ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{เพิ่มอ้างอิง}}
{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์
{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์
| สีพิเศษ = #ffcc00
| สีพิเศษ = #ffcc00
บรรทัด 4: บรรทัด 5:
| ภาพ =
| ภาพ =
| พระบรมนามาภิไธย = เจ้าฟ้าเพชร
| พระบรมนามาภิไธย = เจ้าฟ้าเพชร
| พระปรมาภิไธย = สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ
| พระปรมาภิไธย = สมเด็จพระภูมินทรมหาราชา
| วันพระราชสมภพ =[[พ.ศ. 2221]]
| วันพระราชสมภพ =[[พ.ศ. 2221]]
| วันสวรรคต = [[พ.ศ. 2275]]
| วันสวรรคต = [[พ.ศ. 2275]]
บรรทัด 12: บรรทัด 13:
| พระอัครมเหสี = [[กรมหลวงราชานุรักษ์]] (พระนามเดิม เจ้าฟ้าทองสุก)<ref>เล็ก พงษ์สมัครไทย. '''เฉลิมพระยศ เจ้านายฝ่ายในในรัชกาลที่ 1-9'''. กรุงเทพฯ:ฐานบุ๊คส์, 2552. หน้า 16 </ref>
| พระอัครมเหสี = [[กรมหลวงราชานุรักษ์]] (พระนามเดิม เจ้าฟ้าทองสุก)<ref>เล็ก พงษ์สมัครไทย. '''เฉลิมพระยศ เจ้านายฝ่ายในในรัชกาลที่ 1-9'''. กรุงเทพฯ:ฐานบุ๊คส์, 2552. หน้า 16 </ref>
| พระราชสวามี =
| พระราชสวามี =
| พระราชโอรส/ธิดา = [[เจ้าฟ้าพระนเรนทร กรมขุนสุเรนทรพิทักษ์]]<br>เจ้าฟ้าหญิงเทพ<br>เจ้าฟ้าหญิงประทุม<br>เจ้าฟ้าชายอภัย<br>เจ้าฟ้าชายปรเมศร์<br>เจ้าฟ้าชายทับ<br>พระองค์เจ้าชายเสฏฐา<br>พระองค์เจ้าชายปริก<br>พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง<ref>พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)</ref>
| พระราชโอรส/ธิดา = [[เจ้าฟ้าพระนเรนทร กรมขุนสุเรนทรพิทักษ์]]<br>เจ้าฟ้าหญิงเทพ<br>เจ้าฟ้าหญิงประทุม<br>เจ้าฟ้าชายอภัย<br>เจ้าฟ้าชายปรเมศร์<br>เจ้าฟ้าชายทับ<br>พระองค์เจ้าชายเสฏฐา<br>พระองค์เจ้าชายปริก<br>พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]<ref>พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)</ref>
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]
|ทรงราชย์ = [[พ.ศ. 2252]]-[[พ.ศ. 2275]]
| ทรงราชย์ = [[พ.ศ. 2252]]-[[พ.ศ. 2275]]
| พิธีบรมราชาภิเษก =
| พิธีบรมราชาภิเษก =
|ระยะเวลาครองราชย์ = 23 ปี
|ระยะเวลาครองราชย์ = 23 ปี
บรรทัด 20: บรรทัด 21:
| รัชกาลถัดมา = [[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ]]
| รัชกาลถัดมา = [[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ]]
|}}
|}}
'''สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9''' หรือ '''สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ'''<ref name="พันจัน347">''พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)'', หน้า 347</ref> หรือ '''พระเจ้าท้ายสระ'''<ref name="หน้า165">นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 165</ref> หรือ '''พระเจ้าภูมินทราชา'''<ref name="คำให้การชาวกรุงเก่า">''คำให้การชาวกรุงเก่า'', พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 547-548</ref> หรือ '''พระเจ้าบรรยงก์รัตนาสน์''' เป็น[[พระมหากษัตริย์ไทย]]รัชกาลที่ 30 แห่ง[[อาณาจักรอยุธยา]] และเป็นพระองค์ที่สามแห่ง[[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]] ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2252 - พ.ศ. 2275

