน
เอมิเรตส์สเตเดียม
60,361
แอสตันวิลลา
เบอร์มิงแฮม
วิลลาปาร์ค
42,785
แบล็กเบิร์นโรเวิร์ส
แบล็กเบิร์น
อีวูดปาร์ค
31,154
โบลตันวันเดอเริร์ส
โบลตัน
รีบอคสเตเดียม
28,100
เชลซี
ลอนดอน
สแตมฟอร์ดบริดจ์
42,449
เอฟเวอร์ตัน
ลิเวอร์พูล
กูดิสันพาร์ค
40,157
ฟูแลม
ลอนดอน
คราเวนคอทเทจ
25,700
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล
แอนฟิลด์
45,276
แมนเชสเตอร์ซิตี
แมนเชสเตอร์
เอติฮัด สเตเดียม [2]
47,405
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์
โอลด์แทรฟฟอร์ด
75,811
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
นิวคาสเซิลอะพอนไทน์
สปอร์ตส์ ไดเร็ค อารีนา
52,409
นอริชซิตี
นอริช
แคร์โรว์โรด
27,010
ควีนส์ปาร์กเรนเจิร์ส
ลอนดอน
ลอฟตัสโรด
18,439
สโตกซิตี
สโตคออนเทรนต์
บริทาเนียสเตเดียม
27,740
ซันเดอร์แลนด์
ซันเดอร์แลนด์
สเตเดียมออฟไลต์
48,707
สวอนซีซิตี
สวอนซี
ลิเบอร์ตีสเตเดียม
20,520
ทอตแนมฮอตสเปอร์
ลอนดอน
ไวท์ฮาร์ทเลน
36,230
เวสต์บรอมวิชอัลเบียน
เวสต์บรอมวิช
เดอะฮอว์ธอร์น
26,360
วีแกนแอธเลติก
วีแกน
ดีดับเบิลยูสเตเดียม
25,133
วูล์ฟแฮมป์ตันวันเดอเริร์ส
วูล์ฟแฮมป์ตัน
โมลินิวซ์
27,828
ทีมและชุดแข่งขัน
หมายเหตุ: ธงแสดงชาตินั้นเป็นไปภายใต้กฎของฟีฟ่า นักฟุตบอลและผู้จัดการอาจจะถือมากกว่า 1 สัญชาติ
ทีม
ผู้จัดการ1
กัปตัน[3]
ชุดที่ใช้[4]
สปอนเซอร์[4]
อาร์เซนอล
แวงแกร์, อาร์แซน อาร์แซน แวงแกร์
ฟาน เพอร์ซี, โรบิน โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ไนกี้
สายการบินเอมิเรตส์
แอสตันวิลลา
แม็กลีช, อเล็กซ์ อเล็กซ์ แม็กลีช
เปตรอฟ, สติลิยัน สติลิยัน เปตรอฟ 5
ไนกี้
เกนติงคาสิโนส์ [5]
แบล็กเบิร์นโรเวิร์ส
คีน, สตีฟ สตีฟ คีน
โรบินสัน, พอล พอล โรบินสัน 6
อัมโบร
เดอะพรินซ์สทรัสต์ [6]
โบลตันวันเดอเริร์ส
คอยล์, โอเวน โอเวน คอยล์
เดวีส, เควิน เควิน เดวีส
รีบอค
188เบ็ต
เชลซี
ดี มัตเตโอ, โรแบร์โต โรแบร์โต ดี มัตเตโอ
เทอร์รี, จอห์น จอห์น เทอร์รี
อาดิดาส
ซัมซุง
เอฟเวอร์ตัน
มอยส์, เดวิด เดวิด มอยส์
เนวิลล์, ฟิล ฟิล เนวิลล์
เลอ คอก สปอร์ทิฟ
เบียร์ช้าง
ฟูแลม
โยล, มาร์ติน มาร์ติน โยล
เมอร์ฟี, แดนนี แดนนี เมอร์ฟี
แคปปา
เอฟเอ็กซ์โปร
ลิเวอร์พูล
ดัลกลิช, เคนนี เคนนี ดัลกลิช
เจอร์ราร์ด, สตีเฟน สตีเฟน เจอร์ราร์ด
อาดิดาส
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์
แมนเชสเตอร์ซิตี
มันชีนี, โรแบร์โต โรแบร์โต มันชีนี
กงปานี, แว็งซ็อง แว็งซ็อง กงปานี
อัมโบร
สายการบินอัลติฮัด
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เฟอร์กูสัน, อเล็กซ์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
วิดิช, เนมานยา เนมานยา วิดิช 7
ไนกี้
เอออน
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
พาร์ดิว, อลัน อลัน พาร์ดิว
โกลอชชีนี, ฟาบรีโช ฟาบรีโช โกลอชชีนี
พูมา
นอร์ธเธิร์น ร็อค /เวอร์จิน มันนี 2
นอริชซิตี
แลมเบิร์ต, พอล พอล แลมเบิร์ต
โฮลต์, แกรนต์ แกรนต์ โฮลต์
เอเรีย
เอวิวา
ควีนส์ปาร์กเรนเจิร์ส
ฮิวจ์ส, มาร์ค มาร์ค ฮิวจ์ส
บาร์ตัน, โจอี โจอี บาร์ตัน
ล็อตโต
สายการบินมาเลเซีย /แอร์เอเชีย 3
สโตกซิตี
พูริส, โทนี โทนี พูริส
