บาลงดอร์

หน้าถูกกึ่งป้องกัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก บัลลงดอร์)

บาลงดอร์
ถ้วยรางวัลบัลลงดอร์
วันที่1956; 68 ปีที่แล้ว (1956)
ประเทศฝรั่งเศส
จัดโดยฟร็องส์ฟุตโบล
รางวัลแรก1956
ผู้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ
(ครั้งที่ 8)
รางวัลมากที่สุดอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ
(8 ครั้ง)
เสนอชื่อมากที่สุดโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด
(18 ครั้ง)[1]
เว็บไซต์francefootball.fr
← 2022 · บาลงดอร์ · 2023 →

บาลงดอร์ (เสียงอ่านภาษาฝรั่งเศส: [balɔ̃ dɔʁ] ( ฟังเสียง); แปลว่าลูกบอลทองคำ; อังกฤษ: Ballon d'Or) เป็นรางวัลที่มอบให้แก่นักฟุตบอลที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในรอบปี มอบโดยนิตยสารข่าวฝรั่งเศส ฟร็องส์ฟุตโบล ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 ระหว่างปี ค.ศ. 2010 ถึง 2015 รางวัลดังกล่าวได้ถูกรวมเข้ากับนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี (ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1991) เป็นการชั่วคราว ตามข้อตกลงกับฟีฟ่า และเป็นที่รู้จักในชื่อรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ ความร่วมมือดังกล่าวสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 2016 และรางวัลดังกล่าวเปลี่ยนกลับไปเป็นบาลงดอร์ ในขณะที่ฟีฟ่าก็เปลี่ยนกลับไปเป็นรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่าแยกต่างหาก ผู้ได้รับรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ ถือเป็นผู้ชนะที่ได้รับรางวัลจากทั้งสององค์กรร่วมกัน โดยทั่วไปแล้วบาลงดอร์ถือเป็นรางวัลบุคคลอันทรงเกียรติและทรงคุณค่าที่สุดของฟุตบอล[2] อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ได้กล่าวถึงรางวัลนี้ว่าเป็น "การประกวดความนิยม" โดยวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการลงคะแนนเสียง และการให้รางวัลเฉพาะตัวบุคคลแยกจากระบบในกีฬาประเภททีม[3][4][5][6][7][8]

ผู้ชนะ

ลิโอเนล เมสซี คว้าบาลงดอร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยทำได้ 8 ครั้ง เขายังเป็นเจ้าของสถิติการชนะติดต่อกันมากที่สุด โดยชนะสี่ครั้งระหว่างปี ค.ศ. 2009 ถึง 2012
คริสเตียโน โรนัลโด ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบัลลงดอร์เป็นประวัติการณ์ถึง 18 ครั้ง และเป็นผู้ชนะ 5 ครั้ง
จอร์จ เวอาห์ เป็นผู้เล่นคนแรกที่ไม่ใช่ชาวยุโรปและผู้เล่นทีมชาติแอฟริกันคนแรกที่ได้รับรางวัล
เลฟ ยาชิน เป็นผู้รักษาประตูคนเดียวที่ได้รางวัล
ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ เป็นกองหลังคนเดียวที่ได้รางวัล 2 ครั้ง

หมายเหตุ: จนถึงปี ค.ศ. 2021 รางวัลบาลงดอร์จะมอบให้โดยพิจารณาจากผลงานของผู้เล่นในระหว่างปีปฏิทิน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2022 คณะกรรมการได้รับคำสั่งให้คำนึงถึงฤดูกาลที่ก่อนหน้า[9]

