ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลิกล้มราชาธิปไตย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Antemister (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 570: บรรทัด 570:
| rowspan = "2"|[[การรัฐประหาร]]
| rowspan = "2"|[[การรัฐประหาร]]
|-
|-
|[[ไฟล์:Flag of Ethiopia (1897).png|31px]]
|[[ไฟล์:Flag of Ethiopia (1897-1936; 1941-1974).svg|31px]]
|เอธิโอเปีย
|เอธิโอเปีย
|[[ไฟล์:Selassie restored.jpg|120px]]
|[[ไฟล์:Selassie restored.jpg|120px]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:43, 18 เมษายน 2557

ในประวัติศาสตร์โลก มีการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ในหลายประเทศทั่วโลก สาเหตุการล่มสลายของราชวงศ์อาจเป็นผลมาจากการปฏิวัติ, การตั้งสาธารณรัฐ, การลงประชามติของประชาชน, การรัฐประหาร หรือจากสงคราม

  • ปัจจุบัน ประเทศที่ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น เกาหลี, จักรวรรดิจีน และจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี เป็นต้น
  • บางประเทศ แม้จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ไปแล้วแต่ก็ได้มีการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ เช่น สเปน, สหราชอาณาจักร และกัมพูชา ซึ่งประเทศเหล่านี้เคยมีประวัติศาสตร์ในช่วงที่ไร้กษัตริย์หรือช่วงสาธารณรัฐ จนมีการฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์ในภายหลัง และพระมหากษัตริย์ก็ทรงกลับมาเป็นประมุขแห่งรัฐเช่นเดิมมาจนถึงปัจจุบัน
  • บางประเทศถึงมีการฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์แต่ก็ถูกล้มล้างอีก ทำให้การฟื้นฟูไม่เป็นผลสำเร็จ เช่น กรีซและฝรั่งเศส เป็นต้น

พระบรมวงศานุวงศ์ที่เหลือรอดมาจากการล้มล้างก็ยังคงใช้คำนำหน้าพระนามเป็นพระอิสริยยศที่เคยดำรงอยู่ เช่น เจ้าหญิงเฮวอนแห่งเกาหลี ก็ยังคงใช้คำนำหน้าพระนามหรือพระอิสริยศว่า "จักรพรรดินีแห่งเกาหลี" ยังรอการหวนคืนสู่ราชบัลลังก์ และบางประเทศในปัจจุบันก็มีเสียงเรียกร้องให้ฟื้นฟูราชวงศ์ขึ้นมาใหม่ เช่นที่ สาธารณรัฐเกาหลี, สาธารณรัฐออสเตรีย และสาธารณรัฐฮังการี เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีการสิ้นสุดลงของพระราชวงศ์ที่ไม่ได้เกิดจากรัฐประหารหรือสาเหตุอื่น ๆ แต่เนื่องจากพระมหากษัตริย์ของประเทศนั้นไม่มีองค์รัชทายาทหรือผู้สืบทอดราชบัลลังก์ เช่น ซามัว

ประวัติศาสตร์

ตัวอย่างของการล้มล้างพระราชวงศ์เช่น ในปี ค.ศ. 1649 พระราชวงศ์อังกฤษ โดยรัฐสภาแห่งอังกฤษภายใต้การนำของ โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ แต่ก็ได้มีการฟื้นฟูภายหลังในปี ค.ศ. 1660 อีกแห่งที่ฝรั่งเศส พระราชวงศ์ฝรั่งเศสถูกล้มล้างในปี ค.ศ. 1792 ในระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส และก็ได้มีการฟื้นฟูในภายหลังหลายครั้งแต่สุดท้ายฝรั่งเศสก็ได้กลายเป็นสาธารณรัฐ , ในปี ค.ศ. 1871 ราชวงศ์จีนอันเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานก็ถูกล้มล้างและพระจักรพรรดิก็ถูกถอดถอน ซึ่งพระจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนก็คือ จักรพรรดิผู่อี๋ โดยการปฏิวัติของ ซุน ยัตเซ็น, สมเด็พระจักรพรรดิโกจงแห่งเกาหลี พระจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งจักรวรรดิเกาหลีก็สูญเสียราชบัลลังก์ในปี ค.ศ. 1910 เมื่อจักรวรรดิญี่ปุ่นเข้ายึดครองเกาหลีและให้พระราชวงศ์ญี่ปุ่นดำรงเป็นพระประมุขแห่งเกาหลีสืบต่อแทน และอีกแห่งหนึ่งนั้นก็คือมองโกเลีย หลังจากพระมหากษัตริย์ได้สวรรคตลง มองโกเลียก็ได้กลายเป็นสาธารณรัฐ

