เชียงตุง
เชียงตุง ၵဵင်းတုင် ကျိုင်းတုံ | |
---|---|
เมือง | |
พิกัด: 21°17′30″N 99°36′30″E / 21.29167°N 99.60833°E | |
ประเทศ | พม่า |
รัฐ | รัฐฉาน |
จังหวัด | เชียงตุง |
อำเภอ | เชียงตุง |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 3,506 ตร.กม. (1,354 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2014)[1] | |
• ทั้งหมด | 171,620 คน |
• ความหนาแน่น | 48.955 คน/ตร.กม. (126.79 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+6.30 (เวลามาตรฐานพม่า) |
เชียงตุง (ไทใหญ่: ၵဵင်းတုင်, ออกเสียง [keŋ˥.tuŋ˨˦]; พม่า: ကျိုင်းတုံ, เอ็มแอลซีทีเอส: kyuing:tum, ออกเสียง: [t͡ɕáɪ̯ɰ̃.tòʊɰ̃]; ไทเขิน: ᨩ᩠ᨿᨦᨲᩩᨦ; ไทยถิ่นเหนือ: ) เป็นเมืองตั้งอยู่ในรัฐฉานของประเทศพม่า เป็นเมืองของชาวไทเขินและชาวไทใหญ่ ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองเทียบเท่าเมืองเชียงใหม่แห่งล้านนาและเมืองเชียงรุ่งแห่งสิบสองปันนา โดยชาวไทใหญ่เรียกชื่อเมืองนี้ว่า "เก็งตุ๋ง" ในอดีตเชียงตุงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการค้าเชื่อมต่อระหว่างสิบสองปันนากับล้านนา โดยมีพ่อค้าชาวจีนฮ่อเดินทางไปมาค้าขายในเส้นทางนี้
ประวัติศาสตร์
[แก้]ประวัติศาสตร์ในช่วงแรกของเชียงตุงไม่ชัดเจน แต่มีตำนานเล่าขานกันว่า เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่ท่วมเมืองมีฤๅษีนามว่า ตุงคฤๅษี แสดงอิทธิฤทธิ์ทำให้น้ำไหลออกไปอยู่ตรงกลางเมือง ทำให้เกิดเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ เรียกกันว่า หนองตุง อันเป็นที่มาของชื่อ เชียงตุง เป็นแว่นแคว้นที่เจริญรุ่งเรืองด้วยพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม อุดมไปด้วยป่าไม้ และมีเจ้าฟ้าที่เข้มแข็งปกครอง จึงเฉลิมนามให้ใหม่ว่า เขมรัฐตุงคบุรี หลักฐานที่เป็นพงศาวดารของเมืองได้กล่าวไว้ว่า เมื่อจุลศักราช 791 (พ.ศ. 1772) พญามังรายได้เสด็จประพาสป่าและทรงไล่กวางทองมาจนถึงเมืองเชียงตุง พระองค์ทรงเล็งเห็นภูมิประเทศของเมืองเชียงตุง ก็พอพระทัยมากจึงยกกองทัพมารบ ยึดเมืองเชียงตุงไว้ในอาณาเขต และส่ง เจ้าน้ำท่วม ผู้เป็นราชบุตรไปปกครองเมืองเชียงตุงเมื่อ พ.ศ. 1786 เชียงตุงจึงเป็นเมือง "ลูกช้างหางเมือง" หรือ "เมืองลูกหลวง" ขึ้นกับอาณาจักรล้านนาและได้รับอิทธิพลทางพุทธศาสนาจากล้านนา ก่อนจะกลายเป็นเมืองประเทศราชของพม่าในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง และเป็นอาณานิคมของอังกฤษไปพร้อมกับพม่า
ในสมัยการล่าอาณานิคมนี้ ทำให้เกิดเจ้าฟ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเชียงตุง พระนามว่า เจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง หรือ เจ้าอินแถลง ซึ่งอยู่ร่วมสมัยกับ รัชกาลที่ 5 ของไทย พระองค์ปกป้องเมืองเชียงตุงไม่ให้กลายเป็นเมืองอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ แต่หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ เชียงตุงก็ตกไปอยู่ภายใต้อำนาจของอังกฤษ
