ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (เยอรมัน: Haus de Habsburg; อังกฤษ: House of Habsburg บางครั้งเขียนว่า Hapsburg) เป็นราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดราชวงศ์หนึ่งในทวีปยุโรป ราชวงศ์นี้ได้ปกครองประเทศสเปนและประเทศออสเตรีย รวมเวลาทั้งหมดถึง 6 ศตวรรษ แต่ที่รู้จักกันดีมากที่สุดคือ การปกครองในตำแหน่งของ จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้มีการสถาปนาจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา พระราชวงศ์นี้ได้ปกครองรัฐและประเทศต่าง ๆ ถึง 1,800 รัฐ
ประวัติโดยย่อของพระราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
[แก้]จากเคานต์แห่งฮาพส์บวร์คจนถึงจักรพรรดิแห่งชาวโรมัน
[แก้]ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค เป็นชื่อที่ตั้งมาจากปราสาทฮาพส์บวร์ค (Habsburg Castle หรือที่ชาวสวิตรู้จักกันในนาม Hawk Castle) เมื่อประมาณศตวรรษที่ 12 โดยช่วงแรก พระราชวงศ์จะทรงประทับที่แคว้นสวาเบีย (ปัจจุบันคือเมืองอาร์กอว์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งขณะนั้น เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) จากนั้น พระราชวงศ์ก็ได้ขยายอำนาจออกไปตั้งแต่เมืองอัลเซส ไบรส์กอว์ อาร์กอว์ และธูร์กอว์ (ปัจจุบัน เมืองทั้งหมดตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี) และในที่สุดก็สามารถมีอำนาจปกครองจักรวรรดิได้ทั้งหมด โดยตั้งเมืองหลวงคือ กรุงเวียนนา (ปัจจุบันคือเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย)
จากนั้น พระบรมวงศานุวงศ์ได้ทรงขยายอำนาจ ทรงนำประเทศต่าง ๆ มาผนวกรวมกับจักรวรรดิโดยการอภิเษกสมรส เช่น จักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ทรงอภิเษกสมรสกับมารี ซึ่งเป็นธิดาในดยุกแห่งบูร์กอญ หลังจากการอภิเษกสมรสแล้ว จักรพรรดิมักซีมีเลียนก็ได้ทรงผนวกเบอร์กันดีเข้ารวมกับจักรวรรดิ นอกจากนี้ ยังทรงนำดินแดนใกล้เคียงเบอร์กันดีมารวมกับจักรวรรดิอีกด้วย ต่อมาพระราชโอรสของทั้งสองพระองค์ พระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งกัสติยา หรือสมญาพระนามว่า เฟลีเปผู้หล่อเหลา (Philip the Handsome) ได้ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงฆัวนาแห่งสเปน องค์รัชทายาทหญิงแห่งสเปน จากนั้นพระราชโอรสของทั้งสองพระองค์ จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ทรงนำสเปน พื้นที่ทางตอนใต้ของอิตาลี มาผนวกกับจักรวรรดิ ต่อมาในพ.ศ. 2123 พระราชโอรสของพระองค์ พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน ได้ทรงผนวกโปรตุเกสรวมเข้าเป็นอาณานิคม
ในรัชสมัยของจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในตอนแรกทรงตั้งดินแดนศูนย์กลางของกรุงเวียนนาเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิ โดยต่อมามีพระราชโองการให้สร้างพระราชวังเชินบรุนน์ขึ้น (Schönbrunn Palace) โดยให้เป็นพระราชฐานแปรฤดูร้อน ซึ่งต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซามีพระราชเสาวณีย์ให้ก่อสร้างพระตำหนักเพิ่มเติมภายในพระราชวัง พระราชวังเชินบรุนน์จึงมีความยิ่งใหญ่ สวยงามจวบจนทุกวันนี้
สายสกุลของราชวงศ์: ฮาพส์บวร์ค ออสเตรีย และสเปน
[แก้]เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2064 จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ทรงมอบโอนแผ่นดินออสเตรียให้กับพระอนุชาของพระองค์ จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น ก็มีการแยกสายสกุลฮาพส์บวร์ค-ออสเตรีย และฮาพส์บวร์ค-สเปน ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยสายสกุลทางออสเตรียได้ดำรงพระยศ จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2099 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังได้ดินแดนของราชอาณาจักรฮังการีและโบฮีเมียตั้งแต่ พ.ศ. 2069 แต่มีช่วงหนึ่งที่ถูกจักรวรรดิออตโตมันยึดครอง ฮังการีและโบฮีเมีย อยู่ภายใต้จักรวรรดิออตโตมันเป็นเวลาถึง 150 ปี โดยต่อมา ได้สามารถพิชิตเอาชนะ และได้ดินแดนฮังการีคืนมาระหว่างพ.ศ. 2226 – พ.ศ. 2242
สายสกุลฮาพส์บวร์ค-สเปนได้ล่มสลายลงเมื่อพ.ศ. 2243 หลังจากสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน เช่นเดียวกับสายสกุลฮาพส์บวร์ค-ออสเตรีย ซึ่งถูกยุบลงหลังจากสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย อย่างไรก็ตาม องค์รัชทายาทองค์สุดท้ายแห่งสายสกุลฮาพส์บวร์ค-ออสเตรีย อาร์ชดัชเชสมาเรีย เทเรซา ซึ่งเป็นองค์รัชทายาทหญิงทางพฤตินัย (Heiress Presumptive) ได้ทรงอภิเษกสมรสกับ ดยุกฟรานซิสที่ 3 สตีเฟนแห่งลอแรน องค์พระประมุขแห่งลอแรน (ทั้ง 2 พระองค์เป็นพระราชปนัดดาในจักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 3 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น ทั้ง 2 พระองค์เป็นพระญาติกัน) โดยหลังจากการอภิเษกสมรสแล้ว สายสกุลฮาพส์บวร์ค-ออสเตรีย ได้ถูกยุบลง โดยการเปลี่ยนราชสกุลฮาพส์บวร์ค เป็นราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และให้พระบรมวงศานุวงศ์รุ่นต่อ ๆ มาดำรงอยู่ในราชสกุลนี้จวบจนถึงปัจจุบัน
วงศ์ออสเตรีย-ฮังการี
[แก้]พระราชอิสริยยศ | จักรพรรดิแห่งออสเตรีย พระมหากษัตริย์แห่งฮังการี |
---|---|
ปกครอง | ออสเตรีย, ฮังการี |
เชื้อชาติ | ออสเตรีย, ฮังการี, และเยอรมัน l |
ประมุขพระองค์แรก | จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ |
ผู้นำสกุลองค์ปัจจุบัน | คาร์ล ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
สถาปนา | ค.ศ. 1780 |
ล่มสลาย | ค.ศ. 1918 |
ราชวงศ์ถัดไป | ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน ออสเตรีย-เอ็สเทอ |
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1806 จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ถูกล้มล้างจากการรุกล้ำและรุกรานระบอบการเมืองการปกครองของนโปเลียน โบนาปาร์ต อย่างไรก็ตาม องค์พระประมุของค์สุดท้ายของจักรวรรดิจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 ทรงสูญเสียตำแหน่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ไป พระองค์จึงทรงตั้งจักรวรรดิใหม่ คือ จักรวรรดิออสเตรีย และทรงแต่งตั้ง ^ พระราชอิสริยยศใหม่ทั้งหมด โดยพระองค์ทรงใช้พระยศในฐานะองค์พระประมุขแห่งจักรวรรดิใหม่ว่า จักรพรรดิแห่งออสเตรีย ในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1804 ซึ่งเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จักรวรรดิเก่าจะถูกล้มล้าง โดย 3 เดือนต่อมา นโปเลียนก็ได้สถาปนาตนเองเป็น จักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน
จักรพรรดิฟรันซ์ จึงทรงฉลองพระราชอิสริยยศใหม่ คือ
His Imperial and Royal Apostolic Majesty "We, Francis the First, by the grace of God Emperor of Austria; Apostolic King of Hungary, Bohemia, Dalmatia, Croatia, Slavonia, and Jerusalem. King of Galicia and Lodomeria; Archduke of Austria; Duke of Lorriane, Salzburg, Würzburg, Franconia, Styriaia, Carinthia, and Carniola; Grand Duke of Cracow; Grand Prince of Transylvania; Margrave of Moravia; Duke of Sandomir, Masovia, Lublin, Upper and Lower Silesia, Auschwitz and Zator, Teschen, and Friule; Prince of Berchtesgaden and Mergentheim; Princely Count of Habsburg, Gorizia, and Gradisca and Tyrol; and Margrave of Upper and Lower Lusatia and Istria".
ในช่วงของการเจรจาต่อรองระหว่างออสเตรีย-ฮังการี ค.ศ. 1867 ซึ่งเกิดจากการที่ประชาชนชาวฮังการีก่อการปฏิวัติเพื่อเรียกร้องเอกราชจากจักรวรรดิออสเตรีย จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย ต้องทรงไปไกล่เกลี่ยการจลาจลด้วยพระองค์เอง โดยทรงเจรจากับผู้นำปฏิวัติของฮังการี ในที่สุด ฮังการียอมจำนน และสลายการจลาจล จากนั้น จักรพรรดิจึงทรงรวมดินแดนออสเตรีย และฮังการีไว้ด้วยกัน ในชื่อจักรวรรดิใหม่ จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งเจริญรุ่งเรืองจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คเริ่มระส่ำระส่าย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเกิดจากการที่นักชาตินิยมชาวบอสเนียเชื้อสายเซอร์เบีย ลอบปลงพระชนม์อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย และพระชายา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1914 ออสเตรียเรียกร้องให้เซอร์เบียรับผิดชอบ แต่ทางการเซอร์เบียเมินเฉย เป็นเหตุให้ออสเตรีย ประกาศสงครามกับราชอาณาจักรเซอร์เบียทันที จนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 ออสเตรีย ซึ่งมีเยอรมนี เข้าช่วย ได้แพ้สงครามในที่สุด องค์พระประมุของค์สุดท้ายของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จักรพรรดิคาร์ลที่ 1 แห่งออสเตรีย ได้ทรงประกาศแยกออสเตรียและฮังการีออกจากกัน ทำให้มีการล้มล้างจักรวรรดิ เป็นเหตุให้จักรวรรดิล่มสลายลงในที่สุด อย่างไรก็ตาม พระองค์ยังไม่ได้ทรงสละราชสมบัติ พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งออสเตรีย จวบจนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1922
การเรียกร้องการหวนคืนบัลลังก์
[แก้]พระราชวงศ์ออสเตรีย-ฮังการีไร้อำนาจ และ แทบจะไร้ความหวังต่อการหวนคืนบัลลังก์โดยประชาชนที่ยังจงรักภักดีต่อพระราชวงศ์ จนกระทั่งเมื่ออาร์ชดัชเชสอาเดลเลดแห่งออสเตรีย พระราชธิดาองค์โตในจักรพรรดิคาร์ล ได้ทรงเรียกร้องหวนคืนบัลลังก์ให้กับพระเชษฐาของพระองค์ อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค ซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์โตโดยทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดาหลังจากที่พระราชบิดาเสด็จสวรรคต ได้ทรงเรียกร้องหวนคืนบัลลังก์ออกทางสื่อต่าง ๆ ทำให้รัฐบาลออสเตรียและรัฐบาลฮังการีได้ร่วมมือกันประชุมหารือเรื่องการกลับมาของพระราชวงศ์ แต่การประชุมครั้งนี้ ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด เป็นเหตุให้ยุติการประชุมชั่วคราว
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 มีบุคคลบางกลุ่มได้จัดให้มีการชุมนุมเรียกร้องการฟื้นฟูสถาปนา พระราชวงศ์ออสเตรีย-ฮังการีขึ้น ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อเวลา 9 นาฬิกา ต่อมาเวลา 18 นาฬิกาที่กรุงเวียนนา ก็มีการชุมนุมเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูสถาปนาพระราชวงศ์ให้กลับมาครองบัลลังก์ และยังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในออสเตรีย และฮังการีอีกด้วย การชุมนุมนี้มีขึ้น ณ ใจกลางกรุงเวียนนา โดยมีหัวข้อชุมนุมเรียกร้องเป็นภาษาเยอรมันว่า 89 Jahre Republik Sind Genug! แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "89 Years are enough for the Republic" (แปล: "89 ปี...มากพอแล้วสำหรับการเป็นสาธารณรัฐ") การชุมนุมของบุคคลบางกลุ่มในทั้ง 2 ประเทศนี้ ทำให้มีการประชุมอย่างเร่งด่วนในรัฐสภาทั้งในออสเตรียและฮังการี และประธานาธิบดีของทั้ง 2 ประเทศต่างได้หารือกันอีกด้วย อย่างไรก็ดี ไม่ปรากฏว่าการชุมนุมดังกล่าวส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมที่เป็นรูปธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น หลังจากเวลาผ่านไปกว่า 3 ปีเศษภายหลังการชุมนุมดังกล่าว ทั้งสาธารณรัฐออสเตรียและฮังการีต่างยังคงยึดมั่นในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยและสาธารณรัฐไว้ได้อย่างมั่นคง และไม่มีทีท่าว่าประเทศทั้งสองซึ่งต่างก็เป็นรัฐอธิปไตยโดยสมบูรณ์แล้ว จะหวนกลับมารวมกันเป็นประเทศเดียวกันอีกได้แต่ประการใด แม้จนกระทั่งเมื่ออ็อทโท ฟ็อน ฮับสบวร์ค สิ้นพระชนม์ไปแล้วในปี พ.ศ. 2554 ก็ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่า ทั้งออสเตรียและฮังการีจะสามารถหวนกลับไปสู่การปกครองระบอบราชาธิปไตยได้อีกเลย
แผนผังราชสกุลในปัจจุบัน
[แก้]รายพระนาม
[แก้]ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
[แก้]บทความหลัก: จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และ อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย
[แก้]จักรพรรดิคาร์ลที่ 6 มีแต่พระราชธิดา ก่อนหน้านี้ มีพระราชโอรส แต่ทรงสิ้นพระชนม์กะทันหัน พระองค์จึงทรงแต่งตั้ง สถาปนาพระราชธิดาองค์โตของพระองค์ อาร์ชดัชเชสมาเรีย เทเรซา ให้เป็นองค์รัชทายาททางพฤตินัย (Heiress Presumptive) โดยทรงออกพระราชกฤษฎีกาพิเศษ เพื่อรับรองให้พระบรมวงศานุวงศ์เพศหญิงสามารถขึ้นครองราชย์สมบัติได้ เมื่อจักรพรรดิคาร์ลเสด็จสวรรคต อาร์ชดัชเชสมาเรีย เทเรซาก็ได้ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา เป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งฮังการี และโบฮีเมีย ส่วนตำแหน่งองค์พระประมุขแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์นั้น พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับดยุกฟรานซิสที่ 3 สตีเฟนแห่งลอแรน (Duke Francis III Stephen of Lorraine) หลังจากอภิเษกสมรส ก็ทรงสถาปนา แต่งตั้งพระราชสวามีเป็น จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ให้พระราชสวามีเป็นองค์พระประมุขแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่พระราชอำนาจ และการบริหารบ้านเมืองจะเป็นของจักรพรรดินีนาถแต่เพียงผู้เดียว หลังจากนั้น ทั้ง 2 พระองค์ได้ทรงร่วมกันก่อตั้งราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรนขึ้น (Habsburg-Lorraine) และมีพระบรมวงศานุวงศ์ได้ทรงดำรงอยู่ในราชสกุลนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
ฟรันซ์ที่ 1 พร้อมด้วย พระนางมาเรีย เทเรซา | พ.ศ. 2288 – พ.ศ. 2308 (ค.ศ. 1745 – ค.ศ. 1765) | |
โยเซฟที่ 2 | พ.ศ. 2308 – พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1765 – ค.ศ. 1790) | |
เลโอโปลด์ที่ 2 | พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2335 (ค.ศ. 1790 – ค.ศ. 1792) | |
ฟรันซ์ที่ 2 | พ.ศ. 2335 – พ.ศ. 2349 (ค.ศ. 1792 – ค.ศ. 1806) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
มักซีมีเลียนที่ 1 | พ.ศ. 2051 – พ.ศ. 2062 (ค.ศ. 1508 – ค.ศ. 1519) | |
คาร์ลที่ 5 | พ.ศ. 2062 – พ.ศ. 2099 (ค.ศ. 1519 – ค.ศ. 1556) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: จักรพรรดิแห่งออสเตรีย
[แก้]บทความหลัก: จักรพรรดิแห่งออสเตรีย
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2349 จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ถูกล้มล้างจากการรุกล้ำและรุกรานระบอบการเมืองการปกครองของนโปเลียน โบนาปาร์ต อย่างไรก็ตาม องค์พระประมุของค์สุดท้ายของจักรวรรดิจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 ทรงสูญเสียตำแหน่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ไป พระองค์จึงทรงตั้งจักรวรรดิใหม่ คือ จักรวรรดิออสเตรีย และทรงแต่งตั้งพระราชอิสริยยศใหม่ทั้งหมด โดยพระองค์ทรงใช้พระยศในฐานะองค์พระประมุขแห่งจักรวรรดิใหม่ว่า จักรพรรดิแห่งออสเตรีย ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2347
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
ฟรันซ์ที่ 1 | พ.ศ. 2347 – พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1804 – ค.ศ. 1835) | |
แฟร์ดีนันด์ที่ 1 | พ.ศ. 2378 – พ.ศ. 2391 (ค.ศ. 1835 – ค.ศ. 1848) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : จักรพรรดิแห่งออสเตรีย
[แก้]ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน (Habsburg-Lorraine & Habsburg-Lothringen) อันที่จริงแล้วคือราชสกุลเดียวกัน จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟทรงแก้ไขกฎมณเฑียรบาลในเรื่องของการใช้ราชสกุล เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนทางด้านภาษา โดยให้มีการใช้ 2 ราชสกุลนี้สลับกันเป็นรุ่น ๆ ตัวอย่างเช่น จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟทรงดำรงอยู่ในราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน ดังนั้น พระราชโอรสและพระราชธิดาของพระองค์ จะทรงดำรงอยู่ในราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน (เช่น อาร์ชดยุกรูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งทรงอยู่ในราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน ดังนั้น พระธิดาของพระองค์ อาร์ชดัชเชสเอลิซาเบธ มารีจะทรงอยู่ในราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน สลับกันไปเป็นรุ่น ๆ)
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
ฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 | พ.ศ. 2391 – พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1848 – ค.ศ. 1916) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
คาร์ลที่ 1 | พ.ศ. 2459 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1916 – ค.ศ. 1918) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
จักรพรรดิคาร์ล ทรงถูกขับออกจากราชสมบัติจากหลังจากพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในพ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1918) แต่พระองค์ยังดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแต่เพียงในนามจนกระทั่งสวรรคต หลังจากสิ้นรัชกาลของพระองค์ พระราชโอรสองค์โตของพระองค์ อาร์ชดยุกอ็อทโท เป็นผู้สืบราชสมบัติเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 10 พรรษาเท่านั้น จักรพรรดินีซีต้า พระบรมราชชนนี จึงทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตั้งแต่พ.ศ. 2465 – พ.ศ. 2473[ต้องการอ้างอิง] ในปัจจุบันออสเตรียเป็นสาธารณรัฐ ดังนั้นจึงไม่มีการสืบราชสมบัติอีก แต่ อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค ประมุขแห่งราชวงศ์ ยังคงอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ออสเตรียต่อไป
ผู้อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ออสเตรีย
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค | พ.ศ. 2465 – สิ้นพระชนม์ พ.ศ. 2554 (ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
ประมุขแห่งอดีตราชวงศ์
[แก้]ภาพ | พระนาม | สถานะ | ราชสกุล |
อาร์ชดยุกคาร์ล ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน พ.ศ. 2524 – ปัจจุบัน |
ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ | ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: กษัตริย์แห่งฮังการี
[แก้]บทความหลัก: รายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งฮังการี
ตั้งแต่รัชสมัยของจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ราชอาณาจักรฮังการี ก็ได้ถูกผนวกรวมเข้ากับจักรวรรดิออสเตรียตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์: กษัตริย์แห่งฮังการี
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
อัลเบรชท์ที่ 2 | พ.ศ. 1980 – พ.ศ. 1982 (ค.ศ. 1437 – ค.ศ. 1439) | |
ลาดิสเลาส์ที่ 5 โพสธูมัส | พ.ศ. 1987 – พ.ศ. 1990 (ค.ศ. 1444 – ค.ศ. 1457) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: กษัตริย์แห่งฮังการี
[แก้]ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: กษัตริย์แห่งฮังการี
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
มาเรีย เทเรซา | พ.ศ. 2284 – พ.ศ. 2323 (ค.ศ. 1741 – ค.ศ. 1780) | |
โยเซฟที่ 2 | พ.ศ. 2323 – พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1780 – ค.ศ. 1790) | |
เลโอโปลด์ที่ 2 | พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2335 (ค.ศ. 1790 – ค.ศ. 1792) | |
ฟรันซ์ที่ 1 | พ.ศ. 2335 – พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1792 – ค.ศ. 1835) | |
แฟร์ดีนันด์ที่ 5 | พ.ศ. 2378 – พ.ศ. 2391 (ค.ศ. 1835 – ค.ศ. 1848) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : กษัตริย์แห่งฮังการี
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
ฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 | พ.ศ. 2391 – พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1848 – ค.ศ. 1916) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
คาร์ลที่ 4 | พ.ศ. 2459 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1916 – ค.ศ. 1918) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ผู้อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ฮังการี
[แก้]อ็อทโทที่ 2 | พ.ศ. 2465 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
[แก้]บทความหลัก: รายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
รูดอล์ฟที่ 1 | พ.ศ. 1849 – พ.ศ. 1850 (ค.ศ. 1306 – ค.ศ. 1307) |
ฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์: กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
อัลเบรชท์ที่ 1 | พ.ศ. 1980 – พ.ศ. 1982 (ค.ศ. 1437 – ค.ศ. 1439) | |
ลาดิสเลาส์ โพสธูมัส | พ.ศ. 1996 – พ.ศ. 2000 (ค.ศ. 1453 – ค.ศ. 1457) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
[แก้]ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
[แก้]ก่อนหน้านี้ โบฮีเมีย เป็นประเทศที่ไม่ได้รวมกับจักรวรรดิ ตั้งแต่รัชสมัยของจักรพรรดินีนาถมาเรีย เทเรซา โบฮีเมียถูกผนวกรวมเข้ากับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
มาเรีย เทเรซา | พ.ศ. 2286 – พ.ศ. 2323 (ค.ศ. 1743 – ค.ศ. 1780) | |
โยเซฟที่ 2 | พ.ศ. 2323 – พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1780 – ค.ศ. 1790) | |
เลโอโปลด์ที่ 2 | พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2335 (ค.ศ. 1790 – ค.ศ. 1792) | |
ฟรันซ์ที่ 1 | พ.ศ. 2335 – พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1792 – ค.ศ. 1835) | |
แฟร์ดีนันด์ที่ 5 | พ.ศ. 2378 – พ.ศ. 2391 (ค.ศ. 1835 – ค.ศ. 1848) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
ฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 | พ.ศ. 2391 – พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1848 – ค.ศ. 1916) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
คาร์ลที่ 3 | พ.ศ. 2459 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1916 – ค.ศ. 1918) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ผู้อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์โบฮีเมีย
[แก้]อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค | พ.ศ. 2465 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค: กษัตริย์แห่งเยอรมัน
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
รูดอล์ฟที่ 1 | พ.ศ. 1816 – พ.ศ. 1834 (ค.ศ. 1273 – ค.ศ. 1291) |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค: เคานต์แห่งฮาพส์บวร์ค
[แก้]ก่อนที่พระเจ้ารูดอล์ฟที่ 1 แห่งเยอรมนี จะทรงดำรงตำแหน่งเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ประมุขแห่งราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค ได้ทรงดำรงตำแหน่งเป็น เคานต์แห่งฮาพส์บวร์ค (Count of Habsburg) ปกครองดินแดนฮาพส์บวร์คทางตอนเหนือ (ปัจจุบันคือทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี และประเทศสวิตเซอร์แลนด์)
- เคานต์กันแทร็มแห่งฮาพส์บวร์ค สมญาพระนามว่า กันแทร็มผู้ร่ำรวย (Guntram the Rich) (ประมาณพ.ศ. 1473 – พ.ศ. 1528; (ca. 930–985))
- แลนเซอลินแห่งอัลเท็นบวร์ก ทรงปกครองพร้อมด้วยพระอนุชา, เคานต์แร็ดบอท
- เคานต์รูดอล์ฟที่ 1 แห่งฮาพส์บวร์ค โดยมีเวอร์เนอร์ที่ 1 บิชอปแห่งสแตรสเบิร์ก, และ แลนดอล์ฟ เป็นอุปราช
- แร็ดบอทแห่งเคล็ทกอว์ ซึ่งเป็นผู้สร้างปราสาทฮาพส์บวร์ค ประมาณพ.ศ. 1528 – พ.ศ. 1578; (ca. 985–1035) นอกจากนี้ทรงสถาปนาให้พระราชโอรส 2 พระองค์ เคานต์อ็อทโทที่ 1 แห่งฮาพส์บวร์ค ไปเป็นเคานต์แห่งซันโกว์ (Sundgau) และ เคานต์อัลเบรชท์ที่ 1 ไปเป็นเคานต์แห่งอัลเซส (Alsace)
- เคานต์เวอร์เนอร์ที่ 1 แห่งฮาพส์บวร์ค (ประมาณพ.ศ. 1573 – พ.ศ. 1639; (1030–1096). โดยทรงปกครองควบคู่กับ เคานต์อ็อทโทที่ 2 แห่งฮาพส์บวร์ค และทรงแต่งตั้งสถาปนาพระราชโอรส เคานต์อัลเบรชท์ที่ 2 ให้ไปปกครองดินแดนมูรี (Muri) ตั้งแต่พ.ศ. 1654 – พ.ศ. 1684; (1111–1141) หลังจากที่เคานต์อ็อทโทสวรรคต
- เคานต์อ็อทโทที่ 2 แห่งฮาพส์บวร์ค ทรงปกครองพร้อมด้วย เคานต์เวอร์เนอร์ที่ 1 จนสิ้นพระชนม์เมื่อปีพ.ศ. 1654 (d. 1111)
- เคานต์เวอร์เนอร์ที่ 2 แห่งฮาพส์บวร์ค ตั้งแต่ประมาณพ.ศ. 1678 – พ.ศ. 1710; (around 1135 – d. 1167)
- เคานต์อัลเบรชท์ที่ 3 แห่งฮาพส์บวร์ค รู้จักกันในพระนาม อัลเบรชท์ผู้ร่ำรวย (Albrecht the Rich) ตั้งแต่พ.ศ. 1710 – พ.ศ. 1742; (1167 – 1199). ในรัชสมัยของพระองค์ พระองค์ทรงทำให้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาของอาณาจักรได้ ทั่วทั้งแผ่นดินพูดภาษาเยอรมันกันทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปัจจุบัน
- เคานต์รูดอล์ฟที่ 2 แห่งฮาพส์บวร์ค ตั้งแต่พ.ศ. 1742 – พ.ศ. 1775; (1199 – 1232)
- เคานต์อัลเบรชท์ที่ 4 แห่งฮาพส์บวร์ค ตั้งแต่พ.ศ. 1775 – พ.ศ. 1782; (1232 – 1239) พระราชบิดาในเคานต์รูดอล์ฟที่ 5 แห่งฮาพส์บวร์ค ซึ่งภายหลังได้เป็นกษัตริย์แห่งเยอรมนีพระนามว่า รูดอล์ฟที่ 1 พระองค์ทรงปกครองพร้อมกับเคานต์รูดอล์ฟที่ 3 แห่งฮาพส์บวร์ค ทำให้มีการแยกแผ่นดินฮาพส์บวร์คออกเป็น 2 ส่วน โดยเคานต์อัลเบรชท์ได้ปกครองแผ่นดินทางตะวันตกส่วนเคานต์รูดอล์ฟได้ปกครองแผ่นดินทางตะวันออก นอกจากนี้ เคานต์อัลเบรชท์ทรงเป็นต้นราชตระกูลของอาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย-เอสต์ และพระชายาโซฟี ดัชเชสแห่งโฮเอ็นแบร์ก ดังนั้น จึงพบว่า ทั้ง 2 พระองค์เป็นพระญาติกัน
ดยุกแห่งออสเตรีย
[แก้]เมื่อแผ่นดินฮาพส์บวร์คถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน แผ่นดินฮาพส์บวร์คฝั่งตะวันออกได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองใหม่ จากเคานต์เป็นดยุก โดยเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น ดัชชีออสเตรีย (Duchy of Austria) ซึ่งในปัจจุบันคือรัฐโลเวอร์ ออสเตรีย และ ตางตะวันออกของรัฐอัปเปอร์ ออสเตรีย ประเทศออสเตรีย นอกจากนี้ แคว้นออสเตรีย ยังได้ผนวกดัชชีสติเรีย และ คารินเธีย รวมทั้ง คานิโอล่า และทีโรล รวมเข้ากับออสเตรียในพ.ศ. 1906
ต่อมา องค์พระประมุขของแผ่นดินฮาพส์บวร์คฝั่งตะวันตกสวรรคต และไม่มีองค์รัชทายาท ดยุกแห่งออสเตรียจึงเข้าไปปกครองแผ่นดินทางตะวันตกแทน ซึ่งได้แก่ อัลเซส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี รวมทั้งโวราร์ลเบิร์ก แต่สูญเสียดินแดนลุ่มแม่น้ำไรน์ และทะเลสาบคอนสแตนส์ เพื่อที่จะขยายแผ่นดินไปถึงสมาพันธรัฐสวิสเก่า (Old Swiss Confederacy) แต่ในที่สุด ก็สามารถปกครองแผ่นดินดังกล่าวจนถึงพ.ศ. 1922 หลังจากนั้น ก็ถูกปกครองในตำแหน่งใหม่คือ เคานต์แห่งทีโรล (Princely Count of Tyrol) ดังพระนามที่จะกล่าวด้านล่างนี้