ในปี ค.ศ. 1893 ผู้นำของกระทรวงการค้าต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรฮาวาย ก็ได้ทำการยึดอำนาจจากสมเด็จพระราชินีนาถแห่งราชอาณาจักรฮาวาย และได้ก่อตั้งเป็นสาธารณรัฐจนเข้าร่วมเป็นรัฐสมาชิกรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1898, พระราชวงศ์โปรตุเกสก็ถูกล้มล้างในปี ค.ศ. 1910 สองปีหลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าคาร์ลอสที่ 1 แห่งโปรตุเกส

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้เกิดการล้มล้างอำนาจของพระราชวงศ์ทั่วโลกครั้งใหญ่ เช่น ในจักรวรรดิรัสเซียภาวะความอดอยากและยากจนของประเทศจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้ทำให้เกิดการปฏิวัติยึดอำนาจพระราชวงศ์รัสเซีย และได้ก่อให้เกิดลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่เน้นการต้อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งภายหลังได้ทำการสังหารหมู่พระราชวงศ์รัสเซีย ส่วนประเทศที่ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลง ได้แก่ จักรวรรดิเยอรมัน, จักรวรรดิออสเตรีย - ฮังการี, และจักรวรรดิออตโตมาน ในระหว่างสงครามพระราชวงศ์บางแห่งก็มีแผนที่จะประกาศเอกราชและก่อตั้งราชวงศ์เช่น แกรนด์ดัชชีฟินแลนด์ และที่ ลิทัวเนีย รวมทั้งรัฐในอารักขา และอาณานิคมบางแห่งของจักรวรรดิเยอรมัน ซึ่งทั้งพระมหากษัตริย์แห่งฟินแลนด์และลิทัวเนีย ก็ได้สละราชบัลลังก์ภายหลังการพ้ายแพ้ของเยอรมัน ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918

ในปี ค.ศ. 1939 ราชอาณาจักรอิตาลี ก็ได้เข้ายึดครองแอลเบเนียซึ่งได้ทำการล้มล้างพระราชวงศ์แอลเบเนีย และสถาปนาพระราชวงศ์อิตาลีขึ้นเป็นพระประมุขแห่งแอลเบเนีย ตลอดจนพระราชวงศ์ของยุโรปตะวันออก เช่นพระราชวงศ์บัลแกเรีย, ฮังการี และโรมาเนีย ก็ได้เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อต้านราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย, ฝ่ายสัมพันธมิตร และสหภาพโซเวียต ในขณะที่ฝ่ายอักษะกำลังพ้ายแพ้ในสงคราม แนวร่วมของลัทธิคอมมิวนิสต์ทั้งใน ยูโกสลาเวีย และแอลเบเนีย ก็ได้ทำการยึดอำนาจและล้มล้างพระราชวงศ์ของทั้งสองประเทศลง ส่วนลัทธิคอมมิวนิสต์ในบัลแกเรีย, ฮังการี และโรมาเนีย ก็ได้ทำการล้มล้างพระราชวงศ์ของตนโดยกองกำลังอันแข็งแกร่งของสหภาพโซเวียต ที่มีทั้งอาวุธและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนมากในระหว่างการดำเนินไปของสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะที่พระมหากษัตริย์แห่งอิตาลีก็ได้ทำการสลับข้างจากฝ่ายอักษะเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงครามจากความอนุเคราะห์ของฝ่ายสัมพันธมิตร แต่ถึงอย่างไรก็ตามพระราชวงศ์อิตาลีก็สิ้นสุดลงจากการลงประชามติของประชาชนชาวอิตาลีในปี ค.ศ. 1946 เช่นกัน แต่มีพระมหากษัตริย์แห่งเดียวในโลกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ถึงแม้จะพ้ายแพ้ในสงคราม แต่พระราชวงศ์ก็มิได้ถูกล้มล้างนั้นคือ สมเด็จพระจักรพรรดิโชวะแห่งญี่ปุ่น ที่ถึงแม้จะเป็นผู้ให้การต่อต้านการทำสงครามแต่ก็เป็นผู้คุมอำนาจสำคัญของการทำศึกต่อต้านฝ่ายสัมพันธมิตร ที่ยินยอมให้สหรัฐอเมริกาเข้าควบคุมญี่ปุ่นแทนการถูกนำตัวไปขึ้นศาลโลกในฐานะอาชญากรสงครามและล้มล้างพระราชวงศ์ญี่ปุ่น แต่ทว่าตระกูลเจ้าชายต่างๆ ในระบบศักดินาได้ถูกทำลายแทน

ในราชอาณาจักรกรีซ สมเด็จพระราชาธิบดีและพระราชวงศ์ก็ถูกเนรเทศโดยกองทัพจากการรัฐประหาร ในปี ค.ศ. 1967 ถึงแม้จะมีการฟื้นฟูในภายหลังแต่ก็ถูกล้มล้างอีกครั้งจากการลงประชามติของประชาชนในปี ค.ศ. 1974

ระบอบราชาธิปไตยในอินเดีย, เคนยา, แทนซาเนีย, แซมเบีย และซิมบับเว ถูกล้มลงไม่นานหลังจากได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในขณะที่เป็นรัฐสมาชิกของเครือจักรภพแห่งชาติได้มีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เป็นพระประมุขมาโดยตลอด

ความพยายามในการฟื้นฟูราชวงศ์

นอกจากนี้ยังมีประเทศที่มีความพยายามที่จะฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์ของตนเองขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นที่ บราซิล ในปี ค.ศ. 1990 รัฐสภาแห่งบราซิลได้มีการลงมติให้มติการฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันตกไป ในขณะที่ยังมีความพยายามในการฟื้นฟูพระราชวงศ์ยังคงดำเนินต่อไปในทางภาคตะวันออกของประเทศ ที่บัลแกเรีย พระเจ้าซาร์ซิเมออนที่ 2 พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายที่ได้ขึ้นเสวยราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศ ทรงได้รับเลือกมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ โดยดำรงตำแหน่งตามวาระ 4 ปี เริ่มดำรงตำแหน่งในปี ค.ศ. 2001 ถึง ค.ศ. 2005 แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้มีการฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศขึ้นมาแต่อย่างใด ที่ออสเตรเลียเองก็มีปัญหาเกี่ยวกับพระราชวงศ์อังกฤษขึ้นมา เนื่องจากประชาชนบางกลุ่มต้องการให้ออสเตรเลียกลายเป็นสาธารณรัฐ จึงได้ยื่นข้อเสนอเข้ารัฐสภาและก็ได้มีการลงมติของรัฐสภาในเรื่องนี้ ผลที่ออกมาก็คือรัฐสภาของทุกรัฐลงมติให้ออสเตรเลียยังคงใช้ระบอบการปกครองแบบเดิม ที่มีพระประมุขของประเทศยังคงเป็น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ยกเว้นที่เขตนครหลวงแห่งออสเตรเลียที่ผ่านข้อเสนอเท่านั้น ที่แอลเบเนียเองก็ได้มีความพยายามฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นกันในปี ค.ศ. 1997 แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ส่วนที่สาธารณรัฐเกาหลี ค.ศ. 2007 สมเด็จพระจักรพรรดินีเฮวอนแห่งเกาหลี ได้ประกาศที่จะฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์ภายในประเทศขึ้นมาอีกครั้ง แต่รัฐบาลกลางของเกาหลีก็ยังไม่ได้มีการเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือพิจารณาในกรณีนี้ ซึ่งแนวทางในการฟื้นฟูมีความเป็นไปได้สูงเพราะว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของเกาหลีเองก็มีบทบาทในการเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนเรื่อยมาตั้งแต่หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง โดยคาดการณ์กันว่าสองเกาหลีจะต้องรวมประเทศกันเสียก่อนถึงจะมีการฟื้นฟู และเกาหลีใหม่นี้จะต้องปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่โรมาเนียเองสถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศก็มีบทบาทเป็นเป็นศูนย์รวมใจของประชาชน โดยมีการยื่นให้รัฐสภามีการพิจารณาฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์ขึ้นมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เซอร์เบียที่พระราชวงศ์ต่างได้สิทธิจากรัฐบาลให้พำนักในพระราชวังในเมืองหลวงและยังคงมีบทบาททางสังคมเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน อีกทั้งพระราชวงศ์ยังปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ มากมายเช่น ด้านสิทธิมนุษยชน เป็นต้น ซึ่งที่เซอร์เบียนี้เองที่มีความพยายามอย่างมากในการฟื้นฟูพระราชวงศ์เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงเป็นกลุ่มนิยมกษัตริย์

