ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระราชวังดุสิต"
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 3: | บรรทัด 3: | ||
| ชื่อสิ่งก่อสร้าง = พระราชวังดุสิต |
| ชื่อสิ่งก่อสร้าง = พระราชวังดุสิต |
||
| ชื่อภาษาอื่น = Dusit Palace |
| ชื่อภาษาอื่น = Dusit Palace |
||
| ภาพ = |
| ภาพ = ลานพระบรมรูปทรงม้า.jpg |
||
| คำบรรยายภาพ = [[พระบรมรูปทรงม้า]]บริเวณ[[ลานพระราชวังดุสิต]] |
| คำบรรยายภาพ = [[พระบรมรูปทรงม้า]]บริเวณ[[ลานพระราชวังดุสิต]] ในเวลากลางคืน |
||
| สิ่งก่อสร้าง = [[พระราชวัง]] |
| สิ่งก่อสร้าง = [[พระราชวัง]] |
||
| เมืองที่ตั้ง = [[เขตดุสิต]], [[กรุงเทพมหานคร]] |
| เมืองที่ตั้ง = [[เขตดุสิต]], [[กรุงเทพมหานคร]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:48, 25 พฤษภาคม 2559
พระราชวังดุสิต | |
---|---|
Dusit Palace | |
พระบรมรูปทรงม้าบริเวณลานพระราชวังดุสิต ในเวลากลางคืน | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | พระราชวัง |
เมือง | เขตดุสิต, กรุงเทพมหานคร |
ประเทศ | ประเทศไทย |
เริ่มสร้าง | พ.ศ. 2442 |
ผู้สร้าง | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระราชวังดุสิต ตั้งอยู่ที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นที่เสด็จประทับชั่วคราว เนื่องจากภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นพระราชนิเวศน์ที่ประทับนั้น ประกอบด้วย พระราชมณเฑียร หมู่พระตำหนัก หมู่เรือนในเขตพระราชฐานชั้นใน และหมู่เรือนข้าราชบริพาร ปลูกสร้างอยู่กันอย่างแออัด ปิดทางลม ทำให้ที่ประทับร้อนจัด ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ทรงพระประชวรกันเสมอ ต่อมา จึงสร้างขึ้นเพื่อเป็นพระราชวังที่ประทับถาวรจนตลอดรัชกาล โดยได้สร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประวัติ
พระราชวังดุสิตเป็นพระราชวังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ภายหลังเสด็จกลับจากการประพาสยุโรปครั้งที่ 1 พระองค์มีพระราชดำริว่า พระบรมมหาราชวังในฤดูร้อนจะร้อนจัดเพราะมีตึกบังอยู่โดยรอบทำให้ขวางทางลม รวมทั้ง พระองค์โปรดพระราชดำเนินด้วยพระบาทในระยะทางหนึ่งพอสมควรแก่พระกำลัง ถ้าประทับอยู่บนพระที่นั่งไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินแห่งใดหลายเดือนก็ไม่ใคร่ทรงสบาย[1] นอกจากนี้ นายแพทย์ประจำพระองค์ได้กราบบังคมทูลว่า ในพระบรมมหาราชวังซึ่งเป็นพระราชนิเวศน์ที่ประทับมาแต่เดิมไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ทรงพระประชวรกันเสมอ
เมื่อปี พ.ศ. 2441 พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพื้นที่สวนและทุ่งนาบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระบรมมหาราชวังแล้วทรงพอพระราชหฤทัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ซื้อที่ดินระหว่างคลองผดุงกรุงเกษมจนถึงคลองสามเสนด้วยเงินพระคลังข้างที่อันเป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พระราชทานชื่อตำบลแห่งนี้ว่า "สวนดุสิต" และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพลับพลาขึ้นเป็นที่เสด็จประทับแรมชั่วคราวและให้เรียกที่ประทับแห่งนี้ว่า “วังสวนดุสิต”[1]
เมื่อมีการขยายพระนครไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ตัดถนนสามเสน, ถนนราชดำเนินใน, ถนนราชดำเนินนอก และโปรดให้รื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ที่เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี มาสร้างที่วังสวนดุสิตและพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งวิมานเมฆ"[2] โดยโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงกำกับการออกแบบและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมพระที่นั่งวิมานเมฆ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2445[3] พร้อมกันนี้ พระองค์ยังโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเรือนไทยหมู่หนึ่ง พระราชทานนามว่า "เรือนต้น" เพื่อใช้เป็นที่เสด็จให้ประชาชนที่พระองค์ได้ทรงรู้จักเมื่อครั้งเสด็จประพาสต้นมาเฝ้า
เมื่อมีการสร้างที่ประทับถาวรขึ้นและเสด็จมาประทับบ่อยครั้ง จึงมีพระราชดำริที่จะสร้างพระที่นั่งต่าง ๆ ขึ้นเพื่อใช้ประกอบพระราชพิธีได้เช่นเดียวกับพระบรมมหาราชวัง จึงโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศเปลี่ยนนามวังสวนดุสิตเป็น "พระราชวังสวนดุสิต" [4]
นอกจากสร้างพระที่นั่งต่าง ๆ ขึ้นในพระราชวังสวนดุสิตแล้ว ยังโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสวนและพระตำหนักพระราชทานให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระอัครมเหสี, พระราชเทวี, พระอัครชายา, พระราชชายา, เจ้าจอม และ พระธิดา ยังมีสวนอีกมากมายได้แก่ สวนสี่ฤดู, สวนหงส์, สวนบัว, สวนฝรั่งกังไส , สวนนกไม้, สวนม้าสน, สวนผักชีเข้ม, สวนญี่ปุ่น, สวนวิลันดา และ สวนโป๊ยเซียน และโปรดเกล้าฯ ให้จัดระเบียบพระราชวังดุสิตเป็นเขตพระราชฐาน ฝ่ายหน้า ฝ่ายใน อย่างถาวร
ต่อมาเมื่อเสด็จกลับจากประพาสทวีปยุโรปเป็นครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2451 โปรดเกล้าฯ ให้ขยายเขตพระราชฐานด้านหลังพระราชวังสวนดุสิต เป็นเขตพระราชอุทยานส่วนพระองค์ พร้อมทั้งเป็นที่ประทับถาวรของพระราชธิดา เจ้าจอมมารดา ที่อยู่ของเจ้าจอมและข้าราชบริพารในพระองค์ เมื่อเสด็จสวรรคตแล้ว พระราชอุทยานนี้พระราชทานนามว่า "สวนสุนันทา" พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับที่พระราชวังแห่งนี้จนกระทั่งเสด็จสวรรคตที่พระที่นั่งอัมพรสถาน ซึ่งเป็นพระที่นั่งองค์หนึ่งในพระราชวังสวนดุสิต
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้เรียกพระราชวังสวนดุสิตว่า "พระราชวังดุสิต" [5] และโปรดให้สร้างสวนจิตรลดาในบริเวณระหว่างพระราชวังดุสิตกับวังพญาไท เพื่อเป็นที่เสด็จประพาสและประทับแรม และสร้างพระตำหนักขึ้นหลังหนึ่ง พระราชทานนามว่า พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ซึ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ผนวกสวนจิตรลดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังดุสิต [6]
พระราชวังดุสิตได้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนเป็นที่ทำการของรัฐบาล ยังคงเหลือเพียงส่วนหนึ่งที่เป็นเขตพระราชวังที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน คือ บริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
สถานที่ภายในพระราชวัง
พระที่นั่ง
พระที่นั่งที่สำคัญ มีดังนี้
พระที่นั่งอุดรภาค สร้างขึ้นในรัชกาลที่5 สร้างขึ้นเชื่อมต่อกับพระที่นั่งอัมพรสถาน โดยเคยเป็นที่ประทับของพระนางเจ้าสุขุมมาลศรี พระวรราชเทวี และเคยเป็นสถานที่รับรองพระราชอาคันตุกะ
พระตำหนัก
- พระตำหนักราชฤทธิ์รุ่งโรจน์
- พระตำหนักเรือนต้น
- พระตำหนักสวนหงส์
- พระตำหนักสวนบัว
- พระตำหนักสวนสี่ฤดู
- พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
ตำหนัก
- ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอรุณวดี(ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมัยรัชกาลที่9)
- ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุษบันบัวผัน(ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมัยรัชกาลที่9)
- ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าวรเสรฐสุดา(ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง เป็นบางส่วนซึ่งนำมาจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง)
- ตำหนักพระราชชายาเจ้าดารารัศมี(ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์เครื่องราชูปโภคและภาพสีน้ำมัน)
- ตำหนักตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา(ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ผ้าไทยโบราณ)
- ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์(ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์นาฬิกาโบราณ)
- ตำหนักสวนบัวเปลว
- ตำหนักหอ (ปัจจุบันคือสถานที่จัดแสดงของใช้ส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินี)
อาคารต่างๆ
- อาคารพิพิธภัณฑ์รถม้าพระที่นั่ง(เป็นสถานที่จัดแสดงรถม้าพระที่นั่งในสมัยรัชกาลที่5)
- อาคารจัดแสดงเครื่องราชูปโภค(เป็นสถานที่จัดแสดงเครื่องราชูปโภคต่างๆ)
- อาคารพิพิธภัณฑ์ช้างต้น(เป็นสถานที่จัดแสดงช้างทรงในรัชกาลปัจจุบัน)
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความเรื่องสวนดุสิต, เล่ม ๑๕, ตอน ๕๐, ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๑, หน้า ๕๔๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ พระบรมราชโองการสร้างพระที่นั่งวิมาณเมฆ, เล่ม ๑๗, ตอน ๒๔, ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๑๙๐๐, หน้า ๓๐๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, การเฉลิมพระที่นั่งวิมานเมฆ, เล่ม ๑๙, ตอน ๒, ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๕, หน้า ๒๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเรียกวังสวนดุสิตเป็นพระราชวัง, เล่ม ๒๖, ตอน ๐ง, ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๒, หน้า ๔๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ขนานนามประตูพระราชวังสวนดุสิต, เล่ม ๓๓, ตอน ๐ก, ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๙, หน้า ๑๑๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสวนจิตรลดา, เล่ม ๔๒, ตอน ๐ก, ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๘, หน้า ๔
แหล่งข้อมูลอื่น
- ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ นามพระที่นั่งและสถานต่าง ๆ ในสวนดุสิต, เล่ม ๒๘, ตอน ก, ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๔, หน้า ๔๒๘
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ พระราชวังดุสิต
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์