ชอว์ครอส, ไรอัน ไรอัน ชอว์ครอส
อาดิดาส
บริทานเนีย
ซันเดอร์แลนด์
โอนีล, มาร์ติน มาร์ติน โอนีล
แคตเทอร์โมล, ลี ลี แคตเทอร์โมล
อัมโบร
ทอมโบลา
สวอนซีซิตี
ร็อดเจอร์, เบรนแดน เบรนแดน ร็อดเจอร์
มังค์, แกร์รี แกร์รี มังค์
อาดิดาส [7]
ทรีทูเรด
ทอตแนมฮ็อตสเปอร์
เรดแนปป์, แฮร์รี แฮร์รี เรดแนปป์
คิง, เล็ดลีย์ เล็ดลีย์ คิง
พูมา [8]
ออราสมา 4
เวสต์บรอมวิชอัลเบียน
ฮอดจ์สัน, รอย รอย ฮอดจ์สัน
บรันต์, คริส คริส บรันต์
อาดิดาส
บอด็อก [9]
วีแกนแอธเลติก
มาร์ตีเนซ, โรเบร์โต โรเบร์โต มาร์ตีเนซ
คาลด์เวลล์, แกรี แกรี คาลด์เวลล์
มิฟิต
วันทูเบ็ต
วูล์ฟแฮมป์ตันวันเดอเริร์ส
คอนเนอร์, เทอร์รี เทอร์รี คอนเนอร์
จอห์นสัน, โรเจอร์ โรเจอร์ จอห์นสัน
เบอร์ดา
สปอร์ติงเบ็ต
1 อ้างอิงจาก รายชื่อผู้จัดการทีมในฟุตบอลลีกอังกฤษ
2 Following Virgin Money's acquisition of Northern Rock on 1 January 2012, Virgin Money started to appear on the team's kits from 4 January 2012.[10]
3 สายการบินมาเลเซีย จะปรากฏอยู่บนเสื้อชุดทีมเหย้า ส่วยแอร์เอเซียจะปรากฏอยู่บนเสื้อชุดทีมเยือน[11]
4 ออราสมา เป็นบริษัทในเครือของ ออโตโนมี
5 Stiliyan Petrov was previously Villa's captain, but after he was diagnosed with leukemia Agbonlahor was handed the captaincy in Petrov's absence.[12]
6 Chris Samba was previously Blackburn's captain. Following Samba's transfer to Anzhi Makhachkala , Robinson was handed the captaincy.[13]
7 On 7 December 2011, Vidić twisted his knee during United's Champions League clash at Basel and left the field on a stretcher.[14] Vidic missed the rest of the season and Patrice Evra assumed the captaincy of Manchester United.[15]
In addition, Nike will have a new design for their match ball (white from August to October and March to May; high-visibility yellow from November through February) called Seitiro, featuring a modified flame design.[16]
เปลี่ยนผู้จัดการทีม
ทีม
ผู้จัดการคนก่อน
เหตุที่ออก
วันที่
อันดับในตาราง
ผู้จัดการคนใหม่
วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
เชลซี
อันเชล็อตติ, คาร์โล คาร์โล อันเชล็อตติ
ถูกไล่ออก
22 พฤษภาคม ค.ศ. 2011[17]
ก่อนเริ่มฤดูกาล
วิลลัช-โบอัช, อังเดร อังเดร วิลลัช-โบอัช
22 มิถุนายน ค.ศ. 2011[18]
แอสตันวิลลา
อูลลิเยร์, เชราร์ เชราร์ อูลลิเยร์
ความยินยอมร่วมกัน
1 มิถุนายน ค.ศ. 2011[19]
แม็กลีช, อเล็กซ์ อเล็กซ์ แม็กลีช
17 มิถุนายน ค.ศ. 2011[20]
ฟูแลม
ฮิวจ์ส, มาร์ค มาร์ค ฮิวจ์ส
ลาออก
2 มิถุนายน ค.ศ. 2011[21]
โยล, มาร์ติน มาร์ติน โยล
7 มิถุนายน ค.ศ. 2011[22]
ซันเดอร์แลนด์
บรูซ, สตีฟ สตีฟ บรูซ
ถูกไล่ออก
30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011[23]
16
โอนีล, มาร์ติน มาร์ติน โอนีล
3 ธันวาคม ค.ศ. 2011[24]
ควีนส์ปาร์กเรนเจิร์ส
วอร์น็อก, นีล นีล วอร์น็อก
8 มกราคม ค.ศ. 2012[25]
17
ฮิวจ์ส, มาร์ค มาร์ค ฮิวจ์ส
10 มกราคม ค.ศ. 2012[26]
วูล์ฟแฮมป์ตันวันเดอเริร์ส
แม็กคาร์ที, มิก มิก แม็กคาร์ที