จนกระทั่งในสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลจอมพล แปลก พิบูลสงคราม ได้ส่งกำลังทหารเข้ายึดเมืองเชียงตุง และ เมืองพาน จากอังกฤษ ที่เคยเป็นของชาวสยาม โดยมีความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น มีข้ออ้างว่ามีประวัติและเชื้อชาติที่เหมือนกัน นอกจากนั้นกองทัพไทยยังเข้าไปโจมตี เมืองตองยี และสิบสองปันนาอีกด้วย แต่ไทยก็มิได้ปกครองโดยตรง ญี่ปุ่นช่วยให้เมืองเชียงตุงและเมืองพานมาร่วมเข้ากับประเทศไทย รวมทั้งหมดนี้ทำให้จัดตั้งเป็นสหรัฐไทยเดิม แต่ก็อยู่ได้เพียงแค่ 3 ปี ก็ต้องคืนกลับให้แก่อังกฤษเหมือนเดิม เพราะญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม ปัจจุบันเชียงตุงจึงเป็นส่วนหนึ่งพม่า
ชื่อ
[แก้]- ตุงคบุรี เป็นชื่อเรียกโดยย่อ ๆ ก่อนที่จะมาเป็นเมืองเชียงตุง
- เขมรัฐตุงคบุรี หรือ นครเขมรัฐ ในช่วงที่เจริญรุ่งเรือง
- เชียงตุง (ชื่อสามัญ)
ภูมิศาสตร์
[แก้]เชียงตุงเป็นจังหวัดหนึ่งในรัฐฉานของพม่า ตั้งอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน ตั้งอยู่ละติจูดที่ 21 องศา 17 ลิปดา 48 พิลิปดา เหนือ และ ลองจิจูดที่ 99 องศา 40 ลิปดา ตะวันออก (21.2967n, 99.667e) ความสูงประมาณ 2,700 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง มีรูปร่างเป็นแอ่งกระทะมีภูเขาล้อมรอบ มีที่ราบน้อยมาก จุดที่สำคัญที่สุดก็คือ เวียงเชียงตุง แม้จะเป็นที่ราบแต่ก็มีพื้นที่ตะปุ่มตะป่ำ
ภูมิอากาศ
[แก้]ข้อมูลภูมิอากาศของเชียงตุง (ค.ศ. 1981–2010, สูงสุด ค.ศ. 1986–1994 และ 2001–2010) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 32.0 (89.6) |
33.6 (92.5) |
36.5 (97.7) |
40.0 (104) |
39.6 (103.3) |
36.6 (97.9) |
34.6 (94.3) |
35.6 (96.1) |
35.0 (95) |
33.9 (93) |
32.4 (90.3) |
32.2 (90) |
40.0 (104) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 27.2 (81) |
29.5 (85.1) |
32.0 (89.6) |
33.7 (92.7) |
31.9 (89.4) |
30.7 (87.3) |
29.5 (85.1) |
29.6 (85.3) |
29.6 (85.3) |
28.8 (83.8) |
27.3 (81.1) |
25.6 (78.1) |
29.62 (85.31) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 10.0 (50) |
11.0 (51.8) |
14.2 (57.6) |
17.9 (64.2) |
20.4 (68.7) |
21.7 (71.1) |
21.5 (70.7) |
21.3 (70.3) |
20.3 (68.5) |
18.5 (65.3) |
14.6 (58.3) |
11.0 (51.8) |
16.87 (62.36) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 3.9 (39) |
5.0 (41) |
7.6 (45.7) |
10.2 (50.4) |
13.4 (56.1) |
16.0 (60.8) |
18.0 (64.4) |
17.0 (62.6) |
14.8 (58.6) |
7.8 (46) |
4.3 (39.7) |
2.8 (37) |
2.8 (37) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 3.2 (0.126) |
4.7 (0.185) |
7.1 (0.28) |
41.9 (1.65) |
168.4 (6.63) |
163.6 (6.441) |
158.1 (6.224) |
253.2 (9.969) |
293.4 (11.551) |
184.0 (7.244) |
60.6 (2.386) |
8.1 (0.319) |
1,346.3 (53.004) |
แหล่งที่มา 1: Norwegian Meteorological Institute[2] | |||||||||||||
แหล่งที่มา 2: Sistema de Clasificación Bioclimática Mundial (records)[3] |
กำแพงเมืองเชียงตุง