'''สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9'''<ref name="พระนาม">ราชบัณฑิตยสถาน. ''[http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=968 พระนามพระมหากษัตริย์สมัยอยุธยา]''. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2556</ref> หรือ '''พระเจ้าท้ายสระ'''<ref name="พระนาม"/> หรือ '''สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ''' หรือ '''สมเด็จพระภูมินทรมหาราชาท้ายสระ''' หรือ '''สมเด็จพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์''' พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 30 แห่ง[[อาณาจักรอยุธยา]] และเป็นพระองค์ที่สามแห่ง[[ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]] ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2252 - พ.ศ. 2275<ref name="นามานุกรม">{{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | ชื่อหนังสือ = นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย| URL = http://www.sac.or.th/main/pdf/Thai_king_directories.pdf| จังหวัด = กรุงเทพฯ| พิมพ์ที่ = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา| ปี = 2554| ISBN = 978-616-7308-25-8| จำนวนหน้า = 264| หน้า = 163-6}}</ref>


==พระราชประวัติ==
==พระราชประวัติ==
บรรทัด 27: บรรทัด 27:


== สวรรคต ==
== สวรรคต ==
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 เสด็จสวรรคตด้วยพระโรค[[มะเร็ง]]ที่พระชิวหาและพระศอในปี [[พ.ศ. 2275]] รวมระยะเวลาครองราชย์ 23 ปี
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 เสด็จสวรรคตในปี [[พ.ศ. 2275]] รวมระยะเวลาครองราชย์ 23 ปี


ในขณะที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 ทรงพระประชวรหนักนั้น พระองค์ตัดสินพระทัยทรงมอบราชสมบัติให้แก่[[เจ้าฟ้าอภัย]] แต่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลไม่ทรงยินยอม จึงเกิดเป็นสงครามแย่งชิงราชบัลลังก์<ref name="นามานุกรม"/> ที่สุดกรมพระราชวังบวรสถานมลคลเป็นฝ่ายชนะ ทรงสำเร็จโทษเจ้าฟ้าอภัย แล้วจึงครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ในขณะที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 ทรงพระประชวรหนักนั้น พระองค์ตัดสินพระทัยทรงมอบราชสมบัติให้แก่[[เจ้าฟ้าอภัย]] แต่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลไม่ทรงยินยอม จึงเกิดเป็นสงครามแย่งชิงราชบัลลังก์ ที่สุดกรมพระราชวังบวรสถานมลคลเป็นฝ่ายชนะ ทรงสำเร็จโทษเจ้าฟ้าอภัย แล้วจึงครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ


== พระนาม ==
== พระนาม ==
บรรทัด 40: บรรทัด 40:


== พระราชกรณียกิจ ==
== พระราชกรณียกิจ ==

ในรัชสมัยของพระองค์ มีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ มีการแต่ง[[เรือสำเภา]]บรรทุกสินค้าไปค้าขายที่[[เมืองท่า]][[มะริด]] ไปจรดถึง[[ทวีปแอฟริกา]]ตอนเหนือ มีการขุด[[คลอง]]สำคัญอันเป็นเส้นทางคมนาคม คือ "คลองมหาไชย" และ "คลองเกร็ดน้อย" มีการแข่งกันสร้างวัด ระหว่างพระองค์กับพระอนุชา คือ [[วัดมเหยงค์]]และ[[วัดกุฏีดาว]] มีการเคลื่อนย้ายพระนอนองค์ใหญ่ของ[[วัดป่าโมก]]เพื่อให้พ้นจากการถูกน้ำเซาะตลิ่ง เป็นต้น
ในรัชสมัยของพระองค์ มีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ มีการแต่ง[[เรือสำเภา]]บรรทุกสินค้าไปค้าขายที่[[เมืองท่า]][[มะริด]] ไปจรดถึง[[ทวีปแอฟริกา]]ตอนเหนือ มีการขุด[[คลอง]]สำคัญอันเป็นเส้นทางคมนาคม คือ "คลองมหาไชย" และ "คลองเกร็ดน้อย" มีการแข่งกันสร้างวัด ระหว่างพระองค์กับพระอนุชา คือ [[วัดมเหยงค์]]และ[[วัดกุฏีดาว]] มีการเคลื่อนย้ายพระนอนองค์ใหญ่ของ[[วัดป่าโมก]]เพื่อให้พ้นจากการถูกน้ำเซาะตลิ่ง เป็นต้น


ในด้านการต่างประเทศ มีการส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับ[[จีน]]ถึงสี่ครั้ง ทำให้การค้าขายระหว่าง[[ไทย]]กับ[[จีน]] ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในปี [[พ.ศ. 2244]] เกิดความวุ่นวายใน[[เขมร]] อันเนื่องจากการแย่งราชสมบัติกันระหว่าง[[นักเสด็จ]]กับ[[นักแก้วฟ้าสะจอง]] นักเสด็จขอเข้ามาอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ส่วนพระแก้วฟ้านักสะจองผู้เป็นอนุชาฝักใฝ่อยู่กับฝ่าย[[ญวน]] ซึ่งพยายามแผ่อำนาจเข้าไปใน[[เขมร]] พระองค์ได้ส่งกองทัพ[[กรุงศรีอยุธยา]]เข้าไปถึง[[เมืองอุดงมีชัย]] ราชธานีของ[[เขมร]] และได้เกลี้ยกล่อมให้[[นักแก้วฟ้าสะจอง]]กลับมาอ่อนน้อมต่ออยุธยา เขมรจึงมีฐานะเป็น[[ประเทศราช]]ของอาณาจักรเช่นแต่ก่อน
ในด้านการต่างประเทศ มีการส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับ[[ประเทศจีน]]ถึงสี่ครั้ง ทำให้การค้าขายระหว่าง[[สยาม]]กับจีน ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในปี [[พ.ศ. 2244]] เกิดความวุ่นวายใน[[ประเทศกัมพูชา]] อันเนื่องจากการแย่งราชสมบัติกันระหว่าง[[นักเสด็จ]]กับ[[นักแก้วฟ้าสะจอง]] นักเสด็จขอเข้ามาอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ส่วนพระแก้วฟ้านักสะจองผู้เป็นอนุชาฝักใฝ่อยู่กับฝ่าย[[ญวน]] ซึ่งพยายามแผ่อำนาจเข้าไปในเขมร พระองค์ได้ส่งกองทัพกรุงศรีอยุธยาเข้าไปถึงเมือง[[อุดงมีชัย]] ราชธานีของเขมร และได้เกลี้ยกล่อมให้[[นักแก้วฟ้าสะจอง]]กลับมาอ่อนน้อมต่ออยุธยา เขมรจึงมีฐานะเป็น[[ประเทศราช]]ของอาณาจักรเช่นแต่ก่อน


ในช่วงรัชสมัยฯ มิชชันนารีคริสต์คือมุขนายกลาโน ได้พิมพ์เผยแพร่หนังสือชื่อ “ปุจฉาวิสัชนา” มีเนื้อหาเปรียบเทียบศาสนาคริสต์ – ศาสนาพุทธ ชี้ให้เห็นความเหนือกว่าของศาสนาคริสต์ ดูหมิ่นพุทธศาสนา ทันทีหนังสือเล่มนี้ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกก็สร้างความไม่พอใจให้กับราชการไทย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระทรงเรียกบาทหลวง 3 คนขึ้นศาลไต่สวน ที่สุดมีพระราชโองการห้ามไม่ให้ใช้ภาษาไทยในการเผยแพร่ศาสนา ห้ามคนไทย มอญ และลาวเข้ารีตศาสนาคริสต์ และห้ามมิให้มิชชันนารีติเตียนศาสนาของคนไทย มิชชันนารีที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกเฆี่ยนแล้วเนรเทศ
ในช่วงรัชสมัยนี้ มิชชันนารีคาทอลิกคือมุขนายก[[หลุยส์ ลาโน]] ได้พิมพ์เผยแพร่หนังสือชื่อ “ปุจฉาวิสัชนา” มีเนื้อหาเปรียบเทียบศาสนาคริสต์ – ศาสนาพุทธ ชี้ให้เห็นความเหนือกว่าของศาสนาคริสต์ ดูหมิ่นพุทธศาสนา ทันทีหนังสือเล่มนี้ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกก็สร้างความไม่พอใจให้กับราชการไทย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระทรงเรียกบาทหลวง 3 คนขึ้นศาลไต่สวน ที่สุดมีพระราชโองการห้ามไม่ให้ใช้ภาษาไทยในการเผยแพร่ศาสนา ห้ามคนไทย มอญ และลาวเข้ารีตศาสนาคริสต์ และห้ามมิให้มิชชันนารีติเตียนศาสนาของคนไทย มิชชันนารีที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกเฆี่ยนแล้วเนรเทศ<ref>''แก่นแท้ศาสนาคริสต์ที่หายไป'', หน้า 120</ref>


