ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรแมน เรนส์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรียกดูประวัติแบบโต้ตอบ
← การแก้ไขก่อนหน้าการแก้ไขถัดไป →
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เห็นภาพข้อความวิกิ
Kendothailand01 (คุย | ส่วนร่วม)
การแก้ไข 8 ครั้ง
ลไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 154: บรรทัด 154:
{{Royal Rumble Winners}}
{{Royal Rumble Winners}}
{{The Authority}}
{{The Authority}}
{{FCW Florida Tag Team Championship}}
}}
}}


รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:23, 13 มิถุนายน 2559

โรแมน เรนส์
เกิด (1985-05-25) 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1985 (38 ปี)[1]
เพนซาโคลา, รัฐฟลอริดา, อเมริกา[2]
ที่พักแทมปา, รัฐฟลอริดา
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ
ชื่อบนสังเวียนโจ อานัวอี[2]
โรแมน ลีกี[2]
โรแมน เรนส์[2]
ส่วนสูง6 ft 3 in (1.91 m)[3]
น้ำหนัก265 lb (120 kg)[3]
มาจากเพนซาโคลา, รัฐฟลอริดา, อเมริกา[3]
ฝึกหัดโดยอฟา อานัวอี[4]
ไซกา อานัวอี[4]
ฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง[2]
เปิดตัว2010[2]

ลีติ โจเซฟ "โจ" อานัวอี (อังกฤษ: Leati Joseph "Joe" Anoa'i) เกิดวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1985 เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกัน, อดีตนักเอมริกันฟุตบอล เป็นสมาชิกของครอบครัวอานัวอี ตระกูลนักมวยปล้ำชื่อดังชาวอเมริกัน-ซามัว และเป็นญาติห่างๆกับเดอะร็อก ปัจจุบันเซ็นสัญญาสังกัดสมาคม ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (WWE) ภายใต้ชื่อในวงการมวยปล้ำที่รู้จักกันดีว่า โรแมน เรนส์ (อังกฤษ: Roman Reigns)[5] เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE 3สมัย คนปัจจุบัน เปิดตัวในปี 2012 พร้อมกับ ดีน แอมโบรส และเซท โรลลินส์ ในนามสมาชิกกลุ่มเดอะชีลด์ เรนส์เป็นนักมวยปล้ำที่ใช้ท่าสเปียร์ได้บ่อย และรุนแรงที่สุดในวงการ ลักษณะการใช้ท่าสเปียร์ของเขาแรงและเร็วมาก

ประวัติในวงการมวยปล้ำ

เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์/ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (2010–ปัจจุบัน)

ฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง (2010–2012)

ในเดือนกรกฎาคมปี 2010 เขาเซ็นสัญญากับสมาคม WWE และได้รับมอบหมายในภายหลังเพื่อเข้าสู่ค่ายพัฒนาทักษะของพวกเขาใน ฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง (FCW)[2] เขาเปิดตัวเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2010 โดยใช้ชื่อว่า โรแมน ลีกี โดยแพ้ให้กับริกชี สตีมโบต[6] ในปี 2012 เขาได้แชมป์แทกทีม FCW คู่กับไมค์ ดอลตัน[7][8] ต่อมา WWE ได้เปลี่ยน FCW ให้กลายเป็น เอ็นเอ็กซ์ที เรสต์ลิง[9] เขาก็ได้ใช้ชื่อใหม่ว่า โรแมน เรนส์[10]

เดอะชีลด์ (2012–2014)

