ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระมหาธรรมราชาที่ 1"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ย้อนการแก้ไขที่ 8114027 สร้างโดย 2403:6200:8814:5F08:74CD:E69B:CC8C:EA51 (พูดคุย) ป้ายระบุ: ทำกลับ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{เพิ่มอ้างอิง}} |
|||
{{Infobox |
{{Infobox royalty |
||
| สี = gold |
|||
| |
| image = ภาพ:Mahathammaracha I.JPG|250px|center| |
||
| |
| full_name = พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงษ์รามมหาธรรมราชาธิราช |
||
| death_death = พ.ศ. 1919 |
|||
| วันพระราชสมภพ = |
|||
⚫ | |||
| วันสวรรคต = [[พ.ศ. 1919]] |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
| พระราชมารดา = |
|||
⚫ | |||
| พระมเหสี = |
|||
⚫ | |||
| พระราชสวามี = |
|||
| พระราชโอรส/ธิดา = |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
| พิธีบรมราชาภิเษก = |
|||
|ระยะเวลาครองราชย์ = 29 ปี <small>(โดยประมาณ)</small> |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
|}} |
|}} |
||
'''พระมหาธรรมราชาที่ 1''' หรือ '''พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงศ์รามมหาราชาธิราช'''<ref>{{cite book | author = ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย | title = จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาเขมร) | url = http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_detail.php?id=1329 | publisher =ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) | location = กรุงเทพฯ | year = 2549}}</ref>, '''พระบาทกมรเตงอัญฦๅไทยราช '''<ref |
'''พระมหาธรรมราชาที่ 1''' หรือ '''พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงศ์รามมหาราชาธิราช'''<ref name="จารึกวัดป่ามะม่วง">{{cite book | author = ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย | title = จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาเขมร) | url = http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_detail.php?id=1329 | publisher =ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) | location = กรุงเทพฯ | year = 2549}}</ref>, '''พระบาทกมรเตงอัญฦๅไทยราช '''<ref name="จารึกวัดป่ามะม่วง"/>, '''พระยาลือไทย'''<ref>ศานติ ภักดีคำ. "พระนามกษัตริย์สุโขทัย : ความสัมพันธ์กับเขมรโบราณ". ''ดำรงวิชาการ''. 6:1 (มกราคม-มิถุนายน 2550), หน้า 92</ref> หรือ '''พระยาลิไทย'''<ref>''นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย'', หน้า 33</ref> (ครองราชย์ พ.ศ. 1890 - 1919) พระมหากษัตริย์อาณาจักรสุโขทัยราชวงศ์พระร่วงลำดับที่ 6 เป็นพระโอรส[[พระยาเลอไทย]] และพระราชนัดดาของ[[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]] |
||
==พระราชประวัติ== |
==พระราชประวัติ== |
||
{{พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง}} |
{{พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง}} |
||
พระยาลิไทยเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่ง[[อาณาจักรสุโขทัย]] ขึ้นครองราชย์ต่อจาก[[พระยางั่วนำถุม]] เดิมทรงปกครองเมืองศรีสัชนาลัย ในฐานะองค์อุปราชหรือรัชทายาท[[อาณาจักรสุโขทัย|เมืองสุโขทัย]] เมื่อปี |
พระยาลิไทยเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่ง[[อาณาจักรสุโขทัย]] มีพระนามเดิมว่า'''ฦๅไทย''' (ลือไทย) ซึ่งภาษาบาลีสะกดว่า '''ลิเทยฺย'''<ref>''พจนานุกรมศัพท์วรรณคดีไทย สมัยสุโขทัย ไตรภูมิกถา'', หน้า 3</ref> (ลิไทย) ขึ้นครองราชย์ต่อจาก[[พระยางั่วนำถุม]] เดิมทรงปกครองเมืองศรีสัชนาลัย ในฐานะองค์อุปราชหรือรัชทายาท[[อาณาจักรสุโขทัย|เมืองสุโขทัย]] เมื่อปี พ.ศ. 1882 |
||
เมื่อ[[พระยาเลอไทย]]เสด็จสวรรคตใน |
เมื่อ[[พระยาเลอไทย]]เสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1884 [[พระยางั่วนำถุม]]ได้ขึ้นครองราชย์จนเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1890 พระยาลิไทยโดยต้องใช้กำลังทหารเข้ามายึดอำนาจเพราะที่สุโขทัยเกิดการกบฏการสืบราชบัลลังก์ ไม่เป็นไปตามครรลองครองธรรม พระยาลิไทยยกทัพมาแย่งชิงราชสมบัติได้ และขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 1890 ทรงพระนามว่า พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงษ์รามมหาธรรมราชาธิราช |
||
==พระราชกรณียกิจ== |
==พระราชกรณียกิจ== |
||
บรรทัด 35: | บรรทัด 28: | ||
นอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตก ทรงอาราธนาพระสามิสังฆราชจากลังกาเข้ามาเป็น[[สังฆราช]]ในกรุงสุโขทัย เผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้น ทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก เช่น [[พระพุทธชินสีห์]] [[พระศรีศาสดา]] และพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศคือ [[พระพุทธชินราช]] ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่[[วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร]] |
นอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตก ทรงอาราธนาพระสามิสังฆราชจากลังกาเข้ามาเป็น[[สังฆราช]]ในกรุงสุโขทัย เผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้น ทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก เช่น [[พระพุทธชินสีห์]] [[พระศรีศาสดา]] และพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศคือ [[พระพุทธชินราช]] ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่[[วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร]] |
||
พระยาลิไทย ทรงปราดเปรื่องในความรู้ในพระพุทธศาสนา ทรงมีความรู้แตกฉานใน[[พระไตรปิฎก]] พระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "[[คามวาสี]]" และฝ่าย "[[อรัญวาสี]]" โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นหนักการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษา[[พระไตรปิฎก]] ส่วนฝ่ายอรัญวาสีเน้นให้หนักด้านการ[[วิปัสสนา]]และประจำอยู่ตามป่าหรือชนบท ด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตลอดพระชนม์ชีพ ราษฎรจึงถวายพระนามว่า "'''พระมหาธรรมราชา'''" |
พระยาลิไทย ทรงปราดเปรื่องในความรู้ในพระพุทธศาสนา ทรงมีความรู้แตกฉานใน[[พระไตรปิฎกภาษาบาลี]] พระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "[[คามวาสี]]" และฝ่าย "[[อรัญวาสี]]" โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นหนักการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษา[[พระไตรปิฎก]] ส่วนฝ่ายอรัญวาสีเน้นให้หนักด้านการ[[วิปัสสนา]]และประจำอยู่ตามป่าหรือชนบท ด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตลอดพระชนม์ชีพ ราษฎรจึงถวายพระนามว่า "'''พระมหาธรรมราชา'''" |
||
พระยาลิไท ได้สร้างและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระธาตุช่อแฮ (วัดพระธาตุช่อแฮพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ปัจจุบัน) เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๐๒ |
พระยาลิไท ได้สร้างและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระธาตุช่อแฮ (วัดพระธาตุช่อแฮพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ปัจจุบัน) เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๐๒ |
||
นอกจากศาสนาพุทธแล้ว พญาลิไทยยังทรงอุปถัมภ์[[ศาสนา |
นอกจากศาสนาพุทธแล้ว พญาลิไทยยังทรงอุปถัมภ์[[ศาสนาฮินดู]]ด้วยโดยทรงสร้าง[[เทวรูป]]ขนาดใหญ่หลายองค์ซึ่งยังเหลือปรากฏให้ศึกษาใน[[พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ]]ใน[[กรุงเทพมหานคร]]และที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ[[จังหวัดพิษณุโลก]] |
||
===ภาษาและวรรณคดี=== |
===ภาษาและวรรณคดี=== |
||
ด้าน[[อักษรศาสตร์]]ทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือ'''[[ไตรภูมิพระร่วง]]'''ที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ด้วยทรงเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกจึงทรงนิพนธ์ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ประเพณีในพระพุทธศาสนา โลกมนุษย์ สวรรค์ และนรก |
ด้าน[[อักษรศาสตร์]]ทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือ'''[[ไตรภูมิพระร่วง]]'''ที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ด้วยทรงเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกจึงทรงนิพนธ์ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ประเพณีในพระพุทธศาสนา โลกมนุษย์ สวรรค์ และนรก |
||
บรรทัด 53: | บรรทัด 45: | ||
===ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ=== |
===ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ=== |
||
นับแต่พระยาลิไทยได้ครองราชย์มา 2 ปี [[พระเจ้าอู่ทอง]]ผู้ครอง[[กรุงศรีอยุธยา]] ได้ให้[[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 |ขุนหลวงพระงั่ว]]ยกทัพมาตีเมืองชัยนาท หัวเมืองชั้นในของกรุงสุโขทัยด้วยขณะนั้นกรุงสุโขทัยอ่อนแอจากทุพภิกขภัย ข้าวกล้าในนาเสียหาย ชาวเมืองอดอยาก |
นับแต่พระยาลิไทยได้ครองราชย์มา 2 ปี [[พระเจ้าอู่ทอง]]ผู้ครอง[[กรุงศรีอยุธยา]] ได้ให้[[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 |ขุนหลวงพระงั่ว]]ยกทัพมาตีเมืองชัยนาท หัวเมืองชั้นในของกรุงสุโขทัยด้วยขณะนั้นกรุงสุโขทัยอ่อนแอจากทุพภิกขภัย ข้าวกล้าในนาเสียหาย ชาวเมืองอดอยาก |
||
บรรทัด 75: | บรรทัด 66: | ||
| 4 = 4. [[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]] |
| 4 = 4. [[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]] |
||
| 8 = 8. [[พ่อขุนศรีอินทราทิตย์]] |
| 8 = 8. [[พ่อขุนศรีอินทราทิตย์]] |
||
| 9 = 9. [[ |
| 9 = 9. [[นางเสือง]] |
||
}}</center> |
}}</center> |
||
{{ahnentafel bottom}} |
{{ahnentafel bottom}} |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
; เชิงอรรถ |
|||
{{reflist}} |
|||
{{รายการอ้างอิง}} |
|||
; บรรณานุกรม |
|||
{{เริ่มอ้างอิง}} |
|||
อุดม ประมวลวิทย์. ๕๐ กษัตริย์ไทย. 2508. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ |
|||
* {{cite book | author = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | title = นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย | url = http://www.sac.or.th/main/pdf/Thai_king_directories.pdf | publisher = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | location = กรุงเทพฯ | year = 2554 | page =33}} |
|||
* {{cite book | author = ราชบัณฑิตยสถาน | title = พจนานุกรมศัพท์วรรณคดีไทย สมัยสุโขทัย ไตรภูมิกถา | publisher = ราชบัณฑิตยสถาน | location = กรุงเทพฯ | year = 2554 | page =3}} |
|||
{{จบอ้างอิง}} |
|||
== ดูเพิ่ม == |
== ดูเพิ่ม == |
||
* [[ |
* [[รายพระนามพระมหากษัตริย์ไทย]] |
||
{{เริ่มกล่อง}} |
{{เริ่มกล่อง}} |
||
บรรทัด 93: | บรรทัด 87: | ||
| ตำแหน่ง = [[พระมหากษัตริย์ไทย]]<br/>[[อาณาจักรสุโขทัย]] |
| ตำแหน่ง = [[พระมหากษัตริย์ไทย]]<br/>[[อาณาจักรสุโขทัย]] |
||
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์พระร่วง |
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์พระร่วง |
||
| ปี = |
| ปี = พ.ศ. 1890 - 1919 |
||
| ถัดไป = [[พระมหาธรรมราชาที่ 2]] |
| ถัดไป = [[พระมหาธรรมราชาที่ 2]]<br/>{{เล็ก|[[ราชวงศ์พระร่วง]]|}} |
||
}} |
}} |
||
{{จบกล่อง}} |
{{จบกล่อง}} |
||
บรรทัด 100: | บรรทัด 94: | ||
{{พระมหากษัตริย์ไทย}} |
{{พระมหากษัตริย์ไทย}} |
||
{{พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย}} |
{{พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย}} |
||
{{ประสูติปี|}}{{สิ้นพระชนม์ปี|1919}} |
|||
{{เรียงลำดับ|ลิไทย}} |
|||
⚫ | |||
{{อายุขัย||1919}} |
|||
⚫ | |||
[[หมวดหมู่:ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาพุทธ]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:35, 11 กุมภาพันธ์ 2562
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระมหาธรรมราชาที่ 1 | |
---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 1890 - พ.ศ. 1919 (โดยประมาณ)(29 ปี) (โดยประมาณ) |
ก่อนหน้า | พระยางั่วนำถุม |
ถัดไป | พระมหาธรรมราชาที่ 2 |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์พระร่วง |
พระราชบิดา | พระยาเลอไทย |
พระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือ พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงศ์รามมหาราชาธิราช[1], พระบาทกมรเตงอัญฦๅไทยราช [1], พระยาลือไทย[2] หรือ พระยาลิไทย[3] (ครองราชย์ พ.ศ. 1890 - 1919) พระมหากษัตริย์อาณาจักรสุโขทัยราชวงศ์พระร่วงลำดับที่ 6 เป็นพระโอรสพระยาเลอไทย และพระราชนัดดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พระราชประวัติ
พระมหากษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง | |
---|---|
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ | |
พ่อขุนบานเมือง | |
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช | |
พระยาเลอไทย | |
พระยางั่วนำถุม | |
พระมหาธรรมราชาที่ 1 | |
พระมหาธรรมราชาที่ 2 | |
พระมหาธรรมราชาที่ 3 | |
พระมหาธรรมราชาที่ 4 | |
พระยาลิไทยเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรสุโขทัย มีพระนามเดิมว่าฦๅไทย (ลือไทย) ซึ่งภาษาบาลีสะกดว่า ลิเทยฺย[4] (ลิไทย) ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยางั่วนำถุม เดิมทรงปกครองเมืองศรีสัชนาลัย ในฐานะองค์อุปราชหรือรัชทายาทเมืองสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 1882
เมื่อพระยาเลอไทยเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1884 พระยางั่วนำถุมได้ขึ้นครองราชย์จนเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1890 พระยาลิไทยโดยต้องใช้กำลังทหารเข้ามายึดอำนาจเพราะที่สุโขทัยเกิดการกบฏการสืบราชบัลลังก์ ไม่เป็นไปตามครรลองครองธรรม พระยาลิไทยยกทัพมาแย่งชิงราชสมบัติได้ และขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 1890 ทรงพระนามว่า พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงษ์รามมหาธรรมราชาธิราช
พระราชกรณียกิจ
การศาสนา
พระยาลิไทยทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากนโยบายการปกครองที่ใช้ศาสนา เป็นหลักรวมความเป็นปึกแผ่นจึงเป็นนโยบายหลักในรัชสมัยนี้ ด้วยทรงดำริว่าการจะขยายอาณาเขตต่อไปเช่นเดียวกับในรัชการพ่อขุนรามคำแหง พระอัยกา ก็จักต้องนำไพร่พลไปล้มตายอีกเป็นอันมาก พระองค์จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะปกครองบ้านเมืองเช่นเดียวกับพระเจ้าอโศกมหาราชที่ทรงปกครองอินเดียให้เจริญได้ด้วยการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และสั่งสอนชาวเมืองให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมอันจะเป็นวิธีรักษาเมืองให้ยั่งยืนอยู่ได้
ทรงสร้างเจดีย์ที่เมืองนครชุม (กำแพงเพชร) ผนวชในพระพุทธศาสนาเมื่อ พ.ศ. 1905 ที่วัดป่ามะม่วงการที่ทรงออกผนวช นับว่าทำความมั่นคงให้พุทธศาสนามากขึ้น ดังกล่าวแล้วว่า หลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้ว บ้านเมืองแตกแยก วงการสงฆ์เองก็แตกแยก แต่ละสำนักแต่ละเมืองก็ปฏิบัติแตกต่างกันออกไป เมื่อผู้นำทรงมีศรัทธาแรงกล้าถึงขั้นออกบวช พสกนิกรทั้งหลายก็คล้อยตามหันมาเลื่อมใสตามแบบอย่างพระองค์ กิตติศัพท์ของพระพุทธศาสนาในสุโขทัยจึงเลื่องลือไปไกล พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปได้ออกไปเผยแพร่ธรรมในแคว้นต่าง ๆ เช่น อโยธยา หลวงพระบาง เมืองน่าน แม้แต่พระเจ้ากือนาธรรมิกราชแห่งอาณาจักรล้านนาก็นิมนต์พระสุมณเถระจากสุโขทัยไปเพื่อเผยแพร่ธรรมที่ล้านนา
นอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตก ทรงอาราธนาพระสามิสังฆราชจากลังกาเข้ามาเป็นสังฆราชในกรุงสุโขทัย เผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้น ทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก เช่น พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศคือ พระพุทธชินราช ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
พระยาลิไทย ทรงปราดเปรื่องในความรู้ในพระพุทธศาสนา ทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกภาษาบาลี พระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "คามวาสี" และฝ่าย "อรัญวาสี" โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นหนักการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษาพระไตรปิฎก ส่วนฝ่ายอรัญวาสีเน้นให้หนักด้านการวิปัสสนาและประจำอยู่ตามป่าหรือชนบท ด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตลอดพระชนม์ชีพ ราษฎรจึงถวายพระนามว่า "พระมหาธรรมราชา"
พระยาลิไท ได้สร้างและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระธาตุช่อแฮ (วัดพระธาตุช่อแฮพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ปัจจุบัน) เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๐๒
นอกจากศาสนาพุทธแล้ว พญาลิไทยยังทรงอุปถัมภ์ศาสนาฮินดูด้วยโดยทรงสร้างเทวรูปขนาดใหญ่หลายองค์ซึ่งยังเหลือปรากฏให้ศึกษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในกรุงเทพมหานครและที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดพิษณุโลก
ภาษาและวรรณคดี
ด้านอักษรศาสตร์ทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วงที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ด้วยทรงเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกจึงทรงนิพนธ์ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ประเพณีในพระพุทธศาสนา โลกมนุษย์ สวรรค์ และนรก
นอกจากพระเจ้าลิไทยจะทรงนิพนธ์วรรณคดีเล่มแรกของไทยแล้ว ยังทรงดัดแปลงการเขียนหนังสือไทยที่พ่อขุนรามคำแหงทรงสร้างไว้ โดยกำหนดให้มีสระข้างบน ข้างล่าง ข้างหน้า ข้างหลัง รวมทั้งแก้ไขรูปพยัญชนะให้อ่านเขียนสะดวกขึ้น
การสร้างเมือง
ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญหลายประการ เช่น สร้างถนนพระร่วงตั้งแต่เมืองศรีสัชนาลัยผ่านกรุงสุโขทัยไปถึงเมืองนครชุม (กำแพงเพชร) บูรณะเมืองนครชุม
ทรงสร้างเมืองสองแคว (พิษณุโลก) เป็นเมืองลูกหลวงโดยการย้ายเมืองซึ่งเคยอยู่ที่สองแควซึ่งเดิมอยู่ทางใต้ (วัดจุฬามณีในปัจจุบัน) แต่ยังคงเรียกว่าเมืองสองแควตามเดิม
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นับแต่พระยาลิไทยได้ครองราชย์มา 2 ปี พระเจ้าอู่ทองผู้ครองกรุงศรีอยุธยา ได้ให้ขุนหลวงพระงั่วยกทัพมาตีเมืองชัยนาท หัวเมืองชั้นในของกรุงสุโขทัยด้วยขณะนั้นกรุงสุโขทัยอ่อนแอจากทุพภิกขภัย ข้าวกล้าในนาเสียหาย ชาวเมืองอดอยาก
ต่อมาพระยาลิไทยได้ส่งทูตไปเจรจาให้กรุงศรีอยุธยาคืนเมืองชัยนาทแต่โดยดี และจะยินยอมให้เป็นประเทศอิสระและมีไมตรีกันเช่นเดียวกับขอมที่ครองเมืองลพบุรี กรุงศรีอยุธยาเห็นควรด้วยเกรงว่าขอมจะร่วมมือกับกรุงสุโขทัยจัดทัพกระหนาบมาตี กรุงศรีอยุธยาจึงคืนเมืองชัยนาทให้พระยาลิไทย
หลังจากสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 กรุงดำเนินมาได้ราว 10 ปี เมื่อพระเจ้าอู่ทองสวรรคต ไมตรีระหว่างกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาก็เริ่มตึงเครียดขึ้น และเมื่อขุนหลวงพระงั่ว (พระบรมราชาธิราช) ได้ราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยา ก็ได้กรีธาทัพไปตีกรุงสุโขทัย สงครามระหว่าง 2 กรุงดำเนินไปถึง 6 ปีเศษ ขุนหลวงพระงั่วก็ไม่อาจเอาชัยทัพพระยาลิไทย กรุงสุโขทัยได้
พงศาวลี
พงศาวลีของพระมหาธรรมราชาที่ 1 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ↑ 1.0 1.1 ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย (2549). จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาเขมร). กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).
- ↑ ศานติ ภักดีคำ. "พระนามกษัตริย์สุโขทัย : ความสัมพันธ์กับเขมรโบราณ". ดำรงวิชาการ. 6:1 (มกราคม-มิถุนายน 2550), หน้า 92
- ↑ นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 33
- ↑ พจนานุกรมศัพท์วรรณคดีไทย สมัยสุโขทัย ไตรภูมิกถา, หน้า 3
- บรรณานุกรม
- มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา (2554). นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย (PDF). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. p. 33.
- ราชบัณฑิตยสถาน (2554). พจนานุกรมศัพท์วรรณคดีไทย สมัยสุโขทัย ไตรภูมิกถา. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน. p. 3.
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | พระมหาธรรมราชาที่ 1 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยางั่วนำถุม ราชวงศ์พระร่วง |
พระมหากษัตริย์ไทย อาณาจักรสุโขทัย (พ.ศ. 1890 - 1919) |
พระมหาธรรมราชาที่ 2 ราชวงศ์พระร่วง |