ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศมัลดีฟส์"
ย้อนการแก้ไขที่ 6155231 สร้างโดย 125.24.170.194 (พูดคุย) |
Countryhobby (คุย | ส่วนร่วม) Fix content ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 15: | บรรทัด 15: | ||
[[มุฮัมมัด มะฮีด ฮะซัน |
[[มุฮัมมัด มะฮีด ฮะซัน ]] |
||
|leader_name2 =[[มุฮัมมัด ยามีล อาห์เหม็ด]] |
|leader_name2 =[[มุฮัมมัด ยามีล อาห์เหม็ด]] |
||
|area_rank =185 |
|area_rank =185 |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:09, 22 มีนาคม 2559
สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ހިވެދި ގުޖޭއްރާ ޔާއްރިހޫމްޖު (มัลดีฟส์) | |
---|---|
สถานที่ตั้งของมัลดีฟส์ในมหาสมุทรอินเดีย (วงกลมสีเขียว) | |
เมืองหลวง | มาเล |
เมืองใหญ่สุด | เมืองหลวง
|
ภาษาราชการ | ภาษาดิเวฮิ |
เอกราช | |
• จาก สหราชอาณาจักร | 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 |
พื้นที่ | |
• รวม | 300 ตารางกิโลเมตร (120 ตารางไมล์) (185) |
≈99 | |
ประชากร | |
• กรกฎาคม 2556 ประมาณ | 393,500[1] (175) |
• สำมะโนประชากร 2557 | 341,356[2] |
1,102.5 ต่อตารางกิโลเมตร (2,855.5 ต่อตารางไมล์) (11) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2554 (ประมาณ) |
• รวม | 2.841 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[3] (162) |
• ต่อหัว | 8,731 ดอลลาร์สหรัฐ[3] (89) |
เอชดีไอ (2556) | 0.698[4] ข้อผิดพลาด: ค่า HDI ไม่ถูกต้อง · 103 |
สกุลเงิน | รูฟียาห์ (MVR) |
เขตเวลา | UTC+5 (MVT) |
ขับรถด้าน | ซ้ายมือ |
รหัสโทรศัพท์ | 960 |
โดเมนบนสุด | .mv |
มัลดีฟส์ (อังกฤษ: Maldives; ดิเวฮิ: ދިވެހިރާއްޖެ) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (อังกฤษ: Republic of Maldives; ดิเวฮิ: ހިވެދި ގުޖޭއްރާ ޔާއްރިހޫމްޖު) เป็นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมากในมหาสมุทรอินเดีย และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียและศรีลังกา
ภูมิศาสตร์
ภูมิประเทศ พื้นที่ความยาวจากเหนือจรดใต้ 821 กิโลเมตร จากตะวันออกจรดตะวันตก 120 กิโลเมตร แต่เป็นพื้นที่ดินรวมเพียง 300 ตารางกิโลเมตรมีจุดสูงสุดเพียง 2.3 เมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการัง 26 กลุ่ม (atoll) รวม 1,190 เกาะ มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ
สภาพอากาศ
ภูมิอากาศเป็นแบบเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 27 – 30 C (18-90 F) ตลอดทั้งบีช่วงที่ปราศจากมรสุม ได้แก่ ช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคม
ข้อมูลภูมิอากาศของMalé | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 32 (90) |
32 (90) |
33 (91) |
35 (95) |
35 (95) |
34 (93) |
32 (90) |
32 (90) |
32 (90) |
33 (91) |
33 (91) |
32 (90) |
35 (95) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 30.0 (86) |
30.4 (86.7) |
31.2 (88.2) |
31.5 (88.7) |
31.0 (87.8) |
30.5 (86.9) |
30.4 (86.7) |
30.2 (86.4) |
30.0 (86) |
30.0 (86) |
30.1 (86.2) |
30.9 (87.6) |
30.52 (86.93) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 27.4 (81.3) |
27.6 (81.7) |
27.8 (82) |
27.4 (81.3) |
28.2 (82.8) |
27.8 (82) |
27.6 (81.7) |
27.5 (81.5) |
27.1 (80.8) |
27.2 (81) |
27.3 (81.1) |
27.1 (80.8) |
27.5 (81.5) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 25 (77) |
25 (77) |
26 (79) |
26 (79) |
25 (77) |
26 (79) |
25 (77) |
26 (79) |
25 (77) |
25 (77) |
26 (79) |
25 (77) |
25 (77) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 75.2 (2.961) |
49.7 (1.957) |
72.8 (2.866) |
131.6 (5.181) |
215.7 (8.492) |
171.9 (6.768) |
147.2 (5.795) |
187.7 (7.39) |