รายชื่อประเทศที่ถูกล้มล้างพระราชวงศ์

ประเทศ พระรูป พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้าย ปี หมายเหตุ
ทศวรรษที่ 1880-1900
จักรวรรดิบราซิล สมเด็จพระจักรพรรดิเปดรูที่ 2 แห่งบราซิล ค.ศ. 1889 เกิดการปฏิวัติ
ราชอาณาจักรฮาวาย สมเด็จพระราชินีนาถลีลีโอกาลานีแห่งฮาวาย ค.ศ. 1895 สถาปนาสาธารณรัฐฮาวาย


ทศวรรษที่ 1910
ราชอาณาจักรโปรตุเกส สมเด็จพระเจ้าเอ็มมานูเอลที่ 2 ค.ศ. 1910 เกิดการปฏิวัติ
จักรวรรดิเกาหลี สมเด็จพระจักรพรรดิซุนจง ล้มล้างพระราชวงศ์โดยจักรวรรดิญี่ปุ่นและมีพระราชวงศ์ญี่ปุ่นเป็นประมุขตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945
จักรวรรดิชิง สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ ค.ศ. 1912 การปฏิวัติ – พระจักรพรรดิถูกถอดถอนโดยเหล่านักการเมืองและพวกสาธารณรัฐนิยม
ราชรัฐแอลเบเนีย ไฟล์:WilhelmPrinceAlbania.jpg เจ้าชายวิลเลี่ยมที่ 1 ค.ศ. 1914 ถูกล้มล้างลงแต่ก็ได้มีการฟื้นฟูขึ้นในปี ค.ศ. 1928 (ราชอาณาจักรแอลเบเนีย)
จักรวรรดิรัสเซีย สมเด็จพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ค.ศ. 1917 เกิดการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์
ราชอาณาจักรมอนเตเนโกร สมเด็จพระเจ้านิโคลัสที่ 1 ค.ศ. 1918 ลงประชามติให้ถอดถอนพระราชาและรวมประเทศเข้ากับราชอาณาจักรเซอร์เบีย
จักรวรรดิเยอรมัน สมเด็จพระจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 รัฐสมาชิกของจักรวรรดิเยอรมันทั้งหมดพ้ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และจากการปฏิวัติเยอรมัน
ราชอาณาจักรปรัสเซีย
ราชอาณาจักรบาวาเรีย ไฟล์:Kingludwig3bavaria.jpg สมเด็จพระเจ้าลุกวิกที่ 3
ราชอาณาจักรเวือร์ทเทมแบร์ก สมเด็จพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 2
ราชอาณาจักรแซกโซนี ไฟล์:FA3 of Saxony.png สมเด็จพระเจ้าฟรีดริช ออกัสที่ 3
แกรนด์ดัชชีเฮสส์ ไฟล์:ErnstLouisHesse.jpg สมเด็จพระเจ้าเอิร์นส์ ลุดวิกที่ 1
ราชรัฐบาเดิน ไฟล์:GrandDukeFriedrichII.jpg สมเด็จพระเจ้าฟรีดริชที่ 2
ราชรัฐแซก-ไวมาร์-ไอเซนาร์ช ไฟล์:GrandDukeWILHELM.jpg สมเด็จพระเจ้าวิลเฮล์ม เอิร์นส์ที่ 1
ราชรัฐแมคเคลนบวร์ก-เชสวริน ไฟล์:Frederick Francis IV, Grand Duke of Mecklenburg-Schwerin.jpg สมเด็จพระเจ้าฟรีดริช ฟรานส์ที่ 4
ราชรัฐเม็คเคลนบวร์ก-สเตรอลิตส์ ไฟล์:AdolfFriedrichVI.jpg สมเด็จพระเจ้าอดอลฟัส เฟรเดอริคที่ 6
รัฐโอลเดนบวร์ก สมเด็จพระเจ้าฟรีดริช ออกัสที่ 2
ดัชชีบรุนส์วิก ไฟล์:Ernstaugusthannover.jpg สมเด็จพระเจ้าเอิร์นส์ ออกัสที่ 1
รัฐอันฮัลต์ ไฟล์:Joachim Ernst, Duke of Anhalt.jpg สมเด็จพระเจ้าโจอาชิม เอิร์นส์ที่ 1
ดัชชีแซชเซน-โคบูร์กและโกธา สมเด็จพระเจ้าคาร์ล เอ็ดการ์ดที่ 1
รัฐแซก-เมนนิเจน สมเด็จพระเจ้าเบิร์นฮาร์ทที่ 3
ราชรัฐแซก-อัลเทนบวร์ก ไฟล์:Ernstii.jpg ดยุคเอิร์นส์ที่ 2
รัฐวัลด์เดค-พีรมอนต์ ไฟล์:PrinceFRIEDRICHPyrmont.jpg เจ้าชายฟรีดริชที่ 1
ราชรัฐลิปป์ ไฟล์:Leopold IV Fürst zur Lippe.jpg สมเด็จพระเจ้าลีโอโพลด์ที่ 4
รัฐชควกควมเบิร์ก-ลิปป์ ไฟล์:AdolfSchaumburgLippe.jpg เจ้าชายอดอล์ฟที่ 2
รัฐเชควาร์ทบูร์ก-รูดอลสติตซ์ เจ้าชายกุนเตอร์ วิคเตอร์ที่ 1
รัฐเชควาร์ทบูร์ก-ซอนเดอร์ฮุสเซน
เรอสส์ สายหลัก
เรอสส์ สายรอง
ราชอาณาจักรออสเตรีย สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 1 ถูกถอดถอนและล้มล้างพระราชวงศ์
จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
ราชอาณาจักรฟินแลนด์ สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริค ชาร์ลส์ที่ 1 ไม่เคยได้ขึ้นเสวยราชย์
ราชอาณาจักรลิทัวเนีย สมเด็จพระเจ้ามินดัวกัส
(ว่าที่พระมหากษัตริย์)
ราชอาณาจักรโปแลนด์ - ไม่มี (สำเร็จราชการโดยคณะผู้สำเร็จราชการแทน) ไม่มีผู้สืบทอดราชบัลลังก์
ราชอาณาจักรฮังการี สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 4 แม้จะฟื้นฟูในปี ค.ศ. 1920 แต่ก็เหลือไว้เพียงราชบัลลังก์อันว่างเปล่ากับผู้สำเร็จราชการแทน
ราชอาณาจักรเซอร์เบีย สมเด็จพระราชาธิบดีปีเตอร์ที่ 1 เปลี่ยนเป็นราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย
ทศวรรษที่ 1920
ราชอาณาจักรอิสลามบูคารา (อุซเบกิสถาน) สมเด็จพระเจ้าโมฮัมเม็ด อาลิม คาห์น ค.ศ. 1920
เขตปกครองของข่านแห่งคิวา (อุซเบกิสถาน) ไฟล์:Sayid Abdullah.jpg สมเด็จพระเจ้าอับดุลเลาะห์ คาห์น
ราชอาณาจักรซีเรีย สมเด็จพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1
ประมุขร่วมกับราชอาณาจักรอิรัก
ค.ศ. 1920 ระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้างจากการพ่ายแพ้ในการปิดล้อมที่ดามัสกัส
จักรวรรดิออตโตมาน สุลต่านเมห์เมดที่ 6 ค.ศ. 1923 สงครามเพื่อเอกราชตุรกีจากการตัดสินใจของรัฐสภาในปี ค.ศ. 1923
รัฐกาหลิฟแห่งออตโดมาน สุลต่านอับดุลเมซิดที่ 2 ค.ศ. 1924
ราชอาณาจักรกรีซ สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จที่ 2 มีการฟื้นฟูพระราชวงศ์ในปี ค.ศ. 1935 แต่ต่อมาก็ถูกถอดถอนออกจาพระอิสริยยศอีกครั้งในปี ค.ศ. 1974
มองโกเลีย บอจด์ ข่าน ถูกยึดอำนาจ
จักรวรรดิเปอร์เซีย พระเจ้าชาห์อะหมัด ชาห์ กอญัร ค.ศ. 1925 เปลี่ยนเป็นจักรวรรดิอิหร่าน


ทศวรรษที่ 1930
ราชอาณาจักรสเปน ไฟล์:Alfonso XIII of Spain.jpg สมเด็จพระราชาธิบดีอัลฟอนโซที่ 13 ค.ศ. 1931 ภายหลังได้มีการฟื้นฟูพระราชวงศ์ขึ้นมาอีกครั้ง
ราชอาณาจักรแอลเบเนีย สมเด็จพระราชาธิบดีซ็อกที่ 1 ค.ศ. 1939 ราชบัลลังก์ถูกช่วงชิงโดยพระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 แห่งอิตาลี หลังจากการรุกรานโดยอิตาลี
ทศวรรษที่ 1940
ราชอาณาจักรแอลเบเนีย สมเด็จพระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 ค.ศ. 1943 ทรงสละราชบัลลังก์จากการสงบศึก
ราชอาณาจักรโครเอเชีย สมเด็จพระเจ้าโทมิสลาฟว์ที่ 2 ค.ศ. 1943 สละราชสมบัติภายหลังจากการบีบบังคับที่ราชอาณาจักรอิตาลีให้การสนับสนุน
ราชอาณาจักรไอซ์แลนด์ สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 10 ค.ศ. 1944 การเป็นสหพันธ์รัฐกับเดนมาร์กสิ้นสุดลง
ราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย สมเด็จพระราชาธิบดีปีเตอร์ที่ 2 ค.ศ. 1945 การสถาปนาระบอบคอมมิวนิสต์
จักรวรรดิแมนจู สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ จักรวรรดิกลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐจีนหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิ
ราชอาณาจักรฮังการี - ไม่มี (ผู้สำเร็จราชการแทน) ค.ศ. 1946 ตัดสินใจให้เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐโดยรัฐสภาโดยปราศจากการลงประชามติ
ราชอาณาจักรอิตาลี สมเด็จพระเจ้าอุมแบร์โตที่ 2 ผลจากการลงประชามติ 54.3% ให้เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ
ราชอาณาจักรบัลแกเรีย สมเด็จพระเจ้าซาร์ซิเมออนที่ 2 การลงประชามติที่ริเริ่มโดยสหภาพโซเวียต ซึ่งผลอย่างเป็นทางการ 95% ต่อต้านพระราชวงศ์
ราชอาณาจักรแอลเบเนีย พระเจ้าซ็อกที่ 1 ถอดถอนโดยพวกคอมมิวนิสต์
ราชอาณาจักรซาราวัก ไฟล์:Sarawak-vyner.jpg ชาร์ลส์ ไวเนอร์ บรู๊ค เข้ายึดอำนาจโดยอังกฤษ
ราชอาณาจักรโรมาเนีย สมเด็จพระราชาธิบดีไมเคิลที่ 1 ค.ศ. 1947 บังคับให้สละราชสมบัติโดยพวกคอมมิวนิสต์
ราชรัฐอินเดีย - หลายพระองค์ในแต่ละแคว้น ค.ศ. 1947 -
ค.ศ. 1950
กลายมาเป็นสาธารณรัฐจากเอกราชของอินเดีย
ราชอาณาจักรไอร์แลนด์ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ค.ศ. 1949 การเป็นสหราชอาณาจักรกับบริเตนใหญ่ สิ้นสุดลง
ราชรัฐไอร์แลนด์เหนือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ค.ศ. 1949 การเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรไอร์แลนด์สิ้นสุดลง สถาปนารัฐไอร์แลนด์เหนือ
ทศวรรษที่ 1950
จักรวรรดิอินเดีย สมเด็จพระจักรพรรดิจอร์จที่ 6 ค.ศ. 1950 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
จักรวรรดิบริติช สมเด็จพระจักรพรรดิจอร์จที่ 6 ค.ศ. 1950 สถาปนาแทนเครือจักรภพแห่งชาติ
ราชอาณาจักรอียิปต์ ไฟล์:احمد فؤاد الثانيedit.jpg พระเจ้าฟูอัดที่ 2 ค.ศ. 1953 การรัฐประหาร
จักรวรรดิเวียดนาม ไฟล์:Bao Dai4.jpg สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ค.ศ. 1955 ลงประชามติถอดถอน
รัฐปากีสถาน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ค.ศ. 1956 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
ราชรัฐตูนิเซีย สุลต่านมูฮัมเม็ดที่ 8 อัล-อามีน ค.ศ. 1957 การรัฐประหาร
ราชอาณาจักรอิรัก ไฟล์:Faisal II.jpg พระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 ค.ศ. 1958
ทศวรรษที่ 1960
กานา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ค.ศ. 1960 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
สหพันธ์รัฐแอฟริกาใต้ ค.ศ. 1961
ราชอาณาจักรรวันดา ไฟล์:Kigeli V of Rwanda.jpg สมเด็จพระเจ้าคิเกลิที่ 5 การรัฐประหาร
แทนกันยิกา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ค.ศ. 1962 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
ราชอาณาจักรมุกตาวักกิลิทเยเมน สุลต่านมูฮัมมัดที่ 11 การรัฐประหาร
ไนจีเรีย สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ค.ศ. 1963 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
ยูกันดา
เคนยา ค.ศ. 1964
แซนซิบาร์ สุลต่านจามชิด บิน อับดุลลาห์ การรัฐประหาร
ราชอาณาจักรบุรุนดี ไฟล์:Ntare V of Burundi.jpg สมเด็จพระเจ้านทาร์ที่ 5 ค.ศ. 1966
มาลาวี สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
ราชอาณาจักรมัลดีฟส์ ไฟล์:King Fareed.jpg สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัด ฟารีด ดิดิ ค.ศ. 1968 การลงประชามติ
ราชอาณาจักรลิเบีย สมเด็จพระเจ้าไอดริสที่ 1 ค.ศ. 1969 การรัฐประหาร
ทศวรรษที่ 1970
ราชอาณาจักรกัมพูชา ไฟล์:King Norodom Sihanouk.jpg พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหนุ ค.ศ. 1970 ภายหลังได้มีการฟื้นฟู
แกมเบีย สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
กายอานา
เซียร์ราลีโอน ค.ศ. 1971
ซีลอน (ศรีลังกา) ค.ศ. 1972 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
ราชอาณาจักรอัฟกานิสถาน สมเด็จพระเจ้ามูฮัมเม็ด ซาฮีร์ ชาห์ ค.ศ. 1973 การรัฐประหาร
เอธิโอเปีย สมเด็จพระจักรพรรดิเฮลี เซลาสซีที่ 1 ค.ศ. 1974
ราชอาณาจักรกรีซ สมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 2 การลงประชามติผลออกมาคือ 69% ต้องการให้เปลี่ยนระบอบการปกครอง
มอลตา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
ราชอาณาจักรลาว ไฟล์:Savang Vatthana.jpg พระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ค.ศ. 1975 การรัฐประหาร
รัฐสิกขิม ปาร์ลเดน ทอนดับ นามกยาล การลงประชามติผลออกมาว่า 97% ต้องการให้เป็นรัฐสมาชิกรัฐหนึ่งของอินเดีย
ตรินิแดดและโตบาโก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ค.ศ. 1976 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
จักรวรรดิอิหร่าน สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมมัด เรซา ปาห์เลวี ค.ศ. 1979 ปฏิวัติอิสลาม
จักรวรรดิแอฟริกากลาง ไฟล์:Car-bokassa-2.jpg สมเด็จพระจักรพรรดิโบคัสซาที่ 1 การรัฐประหาร
ทศวรรษที่ 1980
ฟิจิ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ค.ศ. 1987 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
ทศวรรษที่ 1990
มอริเชียส สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ค.ศ. 1992 ถอนตัวออกจากเครือจักรภพแห่งชาติที่มีพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษเป็นพระประมุข
ทศวรรษที่ 2000
ซามัว ไฟล์:Malietoa Tanumafili II.gif มาลีเอตัว ตานุมาฟิลิที่ 2 ค.ศ. 2007 ไม่มีผู้สืบทอดราชบัลลังก์
ราชอาณาจักรเนปาล ไฟล์:King Gyanendra of Nepal.jpg สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ ค.ศ. 2008 ถอดถอนพระราชวงศ์และเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ[1]

รายชื่อราชาธิปไตยในปัจจุบันที่ได้รับการฟื้นฟู

ประเทศ ปีที่ล้มล้าง หมายเหตุ ปีที่ฟื้นฟู
ราชอาณาจักรอังกฤษ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์ ค.ศ. 1649 เปลี่ยนผ่านมาจากเครือจักรภพแห่งอังกฤษและการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ ค.ศ. 1660
ราชอาณาจักรสเปน ค.ศ. 1873 เปลี่ยนผ่านมาจากสาธารณรัฐสเปนที่ 1 ค.ศ. 1874
ค.ศ. 1931 เปลี่ยนผ่านมาจากสาธารณรัฐสเปนที่ 2 แล้วจากนั้นจึงเกิดการฟื้นฟูในปี 1947 ซึ่งการฟื้นฟูมาจากคำสั่งเสียของจอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก ค.ศ. 1975
อันโกเล ค.ศ. 1967 ถูกล้มล้างจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของ มิลตัน โอเบเต ค.ศ. 1993
บูกันดา
บุนโยโร
โตโร
ราชอาณาจักรกัมพูชา ค.ศ. 1970 เกิดการรัฐประหาร ค.ศ. 1975
ค.ศ. 1976 หลังจากการล้มล้างสองครั้งท้ายที่สุดก็ได้มีการฟื้นฟูอีกครั้งในปี ค.ศ. 1993 ค.ศ. 1993
รเวนซูรูรู (ส่วนหนึ่งของยูกันดา) ค.ศ. 1982 ถูกล้มเลิกโดยรัฐบาล ค.ศ. 2009
(พฤตินัย)

อ้างอิง

ดูเพิ่ม