== พระราชโอรส-ธิดา ==
== พระราชโอรส-ธิดา ==
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระมีพระราชโอรสธิดารวมกัน 9 พระองค์ เป็นพระราชโอรส 6 พระองค์ เป็นพระราชธิดา 3 พระองค์ ดังนี้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระมีพระราชโอรสธิดารวมกัน 9 พระองค์ เป็นพระราชโอรส 6 พระองค์ เป็นพระราชธิดา 3 พระองค์ ดังนี้<ref name="คำให้การชาวกรุงเก่า">''คำให้การชาวกรุงเก่า'', พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 622-623</ref>


;[[กรมหลวงราชานุรักษ์]]
; [[กรมหลวงราชานุรักษ์]]
มีพระโอรสธิดา 6 พระองค์ คือ
มีพระโอรสธิดา 6 พระองค์ คือ
* เจ้าฟ้าหญิงเทพ
* เจ้าฟ้าหญิงเทพ
บรรทัด 63: บรรทัด 62:
* พระองค์เจ้าชายเสฏฐา
* พระองค์เจ้าชายเสฏฐา
* พระองค์เจ้าชายปริก
* พระองค์เจ้าชายปริก
* พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง<ref>พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)</ref>
* พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง


== เกร็ดที่น่าสนใจ ==
== เกร็ดที่น่าสนใจ ==
บรรทัด 91: บรรทัด 90:
|7=
|7=
|8= [[สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง]]
|8= [[สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง]]
|9= [[พระราชเทวี สิริกัลยาณี]]
|9= [[พระราชเทวีสิริกัลยาณี]]
|10=[[พระแสนเมือง]] (พระเจ้าเชียงใหม่)
|10=[[พระแสนเมือง]] (พระเจ้าเชียงใหม่)
|11= ''ไม่ทราบ'' <br/>
|11= ''ไม่ทราบ'' <br/>
บรรทัด 106: บรรทัด 105:


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
; เชิงอรรถ
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}

; บรรณานุกรม
{{เริ่มอ้างอิง}}
* {{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = | ชื่อหนังสือ = พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)| จังหวัด = นนทบุรี| พิมพ์ที่ = ศรีปัญญา| ปี = 2553| ISBN = 978-616-7146-08-9| จำนวนหน้า = 800}}
* {{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = มาโนช พุ่มไพจิตร | ชื่อหนังสือ = แก่นแท้ศาสนาคริสต์ที่หายไป | จังหวัด =เชียงใหม่ | พิมพ์ที่ = หน่วยงานเผยแพร่ข่าวประเสริฐ | ปี = 2548}}
* {{อ้างหนังสือ | ผู้แต่ง = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | ชื่อหนังสือ = นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย | url = http://www.sac.or.th/main/pdf/Thai_king_directories.pdf | พิมพ์ที่ = มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา | จังหวัด = กรุงเทพฯ | ปี = 2554 | ISBN = 978-616-7308-25-8| หน้า = 165-166 | จำนวนหน้า = 264}}
{{จบอ้างอิง}}


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[ลำดับพระมหากษัตริย์ไทย]]
* [[รายพระนามพระมหากษัตริย์ไทย]]



{{เริ่มกล่อง}}
{{เริ่มกล่อง}}
บรรทัด 130: บรรทัด 138:


{{เรียงลำดับ|สรรเพชญ์ที่ 9}}
{{เรียงลำดับ|สรรเพชญ์ที่ 9}}
{{อายุขัย|2221|2275}}
{{ประสูติปี|2221}}{{สิ้นพระชนม์ปี|2275}}
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา]]
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]
[[หมวดหมู่:กรมพระราชวังบวรสถานมงคล]]
[[หมวดหมู่:กรมพระราชวังบวรสถานมงคล]]
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์บ้านพลูหลวง]]
[[หมวดหมู่:เสียชีวิตจากมะเร็งช่องปาก]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:01, 21 มีนาคม 2559

สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ

เจ้าฟ้าเพชร
สมเด็จพระภูมินทรมหาราชา
พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา
ครองราชย์พ.ศ. 2252-พ.ศ. 2275
รัชสมัย23 ปี
รัชกาลก่อนหน้าสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8
รัชกาลถัดไปสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ประสูติพ.ศ. 2221
สวรรคตพ.ศ. 2275
พระอัครมเหสีกรมหลวงราชานุรักษ์ (พระนามเดิม เจ้าฟ้าทองสุก)[1]
พระราชบุตรเจ้าฟ้าพระนเรนทร กรมขุนสุเรนทรพิทักษ์
เจ้าฟ้าหญิงเทพ
เจ้าฟ้าหญิงประทุม
เจ้าฟ้าชายอภัย
เจ้าฟ้าชายปรเมศร์
เจ้าฟ้าชายทับ
พระองค์เจ้าชายเสฏฐา
พระองค์เจ้าชายปริก
พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง
สมเด็จพระภูมินทรมหาราชา
ราชวงศ์ราชวงศ์บ้านพลูหลวง
พระราชบิดาสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 หรือ สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ[2] หรือ พระเจ้าท้ายสระ[3] หรือ พระเจ้าภูมินทราชา[4] หรือ พระเจ้าบรรยงก์รัตนาสน์ เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่สามแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2252 - พ.ศ. 2275

พระราชประวัติ

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 มีพระนามเดิมว่าเจ้าฟ้าเพชร เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เมื่อพระราชบิดาสวรรคตในปี พ.ศ. 2252 จึงขึ้นครองราชย์ เฉลิมพระนามว่า สมเด็จพระภูมินทรมหาราชา โดยพระนามที่เป็นที่รู้จักกันคือพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แล้วสถาปนาพระบัณฑูรน้อย เจ้าฟ้าพร พระราชอนุชาเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล

สวรรคต

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2275 รวมระยะเวลาครองราชย์ 23 ปี

ในขณะที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 ทรงพระประชวรหนักนั้น พระองค์ตัดสินพระทัยทรงมอบราชสมบัติให้แก่เจ้าฟ้าอภัย แต่กรมพระราชวังบวรสถานมงคลไม่ทรงยินยอม จึงเกิดเป็นสงครามแย่งชิงราชบัลลังก์ ที่สุดกรมพระราชวังบวรสถานมลคลเป็นฝ่ายชนะ ทรงสำเร็จโทษเจ้าฟ้าอภัย แล้วจึงครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

พระนาม

  • สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ มาจากนามพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ ซึ่งพระองค์ใช้เป็นประทับอันอยู่ข้างสระน้ำท้ายพระบรมมหาราชวัง
  • สมเด็จพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์
  • สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
  • สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ
  • สมเด็จพระภูมินทราธิราช
  • ขุนหลวงทรงปลา

พระราชกรณียกิจ

ในรัชสมัยของพระองค์ มีเรื่องราวที่น่าสนใจคือ มีการแต่งเรือสำเภาบรรทุกสินค้าไปค้าขายที่เมืองท่ามะริด ไปจรดถึงทวีปแอฟริกาตอนเหนือ มีการขุดคลองสำคัญอันเป็นเส้นทางคมนาคม คือ "คลองมหาไชย" และ "คลองเกร็ดน้อย" มีการแข่งกันสร้างวัด ระหว่างพระองค์กับพระอนุชา คือ วัดมเหยงค์และวัดกุฏีดาว มีการเคลื่อนย้ายพระนอนองค์ใหญ่ของวัดป่าโมกเพื่อให้พ้นจากการถูกน้ำเซาะตลิ่ง เป็นต้น

ในด้านการต่างประเทศ มีการส่งราชทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับประเทศจีนถึงสี่ครั้ง ทำให้การค้าขายระหว่างสยามกับจีน ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในปี พ.ศ. 2244 เกิดความวุ่นวายในประเทศกัมพูชา อันเนื่องจากการแย่งราชสมบัติกันระหว่างนักเสด็จกับนักแก้วฟ้าสะจอง นักเสด็จขอเข้ามาอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ส่วนพระแก้วฟ้านักสะจองผู้เป็นอนุชาฝักใฝ่อยู่กับฝ่ายญวน ซึ่งพยายามแผ่อำนาจเข้าไปในเขมร พระองค์ได้ส่งกองทัพกรุงศรีอยุธยาเข้าไปถึงเมืองอุดงมีชัย ราชธานีของเขมร และได้เกลี้ยกล่อมให้นักแก้วฟ้าสะจองกลับมาอ่อนน้อมต่ออยุธยา เขมรจึงมีฐานะเป็นประเทศราชของอาณาจักรเช่นแต่ก่อน

ในช่วงรัชสมัยนี้ มิชชันนารีคาทอลิกคือมุขนายกหลุยส์ ลาโน ได้พิมพ์เผยแพร่หนังสือชื่อ “ปุจฉาวิสัชนา” มีเนื้อหาเปรียบเทียบศาสนาคริสต์ – ศาสนาพุทธ ชี้ให้เห็นความเหนือกว่าของศาสนาคริสต์ ดูหมิ่นพุทธศาสนา ทันทีหนังสือเล่มนี้ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกก็สร้างความไม่พอใจให้กับราชการไทย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระทรงเรียกบาทหลวง 3 คนขึ้นศาลไต่สวน ที่สุดมีพระราชโองการห้ามไม่ให้ใช้ภาษาไทยในการเผยแพร่ศาสนา ห้ามคนไทย มอญ และลาวเข้ารีตศาสนาคริสต์ และห้ามมิให้มิชชันนารีติเตียนศาสนาของคนไทย มิชชันนารีที่ไม่ปฏิบัติตามจะถูกเฆี่ยนแล้วเนรเทศ[5]

พระราชโอรส-ธิดา

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระมีพระราชโอรสธิดารวมกัน 9 พระองค์ เป็นพระราชโอรส 6 พระองค์ เป็นพระราชธิดา 3 พระองค์ ดังนี้[4]

กรมหลวงราชานุรักษ์

มีพระโอรสธิดา 6 พระองค์ คือ

พระสนม

มีพระโอรสธิดา 3 พระองค์ คือ

  • พระองค์เจ้าชายเสฏฐา
  • พระองค์เจ้าชายปริก
  • พระองค์เจ้าหญิงสมบุญคง

เกร็ดที่น่าสนใจ

  • พระองค์โปรดเสวยปลาตะเพียนมาก โดยออกพระราชกำหนดห้ามราษฎรจับหรือรับประทานปลาตะเพียน หากผู้ใดฝ่าฝืน มีบทลงโทษคือปรับเป็นเงิน 5 ตำลึง หรือ 20 บาท
  • พระราชทานท้องพระโรงแก่สมเด็จพระสังฆราชแตงโม (ทอง) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระองค์โดยล่องเรือจากอยุธยาไปเพชรบุรีแล้วไปสร้างที่วัดใหญ่สุวรรณาราม (วัดสุวรรณาราม บ้างก็เรียกวัดใหญ่) จึงทำให้คงเหลือพระราชวัง ท้องพระโรงที่แสดงถึงศิลปกรรมของอยุธยาที่เหลือรอดจากการเผาของพม่าเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี

ราชตระกูล

พระราชตระกูลในสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระราชเทวีสิริกัลยาณี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระแสนเมือง (พระเจ้าเชียงใหม่)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระนางกุสาวดี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ไม่ทราบ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ไม่ทราบ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. เล็ก พงษ์สมัครไทย. เฉลิมพระยศ เจ้านายฝ่ายในในรัชกาลที่ 1-9. กรุงเทพฯ:ฐานบุ๊คส์, 2552. หน้า 16
  2. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), หน้า 347
  3. นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 165
  4. 4.0 4.1 คำให้การชาวกรุงเก่า, พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 547-548 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "คำให้การชาวกรุงเก่า" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  5. แก่นแท้ศาสนาคริสต์ที่หายไป, หน้า 120
บรรณานุกรม
  • พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. ISBN 978-616-7146-08-9
  • มาโนช พุ่มไพจิตร. แก่นแท้ศาสนาคริสต์ที่หายไป. เชียงใหม่ : หน่วยงานเผยแพร่ข่าวประเสริฐ, 2548.
  • มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, 2554. 264 หน้า. หน้า 165-166. ISBN 978-616-7308-25-8

ดูเพิ่ม


ก่อนหน้า สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ ถัดไป
สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8
(ราชวงศ์บ้านพลูหลวง)

(พ.ศ. 2246 - พ.ศ. 2252)

พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรอยุธยา
(ราชวงศ์บ้านพลูหลวง)

(พ.ศ. 2252 - พ.ศ. 2275)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
(ราชวงศ์บ้านพลูหลวง)

(พ.ศ. 2275 - พ.ศ. 2301)