มณฑลอุดร
มณฑลอุดร | |||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
มณฑลเทศาภิบาล | |||||||||||||||||||||||||||||
พ.ศ. 2433 – 2476 | |||||||||||||||||||||||||||||
ธง | |||||||||||||||||||||||||||||
แผนที่มณฑลอุดร | |||||||||||||||||||||||||||||
เมืองหลวง | อุดรธานี | ||||||||||||||||||||||||||||
การปกครอง | |||||||||||||||||||||||||||||
• ประเภท | สมุหเทศาภิบาลต่างพระเนตรพระกรรณ | ||||||||||||||||||||||||||||
สมุหเทศาภิบาล | |||||||||||||||||||||||||||||
• พ.ศ. 2436–2442 | พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม (คนแรก) | ||||||||||||||||||||||||||||
• พ.ศ. 2442–2449 | พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัฒนา | ||||||||||||||||||||||||||||
• พ.ศ. 2465–2470 | เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) | ||||||||||||||||||||||||||||
• พ.ศ. 2470–2472 | พระยาอดุลยเดชสยาเมศรภักดี (อุ้ย นาครธรรพ) | ||||||||||||||||||||||||||||
• พ.ศ. 2472–2476 | พระยาตรังคภูบาล (เจิม ปันยารชุน) (คนสุดท้าย) | ||||||||||||||||||||||||||||
ยุคทางประวัติศาสตร์ | รัตนโกสินทร์ | ||||||||||||||||||||||||||||
• จัดตั้งมณฑลลาวพวน | พ.ศ. 2433 | ||||||||||||||||||||||||||||
• เปลี่ยนชื่อเป็นมณฑลอุดร | 21 มกราคม พ.ศ. 2444 | ||||||||||||||||||||||||||||
• เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลภาคอีสาน | พ.ศ. 2459 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2469 | ||||||||||||||||||||||||||||
• ยกเลิกการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476 | ||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ไทย |
มณฑลอุดร หรือ มณฑลลาวพวน ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2433 จากหัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง (ปัจจุบันคือ จังหวัดหนองคาย) ต่อมาสยามได้เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส หัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ จึงต้องย้ายที่ตั้งหัวเมืองลงมาจากฝั่งแม่น้ำโขง 50 กิโลเมตร เนื่องจากทางการสยามได้ทำสัญญากับฝรั่งเศส ให้ทั้งสองฝ่ายตั้งกองกำลังห่างจากแนวเขตแดนระยะทาง 50 กิโลเมตร พระเจ้าน้องยาเธอ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม จึงย้ายมาตั้งอยู่บริเวณบ้านเดื่อหมากแข้ง ต่อมาไม่นานเปลี่ยนเป็น มณฑลลาวพวน และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น มณฑลอุดร มีที่ตั้งบริเวณบ้านเดื่อหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี ในปัจจุบัน โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม เป็นข้าหลวงใหญ่มณฑลอุดร
ประวัติ
[แก้]ยุคหัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ
[แก้]ก่อน พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ประกอบได้ด้วยหัวเมืองเอก 16 เมือง ส่วนหัวเมืองโท ตรี จัตวา 36 หัวเมือง รวมขึ้นอยู่ในหัวเมืองเอกที่ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ ดังต่อไปนี้[1]
เมืองเอก | เมืองโท ตรี จัตวา | หมายเหตุ | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1. | เมืองหนองคาย | เวียงจันทน์, เชียงคาน, พานพร้าว, ธุรคมสิงห์สถิตย์, กุมภวาปี, รัตนวาปี | 6 เมือง | ||||||||||||||||
2. | เมืองเชียงของ | แสน, พาน, งัม, ซุย, จิม | 5 เมือง | ||||||||||||||||
3. | เมืองบริคัณฑนิคม | ประซุม | 1 เมือง | ||||||||||||||||
4. | เมืองนครพนม | วัง, เรณูนคร, รามราช, อาจสามารถ, อากาศอำนวย | 5 เมือง | ||||||||||||||||
5. | เมืองคำม่วน | มหาชัยกองแก้ว, ชุมพร, วังมน, หาง | 4 เมือง | ||||||||||||||||
6. | เมืองสกลนคร | กุสุมาลมณฑล, พรรณานิคม, วาริชภูมิ, สว่างแดนดิน, โพธิไพศาล, จำปาชนบท, วานรนิวาส | 7 เมือง | ||||||||||||||||
7. | เมืองมุกดาหาร | พาลุกากรภูมิ, หนองสูง | 2 เมือง | ||||||||||||||||
8. | เมืองบุรีรัมย์ | นางรอง, ตะลุง, พุทไธสง | 3 เมือง | ||||||||||||||||
9. | เมืองขอนแก่น | ชลบถวิบูลย์, ภูเวียง, มัญจาคีรี, คำทองน้อย | 4 เมือง | ||||||||||||||||
10. | เมืองหล่มศักดิ์ | เลย | 1 เมือง | ||||||||||||||||
11. | เมืองโพนพิสัย | - | - | ||||||||||||||||
12. | เมืองชัยบุรี (บึงกาฬ) | - | - | ||||||||||||||||
13. | เมืองท่าอุเทน | - | - | ||||||||||||||||
14. | เมืองกุมลาสัย | - | - | ||||||||||||||||
15. | เมืองหนองหานใหญ่ | - | - | ||||||||||||||||
16. | เมืองคำเกิด | - | - |
ยุคมณฑล
[แก้]พ.ศ. 2436 (ร.ศ.112) ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงตกไปเป็นของฝรั่งเศส จึงต้องย้ายศูนย์บัญชาการมณฑลลาวพวนที่ตั้งอยู่ ณ บริเวณเมืองหนองคาย ลงมาทางใต้จนถึง "บ้านเดื่อหมากแข้ง" ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2436 โดยพระเจ้าน้องยาเธอ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ข้าหลวงใหญ่มณฑลลาวพวน ทรงเห็นว่าที่นี่มีชัยภูมิเหมาะสมอุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งน้ำ จึงทรงตัดสินพระทัยสร้างแปงเมือง ณ ที่นี้ และได้ทำหนังสือกราบทูลไปยังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทราบ ซึ่งพระองค์ ทรงเห็นชอบที่ตั้งกองบัญชาการมณฑลลาวพวนแห่งใหม่นี้ โดยมีเมืองในเขตปกครองเหลืออยู่เพียง 6 เมือง คือ
- เมืองอุดรธานี
- เมืองขอนแก่น
- เมืองนครพนม
- เมืองสกลนคร
- เมืองหนองคาย
พ.ศ. 2442 ได้มีการขอเปลี่ยนชื่อมณฑลลาวพวนเป็นมณฑลฝ่ายเหนือ คือให้เรียกชื่อตาม ภูมิประเทศเพื่อมิให้เกิดความรู้สึกแบ่งแยกเชื้อชาติไทย - ลาว - เขมร และปี พ.ศ. 2443 ขอเปลี่ยนชื่อมณฑลจากมณฑลฝ่ายเหนือเป็นมณฑลอุดร โดยมีเมืองในเขตปครองทั้งหมด 12 เมือง คือ
- เมืองหนองคาย
- เมืองหนองหาน
- เมืองขอนแก่น
- เมืองชลบถวิบูลย์
- เมืองหล่มสัก
- เมืองกมุทาสัย
- เมืองสกลนคร
- เมืองชัยบุรี
- เมืองโพนพิสัย
- เมืองท่าอุเทน
- เมืองนครพนม
- เมืองมุกดาหาร
พ.ศ. 2453 พระเจ้าน้องยาเธอ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ข้าหลวงใหญ่มณฑลอุดร ได้แบ่งพื้นที่การปกครองในมณฑลใหม่ ออกเป็น "บริเวณ" มีข้าหลวงบริเวณเป็นผู้ปกครองขึ้นตรงต่อข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลอุดร โดแบ่งออกเป็น 5 บริเวณ ดังนี้
บริเวณ | เมือง | ที่ว่าการบริเวณ | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1. | บริเวณหมากแข้ง | บ้านหมากแข้ง, เมืองหนองคาย, เมืองหนองหาน, เมืองกุมภวาปี, เมืองกุมุทาสัย, เมืองโพนพิสัย และเมืองรัตนวาปี | บ้านหมากแข้ง | ||||||||||||||||
2. | บริเวณพาชี | เมืองขอนแก่น, เมืองชลบถิบูลย์ และเมืองภูเวียง | เมืองขอนแก่น | ||||||||||||||||
3. | บริเวณธาตุพนม | เมืองนครพนม, เมืองชัยบุรี, เมืองท่าอุเทน และเมืองมุกดาหาร | เมืองนครพนม | ||||||||||||||||
4. | บริเวณสกลนคร | เมืองสกลนคร | เมืองสกลนคร | ||||||||||||||||
5. | บริเวณน้ำเหือง | เมืองเลย, เมืองบ่อแตน และเมืองแก่นท้าว | เมืองเลย |
พ.ศ. 2476 ภายหลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย จึงได้ยุบเลิกมณฑลต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร ให้มีฐานะเป็นจังหวัดเท่าเทียมกัน ขึ้นตรงต่อกระทรวงมหาดไทยจนถึงปัจจุบัน
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-01. สืบค้นเมื่อ 2017-08-29.