242.8 (9.559) |
222.0 (8.74) |
201.0 (7.913) |
231.7 (9.122) |
1,949.3 (76.744) |
ความชื้นร้อยละ | 78.0 | 77.0 | 76.9 | 78.1 | 80.8 | 80.7 | 79.1 | 80.5 | 81.0 | 81.7 | 82.2 | 80.9 | 79.7 |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 1.0 mm) | 4.6 | 3.5 | 6.1 | 9.1 | 14.3 | 12.9 | 11.9 | 12.8 | 15.8 | 14.6 | 13.3 | 11.8 | 130.7 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 248.0 | 259.9 | 279.0 | 246.0 | 223.2 | 201.0 | 226.3 | 210.8 | 201.0 | 235.6 | 225.0 | 220.1 | 2,778.2 |
แหล่งที่มา: http://www.tutiempo.net/en/Climate/Male/435550.htm |
ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ระบบนิเวศทางทะเล
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การพิทักษ์หมู่เกาะ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประวัติศาสตร์
ยุคโบราณ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ศาสนาพุทธ
ชนพื้นเมืองพวกแรกที่อาศัยอยู่ในมัลดีฟส์ตั้งแต่ก่อนคริสตกาล คือ พวกดราวิเดียนและ สิงหล ซึ่งนับถือศาสนาพุทธ ชาวมัลดีฟส์โบราณจึงนับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก
ศาสนาอิสลาม
ต่อมาในคริสต์ศวรรษที่ 12 มัลดีฟส์ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม และมีสุลต่านราชวงศ์ต่าง ๆ เป็นผู้ปกครองประเทศในยุคแรก ได้แก่
- ราชวงศ์โสมวันสา (Somavansa) หรือ Malei มีสุลต่าน 16 พระองค์ ปกครองเป็นเวลา 169 ปี
- ราชวงศ์วีรุ อุมรุ (Veeru Umaru) มีสุลต่าน 5 พระองค์ ปกครองเป็นเวลา 75 ปี
- ราชวงศ์หิลาลิ (Hilali) มีสุลต่าน 25 พระองค์ ปกครองเป็นเวลา 170 ปี
การครอบครอง
ชาวโปรตุเกสได้พยายามเข้ายึดครองมัลดีฟส์ตั้งแต่คริสตวรรษที่ 13 และ ประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 1558 (พ.ศ. 2101) และได้ปกครองมัลดีฟส์อยู่เป็นเวลา 15 ปี ต่อมาในปี ค.ศ. 1573 (พ.ศ. 2116) มีการสถาปนาการปกครองระบบสุลต่านขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยมีการตั้งราชวงศ์อุทีมุ (Utheemu) ซึ่งมีสุลต่านในราชวงศ์ 5 พระองค์ ปกครองเป็นเวลา 121 ปี ในสมัยราชวงศ์นี้ มีการพัฒนาระบบการปกครอง การทหารและการเงินให้ดีขึ้น ต่อมามีราชวงศ์ปกครองอีก 3 ราชวงศ์ ได้แก่ ราชวงศ์อิสดู (Isdhoo), ราชวงศ์ดิยมิกิลิ (Dhiyamigili) และ ราชวงศ์หุราเก (Huraage)
ดินแดนในอารักขา
ในปี ค.ศ. 1887 (พ.ศ. 2430) สหราชอาณาจักรได้แผ่อิทธิพลในแถบมหาสมุทรอินเดีย สุลต่านมูฮัมหมัด มูอีนุดดีนที่ 2 (Muhammad Mueenudhdheen II) จึงได้ทำความตกลงThe Agreement on December 16th , 1887 กับอังกฤษ ซึ่งส่งผลให้มัลดีฟส์อยู่ภายใต้การอารักขาของสหราชอาณาจักร (Protection period)
ในปี ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491) อังกฤษให้เอกราชแก่ศรีลังกา มัลดีฟส์จึงแยกตัวออกจาก ศรีลังกา โดยยังคงสถานะเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ ต่อมาในปี ค.ศ. 1954 (พ.ศ. 2497) ได้มีการสถาปนาระบบสุลต่านขึ้นอีกครั้ง โดยมีการปกครองโดยรัฐสภา มีสภาสูงซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 80 คน และสภาล่างอีก 46 คน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1965 (พ.ศ. 2508) อังกฤษได้มอบเอกราชให้แก่มัลดีฟส์ หลังจากเป็นดินแดนในอารักขาของอังกฤษเป็นเวลา 79 ปี แต่อังกฤษยังคงเช่าเกาะกาน (Gan Island) ทางตอนใต้สุดของประเทศไว้เป็นฐานทัพถึงปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529)
ศตวรรษที่21
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) มัลดีฟส์ยกเลิกระบบสุลต่านและได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ โดยมีนาย อิบบราฮิม นาซีร์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของมัลดีฟส์และบริหารประเทศจนถึงปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) ต่อมา นาย เมามูน อับดุล กายูม ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสืบแทนจนกระทั่งปัจจุบัน โดยได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีติดต่อกับถึง 5 สมัย (สมัยละ 5 ปี) นับเป็นประมุขฝ่ายบริหารที่บริหารประเทศนานที่สุดในภูมิภาคเอเชียใต้
การเมืองการปกครอง
บริหาร
ระบอบการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ ประธานาธิบดีเป็นประมุขรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ฝ่ายบริหาร ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งโดยตรง อยู่ในตำแหน่งคราวละ 5 ปี เป็นประมุขรัฐและหัวหน้ารัฐบาลมีอำนาจสั่งการและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี หัวหน้าคณะผู้พิพากษา และ เป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Service)
นิติบัญญัติ
ฝ่ายนิติบัญญัติ มี 1 สภา เรียกว่า สภาประชาชนมัลดีฟส์ (Citizen Council) หรือมัจลิส (Majlis) สมาชิกมาจากการเลือกตั้ง 40 คน และ ประธานาธิบดีแต่งตั้งอีก 8 คน ไม่มีพรรคการเมือง
ตุลาการ
ฝ่ายตุลาการ เป็นระบบศาลสูง (High Court) ระบบกฎหมายใช้กฎหมายอิสลามเป็นพื้นฐานผสมกับระบบกฎหมายคอมมอนลอว์ของอังกฤษ
สิทธิมนุษยชน
ต่างประเทศ
กองทัพ
การแบ่งเขตการปกครอง
แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 19 เขต (atoll) และ 1 เขตบริหารพิเศษ มี คาติป เป็นผู้ปกครองระดับเกาะ
|
|
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐมัลดีฟส์
ความสัมพันธ์ทางการทูต
ไทยกับมัลดีฟส์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับเอกอัครราชทูต เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2522 และมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาโดยตลอด ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน ปัจจุบันเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำ มัลดีฟส์ และข้าหลวงใหญ่มัลดีฟส์ประจำศรีลังกา ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย
การแลกเปลี่ยนการเยือน
ฝ่ายไทย
- 21 – 23 พ.ย. 2528 ร.ต. ประพาส ลิมปะพันธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนมัลดีฟส์อย่างเป็นทางการ
- 21 – 24 มี.ค. 2531 นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยือนมัลดีฟส์ เพื่อร่วมการประชุมเจรจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือทางวิชาการและงานพัฒนาด้านสาธารณสุข
- 6 – 8 เม.ย. 2543 นายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เยือนมัลดีฟส์อย่างเป็นทางการ
ฝ่ายมัลดีฟส์
- 5 – 6 และ ประธานาธิบดีกายูมแวะเยือนไทยตามคำเชิญฝ่ายไทย
- 9 – 10 ธ.ค. 2528
- 5 – 9 มี.ค. 2533 ประธานาธิบดีกายูมเยือนไทยเพื่อร่วมการประชุมระดับโลกเรื่องการศึกษาเพื่อปวงชน (World Council on Education for All)
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย – มัลดีฟส์
- การค้า การค้าระหว่างไทยกับมัลดีฟส์มีไม่มากนัก โดยไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้าเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม สินค้าจากประเทศไทยเข้าสู่มัลดีฟส์มีปริมาณมากกว่าที่ปรากฏตามสถิติ เนื่องจากสินค้าไทยผ่านการ re-export ทางสิงคโปร์เป็นจำนวนมาก
สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์พลาสติก ข้าว และผลิตภัณฑ์เซรามิก สินค้านำเข้าที่สำคัญจากมัลดีฟส์มีเพียงสิ่งเดียว ได้แก่ ปลาทูน่าสด แช่แข็งและแช่เย็น
- การประมง ประเทศมัลดีฟส์เป็นแหล่งปลาทูน่าที่สำคัญในมหาสมุทรอินเดีย ประเทศไทยยังไม่มีการติดต่อเพื่อทำประมงร่วมกับมัลดีฟส์ ทั้งระหว่างภาครัฐบาลและเอกชน ฝ่ายไทยเคยส่งเรือวิจัยประมงของกรมประมงเดินทางไปทำการศึกษาและวิจัยด้านปลาทูน่าในมัลดีฟส์ในบางโอกาส นอกจากนี้ รัฐบาลมัลดีสฟ์ได้กำหนดเงื่อนไขที่จะเข้าไปจับปลาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของมัลดีฟส์ เช่น ต้องเสียค่าใบอนุญาต (license fee) ต้องจับปลาห่างฝั่งอย่างน้อย 75 ไมล์ และให้ผู้ได้รับอนุญาตจับปลาได้ไม่เกินปีละ 1.5 หมื่นตัน รวมทั้งทางการมัลดีฟส์ยังกำหนดให้ใช้วิธีการจับปลาแบบดั้งเดิมอีกด้วย
- ความตกลงทวิภาคีไทย – มัลดีฟส์ ความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศไทย – มัลดีฟส์ ลงนามเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม2532 ที่กรุงเทพฯ กำหนดให้สายการบินของแต่ละฝ่ายดำเนินบริการเดินอากาศในแต่ละทิศทาง โดยไม่จำกัดแบบของอากาศยาน ปัจจุบันมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์สของประเทศไทยเปิดบริการเดินอากาศระหว่าง กรุงเทพฯ – มัลดีฟส์ ด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ไป-กลับ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- ความร่วมมือทางวิชาการ ในการประชุมความร่วมมือทางวิชาการไทย – มัลดีฟส์ (Thai – Maldives Joint Commission on Economic and Technical Cooperation) ณ กรุงมาลี เมื่อปี 2535 และ 2536 รัฐบาลไทย (โดยกรมวิเทศสหการ) เริ่มให้ความช่วยเหลือแก่มัลดีฟส์อย่างจริงจัง ทั้งทางด้านสาธารณสุข ประมง เกษตร การท่องเที่ยว การบิน การให้ทุนศึกษาในระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยแก่นักเรียน/นักศึกษามัลดีฟส์ รวมทั้งจัดส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวชและการแพทย์ไปฝึกอบรมเจ้าหน้าที่มัลดีฟส์ตามโครงการ Thai Aid Programme โครงการ Third Country Training Programme และข้อตกลงในกรอบของความร่วมมือทางวิชาการ ฝ่ายไทย โดยกรมวิเทศสหการได้ให้ความช่วยเหลือ/ความร่วมมือทางวิชาการอย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยจัดทำกรอบของแผนการให้ความช่วยเหลือ/ร่วมมือทางวิชาการ 3 ปี ระหว่างปี 2539-2541 และได้ขยายแผนดังกล่าวออกไปอีก 3 ปี ระหว่างปี 2542-2544
- สินค้าที่ส่งออก ปลา เนื้อมะพร้าวแห้ง ปลาทูน่าสด แช่เย็นและแช่แข็ง
เศรษฐกิจ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ สิงคโปร์ อินเดีย ศรีลังกา สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนาดา เยอรมัน อังกฤษ ไทย
อุตสาหกรรมประมง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การท่องเที่ยว
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
โครงสร้างพื้นฐาน
การคมนาคม และ โทรคมนาคม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การศึกษา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สาธารณสุข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประชากรศาสตร์
เชื้อชาติ
ชนพื้นเมืองที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศมัลดีฟส์ คือกลุ่มผู้ใช้ตระกูลภาษาอินโด-อารยัน ซึ่งอพยพมาจากศรีลังกา เมื่อหลายศตวรรษแล้ว และเป็นบรรพบุรุษของชาวมัลดีฟส์ในปัจจุบันพยพเข้ามา ต่อมาในศตวรรษที่ 12 ก็มีชาวแอฟริกัน และชาวอาหรับ อพยพมาอยู่อาศัยกัน
ศาสนา
กลุ่มชนกลุ่มแรกของมัลดีฟส์ ช่วงแรกนั้น จะนับถือพระพุทธศาสนา นิกายเถรวาท (ดูเพิ่มเติมได้ที่พุทธศาสนาในประเทศมัลดีฟส์) แต่ต่อมามีการเข้ารีตนับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่จำนวนมาก และในปัจจุบันก็ได้เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมัลดีฟส์ ในร้อยละ 99
เมืองใหญ่
แม่แบบ:Largest cities of the Maldives
วัฒนธรรม
ดนตรี
วันหยุด
กีฬา
อ้างอิง
- ↑ "Maldives". CIA World Factbook.
- ↑ "GeoHive - Maldives Population". GeoHive.
- ↑ 3.0 3.1 "Maldives". International Monetary Fund. สืบค้นเมื่อ 19 April 2012.
- ↑ "2014 Human Development Report Summary" (PDF). United Nations Development Programme. 2014. pp. 21–25. สืบค้นเมื่อ 27 July 2014.
- ↑ http://www.geonames.org/MV/largest-cities-in-maldives.html