13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012[27]
18
คอนเนอร์, เทอร์รี เทอร์รี คอนเนอร์ (จนจบฤดูกาล)
24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012[28]
เชลซี
วิลลัช-โบอัช, อังเดร อังเดร วิลลัช-โบอัช
4 มีนาคม ค.ศ. 2012[29]
5
ดี มัตเตโอ, โรแบร์โต โรแบร์โต ดี มัตเตโอ (จนจบฤดูกาล)
4 มีนาคม ค.ศ. 2012[29]
ตารางคะแนน
2011–12 Premier League Table
อัปเดตล่าสุด 13 พฤษภาคม 2012 แหล่งข้อมูล: Barclays Premier League กฎการจัดอันดับ:
1) คะแนน; 2) ผลต่างประตู; 3) ประตูรวม1 ลิเวอร์พูลได้รับการคัดเลือกไปเล่นใน ยูฟ่ายูโรปาลีก 2012-13 รอบคัดเลือกรอบที่ 3 หลังจากชนะเลิศในรายการ 2011–12 ฟุตบอลลีกคัพ 2 เชลซีได้แชมป์ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2011-12 และได้สิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่ายูโรปาลีกรอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาล 2012-13 และยังสามารถได้สิทธิ์ไปเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2012-13 ได้ โดยการเป็นผู้ชนะใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2011-12 นัดชิงชนะเลิศ หากเป็นเช่นนั้นจะมีทีมจากอังกฤษ 4 ทีมได้สิทธิ์ไปเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2012-13 รอบแบ่งกลุ่มและทีมอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีกจะต้องตกไปเล่น ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาล 2012-13 แทน(C) = ชนะเลิศ; (R) = ตกชั้น; (P) = เลื่อนชั้น; (O) = ผู้ชนะจากรอบคัดเลือก; (A) = ผ่านเข้ารอบต่อไป ใช้ได้เฉพาะเมื่อฤดูกาลยังไม่สิ้นสุด: (Q) = ได้รับคัดเลือกเข้าแข่งขันในระยะของทัวร์นาเมนต์ที่ระบุ; (TQ) = ได้รับคัดเลือกเข้าแข่งขัน แต่ยังไม่อยู่ในระยะที่ระบุ; (DQ) = ถูกตัดสิทธิ์จากทัวร์นาเมนต์
ผลการแข่งขัน
อัปเดตล่าสุดวันที่ 13 พฤษภาคม 2012 แหล่งข้อมูล: Premier League 1 คอลัมน์ด้านซ้ายมือหมายถึงทีมเหย้าสี : ฟ้า = ทีมเหย้าชนะ; เหลือง = เสมอ; แดง = ทีมเยือนชนะ สำหรับแมตช์ที่กำลังมาถึง อักษร a หมายถึง มีบทความเกี่ยวกับแมตช์นั้น
สถิติตลอดฤดูกาล
ผู้ทำประตูสูงสุด
ผู้ช่วยจ่ายบอลสูงสุด
แฮท-ทริคส์
ผู้เล่น
ทีม
พบกับทีม
ผล
วันที่
เจโก, เอดิน เอดิน เจโก 4
แมนเชสเตอร์ซิตี
ทอตนัมฮอตสเปอร์
5–1
000000002011-08-28-0000 28 สิงหาคม 2011
รูนีย์, เวย์น เวย์น รูนีย์
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
อาร์เซนอล
8–2
000000002011-08-28-0000 28 สิงหาคม 2011
อะกูเอโร, เซร์คีโอ เซร์คีโอ อะกูเอโร
แมนเชสเตอร์ซิตี
วีแกนแอธเลติก
3–0
000000002011-09-10-0000 10 กันยายน 2011
รูนีย์, เวย์น เวย์น รูนีย์
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
โบลตันวันเดอร์เรอร์ส
5–0
000000002011-09-10-0000 10 กันยายน 2011
บา, เดมบา เดมบา บา
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส
3–1
000000002011-09-24-0000 24 กันยายน 2011
แลมพาร์ด, แฟรงค์ แฟรงค์ แลมพาร์ด
เชลซี
โบลตันวันเดอร์เรอร์ส
5–1
000000002011-10-02-0000 2 ตุลาคม 2011
จอห์นสัน, แอนดรูว์ แอนดรูว์ จอห์นสัน
ฟูแลม
ควีนสปาร์คเรนเจอส์
6–0
000000002011-10-02-0000 2 ตุลาคม 2011
ฟาน เพอร์ซี, โรบิน โรบิน ฟาน เพอร์ซี
อาร์เซนอล
เชลซี
5–3
000000002011-10-29-0000 29 ตุลาคม 2011
บา, เดมบา เดมบา บา
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
สโตกซิตี
3–1
000000002011-10-31-0000 31 ตุลาคม 2011
ไอเยกเบนี, ยาคูบู ยาคูบู ไอเยกเบนี 4
แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส
สวอนซีซิตี
4–2
000000002011-12-03-0000 3 ธันวาคม 2011
เบอร์บาตอฟ, ดิมิตาร์ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
วีแกนแอธเลติก
5–0
000000002011-12-26-0000 26 ธันวาคม 2011
เดมป์ซีย์, คลินท์ คลินท์ เดมป์ซีย์
ฟูแลม
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
5–2
000000002012-01-21-0000 21 มกราคม 2012
ฟาน เพอร์ซี, โรบิน โรบิน ฟาน เพอร์ซี
อาร์เซนอล
แบล็คเบิร์นโรเวอร์ส
7–1
000000002012-02-04-0000 4 กุมภาพันธ์ 2012
โอเดมวิงกี, ปีเตอร์ ปีเตอร์ โอเดมวิงกี
เวสต์บรอมวิชอัลเบียน
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
5–1
000000002012-02-12-0000 12 กุมภาพันธ์ 2012
โพเกร็บเนียค, พาเวล พาเวล โพเกร็บเนียค
ฟูแลม
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
5–0
000000002012-03-04-0000 4 มีนาคม 2012
เจอร์ราร์ด, สตีเวน สตีเวน เจอร์ราร์ด
ลิเวอร์พูล
เอฟเวอร์ตัน
3–0
000000002012-03-13-0000 13 มีนาคม 2012
Tevez, Carlos คาร์ลอส เตเบซ
แมนเชสเตอร์ซิตี
นอริชซิตี
6–1
000000002012-04-14-0000 14 เมษายน 2012
ซัวเรซ, หลุยส์ หลุยส์ ซัวเรซ
ลิเวอร์พูล
นอริชซิตี
3–0
000000002012-04-28-0000 28 เมษายน 2012
ตอร์เรส, เฟร์นันโด เฟร์นันโด ตอร์เรส
เชลซี
ควีนสปาร์คเรนเจอส์
6–1
000000002012-04-29-0000 29 เมษายน 2012
4 ผู้เล่นที่ทำได้สี่ประตู
สถิติที่น่าสนใจ
แข่งทั้งหมด 380 นัด[32]
มีนัดที่มีผู้ชนะและผู้แพ้ 287 นัด (เฉลี่ย 75.53%)
มีนัดที่เสมอกัน 93 นัด (เฉลี่ย 24.47%)
ประตูทั้งหมด 1,066 ประตู (เฉลี่ย 2.81 ประตูต่อนัด)
คลีนชีตส์ 206 ครั้ง
ยิงเข้ากรอบ 5,563 ครั้ง (เฉลี่ย 14.64 ครั้งต่อนัด)
ยิงไม่เข้ากรอบ 4,287 ครั้ง (เฉลี่ย 11.28 ครั้งต่อนัด)
แฮตทริก 19 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด 13,148,465 คน (เฉลี่ย 34,601 คนต่อนัด)
มีผู้เล่น 68 สัญชาติ
ผู้เล่นที่ลงเล่นทั้งหมด 541 คน
ใบเหลืองทั้งหมด 1,176 ใบ (เฉลี่ย 3.09 ใบต่อนัด)
ใบแดงทั้งหมด 64 ใบ (เฉลี่ย 0.17 ใบต่อนัด)
การทำประตู
ประตูแรกของฤดูกาล: หลุยส์ ซัวเรซ ให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับ ซันเดอร์แลนด์ (13 สิงหาคม 2011 )[33]
ทำได้ประตูเร็วที่สุด: 24 วินาที – แอนเดรีย โอร์แลนดี ให้กับ สวอนซีซิตี ในนัดที่เจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตันวันเดอเริร์ส (28 เมษายน 2012 )[34]
ชนะด้วยด้วยการทำประตูห่างกันมากที่สุด: 6 ประตู [1]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8–2 อาร์เซนอล (28 สิงหาคม 2011 )
ฟูแล่ม 6–0 ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส (2 ตุลาคม 2011 )
อาร์เซนอล 7–1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (4 กุมภาพันธ์ 2012 )
การแข่งขันที่มีการทำประตูมากที่สุด: 10 ประตู [1]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8–2 อาร์เซนอล (28 สิงหาคม 2011 )
ทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดในการแข่งขัน: 8 ประตู [1]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8–2 อาร์เซนอล (28 สิงหาคม 2011 )
ทีมที่แพ้แล้วทำประตูได้มากที่สุดในการแข่งขัน: 3 ประตู [1]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4–3 อาร์เซนอล (17 กันยายน 2011 )
เชลซี 3–5 อาร์เซนอล (29 ตุลาคม 2011 )
คลีนชีตส์
ทีมที่คลีนชีตส์มากที่สุด: 20 [1]
ทีมที่คลีนชีตส์น้อยที่สุด: 3 [1]
แบล็กเบิร์นโรเวิร์ส
โบลตันวันเดอเริร์ส
นอริช ซิตี้
กฏกติกา
ผลรวมความประพฤติแย่ที่สุด (1 คะแนนต่อ 1 ใบเหลือง, 2 คะแนนต่อ 1 ใบแดง):
เชลซี – 77 คะแนน (69 ใบหลือง & 4 ใบแดง)[35]
ผลรวมความประพฤติดีที่สุด:
สวอนซี ซิตี – 43 คะแนน (39 ใบเหลือง & 2 ใบแดง)[35]
ใบเหลืองมากที่สุด (สโมสร): 69 – เชลซี[35]
ใบเหลืองมากที่สุด (ผู้เล่น):[36]
ใบแดงมากที่สุด (สโมสร): 8 – ควีนส์ปาร์กเรนเจิร์ส[36]
ใบแดงมากที่สุด (ผู้เล่น):[36]
การตัดสินแชมป์
การตัดสินแชมป์ของฤดูกาลนี้ ยืดเยื้อมาจนถึงนัดสุดท้าย คือ ในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม โดย แมนเชสเตอร์ซิตี ซึ่งมีผลงานดีมาโดยตลอดตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา โดยขึ้นเป็นที่ 1 ของตารางคะแนน และยึดอันดับนี้มาตลอด และมีบางช่วงที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองขึ้นแซงไปเป็นที่ 1 บ้าง ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคะแนนำห่างถึง 8 คะแนน จนกระทั่งมาถึงนัดสุดท้ายของการแข่งขัน ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากัน คือ 86 คะแนน แต่ผลต่างของประตูได้เสียของแมนเชสเตอร์ซิตีดีกว่าถึง 8 ลูก โดยแมนเชสเตอร์ซิตีจะต้องพบกับ ควีนปาร์คแรนเจอส์ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม สนามของตนเอง ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายออกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งทั้งคู่ต้องการชัยชนะทั้งคู่ หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ แล้วแมนเชสเตอร์ซิตีทำได้แค่เสมอหรือแม้กระทั่งแพ้ แชมป์จะตกอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทันที ปรากฏว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะซันเดอร์แลนด์ไปได้ 0-1 ประตู แล้วในเกมที่แมนเชสเตอร์ซิตีพบกับควีนปาร์คแรนเจอส์นั้น แมนเชสเตร์ซิตีไม่อาจทำอะไรได้อย่างถนัดถนี่เกือบตลอดการแข่งขัน เพราะนักฟุตบอลแต่ละคนถูกประกบตลอด และกลายเป็นควีนปาร์คแรนเจอร์สขึ้นนำไป 1-2 ประตู ในนาทีที่ 60 จนกระทั่งถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนเชสเตอร์ซิตี พลิกกลับขึ้นมานำในนาทีที่ 91 และ 92 อย่างปาฏิหารย์ ชนะไป 3-1 และได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปครอง หลังจากรอคอยมานานกว่า 44 ปี[37]
และนับเป็นครั้งแรกด้วยของพรีเมียร์ลีก ที่ต้องตัดสินแชมป์กันที่ประตูได้เสีย เนื่องจากอันดับ 1 และอันดับ 2 มีคะแนนเท่ากัน คือ 89 คะแนน และทำให้แมนเชสเตอร์ซิตีกลายเป็นทีมที่ 5 ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก นับจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล , เชลซี และแบล็กเบิร์นโรเวอส์
รางวัล
รางวัลประจำเดือน
รางวัลประจำปี
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ
รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ได้แก่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี .[51]
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ
รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ ได้แก่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี[52]
นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ
รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ได้แก่ ไคล์ วอล์กเกอร์ [54]
ทีมยอดเยื่อมแห่งปีของพีเอฟเอ
ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ต (แมนเชสเตอร์ซิตี)
กองหลัง : ไคล์ วอล์กเกอร์ (ทอตแนมฮอตสเปอร์), แว็งซ็อง กงปานี (แมนเชสเตอร์ซิตี), ฟาบรีเซียว โกโลชีนี (นิวคาสเซิลยูไนเต็ด), เลย์ตัน เบนส์ (เอฟเวอร์ตัน)
มิดฟิลด์ : ดาบิด ซิลบา , ยาย่า ตูเร (ทั้งคู่จากแมนเชสเตอร์ซิตี), สก็อต พาร์กเกอร์ , แกเร็ธ เบล (ทั้งคู่จากทอตแนมฮอตสเปอร์)
กองหน้า : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (อาเซนอล), เวย์น รูนีย์ (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด)
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล
รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล ได้แก่ แว็งซ็อง กงปานี จากแมนเชสเตอร์ซิตี[55]
ผู้จัดการยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล
รางวัลผู้จัดการยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล ได้แก่ ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิลยูไนเต็ด อลัน พาร์ดิว [55] พาร์ดิว เป็นผู้จัดการคนแรกของทีมนิวคาสเซิลยูไนเต็ดที่ได้รับรางวัล และเป็นคนที่สองต่อจาก แฮร์รี เรดแนปป์ ที่คนได้รับรางวัลเป็นชาวอังกฤษ
รางวัลรองเท้าทองคำ
รางวัลรองเท้าทองคำ ได้แก่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี , โดยทำไป 30 ประตู
รางวัลถุงมือทองคำ
รางวัลถุงมือทองคำ ได้แก่ โจ ฮาร์ต จากแมนเชสเตอร์ซิตี, ซึ่งทำได้ 17 คลีนชีต
ประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล
รางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล ได้แก่ ประตูของ ปาปิส ซีเซ จากนิวคาสเซิลยูไนเต็ด สำหรับประตูที่สอง ทำให้ชนะทีม เชลซี ที่ สแตมฟอร์ดบริดจ์ , กลายมาเป็นผู้เล่นคนแรกของสโมสรที่ได้รับรางวัล นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
บาร์เคลส์พรีเมียร์ลีก แฟร์เพลย์ อวอร์ด
รางวัลแฟร์เพลย์ เป็นรางวัลสำหรับสโมสรที่มีการทำฟาวล์ ได้ใบเหลืองใบแดงและอื่นๆ น้อยที่สุด โดยสโมสร สวอนซีซิตี เป็นทีมที่คะแนนมากที่สุด[56]
อ้างอิง
↑ 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 1.10 1.11 1.12 1.13 "Barclays Premier League Stats - 2011-12" . ESPN Soccernet . ESPN. สืบค้นเมื่อ 13 August 2011 .
↑ "Manchester City strike deal to rename Eastlands" . BBC Sport.
↑ "Premier League Team Captains" . Transfer Markt Website. 23 August 2011. สืบค้นเมื่อ 23 August .
↑ 4.0 4.1 "Premier League Handbook Season 2011/12" (PDF) . Premier League . สืบค้นเมื่อ 23 August 2011 .
↑ "Villa announce Genting as new principal partner" . AVFC . 22 June 2011. สืบค้นเมื่อ 23 June 2011 .
↑ "Blackburn Rovers announce sponsorship with The Prince's Trust" . www.football-shirts.co.uk . 11 August 2011. สืบค้นเมื่อ 11 August 2011 .
↑ "Swans team up with adidas" . สืบค้นเมื่อ 3 June 2011 .
↑ "Tottenham Home Shirt Teaser 2011/12" . www.football-shirts.co.uk . Football Shirts. สืบค้นเมื่อ 9 May 2011 .
↑ "Bodog are Albion's new club sponsors" . Official website . West Bromwich Albion . สืบค้นเมื่อ 28 June 2011 .
↑ "Virgin Money To Become New Shirt Sponsor" . nufc.co.uk . Newcastle United . 4 January 2012. สืบค้นเมื่อ 4 January 2012 .
↑ "QPR sign sponsorship deal with two Asian airlines" . BBC News . 12 September 2011. สืบค้นเมื่อ 14 September 2011 .
↑ "Agbonlahor named Villa skipper while Petrov battles acute leukaemia" . Daily Mail. 13 May 2012.
↑ "Paul Robinson: I'll clean up as Rovers skipper" . The Sun.
↑ "More misery for United as Vidic suffers knee ligament damage in Champions League defeat" . Daily Mail . London. 7 December 2011.
↑ "Patrice Evra proud to captain Manchester United" . Daily Mail. 13 May 2012.
↑ Nike 2011/12 Premier League, La Liga and Serie A Balls | Balls | Football Shirt Culture.com
↑ "Carlo Ancelotti is sacked by Chelsea" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 22 May 2011. สืบค้นเมื่อ 22 May 2011 .
↑ "VILLAS-BOAS APPOINTED" . Chelsea FC . Chelsea FC. 22 June 2011. สืบค้นเมื่อ 22 June 2011 .
↑ "Gérard Houllier leaves role as Aston Villa manager" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 1 June 2011. สืบค้นเมื่อ 1 June 2011 .
↑ "Aston Villa appoint Alex McLeish as manager" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 17 June 2011. สืบค้นเมื่อ 17 June 2011 .
↑ "Mark Hughes resigns as Fulham manager" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 2 June 2011. สืบค้นเมื่อ 2 June 2011 .
↑ "Fulham appoint Martin Jol as new manager" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 7 June 2011. สืบค้นเมื่อ 7 June 2011 .
↑ "Sunderland sack Steve Bruce as manager" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 30 November 2011. สืบค้นเมื่อ 4 December 2011 .
↑ "Martin O'Neill named Sunderland manager" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 3 December 2011. สืบค้นเมื่อ 4 December 2011 .
↑ "Neil Warnock sacked as manager of Queens Park Rangers" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 8 January 2012.
↑ "Hughes confirmed as new QPR boss" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 10 January 2012. สืบค้นเมื่อ 10 January 2012 .
↑ "Wolves sack manager Mick McCarthy" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 13 February 2012.
↑ "Connor appointed to end of season" . Wolverhampton Wanderers F.C . 24 February 2012.
↑ 29.0 29.1 "Chelsea sack manager Villas-Boas" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. 4 March 2012.
↑ "Barclays Premier League Top Scorers" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 13 December 2011 .
↑ "Barclays Premier League Stats: Assists Leaders – 2011–12" . ESPN Soccernet . ESPN. สืบค้นเมื่อ 23 March 2012 .
↑ "The 2011/12 Season stats" . Premier League . PL. สืบค้นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 .
↑ Lyon, Sam (13 August 2011). "Saturday football as it happened" . BBC Sport . British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 13 August 2011 .
↑ "Swansea 4 Wolves 4" . The Sun . The Sun. 28 April 2012. สืบค้นเมื่อ 28 April 2012 .
↑ 35.0 35.1 35.2 "Barclays Premier League Stats: Team Discipline - 2011–12" . ESPN Soccernet . ESPN. สืบค้นเมื่อ 23 March 2012 .
↑ 36.0 36.1 36.2 "Barclays Premier League Stats: Player Discipline - 2011–12" . ESPN Soccernet . ESPN. สืบค้นเมื่อ 23 March 2012 .
↑ สุดดราม่า! เรือหักอกผีทดเจ็บซิวแชมป์ลีก จาก ผู้จัดการออนไลน์
↑ "Ferguson picks up Barclays award" . premierleague.com . Premier League. 2 September 2011. สืบค้นเมื่อ 2 September 2011 .
↑ "Dzeko named Barclays Player of the Month" . premierleague.com . Premier League. 2 September 2011. สืบค้นเมื่อ 2 September 2011 .
↑ "Harry named Barclays Manager of the Month" . tottenhamhotspur.com . Tottenham Hotspur. 30 September 2011. สืบค้นเมื่อ 30 September 2011 .
↑ "Silva picks up prestigious award" . mcfc.co.uk . Manchester City. 30 September 2011. สืบค้นเมื่อ 30 September 2011 .
↑ 42.0 42.1 "Mancini & Van Persie win monthly awards" . premierleague.com . Premier League. 6 November 2011. สืบค้นเมื่อ 6 November 2011 .
↑ 43.0 43.1 "Redknapp and Parker win awards" . premierleague.com . Premier League. 5 December 2011. สืบค้นเมื่อ 5 December 2011 .
↑ 44.0 44.1 "Ba and O'Neill win Barclays awards" . premierleague.com . Premier League. 6 January 2012. สืบค้นเมื่อ 7 January 2012 .
↑ "Brendan wins Manager of the Month" . swanseacity.net . Swansea City. 3 February 2012. สืบค้นเมื่อ 3 February 2012 .
↑ "Gareth wins Barclays Player of the Month" . tottenhamhotspur.com . Tottenham Hotspur. 3 February 2012. สืบค้นเมื่อ 3 February 2012 .
↑ 47.0 47.1 "Wenger and Odemwingie win Barclays awards" . premierleague.com. 2 March 2012. สืบค้นเมื่อ 3 March 2012 .
↑ "Coyle Wins Manager Of The Month" . bwfc.co.uk. 4 April 2012. สืบค้นเมื่อ 4 April 2012 .
↑ "Gylfi Sigurdsson wins Premier League player award" . bbc.co.uk/sport. 4 April 2012. สืบค้นเมื่อ 4 April 2012 .
↑ "Martinez and Jelavic earn Barclays awards" . premierleague.com . Premier League. 4 May 2012. สืบค้นเมื่อ 4 May 2012 .
↑ O'Rourke, Pete (22 April 2012). "Van Persie takes PFA prize" . Sky Sports . สืบค้นเมื่อ 22 April 2012 .
↑ Bailey, Graeme (42 April 2012). "RVP named Footballer of Year" . ESPNsoccernet. สืบค้นเมื่อ 24 April 2012 .
↑ O'Rourke, Pete (22 April 2012). "City quarter in PFA team" . Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 22 April 2012 .
↑ O'Rourke, Pete (22 April 2012). "Walker wins PFA award" . Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 22 April 2012 .
↑ 55.0 55.1 "Alan Pardew and Vincent Kompany's Premier League award" . bbc.co.uk . BBC Sport. 11 May 2012. สืบค้นเมื่อ 11 May 2012 .
↑ "Swansea top Fair Play League Table" . PremierLeague.com . Premier League. 19 May 2012. สืบค้นเมื่อ 19 May 2012 .
ฤดูกาล สโมสร
การแข่งขัน สถิติและรางวัล การแข่งขันที่เกี่ยวข้อง