ข้ามไปเนื้อหา

ราชวงศ์ญี่ปุ่น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก พระราชวงศ์ญี่ปุ่น)
ราชวงศ์ญี่ปุ่น
พระราชลัญจกรดอกเบญจมาศ
สัญลักษณ์ประจำจักรพรรดิญี่ปุ่น
พระราชอิสริยยศจักรพรรดิ
ปกครองญี่ปุ่น
สาขา
  • อากิชิโนะ
  • ฮิตาจิ
  • มิกาซะ
  • ทากามาโดะ
  • พระชายาในเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ
จำนวนพระมหากษัตริย์126 พระองค์
ประมุขพระองค์แรกจักรพรรดิจิมมุ
ผู้นำสกุลองค์ปัจจุบันจักรพรรดินารูฮิโตะ
ช่วงระยะเวลา660 ปีก่อนคริสตกาล - ปัจจุบัน (2684 ปี)
สถาปนา660 ปีก่อนคริสตกาล

ราชวงศ์ญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 皇室; โรมาจิ: Kōshitsu; ทับศัพท์: โคชิตสึ; อังกฤษ: Imperial House of Japan) เป็นหนึ่งในราชวงศ์ที่มีอายุยืนยาวนานมากที่สุดในโลก และเป็นราชวงศ์ที่มีการสืบสันตติวงศ์มากที่สุดในโลก[1] โดยนับตั้งแต่การขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิจิมมุ เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 660 ปีก่อนคริสตกาล[1][2][3] (116 ปีก่อนพุทธศักราช) จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ รวมเป็นระยะเวลากว่า 2684 ปี โดยมีจักรพรรดิ/จักรพรรดินีที่ปกครองรวมทั้งหมด 126 รัชกาล

จักรพรรดิจิมมุ และจักรพรรดิในยุคแรกๆ จะถือว่าเป็นยุคตำนาน ซึ่งไม่ได้มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจน มีแต่การเล่าขานเป็นส่วนใหญ่[4] จึงยังเป็นข้อถกเถียงกันว่าควรนับจุดเริ่มต้นของราชวงศ์ญี่ปุ่นจากจักรพรรดิจิมมุหรือไม่ นักวิชาการบางส่วนระบุว่ามีหลักฐานมากพอที่จะนับจุดเริ่มต้นของราชวงศ์ญี่ปุ่นจากจักรพรรดิจิมมุ[1][3] แต่นักวิชาการบางส่วนก็ระบุว่าควรเริ่มนับจาก จักรพรรดิคิมเม มากกว่า ซึ่งพระองค์ครองราชย์เมื่อ พ.ศ. 1052 เนื่องจากมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้[5][6] ถ้าหากนับตามทฤษฎีหลัง ราชวงศ์ญี่ปุ่นในปัจจุบันจะมีอายุ 1516 ปี และมีจักรพรรดิ/จักรพรรดินีที่ปกครองรวมทั้งหมด 98 รัชกาล

สัญลักษณ์ประจำราชวงศ์ญี่ปุ่น คือ ตราราชวงศ์ดอกเบญจมาศ (ญี่ปุ่น: 菊花紋章; โรมาจิ: Kiku-Ka-Mon-Shou; ทับศัพท์: คิกู-กา-มน-โช) ซึ่งเป็นหนึ่งในตราดอกเบญจมาศ (ญี่ปุ่น: 菊花紋; โรมาจิ: Kiku-Ka-Mon; ทับศัพท์: คิกู-กา-มน) สำหรับราชวงศ์ญี่ปุ่นนั้น จะมีการออกแบบตราดอกเบญจมาศออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่

  1. ตราดอกเบญมาศกลีบซ้อน 16 กลีบ จะใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ของจักรพรรดิ หรือที่เรียกว่า "พระราชลัญจกรดอกเบญจมาศ"[7]
  2. ตราดอกเบญจมาศกลีบเดี่ยว 14 กลีบ จะใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์[7] เช่น ตราประจำ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา)

นิยามและขอบเขต

[แก้]

"โคชิตสึ" (ราชวงศ์ญี่ปุ่น) โดยคำนิยามหมายถึง "จักรพรรดิและพระบรมวงศานุวงศ์"[8] ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นคำว่า "คิวชิตสึ" (宮室)[9] และ "เทชิตสึ" (帝室)[10] มาก่อน

ขอบเขตของ "โคชิตสึ" (ราชวงศ์ญี่ปุ่น) จะมีความแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย สำหรับยุคปัจจุบันนั้น หลังจากที่จักรวรรดิญี่ปุ่นพ้ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ชนะสงคราม ได้ทำการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้กับญี่ปุ่น โดยประกาศใช้เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 และมีผลบังคับใช้เป็นรัฐธรรมนูญในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2490 เป็นต้นมา[11][12]

ซึ่งในมาตรา 2 และ มาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญได้มีการระบุถึงกฎมณเฑียรบาลญี่ปุ่น จึงทำให้ทางสภานิติบัญญัติแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น (帝国議会) ทำการร่างกฎมณเฑียรบาลขึ้นมาแทนฉบับเดิม โดยประกาศใช้เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2490 และเป็นกฎหมายต้นฉบับที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน[12][13]

กฎมณเฑียรบาลบัญญัติว่า "มาตรา 5 พระบรมวงศานุวงศ์ ได้แก่ จักรพรรดินี, จักรพรรดินีอัยยิกาเจ้า, จักรพรรดินีพันปีหลวง, ชินโน, ชินโนฮิ, ไนชินโน, โอ, โอฮิ และโจโอ" นอกจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้ว ผลกระทบของการแพ้สงครามยังทำให้พระบรมวงศานุวงศ์จำนวน 51 พระองค์ (เป็นฝ่ายชาย 26 พระองค์ และฝ่ายหญิง 25 พระองค์) ของราชวงศ์สาขา จำนวน 11 สาขา ถูกลดฐานันดรศักดิ์ไปเป็นสามัญชน โดยให้เหลือเพียงแค่พระบรมวงศานุวงศ์ใกล้ชิดของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะเท่านั้น จึงทำให้จำนวนพระบรมวงศานุวงศ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นในปัจจุบันลดลงเป็นอย่างมาก[14][15]

จักรพรรดิ

[แก้]

บทความหลัก: จักรพรรดิญี่ปุ่น จักรพรรดิ (ญี่ปุ่น: 天皇; โรมาจิ: Tennō; ทับศัพท์: เท็นโน; อังกฤษ: Emperor) ทรงเป็นผู้นำราชวงศ์ญี่ปุ่นและประมุขแห่งรัฐของญี่ปุ่น โดยรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น พ.ศ. 2490 มาตรา 1 บัญญัติไว้ว่า "จักรพรรดิทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งญี่ปุ่นและสัญลักษณ์แห่งความสมัครสมานของชนชาวญี่ปุ่น ตำแหน่งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความยินยอมของชนชาวญี่ปุ่นผู้ทรงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย อีกทั้งจะทรงกระทำเฉพาะกิจการของรัฐตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น และจะทรงไม่มีพระราชอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการปกครอง"[12]

ปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในโลกที่ยังคงเรียกประมุขแห่งรัฐว่า "จักรพรรดิ"[1]

จักรพรรดิพระองค์ปัจจุบัน คือ สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ ซึ่งเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 126 ของราชวงศ์ญี่ปุ่น โดยเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562[16]

ลำดับการสืบสันตติวงศ์

[แก้]

บทความหลัก: ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ญี่ปุ่น

ลำดับการสืบสันตติวงศ์จะเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ใน กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範) หมวดที่ 1[17]

พระบรมวงศานุวงศ์

[แก้]

พงศาวลีของราชวงศ์ญี่ปุ่น

[แก้]

พงศาวลีของราชวงศ์ญี่ปุ่น โดยพระองค์ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์/พระฉายาลักษณ์ คือพระบรมวงศานุวงศ์ในปัจจุบัน

Japanese Imperial Family Tree December 2024

รายพระนามพระบรมวงศานุวงศ์ในปัจจุบัน

[แก้]

ปัจจุบันราชวงศ์ญี่ปุ่นมีพระบรมวงศานุวงศ์อยู่ทั้งหมด 16 พระองค์[18] ดังนี้

ลำดับ
โปเจียม[19]
พระฉายาลักษณ์ พระนาม อิสริยยศ/ฐานันดร ความสัมพันธ์กับจักรพรรดิ
1 สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ จักรพรรดิ -
2 สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ จักรพรรดินี พระอัครมเหสี
3 สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ โจโก (จักรพรรดิพระเจ้าหลวง) พระบรมราชชนก
4 Empress Michiko cropped 20140424 สมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิจิโกะ โจโกโง (จักรพรรดินีพระพันปีหลวง) พระบรมราชชนนี
5 เจ้าชายฟูมิฮิโตะ พระยุพราชอากิชิโนะ ชินโน (เจ้าชายชั้นเอก) / โคชิ (พระยุพราช) พระราชอนุชา
6 เจ้าหญิงคิโกะ พระชายาในพระยุพราชอากิชิโนะ ชินโนฮิ (พระชายาในเจ้าชายชั้นเอก) / โคชิฮิ (พระชายาในพระยุพราช) พระกนิษฐภคินี (น้องสะใภ้)
7 เจ้าหญิงไอโกะ ไนชินโน (เจ้าหญิงชั้นเอก) พระราชธิดา
8 เจ้าหญิงคาโกะ ไนชินโน (เจ้าหญิงชั้นเอก) พระราชภาติยะ
9 Prince Hisahito of Akishino 20201130 เจ้าชายฮิซาฮิโตะ ชินโน (เจ้าชายชั้นเอก) พระราชภาติยะ
10 เจ้าชายฮิตาจิ ชินโน (เจ้าชายชั้นเอก) พระราชปิตุลา
11 เจ้าหญิงฮิตาจิ ชินโนฮิ (พระชายาในเจ้าชายชั้นเอก) พระราชปิตุจฉา (สะใภ้)
12 เจ้าหญิงโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ ชินโนฮิ (พระชายาในเจ้าชายชั้นเอก) พระญาติชั้นพระปิตุจฉา (สะใภ้)
13 เจ้าหญิงอากิโกะ โจโอ (เจ้าหญิงชั้นรอง) พระญาติชั้นพระภคินี
14 เจ้าหญิงโยโกะ โจโอ (เจ้าหญิงชั้นรอง) พระญาติชั้นพระภคินี
15 เจ้าหญิงทากามาโดะ ชินโนฮิ (พระชายาในเจ้าชายชั้นเอก) พระญาติชั้นพระปิตุจฉา (สะใภ้)
16 เจ้าหญิงสึงูโกะ โจโอ (เจ้าหญิงชั้นรอง) พระญาติชั้นพระภคินี

อดีตพระบรมวงศานุวงศ์

[แก้]

อดีตพระบรมวงศานุวงศ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยนับตั้งแต่หลังยุคสงครามเป็นต้นมา มีดังนี้

ชื่อ พระนามเดิม ความสัมพันธ์กับจักรพรรดิ สาเหตุการสิ้นฐานันดรศักดิ์
ซายาโกะ คูโรดะ เจ้าหญิงโนริ (ซายาโกะ) พระกนิษฐภคินี เสกสมรส
มาโกะ โคมูโระ เจ้าหญิงมาโกะ พระราชภาติกา
อัตสึโกะ อิเกดะ เจ้าหญิงโยริ (อัตสึโกะ) พระราชปิตุจฉา
ทากาโกะ ชิมาซุ เจ้าหญิงซูงะ (ทากาโกะ)
ยาซูโกะ โคโนเอะ เจ้าหญิงยาซูโกะ พระญาติชั้นพระปิตุจฉา
มาซาโกะ เซ็ง เจ้าหญิงมาซาโกะ
โนริโกะ เซ็งเงะ เจ้าหญิงโนริโกะ พระญาติชั้นพระภคินี
อายาโกะ โมริยะ เจ้าหญิงอายาโกะ

อิสริยยศและฐานันดร

[แก้]

กฎมณเฑียรบาลญี่ปุ่น (皇室典範) ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ลงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562[17] ได้ระบุว่า มาตรา 5 พระบรมวงศานุวงศ์ ได้แก่

  • โคโง (จักรพรรดินี)
  • ไทโคไตโง (จักรพรรดินีอัยยิกาเจ้า)
  • โคไตโง (จักรพรรดินีพันปีหลวง)
  • ชินโน (เจ้าชายชั้นเอก)
  • ชินโนฮิ (พระชายาในเจ้าชายชั้นเอก)
  • ไนชินโน (เจ้าหญิงชั้นเอก)
  • โอ (เจ้าชายชั้นรอง)
  • โอฮิ (พระชายาในเจ้าชายชั้นรอง)
  • โจโอ (เจ้าหญิงชั้นรอง)

นอกจากนี้ ตามกฎหมายพิเศษว่าด้วยการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562[20] มีการสถาปนาอิสริยยศเพิ่มเติม ได้แก่

  • โจโก (จักรพรรดิพระเจ้าหลวง)
  • โจโกโง (จักรพรรดินีพระพันปีหลวง)

จักรพรรดินี

[แก้]

บทความหลัก: จักรพรรดินีญี่ปุ่น

จักรพรรดินี (ญี่ปุ่น: 皇后; โรมาจิ: Kōgō; ทับศัพท์: โคโง; อังกฤษ: Empress Consort) เป็นอิสริยยศสำหรับพระอัครมเหสีในจักรพรรดิ[21]

จักรพรรดินีพระองค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ทรงดำรงพระอิสริยยศนี้เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 หลังจากพระราชสวามี สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ ขึ้นครองราชย์[22]

จักรพรรดินีในอีกความหมายหนึ่งคือ "สตรีผู้เป็นประมุขของจักรวรรดิ" โดยญี่ปุ่นจะใช้ศัพท์อีกคำว่า "โจเซเท็นโน" (ญี่ปุ่น: 女性天皇[23]; โรมาจิ: Josei Tennō; อังกฤษ: Empress Regnent) ซึ่งกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่นในปัจจุบัน[17] ไม่อนุญาตให้สตรีขึ้นครองราชย์เป็นประมุข อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ญี่ปุ่น เคยมีสตรีผู้ที่เคยครองราชย์จำนวน 8 พระองค์[1][24]

โจโก

[แก้]

โจโก (ญี่ปุ่น: 上皇; โรมาจิ: Jōkō; อังกฤษ: Emperor Emeritus) เป็นอิสริยยศสำหรับอดีตจักรพรรดิที่สละราชสมบัติ โดยสื่อไทยมีการระบุอิสริยยศ "โจโก" ว่าเป็น "จักรพรรดิพระเจ้าหลวง"[25][26][27]

ตามกฎหมายพิเศษว่าด้วยการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562[20] ได้ระบุเกี่ยวกับอิสริยยศ "โจโก" ดังนี้

  • มาตรา 1: กฎหมายพิเศษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดมาตรการที่จำเป็นอันเนื่องมาจากการสละราชสมบัติของจักรพรรดิ การขึ้นครองราชย์ของรัชทายาทในกรณีพิเศษ ที่ถือว่ามาตรา 4 ในกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น เป็นข้อยกเว้น (รัชทายาทจะครองราชย์ก็ต่อเมื่อจักรพรรดิสวรรคต)[17] รวมถึงพระอิสริยยศของจักรพรรดิภายหลังการสละราชสมบัติ
  • มาตรา 3:
    • วรรค 1: จักรพรรดิที่สละราชสมบัติ ให้เรียกว่า "โจโก"
    • วรรค 2: เคโช (敬称) หรือคำยกย่องพระเกียรติ ให้ใช้คำว่า "เฮกะ" (陛下)
    • วรรค 3: การขึ้นทะเบียนต่าง ๆ, ข้อกำหนดพระราชพิธีบรมศพ, และข้อกำหนดเกี่ยวกับสุสานหลวง ให้ปฏิบัติตามธรรมเนียมเหมือนกับจักรพรรดิ
    • วรรค 4: นอกจากที่กล่าวไปในวรรค 1 - 3 แล้ว ให้ปฏิบัติตามที่ระบุในกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น[17] เหมือนกับพระบรมวงศานุวงศ์อื่น ๆ (ยกเว้นมาตรา 2, มาตรา 28 วรรค 2 และ 3, และมาตรา 30 วรรค 2)

พระบรมวงศานุวงศ์ในราชวงศ์ญี่ปุ่นที่ดำรงพระอิสริยยศ "โจโก" มีดังนี้

พระนาม จักรพรรดิพระองค์ที่ ครองราชย์ วันเริ่มต้น พระชนมายุ
สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ 125 7 มกราคม พ.ศ. 2532 -
30 เมษายน พ.ศ. 2562
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 91

ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ญี่ปุ่นเคยมีจักรพรรดิที่สละราชสมบัติถึง 58 พระองค์ โดยพระองค์ล่าสุดคือ จักรพรรดิโคกากุ เมื่อ พ.ศ. 2360 ซึ่งในอดีต จักรพรรดิที่สละราชสมบัติจะดำรงพระอิสริยยศ "ไดโจเท็นโน" (ญี่ปุ่น: 太上天皇; โรมาจิ: Daijō Tennō)[28] อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ ถือว่าเป็นจักรพรรดิพระองค์แรกที่สละราชสมบัติภายใต้รัฐธรรมนูญญี่ปุ่น และดำรงพระอิสริยยศ "โจโก"[28]

ไทโคไตโง

[แก้]

ไทโคไตโง (ญี่ปุ่น: 太皇太后; โรมาจิ: Tai-Kōtaigō; อังกฤษ: Grand Empress Dowager) เป็นอิสริยยศสำหรับพระราชอัยยิกา (ย่า) ในจักรพรรดิ[29] ซึ่งตั้งแต่กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่นฉบับยุคหลังสงครามถูกประกาศใช้มา ยังไม่เคยมีพระบรมวงศานุวงศ์ที่ดำรงพระอิสริยยศนี้

โคไตโง

[แก้]

โคไตโง (ญี่ปุ่น: 皇太后; โรมาจิ: Kōtaigō; อังกฤษ: Empress Dowager) เป็นอิสริยยศสำหรับอดีตจักรพรรดินีในจักรพรรดิที่สวรรคตแล้ว [30] ซึ่งในปัจจุบันไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ที่ดำรงอิสริยยศนี้

พระบรมวงศานุวงศ์ที่เคยดำรงพระอิสริยยศ "โคไตโง" โดยนับตั้งแต่ยุคหลังสงครามเป็นต้นมา มีดังนี้

พระอิสริยยศ พระราชสวามี พระอิสริยยศก่อนหน้า พระบรมราชชนนีใน เริ่ม สิ้นสุด สาเหตุการสิ้นสุด พระราชสมัญญา
สมเด็จพระจักรพรรดินีนางาโกะ พระพันปีหลวง จักรพรรดิโชวะ สมเด็จพระจักรพรรดินีนางาโกะ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ 7 มกราคม พ.ศ. 2532 16 มิถุนายน พ.ศ. 2543 สวรรคต
(97 พรรษา)
จักรพรรดินีโคจุง
สมเด็จพระจักรพรรดินีซาดาโกะ พระพันปีหลวง จักรพรรดิไทโช สมเด็จพระจักรพรรดินีซาดาโกะ จักรพรรดิโชวะ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2469 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 สวรรคต
(66 พรรษา)
จักรพรรดินีเทเม

หลังจากที่สวรรคต จะมีการถวายพระสมัญญานามให้กับพระองค์ ควบคู่กับการใช้พระอิสริยยศว่า "โคโง" (จักรพรรดินี) เนื่องจากเป็นพระอิสริยยศสูงสุดที่พระองค์เคยได้รับ เช่น หลังการสวรรคตของสมเด็จพระจักรพรรดินีนางาโกะ พระพันปีหลวง ได้มีการถวายพระสมัญญานามของพระองค์เป็น "โคจุงโคโง" (香淳皇后) หรือ จักรพรรดินีโคจุง[31]

ในยุคก่อนสงคราม เคยมีราชวงศ์หญิงที่ดำรงอิสริยยศนี้ โดยที่พระองค์ไม่เคยดำรงพระอิสริยยศ จักรพรรดินี มาก่อน ซึ่งในกรณีนี้จะเป็นการแต่งตั้งโดยจักรพรรดิ เช่น

โจโกโง

[แก้]

โจโกโง (ญี่ปุ่น: 上皇后; โรมาจิ: Jōkogō; อังกฤษ: Empress Emerita) เป็นอิสริยยศสำหรับพระอัครมเหสีในอดีตจักรพรรดิที่สละราชสมบัติ โดยสื่อไทยได้มีการระบุอิสริยยศ "โจโกโง" ว่าเป็น "จักรพรรดินีพระพันปีหลวง"[33][34][35]

ตามกฎหมายพิเศษว่าด้วยการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562[20] ได้ระบุเกี่ยวกับอิสริยยศ "โจโกโง" ดังนี้

  • มาตรา 4

พระบรมวงศานุวงศ์ในราชวงศ์ญี่ปุ่นที่ดำรงพระอิสริยยศ "โจโกโง" มีดังนี้

พระนาม พระราชสวามี วันเริ่มต้น พระชนมายุ
สมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิจิโกะ สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 91

ราชวงศ์ญี่ปุ่นไม่เคยมีพระบรมวงศานุวงศ์ที่เคยดำรงอิสริยยศนี้มาก่อน โดยสมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิจิโกะ ทรงดำรงพระอิสริยยศ "โจโกโง" เป็นพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ญี่ปุ่น และพระองค์ยังคงทรงดำรงพระอิสริยยศนี้ในปัจจุบัน

ชินโน

[แก้]

ชินโน (ญี่ปุ่น: 親王; โรมาจิ: Shinnō; อังกฤษ: Prince) เป็นฐานันดรสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ชายชั้นสูง (เจ้าชายชั้นเอก) ซึ่งทรงได้รับตั้งแต่แรกประสูติ อันได้แก่ พระราชโอรส และพระราชนัดดา (ชาย) ในจักรพรรดิ เมื่อ "ชินโน" บรรลุนิติภาวะ จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เกียรติคุณและราชมิตราภรณ์อันสูงส่งยิ่งดอกเบญจมาศ ชั้นมหาปรมาภรณ์

กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範)[17] ระบุเกี่ยวกับฐานันดร "ชินโน" ดังนี้

  • มาตรา 6: พระราชโอรสที่ถูกต้องตามกฎหมายในจักรพรรดิ รวมถึงพระราชนัดดา (ชาย) ที่สืบเชื้อสายจากพระราชโอรสในจักรพรรดิและถูกต้องตามกฎหมาย หากเป็นชายจะดำรงฐานันดร "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก) ส่วนพระราชทายาทลำดับที่ 3 เป็นต้นไปในจักรพรรดิ หากเป็นชายจะดำรงฐานันดร "โอ" (เจ้าชายชั้นรอง)
 
 
จักรพรรดิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จักรพรรดิชินโน (รุ่น 1)ไนชินโน (รุ่น 1)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ชินโน/ไนชินโนชินโน (รุ่น 2)ไนชินโน (รุ่น 2)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โอ (รุ่น 3)โจโอ (รุ่น 3)
 
 
โอ/โจโอ
  • มาตรา 7: หาก "โอ" (เจ้าชายชั้นรอง) ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ พระอนุชาของพระองค์จะได้รับการสถาปนาอิสริยยศเป็น "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก)
  • มาตรา 11 วรรค 2: "ชินโน" (ยกเว้นรัชทายาท) สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ หากมีเหตุผลสำคัญ และต้องผ่านการอนุมัติของสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
  • มาตรา 13: หาก "ชินโน" สละฐานันดรศักดิ์แล้วนั้น "ชินโนฮิ" (พระชายา), พระทายาททั้งหมด รวมถึงคู่สมรสของพระทายาท ต้องสละฐานันดรศักดิ์ด้วย (ยกเว้นทายาทหญิงที่ไปสมรสกับ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) อื่นแล้ว) อย่างไรก็ตามทายาทสายตรงของพระองค์ (เช่น พระโอรสพระองค์โต, พระนัดดาชายพระองค์โต) สามารถคงฐานันดรศักดิ์อยู่ได้ แต่ต้องมีการอนุมัติจากสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น

"ชินโน" ในปัจจุบัน

[แก้]

พระบรมวงศานุวงศ์ในปัจจุบันที่ยังคงดำรงฐานันดร "ชินโน" มีดังนี้

พระนามแรกประสูติ ที่มาของการดำรงฐานันดร วันประสูติ พระชนมายุ
เจ้าชายโยชิ (มาซาฮิโตะ) พระราชโอรสในจักรพรรดิโชวะ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2478 89
เจ้าชายอายะ (ฟูมิฮิโตะ) พระราชนัดดาในจักรพรรดิโชวะ (ณ วันประสูติ) 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 59
เจ้าชายฮิซาฮิโตะ พระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ 6 กันยายน พ.ศ. 2549 19

"ชินโน" ในอดีต

[แก้]

พระบรมวงศานุวงศ์ที่เคยดำรงฐานันดร "ชินโน" (โดยนับตั้งแต่ยุคเมจิเป็นต้นมา) มีดังนี้

พระนามแรกประสูติ ที่มาของการดำรงฐานันดร วันประสูติ วันสิ้นสุด สาเหตุการสิ้นสุดฐานันดร
เจ้าชายฮิโระ (นารูฮิโตะ) พระราชนัดดาในจักรพรรดิโชวะ
(ณ วันประสูติ)
23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 126
เจ้าชายซูมิ (ทากาฮิโตะ) พระราชโอรสในจักรพรรดิไทโช 2 ธันวาคม พ.ศ. 2458 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 สิ้นพระชนม์ (100 ชันษา)
เจ้าชายโยชิฮิโตะ พระราชนัดดาในจักรพรรดิไทโช 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557 สิ้นพระชนม์ (66 ชันษา)
เจ้าชายโทโมฮิโตะ พระราชนัดดาในจักรพรรดิไทโช 5 มกราคม พ.ศ. 2489 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 สิ้นพระชนม์ (66 ชันษา)
เจ้าชายโนริฮิโตะ พระราชนัดดาในจักรพรรดิไทโช 29 ธันวาคม พ.ศ. 2497 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 สิ้นพระชนม์ (47 ชันษา)
เจ้าชายสึงุ (อากิฮิโตะ) พระราชโอรสในจักรพรรดิโชวะ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2476 7 มกราคม พ.ศ. 2532 ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 125
เจ้าชายเทรุ (โนบูฮิโตะ) พระราชโอรสในจักรพรรดิไทโช 3 มกราคม พ.ศ. 2448 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 สิ้นพระชนม์ (82 ชันษา)
เจ้าชายอัตสึ (ยาซูฮิโตะ) พระราชโอรสในจักรพรรดิไทโช 25 มิถุนายน พ.ศ. 2445 4 มกราคม พ.ศ. 2496 สิ้นพระชนม์ (52 ชันษา)
เจ้าชายมิจิ (ฮิโรฮิโตะ) พระราชโอรสในจักรพรรดิไทโช 29 เมษายน พ.ศ. 2444 25 ธันวาคม พ.ศ. 2469 ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 124
เจ้าชายฮารุ (โยชิฮิโตะ) พระราชโอรสในจักรพรรดิเมจิ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2422 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2455 ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 123
เจ้าชายมิตสึ (เทรุฮิโตะ)
(満宮輝仁親王)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเมจิ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 17 สิงหาคม พ.ศ. 2437 สิ้นพระชนม์ (8 เดือน)
เจ้าชายอากิ (มีจิฮิโตะ)
(昭宮猷仁親王)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเมจิ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2430 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2431 สิ้นพระชนม์ (1 ชันษา)
เจ้าชายทาเตะ (ยูกิฮิโตะ)
(建宮敬仁親王)
พระราชโอรสในจักรพรรดิเมจิ 23 กันยายน พ.ศ. 2420 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2421 สิ้นพระชนม์ (10 เดือน)

ชินโนฮิ

[แก้]

ชินโนฮิ (ญี่ปุ่น: 親王妃; โรมาจิ: Shinnō-Hi; อังกฤษ: Princess) เป็นอิสริยยศสำหรับพระชายาใน "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก) ซึ่งจะได้รับการสถาปนาเมื่ออภิเษกสมรส และจะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นประถมาภรณ์ (มงกุฎดอกพอโลเนีย)

กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範)[17] ระบุเกี่ยวกับอิสริยยศ "ชินโนฮิ" ดังนี้

  • มาตรา 13: หาก "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก) สละฐานันดรศักดิ์แล้วนั้น "ชินโนฮิ" (พระชายา), พระทายาททั้งหมด รวมถึงคู่สมรสของพระทายาท ต้องสละฐานันดรศักดิ์ด้วย (ยกเว้นทายาทหญิงที่ไปสมรสกับ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) อื่นแล้ว) อย่างไรก็ตามทายาทสายตรงของเจ้าชาย (เช่น พระโอรสพระองค์โต, พระนัดดาชายพระองค์โต) สามารถคงฐานันดรศักดิ์อยู่ได้ แต่ต้องมีการอนุมัติจากสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
  • มาตรา 14:
    1. หาก "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก) สิ้นพระชนม์แล้วนั้น "ชินโนฮิ" (พระชายา) สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ตามพระประสงค์
    2. นอกเหนือจากกรณีในวรรค 1 หากมีเหตุผลสำคัญที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ "ชินโนฮิ" (พระชายา) สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
    3. หาก "ชินโนฮิ" (พระชายา) หย่าร้างกับพระสวามี จะต้องสละฐานันดรศักดิ์
    4. วรรค 1 และ วรรค 3 สามารถอนุโลมใช้ได้กับ "ชินโนฮิ" (พระชายา) ในสมาชิกราชวงศ์สาขาอื่นๆ

"ชินโนฮิ" ในปัจจุบัน

[แก้]

พระบรมวงศานุวงศ์ในปัจจุบันที่ยังดำรงอิสริยยศ "ชินโนฮิ" มีดังนี้

พระนามเดิม พระสวามี ราชวงศ์สาขา วันอภิเษกสมรส พระชนมายุ
ฮานาโกะ สึงารุ เจ้าชายโยชิ (มาซาฮิโตะ) ฮิตาจิ 30 กันยายน พ.ศ. 2507 85
โนบูโกะ อาโซ เจ้าชายโทโมฮิโตะ มิกาซะ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 70
ฮิซาโกะ ทตโตริ เจ้าชายโนริฮิโตะ ทากามาโดะ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2527 72
คิโกะ คาวาชิมะ เจ้าชายอายะ (ฟูมิฮิโตะ) อากิชิโนะ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2533 59

"ชินโนฮิ" ในอดีต

[แก้]

พระบรมวงศานุวงศ์ที่เคยดำรงอิสริยยศ "ชินโนฮิ" (โดยนับตั้งแต่ยุคเมจิเป็นต้นมา) มีดังนี้

พระนามเดิม พระสวามี ราชวงศ์สาขา วันอภิเษกสมรส วันสิ้นสุด สาเหตุการสิ้นสุดอิสริยยศ
ยูริโกะ ทากางิ เจ้าชายซูมิ (ทากาฮิโตะ) มิกาซะ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2484 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 สิ้นพระชนม์ (101 ชันษา)
มาซาโกะ โอวาดะ เจ้าชายนารูฮิโตะ มกุฎราชกุมาร - 9 มิถุนายน พ.ศ. 2536 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พระสวามีขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 126
คิกูโกะ โทกูงาวะ เจ้าชายเทรุ (โนบูฮิโตะ) ทากามัตสึ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 18 ธันวาคม พ.ศ. 2547 สิ้นพระชนม์ (92 ชันษา)
เซ็ตสึโกะ มัตสึไดระ เจ้าชายอัตสึ (ยาซูฮิโตะ) ชิจิบุ 28 กันยายน พ.ศ. 2471 25 สิงหาคม พ.ศ. 2538 สิ้นพระชนม์ (85 ชันษา)
มิจิโกะ โชดะ เจ้าชายอากิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร - 10 เมษายน พ.ศ. 2502 7 มกราคม พ.ศ. 2532 พระสวามีขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 125
เจ้าหญิงนางาโกะ เจ้าชายฮิโรฮิโตะ มกุฎราชกุมาร - 26 มกราคม พ.ศ. 2467 25 ธันวาคม พ.ศ. 2469 พระสวามีขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 124
ซาดาโกะ คูโจ เจ้าชายโยชิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2443 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2455 พระสวามีขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 123

ไนชินโน

[แก้]

ไนชินโน (ญี่ปุ่น: 内親王; โรมาจิ: Nai-Shinnō; อังกฤษ: Princess) เป็นฐานันดรสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์หญิงชั้นสูง (เจ้าหญิงชั้นเอก) ซึ่งทรงได้รับตั้งแต่แรกประสูติ อันได้แก่ พระราชธิดา และพระราชนัดดา (หญิง) ในจักรพรรดิ เมื่อ "ไนชินโน" บรรลุนิติภาวะ จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นประถมาภรณ์ (มงกุฎดอกพอโลเนีย)

กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範)[17] ระบุเกี่ยวกับฐานันดร "ไนชินโน" ดังนี้

  • มาตรา 6: พระราชธิดาที่ถูกต้องตามกฎหมายในจักรพรรดิ รวมถึงพระราชนัดดา (หญิง) ที่สืบเชื้อสายจากพระราชโอรสในจักรพรรดิและถูกต้องตามกฎหมาย หากเป็นหญิงจะดำรงฐานันดร "ไนชินโน" (เจ้าหญิงชั้นเอก) ส่วนพระราชทายาทลำดับที่ 3 เป็นต้นไปในจักรพรรดิ หากเป็นหญิงจะดำรงฐานันดร "โจโอ" (เจ้าหญิงชั้นรอง)
 