เดอะชีลด์: เรนส์, แอมโบรส และโรลลินส์

เรนส์เปิดตัวเป็นสตาร์หลักครั้งแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2012 ในนามกลุ่มเดอะชีลด์ โดยมี เรนส์, ดีน แอมโบรส และเซท โรลลินส์ ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) ในแมตช์การปล้ำคู่เอกระหว่าง จอห์น ซีนา, ซีเอ็ม พังก์ และไรแบ็ค ในการชิงแชมป์ WWE พวกเขาได้ใส่ท่า Triple Powerbomb กับไรแบ็คบนโต๊ะผู้บรรยาย ทำให้พังก์จับกดซีนาจนชนะและป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้[11] ในทีแอลซี (2012) เดอะชีลด์ได้เจอกับไรแบ็ค และทีมเฮลโน (เคน และแดเนียล ไบรอัน) เป็นแมตช์แรก ในแมตช์แทกทีมโดยใช้ โต๊ะ บันได และเก้าอี้ เอาชนะด้วยการจับกดหรือทำให้ยอมแพ้ และเดอะชีลด์ก็เป็นฝ่ายชนะไปได้[12][13][14][15][16] ในรอว์ตอนแรกของปี (7 มกราคม 2013) เดอะชีลด์ได้ออกมารุมทำร้ายไรแบ็ค ในระหว่างการปล้ำโต๊ะ บันได และเก้าอี้ ชิงแชมป์ WWE กับพังก์ จนพังก์สามารถป้องกันแชมป์ไปได้[17] ในรอยัลรัมเบิล (2013) เดอะชีลด์ได้มารุมทำร้ายเดอะร็อก ระหว่างแมตช์ชิงแชมป์ WWE ซึ่งในตอนแรกพังก์กดนับ3ชนะ แต่วินซ์ แม็กแมนออกมาบอกให้เริ่มใหม่เลยทำให้เดอะร็อกคว้าแชมป์ WWE ไปได้[18] ในรอว์คืนต่อมา (28 มกราคม 2013) หลังจากจอห์น ซีนาเอาชนะโคดี โรดส์ไปได้ และประกาศเลือกท้าชิงแชมป์ WWE ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 เดอะชีลด์ก็มารุมลอบทำร้ายซีนา แม้ว่าเชมัสกับไรแบ็คจะออกมาช่วยแต่ก็โดนรุมทำร้าย สุดท้ายเดอะชีลด์เล่นงานซีนา ด้วยท่า Triple Powerbomb[19] ในรอว์ (4 กุมภาพันธ์ 2013) เดอะชีลด์โดนซีนา, ไรแบ็ค และเชมัส ล้อมเอาไว้ ทำให้เดอะชีลด์วิ่งหนีไปทางหลังเวทีแต่แรนดี ออร์ตันนำทัพนักมวยปล้ำออกมาขวางเอาไว้ เดอะชีลด์เลยโดนซีนา, ไรแบ็ค และเชมัสอัดจนน่วม ก่อนที่จะหนีไปทางอัฒจรรย์[20] ในรอว์ (11 กุมภาพันธ์ 2013) เดอะชีลด์ออกมาท้าทายกลุ่มของซีนา ว่าถ้าอยากมีเรื่องก็ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้ได้เลย ปรากฏว่าไฟในสนามดับ แล้วกลุ่มของซีนาก็ออกมาไล่อัดเดอะชีลด์จนหนีกระเจิง[21] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013) เดอะชีลด์เอาชนะซีนา, เชมัส และไรแบ็คไปได้[22] ในเรสเซิลเมเนีย 29 เดอะชีลด์เอาชนะ เชมัส, แรนดี ออร์ตัน และบิ๊กโชว์ไปได้[23]

ในรอว์ (8 เมษายน 2013) ดิอันเดอร์เทเกอร์ออกมาขออุทิศชัยชนะให้กับพอล แบเรอร์ หลังจากที่ชนะซีเอ็ม พังก์ ในเรสเซิลเมเนีย 29 เดอะชีลด์ออกมารุมล้อมอันเดอร์เทเกอร์ แต่เคนกับแดเนียล ไบรอันออกมาช่วยอันเดอร์เทเกอร์ ทำให้เดอะชีลด์หนีไป[24] ในรอว์ (22 เมษายน 2013) เดอะชีลด์ได้เอาชนะอันเดอร์เทเกอร์, เคน และไบรอันไปได้[25] ในสแมคดาวน์ (26 เมษายน 2013) แอมโบรสได้เจอกับอันเดอร์เทเกอร์ แต่แอมโบรสก็แพ้ไป หลังแมตช์เดอะชีลด์ได้ลอบทำร้ายอันเดอร์เทเกอร์จนต้องพักการปล้ำ[26][27] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) แอมโบรสได้เอาชนะโคฟี คิงส์ตัน และคว้าแชมป์ยูเอสมาได้ คืนเดียวกัน เรนส์กับโรลลินส์ได้เอาชนะทีมเฮลโน และคว้าแชมป์แทคทีม WWEมาได้ ทำให้เดอะชีลด์มีแชมป์ครบทั้งทีม[28] ในเดือนสิงหาคม 2013 เดอะชีลด์ได้เข้าร่วมกลุ่ม ดิออธอริตี ของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ทริปเปิลเอช[29][30] ในแบทเทิลกราวด์ เรนส์กับโรลลินส์ได้เจอกับโคดี โรดส์ และโกลดัสต์ ถ้าหากโคดี และโกลดัสต์ชนะ พวกเขาจะได้กลับมาใน WWE แต่ถ้าเดอะชีลด์ชนะ ดัสตี้จะไม่ได้เป็นครูฝึกในสมาคม NXT อีกต่อไป และครอบครัวโรดส์จะถูกแบนด์โดย WWE สุดท้ายเรนส์กับโรลลินส์ก็แพ้ ในรอว์ (14 ตุลาคม 2013) เรนส์กับโรลลินส์ได้เสียแชมป์แทคทีม WWE ให้กับโคดี และโกลดัสต์ จากการช่วยเหลือของบิ๊กโชว์[31] และในอนาคตอันใกล้นี้เอง ทาง WWE มีแผนจะให้เรนส์ได้ก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ ในรอยัลรัมเบิล (2014) เรนส์ได้ออกมาเป็นคนที่15 และทำสถิติใหม่ โดยเหวี่ยงนักมวยปล้ำออกไปมากที่สุด 12 คน แต่เขาก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะ โดยถูกบาทิสตาเหวี่ยงออกไปเป็นคนสุดท้าย[32] ในรอว์คืนต่อมา (27 มกราคม 2014) เดอะชีลด์ได้ปล้ำแทคทีม 6 คนกับ แดเนียล ไบรอัน, เชมัส และ จอห์น ซีนา เพื่อที่จะเข้าไปปล้ำในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE แต่ก็ไม่ชนะ เพราะเดอะไวแอ็ตต์แฟมิลีได้เข้ามาก่อกวน ทำให้เดอะชีลด์แพ้ฟาวล์ จึงท้าเจอกับไวแอ็ตต์แฟมิลี ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แต่สุดท้ายเดอะชีลด์ก็แพ้[33]

ในปลายเดือนมีนาคม 2014 เดอะชีลด์ได้เป็นฝ่ายธรรมะ[34] และได้มีแมตช์กับเคน และเดอะนิวเอจเอาต์ลอวส์ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30 โดยเดอะชีลด์เอาชนะไปได้[35] 1 วันหลังจากจบรายการ เรสเซิลเมเนีย ในรอว์ (7 เมษายน 2014) แชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE แดเนียล ไบรอัน ได้มาฉลองกับผู้ชม ก่อนจะถูกขัดจังหวะโดยทริปเปิลเอช และเขาได้ขอชิงแชมป์ในคืนนั้น โดยก่อนเริ่มแมตช์นั้น สเตฟานี แม็กแมน ได้สั่งให้ เคน, บาทิสตา และออร์ตัน ทำร้ายไบรอันเป็นการสร้างจุดอ่อน และทำให้ทริปเปิลเอชมีโอกาสในการชนะมากขึ้น จนเดอะชีลด์ได้ออกมาบนเวที และจัดการกับพวกกลุ่มของทริปเปิลเอช และได้ช่วยไบรอันจากการกลั่นแกล้งจากกลุ่มทริปเปิลเอช ในรอว์ (14 เมษายน 2014) เดอะชีลด์ต้องปล้ำในแฮนดิแคป 11 รุม 3 แต่กรรมการต้องยุติแมตช์ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายอัดกันไม่หยุด ก่อนที่ทริปเปิลเอช, ออร์ตัน และบาทิสตา จะออกมาในนามของกลุ่มเอฟโวลูชั่น เพื่อจัดการกลุ่มเดอะชีลด์โดยเฉพาะ ก่อนที่จะประกาศแมตช์แทกทีมอย่างเป็นทางการ ในสแมคดาวน์ (18 เมษายน 2014) ระหว่าง เดอะชีลด์ เจอกับ เอฟโวลูชั่น ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2014) สุดท้ายเดอะชีลด์เป็นฝ่ายชนะ[36] ในเพย์แบ็ค (2014) เดอะชีลด์ได้เจอกับเอฟโวลูชั่นอีกครั้ง ในแมตช์อิลิมิเนชั่นแทกทีม 6 คน ไม่มีกฎกติกา สุดท้ายเดอะชีลด์เป็นฝ่ายชนะรวด 3-0[37]

การไล่ล่าตำแหน่งแชมป์โลก (2014–ปัจจุบัน)

ในรอว์ (2 มิถุนายน 2014) บาทิสตาได้ออกจากเอฟโวลูชั่น คืนเดียวกันเรนส์มีคิวเจอกับแรนดี ออร์ตัน โดยออร์ตันออกมากับทริปเปิลเอช โดยทริปเปิลเอชถือค้อนมาด้วย ทำให้เดอะชีลด์พากันไปหยิบเก้าอี้มาเตรียมไว้ ทริปเปิลเอช บอกว่าบาทิสตามันหนีไปแล้ว แต่เราก็มีแผน 2 เสมอ... ว่าแล้วโรลลินส์ก็เอาเก้าอี้ฟาดใส่เรนส์จากด้านหลัง จากนั้นก็ฟาดแอมโบรสอีกคน โรลลินส์เอาเก้าอี้ไปยื่นให้ออร์ตัน เพื่อเอาไปฟาดเรนส์กับแอมโบรสต่ออีก จากนั้นก็ RKO เรนส์ลงบนเก้าอี้ ปิดท้ายรายการโดยมีโรลลินส์ยืนอยู่กับออร์ตัน และทริปเปิลเอช เป็นการแตกทีมของเดอะชีลด์[38] ในรอว์ (16 มิถุนายน 2014) เรนส์ ได้เป็นผู้ชนะในแมตช์แบทเทิลรอยัล และได้เข้าร่วมมันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE ในมันนีย์อินเดอะแบงก์ (2014)[39][40] แต่เรนส์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[41] ในแบทเทิลกราวด์ (2014) เรนส์ได้ปล้ำ 4 เส้า ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับ จอห์น ซีนา, แรนดี ออร์ตัน และเคน แต่ก็ไม่สำเร็จ ในซัมเมอร์สแลม (2014) เรนส์ได้มีแมตช์เอาชนะแรนดี ออร์ตันไปได้[42] วันที่ 20 กันยายน 2014 เรนส์ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใน แนชวิลล์, เทนเนสซี เพื่อเตรียมเข้ารับการผ่าตัดไส้เลื่อนที่ขาหนีบติดค้าง(incarcerated hernia)กระทันหัน ทำให้ไม่สามารถร่วมปล้ำไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2014) ได้[43][44][45] ในรอว์ (8 ธันวาคม 2014) เรนส์ได้รับรางวัล สแลมมีอะวอร์ด ซูเปอร์สตาร์แห่งปี 2014[46]

ในทีแอลซี (2014) เรนส์ได้รีเทิร์นกลับมาปล้ำอีกครั้ง โดยเรนส์เดินฝ่าฝูงคนดูออกมาในช่วงท้ายแมตช์ของจอห์น ซีนา และเซท โรลลินส์ เพื่อจัดการกับบิ๊กโชว์ ที่ออกมาอัดซีนา ก่อนใส่ superman punch กับโรลลินส์ จนเป็นโอกาสให้ซีนาจับโรลลินส์ใส่ Attitude Adjustment กับโต๊ะจนพังชนะไป[47] นอกจากนี้เรนส์ยังออกตัวประกาศเป็นคนแรกด้วยว่า เขาจะร่วมปล้ำแมตช์รอยัลรัมเบิลด้วย[48][49][50] ในรอยัลรัมเบิล (2015) เรนส์ได้เข้าร่วมแมตช์เป็นคนที่19 และเป็นฝ่ายชนะ ทำให้ได้สิทธิ์เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับเจ้าของแชมป์ บร็อก เลสเนอร์ ในเรสเซิลเมเนีย[51][52][53] ในฟาสต์เลน (2015) เรนส์จะต้องป้องกันสิทธิ์ผู้ท้าชิงอันดับ1 กับแดเนียล ไบรอัน[54] สุดท้ายเรนส์ก็สามารถรักษาสิทธิ์ผู้ท้าชิงเอาไว้ได้ และได้ไปชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับเลสเนอร์ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31[55][56][57] แต่เรนส์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์โลกมาได้ โดยเซท โรลลินส์ ได้ใช้สิทธิ์มันนีย์อินเดอะแบงก์คว้าแชมป์ไปได้[58] ต่อมาเรนส์ได้เปิดศึกกับบิ๊กโชว์ และเอาชนะไปได้ในแมตช์ลาสแมนสแตนดิ้ง ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2015)[59] ในเพย์แบ็ก (2015) เรนส์ได้พ่ายแพ้ในแมตช์ 4 เส้า ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE โดยมี โรลลินส์, แอมโบรส และออร์ตัน[60]

ในมันนีย์อินเดอะแบงก์ (2015) เรนส์ได้เข้าร่วมแมตช์ชิงกระเป๋ามันนีย์อินเดอะแบงก์ เพื่อสัญญาในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE ผลปรากฏว่า เบรย์ ไวแอ็ตต์ ได้มาลอบทำร้ายเรนส์ ทำให้พลาดโอกาสคว้ากระเป๋าสิทธิ์[61] จากนั้นได้มีการประกาศว่าเรนส์ จะต้องเจอกับไวแอ็ตต์ในแบทเทิลกราวด์ (2015) สุดท้ายเรนส์เป็นฝ่ายแพ้ จากการก่อกวนของลุก ฮาร์เปอร์[62][63] ในซัมเมอร์สแลม (2015) เรนส์ได้จับคู่กับดีน แอมโบรส เจอกับไวแอ็ตต์กับฮาร์เปอร์ และทีมของเรนส์เป็นฝ่ายชนะไปได้[64][65] ในรอว์คืนต่อมา (24 สิงหาคม 2015) ไวแอ็ตต์แฟมิลีได้เปิดตัวสมาชิกใหม่อย่าง บราวน์ สโตรว์แมน โดยมาเล่นงานเรนส์กับแอมโบรส[66] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2015) เรนส์กับแอมโบรส ต้องปล้ำแทกทีม 6 คน กับไวแอ็ตต์แฟมิลี โดยทั้งคู่ต้องหาสมาชิกคนที่สามมาร่วมทีม และเป็นคริส เจอริโคที่มาร่วมทีม แต่ก็แพ้ ในเฮลอินเอเซล (2015) เรนส์ได้เจอกับเบรย์ ไวแอ็ตต์ ในเฮลล์อินเอเซลล์ แมทช์ครั้งแรกของพวกเขา โดยเรนส์เอาชนะไปได้ และเป็นการจบเรื่องราวของทั้งคู่

ในรอว์ (26 ตุลาคม 2015) เรนส์ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้งโดยชนะแมตช์สี่เส้ากับ เควิน โอเวนส์, อัลเบร์โต เดล รีโอ และดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ได้สิทธิ์เป็นผู้ท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับเจ้าของแชมป์ เซท โรลลินส์ ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2015) แต่ว่าหลังจากนั้นโรลลินส์ได้รับบาดเจ็บที่เข่าจากการปล้ำเฮาส์โชว์ ทำให้แมตช์ทั้งคู่ต้องยกเลิก โดยมีการจัดทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ที่ว่างอยู่แทน ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ เรนส์ได้เอาชนะเดล รีโอ ทัวร์นาเมนต์รอบรองชนะเลิศ และเอาชนะดีน แอมโบรสไปได้ในรอบสุดท้าย ทำให้เขาได้เป็นแชมป์โลกสมัยแรกสำเร็จ ขณะที่เขากำลังฉลองชัยชนะอยู่ ทริปเปิลเอชก็ออกมาแสดงความยินด้วยและขอจับมือแต่เรนส์ก็ได้สเปียร์ใส่ทริปเปิลเอช และเชมัสก็มาใส่โบรกคิกแล้วใช้สิทธิ์มันนีย์อินเดอะแบงก์แต่ก็ยังกดได้แค่สอง แล้วเรนส์ก็ฮึดสวนกลับแต่โดนโบรกคิกครั้งที่สองแล้วถูกกดนับสามไปทำให้เป็นแชมป์เพียง 5 นาที 15 วินาทีเท่านั้น[67] ในรอว์คืนต่อมา ทริปเปิลเอชได้ประกาศรีแมตช์ระหว่างเรนส์กับเชมัส ในการต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้ ในทีแอลซี (2015) สุดท้ายเรนส์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ จากการก่อกวนของกลุ่มเดอะลีกออฟเนชันส์ (เดล รีโอ และรูเซฟ) หลังแมตช์พวกลีกออฟเนชันส์ฉลองกันอย่างภาคภูมิใจ แต่เรนส์จัดการ Spear ทั้งสามคน จากนั้นก็เอาเก้าอี้ฟาดเชมัสรัวๆ จนทริปเปิลเอชพร้อมทั้งสเตฟานีและกรรมการนับสิบคนต้องออกมาห้าม เรนส์กระโดด Superman Punch ใส่ทริปเปิลเอช ก่อนจะใช้เก้าอี้ฟาดทริปเปิลเอชจนน่วม และไปทุ่มใส่โต๊ะผู้บรรยาย จากนั้นก็กระโดดทิ้งศอกใส่จนโต๊ะพัง เรนส์เดินกลับไปโดยสเตฟานีจ้องมองอย่างเคียดแค้น เรนส์จะกลับแล้วแต่วิ่งกลับมาใส่ Spear ใส่ทริปเปิลเอชจนถูกหามส่งโรงพยาบาล[68] ในรอว์คืนต่อมา (14 ธันวาคม 2015) วินซ์ แม็กแมนสั่งให้เรนส์คุกเข่าขอโทษแต่เรนส์ไม่ยอมขอโทษ เชมัสตามออกมาและก็บอกว่า เรนส์มันไม่มีปัญญาชนะเขาได้หรอก จะให้เจอกันอีกครั้งคืนนี้เลยก็ได้ วินซ์ยอมตกลงให้เรนส์ได้ชิงแชมป์อีกครั้ง แต่มีข้อแม้ว่าถ้าเรนส์ไม่ชนะคืนนี้เขาจะต้องถูกไล่ออก สุดท้ายเรนส์สามารถคว้าแชมป์โลกจากเชมัส เป็นสมัยที่สองได้อีกครั้ง[69]

ในรอว์ (4 มกราคม 2016) วินซ์ได้สั่งให้เรนส์ป้องกันแชมป์ในแมตช์รอยัลรัมเบิลกับนักมวยปล้ำ 29 คน โดยต้องขึ้นปล้ำเป็นลำดับแรก[70] ในรอยัลรัมเบิล (2016) เรนส์เสียแชมป์ให้กับทริปเปิลเอชที่ออกมาเป็นคนสุดท้ายคนที่30[71] ในรอว์คืนต่อมา (25 มกราคม 2016) สเตฟานีได้ประกาศว่าในฟาสต์เลน (2016) เรนส์, ดีน แอมโบรส และบร็อก เลสเนอร์ จะต้องปล้ำแบบสามเส้า (Triple Threat Match) เพื่อหาผู้ท้าชิงไปชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับทริปเปิลเอชในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32 ในฟาสต์เลน เรนส์สามารถเอาชนะแอมโบรส และเลสเนอร์ ทำให้ได้สิทธิ์เป็นผู้ท้าชิงอันดับ1 ชิงแชมป์กับทริปเปิลเอช ในเรสเซิลเมเนีย[72] และสามารถคว้าแชมป์โลกมาได้เป็นสมัยที่3[73] ในเพย์แบ็ก (2016) เรนส์สามารถป้องกันแชมป์โลกกับเอ.เจ. สไตลส์เอาไว้ได้[74] ต่อมาเรนส์ก็สามารถป้องกันแชมป์กับเอเจได้อีกครั้งในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2016) ก่อนจะถูกทำร้ายโดยเซท โรลลินส์ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา[75] ในมันนีย์อินเดอะแบงก์ (2016) ต้องป้องกันแชมป์กับอดีตเพื่อนโรลลินส์

ชีวิตส่วนตัว

อานัวอี เป็นครึ่งซามัวและครึ่งอิตาลี[76] ทั้งพ่อของเขาซิกา และพี่ชายของเขา โรซี่(แมตต์ อานัวอี)เป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพ ในฐานะที่เป็นสมาชิกของครอบครัว อานัวอี เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนักมวยปล้ำมืออาชีพ ดเวย์น "เดอะ ร็อก" จอห์นสัน, โยโกะซูน่า, ริกิชิ ฟาตู, อูมาก้า และ ดิ อูโซส์[77][78][79]

อานัวอี ได้ศึกษาการจัดการ ที่สถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย

อานัวอี แต่งงานกับ กาลินา เบกเกอร์ ในช่วงต้นเดือนธันวาคมปี 2014[80] และมีลูกสาวหนึ่งคน[81][82]

เกี่ยวกับมวยปล้ำ

เรนส์ใช้ท่า Superman Punch เล่นงาน บร็อก เลสเนอร์
เดอะชีลด์ เล่นงาน เคน ด้วยท่า Triple Powerbomb
  • ท่าไม้ตาย
    • ในนาม โรแมน เรนส์
    • ในนาม โรแมน ลีกี
  • เพลงเปิดตัว
    • "Special Op" โดย Jim Johnston[116] (16 ธันวาคม 2012–9 มิถุนายน 2014; ใช้ร่วมกับ เดอะชีลด์)
    • "The Truth Reigns" โดย Jim Johnston[117] (16 มิถุนายน 2014–ปัจจุบัน)

ผลงานแชมป์และความสำเร็จ

เรนส์กับแชมป์แทคทีม WWE

ฟุตบอลวิทยาลัย

  • National Collegiate Athletic Association
    • First-team All-ACC (2006)

มวยปล้ำอาชีพ

  • Pro Wrestling Illustrated
    • นักมวยปล้ำที่พัฒนามากที่สุดแห่งปี (2015)
    • แทกทีมแห่งปี (2013)[118] – กับ เซท โรลลินส์
    • จัดให้อยู่ในอันดับที่ 4 ของท็อป 500 อันดับ นักมวยปล้ำเดี่ยวแห่งปีใน PWI 500 ปี 2015[119]
  • Wrestling Observer Newsletter
    • พัฒนาการมากที่สุด (2013)[120]
    • แทกทีมแห่งปี (2013) – กับ เซท โรลลินส์[120]

แมตช์ที่มีการเดิมพัน

ผู้ชนะ (เดิมพัน) ผู้แพ้ (เดิมพัน) เมือง ศึก วันที่ หมายเหตุ
โรแมน เรนส์ (อาชีพใน WWE) เชมัส (ตำแหน่งแชมป์) ฟิลาเดลเฟีย, รัฐเพนซิลเวเนีย รอว์ 14 ธันวาคม 2015 [69]

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. ↑ "Joe Anoai". Georgia Institute of Technology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 9, 2014. สืบค้นเมื่อ April 28, 2014.
  2. ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 "Roman Reigns". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ January 18, 2013.
  3. ↑ 3.0 3.1 3.2 "Roman Reigns". WWE. สืบค้นเมื่อ April 1, 2013.
  4. ↑ 4.0 4.1 Van Der Griend, Blaine (December 28, 2011). "Islanders put family first in wrestling business". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ January 5, 2012.
  5. ↑ "Roman Leakee". Florida Championship Wrestling. สืบค้นเมื่อ January 1, 2011.
  6. ↑ "Florida Championship Wrestling (2010)". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ January 5, 2012.
  7. ↑ Namako, Jason (February 6, 2012). "FCW Results – 2/6/12". WrestleView. สืบค้นเมื่อ April 1, 2012.
  8. ↑ Namako, Jason (February 13, 2012). "FCW Results – 2/13/12". WrestleView. สืบค้นเมื่อ April 1, 2012.
  9. ↑ "WWE News: FCW name being phased out". Wrestling Observer. สืบค้นเมื่อ August 14, 2012.
  10. ↑ Trionfo, Richard. "WWE NXT Report: Cesaro/Kidd for the US title; fatal four way next week to determine #1 contender; Big E talks; Roman Reigns debuts on NXT". PWInsider. สืบค้นเมื่อ November 4, 2012.
  11. ↑ Caldwell, James. "SURVIVOR SERIES NEWS: NXT stars debut in PPV main event angle, plus other news from annual PPV". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 19 November 2012.
  12. ↑ Caldwell, James. "Caldwell's WWE Raw results 11/19: Complete "virtual-time" coverage of live Raw – Survivor Series fall-out". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 5, 2012.
  13. ↑ Caldwell, James. "Caldwell's WWE Raw results 11/26: Complete "virtual-time" coverage of live Raw – The Shield speaks, Cena-Ziggler". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 5, 2012.
  14. ↑ Caldwell, James. "Caldwell's WWE Raw results 12/3: Complete "virtual-time" coverage of live Raw – McMahon returns, Punk takes a Test". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 5, 2012.
  15. ↑ "WWE News: WWE officially announces TLC main event change; will Ryback still get a WWE Title shot?". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 5, 2012.
  16. ↑ Caldwell, James. "Caldwell's WWE TLC PPV Results 12/16: Complete "virtual-time" coverage of final 2012 PPV – Cena vs. Ziggler main event, Shield makes a statement". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 17, 2012.
  17. ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 1/7: Complete "virtual-time" coverage of live Raw – WWE Title match, The Rock returns, Cena vs. Ziggler (updated w/Box Score)". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ January 12, 2013.
  18. ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE ROYAL RUMBLE PPV RESULTS 1/27: Complete "virtual-time" coverage of Punk vs. Rock, 30-man Rumble". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ January 29, 2013.
  19. ↑ Caldwell, James. "Caldwell's WWE Raw results 1/28: Complete "virtual-time" coverage of live Raw – Huge Return ends Raw, Rock's first night as WWE champ, Raw Roulette, Heyman-McMahon". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ January 29, 2013.
  20. ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 2/4: Complete "virtual-time" coverage of live Raw - WWE explains many things, Punk-Jericho main event, Bruno HOF Video". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ February 6, 2013.
  21. ↑ Caldwell, James. "WWE NEWS: Team Cena vs. The Shield official for Elimination Chamber; updated PPV line-". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 6 February 2013.
  22. ↑ Caldwell, James. "WWE NEWS: Chamber PPV results & notes - WM29 main event set, World Title match set, Shield big win, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ February 18, 2013.
  23. ↑ "CALDWELL'S WWE WRESTLEMANIA 29 PPV RESULTS: Complete "virtual-time" coverage of live PPV from MetLife Stadium - Rock-Cena II, Taker-Punk, Lesnar-Hunter, more".
  24. ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 4/8: Complete "virtual-time" coverage of live Raw – WM29 fall-out, new World Champ, no Rock, Taker live, crowd takes over".
  25. ↑ "CALDWELL'S WWE RAW RESULTS 4/22 (Second Hour): Shield vs. The Undertaker six-man tag match, