มังกรเดียวดาย
มังกรเดียวดาย | |
---|---|
ละคร มังกรเดียวดาย | |
กำกับโดย | นิพนธ์ ผิวเณร |
แสดงนำ | ศตวรรษ เศรษฐกร ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง นุสบา ปุณณกันต์ นิรุตต์ ศิริจรรยา |
การผลิต | |
ความยาวตอน | ประมาณ 45 นาที/ตอน |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 |
ออกอากาศ | 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2547 |
มังกรเดียวดาย เป็นนวนิยายของ วิศวนาถ ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นเป็นภาคต่อของ หงส์เหนือมังกร ต่อมาถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ในปี พ.ศ. 2547 โดย เอ็กแซ็กท์-ซีเนริโอ ออกอากาศทางช่อง 5 นำแสดงโดย ศตวรรษ เศรษฐกร, ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, นุสบา ปุณณกันต์, นิรุตต์ ศิริจรรยา, และ นิษิตา พงศ์ทรง ออกอากาศวันเสาร์-อาทิตย์ 20:40 - 21:40 น. ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ถึง 3 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ปัจจุบันลิขสิทธิ์นิยายอยู่กับช่อง 7 สี
รายชื่อนักแสดง
[แก้]รูปแบบการแสดง | ละครโทรทัศน์ พ.ศ. 2547 |
---|---|
สถานีออกอากาศ | ช่อง 5 |
ผู้สร้าง | เอ็กแซ็กท์-ซีเนริโอ |
ผู้กำกับการแสดง | นิพนธ์ ผิวเณร |
บทโทรทัศน์ | ประโยชน์ สุขศรีเจริญสุข |
จางเหา | ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง |
อาเล้ง | ศตวรรษ เศรษฐกร |
เต็งล้อ | นิรุตต์ ศิริจรรยา |
อาลั้ง | นุสบา ปุณณกันต์ |
อาเหมย | นิษิตา พงศ์ทรง |
บิ๊กชาย/เก๊าน่ำเก็ง | วัชระ ปานเอี่ยม |
โป๊ยตี๋ | อภิชาติ ชูสกุล |
อาฟาน | วรเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ |
อากุ่ย | อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ |
ซาเก๊า | ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ |
อาเปา | เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์ |
อาเปียว | กฤช หิรัญพฤกษ์ |
อาซำ | อรรถพร ธีมากร |
หลงไป่หมิง | อ.วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ |
เล่าซา | รอง เค้ามูลคดี |
สร้อย/รุจี | ภัทรวรินทร์ ทิมกุล |
เรื่องย่อ
[แก้]หลังจากการตายของ อาหลิว (มาช่า วัฒนพานิช) สมาคมห้าสมุทร ตกอยู่ภายใต้การดูแลของ บิ๊กชาย หรือเก๊าน่ำเก็ง(เจี๊ยบ วัชระ ปานเอี่ยม) ส่วน เต็งล้อ (หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ก็ยังคงเป็นมนุษย์นิทราจากอาการที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ จนกระทั่ง รุจีหรือสร้อย (เมย์ ภัทรวรินทร์ ทิมกุล) แฟนสาวของ ตี๋เล็ก (พนมกร ตังทัตสวัสดิ์) ได้ให้กำเนิดทารกเพศชาย เต็งล้อที่หลับไหลมาช้านาน ก็ฟื้นขึ้นจากอาการโคม่าราวกับปาฏิหาริย์ และได้ให้บิ๊กชายส่งคนออกตามหาทายาทคนสุดท้ายของตระกูล “ ธรรมกุล ”
ข่าวการออกตามหาทารกน้อยแพร่สะพัดออกไป สร้างความไม่พอใจให้แก่ โป๊ยตี๋ (หมึก อภิชาต ชูสกุล) หัวหน้าสาขาที่ 19 ของสมาคมฯ เพราะเขามีแผนจะครองตำแหน่งต่อจากเต็งล้อ โดยโป๊ยตี๋มอบหมายให้ อากุ่ย (ปู อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) ลูกน้องคนสนิท นำทีมสังหารออกตามเก็บสองแม่ลูกเพื่อตัดหน้าบิ๊กชาย ทางด้านเต็งล้อเมื่อทราบว่าหลานของตนถูกโป๊ยตี๋ส่งคนไปเก็บ ก็เริ่มตระหนักว่าโป๊ยตี๋กำลังคิดโค่นอำนาจ จึงได้จับอาเปาและอาเปียว ลูกชายทั้ง2 ของโป๊ยตี๋ไว้ และบังคับให้โป๊ยตี๋พาทายาทของธรรมกุลกลับมาให้ได้
ร้อนถึง จางเหา (แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) ที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ได้ตัดสินใจไปช่วยเหลือทารก เพราะเห็นแก่ที่เป็นหลานของอาหลิว แต่ก็มาช้าเกินไป รุจีและลูกน้องที่บิ๊กชายส่งมาต่างถูกอากุ่ยฆ่าตายหมด เหลือเพียงอาเล้ง ลูกชายของรุจีที่จางเหาช่วยออกมาได้ทันเท่านั้น จางเหาพาอาเล้งหนีจากการตามล่าของอากุ่ยมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ได้บาดเจ็บสาหัส จนในที่สุดจางเหาเดินโซซัดโซเซมาจนถึงกระท่อมกลางป่า ซึ่งเป็นที่พักของ อาลั้ง (นุส นุสบา ปุณณกันต์) สาวชาวเขา ซึ่งเป็นลูกสาวของคนที่จางเหารู้จัก เมื่อมาถึงจางเหาได้เจอกับ อาฟาน (หนึ่ง วรเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ) ซึ่งเป็นสายที่จางเหาส่งเข้าไปสืบเสาะความเคลื่อนไหวภายในสมาคมฯ โดยอาฟานได้ออกอุบายร่วมกับจางเหา เพื่อป้องกันไม่ให้อาเล้งถูกตามล่าจากอากุ่ย โดยการวางเพลิงเผากระท่อมของอาลั้ง พร้อมกับนำศพเด็กชาวบ้านที่เสียชีวิตแล้วมาเผาอำพรางเพื่อให้ดูเหมือนว่าอาเล้งเสียชีวิตลงแล้ว จากนั้นจางเหาขอร้องให้อาฟานแฝงตัวเข้าส ม าคมห้าสมุทร เพื่อจับตาดูความเคลื่อนไหวของเต็งล้อต่อไป ส่วนตนเองก็กลับบ้านป่าพร้อมด้วยอาเล้งและอาลั้ง และ เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ โป๊ยตี๋จำเป็นต้องยิงเข่าทั้งสองข้างของตนเองเพื่อแลกกับชีวิตลูก ๆ ทั้งสองที่เต็งล้อจับตัวมา และรับผิดในเรื่องที่ไม่สามารถรักษาชีวิตของทายาท “ ธรรมกุล ” ไว้ได้ สร้างความเจ็บแค้นให้กับโป๊ยตี๋เป็นอย่างมาก