- ดยุกรูดอล์ฟที่ 2 แห่งออสเตรีย พระราชโอรสในรูดอล์ฟที่ 1 ดยุกแห่งสติเรีย; พ.ศ. 1825 – พ.ศ. 1826 (1282–1283) ทรงถูกลอบปลงพระชนม์โดยพระอนุชาของพระองค์เอง
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 1 แห่งออสเตรีย พระอนุชาในดยุกรูดอล์ฟ ผู้ซึ่งเชื่อว่า ทรงลอบปลงพระชนม์พระเชษฐาของพระองค์เอง; พ.ศ. 1826 – พ.ศ. 1851 (1282–1308) ได้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในพ.ศ. 1841
- ดยุกรูดอล์ฟที่ 3 แห่งออสเตรีย; เป็นประมุขชั่วคราวตั้งแต่พ.ศ. 1841 – พ.ศ. 1850 (1298–1307)
- ดยุกฟรีดริชที่ 1 แห่งออสเตรีย หรือรู้จักกันในนาม ฟรีดริชผู้หล่อเหลา (Friedrich the Handsome; (Friedrich der Schöne) ; พ.ศ. 1851 – พ.ศ. 1873 (1308–1330) ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จักรพรรดิลุดวิกที่ 4 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่พ.ศ. 1868
- ดยุกเลโอโปลด์ที่ 1 แห่งออสเตรีย; พ.ศ. 1851 – พ.ศ. 1869 (1308–1326)
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 2 แห่งออสเตรีย; ดยุกแห่งวอร์เดอร์เอิสเตอร์ไรค์ (Vorderösterreich) ตั้งแต่พ.ศ. 1869 – พ.ศ. 1901 (1326–1358) , และดยุกแห่งออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1873 – พ.ศ. 1901 (1330–1358) , และดยุกแห่งคารินเธีย ตั้งแต่พ.ศ. 1878 – พ.ศ. 1901 (1335-1358)
- อ็อทโทผู้ร่าเริง
Otto the Jolly (der Fröhliche) ปกครองพร้อมกับดยุกอัลเบรชท์; ดยุกแห่งออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1873 – พ.ศ. 1882 (1330–1339) และดยุกแห่งคารินเธียตั้งแต่พ.ศ. 1906 - ดยุกรูดอล์ฟที่ 4 แห่งออสเตรีย รู้จักกันในนาม รูดอล์ฟผู้ก่อตั้ง (Rudolf the Founder (der Stifter)) ; ดยุกแห่งออสเตรียและสติเรียตั้งแต่พ.ศ. 1901 – พ.ศ. 1908 (1358–1365) , และดยุกแห่งทีโรล ตั้งแต่พ.ศ. 1906
หลังจากที่ดยุกรูดอล์ฟที่ 4 เสด็จสวรรคต พระอนุชาของพระองค์ ดยุกรูดอล์ฟที่ 3 และ ดยุกเลโอโปลด์ที่ 3 แห่งออสเตรีย ได้ทรงปกครองแผ่นดินฮาพส์บวร์คด้วยกันตั้งแต่พ.ศ. 1908 – พ.ศ. 1922 (1365 – 1379) , ขณะที่ทรงราชย์ ได้มีการแยกแผ่นดินออกเป็น 2 อาณาจักรตามสนธิสัญญานอยเบิร์ก (Treaty of Neuberg) โดยดยุกอัลเบรชท์ทรงปกครองแคว้นออสเตรีย (ทำให้มีการก่อตั้งฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์ (Albertine Line) ส่วนดยุกเลโอโปลด์ได้ทรงปกครองแคว้นสติเรีย, คานิโอล่า, คารินเธีย, วินดิช มาร์ช, ทีโรล, และเฟอร์เธอร์ ออสเตรีย (ต่อมามีการก่อตั้งฮาพส์บวร์คสายเลโอโปลด์ (Leopoldine Line))
ฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์: ดยุกแห่งออสเตรีย
[แก้]- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 3 แห่งออสเตรีย; ตั้งแต่พ.ศ. 1929 – พ.ศ. 1938 (1386-1395)
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 4 แห่งออสเตรีย; พ.ศ. 1938 – พ.ศ. 1947 (1395–1404)
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 5 แห่งออสเตรีย; พ.ศ. 1947 – พ.ศ. 1982 (1404–1439) ภายหลังทรงได้เป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่พ.ศ. 1981 โดยทรงฉลองปรมาภิไธยว่า จักรพรรดิอัลเบรชท์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
- ลาดิสเลาส์ โพสธูมัส พ.ศ. 1987 – พ.ศ. 1990 (1444 – 1457)
ฮาพส์บวร์คสายเลโอโปลด์: ดยุกแห่งสติเรีย, คารินเธีย และทีโรล
[แก้]- ดยุกเลโอโปลด์ที่ 3 แห่งออสเตรีย, ดยุกแห่งสติเรีย, คารินเธีย, ทีโรล, และเฟอร์เธอร์ ออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1908 – พ.ศ. 1929 (1365-1386) ทรงสิ้นพระชนม์ในสมรภูมิเซ็มแพ็ช
- ดยุกวิลเฮล์มแห่งออสเตรีย; ดยุกแห่งอินเนอร์ ออสเตรีย, คารินเธีย และสติเรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1929 – พ.ศ. 1949 (1386–1406)
- ดยุกเลโอโปลด์ที่ 4 แห่งออสเตรีย, ดยุกแห่งออสเตรีย และอินเนอร์ ออสเตรียตั้งแต่พ.ศ. 1949 – พ.ศ. 1954 (1406-1411) , ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งเฟอร์เธอร์ ออสเตรียในพ.ศ. 1934, ดยุกแห่งทีโรลตั้งแต่พ.ศ. 1938 – พ.ศ. 1945
สายเลโอโปลด์-อินเนอร์ ออสเตรีย
[แก้]- เอิร์นส์ผู้แข็งแกร่ง
Ernst the Iron (der Eiserne) ตั้งแต่พ.ศ. 1949 – พ.ศ. 1967 (1406–1424) ทรงเป็นดยุกแห่งอินเนอร์ ออสเตรียจนถึงพ.ศ. 1954 - ดยุกฟรีดริชที่ 5 แห่งออสเตรีย; พ.ศ. 1983 – พ.ศ. 2036 (ค.ศ. 1440 – ค.ศ. 1493) ต่อมาทรงเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ พระนามฟรีดริชที่ 3 ในพ.ศ. 1983 ดยุกแห่งอินเนอร์ ออสเตรียตั้งแต่พ.ศ. 1967 และทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระเจ้าลาดิสเลาส์ โพสธูมัสแห่งโบฮีเมีย (ระหว่างพ.ศ. 1982 – พ.ศ. 1995 (1439–1446))
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 6 แห่งออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1989 – พ.ศ. 2006 (1446–1463)
สายเลโอโปลด์-ทีโรล
[แก้]- ดยุกฟรีดริชที่ 4 แห่งออสเตรีย ดยุกแห่งทีโรล และเฟร์เธอร์ ออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1945 – พ.ศ. 1982 (1402–1439)
- ดยุกซีจิสมันด์แห่งออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1982 – พ.ศ. 1989 (1439–1446)
การรวมแผ่นดินคืนของฮาพส์บวร์ค
[แก้]เนื่องจากดยุกซีจิสมันด์ทรงไม่มีพระราชบุตรเลย และทรงรับจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เป็นพระราชบุตรบุญธรรม เมื่อสิ้นรัชกาลของดยุกซีจิสมันด์แล้ว พระราชโอรสบุญธรรมก็ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดาบุญธรรมเป็นดยุก และเมื่อสิ้นรัชกาลจักรพรรดิ พระราชบิดาแล้ว พระองค์ก็ทรงสืบราชสมบัติเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ต่อ และในการที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นองค์พระประมุข 2 ประเทศนี่เอง จึงทรงรวมแผ่นดินฮาพส์บวร์ค 2 ส่วนเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง โดยพระองค์ทรงแต่งตั้งพระองค์เองเป็นดยุกแห่งออสเตรียตั้งแต่พ.ศ. 2028 – พ.ศ. 2033
กษัตริย์แห่งเยอรมัน และจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อตอนรวมแผ่นดินใหญ่ฮาพส์บวร์ค
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
รูดอล์ฟที่ 1 | พ.ศ. 1816 – พ.ศ. 1834 (ค.ศ. 1273 – ค.ศ. 1291) | |
อัลเบรชท์ที่ 1 | พ.ศ. 1841 – พ.ศ. 1851 (ค.ศ. 1298 – ค.ศ. 1308) | |
อัลเบรชท์ที่ 2 | พ.ศ. 1981 – พ.ศ. 1982 (ค.ศ. 1438 – ค.ศ. 1439) | |
ฟรีดริชที่ 3 | พ.ศ. 1983 – พ.ศ. 2036 (ค.ศ. 1440 – ค.ศ. 1493) |
ฮาพส์บวร์คสเปน และฮาพส์บวร์คโปรตุเกส: กษัตริย์แห่งสเปน และกษัตริย์แห่งโปรตุเกส
[แก้]- พระเจ้าฟิลลิปที่ 1 แห่งคาสตีล, พระราชโอรสองค์ที่ 2 ในจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทรงเป็นผู้ก่อตั้งสายสกุลฮาพส์บวร์คสเปน ในพ.ศ. 2039 โดยทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีนาถฮวนนาแห่งคาสตีล เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อพ.ศ. 2049 ก็ทรงมอบบัลลังก์คาสตีลในการรวมชาติสเปนโดยพระราชโอรสของพระองค์
- พระเจ้าคาร์ลอสที่ 1 แห่งสเปน พ.ศ. 2059 – พ.ศ. 2099 (1516–1556) , ผู้ทรงรวมสายสกุลฮาพส์บวร์คสเปน และสายสกุลฮาพส์บวร์คออสเตรียไว้ด้วยกัน
- พระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แห่งสเปน พ.ศ. 2099 – พ.ศ. 2141 (1556–1598) , เป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสในพระนาม พระเจ้าฟิลลิปที่ 1 แห่งโปรตุเกส ตั้งแต่พ.ศ. 2123 และเป็นพระมหากษัติรย์ พระราชสวามีแห่งอังกฤษ (King Consort of England) ในนาม ฟิลลิปที่ 1 ที่ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งอังกฤษ ตั้งแต่พ.ศ. 2097
- พระเจ้าฟิลลิปที่ 3 แห่งสเปน และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสในพระนาม พระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แห่งโปรตุเกส ตั้งแต่พ.ศ. 2141 – พ.ศ. 2164 (1598–1621)
- พระเจ้าฟิลลิปที่ 4 แห่งสเปน พ.ศ. 2164 – พ.ศ. 2208 (1621–1665) และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสในพระนาม พระเจ้าฟิลลิปที่ 3 แห่งโปรตุเกส ตั้งแต่พ.ศ. 2164 – พ.ศ. 2183 (1621–1640) โดยทรงเป็นกษัตริย์แห่งโปรตุเกสองค์สุดท้ายของสายสกุลฮาพส์บวร์คสเปน-โปรตุเกส
- พระเจ้าคาร์ลอสที่ 2 แห่งสเปน พ.ศ. 2208 – พ.ศ. 2243 (1665–1700)
สายสกุลฮาพส์บวร์คสเปนได้สิ้นสุดลงหลังจากสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: แกรนด์ดยุกแห่งทัสกานี
[แก้]จักรพรรดิฟรันซ์ ซึ่งทรงเป็นแกรนด์ดยุกแห่งทัสกานี ได้ทรงมอบราชบัลลังก์ทัสกานีให้กับพระราชโอรสองค์โต อาร์ชดยุกเลโอโปลด์ ตั้งแต่บัดนั้น ราชรัฐทัสกานีได้อยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค จนถึงการรวมชาติอิตาลี
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
ฟรันซ์ที่ 1 | พ.ศ. 2288 – พ.ศ. 2308 (ค.ศ. 1745 – ค.ศ. 1765) | |
โยเซฟที่ 2 | พ.ศ. 2308 – พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1765 – ค.ศ. 1790) | |
แฟร์ดีนันด์ที่ 3 | ครั้งที่ 1: พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2343 (ค.ศ. 1790 – ค.ศ. 1800) ครั้งที่ 2: พ.ศ. 2357 – พ.ศ. 2367 (ค.ศ. 1814 – ค.ศ. 1824) | |
เลโอโปลด์ที่ 2 | พ.ศ. 2367 – พ.ศ. 2402 (ค.ศ. 1824 – ค.ศ. 1859) | |
แฟร์ดีนันด์ที่ 4 | พ.ศ. 2402 – พ.ศ. 2451 (ค.ศ. 1859 – ค.ศ. 1908) | |
แฟร์ดีนันด์ที่ 5 | พ.ศ. 2451 – พ.ศ. 2485 (ค.ศ. 1908 – ค.ศ. 1942) | |
แฟร์ดีนันด์ที่ 6 | พ.ศ. 2485 – พ.ศ. 2491 (ค.ศ. 1942 – ค.ศ. 1948) | |
ก๊อทเฟรด | พ.ศ. 2491 – พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1948 – ค.ศ. 1984) | |
เลโอโปลด์ ฟรันซ์ | พ.ศ. 2527 – พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1984 – ค.ศ. 1993) | |
ซีจิสมันด์ | พ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1993) |
ดูเพิ่มที่ ลำดับการสืบสันตติวงศ์ราชบัลลังก์ทัสกานี
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-เอสต์
[แก้]พระราชอิสริยยศแห่งออสเตรีย-เอสต์ (Austria-Este) เป็นพระราชอิสริยยศที่เกิดจากการอภิเษกสมรสของอาร์ชดยุกแฟร์ดีนันด์ คาร์ล พระราชโอรสในจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา ที่ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมาเรีย เบียทริซ ริคคิอาร์ด้าแห่งเอสต์ องค์รัชทายาทหญิงแห่งแคว้นโมเดน่าและเรจจิโอ้ โดยหลังจากการอภิเษกสมรส มีการรวมพระราชอิสริยยศออสเตรีย และเอสต์ รวมเข้าไว้ด้วยกัน จึงได้มีการก่อตั้งราชสกุล หรือพระราชอิสริยยศออสเตรีย-เอสต์ขึ้น และได้มีพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ทรงดำรงพระราชอิสริยยศนี้ตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
อาร์ชดยุกแฟร์ดีนันด์ คาร์ลแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2314 – พ.ศ. 2357 (ค.ศ. 1771 – ค.ศ. 1814) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
ฟรานเซสโก้ที่ 4 | พ.ศ. 2357 – พ.ศ. 2389 (ค.ศ. 1814 – ค.ศ. 1846) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
ฟรานเซสโก้ที่ 5 | พ.ศ. 2389 – พ.ศ. 2418 (ค.ศ. 1846 – ค.ศ. 1875) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2418 – พ.ศ. 2457 (ค.ศ. 1875 – ค.ศ. 1914) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน | |
อาร์ชดยุกคาร์ลแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2457 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1914 – ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน | |
อาร์ชดยุกโรเบิร์ตแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2461 – พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1922 – ค.ศ. 1996) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
อาร์ชดยุกลอเรนซ์แห่งออสเตรีย-เอสต์ เจ้าฟ้าชายแห่งเบลเยียม | พ.ศ. 2539 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1996) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : ดยุกแห่งโมเดน่า
[แก้]แคว้นโมเดน่า ได้ปกครองโดยราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค หลังจากการประชุมใหญ่แห่งเวียนนา มีมติให้ยกดินแดนโมเดน่าให้กับราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค โดยได้ปกครองจนถึงการรวมชาติอิตาลี
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
ฟรานเซสโก้ที่ 4 | พ.ศ. 2357 – พ.ศ. 2389 (ค.ศ. 1814 – ค.ศ. 1846) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
ฟรานเซสโก้ที่ 5 | พ.ศ. 2389 – พ.ศ. 2418 (ค.ศ. 1846 – ค.ศ. 1875) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2418 – พ.ศ. 2457 (ค.ศ. 1875 – ค.ศ. 1914) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน | |
อาร์ชดยุกคาร์ลแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2457 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1914 – ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน | |
อาร์ชดยุกโรเบิร์ตแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2461 – พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1922 – ค.ศ. 1996) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
อาร์ชดยุกลอเรนซ์แห่งออสเตรีย-เอสต์ เจ้าฟ้าชายแห่งเบลเยียม | พ.ศ. 2539 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1996) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: จักรพรรดิแห่งเม็กซิโก
[แก้]จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ได้ทรงเชื้อเชิญ อาร์ชดยุกแฟร์ดีนันด์ มักซีมีเลียน พระโอรสองค์รองในอาร์ชดยุกฟรันซ์ คาร์ลแห่งออสเตรีย และเป็นพระราชอนุชาในจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย ให้ไปครองราชย์บัลลังก์อิมพีเรียลแห่งเม็กซิโก โดยการครองบัลลังก์นี้ นำไปสู่การก่อตั้งจักรวรรดิเม็กซิโกที่ 2 พระองค์และพระชายา เจ้าหญิงชาร์ลอตแห่งเบลเยียม ได้รับการสถาปนาเป็น จักรพรรดิ และ จักรพรรดินีแห่งเม็กซิโก แต่ในขณะที่ทรงราชย์นั้น ไม่ค่อยราบรื่นดีนัก เพราะเนื่องจากมีผู้ที่ต่อต้านพระองค์อยู่มากมาย จนในที่สุด ก็ทรงถูกโค่นราชบัลลังก์ โดยคณะปฏิวัติสาธารณรัฐนิยม พระองค์ทรงถูกประหารชีวิตเมื่อพ.ศ. 2410 โดยผู้นำปฏิวัติเบนิโต ยัวเรซ (ภายหลังได้เป็นประธานาธิบดีแห่งเม็กซิโก) ส่วนจักรพรรดินีมเหสี ก็เสด็จอพยพกลับมาตุภูมิ
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
มักซีมีเลียนที่ 1 | พ.ศ. 2407 – พ.ศ. 2410 (ค.ศ. 1864 – ค.ศ. 1867) |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค: สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส
[แก้]ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ถึงศตวรรษที่ 18 ออสเตรียได้ส่งอาร์ชดัชเชสหลายพระองค์ไปอภิเษกสมรสกับพระบรมวงศานุวงศ์ฝรั่งเศส เพื่อผลประโยชน์ทางการทูต และพันธมิตรระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะในรัชสมัยของจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้มีพระบรมราชโองการให้พระราชธิดาองค์โตของพระองค์ อาร์ชดัชเชสมารี หลุยส์ ให้ไปอภิเษกสมรสกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส เพื่อรักษาสมดุลในจักรวรรดิ หลังจากที่นโปเลียนได้รุกรานออสเตรีย และได้ยุบจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ลง
สายฮาพส์บวร์ค
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
เจ้าหญิงเอลีนอร์แห่งฮาพส์บวร์ค, เจ้าหญิงแห่งคาสตีล | พ.ศ. 2041 – พ.ศ. 2101 (ค.ศ. 1498 – ค.ศ. 1558) |
พระเจ้ามานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกส เมื่อพระเจ้ามานูเอลเสด็จสวรรคต พระองค์ก็ทรงไปอภิเษกสมรสอีกครั้งกับสมเด็จพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส |
ฮาพส์บวร์ค วงศ์ออสเตรีย
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
อาร์ชดัชเชสเอลิซาเบธแห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2097 – พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1554 – ค.ศ. 1592) |
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 แห่งฝรั่งเศส |
ฮาพส์บวร์ค วงศ์สเปน
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
เจ้าหญิงแอนน์แห่งสเปน | พ.ศ. 2144 – พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1601 – ค.ศ. 1666) |
พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส | |
เจ้าหญิงมาเรีย เทเรซาแห่งสเปน | พ.ศ. 2181 – พ.ศ. 2226 (ค.ศ. 1638 – ค.ศ. 1683) |
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
อาร์ชดัชเชสมาเรีย แอนโตเนียแห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2298 – พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1755 – ค.ศ. 1793) |
สมเด็จพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: จักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
อาร์ชดัชเชสมารี หลุยส์ แห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2334 – พ.ศ. 2390 (ค.ศ. 1791 – ค.ศ. 1847) |
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส |
หลังจากนโปเลียนถูกขับออกจากราชบัลลังก์ พระองค์ก็เสด็จกลับกรุงเวียนนา และนอกจากพระองค์ทรงเป็นจักรพรรดินีมเหสีแห่งฝรั่งเศสแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นดัชเชสแห่งปาร์มาด้วย (Duchess of Parma) โดยแคว้นปาร์มาได้ถูกโอนให้เป็นแผ่นดินของราชวงศ์ฮาพส์บวร์คหลังจากการประชุมใหญ่แห่งเวียนนา แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกผนวกเข้ากับราชอาณาจักรอิตาลี
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค: สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส
[แก้]สายฮาพส์บวร์ค
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
เจ้าหญิงเอลีนอร์แห่งฮาพส์บวร์ค, เจ้าหญิงแห่งคาสตีล | พ.ศ. 2041 – พ.ศ. 2101 (ค.ศ. 1498 – ค.ศ. 1558) |
พระเจ้ามานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกส เมื่อพระเจ้ามานูเอลเสด็จสวรรคต พระองค์ก็ทรงไปอภิเษกสมรสอีกครั้งกับสมเด็จพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส | |
เจ้าหญิงแคเธอรีนแห่งฮาพส์บวร์ค, เจ้าหญิงแห่งสเปน | พ.ศ. 2050 – พ.ศ. 2121 (ค.ศ. 1507 – ค.ศ. 1578) |
พระเจ้ายูฮาวที่ 3 แห่งโปรตุเกส |
ฮาพส์บวร์ค วงศ์ออสเตรีย
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
อาร์ชดัชเชสมารี แอนน์แห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2226 – พ.ศ. 2297 (ค.ศ. 1683 – ค.ศ. 1754) |
พระเจ้ายูฮาวที่ 5 แห่งโปรตุเกส |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน
[แก้]ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
อาร์ชดัชเชสมาเรีย ลีโอโพลดิน่าแห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2340 – พ.ศ. 2369 (ค.ศ. 1797 – ค.ศ. 1826) |
พระเจ้าเปโตรที่ 4 แห่งโปรตุเกส (จักรพรรดิเปโตรที่ 1 แห่งบราซิล) |
ตราแผ่นดินแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
[แก้]ค.ศ. 1867 - 1915
[แก้]ค.ศ. 1915 เป็นต้นไป
[แก้]โล่ | ส่วน | ดินแดน |
---|---|---|
II III IV V VI VII VIII IX X XI XII XIII XIV XV XVI XVII XVIII XIX XX |
ราชอาณาจักรกาลิเซียและโลโดเมเรีย ราชอาณาจักรโบฮีเมีย ราชอาณาจักรแดลเมเชีย ดัชชีไซลีเลียบนและล่าง ดัชชีซัลซ์บวร์ค แคว้นชายแดนโมราเวีย เคาน์ตีทีโรล ดัชชีบูโกวีนา มลรัฐโฟราร์ลแบร์ก แคว้นชายแดนอิสเทียร์ เคาน์ตีโกริเซีย เคาน์ตีกราดิสกา มลรัฐบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เสรีนครตรีเยสเต อาร์ชดัชชีออสเตรียล่าง อาร์ชดัชชีออสเตรียบน ดัชชีสติเรีย ดัชชีคาร์นิโอลา ดัชชีคารินเทีย อาร์ชดัชชีออสเตรีย |
โล่ | ส่วน | ดินแดน |
---|---|---|
II III IV V VI VII |
ราชอาณาจักรแดลเมเชีย (ส่วนหนึ่งของฮังการี) ราชอาณาจักรโครเอเชีย ราชอาณาจักรสลาโวเนีย ราชรัฐใหญ่ทรานซิลเวเนีย มลรัฐบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา นครฟีอูเมและแขวงภายใน ราชอาณาจักรฮังการี |
โล่ | ส่วน | ตำแหน่ง |
---|---|---|
II III |
เคานต์แห่งฮาพส์บวร์ค อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย ดยุกแห่งลอแรน |
ดูเพิ่ม
[แก้]- จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
- จักรวรรดิออสเตรีย
- จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
- ราชอาณาจักรฮังการี
- แผนผังราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
- แผนผังราชวงศ์ลอแรน
- ฮาพส์บวร์คสายเลโอโปลด์เดียน
- ฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์
- ฮาพส์บวร์คสเปน
- ฮาพส์บวร์ค-โปรตุเกส
- ราชาธิปไตยฮาพส์บวร์ค
-
พระราชวังฮอฟบวร์ค, กรุงเวียนนา
-
พระราชวังเชินบรุนน์, กรุงเวียนนา
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ อ้างสิทธื์ในพระราชอิสริยยศ แต่มิเคยปกครองในทางพฤตินัย
อ้างอิง
[แก้]- Brewer-Ward, Daniel A. The House of Habsburg: A Genealogy of the Descendants of Empress Maria Theresia. Clearfield, 1996.
- Evans, Robert J. W. The Making of the Habsburg Monarchy, 1550-1700: An Interpretation. Clarendon Press, 1979.
- McGuigan, Dorothy Gies. The Habsburgs. Doubleday, 1966.
- Wandruszka, Adam. The House of Habsburg: Six Hundred Years of a European Dynasty. Doubleday, 1964 (Greenwood Press, 1975).
- Crankshaw, Edward. The Fall of the House of Habsburg. Sphere Books Limited, London, 1970. (first published by Longmans in 1963)
- Palmer Alan. "Napoleón and Marie Louise" Ariel Mexico 2003
- Henry Bogdan: Histoire des Habsbourg: des origines à nos jours. Paris: Perrin, coll. « Tempus », n° 107, 2005. 425 pp., 18 cm. ISBN 2-262-02376-X.
- Michael Erbe: Die Habsburger (1493–1918). Eine Dynastie im Reich und in Europa. Kohlhammer Verlag, Stuttgart 2000. ISBN 978-3-17-011866-9
- Hans Flesch-Brunningen (Hrsg.) : Die letzten Habsburger in Augenzeugenberichten, Düsseldorf 1967.
- Dorothy Gies McGuigan: Familie Habsburg 1273 bis 1918 : Glanz und Elend eines Herrscherhauses, Berlin, 2003 (10. Auflage). ISBN 3-548-33173-4.
- Brigitte Hamann (Hrsg) : Die Habsburger. Ein biographisches Lexikon, Wien/München 1996 (3.Auflage).
- Heinz-Dieter Heimann: Die Habsburger – Dynastie und Kaiserreiche, München 2004 (2. Auflage).
- Karl-Friedrich Krieger: Die Habsburger im Mittelalter. Von Rudolf I. bis Friedrich III. Kohlhammer Verlag, 2. Aufl., Stuttgart 2004. ISBN 978-3-17-018228-8
- Thomas Lau (Hg.), Österreichische Familien. Machthaber, Mimen und Magnaten. Böhlau Wien, 2006. ISBN 978-3-205-77543-0. (enthält ein Kapitel über die Familie Habsburg).
- Richard Reifenscheid: Die Habsburger in Lebensbildern. Von Rudolf I. bis Karl I., Wien 1990 (4. Auflage).
- Karl Vocelka/Lyenne Heller: Die Lebenswelt der Habsburger, Kultur- und Mentalitätsgeschichte einer Familie, Graz/Wien/Köln 1997.
- Karl Vocelka/Lyenne Heller: Die private Welt der Habsburger. Leben und Alltag einer Familie, Graz/Wien/Köln 1998.
- Brigitte Vacha (Hrsg.) : Die Habsburger. Eine Europäische Familiengeschichte, Graz/Wien/Köln 1992, ISBN 3-222-12107-9
- Adam Wandruszka: Das Haus Habsburg. Die Geschichte einer europäischen Dynastie, Wien 1989 (7.Auflage).
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- "Erzherzog Dr. Otto von Habsburg" (Autorisierte Ehrenseite) in German
- Habsburg Biographies
- Habsburg Resource Centre on SurnameWeb
- http://www.ac.wwu.edu/~stephan/Rulers/hapsburg3.html เก็บถาวร 2003-06-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Genealogical tree of the house of Habsburg (up until Maria Theresia)
- An Online Gotha - House of Habsburg-Lothringen (Maria Theresia's decendants} เก็บถาวร 2008-03-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The Hapsburg Monarchy (Wickham Steed, 1913) เก็บถาวร 2006-02-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน) eLibrary Austria Project full text (ebook)
- Genealogy of the Habsburgs from Genealogy.eu
- Hier finden Sie den Link zur Internet-Videoplattform "Youtube", auf welcher der Beitrag der Nachrichtensendung "Zeit im Bild" des österreichischen Republiksfernsehens abrufbar ist
- Auch in der "großen weiten Welt" finden sich Nachrichten über unser Projekt - sogar auf US-amerikanischen und indischen (!) Seiten[ลิงก์เสีย]
- Nicht sonderlich seriös für ein angebliches Qualitätsblatt - im Vorfeld schreibt die deutsche "Die Welt" vom "mächtigen Häufchen" und spielt damit die Zahl der Monarchisten in Österreich künstlich herunter
- Habsburg: Restoration? เก็บถาวร 2020-11-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- http://in.news.yahoo.com/071112/43/6n4wh.html
- Auf den Spuren der Habsburger Informationen zum 2008 Habsburger Gedenkjahr
- Stammbaum der Habsburger (bis Maria Theresia)
- The Hapsburg Monarchy (Wickham Steed, 1913) เก็บถาวร 2006-02-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน) eLibrary Austria Project (englisch, E-Book)