ชีอะฮ์
ส่วนหนึ่งของ |
ศาสนาอิสลาม |
---|
|
ชีอะฮ์ (อาหรับ: شِيعَة ชีอะฮ์ จาก ชีอะตุอะลี شِيعَة عَلِيّ "สาวกของอะลี"; شِيعِيّ ชีอีย์ เป็นเอกพจน์ شِيَاع ชิยาอ์ เป็นพหุพจน์[1]) เป็นหนึ่งในสองแขนงของศาสนาอิสลาม โดยถือว่าศาสดามุฮัมมัดแต่งตั้งอะลีเป็นผู้สืบทอดและอิหม่ามหลังจากท่าน[2] สิ่งที่อะลีไม่เหมือนกับสามเคาะลีฟะฮ์คือ เขามาจากบนูฮาชิม ตระกูลเดียวกันกับมุฮัมมัด เป็นลูกพี่ลูกน้อง และเป็นชายคนแรกที่นับถือศาสนาอิสลาม[3]
ชีอะฮ์เป็นนิกายที่มีผู้นับถือมากเป็นอันดับสองของศาสนาอิสลาม โดยในช่วงปลายทศวรรษ 2000 มีประชากรชีอะฮ์อยู่ร้อยละ 10–15% ของมุสลิมทั้งหมด[4] และสำนักชีอะฮ์สิบสองอิมามเป็นสำนักชีอะฮ์ที่นับถือมากที่สุด[5] โดยในปี ค.ศ. 2012 คาดการว่ามีอยู่ร้อยละ 85%[6]
คำศัพท์
[แก้]คำว่า ชีอะฮ์ (อาหรับ: شيعة) ตามอักษรหมายถึง "ผู้ติดตาม"[7] และเป็นประโยคสั้นของคำว่า ชีอะตุอะลี (شيعة علي /ˈʃiːʕatu ˈʕaliː/) ซึ่งหมายถึง "ผู้ติดตามของอะลี"[8]
ประวัติ
[แก้]การสืบทอดของอะลี
[แก้]เหตุการณ์ที่ฆอดิรคุมม์
[แก้]เหตุการณ์ที่ฆอดิรคุมม์ เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 632 ในขณะกลับจากการทำฮัจญ์ ศาสดามุฮัมมัดได้เรียกชาวมุสลิมที่อยู่รอบ ๆ มารวมตัวกันแล้วให้โอวาส ในตอนนั้น มุฮัมมัดชูแขนอะลีแล้วกล่าวว่า "ใครสำคัญไปกว่าตนเอง?" ชาวมุสลิมกล่าวว่า "อัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์"[9]
เหตุการณ์นี้ได้ถูกบันทึกทั้งฝ่ายชีอะฮ์และซุนนี[10][11][12][13]
รัฐเคาะลีฟะฮ์ของอะลี
[แก้]เมื่อมุฮัมมัดเสียชีวิตในปีค.ศ. 632 และญาติของมุฮัมมัดกำลังจัดงานศพ ในขณะที่เตรียมร่างกายนั้น อะบูบักร์, อุมัร และอบูอุบัยดะฮ์ อิบน์ อัลญัรเราะฮ์พบกับผู้นำแห่งมะดีนะฮ์และเลือกอบูบักร์เป็นเคาะลีฟะฮ์ อะลีปฏิเสธความเป็นเคาะลีฟะฮ์ของอะบูบักร์และไม่ให้สัตยาบันแก่เขา รายงานนี้มีทั้งสายซุนนีและชีอะฮ์
อะลีไม่ได้เป็นเคาะลีฟะฮ์ จนกระทั่งอุสมาน เคาะลีฟะฮ์คนที่สามถูกลอบสังหารในปีค.ศ. 657 และอะลีก็กลายเป็นเคาะลีฟะฮ์คนที่สี่[14] แล้วย้ายเมืองหลวงไปที่กูฟะฮ์ในอิรัก[8]
ในช่วงที่อะลีปกครอง สังคมมุสลิมมักจะมีโต้แย้ง และมีสงครามเกือบบ่อย ซึ่งมีผลทำให้เกิดฟิตนะฮ์ครั้งที่หนึ่ง ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองใหญ่ครั้งแรกในรัฐเคาะลีฟะฮ์อิสลาม[14] อะลีปกครองตั้งแต่ปีค.ศ. 656 ถึงค.ศ. 661[14] สิ้นสุดโดยการถูกลอบสังหาร[15] ในตอนที่กำลังละหมาด (สุญูด) และมุอาวิยะฮ์ ศัตรูหลักของอะลี ประกาศตนเองเป็นเคาะลีฟะฮ์[16]
ฮะซัน อิบน์ อะลี
[แก้]หลังอะลีเสียชีวิต ฮะซัน อิบน์ อะลี ลูกชายคนโตกลายเป็นเคาะลีฟะฮ์แห่งกูฟะฮ์ และหลังจากต่อสู้ระหว่างกูฟะฮ์กับทหารของมุอาวิยะฮ์ ฮะซํนยอมโอนอำนาจให้มุอาวิยะฮ์และทำสนธิสัญญาสันติภาพภาพใต้ข้อเงื่อนไข:[17][18]
- บังคับยกเลิกการกล่าวสาปแช่งอะลีในที่สาธารณะ เช่น ในเวลาละหมาด เเละเวลาคุตบะห์
- มุอาวิยะฮ์ไม่ควรใช้เงินภาษีกับความจำเป็นส่วนตัว
- ควรสงบศึก และผู้ติดตามฮะซํนจะได้รับสิทธิและความปลอดภัย
- มุอาวิยะฮ์จะไม่แต่งตั้งตนเองเป็นอะมีรุลมุอ์มินีน
- มุอาวิยะฮ์จะไม่ให้มีใครเป็นผู้สืบทอด
ฮะซันเกษียณในมะดีนะฮ์ และในปีค.ศ. 670 เขาถูกฆ่าด้วยยาพิษโดยญะดา บิยต์ อัลอัชอัษ อิบน์ ก็อยส์ ภรรยาของท่าน โดยมุอาวิยะฮ์แอบติดต่อเธอให้ฆ่าฮะซัน เพื่อให้มุอาวิยะฮ์ยกตำแหน่งให้กับยะซีด ลูกชายของตนเอง
ฮุซัยน์ อิบน์ อะลี
[แก้]ฮุซัยน์ น้องชายของฮะซัน และลูกคนเล็กของอะลี ได้เรียกร้องให้รวมอำนาจเคาะลีฟะฮ์ ในปีค.ศ. 680 มุอาวิยะฮ์เสียชีวิตแล้วยกตำแหน่งให้ยะซีด และทำลายสนธิสัญญาของฮะซัน อิบน์ อะลี ดังนั้น ฮุซัยน์ได้รวบรวมครอบครัวกับผู้ติดตามในมะดีนะฮ์ เดินทางไปที่กูฟะฮ์ แต่ถูกขวางโดยทหารของยะซีด ที่ใกล้กัรบะลา (ปัจจุบันอยู่ในอิรัก) และฮุซัยน์กับครอบครัวและผู้ติดตามอีกประมาณ 72 คนถูกฆ่าในยุทธการที่กัรบะลาอ์
ชีอะฮ์ยกย่องฮุซัยน์เป็นผู้พลีชีพ (ชะฮีด) และนับท่านเป็นอิหม่ามจากอะฮ์ลุลบัยต์[19] ยุทธการที่กัรบะลามักถูกกล่าวเป็นจุกแยกระหว่างซุนนีกับชีอะฮ์ของอิสลาม และในทุก ๆ ปี มุสลิมชีอะฮ์จะร่วมกันรำลึกในวันอาชูรออ์
สังคม
[แก้]ประชากร
[แก้]รายงานจากมุสลิมชีอะฮ์ไว้ว่า การทำสำมะโนมักนำโดยนิกายซุนนี ซึ่งอาจจะทำให้ข้อมูลบางส่วนไม่เป็นจริง เช่น ในค.ศ. 1926 ในช่วงที่ราชวงศ์ซะอูดได้แยกชีอะฮ์ออก[20] ชาวชีอะฮ์มีอยู่ร้อยละ 21% ของประชากรมุสลิมในเอเชียใต้ ถึงแม้ว่าข้อจำกัดนี้จะเป็นอุปสรรคก็ตาม[21] จนกระทั่งมีการสรุปว่ามีอยู่แค่ 15%[22][23][24][25]
ประชากรทั่วโลก
[แก้]ตารางข้างล่างคือรายงานจาก Pew Research Center เรื่อง Mapping the Global Muslim Population ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009[24][25]
ประเทศ | ประชากรชีอะฮ์[24][25] | ร้อยละของมุสลิมที่เป็นชีอะฮ์[24][25] | ร้อยละของชีอะฮ์ทั่วโลก[24][25] | ประมาณต่ำสุด | ประมาณสูงสุด |
---|---|---|---|---|---|
อิหร่าน | 74,000,000–78,000,000 | 90–95 | 37–40 | 78,661,551[26][27] | |
ปากีสถาน | 17,000,000–26,000,000 | 10–15 | 10–15 | 43,250,000[28]–57,666,666[29][30] | |
อินเดีย | 17,000,000–26,000,000 | 10–15 | 9–14 | 40,000,000[31]–50,000,000.[32] | |
อิรัก | 19,000,000–22,000,000 | 65–70 | 11–12 | ||
เยเมน | 8,000,000–10,000,000 | 35–40 | ~5 | ||
ตุรกี | 7,000,000–11,000,000 | 10–15 | 4–6 | 22 ล้าน[26] | |
อาเซอร์ไบจาน | 5,000,000–7,000,000 | 65–75 | 3–4 | 8.16 ล้าน[26] ประชากร 85% ของประเทศ[33] | |
อัฟกานิสถาน | 3,000,000–4,000,000 | 10–15 | ~2 | 6.1 ล้าน[26] ประชากร 15–19% ของประเทศ[34] | |
ซีเรีย | 3,000,000–4,000,000 | 15–20 | ~2 | ||
ซาอุดีอาระเบีย | 2,000,000–4,000,000 | 10–15 | 1–2 | ||
ไนจีเรีย | <4,000,000 | <5 | <2 | 22–25 ล้าน[35][ไม่อยู่ในแหล่งอ้างอิง] | |
บังกลาเทศ | 40,000–50,000 | <1 | <1 | 10,840,000[36] | |
เลบานอน | 1,000,000–2,000,000 | 45–55 | <1 | โดยประมาณ, ไม่มีสำมะโนทางการ[37] 50–55%[38][39][40] | |
แทนซาเนีย | <2,000,000 | <10 | <1 | ||
คูเวต | 500,000–700,000 | 20–25 | <1 | 30–35% ต่อมุสลิม 1.2 ล้านคน (ประชากรในประเทศเท่านั้น)[41][42] | |
เยอรมัน | 400,000–600,000 | 10–15 | <1 | ||
บาห์เรน | 400,000–500,000 | 65–70 | <1 | 100,000 (66%[43] ของประชากร) | 200,000 (70%[44] ของประชากร) |
ทาจิกิสถาน | ~400,000 | ~7 | ~1 | ||
สหรัฐอาหรับเอมิเรต | 300,000–400,000 | 10 | <1 | ||
สหรัฐ | 200,000–400,000 | 10–15 | <1 | ||
โอมาน | 100,000–300,000 | 5–10 | <1 | 948,750[45] | |
สหราชอาณาจักร | 100,000–300,000 | 10–15 | <1 | ||
กาตาร์ | ~100,000 | ~10 | <1 |
การข่มเหง
[แก้]มีหลายช่วงที่กลุ่มชีอะฮ์ถูกประหาร[46][47][48][49][50][51]
ในปีค.ศ. 1514 สุลต่านเซลิมที่ 1 ทรงมีรับสั่งให้สังหารชาวชีอะฮ์อนาโตเลีย 40,000 คน[52] รายงานจาก Jalal Al-e-Ahmad "สุลต่านเซลิมที่ 1 ทรงดำเนินไปไกลมาก จนมีการประกาศว่าการฆ่าชีอะฮ์หนึ่งคนมีค่าเท่ากับการฆ่าชาวคริสต์ถึง 70 คน"[53]
ภายใต้การปกครองของซัดดัม ฮุสเซนในประเทศอิรัก มุสลิมชีอะฮ์ส่วนใหญ่มักถูกจำคุก, ทรมาน และถูกฆ่า[54] และในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 ทางรัฐบาลมาเลเซียประกาศให้ชีอะฮ์เป็นสังกัดที่ "แปลกแยก" และถูกห้ามไม่ให้เผยแผ่หลักศรัทธาของพวกเขา แต่ยังคงดำเนินตามศาสนพิธีได้ตามที่ส่วนตัว[55][56]
วันหยุด
[แก้]วันทั่วไปที่ฉลองทั้งซุนนีและชีอะฮ์คือ:
- อีดิลฟิตรี จัดหลังจากสิ้นสุดเดือนเราะมะฎอน
- อีดิลอัฏฮา จัดขึ้นหลังจากสิ้นสุดพิธีฮัจญ์
วันด้านล่างนี้ เป็นวันสำคัญของชีอะฮ์:
- อีด อัล-เฆาะดีร เป็นวันครบรอบของเหตุการณ์ ณ ฆอดิรคุม[57] จัดในวันที่ 18 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์
- การร่ำไห้แห่งมุฮัรรอม และวันอาชูรออ์สำหรับชีอะฮ์คือวันพลีชีพของฮุเซน จัดขึ้นในวันที่ 10 มุฮัรรอม
- อัรบะอีน วันที่ผู้หญิงและลูก ๆ ของฮุซัยน์ เดินทางจากกัรบะลา (อิรักตอนกลาง) ถึงชาม (ดามัสกัส, ซีเรีย) จัดขึ้นในวันที่ 20 เดือนเศาะฟัร 40 วันหลังจากวันวันอาชูรออ์
- เมาลิด วันเกิดของมุฮัมมัด สิ่งที่ไม่เหมือนกับชาวซุนนีที่ฉลองในวันที่ 12 รอบีอุลเอาวัล เป็นทั้งวันเกิดและวันเสียชีวิตของมุฮัมมัด ชีอะฮ์จะฉลองในวันที่ 17 ของเดือนเดียวกัน ซึ่งเป็นวันเกิดของญะอ์ฟัร อัศศอดิก อิหม่ามคนที่หกของชีอะฮ์[58] ส่วนวะฮาบีย์จะไม่ฉลอง เพราะเชื่อว่ามันเป็นบิดอะฮ์ (อุตริกรรม)[59]
- วันเกิดฟาฏิมะฮ์ จัดในวันที่ 20 เดือนญุมาดัษษานียะฮฺ วันนั้นก็ถือเป็น "'วันสตรีและวันแม่" ด้วย[60]
- วันเกิดอะลี จัดในวันที่ 13 เดือนเราะญับ
- กลางชะอ์บาน เป็นวันเกิดของมุฮัมมัด อัลมะฮ์ดี อิหม่ามคนที่ 12 และเป็นอิหม่ามคนสุดท้ายของสิบสองอิหม่าม ชาวชีอะฮ์จะฉลองในวันที่ 15 เดือนชะอ์บาน
- ลัยละตุลก็อดร์ คืนที่ประทานอัลกุรอาน
- อีด อัลมุบาฮิละฮ์ การฉลองวันพบปะระหว่างอะฮ์ลุลบัยต์ และชาวคริสต์แห่งนัจญ์รอน จัดขึ้นในวันที่ 24 เดือนซุลฮิจญะฮ์
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
[แก้]ชีอะฮ์มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สี่แห่ง คือมักกะฮ์ (มัสยิด อัลฮะรอม), มะดีนะฮ์ (มัสยิด อันนะบะวี), เยรูซาเลม (มัสยิด อัลอักซอ) และกูฟะฮ์ (มัสยิดกูฟะฮ์) สำหรับชีอะฮ์แล้ว มัสยิดอิหม่ามฮุซัยน์, มัสยิดอัล อับบาสที่กัรบะลาอ์ และมัสยิดอิหม่ามอะลีที่นาจาฟก็สำคัญเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชีอะฮ์ส่วนใหญ่ในประเทศซาอุดีอาระเบียถูกทำลายโดยอัลอิควาน[61]
สาขา
[แก้]สิบสองอิหม่าม
[แก้]ชีอะฮ์สิบสองอิมาม หรือ อิษนาอะชารียะฮ์ เป็นสาขาของชีอะฮ์ที่ใหญ่ที่สุด ชื่อของสาขานี้มาจากกลุ่มของสิบสองอิหม่าม ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ที่ประเทศอิหร่าน (90%),[62] อาเซอร์ไบจาน (85%),[8][63] บาห์เรน (70%), อิรัก (65%), เลบานอน (65% ของมุสลิม)[64][65][66]
หลักศรัทธา
[แก้]ชีอะฮ์สิบสองอิมามมีหลักศรัทธาห้าประการ[67] ซึ่งมีชื่อว่า อุศูลุดดีน โดยเรียงได้ดังนี้:[68][69]
- เอกเทวนิยม, พระเจ้ามีองค์เดียวและไม่เหมือนใคร.
- ความยุติธรรม, ความถูกต้องที่ยึดถือตามจริยธรรม, ความยุติธรรม และความเท่าเทียมกัน
- ศาสนทูต, บทบัญญัติที่พระเจ้าส่งมาให้ทูต หรือศาสดาชี้นำทางมนุษย์
- ผู้นำ สำนักที่สืบทอดจากสำนักของศาสดา
- วันสุดท้าย วันชำระบัญชีของพระเจ้า
อิสมาอิลี
[แก้]อิสมาอิลีมีชื่อมาจากอิสมาอิล อิบน์ ญะฟัรตามลำดับผู้สืบทอด (อิหม่าม) ของญะอ์ฟัร อัศศอดิก โดยพวกเขาเชื่อว่า มูซา อัล-คอดิม เป็นอิหม่ามคนต่อไป
ปัจจุบัน อิสมาอิลีส่วนใหญ่มักพบอยู่ในสังคมอินโด-อิหร่าน[70] แต่ก็พบในอินเดีย, ปากีสถาน, ซีเรีย, ปาเลสไตน์, ซาอุดีอาระเบีย,[71] เยเมน, จีน,[72] จอร์แดน, อุซเบกิสถาน, ทาจิกิสถาน, อัฟกานิสถาน, แอฟริกาตะวันออก และแอฟริกาใต้ และมีบางส่วนย้ายถิ่นฐานไปที่ยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และอเมริกาเหนือ[73]
เสาหลัก
[แก้]อิสมาอิลีมี เสาหลัก 7 ประการ:
|
|
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Wehr, Hans. "Dictionary of Modern Written Arabic". Archive.org. p. 498. สืบค้นเมื่อ 31 July 2019.
- ↑ Olawuyi, Toyib (2014). On the Khilafah of Ali over Abu Bakr. p. 3. ISBN 978-1-4928-5884-3. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 เมษายน 2016.
- ↑ Triana, María (2017). Managing Diversity in Organizations: A Global Perspective (ภาษาอังกฤษ). Taylor & Francis. p. 159. ISBN 978-1-317-42368-3. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 กันยายน 2017.
- ↑ "Mapping the Global Muslim Population". 7 ตุลาคม 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 ธันวาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 10 ธันวาคม 2014.
The Pew Forum's estimate of the Shia population (10–13%) is in keeping with previous estimates, which generally have been in the range of 10–15%.
- ↑ Newman, Andrew J. (2013). "Introduction". Twelver Shiism: Unity and Diversity in the Life of Islam, 632 to 1722. Edinburgh University Press. p. 2. ISBN 978-0-7486-7833-4.
- ↑ Guidère, Mathieu (2012). Historical Dictionary of Islamic Fundamentalism. Scarecrow Press. p. 319. ISBN 978-0-8108-7965-2.
- ↑ Duncan S. Ferguson (2010). Exploring the Spirituality of the World Religions: The Quest for Personal, Spiritual and Social Transformation. Bloomsbury Academic. p. 192. ISBN 978-1-4411-4645-8.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 The New Encyclopædia Britannica, Jacob E. Safra, Chairman of the Board, 15th Edition, Encyclopædia Britannica, Inc., 1998, ISBN 0-85229-663-0, Vol 10, p. 738
- ↑ Majd, Vahid. The Sermon of Prophet Muhammad (saww) at Ghadir Khum. p. 151.
- ↑ Musnad Ahmad Ibn Hanbal, Volume 4. p. 281.
- ↑ al-Razi, Fakhr. Tafsir al-Kabir, Volume 12. pp. 49–50.
- ↑ al-Tabrizi, al-Khatib. Mishkat al-Masabih. p. 557.
- ↑ Khand, Mir. Habib al-Siyar, Volume 1, Part 3. p. 144.
- ↑ 14.0 14.1 14.2 Merriam-Webster's Encyclopedia of World Religions, Wendy Doniger, Consulting Editor, Merriam-Webster, Incorporated, Springfield, MA 1999, ISBN 0-87779-044-2, LoC: BL31.M47 1999, p. 525
- ↑ "Esposito, John. "What Everyone Needs to Know about Islam" Oxford University Press, 2002. ISBN 978-0-19-515713-0. p. 46
- ↑ The New Encyclopædia Britannica, Jacob E. Safra, Chairman of the Board, 15th Edition, Encyclopædia Britannica, Inc., 1998, ISBN 0-85229-663-0, Vol 10, p. tid738
- ↑ ""Solhe Emam Hassan"-Imam Hassan Sets Peace". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 มีนาคม 2013.
- ↑ تهذیب التهذیب. p. 271.
- ↑ Discovering Islam: making sense of Muslim history and society (2002) Akbar S. Ahmed
- ↑ "Discrimination towards Shia in Saudi Arabia". Wsws.org. 8 ตุลาคม 2001. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 พฤษภาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 4 พฤษภาคม 2011.
- ↑ Momen 1985, p. 277
- ↑ "Religions". CIA. The World Factbook. 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2010.
- ↑ "Shīʿite". Encyclopædia Britannica Online. 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 สิงหาคม 2010. สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2010.
- ↑ 24.0 24.1 24.2 24.3 24.4 24.5 "Mapping the Global Muslim Population: A Report on the Size and Distribution of the World's Muslim Population". Pew Research Center. 7 ตุลาคม 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 ธันวาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2010.
- ↑ 25.0 25.1 25.2 25.3 25.4 25.5 Miller, Tracy, บ.ก. (October 2009). Mapping the Global Muslim Population: A Report on the Size and Distribution of the World's Muslim Population (PDF). Pew Research Center. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 13 January 2010. สืบค้นเมื่อ 8 October 2009.
- ↑ 26.0 26.1 26.2 26.3 Husain, Rahat (26 ตุลาคม 2015). "Analysis indicates Shia populations are being underreported". Communities Digital News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 กันยายน 2016. สืบค้นเมื่อ 30 สิงหาคม 2016.
- ↑ "The World Factbook – Central Intelligence Agency". www.cia.gov. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2012.
- ↑ "CIA – The World Factbook". Cia.gov. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 กรกฎาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 4 พฤษภาคม 2011.
- ↑ "Violence Against Pakistani Shias Continues Unnoticed | International News". Islamic Insights. 30 มีนาคม 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 พฤษภาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 4 พฤษภาคม 2011.
- ↑ "Taliban kills Shia school children in Pakistan". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 พฤษภาคม 2011.
- ↑ "Shia women too can initiate divorce". The Times of India. 6 พฤศจิกายน 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 มีนาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 21 มิถุนายน 2010.
- ↑ "30,000 Indian Shia Muslims Ready to Fight Isis 'Bare Handed' in Iraq". International Business Times UK. 27 มิถุนายน 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 มกราคม 2015.
- ↑ "Religion" (PDF). Administrative Department of the President of the Republic of Azerbaijan – Presidential Library. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2011. สืบค้นเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2015.
- ↑ "Shia women too can initiate divorce" (PDF). Library of Congress Country Studies on Afghanistan. August 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 8 April 2014. สืบค้นเมื่อ 27 August 2010.
Religion: Virtually the entire population is Muslim. Between 80 and 85 percent of Muslims are Sunni and 15 to 19 percent, Shia.
- ↑ "'No Settlement with Iran Yet'". This Day. 16 November 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 May 2013.
- ↑ "Shia Population in Bangladesh". World Shia Muslims Population. พฤศจิกายน 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 กรกฎาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2018.
- ↑ Growth of the world's urban and rural population: 1920–2000, p. 81. United Nations. Dept. of Economic and Social Affairs
- ↑ Hassan, Farzana. Prophecy and the Fundamentalist Quest, p. 158
- ↑ Corstange, Daniel M. Institutions and Ethnic politics in Lebanon and Yemen, p. 53
- ↑ Dagher, Carole H. Bring Down the Walls: Lebanon's Post-War Challenge, p. 70
- ↑ "International Religious Freedom Report for 2012". US State Department. 2012.
- ↑ "The New Middle East, Turkey, and the Search for Regional Stability" (PDF). Strategic Studies Institute. April 2008. p. 87. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 18 March 2015.
- ↑ "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 February 2012. สืบค้นเมื่อ 3 March 2012.
{{cite web}}
: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์) - ↑ "Why Bahrain blew up". New York Post. 17 กุมภาพันธ์ 2011. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 ตุลาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2011.
- ↑ Top 15 Countries with Highest Proportion of Shiites in the Population เก็บถาวร 7 กรกฎาคม 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 7 July 1999
- ↑ (Ya'qubi; vol. III, pp. 91–96, and Tarikh Abul Fida', vol. I, p. 212.)
- ↑ Stevan Lars Nielson, PhD; E. Thomas Dowd, PhD, ABPP (2006). The Psychologies in Religion: Working with the Religious Client. Springer Publishing Company. p. 237. ISBN 978-0-8261-2857-7.
{{cite book}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ "Basra handover completed". Inthenews.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 สิงหาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 4 พฤษภาคม 2011.
- ↑ Maddox, Bronwen (30 December 2006). "Hanging will bring only more bloodshed". The Times. London. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-10-29. สืบค้นเมื่อ 23 May 2010.
- ↑ "Al-Ahram Weekly | Region | Shiʻism or schism". Weekly.ahram.org.eg. 17 มีนาคม 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 เมษายน 2011. สืบค้นเมื่อ 4 พฤษภาคม 2011.
- ↑ The Shia, Ted Thornton, NMH, Northfield Mount Hermon เก็บถาวร 13 สิงหาคม 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ George C. Kohn (2007). Dictionary of Wars. Infobase Publishing. p. 385. ISBN 0-8160-6577-2
- ↑ Al-e Ahmad, Jalal. Plagued by the West (Gharbzadegi), translated by Paul Sprachman. Delmor, NY: Center for Iranian Studies, Columbia University, 1982.
- ↑ Gritten, David (25 กุมภาพันธ์ 2006). "Long path to Iraq's sectarian split". BBC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 กรกฎาคม 2008. สืบค้นเมื่อ 19 เมษายน 2015.
- ↑ "Malaysian government to Shia Muslims: Keep your beliefs to yourself". globalpost.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2014. สืบค้นเมื่อ 17 มีนาคม 2014.
- ↑ "Malaysia" (PDF). state.gov. สืบค้นเมื่อ 17 มีนาคม 2014.
- ↑ Paula Sanders (1994), Ritual, politics, and the city in Fatimid Cairo, p. 121
- ↑ Bernard Trawicky, Ruth Wilhelme Gregory, (2002), Anniversaries and holidays, p. 233
- ↑ "Mawlid al-Nabi (the Prophet's birthday)". Islamqa.info. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 ธันวาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 6 ธันวาคม 2015.
- ↑ "Lady Fatima inspired women of Iran to emerge as an extraordinary force". 18 March 2017.
- ↑ Laurence Louėr (2008), Transnational Shia politics: religious and political networks in the Gulf, p. 22
- ↑ "Esposito, John. "What Everyone Needs to Know about Islam" Oxford University Press, 2002. ISBN 978-0-19-515713-0. p. 45.
- ↑ "Administrative Department of the President of the Republic of Azerbaijan – Presidential Library – Religion" (PDF). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2011.
- ↑ Esposito, John. "What Everyone Needs to Know about Islam" Oxford University Press, 2002. ISBN 978-0-19-515713-0. p. 45
- ↑ John Pike. "Bahrain – Religion". globalsecurity.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 มกราคม 2012.
- ↑ "Challenges For Saudi Arabia Amidst Protests In The Gulf – Analysis". Eurasia Review. 25 มีนาคม 2011. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 เมษายน 2012.
- ↑ "Shiʿite Doctrine". iranicaonline.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 พฤษภาคม 2015.
- ↑ Joanne Richter, (2006), Iran the Culture, p. 7
- ↑ Mulla Bashir Rahim, An Introduction to Islam เก็บถาวร 14 ตุลาคม 2009 ที่ Portuguese Web Archive, by Ahlul Bayt Digital Islamic Library Project
- ↑ Nasr, Vali, The Shia Revival, Norton, (2006), p. 76
- ↑ "Congressional Human Rights Caucus Testimony – NAJRAN, The Untold Story". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 ธันวาคม 2006. สืบค้นเมื่อ 8 มกราคม 2007.
- ↑ "News Summary: China; Latvia". 22 กันยายน 2003. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 พฤษภาคม 2007. สืบค้นเมื่อ 1 มิถุนายน 2007.
- ↑ Daftary, Farhad (1998). A Short History of the Ismailis. Edinburgh: Edinburgh University Press. pp. 1–4. ISBN 978-0-7486-0687-0.
สารานุกรม
[แก้]- Cornell, Vincent J. (2007). Voices of Islam. Westport, Conn.: Praeger Publishers. ISBN 978-0-275-98732-9.
- Encyclopædia Iranica Online. Columbia University Center for Iranian Studies. สืบค้นเมื่อ 2019-09-11.
- Martin, Richard C. (2004). Encyclopaedia of Islam and the Muslim World. Vol. 1: Encyclopedia of Islam and the Muslim World: A–L. MacMillan. ISBN 978-0-02-865604-5.
- Corbin, Henry (1993) [1964]. History of Islamic Philosophy. แปลโดย Liadain Sherrard and Philip Sherrard. London; Kegan Paul International in association with Islamic Publications for The Institute of Ismaili Studies. ISBN 978-0-7103-0416-2.
- Dakake, Maria Massi (2008). The Charismatic Community: Shiʻite Identity in Early Islam. Suny Press. ISBN 978-0-7914-7033-6.
- Holt, P. M.; Lewis, Bernard (1977a). Cambridge History of Islam, Vol. 1. Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-29136-1.
- Lapidus, Ira (2002). A History of Islamic Societies (2nd ed.). Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-77933-3.
- Sachedina, Abdulaziz Abdulhussein (1988). The Just Ruler (al-sultān Al-ʻādil) in Shīʻite Islam: The Comprehensive Authority of the Jurist in Imamite Jurisprudence. Oxford University Press US. ISBN 978-0-19-511915-2.
- Sobhani, Ja'afar; Shah-Kazemi, Reza (2001). Doctrines of Shiʻi Islam: A Compendium of Imami Beliefs and Practices ([Online-Ausg.] ed.). London: I. B. Tauris [u.a.] ISBN 978-1-86064-780-2.
- Tabatabaei, Sayyid Mohammad Hosayn (1979). Shiʻite Islam. แปลโดย Seyyed Hossein Nasr. State University of New York Press. ISBN 978-0-87395-272-9.
- Ṭabataba'i, Allamah Sayyid Muḥammad Husayn (1977). Shiʻite Islam. Albany: State University of New York Press. ISBN 978-0-87395-390-0.
- Vaezi, Ahmad (2004). Shia political thought. London: Islamic Centre of England. ISBN 978-1-904934-01-1. OCLC 59136662.
อ่านเพิ่ม
[แก้]- Chelkowski, Peter J. (2010). Eternal Performance: Taziyah and Other Shiite Rituals. University of Chicago Press. ISBN 978-1-906497-51-4.
- Corbin, Henry (1993). History of Islamic Philosophy, translated by Liadain Sherrard and Philip Sherrard. Kegan Paul International in association with Islamic Publications for The Institute of Ismaili Studies. ISBN 978-0-7103-0416-2.
- Dabashi, Hamid (2011). Shiʻism: A Religion of Protest. Harvard University Press. ISBN 978-0-674-06428-7.
- Halm, Heinz (2004). Shiʻism. Edinburgh University Press. ISBN 978-0-7486-1888-0.
- Halm, Heinz (2007). The Shiʻites: A Short History. Markus Wiener Pub. ISBN 978-1-55876-437-8.
- Lalani, Arzina R. (2000). Early Shiʻi Thought: The Teachings of Imam Muhammad Al-Baqir. I.B.Tauris. ISBN 978-1-86064-434-4.
- Marcinkowski, Christoph (2010). Shiʻite Identities: Community and Culture in Changing Social Contexts. Lit Verlag. ISBN 978-3-643-80049-7.
- Momen, Moojan (1985). An Introduction to Shiʻi Islam: The History and Doctrines of Twelver Shiʻism. Yale University Press. ISBN 978-0-300-03499-8.
- Shirazi, Sultanu'l-Wa'izin (2013). Peshawar Nights, A Transcript of a Dialogue between Shia and Sunni scholars. Ansariyan Publications. ISBN 978-964-438-320-5.
- Nasr, Seyyed Hossein; Hamid Dabashi (1989). Expectation of the Millennium: Shiʻism in History. SUNY Press. ISBN 978-0-88706-843-0.
- Rogerson, Barnaby (2007). The Heirs of Muhammad: Islam's First Century and the Origins of the Sunni Shia split. Overlook Press. ISBN 978-1-58567-896-9.
- Wollaston, Arthur N. (2005). The Sunnis and Shias. Kessinger Publishing. ISBN 978-1-4254-7916-9.
- Moosa, Matti (1988). Extremist Shiites: The Ghulat Sects. Syracuse University Press. ISBN 978-0-8156-2411-0.
- Shi'a Minorities in the Contemporary World: Migration, Transnationalism and Multilocality. United Kingdom, Edinburgh University Press, 2020.
- Khalaji, Mehdi (November 27, 2009). "The Dilemmas of Pan-Islamic Unity". Current Trends in Islamist Ideology. 9: 64–79.
- Bohdan, Siarhei (Summer 2020). ""They Were Going Together with the Ikhwan": The Influence of Muslim Brotherhood Thinkers on Shi'i Islamists during the Cold War". The Middle East Journal. 74 (2): 243–262. doi:10.3751/74.2.14. ISSN 1940-3461. S2CID 225510058.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- "Shi'a History and Identity". shiism.wcfia.harvard.edu. Cambridge, Massachusetts: Project on Shi'ism and Global Affairs at the Weatherhead Center for International Affairs (Harvard University). 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-04. สืบค้นเมื่อ 4 March 2022.
- Daftary, Farhad; Nanji, Azim (2018) [2006]. "What is Shi'a Islam?". www.iis.ac.uk. London: Institute of Ismaili Studies at the Aga Khan Centre. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-03-31. สืบค้นเมื่อ 4 March 2022.
- Muharrami, Ghulam-Husayn (2003). "History of Shi'ism: From the Advent of Islam up to the End of Minor Occultation". Al-Islam.org. แปลโดย Limba, Mansoor L. Ahlul Bayt Digital Islamic Library Project. สืบค้นเมื่อ 4 March 2022.