 
จักรพรรดิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จักรพรรดิชินโน (รุ่น 1)ไนชินโน (รุ่น 1)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ชินโน/ไนชินโนชินโน (รุ่น 2)ไนชินโน (รุ่น 2)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โอ (รุ่น 3)โจโอ (รุ่น 3)
 
 
โอ/โจโอ
  • มาตรา 7: หาก "โอ" (เจ้าชายชั้นรอง) ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ พระเชษฐภคณี/พระขณิษฐาของพระองค์ จะได้รับการสถาปนาอิสริยยศขึ้นเป็น "ไนชินโน" (เจ้าหญิงชั้นเอก)
  • มาตรา 11
    • วรรค 1: "ไนชินโน" ที่พระชนมายุ 15 ชันษาขึ้นไป สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ตามพระประสงค์ แต่ต้องผ่านการอนุมัติของสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
    • วรรค 2: นอกจากกรณีในวรรคแรกแล้วนั้น "ไนชินโน" สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ หากมีเหตุผลสำคัญซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องผ่านการอนุมัติของสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
  • มาตรา 12: หากพระบรมวงศานุวงศ์หญิงเสกสมรสกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่จักรพรรดิหรือพระบรมวงศานุวงศ์ชาย พระองค์จะต้องลาออกจากฐานันดรศักดิ์
  • มาตรา 13: หาก "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก) สละฐานันดรศักดิ์แล้วนั้น "ชินโนฮิ" (พระชายา), พระทายาททั้งหมด รวมถึงคู่สมรสของพระทายาท ต้องสละฐานันดรศักดิ์ด้วย (ยกเว้นทายาทหญิงที่ไปสมรสกับ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) อื่นแล้ว) อย่างไรก็ตามทายาทสายตรงของพระองค์ (เช่น พระโอรสพระองค์โต, พระนัดดาชายพระองค์โต) สามารถคงฐานันดรศักดิ์อยู่ได้ แต่ต้องมีการอนุมัติจากสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น

"ไนชินโน" ในปัจจุบัน

[แก้]

พระบรมวงศานุวงศ์ในปัจจุบันที่ยังคงดำรงฐานันดร "ไนชินโน" มีดังนี้

พระนามแรกประสูติ ที่มาของการดำรงฐานันดร วันประสูติ พระชนมายุ
เจ้าหญิงคาโกะ พระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2537 30
เจ้าหญิงโทชิ (ไอโกะ) พระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ
(ณ วันประสูติ)
1 ธันวาคม พ.ศ. 2544 23

"ไนชินโน" ในอดีต

[แก้]

พระบรมวงศานุวงศ์ที่เคยดำรงฐานันดร "ไนชินโน" (โดยนับตั้งแต่ยุคเมจิเป็นต้นมา) มีดังนี้

พระนามแรกประสูติ ที่มาของการดำรงฐานันดร วันประสูติ วันสิ้นสุด สาเหตุการสิ้นสุดฐานันดร
เจ้าหญิงมาโกะ พระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2534 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เสกสมรสกับ
นายเค โคมูโระ
เจ้าหญิงโนริ (ซายาโกะ) พระราชนัดดาในจักรพรรดิโชวะ
(ณ วันประสูติ)
18 เมษายน พ.ศ. 2512 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 เสกสมรสกับ
นายโยชิกิ คูโรดะ
เจ้าหญิงมาซาโกะ พระราชนัดดาในจักรพรรดิไทโช 23 ตุลาคม พ.ศ. 2494 14 ตุลาคม พ.ศ. 2526 เสกสมรสกับ
นายโซชิตสึ เซ็ง
เจ้าหญิงยาซูโกะ พระราชนัดดาในจักรพรรดิไทโช 26 เมษายน พ.ศ. 2487 16 ธันวาคม พ.ศ. 2509 เสกสมรสกับ
นายทาดาเตรุ โคโนเอะ
เจ้าหญิงซูงะ (ทากาโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิโชวะ 2 มีนาคม พ.ศ. 2482 พ.ศ. 2503 เสกสมรสกับ
นายฮิซานางะ ชิมาซุ
เจ้าหญิงโยริ (อัตสึโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิโชวะ 7 มีนาคม พ.ศ. 2474 10 ตุลาคม พ.ศ. 2495 เสกสมรสกับ
นายทากามาซะ อิเกดะ
เจ้าหญิงทากะ (คาซูโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิโชวะ 30 กันยายน พ.ศ. 2472 พ.ศ. 2493 เสกสมรสกับ
นายโทชิมิจิ ทากัตสึกาซะ
เจ้าหญิงเทรุ (ชิเงโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิโชวะ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2468 พ.ศ. 2484 เสกสมรสกับ
เจ้าชายโมริฮิโระ
เจ้าหญิงฮิซะ (ซาจิโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิโชวะ 10 กันยายน พ.ศ. 2470 8 มีนาคม พ.ศ. 2471 สิ้นพระชนม์ (5 เดือน)
เจ้าหญิงยาซุ (โทชิโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2439 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2458 เสกสมรสกับ
เจ้าชายนารูฮิโกะ
เจ้าหญิงฟูมิ (โนบูโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2434 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2452 เสกสมรสกับ
เจ้าชายยาซูฮิโกะ
เจ้าหญิงคาเนะ (ฟูซาโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 28 มกราคม พ.ศ. 2433 29 เมษายน พ.ศ. 2452 เสกสมรสกับ
เจ้าชายนารูฮิซะ
เจ้าหญิงสึเนะ (มาซาโกะ) พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 30 กันยายน พ.ศ. 2431 30 เมษายน พ.ศ. 2451 เสกสมรสกับ
เจ้าชายสึเนฮิซะ
เจ้าหญิงคิดะ (ทากิโกะ)
(貞宮多喜子内親王)
พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 24 กันยายน พ.ศ. 2440 11 มกราคม พ.ศ. 2442 สิ้นพระชนม์ (1 ชันษา)
เจ้าหญิงฮิซะ (ชิซูโกะ)
(久宮静子内親王)
พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2429 4 เมษายน พ.ศ. 2430 สิ้นพระชนม์ (1 ชันษา)
เจ้าหญิงมาซุ (ฟูมิโกะ)
(増宮章子内親王)
พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 16 มกราคม พ.ศ. 2426 8 กันยายน พ.ศ. 2426 สิ้นพระชนม์ (8 เดือน)
เจ้าหญิงชิเงะ (อาซาโกะ)
(滋宮韶子内親王)
พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2424 6 กันยายน พ.ศ. 2426 สิ้นพระชนม์ (2 ชันษา)
เจ้าหญิงอูเมะ (ชิเงโกะ)
(梅宮薫子内親王)
พระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ 21 มกราคม พ.ศ. 2418 8 มิถุนายน พ.ศ. 2419 สิ้นพระชนม์ (1 ชันษา)

โอ

[แก้]

โอ (ญี่ปุ่น: 王; โรมาจิ: Ō; อังกฤษ: Prince) เป็นฐานันดรสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ชาย ที่สืบเชื้อสายจากจักรพรรดิในลำดับที่ 3 เป็นต้นไป ซึ่งทรงได้รับตั้งแต่แรกประสูติ เมื่อ "โอ" บรรลุนิติภาวะ จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดอกคิริ ชั้นมหาปรมาภรณ์

กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範)[17] ระบุเกี่ยวกับฐานันดรศักดิ์ "โอ" ดังนี้

  • มาตรา 6: พระราชโอรสที่ถูกต้องตามกฎหมายในจักรพรรดิ รวมถึงพระราชนัดดา (ชาย) ที่สืบเชื้อสายจากพระราชโอรสในจักรพรรดิและถูกต้องตามกฎหมาย หากเป็นชายจะดำรงฐานันดร "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก) ส่วนพระราชทายาทลำดับที่ 3 เป็นต้นไปในจักรพรรดิ หากเป็นชายจะดำรงฐานันดร "โอ" (เจ้าชายชั้นรอง)
 
 
จักรพรรดิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จักรพรรดิชินโน (รุ่น 1)ไนชินโน (รุ่น 1)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ชินโน/ไนชินโนชินโน (รุ่น 2)ไนชินโน (รุ่น 2)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โอ (รุ่น 3)โจโอ (รุ่น 3)
 
 
โอ/โจโอ
  • มาตรา 11
    • วรรค 1: "โอ" ที่พระชนมายุ 15 ชันษาขึ้นไป สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ตามพระประสงค์ แต่ต้องผ่านการอนุมัติของสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
    • วรรค 2: นอกจากกรณีในวรรคแรกแล้วนั้น "โอ" สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ หากมีเหตุผลสำคัญซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องผ่านการอนุมัติของสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
  • มาตรา 13: หาก "โอ" สละฐานันดรศักดิ์แล้วนั้น "โอฮิ" (พระชายา), พระทายาททั้งหมด รวมถึงคู่สมรสของพระทายาท ต้องสละฐานันดรศักดิ์ด้วย (ยกเว้นทายาทหญิงที่ไปสมรสกับ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) อื่นแล้ว) อย่างไรก็ตามทายาทสายตรงของพระองค์ (เช่น พระโอรสพระองค์โต, พระนัดดาชายพระองค์โต) สามารถคงพระฐานันดรศักดิ์อยู่ได้ แต่ต้องมีการอนุมัติจากสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น

จากเหตุการณ์การลดจำนวนพระบรมวงศานุวงศ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2490 จึงทำให้ไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ที่ดำรงฐานันดร "โอ" อยู่เลยจนถึงปัจจุบัน[14][15]

โอฮิ

[แก้]

โอฮิ (ญี่ปุ่น: 王妃; โรมาจิ: Ō-Hi; อังกฤษ: Princess) เป็นอิสริยยศสำหรับพระชายาใน "โอ" (เจ้าชายชั้นรอง) ซึ่งจะได้รับการสถาปนาเมื่ออภิเษกสมรส

กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範)[17] ระบุเกี่ยวกับอิสริยยศ "โอฮิ" ดังนี้

  • มาตรา 13: หาก "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก) / "โอ" (เจ้าชายชั้นรอง) สละฐานันดรศักดิ์แล้วนั้น "ชินโนฮิ" / "โอฮิ" (พระชายา), พระทายาททั้งหมด รวมถึงคู่สมรสของพระทายาท ต้องสละฐานันดรศักดิ์ด้วย (ยกเว้นทายาทหญิงที่ไปสมรสกับ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) อื่นแล้ว) อย่างไรก็ตามทายาทสายตรงของเจ้าชาย (เช่น พระโอรสพระองค์โต, พระนัดดาชายพระองค์โต) สามารถคงฐานันดรศักดิ์อยู่ได้ แต่ต้องมีการอนุมัติจากสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
  • มาตรา 14:
    1. หาก "โอ" (เจ้าชายชั้นรอง) สิ้นพระชนม์แล้วนั้น "โอฮิ" (พระชายา) สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ตามพระประสงค์
    2. นอกเหนือจากกรณีในวรรค 1 หากมีเหตุผลสำคัญที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ "โอฮิ" สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
    3. หาก "โอฮิ" หย่าร้างกับพระสวามี จะต้องสละฐานันดรศักดิ์
    4. วรรค 1 และ วรรค 3 สามารถอนุโลมใช้ได้กับ "โอฮิ" ในสมาชิกราชวงศ์สาขาอื่นๆ

จากเหตุการณ์การลดจำนวนพระบรมวงศานุวงศ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2490 จึงทำให้ไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ที่ดำรงฐานันดร "โอฮิ" อยู่เลยจนถึงปัจจุบัน[14][15]

โจโอ

[แก้]

โจโอ (ญี่ปุ่น: 女王; โรมาจิ: Jo-Ō; อังกฤษ: Princess) เป็นฐานันดรสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์หญิง ที่สืบเชื้อสายจากจักรพรรดิในลำดับที่ 3 เป็นต้นไป ซึ่งทรงได้รับตั้งแต่แรกประสูติ เมื่อ "โจโอ" บรรลุนิติภาวะ จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นทวีติยาภรณ์ (มงกุฎดอกโบตั๋น)

กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範)[17] ระบุเกี่ยวกับฐานันดร "โจโอ" ดังนี้

  • มาตรา 6: พระราชธิดาที่ถูกต้องตามกฎหมายในจักรพรรดิ รวมถึงพระราชนัดดา (หญิง) ที่สืบเชื้อสายจากพระราชโอรสในจักรพรรดิและถูกต้องตามกฎหมาย หากเป็นหญิงจะดำรงฐานันดร "ไนชินโน" (เจ้าหญิงชั้นเอก) ส่วนพระราชทายาทลำดับที่ 3 เป็นต้นไปในจักรพรรดิ หากเป็นหญิงจะดำรงฐานันดร "โจโอ" (เจ้าหญิงชั้นรอง)
 
 
จักรพรรดิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จักรพรรดิชินโน (รุ่น 1)ไนชินโน (รุ่น 1)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ชินโน/ไนชินโนชินโน (รุ่น 2)ไนชินโน (รุ่น 2)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โอ (รุ่น 3)โจโอ (รุ่น 3)
 
 
โอ/โจโอ
  • มาตรา 11
    • วรรค 1: "โจโอ" ที่พระชนมายุ 15 ชันษาขึ้นไป สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ตามพระประสงค์ แต่ต้องผ่านการอนุมัติของสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
    • วรรค 2: นอกจากกรณีในวรรคแรกแล้วนั้น "โจโอ" สามารถสละฐานันดรศักดิ์ได้ หากมีเหตุผลสำคัญซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องผ่านการอนุมัติของสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น
  • มาตรา 12: หากพระบรมวงศานุวงศ์หญิงเสกสมรสกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่จักรพรรดิหรือพระบรมวงศานุวงศ์ชาย พระองค์จะต้องลาออกจากฐานันดรศักดิ์
  • มาตรา 13: หาก "ชินโน" (เจ้าชายชั้นเอก) / "โอ" (เจ้าชายชั้นรอง) สละฐานันดรศักดิ์แล้วนั้น "ชินโนฮิ" / "โอฮิ" (พระชายา), พระทายาททั้งหมด รวมถึงคู่สมรสของพระทายาท ต้องสละฐานันดรศักดิ์ด้วย (ยกเว้นทายาทหญิงที่ไปสมรสกับ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) อื่นแล้ว) อย่างไรก็ตามทายาทสายตรงของพระองค์ (เช่น พระโอรสพระองค์โต, พระนัดดาชายพระองค์โต) สามารถคงฐานันดรศักดิ์อยู่ได้ แต่ต้องมีการอนุมัติจากสภาราชวงศ์ญี่ปุ่น

จากเหตุการณ์การลดจำนวนพระบรมวงศานุวงศ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2490 จึงทำให้ไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ที่ดำรงฐานันดร "โจโอ" อยู่เลยเป็นเวลา 34 ปี[14][15] จนกระทั่งการประสูติของเจ้าหญิงอากิโกะ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2524

"โจโอ" ในปัจจุบัน

[แก้]

พระบรมวงศานุวงศ์ในปัจจุบันที่ยังดำรงฐานันดร "โจโอ" มีดังนี้

พระนาม สืบเชื้อสายจาก เชื้อสายรุ่นที่ วันประสูติ พระชนมายุ
เจ้าหญิงอากิโกะ จักรพรรดิไทโช 3 20 ธันวาคม พ.ศ. 2524 43
เจ้าหญิงโยโกะ จักรพรรดิไทโช 3 25 ตุลาคม พ.ศ. 2526 42
เจ้าหญิงสึงูโกะ จักรพรรดิไทโช 3 8 มีนาคม พ.ศ. 2529 39

"โจโอ" ในอดีต

[แก้]

พระบรมวงศานุวงศ์ที่เคยดำรงฐานันดรศักดิ์ "โจโอ" โดยนับตั้งแต่ภายหลังยุคสงครามเป็นต้นมา มีดังนี้

พระนาม สืบเชื้อสายจาก เชื้อสายรุ่นที่ วันประสูติ วันสิ้นสุด สาเหตุการสิ้นสุดฐานันดร
เจ้าหญิงอายาโกะ จักรพรรดิไทโช 3 15 กันยายน พ.ศ. 2533 29 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เสกสมรสกับนายเค โมริยะ
เจ้าหญิงโนริโกะ จักรพรรดิไทโช 3 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เสกสมรสกับนายคูนิมาโระ เซ็งเงะ

รัชทายาท

[แก้]

รัชทายาท (皇嗣 โคชิ) หมายถึงผู้มีสิทธิ์สืบราชสันตติวงศ์ในลำดับแรก[36]

กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範)[17] ระบุเกี่ยวกับ "โคชิ" ดังนี้

  • มาตรา 3: หากพระรัชทายาทมีอาการป่วยทางจิตหรือทางร่างกายที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ สภาราชวงศ์ญี่ปุ่นสามารถพิจารณาให้มีการเปลี่ยนแปลงการสืบราชสันตติวงศ์ ตามลำดับในมาตรา 2
  • มาตรา 4: หากจักรพรรดิสวรรคต พระรัชทายาทจะขึ้นครองราชสมบัติทันที
  • มาตรา 8: พระราชโอรสที่มีสถานะเป็นพระรัชทายาทให้เรียกว่ามกุฎราชกุมาร ในกรณีที่ไม่มีมกุฎราชกุมาร พระราชนัดดาที่มีสถานะเป็นพระรัชทายาทให้เรียกว่ามกุฎราชนัดดา

ดังนั้น "โคชิ" จึงเป็นคำนิยามที่ใช้เรียกรัชทายาทของจักรพรรดิ ส่วน "โคไตชิ" และ "โคไตซน" เป็นคำที่ใช้เพื่อระบุว่ารัชทายาทนั้นเป็นพระราชโอรส หรือพระราชนัดดาในจักรพรรดิ ตามมาตรา 8 ในกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น

มกุฎราชกุมาร/มกุฎราชกุมารี (โคไตชิ/โคไตชิฮิ)

[แก้]

บทความหลัก: โคไตชิ และ โคไตชิฮิ

มกุฎราชกุมาร (皇太子 โคไตชิ) เป็นอิสริยยศสำหรับพระราชโอรสในจักรพรรดิที่มีสถานะเป็นรัชทายาท (โคชิ) ตามกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น มาตรา 8[17] โดยสำนักพระราชวังระบุอิสริยยศนี้ในภาษาอังกฤษว่า "Crown Prince"[37] ซึ่งศัพท์บัญญัติ คือ "มกุฎราชกุมาร"[38]

ปัจจุบันไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ที่ดำรงอิสริยยศนี้ โดยผู้ที่ดำรงอิสริยยศนี้ล่าสุดคือ เจ้าชายนารูฮิโตะ มกุฎราชกุมาร (皇太子殿下)[39] ซึ่งพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ จักรพรรดิพระองค์ที่ 126 ของราชวงศ์ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562[16]

มกุฎราชกุมารี (皇太子妃 โคไตชิฮิ) เป็นอิสริยยศสำหรับพระชายาใน "โคไตชิ" โดยสำนักพระราชวังระบุอิสริยยศนี้ในภาษาอังกฤษว่า "Crown Princess"[37] ซึ่งศัพท์บัญญัติ คือ "มกุฎราชกุมารี"[40]

ปัจจุบันไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ที่ดำรงอิสริยยศนี้ ผู้ที่ดำรงอิสริยยศนี้ล่าสุดคือ เจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารี (皇太子妃殿下)[39] ซึ่งปัจจุบันพระองค์ดำรงอิสริยยศเป็น "จักรพรรดินี" หลังจากที่พระราชสวามีของพระองค์ขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562[16]

มกุฎราชนัดดา (โคไตซน)

[แก้]

มกุฎราชนัดดา (皇太孫; โคไตซน) เป็นอิสริยยศสำหรับพระราชนัดดาในจักรพรรดิที่มีสถานะเป็นรัชทายาท (โคชิ) ตามกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น มาตรา 8[17]

ปัจจุบันไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ที่ดำรงอิสริยยศนี้ และในอดีตก็ไม่ปรากฏการใช้อิสริยยศ "โคไตซน" เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์มีกรณีที่ใกล้เคียง เช่น เจ้าชายโยชิโยริ (慶頼王) ซึ่งเป็นพระราชนัดดาในจักรพรรดิไดโงะ (จักรพรรดิพระองค์ที่ 60) พระองค์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นรัชทายาท (แหล่งอ้างอิงใช้คำว่า "โคไตชิ") เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 1466 หลังจากเจ้าชายยาซุอากิระ (保明親王) พระชนก (พระราชโอรสพระองค์โตในจักรพรรดิไดโงะ) สิ้นพระชนม์ อย่างไรก็ตาม เจ้าชายโยชิโยริ (慶頼王) ก็ไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ขึ้นเป็นจักรพรรดิ เนื่องจากพระองค์สิ้นพระชนม์ในอีก 2 ปีต่อมาหลังจากการสถาปนา[41]

โคชิ

[แก้]

ยุพราช (皇嗣; โคชิ) นอกจากเป็นคำนิยามที่ใช้เรียกรัชทายาทของจักรพรรดิแล้วนั้น[36] ปัจจุบันมีการใช้คำว่า "โคชิ" เป็นอิสริยยศสำหรับรัชทายาทอีกด้วย โดยสำนักพระราชวังระบุอิสริยยศนี้ในภาษาอังกฤษว่า "Crown Prince"[42]

ตามกฎหมายพิเศษว่าด้วยการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562[20] ได้ระบุเกี่ยวกับอิสริยยศ "โคชิ" ในมาตรา 5 ว่า สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีสถานะเป็น "โคชิ" (รัชทายาท) ตามลำดับการสืบสันตติวงศ์ในมาตรา 2 ของกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น[17] ให้ปฏิบัติตามแบบอย่างของอิสริยยศ "โคไตชิ"

ปัจจุบันผู้ที่ดำรงอิสริยยศนี้คือ "秋篠宮皇嗣殿下"[43] (Akishino-no-Miya Koshi Denka) หรือเจ้าชายฟูมิฮิโตะ พระยุพราชอากิชิโนะ ซึ่งทรงได้รับการสถาปนาอิสริยยศ "โคชิ" อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563[44]

โคชิฮิ (ญี่ปุ่น: 皇嗣妃; โรมาจิ: Kōshi-Hi; อังกฤษ: Crown Princess) เป็นอิสริยยศสำหรับของพระชายาใน "โคชิ" โดยสำนักพระราชวังระบุอิสริยยศนี้ในภาษาอังกฤษว่า "Crown Princess"[42]

ปัจจุบันผู้ที่ดำรงอิสริยยศนี้คือ "秋篠宮皇嗣妃殿下"[43] (Akishino-no-Miya Koshi-Hi Denka) หรือเจ้าหญิงคิโกะ พระชายาในพระยุพราชอากิชิโนะ ซึ่งทรงได้รับการสถาปนาอิสริยยศ "โคชิฮิ" ตามพระราชสวามี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563[44]

มิยาเกะ

[แก้]

มิยาเกะ (ญี่ปุ่น: 宮家; โรมาจิ: Miya-Ke) เป็นตระกูลหรือราชวงศ์ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่โดยเจ้าชายในราชวงศ์ญี่ปุ่น ซึ่งราชวงศ์ใหม่จะได้รับพระนามพระราชทานที่เรียกว่า "มิยาโง"[45][46] ราชวงศ์ใหม่นี้ถือว่าอยู่ภายใต้ราชวงศ์หลัก หรือเรียกได้ว่าเป็นราชวงศ์สาขาที่แตกออกมาจากราชวงศ์ญี่ปุ่น

มิยาโง (ญี่ปุ่น: 宮号; โรมาจิ: Miya-Gou) เป็นพระนามพระราชทานจากจักรพรรดิ เพื่อใช้เป็นพระนามของ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) ใหม่ที่ก่อตั้งโดยเจ้าชาย[47]

การก่อตั้ง

[แก้]

เจ้าชายผู้ที่ไม่ใช่ทายาทสายหลัก (เช่น พระราชโอรสในจักรพรรดิพระองค์ที่ 2 เป็นต้นไป, พระโอรสในเจ้าชายพระองค์ที่ 2 เป็นต้นไป) เมื่อทรงอภิเษกสมรส จะก่อตั้ง "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) ของพระองค์ขึ้น และได้รับพระราชทาน "มิยาโง" จากจักรพรรดิ ตัวอย่างเช่น

กรณีเจ้าชายทายาทสายหลัก

[แก้]

กรณีเจ้าชายที่ไม่ใช่ทายาทสายหลัก

[แก้]

การออกพระนามในภาษาอังกฤษ

[แก้]

ผู้ก่อตั้ง

[แก้]

สำหรับเจ้าชายที่ทรงก่อตั้ง "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) สำนักพระราชวังจะออกพระนามในภาษาอังกฤษโดยใช้ "มิยาโง" แทนการออกพระนามจริง ด้วยรูปแบบว่า "Prince ○○" เช่น Prince Akishino[42] (เจ้าชายอากิชิโนะ), Prince Hitachi[51] (เจ้าชายฮิตาจิ)

ผู้สืบทอด

[แก้]

สำหรับเจ้าชายที่เป็นผู้สืบทอด สำนักพระราชวังจะออกพระนามในภาษาอังกฤษโดยใช้พระนามจริง โดยมีการระบุ "มิยาโง" ควบคู่ด้วย ในรูปแบบว่า "Prince xx of ○○" เช่น เจ้าชายโทโมฮิโตะทรงมีสถานะเป็นผู้สืบทอดมิยาโง "มิกาซะ" ต่อจากพระชนก (เจ้าชายมิกาซะ) จึงมีการออกพระนามเป็น "Prince Tomohito of Mikasa"[52] (เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ)

พระชายา

[แก้]

พระชายาจะออกพระนามตามพระสวามีโดยใช้ "มิยาโง" แทนการออกพระนามจริง ด้วยรูปแบบว่า "Princess ○○" เช่น Princess Akishino[42] (เจ้าหญิงอากิชิโนะ), Princess Hitachi[51] (เจ้าหญิงฮิตาจิ)

สำหรับกรณีของพระชายาในเจ้าชายโทโมฮิโตะ ที่ทรงมีสถานะเป็นผู้สืบทอดมิยาโง "มิกาซะ" สำนักพระราชวังจะออกพระนามของพระชายาในภาษาอังกฤษตามพระสวามีเป็น "Princess Tomohito of Mikasa"[52] (เจ้าหญิงโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ)

สมาชิก

[แก้]

สำหรับเจ้าชาย/เจ้าหญิง ผู้ที่เป็นสมาชิกใน "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) สำนักพระราชวังจะออกพระนามในภาษาอังกฤษโดยใช้เพียงแค่พระนามจริง โดยไม่ระบุว่าพระองค์อยู่ใน "มิยาเกะ" ใด เช่น "Princess Kako"[42] (เจ้าหญิงคาโกะ), "Prince Hisahito"[42] (เจ้าชายฮิซาฮิโตะ), "Princess Akiko"[52] (เจ้าหญิงอากิโกะ)

การใช้ "มิยาโง" แทนนามสกุล

[แก้]

เนื่องด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ไม่มีนามสกุลเหมือนประชาชนทั่วไปในญี่ปุ่น จึงทำให้สมาชิกใน "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) มีการใช้ "มิยาโง" ที่พระองค์สังกัดอยู่ แทนนามสกุล ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในบริบททางวิชาการ เช่น Fumihito Akishinonomiya[53][54], Hisahito Akishinonomiya[55]

การสืบทอดและการสิ้นสุดของ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา)

[แก้]

หากเจ้าชายผู้ก่อตั้ง "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) สิ้นพระชนม์ ปกติแล้วตำแหน่งผู้นำ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) จะตกแก่พระโอรสพระองค์โต ซึ่งพระองค์ก็จะสืบทอด "มิยาโง" ของพระชนกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามในยุคหลังสงครามเป็นต้นมา ยังไม่มีกรณีการสืบทอด "มิยาโง" โดยมีกรณีใกล้เคียง คือกรณีของเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ แต่พระองค์สิ้นพระชนม์ก่อนพระชนก (เจ้าชายมิกาซะ) จึงยังไม่เกิดการสืบทอดมิยาโง "มิกาซะ" เกิดขึ้น

แต่ถ้าหาก "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) ใด ไม่มีพระโอรสผู้เป็นทายาทให้สืบต่อแล้ว ตามธรรมเนียมแล้วตำแหน่งผู้นำของ "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) จะตกเป็นของพระชายาก่อน[56] แล้วค่อยตามด้วยสมาชิกพระองค์อื่น ๆ ที่เหลืออยู่ แต่จะไม่มีการสืบทอด "มิยาโง" ซึ่งในปัจจุบันการสืบทอดเหล่านี้เป็นเพียงแค่ธรรมเนียม ไม่ได้มีกฎหมายฉบับใดที่ระบุว่าตำแหน่งของผู้นำคนถัดไปจะต้องเป็นพระองค์ใด แต่ตำแหน่งผู้นำจะต้องผ่านการรับรองจากคณะกรรมการเศรษฐกิจราชวงศ์เสมอ[57]

หากสมาชิกใน "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) ทุกพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว จึงจะถือว่า "มิยาเกะ" (ราชวงศ์สาขา) นั้นสิ้นสุดลง

มิยาเกะ (ราชวงศ์สาขา) ในยุคหลังสงคราม

[แก้]

รายชื่อมิยาเกะ (ราชวงศ์สาขา) ที่ไม่โดนปลดฐานันดรศักดิ์หลังจากการแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2489 และมิยาเกะ (ราชวงศ์สาขา) ที่ก่อตั้งใหม่ในยุคหลังสงคราม มีดังนี้

ตราประจำราชวงศ์สาขา ราชวงศ์สาขา วันก่อตั้ง รุ่น สมาชิก สถานะในปัจจุบัน วันสิ้นสุด
ชิจิบุ 28 กันยายน พ.ศ. 2471 1 เจ้าชายชิจิบุ
(ผู้ก่อตั้ง)
สิ้นพระชนม์ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2538
เจ้าหญิงชิจิบุ สิ้นพระชนม์
Takamatsu no miya ทากามัตสึ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 1 เจ้าชายทากามัตสึ
(ผู้ก่อตั้ง)
สิ้นพระชนม์ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2547
เจ้าหญิงทากามัตสึ สิ้นพระชนม์
Japanese Crest of Mikasa no miya มิกาซะ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2484 1 เจ้าชายมิกาซะ
(ผู้ก่อตั้ง)
สิ้นพระชนม์
เจ้าหญิงมิกาซะ สิ้นพระชนม์
2 เจ้าหญิงยาซูโกะ ลาออกจากฐานันดรเพื่อเสกสมรส
เจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ สิ้นพระชนม์
เจ้าหญิงโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ แยกพระองค์ออกจากราชวงศ์สาขาเพื่อก่อตั้งราชวงศ์สาขาใหม่

"พระชายาในเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ"[58]

เจ้าชายโยชิฮิโตะ แยกพระองค์ออกจากราชวงศ์สาขาเพื่อก่อตั้งราชวงศ์สาขาใหม่ "คัตสึระ"
เจ้าหญิงมาซาโกะ ลาออกจากฐานันดรเพื่อเสกสมรส
เจ้าชายโนริฮิโตะ ก่อตั้งราชวงศ์สาขาใหม่ "ทากามาโดะ"
3 เจ้าหญิงอากิโกะ ผู้นำพระองค์ปัจจุบัน
เจ้าหญิงโยโกะ
Japanese Crest of Hitachi no miya ฮิตาจิ 30 กันยายน พ.ศ. 2507 1 เจ้าชายฮิตาจิ
(ผู้ก่อตั้ง)
เจ้าหญิงฮิตาจิ
Japanese Crest of Takamado no miya ทากามาโดะ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2527 1 เจ้าชายทากามาโดะ
(ผู้ก่อตั้ง)
สิ้นพระชนม์
เจ้าหญิงทากามาโดะ ผู้นำพระองค์ปัจจุบัน
2 เจ้าหญิงสึงูโกะ
เจ้าหญิงโนริโกะ ลาออกจากฐานันดรเพื่อเสกสมรส
เจ้าหญิงอายาโกะ ลาออกจากฐานันดรเพื่อเสกสมรส
คัตสึระ 1 มกราคม พ.ศ. 2531 1 เจ้าชายคัตสึระ (ผู้ก่อตั้ง) สิ้นพระชนม์ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557
Japanese Crest of Akisino no miya อากิชิโนะ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2533 1 เจ้าชายอากิชิโนะ
(ผู้ก่อตั้ง)
เจ้าหญิงอากิชิโนะ
2 เจ้าหญิงมาโกะ ลาออกจากฐานันดรเพื่อเสกสมรส
เจ้าหญิงคาโกะ
เจ้าชายฮิซาฮิโตะ
พระชายาในเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ[58] 30 กันยายน พ.ศ. 2568 1 เจ้าหญิงโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ (ผู้ก่อตั้ง)

มิยาเกะ (ราชวงศ์สาขา) ในอดีต

[แก้]

รายชื่อมิยาเกะ (ราชวงศ์สาขา) จำนวน 11 ราชวงศ์ ที่โดนปลดฐานันดรศักดิ์ หลังจากที่จักรวรรดิญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 มีดังนี้

ราชวงศ์สาขา ผู้ก่อตั้ง วันก่อตั้ง สืบเชื้อสายจาก ผู้นำคนสุดท้าย ผู้นำรุ่นที่
ฟูชิมิ เจ้าชายฟูชิมิ โยชิฮิโตะ พ.ศ. 1952 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายฟูชิมิ ฮิโรอากิ

(伏見宮博明王)

24
คันอิน
(閑院宮)
เจ้าชายคันอิน นาโอฮิโตะ
(閑院宮直仁親王)
พ.ศ. 2253 จักรพรรดิฮิงาชิยามะ (จักรพรรดิพระองค์ที่ 113) เจ้าชายคันอิน ฮารุฮิโตะ
(閑院宮春仁王)
7
ยามาชินะ
(山階宮)
เจ้าชายยามาชินะ อากิระ
(山階宮晃親王)
พ.ศ. 2407 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายยามาชินะ ทาเกฮิโกะ
(山階宮武彦王)
3
คิตะชิรากาวะ
(北白川宮)
เจ้าชายคิตะชิรากาวะ ซาโตโนริ
(北白川宮智成親王)
พ.ศ. 2411 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายคิตะชิรากาวะ มิจิฮิซะ
(北白川道久)
5
นาชิโมโตะ
(梨本宮)
เจ้าชายนาชิโมโตะ โมริอากิ
(梨本宮守脩親王)
พ.ศ. 2414 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายนาชิโมโตะ โนริฮิโกะ
(梨本徳彦)
4
คูนิ
(久邇宮)
เจ้าชายคูนิ อาซาฮิโกะ
(久邇宮朝彦親王)
พ.ศ. 2418 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายคูนิ คูนิอากิ
(久邇邦昭)
4
คายะ
(賀陽宮)
เจ้าชายคายะ คูนิโนริ
(賀陽宮邦憲王)
พ.ศ. 2443 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายคายะ มาซาโนริ
(賀陽正憲)
5
ฮิงาชิฟูชิมิ
(東伏見宮)
เจ้าชายฮิงาชิฟูชิมิ โยริฮิโตะ
(東伏見宮依仁親王)
พ.ศ. 2446 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายฮิงาชิฟูชิมิ คูนิฮิเดะ
(東伏見慈洽)
2
อาซากะ
(朝香宮)
เจ้าชายอาซากะ ยาซูฮิโกะ พ.ศ. 2449 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายอาซากะ โทโมฮิโกะ
(朝香誠彦)
3
ทาเกดะ
(竹田宮)
เจ้าชายทาเกดะ สึเนฮิซะ
(竹田宮恒久王)
พ.ศ. 2449 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายทาเกดะ สึเนตาดะ
(竹田恒正)
3
ฮิงาชิกูนิ
(東久邇宮)
เจ้าชายฮิงาชิกูนิ นารูฮิโกะ พ.ศ. 2449 จักรพรรดิซูโก (จักรพรรดิแห่งราชสำนักเหนือองค์ที่ 3) เจ้าชายฮิงาชิกูนิ มาซาฮิโกะ
(東久邇征彦)
3

ธรรมเนียมพระยศ

[แก้]

เคโช

[แก้]

เคโช (ญี่ปุ่น: 敬称; โรมาจิ: Kei-Shō; อังกฤษ: Title of Honor) เป็นคำเรียกชื่อ หรือต่อท้ายชื่อเพื่อเป็นการให้เกียรติ[59] อย่างคำว่า 様 (ซามะ) หรือ さん (ซัง) เช่น "โยโกะซามะ" (瑶子様) แปลว่า "ท่านโยโกะ" หรือ "โคมูโระซัง" (小室さん) แปลว่า "คุณโคมูโระ" เป็นต้น

กฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น (皇室典範)[17] มาตรา 23 ได้ระบุเกี่ยว "เคโช" ดังนี้

ตัวอย่างการใช้งาน

[แก้]
  1. ใช้ต่อท้ายพระนามหรือพระอิสริยยศ เช่น
  2. ประชาชนใช้ขานเรียกแทนพระนามเต็มของพระองค์ เช่น ประชาชนที่เข้าเฝ้ารับเสด็จจะพูดคำว่า "เฮกะ" ขณะที่จักรพรรดิเสด็จผ่าน[62]
  3. ใช้เป็นสรรพนามแทนพระองค์ในบทความ เปรียบได้กับคำว่า "ฝ่าพระบาท", "ฝ่าบาท" หรือ "พระองค์ท่าน"

関連質問3: お年頃らしい質問を柔らかいのを聞きたいなと思って。好きな女優やアイドル、音楽などありますか。

殿下: そうですね。具体的に申し上げにくいんですけれども。

คำถามที่ 3: พระองค์ทรงมีนักแสดง, ไอดอล, เพลง หรืออะไรที่ชอบเป็นพิเศษหรือไม่

เด็งกะ (พระองค์ท่าน): นั่นสินะครับ ขออภัยที่อธิบายให้ชัดเจนไม่ได้มากนักครับ

บทสัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวการบรรลุนิติภาวะของเจ้าชายฮิซาฮิโตะ (3 มีนาคม พ.ศ. 2568) [63]

โอชีรูชิ

[แก้]

โอชีรูชิ (ญี่ปุ่น: お印; โรมาจิ: Ō-Shi-ru-shi) เป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งในอดีตจะใช้ประทับบนสิ่งของส่วนพระองค์[64] เนื่องจากข้าราชบริพารไม่สามารถเขียนพระนามของพระองค์โดยตรงลงไปบนสิ่งของได้ จึงมีการใช้สัญลักษณ์ประจำพระองค์ประทับลงบนสิ่งของแทน

แต่ในปัจจุบันการกำหนดสัญลักษณ์ประจำพระองค์นั้นเป็นเพียงธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมาเท่านั้น ไม่ได้มีการระบุเป็นกฎหมายของราชวงศ์ว่าทุกพระองค์ต้องมีแต่อย่างใด[65][17] ทั้งนี้การใช้งานที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน มีตัวอย่างเช่น

สัญลักษณ์ประจำพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์

[แก้]
ลำดับ พระนาม สัญลักษณ์ประจำพระองค์
1 สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ ต้นอาซึสะ ()[64]
2 สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ กุหลาบญี่ปุ่น (ハマナス)[64]
3 สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ ตัวอักษร "榮"[64]
4 สมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิจิโกะ ต้นเบิร์ชขาวญี่ปุ่น (白樺)[64]
5 เจ้าชายอากิชิโนะ พระยุพราช ต้นสนสึงะ ()[43]
6 เจ้าหญิงอากิชิโนะ พระชายาในพระยุพราช ดอกไอริสเซโตซ่า (檜扇菖蒲)[43]
7 เจ้าหญิงไอโกะ ดอกโกโยสึสึจิ (ゴヨウツツジ)[67]
8 เจ้าหญิงคาโกะ ดอกปอทะเล[43]
9 เจ้าชายฮิซาฮิโตะ ต้นสนร่ม (高野槙)[43]
10 เจ้าชายฮิตาจิ ต้นโอกาทามะ (黄心樹)[68]
11 เจ้าหญิงฮิตาจิ ดอกชะขุนาเงะ (石南花)[68]
12 เจ้าหญิงโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ ดอกท้อ (花桃)[69]
13 เจ้าหญิงอากิโกะ หิมะ[69]
14 เจ้าหญิงโยโกะ ดวงดาว[69]
15 เจ้าหญิงทากามาโดะ พัดญี่ปุ่น (おうぎ)[70]
16 เจ้าหญิงสึงูโกะ ดอกฮากิ (ハギ)[70]

โกโชโง

[แก้]

โกโชโง (ญี่ปุ่น: 御称号; โรมาจิ: Gō-Shogō; อังกฤษ: Personal Title[71]) เป็นพระนามส่วนพระองค์ ที่จักพรรดิทรงพระราชทานให้กับพระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นทายาทสายตรงของพระองค์ ได้แก่ พระราชโอรส, พระราชธิดา, รวมถึงพระโอรส/พระธิดาในมกุฎราชกุมาร

"โกโชโง" จะถูกตั้งเป็นตัวอักษรคันจิที่อ่านออกเสียงเป็น 2 พยางค์ ในรูปแบบ "○○โนะ มิยะ" (○○宮) ซึ่งจะแตกต่างกับมิยาโง ซึ่งมีคำลงท้ายว่า "○○○โนะ มิยะ" (○○○宮) เช่นเดียวกัน แต่จำนวนพยางค์จะมากกว่า โดยสำนักพระราชวังมีการระบุรูปแบบของ "โกโชโง" ในภาษาอังกฤษว่า "Prince ○○" หรือ "Princess ○○" เช่น Prince Hiro[72] (เจ้าชายฮิโระ), Prince Aya[42] (เจ้าชายอายะ), Princess Toshi[72] (เจ้าหญิงโทชิ)

"โกโชโง" มักจะถูกใช้ในช่วงวัยพระเยาว์[72][42] หากเป็นเจ้าชาย พระองค์จะได้รับมิยาโงแทนหลังการอภิเษกสมรส ส่วนเจ้าหญิงจะลาออกจากฐานันดร และใช้นามสกุลของสามีแทนหลังการอภิเษกสมรส

เนื่องจากพระบรมวงศานุวงศ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นไม่มีนามสกุล ดังนั้นพระองค์อาจจะใช้ "โกโชโง" แทนนามสกุล โดยเฉพาะในบริบทที่เกี่ยวข้องกับงานวิชาการ เช่น ในเรียงความของเจ้าหญิงไอโกะ พระองค์ทรงใช้พระนามว่า "敬宮愛子" (Toshinomiya Aiko)[73], ผลงานทางวิชาการของเจ้าชายอากิชิโนะก่อนที่จะทรงอภิเษกสมรส พระองค์ทรงใช้พระนามว่า "Ayanomiya Fumihito"[74]

รายชื่อพระบรมวงศานุวงศ์ในปัจจุบันที่เคยได้รับพระราชทาน "โกโชโง" มีดังนี้

พระนามในปัจจุบัน โกโชโง ญี่ปุ่น ทับศัพท์ สาเหตุที่ทรงได้รับ
สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ เจ้าชายฮิโระ 浩宮 ฮิโระ-โนะ-มิยะ พระโอรสในเจ้าชายอากิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร
สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ เจ้าชายสึงุ 継宮 สึงุ-โนะ-มิยะ พระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ
เจ้าชายอากิชิโนะ มกุฎราชกุมาร เจ้าชายอายะ 礼宮 อายะ-โนะ-มิยะ พระโอรสในเจ้าชายอากิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร
เจ้าหญิงไอโกะ เจ้าหญิงโทชิ 敬宮 โทชิ-โนะ-มิยะ พระธิดาในเจ้าชายนารูฮิโตะ มกุฎราชกุมาร
เจ้าชายฮิตาจิ เจ้าชายโยชิ 義宮 โยชิ-โนะ-มิยะ พระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ

ธงประจำพระองค์

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 3 4 5 "5 เกร็ดน่ารู้ เกี่ยวกับสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  2. "จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น สถาปนาชาติ 11 กุมภาพันธ์ เมื่อ 600 ปีก่อนคริสตกาล". mcot.net. 2024-02-11. สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  3. 1 2 Japan : an illustrated encyclopedia. Internet Archive. Tokyo : Kodansha ; New York, N.Y. : Distributed by Kodansha America. 1993. ISBN 978-4-06-931098-0.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  4. 三訂版,世界大百科事典内言及, デジタル大辞泉,精選版 日本国語大辞典,改訂新版 世界大百科事典,日本大百科全書(ニッポニカ),百科事典マイペディア,ブリタニカ国際大百科事典 小項目事典,山川 日本史小辞典 改訂新版,デジタル版 日本人名大辞典+Plus,旺文社日本史事典. "神武天皇(ジンムテンノウ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  5. Dehaas, Josh (2019-04-29). "5 things to know as Japan's Emperor Akihito steps down". CTVNews (ภาษาอังกฤษแบบแคนาดา). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-25. สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  6. Hoye, Timothy. (1999). Japanese Politics: Fixed and Floating Worlds, p. 78; excerpt, "According to legend, the first Japanese Emperor was Jimmu. Along with the next 13 Emperors, Jimmu is not considered an actual, historical figure. Historically verifiable Emperors of Japan date from the early sixth century with Kimmei.
  7. 1 2 โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จิรานุช โสภา มหาวิทยาลัยสวนดุสิตhttps://www.facebook.com/photo.php?fbid=4588972711141321&id=1116626141709346&set=a.1116652468373380
  8. 字通,デジタル大辞泉プラス, デジタル大辞泉,精選版 日本国語大辞典,日本大百科全書(ニッポニカ),改訂新版 世界大百科事典,百科事典マイペディア,ブリタニカ国際大百科事典 小項目事典,普及版. "皇室(コウシツ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  9. 字通, デジタル大辞泉,精選版 日本国語大辞典,普及版. "宮室(キュウシツ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  10. 字通, デジタル大辞泉,精選版 日本国語大辞典,普及版. "帝室(テイシツ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  11. https://www.senate.go.th/assets/portals/93/fileups/272/files/Sub_Jun/13win/win59.pdf
  12. 1 2 3 "THE CONSTITUTION OF JAPAN". www.kantei.go.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-14. สืบค้นเมื่อ 2025-07-08.
  13. "日本法令索引". hourei.ndl.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-08.
  14. 1 2 3 4 "Royal Reduction: The Postwar Downsizing of Japan's Imperial Family". nippon.com (ภาษาอังกฤษ). 2022-06-20. สืบค้นเมื่อ 2025-07-06.
  15. 1 2 3 4 Bloks, Moniek (2025-04-14). "The reduction of the Japanese Imperial Family during the American occupation". History of Royal Women (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2025-07-06.
  16. 1 2 3 "พระราชประวัติ "สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ" แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น". Thai PBS. 2019-05-01. สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  17. 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 "e-Gov 法令検索". laws.e-gov.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-05.
  18. "Genealogy". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-08.
  19. อ้างอิงจากลำดับการเสด็จและลำดับการประทับในงานต่างๆ https://www.kunaicho.go.jp/about/gokomu/odemashi/activity/garden-party-haru20240423.html https://www.youtube.com/watch?v=9Wi8o9Gcpoo https://www.youtube.com/watch?v=sqDIK7cEMFM&t=8208s
  20. 1 2 3 4 "e-Gov 法令検索". laws.e-gov.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-07-06.
  21. 改訂新版,世界大百科事典内言及, デジタル大辞泉,精選版 日本国語大辞典,改訂新版 世界大百科事典,日本大百科全書(ニッポニカ),ブリタニカ国際大百科事典 小項目事典,百科事典マイペディア,普及版 字通,山川 日本史小辞典. "皇后(コウゴウ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  22. "Empress Masako of Japan's Best Looks of All Time". Town & Country (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2024-06-25. สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  23. 共同通信ニュース用語解説 (2019-10-21). "女性天皇と女系天皇とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-14.
  24. 共同通信ニュース用語解説 (2019-10-21). "女性天皇と女系天皇とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  25. "จักรพรรดิญี่ปุ่น : ความเป็นมา ความหมาย และหมายกำหนดการ พระราชพิธีขึ้นครองราชย์". BBC News ไทย. สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  26. อสมท, สำนักข่าวไทย. "จักรพรรดิพระเจ้าหลวงญี่ปุ่นเสด็จฯ ออกจาก รพ. | สำนักข่าวไทย Online". LINE TODAY. สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  27. ""จักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ" พระอาการดีขึ้นจากทรงพระประชวร "พระหทัยล้มเหลว"". สยามรัฐ. 2022-07-26. สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  28. 1 2 "สะดุดคำ สถานะของ "จักรพรรดิญี่ปุ่น" หลังสละราชสมบัติ กับหลากประเด็นที่ต้องคิด". mgronline.com. 2017-11-27. สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  29. 日本国語大辞典,日本大百科全書(ニッポニカ),百科事典マイペディア,世界大百科事典内言及, デジタル大辞泉,精選版. "太皇太后(タイコウタイゴウ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.{{cite web}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  30. 改訂新版,世界大百科事典内言及, デジタル大辞泉,精選版 日本国語大辞典,改訂新版 世界大百科事典,日本大百科全書(ニッポニカ),百科事典マイペディア,ブリタニカ国際大百科事典 小項目事典,山川 日本史小辞典. "皇太后(コウタイゴウ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  31. "昭和天皇・香淳皇后". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-14.
  32. www2.city.kyoto.lg.jp https://www2.city.kyoto.lg.jp/somu/rekishi/fm/ishibumi/html/hi120_frame.html. สืบค้นเมื่อ 2025-07-14. {{cite web}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  33. https://www.matichon.co.th/lifestyle/news_2404550
  34. "พระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิชิโกะประชวร โควิด-19". จส.100. สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  35. JS100:จส.100. "สมเด็จพระจักรพรรดินี พระพันปีหลวงแห่งญี่ปุ่น ทรงเข้ารับการผ่าตัด กระดูกพระอุรุหัก | JS100". LINE TODAY. สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  36. 1 2 字通,日本大百科全書(ニッポニカ),世界大百科事典内言及, デジタル大辞泉,共同通信ニュース用語解説,精選版 日本国語大辞典,普及版 (2020-10-08). "皇嗣(コウシ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-13.{{cite web}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  37. 1 2 "Their Imperial Highnesses the Crown Prince and Crown Princess - The Imperial Household Agency". www.kunaicho.go.jp (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-27. สืบค้นเมื่อ 2025-07-13.
  38. จากการบัญญัติศัพท์ภาษาอังกฤษ-ไทย โดยราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554
  39. 1 2 "皇太子同妃両殿下 - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-06. สืบค้นเมื่อ 2025-07-13.
  40. พจนานุกรมแปล อังกฤษ-ไทย โดย สอ. เสถบุตร
  41. "第60代・醍醐天皇の皇位継承と昌泰の変". WEB歴史街道 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-13.
  42. 1 2 3 4 5 6 7 8 "Their Imperial Highnesses Crown Prince and Crown Princess Akishino and their family". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  43. 1 2 3 4 5 6 7 8 "秋篠宮家". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  44. 1 2 3 4 "Their Imperial Highnesses Crown Prince and Crown Princess Akishino and their family". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  45. 小項目事典, デジタル大辞泉,精選版 日本国語大辞典,改訂新版 世界大百科事典,日本大百科全書(ニッポニカ),百科事典マイペディア,ブリタニカ国際大百科事典. "宮家(ミヤケ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  46. プログレッシブ和英中辞典(第4版). "宮家を英語で言うと - コトバンク 和英辞典". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  47. 小項目事典, デジタル大辞泉,精選版 日本国語大辞典,ブリタニカ国際大百科事典. "宮号(ミヤゴウ)とは? 意味や使い方". コトバンク (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  48. "ご大喪・ご即位・ご結婚などの行事". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  49. "三笠宮妃百合子さま薨去 悲しみを乗り越えて宮家存続と継承の着地点とは!?(つげのり子) - エキスパート". Yahoo!ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  50. ประกาศสำนักพระราชวัง (宮内庁告示) ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2527 (ปีโชวะที่ 59)
  51. 1 2 "Their Imperial Highnesses Prince and Princess Hitachi". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-11.
  52. 1 2 3 "Her Imperial Highnesses Princess Mikasa and her family". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-12.
  53. "Fumihito A - Search Results - PubMed". PubMed (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-13.
  54. Takada, Masaru; Oka, Takao; Takahashi, Ryohei; Nomura, Koh; Hanada, Hirofumi; Amano, Takashi; Akishinonomiya, Fumihito (2008). "Phylogenetic Study of Okinawa and Amami Native Pig Based on Mitochondrial DNA Sequence". Nihon Yoton Gakkaishi. 45 (4): 187–192. doi:10.5938/youton.45.187.
  55. Akishinonomiya, Hisahito; Iijima, Ken; Kiyoshi, Takuya (2023). "Odonata Fauna of Akasaka Imperial Gardens, Tokyo: Diversity Sustained by Continuous Maintenance". Bulletin of the National Museum of Nature and Science. Series A, Zoology. 49 (4): 129–153. doi:10.50826/bnmnszool.49.4_129.
  56. "寛仁親王家母娘確執 彬子さまは「公務励んだのは自分たち…」". NEWSポストセブン (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-14.
  57. "信子さま「皇族費は月10万円しか受け取っていない」と訴えていたことも 彬子さまとの母娘の溝と三笠宮家「新当主」の行方". AERA DIGITAL(アエラデジタル) (ภาษาญี่ปุ่น). 2024-11-23. สืบค้นเมื่อ 2025-07-13.
  58. 1 2 編集局, 時事通信 (2025-09-30). "彬子さま、三笠宮家当主に 信子さまは独立―皇室経済会議:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-09-30.
  59. "J-Campus : เรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ด้วยตนเอง". j-campus.com. สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  60. "悠仁親王殿下ご成年をお迎えになっての記者会見". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  61. "三笠宮家". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  62. https://www.youtube.com/watch?v=X24qJmDhIHU&t=298s
  63. "悠仁親王殿下ご成年をお迎えになっての記者会見". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  64. 1 2 3 4 5 6 "愛子さまはゴヨウツツジ 皇室の「お印」とは?由来と意外なエピソード|FNNプライムオンライン". FNNプライムオンライン. 2022-12-26. สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  65. หนังสือพิมพ์ชูโงกุ (中国新聞) ฉบับวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2549
  66. "秋篠宮家" (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  67. "天皇皇后両陛下". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  68. 1 2 "常陸宮家". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  69. 1 2 3 "三笠宮家". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  70. 1 2 "高円宮家". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  71. สำนักพระราชวังแปลคำว่า "โกโชโง" ในภาษาอังกฤษว่า "The personal Title" (https://www.kunaicho.go.jp/e-about/history/history03.html)
  72. 1 2 3 "Their Majesties the Emperor and Empress". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  73. "愛子さま:中等科卒業記念文集の作文全文". 毎日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-07-10.
  74. Ayanomiya Fumihito (1989). "Morphological Comparison of the Mekong Giant Catfish, Pangasianodon gigas, with Other Pangasiid Species". Japanese Journal of Ichthyology. 36 (1): 113–119. doi:10.11369/jji1950.36.113.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
  • เว็บไซต์สำนักพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Household Agency) ภาษาอังกฤษ https://www.kunaicho.go.jp/eindex.html
  • เว็บไซต์สำนักพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Household Agency) ภาษาญี่ปุ่น https://www.kunaicho.go.jp/
  • ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาเยอรมัน สเปน ญี่ปุ่น และมลายู ลงวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561