และแล้ว วันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป....18 ปี หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายนั้น อาเล้ง (เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร) ได้เติบโตเป็นเด็กหนุ่ม และมีนิสัยคึกคะนองไม่ต่างอะไรจากตี๋เล็กผู้เป็นบิดา ไม่ว่าจางเหาจะอบรม หรือทำโทษสักเท่าใด อาเล้งก็อาศัยความเจ้าเล่ห์เพทุบายเอาตัวรอดไปได้เสมอ คนเดียวที่อาเล้งดูจะเชื่อฟังที่สุดก็มีแต่อาลั้งเท่านั้น ทางด้านเต็งล้อ แม้เข้าสู่วัยชราแต่ยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อคอยรั้งอำนาจพวกหัวหน้าสาขาต่าง ๆ ที่คิดแย่งชิงตำแหน่งจากตนและกลุ่มอิทธิพลฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ยังนำพาสมาคมห้าสมุทรให้ขยายอำนาจแผ่ไพศาลออกไป คนที่เข้าใจและเห็นใจเต็งล้อมากที่สุดนั้นเห็นจะมีเพียง อาเหมย (แอนนิต้า นิษิตา พงศ์ทรง) บุตรสาวของบิ๊กชายกับอาหลิงที่ให้ความเคารพนับถือเต็งล้อเช่นดังญาติผู้ใหญ่แท้ๆของตน ที่หมั่นแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอทำให้เต็งล้อผ่อนคลายความเหงาลงได้บ้าง ส่วนโป๊ยตี๋นั้นหลังจากเพลี่ยงพล้ำให้แก่เต็งล้อ ก็ต้องหันมาสั่งสมบารมีของตัวเองขนานใหญ่ โดยอาศัย อาเปา (อ้น เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์) บุตรชายคนโตของตนที่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ให้ออกมาสร้างผลงานชิงดีชิงเด่นกับเต็งล้ออยู่เสมอ ส่วนอีกทางหนึ่งนั้นก็ให้ อาเปียว (กอล์ฟ กริช หิรัญพฤกษ์) บุตรชายคนเล็กคอยตามตื้ออาเหมย เพื่อหวังจะเป็นทองแผ่นเดียวกับบิ๊กชาย แม้บิ๊กชายจะรู้ว่าโป๊ยตี๋มีจุดประสงค์ใด แต่ก็ยังสนับสนุนให้อาเหมยได้เป็นฝั่งเป็นฝากับอาเปียว เพราะหวังว่าความสัมพันธ์นี้จะช่วยเยียวยาความบาดหมางในสมาคมฯลงได้
ทางด้านอาเหมยที่ชิงชังความเป็นจอมเสเพลของอาเปียว จึงแก้เผ็ดผู้เป็นพ่อด้วยการหนีออกจากบ้าน จนได้พบกับอาเล้งโดยบังเอิญ ทั้ง2ถูกชะตากันอย่างมาก อาเล้งจึงพาอาเหมยมาพักที่กระท่อม แต่เมื่อจางเหารู้ว่าอาเหมยเป็นคนของสมาคม ก็ขับไล่ไสส่ง ทำให้อาเล้งไม่พอใจ และหนีไปกรุงเทพฯ พร้อมกับอาเหมย เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ อาเล้งขอให้อาเหมยพาตนไปพบกับญาติที่ชื่ออาฟาน ซึ่งเป็นคนดูแลศาลเจ้าในสมาคมฯ และที่นี่เองที่ทำให้อาเล้งได้พบกับเต็งล้อ ในขณะที่เต็งล้อมาไหว้พระที่ศาลเจ้า เต็งล้อรู้สึกถูกชะตาอาเล้งอย่างน่าประหลาดใจ ได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ภายในใจ
ทางด้านจางเหาก็ถูกอาลั้งหว่านล้อมจนยอมเดินทางเข้าเมืองมาตามหาอาเล้ง แต่เมื่อได้เจอตัวอาเล้งกลับดื้อดึงไม่ยอมกลับบ้าน เมื่อเป็นเช่นนั้นจางเหาก็หมดความอดทน แอบย้อนกลับมาหมายจะสังหารเต็งล้อเสีย เพราะทนไม่ได้ที่เต็งล้อมาชักจูงอาเล้งให้เลือกเดินทางผิด แต่สิ่งที่มันคาดไม่ถึงก็คือ อาเล้งกลับเสี่ยงตายเข้าปกป้องเต็งล้อเอาไว้ จากการที่จู่ๆ จางเหาที่ตัดขาดจากชีวิตนักเลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว กลับหวนเข้ามาหมายจะปลิดชีวิตตนเอง ทำให้เต็งล้อนึกสงสัยในชาติกำเนิดของอาเล้ง จึงสืบสวนจนพบแหวนทอง ”ธรรมกุล” ในตัวอาเล้งเข้า ถึงได้รู้ว่าแท้จริงอาเล้งก็คือหลานชายของตนนั่นเอง ดังนั้นเต็งล้อจึงได้คิดแผนที่จะกำจัดจางเหาเสีย เพราะตราบใดจางเหายังมีชีวิตอยู่ ก็คงไม่ยอมปล่อยให้อาเล้งสืบทอดอำนาจต่อจากตนแน่นอน อีกทั้งความแค้นของตนกับจางเหานั้น ก็สมควรแก่เวลาแล้วที่ต้องสะสาง เต็งล้อหลอกอาเล้งให้พาตนไปพบจางเหาเพื่อสะสางความแค้น ส่วนอาเล้งก็หลงเชื่อว่าปู่ของตนคงเห็นแก่ความดีที่จางเหาอุปการะตนไว้ จึงอยากตอบแทนบุญคุณด้วยการญาติดีกับลุง ดังนั้นอาเล้งจึงยอมนำทางเต็งล้อไปพบบ้านป่าด้วยความเต็มใจ
การเดินทางไปอย่างเงียบเชียบของเต็งล้อและอาเล้งทำให้อาฟานตื่นตระหนก เพราะมันรู้ดีว่าคนใจคออำมหิตอย่างเต็งล้อ ไม่มีวันจะยอมเลิกราความแค้นโดยง่าย แต่ครั้นจะไปขัดขวางก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ซ้ำร้ายโป๊ยตี๋เกิดล่วงรู้ว่าเต็งล้อเดินทางไปโดยไม่มีขบวนองครักษ์คุ้มกันมากมายเหมือนเช่นเคย จึงให้อากุ่ย อาเปาและลูกน้องชื่ออากวง นำทีมสังหารลอบติดตามไปหมายจะปลิดชีพเต็งล้อและจางเหาไปในครั้งนี้เลย แต่สมุนฝีมือฉกาจที่เต็งล้อพามาเพื่อสังหารจางเหา กลับต้องสิ้นชีพด้วยน้ำมือของอาเปา อากุ่ยและอากวง จางเหาและอาเล้งตัดสินใจปักหลักต่อกรกับพวกศัตรู ด้านอาเปาที่สงสัยอากุ่ยอยู่ก่อนหน้า อาศัยจังหวะพูดจาหว่านล้อมและติดสินบนอากวงให้หักหลังและกำจัดอากุ่ย แต่สุดท้ายอาเปาก็ถูกอากวงหักหลัง และฆ่าตายโดยอาศัยการตามฆ่าเต็งล้อบังหน้า ด้านเต็งล้อฉวยโอกาสทีเผลอลงมือทำร้ายจางเหา แต่ก็ถูกจางเหาตอบโต้เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างตกอยู่ในสภาพปางตาย เต็งล้อสิ้นใจตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ส่วนจางเหาก็พูดเตือนสติอาเล้งโดยยกเรื่องของหลิวกับตี๋เล็กมาเป็นอุทาหรณ์ หลังจากทนพิษบาดแผลอยู่ได้หนึ่งคืน จางเหาก็แข็งใจเดินทางไปยังหลุมศพของอาหลิวในตอนรุ่งสาง ก่อนจะหมดลมลงอย่างสงบที่นั่น
ก่อนที่เต็งล้อจะเดินทางมาหาจางเหา ได้เขียนจดหมายไว้ 2 ฉบับ เพื่อบอกเรื่องราวที่แท้จริงของทายาทธรรมกุลให้กับบิ๊กชาย และอีกหนึ่งฉบับรับรองความเป็นทายาทธรรมกุลที่แท้จริงของอาเล้ง หลังการตายของเต็งล้อ ซาเก๊า (แมน ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) ผู้ร่วมขบวนไปกับเต็งล้อและอาเล้งชี้แจงต่อหัวหน้าและสมาชิกสมาคมฯ ถึงข้อความในจดหมายครึ่งแรกของบิ๊กชาย อาเล้งปรากฏตัวพร้อมจดหมายส่วนที่เหลือและกล่องไม้ดำของจางเหา โดยออกอุบายว่าจดหมายจะเปิดก็ต่อเมื่อผ่านพิธีกงเต็กของเต็งล้อไปเสียก่อน ทำให้อากุ่ยและอากวงร้อนตัวกลัวความผิดที่ก่อ จึงชิงลงมือแย่งกล่องไม้ดำมา เกิดการต่อสู้กันจนอาเหมยถูกยิง บาดเจ็บสาหัส ส่วนกล่องไม้ดำที่อากุ่ยและอากวงได้ไป อาเล้งได้ซ่อนระเบิดอยู่ข้างในทำให้อากุ่ยต้องสูญเสียดวงตา1ข้างไปในครั้งนี้ ทางด้านโป๊ยตี๋ และอาเปียว รีบเดินทางมาดูอาการอาเหมย อาเปียวจึงสารภาพความจริงว่าตนเองและพ่อบ้านไช่ ได้แอบสืบความเคลื่อนไหวของอากุ่ยและอากวงจนรู้ว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการตายของอาเปาพี่ชาย และเต็งล้อนั่นเอง อาเล้งซึ่งเห็นว่าทุกอย่างเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี จึงคิดที่จะไม่เปิดเผยความเป็นทายาทที่แท้จริงของตนเอง บิ๊กชายอาศัยจังหวะนี้ให้โป๊ยตี๋สาบานต่อหน้าหัวหน้าสมาคมทั้งหมดในวันทำพิธีกงเต็กของเต็งล้อ ว่าจะจงรักภักดีกับสมาคมและตัวบิ๊กชาย แต่กลับถูกโป๊ยตี๋ซ้อนแผนให้อาเปียวและอาเหมยได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน เพื่อยุติความบาดหมางทั้งปวงเช่นกัน
อาเล้งจึงพาอาเหมยหนี แต่ก็ไปไม่รอด ถูกอาเปียวตามเจอและซ้อมจนอาการสาหัส เมื่อหมดหนทาง อาเล้งจึงนำจดหมายส่วนที่สองออกมาเปิดเผยตัวความเป็นทายาท “ ธรรมกุล ” กับบิ๊กชาย ยืนหยัดที่จะกำจัดโป๊ยตี๋ แทนที่จะรอมชอมกัน ในวันงานกงเต๊กเต็งล้อ โป๊ยตี๋และอาเปียวได้เกลี้ยกล่อมหลงไป่หมิง หัวหน้าสมาพันธ์ดาวมังกรให้หนุนอำนาจตนเอง เพื่อครองตำแหน่งหัวหน้าสมาคมห้าสมุทร ส่วนอาเล้ง บิ๊กชาย ซาเก๊าและอาฟานก็วางแผนที่จะฆ่าโป๊ยตี๋และอาเปียวในวันนั้นเช่นกัน ในช่วงที่สู้กันอย่างชุลมุนโป๊ยตี๋ได้พลั้งมือแทงอาเปียวลูกชายตัวเองตาย ตัวเองก็สติฟั่นเฟือนไป อากุ่ยและอากวงรู้ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจึงลักพาตัวอาลั้งและวางแผนให้อาเล้ง และอาฟานไล่ล่าตนเองไปจนถึงที่พักของหลงไป่หมิง เกิดการดวลปืนกันจนท้ายที่สุด อาเล้งและอาฟานฆ่าหลงไป่หมิง ยิ่งสร้างความระส่ำระสายให้สมาคมห้าสมุทร จนบิ๊กชายและซาเก๊าต้องตามไล่ล่าอาเล้งแทน
เมื่อจวนตัว อาเล้งจึงลักพาตัวอาเหมยอีกครั้ง เพื่อล่อบิ๊กชายออกมาและได้เล่าความจริงที่เกิดขึ้น แต่ก็ถูกอากุ่ยซ้อนแผน ส่งสมุนมากวาดล้าง มันฆ่าบิ๊กชาย ซาเก๊าจึงพาอาเล้งและอาเหมยหนีไปอยู่กับอาลั้ง แต่อากุ่ยตามมาทัน แล้วฆ่าอาลั้ง ส่วนอาเล้งถูกทำร้ายแต่มีชาวป่ามาช่วยชีวิตไว้ อากุ่ยจึงจับคุณหนูเหมยเป็นตัวประกันเพื่อล่ออาเล้งออกมา อาเล้งก็ตามมาช่วยอาเหมยแล้วฆ่าอากุ่ยกับลูกน้องทั้งหมด แม้สมาคมห้าสมุทรจะผ่านพ้นปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยดี แต่สมาคมดาวมังกรต้องการหาคนรับผิดชอบเรื่องหลงไป่หมิง จึงตามมาฆ่าอาเหมยเพื่อแก้แค้น อาเล้งเมื่อไม่เหลือคนที่รักแล้วจึงเร้นกายอยู่ในป่าเพียงลำพังแบบมังกรเดียวดาย
เพลงประกอบละคร
[แก้]- มังกรเดียวดาย-นิว-จิ๋ว
- ฉันสัญญา -ศตวรรษ เศรษฐกร
ความแตกต่างระหว่างนิยายกับละคร
[แก้]- ในนิยายเปิดเผยชื่อสมาคมของเต็งล้อว่ามังกรดำ แต่ในละครยังคงใช้ชื่อสมาคมห้าสมุทร ตามชื่อที่ตั้งใว้ในภาคก่อน
- ในนิยายตอนแรกเต็งล้อไม่ได้เป็นมนุษย์นิทรา
- ในนิยายจางเหาต้องการให้อาเล้งเป็นมังกรเหนือมังกรที่สืบทอดเจตนารมณ์ต่อจากหลิวที่สั่งเสียไว้ในจดหมายก่อนตาย แต่ในละครจางเหาพยายามกีดกันไม่ให้อาเล้งเกี่ยวพันข้องเกี่ยวกับนักเลง
- ตัวบิ๊กชายในละคร ก็คือเก๊าน่ำเก็งในนิยาย (เป็นคนๆเดียวกัน)
- ในนิยาย ช่วงแรกเป็นเพียงสงครามการล้างแค้นระหว่างจางเหากับเต็งล้อ เมื่อทั้งสองตายลง เข้าสู่ช่วงหลังเรื่องราวของรุ่นลูก เป็นการชิงบัลลังเจ้าพ่อของอาเล้ง แต่ในละคร อาเล้ง เติบโตจากการเลี้ยงดูของจางเหา และชีวิตก็ผกผันจนไปเจอกับเต็งล้อผู้ที่เป็นปู่แท้ๆของตน จนเกิดเป็นสงครามการล้างแค้นขึ้น
- ในนิยายเต็งล้อต้องการที่จะกำจัดเสี้ยนหนามที่จะเปิดเผยความลับของว่าตี๋เล็กเป็นบุตรชายของตน โดยการสั่งฆ่าจางเหาและอาเล้งหลานชายแท้ๆของตน แต่ในละครโทรทัศน์ เต็งล้อต้องการหาตัวอาเล้งที่เป็นหลานแท้ๆในสายเลือด มาสืบทอดทุกสิ่งทุกอย่างจากตน
- ในนิยาย หลังจากที่อาเปาและอาเปียวบุตรชายของโป๊ยตี๋ถูกจางเหาสังหารลง โป๊ยตี๋ก็ถอนตัวออกจากวงการ และมิได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับรุ่นลุกอีกเลย แต่ในละคร โป๊ยตี๋คือตัวสำคัญที่คิดจะกำจัดอาเล้ง
- ในนิยาย ตัวอากุ่ยและกวงเก้านิ้วเป็นลูกน้องของเก๊าน่ำเก็งบิดาของอาเหมย(ซึ่งก็คือบิ๊กชายในละครนั่นเอง) แต่ในละคร อากุ่ยและกวงเก้านิ้วเป็นลูกน้องของโป๊ยตี๋
- รุจีก็คือสร้อย แฟนของตี๋เล็กในภาคหงส์เหนือมังกร (ชื่อรุจีมาทีหลัง เพราะในฉบับนิยายกล่าวภรรยาของตี๋เล็กและมารดาของอาเล้งว่าชื่อรุจี)
อ้างอิง
[แก้]- เรื่องย่อมังกรเดียวดาย เก็บถาวร 2011-06-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน แท่งศักดิ์สิทธิ์ดอตคอม