คำอธิบาย
  double-dagger   หมายถึง ผู้เล่นที่ชนะบาลงดอร์และได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี หรือ
นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ในปีเดียวกัน (ใช้ได้ในปี ค.ศ. 1991–2009 และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016)
ปี ค.ศ. อันดับ ผู้เล่น ทีม คะแนน
บาลงดอร์ (ค.ศ. 2016–ปัจจุบัน)
2016 1 โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด double-dagger สเปน เรอัลมาดริด 745
2 อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ สเปน บาร์เซโลนา 316
3 ฝรั่งเศส อ็องตวน กรีแยซมาน สเปน อัตเลติโกเดมาดริด 198
2017 1 โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด double-dagger สเปน เรอัลมาดริด 946
2 อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ สเปน บาร์เซโลนา 670
3 บราซิล เนย์มาร์[note 1] ฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 361
2018 1 โครเอเชีย ลูกา มอดริช double-dagger สเปน เรอัลมาดริด 753
2 โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด[note 2] อิตาลี ลยูเวนตุส 476
3 ฝรั่งเศส อ็องตวน กรีแยซมาน สเปน อัตเลติโกเดมาดริด 414
2019 1 อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ double-dagger สเปน บาร์เซโลนา 686
2 เนเธอร์แลนด์ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ อังกฤษ ลิเวอร์พูล 679
3 โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด อิตาลี ยูเวนตุส 476
2020 ไม่มีการมอบรางวัลเนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19[10]
2021 1 อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ[note 3] ฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 613
2 โปแลนด์ รอแบร์ต แลวันดอฟสกี เยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก 580
3 อิตาลี ฌอร์ฌิญญู อังกฤษ สโมสรฟุตบอลเชลซี 460
2022 1 ฝรั่งเศส การีม แบนเซมา สเปน เรอัลมาดริด 549
2 เซเนกัล ซาดีโย มาเน อังกฤษ ลิเวอร์พูล 193
3 เบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอ อังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 175
ปี ค.ศ. นักเตะ ทีม
2023 อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี สหรัฐ อินเตอร์ไมแอมี
2022 ฝรั่งเศส การีม แบนเซมา สเปน เรอัลมาดริด
2021 อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี ฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
2020 ยกเลิกเนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19 พ.ศ. 2563[10]
2019 อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี สเปน บาร์เซโลนา
2018 โครเอเชีย ลูคา มอดริช สเปน เรอัลมาดริด
2017 โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด สเปน เรอัลมาดริด
2016 โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด สเปน เรอัลมาดริด
2009 อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี สเปน บาร์เซโลนา
2008 โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด อังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
2007 บราซิล กาก้า อิตาลี มิลาน
2006 อิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโร สเปน เรอัลมาดริด
2005 บราซิล โรนัลดิญโญ่ สเปน บาร์เซโลนา
2004 ยูเครน อันดรีย์ เชฟเชนโค อิตาลี มิลาน
2003 เช็กเกีย ปาเวล เนดเวต อิตาลี ยูเวนตุส
2002 บราซิล โรนัลโด้ สเปน เรอัลมาดริด
2001 อังกฤษ ไมเคิล โอเว่น อังกฤษ ลิเวอร์พูล
2000 โปรตุเกส ลูอิช ฟีกู สเปน เรอัลมาดริด
1999 บราซิล ริวัลโด สเปน บาร์เซโลนา
1998 ฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน อิตาลี ยูเวนตุส
1997 บราซิล โรนัลโด อิตาลี อินเตอร์
1996 เยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ เยอรมนี ดอร์ทมุนท์
1995 ไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ อิตาลี มิลาน
1994 บัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ สเปน บาร์เซโลนา
1993 อิตาลี โรแบร์โต บัจโจ อิตาลี ยูเวนตุส
1992 เนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน อิตาลี มิลาน
1991 ฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง ฝรั่งเศส มาร์แซย์
1990 เยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุส อิตาลี อินเตอร์
1989 เนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน อิตาลี มิลาน
1988 เนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน อิตาลี มิลาน
1987 เนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิต อิตาลี มิลาน
1986 สหภาพโซเวียต ยูเครน อิกอร์ เบลานอฟ ยูเครน ดีนาโม เคียฟ
1985 ฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี อิตาลี ยูเวนตุส
1984 ฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี อิตาลี ยูเวนตุส
1983 ฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี อิตาลี ยูเวนตุส
1982 อิตาลี เปาโล รอสซี่ อิตาลี ยูเวนตุส
1981 เยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ เยอรมนี บาเยิร์น
1980 เยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ เยอรมนี บาเยิร์น
1979 อังกฤษ เควิน คีแกน เยอรมนี ฮัมบวร์ค
1978 อังกฤษ เควิน คีแกน เยอรมนี ฮัมบวร์ค
1977 เดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่น เยอรมนี กลัทบัค
1976 เยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ เยอรมนี บาเยิร์น
1975 สหภาพโซเวียต ยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่น ยูเครน ดีนาโม เคียฟ
1974 เนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ สเปน บาร์เซโลนา
1973 เนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ สเปน บาร์เซโลนา
1972 เยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ เยอรมนี บาเยิร์น
1971 เนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ เนเธอร์แลนด์ อายักซ์
1970 เยอรมนี แกร์ด มึลเลอร์ เยอรมนี บาเยิร์น
1969 อิตาลี จานนี่ ริเวร่า อิตาลี มิลาน
1968 ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ อังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1967 ฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ต ฮังการี เฟเรนซ์วารอส
1966 อังกฤษ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน อังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1965 โปรตุเกส เอวแซบียู โปรตุเกส ไบฟีกา
1964 สกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ อังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1963 สหภาพโซเวียต รัสเซีย เลฟ ยาชิน รัสเซีย ดีนาโม มอสโก
1962 เช็กเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ เช็กเกีย ดุคล่า ปราก
1961 อาร์เจนตินา อิตาลี โอมาร์ ซีโบรี อิตาลี ยูเวนตุส
1960 สเปน ลุยส์ ซัวเรซ มิรามอนเตส สเปน บาร์เซโลนา
1959 อาร์เจนตินา โคลอมเบีย สเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน สเปน เรอัลมาดริด
1958 ฝรั่งเศส แรมง กอปา สเปน เรอัลมาดริด
1957 อาร์เจนตินา โคลอมเบีย สเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน สเปน เรอัลมาดริด
1956 อังกฤษ สเตนรี่ แมทธิว อังกฤษ แบล็กพูล

แยกตามผู้เล่น

คริสเตียโน โรนัลโด และ ลิโอเนล เมสซิ คว้ารางวัลบาลงดอร์ 10 สมัยติดต่อกันระหว่างพวกเขาระหว่างปี 2008 ถึง 2017
มีแชล ปลาตีนี ได้รับรางวัลสามปีติดต่อกัน (1983–85)
โรนัลโด นาซารีอู เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้บาลงดอร์
โยฮัน ไกรฟฟ์ (ซ้าย) และ มาร์โก ฟัน บัสเติน จากเนเธอร์แลนด์ทั้งคู่ ชนะคนละ 3 ครั้ง
ผู้เล่น ชนะเลิศ ที่สอง ที่สาม
อาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ[note 4] 8 (2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021, 2023) 5 (2008, 2013, 2014, 2016, 2017) 1 (2007)
โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด[note 5] 5 (2008, 2013, 2014, 2016, 2017) 6 (2007, 2009, 2011, 2012, 2015, 2018) 1 (2019)
ฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี 3 (1983, 1984, 1985) 2 (1977, 1980)
เนเธอร์แลนด์ โยฮัน ไกรฟฟ์ 3 (1971, 1973, 1974) 1 (1975)
เนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน 3 (1988, 1989, 1992)
เยอรมนีตะวันตก ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ 2 (1972, 1976) 2 (1974, 1975) 1 (1966)
บราซิล โรนัลโด 2 (1997, 2002) 1 (1996) 1 (1998)
สเปน อัลเฟรโด ดิ เอสเตฟาโน 2 (1957, 1959) 1 (1956)
อังกฤษ เควิน คีแกน 2 (1978, 1979) 1 (1977)
เยอรมนีตะวันตก คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ 2 (1980, 1981) 1 (1979)
สเปน ลุยส์ ซัวเรซ มิรามอนเตส 1 (1960) 2 (1961, 1964) 1 (1965)
โปรตุเกส เอวแซบียู 1 (1965) 2 (1962, 1966)
อังกฤษ บ็อบบี ชาร์ลตัน 1 (1966) 2 (1967, 1968)
ฝรั่งเศส แรมง กอปา 1 (1958) 1 (1959) 2 (1956, 1957)
เยอรมนีตะวันตก แกร์ท มึลเลอร์ 1 (1970) 1 (1972) 2 (1969, 1973)
ฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน 1 (1998) 1 (2000) 1 (1997)
อิตาลี จานนี่ ริเวร่า 1 (1969) 1 (1963)
เนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิต 1 (1987) 1 (1988)
เยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุส 1 (1990) 1 (1991)
อิตาลี โรแบร์โต บัจโจ 1 (1993) 1 (1994)
บัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ 1 (1994) 1 (1992)
ยูเครน อันดรีย์ แชวแชนกอ 1 (2004) 2 (1999, 2000)
ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ 1 (1968) 1 (1971)
เดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่น 1 (1977) 1 (1983)
บราซิล รอนัลดีนโย 1 (2005) 1 (2004)
อังกฤษ สเตนรี่ แมทธิว 1 (1956)
อิตาลี โอมาร์ ซิโบริ 1 (1961)
เชโกสโลวาเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ 1 (1962)
สหภาพโซเวียต รัสเซีย เลฟ ยาชิน 1 (1963)
สกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ 1 (1964)
ฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ต 1 (1967)
สหภาพโซเวียต ยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่น 1 (1975)
อิตาลี เปาโล รอสซี่ 1 (1982)
สหภาพโซเวียต ยูเครน อิกอร์ เบลานอฟ 1 (1986)
ฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง 1 (1991)
ไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ 1 (1995)
เยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ 1 (1996)
บราซิล รีวัลดู 1 (1999)
โปรตุเกส ลูอิช ฟีกู 1 (2000)
อังกฤษ ไมเคิล โอเวน 1 (2001)
เช็กเกีย ปาเวล เนดเวต 1 (2003)
อิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโร 1 (2006)
บราซิล กาก้า 1 (2007)
โครเอเชีย ลูกา มอดริช 1 (2018)
ฝรั่งเศส การีม แบนเซมา 1 (2022)

แยกตามประเทศ

ผู้เล่นยูเครนสามคนได้รับรางวัลบาลงดอร์: อันดรีย์ แชวแชนกอ, โอเล็ก บลอคคิ่น, และ อิกอร์ เบลานอฟ
มาร์โก ฟัน บัสเติน (ซ้าย) และ รืด คึลลิต ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมทีมเอซี มิลาน และเนเธอร์แลนด์ คว้าแชมป์ติดต่อกันหลายปีตั้งแต่ปี 1987 ถึง 1989
ประเทศ ผู้เล่น ชนะ
ธงของประเทศอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา 1 8
ธงของประเทศเยอรมนี เยอรมนี 5 7
ธงของประเทศเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ 3 7
ธงของประเทศโปรตุเกส โปรตุเกส 3 7
ธงของประเทศฝรั่งเศส ฝรั่งเศส 4 6
ธงของประเทศอิตาลี อิตาลี 5 5
ธงของประเทศบราซิล บราซิล 4 5
 อังกฤษ 4 5
ธงของประเทศยูเครน ยูเครน 3 3
ธงของประเทศสเปน สเปน 2 3
ธงของประเทศเช็กเกีย เช็กเกีย 2 2
ธงของประเทศรัสเซีย รัสเซีย 1 1
ธงของประเทศบัลแกเรีย บัลแกเรีย 1 1
ธงของประเทศโครเอเชีย โครเอเชีย 1 1
ธงของประเทศเดนมาร์ก เดนมาร์ก 1 1
ธงของประเทศฮังการี ฮังการี 1 1
ธงของประเทศไลบีเรีย ไลบีเรีย 1 1
 ไอร์แลนด์เหนือ 1 1
 สกอตแลนด์ 1 1

แยกตามสโมสร

สโมสร จำนวนรางวัล จำนวนนักเตะ รายชื่อนักเตะ
สเปน เรอัลมาดริด
10
8
อาร์เจนตินา โคลอมเบีย สเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน (1957, 1959)
ฝรั่งเศส แรมง กอปา (1958)
โปรตุเกส ลูอิช ฟีกู (2000)
บราซิล โรนัลโด (2002)
อิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโร (2006)
โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด (2016, 2017)
โครเอเชีย ลูคา มอดริช (2018)

ฝรั่งเศส การีม แบนเซมา (2022)

สเปน บาร์เซโลนา
8
6
สเปน ลุยส์ ซัวเรซ (1960)
เนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ (1973, 1974)
บัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (1994)
บราซิล รีวัลดู (1999)
บราซิล รอนัลดีนโย (2005)
อาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2009, 2019)
อิตาลี ยูเวนตุส
8
6
อาร์เจนตินา อิตาลี โอมาร์ ซีโบรี (1961)
อิตาลี เปาโล รอสซี่ (1982)
ฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี (1983, 1984, 1985)
อิตาลี โรแบร์โต บัจโจ (1993)
ฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน (1998)
เช็กเกีย พาเวล เนดเวด (2003)
อิตาลี มิลาน
8
6
อิตาลี จานนี่ ริเวร่า (1969)
เนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิต (1987)
เนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน (1988, 1989, 1992)
ไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ (1995)
ยูเครน อันดรีย์ เชฟเชนโค (2004)
บราซิล กาก้า (2007)
เยอรมนี บาเยิร์น
5
3
เยอรมนี เกิร์ด มุลเลอร์ (1970)
เยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ (1972, 1976)
เยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ (1980, 1981)
อังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
4
4
สกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ (1964)
อังกฤษ บ๊อบบี้ ชาร์ลตั้น (1966)
ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ (1968)
โปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด (2008)
ยูเครน ดีนาโม เคียฟ
2
2
ยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่น (1975)
ยูเครน อิกอร์ เบลานอฟ (1986)
อิตาลี อินเตอร์
2
2
เยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุส (1990)
บราซิล โรนัลโด (1997)
เยอรมนี ฮัมบวร์ค
2
1
อังกฤษ เควิน คีแกน (1978, 1979)
อังกฤษ แบล็กพูล
1
1
อังกฤษ สแตนลี่ย์ แมทธิวส์ (1956)
เช็กเกีย ดุคล่า ปราก
1
1
เช็กเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ (1962)
รัสเซีย ดีนาโม มอสโก
1
1
รัสเซีย เลฟ ยาชิน (1963)
โปรตุเกส ไบฟีกา
1
1
โปรตุเกส เอวแซบียู (1965)
ฮังการี เฟเรนซ์วารอส
1
1
ฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ต (1967)
เนเธอร์แลนด์ อายักซ์
1
1
เนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ (1971)
เยอรมนี กลัทบัค
1
1
เดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่น (1977)
ฝรั่งเศส มาร์แซย์
1
1
ฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง (1991)
เยอรมนี ดอร์ทมุนท์
1
1
เยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ (1996)
อังกฤษ ลิเวอร์พูล
1
1
อังกฤษ ไมเคิล โอเวน (2001)
ฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
1
1
อาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2021)
สหรัฐ อินเตอร์ไมแอมี
1
1
อาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2023)

ดูเพิ่ม

หมายเหตุ

  1. Neymar was signed by Paris Saint-Germain from บาร์เซโลนา midway through 2017.
  2. Cristiano Ronaldo was signed by Juventus from เรอัลมาดริด midway through 2018.
  3. Messi was signed by Paris Saint-Germain from บาร์เซโลนา midway through 2021.
  4. Messi won four FIFA Ballons d'Or (2010, 2011, 2012, 2015) and twice finished in second place (2013, 2014).[11][12]
  5. Cristiano Ronaldo won two FIFA Ballons d'Or (2013, 2014) and finished in second place three times (2011, 2012, 2015).[11][12]

อ้างอิง

  1. "Ballon d'Or: Players who have received the most nominations". 90min. 15 November 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 November 2021. สืบค้นเมื่อ 29 November 2021.
  2. "Ballon d'Or, FIFA The Best awards: what's the difference between them?". Diario AS (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2023-02-24. สืบค้นเมื่อ 2023-05-27. Created by France Football in 1956, the Ballon d’Or is generally regarded as soccer’s most prestigious award.
  3. Why the Ballon d'Or is a waste of time
  4. Why the Ballon d’Or has become a meaningless accolade
  5. Why the Ballon d’Or is stupid and quite possibly evil
  6. Weekly Why: FIFA's Ballon d'Or and the Absurdity of Glorifying Individual Awards
  7. Emmanuel Petit: Some players would take ‘stupid’ Ballon d’Or over trophies
  8. The Ballon d'Or Is Stupid, But Mohamed Salah Deserves To Win It Anyway
  9. Reidy, Paul (17 October 2022). "Ballon d'Or, FIFA The Best awards: what's the difference between them?". AS.com. สืบค้นเมื่อ 10 November 2022.
  10. 10.0 10.1 "THE BALLON D'OR® WILL NOT BE AWARDED IN 2020". L'Equipe. 20 July 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 July 2020. สืบค้นเมื่อ 20 July 2020. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Not2020" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  11. 11.0 11.1 "La liste complête des lauréats du Ballon d'or, de 1956 à nos jours". France Football. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 January 2016. สืบค้นเมื่อ 14 January 2016.
  12. 12.0 12.1 "FIFA Awards – World Player of the Year". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. 12 February 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2018. สืบค้นเมื่อ 14 January 2016.