เทศบาลนครหาดใหญ่
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
เทศบาลนครหาดใหญ่ | |
---|---|
ทิวทัศน์เทศบาลนครหาดใหญ่มองจากเขาคอหงส์ พ.ศ. 2563 | |
สมญา: เมืองหาดใหญ่ | |
คำขวัญ: มหานครแห่งการค้า นำพาความศิวิไลซ์ หาดใหญ่แดนสันติสุข | |
พิกัด: 7°1′N 100°28′E / 7.017°N 100.467°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | สงขลา |
อำเภอ | หาดใหญ่ |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 21 ตร.กม. (8 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2560)[1] | |
• ทั้งหมด | 159,233 คน |
• ความหนาแน่น | 7,582.52 คน/ตร.กม. (19,638.6 คน/ตร.ไมล์) |
รหัส อปท. | 03901101 |
ที่อยู่ สำนักงาน | สำนักงานเทศบาลนครหาดใหญ่ เลขที่ 445 ถนนเพชรเกษม ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 |
โทรศัพท์ | 0 7420 0000 |
โทรสาร | 0 7423 5536 |
เว็บไซต์ | hatyaicity |
หาดใหญ่ เป็นเทศบาลนครที่ตั้งอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หาดใหญ่ถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้[2] ครั้งหนึ่งเคยเป็น ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า และการขนส่งที่สำคัญของภาคใต้ และเป็นเทศบาลนครที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย รองจากเทศบาลนครนนทบุรี เทศบาลนครปากเกร็ด และเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ หาดใหญ่ได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลนครหาดใหญ่เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2538 มีพื้นที่ในเขตเทศบาล 21 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหาดใหญ่ทั้งตำบล มีประชากรใน พ.ศ. 2560 จำนวน 159,233 คน[1]
ในช่วง 3-4 ทศวรรษที่ผ่านมา หาดใหญ่มีการพัฒนาจนได้รับฉายาว่า "นครปารีสแห่งภาคใต้ของประเทศไทย", "นครที่ไม่มีวันหลับ", "เมืองหลวงของภาคใต้", "นครแห่งความสุข" หรือ "สันติสุขแดนการค้า" แต่ด้วยความท้าทายในหลายมิติไม่ว่าจะเศรษฐกิจ การเมือง ความเปลี่ยนแปลงของประชากร คำเรียกของหาดใหญ่ที่ถูกพูดถึงมากในช่วงหลัง คือ "เมืองที่ตายแล้ว"อย่างไรก็ตามทุกมหานครย่อมมีช่วงขาขึ้นและอุปสรรคขาลงและการผงาดขึ้นขึ้นอีกครั้ง หาดใหญ่ก็เช่นกัน
ประวัติ
[แก้]ยุคสุขาภิบาลหาดใหญ่
[แก้]หาดใหญ่ เป็นชื่อรวมของหมู่บ้านโคกเสม็ดชุนและบ้านหาดใหญ่ เดิมดินแดนหาดใหญ่เป็นเนินสูง มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มากนัก การคมนาคมไม่สะดวก เป็นป่าต้นเสม็ดชุน โดยทั่วไปชาวบ้านจึงเรียกว่า บ้านโคกเสม็ดชุน เมื่อทางการได้ตัดทางรถไฟมาถึงท้องถิ่นนี้ จึงมีประชาชนอพยพมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินและเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ สมัยนั้นชุมทางรถไฟอยู่ที่สถานีรถไฟอู่ตะเภา (ด้านเหนือของสถานีรถไฟหาดใหญ่ ในปัจจุบันเป็นเพียงที่หยุดรถไฟ) เนื่องจากสถานีอู่ตะเภาเป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมเป็นประจำ ทางการรถไฟจึงได้ย้ายสถานีมาอยู่ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ประชาชนได้ทยอยย้ายบ้านเรือนมาสร้างตามบริเวณสถานีนั่นเอง ฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่ากิจการรถไฟมีบทบาทต่อการขยับขยายและความเจริญก้าวหน้าของนครหาดใหญ่ตลอดมา
ต่อมาได้มีผู้เห็นการไกลกล่าวว่าบริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่นี้ ต่อไปภายหน้าจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน จึงได้มีการจับจองและซื้อที่ดินแปลงใหญ่จากราษฏรพื้นบ้าน ในที่สุด พ.ศ. 2471 หาดใหญ่จึงมีฐานะเป็นสุขาภิบาล ซึ่งประกาศใช้พระราชบัญญัติสุขาภิบาลเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2471 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2471
ยุคเทศบาลตำบลหาดใหญ่
[แก้]ต่อมาสุขาภิบาลแห่งนี้เจริญขึ้น มีพลเมืองหนาแน่นขึ้น และมีกิจการเจริญก้าวหน้า กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็น เทศบาลตำบลหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2478 ซึ่งในขณะนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 5,000 คน รวมถึงมีรายได้ประมาณ 60,000 บาท
ยุคเทศบาลเมืองหาดใหญ่
[แก้]เมื่อประชากรในเขตเทศบาลมีมากขึ้น พร้อมทั้งกิจการได้เจริญขึ้น จึงได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเทศบาล และมีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเทศบาลตำบลหาดใหญ่เป็น เทศบาลเมืองหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2492 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2492 ซึ่งในขณะนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตรเช่นเดิม แต่มีประชากรเพิ่มมากขึ้นเป็นประมาณ 19,425 คน มีรายได้ 374,523.33 บาท
เมื่อท้องที่ในเขตเทศบาลเจริญและมีประชากรอยู่หนาแน่นเพิ่มปริมาณมากขึ้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้เปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองหาดใหญ่ จากเนื้อที่ 8 ตารางกิโลเมตร เพิ่มขึ้นอีก 13 ตารางกิโลเมตร รวมเป็นเนื้อที่ทั้งหมด 21 ตารางกิโลเมตร เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2520 ตามราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2520 ในขณะนั้นมีประชากร 68,142 คน มีรายได้ 49,774,558.78 บาท นับได้ว่าเทศบาลเมืองหาดใหญ่เป็นเทศบาลชั้น 1 มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก
ยุคเทศบาลนครหาดใหญ่
[แก้]หาดใหญ่ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางบก และทางอากาศ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร หาดใหญ่ยังเป็นชุมทางรถไฟ และศูนย์กลางทางด้านคมนาคม และด้วยศักยภาพที่โดดเด่น และถึงพร้อมด้วยคุณลักษณะรวมไปถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของผู้บริหาร ทำให้เทศบาลเมืองหาดใหญ่ได้ยกฐานะเป็น เทศบาลนครหาดใหญ่ ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มที่ 112 ตอนที่ 40 ก ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2538 โดยมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2538 ซึ่งปัจจุบัน เทศบาลนครหาดใหญ่มีพื้นที่ทั้งหมด 21 ตารางกิโลเมตร
ภูมิศาสตร์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ภูมิอากาศ
[แก้]นครหาดใหญ่ตั้งอยู่ในเขตอิทธิพลของลมมรสุมเมืองร้อน มีลมมรสุมพัดผ่านประจำทุกปี คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนมีนาคม และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เริ่มตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม จากอิทธิพลของลมมรสุมดังกล่าว ส่งผลให้มีฤดูกาลเพียง 2 ฤดู คือ
- ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ว่างของลมมรสุมจะเริ่มตั้งแต่หลังจากหมดมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว อากาศจะเริ่มร้อนและอากาศจะมีอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน แต่อากาศจะไม่ร้อนมากนักเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ทะเล
- ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ นครหาดใหญ่จะมีฝนตกทั้งในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ แต่ในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกชุกมากกว่า เนื่องจากพัดผ่านอ่าวไทย ส่วนลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะถูกเทือกเขาบรรทัดปิดกั้นทำให้ฝนตกน้อยลง ใน พ.ศ. 2546 ฝนตกมากที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม และฝนตกน้อยที่สุดในเดือนเมษายน
ข้อมูลภูมิอากาศของหาดใหญ่ (2524–2553) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 35.4 (95.7) |
37.4 (99.3) |
38.3 (100.9) |
39.2 (102.6) |
38.3 (100.9) |
36.8 (98.2) |
37.3 (99.1) |
36.9 (98.4) |
36.5 (97.7) |
36.3 (97.3) |
34.7 (94.5) |
34.1 (93.4) |
39.2 (102.6) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 31.0 (87.8) |
32.7 (90.9) |
34.2 (93.6) |
34.6 (94.3) |
33.8 (92.8) |
33.5 (92.3) |
33.2 (91.8) |
33.1 (91.6) |
32.5 (90.5) |
31.8 (89.2) |
30.4 (86.7) |
29.7 (85.5) |
32.5 (90.5) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 26.0 (78.8) |
26.7 (80.1) |
27.6 (81.7) |
28.0 (82.4) |
27.8 (82) |
27.7 (81.9) |
27.4 (81.3) |
27.4 (81.3) |
26.9 (80.4) |
26.5 (79.7) |
26.0 (78.8) |
25.6 (78.1) |
27.0 (80.6) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 22.0 (71.6) |
22.1 (71.8) |
22.9 (73.2) |
23.7 (74.7) |
24.0 (75.2) |
23.8 (74.8) |
23.5 (74.3) |
23.5 (74.3) |
23.4 (74.1) |
23.3 (73.9) |
23.2 (73.8) |
22.6 (72.7) |
23.2 (73.8) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 18.3 (64.9) |
18.2 (64.8) |
18.5 (65.3) |
20.0 (68) |
21.2 (70.2) |
20.9 (69.6) |
20.3 (68.5) |
20.6 (69.1) |
20.9 (69.6) |
21.1 (70) |
20.7 (69.3) |
19.1 (66.4) |
18.2 (64.8) |
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) | 53.8 (2.118) |
24.4 (0.961) |
75.1 (2.957) |
118.6 (4.669) |
147.7 (5.815) |
119.3 (4.697) |
104.5 (4.114) |
113.0 (4.449) |
157.3 (6.193) |
227.8 (8.969) |
317.1 (12.484) |
267.7 (10.539) |
1,726.3 (67.965) |
ความชื้นร้อยละ | 80 | 77 | 76 | 78 | 81 | 80 | 79 | 79 | 82 | 85 | 87 | 85 | 81 |
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย | 8.2 | 3.6 | 7.2 | 12.4 | 14.3 | 13.6 | 14.0 | 15.2 | 18.5 | 21.1 | 21.4 | 18.4 | 167.9 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 182.9 | 166.7 | 186.0 | 144.0 | 114.7 | 111.0 | 114.7 | 114.7 | 108.0 | 111.6 | 105.0 | 108.5 | 1,567.8 |
แหล่งที่มา 1: กรมอุตุนิยมวิทยา[3] | |||||||||||||
แหล่งที่มา 2: สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา, กรมชลประทาน (แสงอาทิตย์และความชื้น)[4] |
เขตการปกครอง
[แก้]ชุมชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ แบ่งตามเขตเลือกตั้ง
|
|
เศรษฐกิจ
[แก้]หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าและการบริการของภาคใต้ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพาณิชยกรรม (รองรับกิจกรรมการท่องเที่ยว) และอุตสาหกรรม ได้แก่ อาชีพค้าขาย ธุรกิจบริการ และเป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ ลักษณะของเมืองมีขนาดกระชับตัวมาก มีศูนย์กลางเมืองกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ตั้งอยู่ประชิดทางรถไฟ สภาพเมืองขยายตัวออกไปทางทิศตะวันออก ลักษณะของอาคารสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นตึกแถวพาณิชย์ชั้นล่างและอยู่อาศัยชั้นบน อาคารลักษณะเดี่ยวมีน้อยและกระจายตัวอยู่ประปราย จำนวนอาคารสถานประกอบการต่างๆ ดังนี้
- สถานที่จำหน่ายอาหาร (ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข) 1,600 แห่ง
- สถานบริการ (ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ) 239 แห่ง
- โรงพยาบาล และสถานีอนามัย 7 แห่ง
- โรงแรม 96 แห่ง
- โรงภาพยนตร์ 3 แห่ง จากเดิม 6 แห่ง (นับโรบินสัน โอเดียน และ ลีการ์เด้นส์ ซึ่งโรงหนังปัจจุบันมิได้เปิดให้บริการ)
- มูลนิธิจีน 13 แห่ง
การท่องเที่ยว
[แก้]สถานที่ท่องเที่ยวในหาดใหญ่ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้แก่
- ศาลเจ้ามูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) ตั้งอยู่บนถนนศุภสารรังสรรค์ ภายในมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี ถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของคนไทยเชื้อสายจีนหาดใหญ่และนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนเข้ามากราบไหว้[5]
- วัดหาดใหญ่ใน ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ใกล้สะพานคลองอู่ตะเภา มีพระนอนขนาดใหญ่ คือ พระพุทธหัตถมงคล ซึ่งมีผู้นิยมเดินทางมานมัสการจำนวนมาก
- สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ตั้งอยู่ถนนกาญจนวนิช เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวหาดใหญ่และนักท่องเที่ยว ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท้าวมหาพรหม พระพุทธมงคลมหาราช พระโพธิสัตว์กวนอิมหยก และจุดชมวิวอีกหลายจุดที่สามารถชมเมืองหาดใหญ่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- ตลาดกิมหยง เป็นตลาดเก่าที่มีมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งเมืองหาดใหญ่ มีสินค้าราคาถูก ทั้งผลไม้และของใช้ต่างๆเพื่อเป็นของขวัญและของฝากช่วงเทศกาล
- ตลาดสันติสุข เป็นแหล่งรวมสินค้าราคาถูกมากมายจนขึ้นชื่อว่าเป็น Shopping Paradise เปิดกิจการมาจนถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่สะท้อนบรรยากาศการค้าขายของคนหาดใหญ่อย่างแท้จริง
ประชากร
[แก้]ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
2537 | 152,438 | — |
2540 | 155,260 | +1.9% |
2543 | 157,022 | +1.1% |
2546 | 160,669 | +2.3% |
2549 | 156,723 | −2.5% |
2552 | 157,604 | +0.6% |
2555 | 157,917 | +0.2% |
2558 | 159,687 | +1.1% |
กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย |
เทศบาลนครหาดใหญ่มีประชากรทั้งสิ้น 158,218 คน เป็นชาย 73,701 คน หญิง 84,517 คน จำนวนบ้าน 58,434 หลัง (ข้อมูล ณ มิถุนายน พ.ศ. 2555) แบ่งเป็น 101 ชุมชน ความหนาแน่นของประชากร 7,529 คนต่อตารางกิโลเมตร (บริเวณกลางเมืองความหนาแน่นถึง 20,000 คนต่อตารางกิโลเมตร) ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นและอพยพมาจากจังหวัดใกล้เคียง ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ รองลงมาคือศาสนาอิสลาม (ร้อยละ 10 ของประชากร)
การคมนาคม
[แก้]นครหาดใหญ่มีโครงสร้างพื้นฐานค่อนข้างสมบูรณ์สามารถเชื่อมโยงกับจังหวัดต่าง ๆ เป็นเมืองหลักของภาคใต้ เป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ อุตสาหกรรมและการคมนาคม จึงมีเส้นทางคมนาคมหลักทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และทางอากาศ มีทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงจังหวัด และเส้นทางมาตรฐานหลายสาย ทำให้การเดินทางติดต่อภายในจังหวัด การเดินทางสู่จังหวัดใกล้เคียง และกรุงเทพมหานคร เป็นไปด้วยความสะดวกได้ทั้งภายในภูมิภาค และนานาชาติ
ทางถนน
[แก้]จากกรุงเทพมหานครถึงนครหาดใหญ่ ประมาณ 925 กิโลเมตร มีการคมนาคมโดยทางหลวงแผ่นดิน คือ
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 หรือ ถนนเพชรเกษม จากกรุงเทพมหานคร เข้าแยกปฐมพร จังหวัดชุมพร ผ่านจังหวัดระนอง–จังหวัดพังงา–จังหวัดกระบี่–จังหวัดตรัง–จังหวัดพัทลุง–อำเภอหาดใหญ่–อำเภอสะเดา
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 จากอำเภอเมืองชุมพร ผ่านอำเภอทุ่งสง มาบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ที่จังหวัดพัทลุง
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 จากอำเภอรัตภูมิ–อำเภอหาดใหญ่-อำเภอนาหม่อม–อำเภอจะนะ
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 406 จากอำเภอรัตภูมิ (สามแยกท่าชะมวง)–จังหวัดสตูล
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 407 หรือ ถนนกาญจนวาณิช จาก อำเภอเมืองสงขลา–อำเภอหาดใหญ่–อำเภอสะเดา
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 414 หรือ ถนนลพบุรีราเมศวร์ จาก แยกน้ำกระจาย อำเภอเมืองสงขลา–อำเภอหาดใหญ่ ไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4135 จากสามแยกโคกเมา–ท่าอากาศยานหาดใหญ่
ทางราง
[แก้]สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ยังคงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างอำเภอหาดใหญ่กับกรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่น อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงไปถึงประเทศมาเลเซียได้ โดยชุมทางรถไฟหาดใหญ่เป็นชุมทางรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ เส้นทางรถไฟสายใต้เริ่มต้นจากกรุงเทพมหานครลงไปถึงชุมทางหาดใหญ่ ระยะทางยาวประมาณ 945 กิโลเมตร จากนั้นจะแยกเป็น 2 เส้นทาง คือ เส้นทางสายหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ความยาว 45 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของมาเลเซียจนถึงสถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งคือ ทางสายหาดใหญ่–อำเภอสุไหงโก-ลก ความยาว 110 กิโลเมตร หาดใหญ่เป็นสถานีชุมทางต่างประเทศแห่งเดียวของประเทศไทยที่เชื่อมไปยังคาบสมุทรมลายูด้วย เป็นสถานีรถไฟที่มีปริมาณผู้ใช้บริการหนาแน่นมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ในอนาคต
- โมโนเรล ระยะทาง 12.54 กิโลเมตร ในระยะที่1 (Phase1) จาก คลองหวะ-สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตลาดเกษตร รวมทั้งสิ้น 12 สถานี ประกอบด้วย สถานีต้นทาง คลองหวะ-ขนส่งเเห่งที่1-คลองเรียน-มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-คอหงส์-สามสิบเมตร-หาดใหญ่วิทยาลัย-วงเวียนน้ำพุ-ตลาดกิมหยง-สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่-หาดใหญ่ใน-สถานีขนส่งแห่งที่2 โดยโครงการได้ผ่านการตรวจสอบรายงานสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เรียบร้อยแล้วในปี 2564 เเละกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) คาดว่าจะเรียบร้อยภายในปี 2567 เพื่อนำขึ้นเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ทางอากาศ
[แก้]ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง ห่างจากเขตเทศบาลประมาณ 12 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ได้รับการยกฐานะเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2515 มีพื้นที่ประมาณ 4.80 ตารางกิโลเมตร หรือ 3,000 ไร่โดยให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00–24.00 น. ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่เป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่นมากเป็นอันดับ 6 ของประเทศรองจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานกระบี่
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน ประจำปี พ.ศ. 2560 ท้องถิ่นเทศบาลนครหาดใหญ่ ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-02-22. สืบค้นเมื่อ 2010-02-18.
- ↑ "Climatological Data for the Period 1981–2010". กรมอุตุนิยมวิทยา. p. 25. สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ "ปริมาณการใช้น้ำของพืชอ้างอิงโดยวิธีของ Penman Monteith (Reference Crop Evapotranspiration by Penman Monteith)" (PDF). สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา, กรมชลประทาน. p. 124. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-12-01. สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ True ID Trend. (2563). ชวนไหว้พระที่มูลนิธิท่งเซียเซียงตึ๊ง หาดใหญ่. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2564
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ หาดใหญ่
- เว็บไซต์เทศบาลนครหาดใหญ่