[แก้]กำแพงเมืองเชียงตุง คือ กำแพงที่ล้อมรอบเวียงเชียงตุง พวกเขาก่อกำแพงเมืองโดยอาศัยภูมิประเทศ ใช้วิธีปรับแนวกำแพงเมืองไปตามธรรมชาติ ที่ที่สูงก็ไม่ต้องก่อเพิ่ม ที่ที่ต่ำก็เสริมให้สูงขึ้น ทำอย่างนี้จนรอบเวียง ความยาวของกำแพงนั้นคาดว่ายาวพอ ๆ กับกำแพงในเวียงเชียงใหม่ แต่กำแพงเชียงตุงนั้นสูงใหญ่กว่าของเวียงเชียงใหม่ มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ากำแพงเมืองเชียงตุงมีความยาวมาก ก็คือครั้งเมื่อกองทัพในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีกำลังพลนับหมื่นคนแต่ก็ไม่สามารถล้อมได้หมด เนื่องจากกำแพงนั้นใหญ่มากโดยเฉพาะทางทิศเหนือ ซึ่งในสมัยนั้นต้องตั้งค่ายทางทิศนี้ถึง 12 ค่าย
ประชากร
[แก้]เชียงตุงมีประชากรหลากหลายชาติพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทเขิน ไทใหญ่ และพม่า รองลงมายังมีชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น อาข่า ปะด่อง ว้า เป็นต้น
การศึกษา
[แก้]รัฐบาลพม่าจัดการศึกษาในเชียงตุงตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงอุดมศึกษา มีวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยทางด้านวิทยาศาสตร์และคอมพิวเตอร์ โดยในโรงเรียนจะสอนเป็นภาษาพม่า ส่วนภาษาไทเขินมีสอนแต่ในวัดเท่านั้น
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Myanmar City Population
- ↑ "Myanmar Climate Report" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). Norwegian Meteorological Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-10-20. สืบค้นเมื่อ 28 October 2018.
- ↑ "Kengtung (Myanmar)" (PDF). Centro de Investigaciones Fitosociológicas. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-10-28. สืบค้นเมื่อ 13 December 2018.
บรรณานุกรม
[แก้]- Forbes, Andrew ; Henley, David (2011). Traders of the Golden Triangle. Chiang Mai: Cognoscenti Books. ASIN: B006GMID5
- J. G. Scott, Gazetteer of Upper Burma and the Shan States. 5 vols. Rangoon, 1900-1901.
- Sao Sāimöng Mangrāi, The Pādaeng Chronicle and the Kengtung State Chronicle Translated. University of Michigan, Ann Arbor, 1981
- พระปลัดเสน่ห์ ธัมมวโร. วิถีไทเขิน เชียงตุง. เชียงใหม่. มรดกล้านนา. 2550
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- The Happy City, a 1959 film on a remote leper colony run by Father Cesare Columbo in Kengtung, Shan State
- pictures from Kengtung
- เชียงตุง - เกงตุง คอลัมน์ภาษาไทย ๕ นาที จำนงค์ ทองประเสริฐ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๓๖ เก็บถาวร 2011-12-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- keng tong photo
- การศึกษาชนชาติไทเขิน เก็บถาวร 2010-09-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เชียงตุง อุษาคเนย์ “ ซ้ายสิบนาฬิกา ” เก็บถาวร 2010-09-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประวัติแคว้นเชียงตุง คอลัมน์ภาษาไทย ๕ นาที จำนงค์ ทองประเสริฐ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๓๖ เก็บถาวร 2009-10-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน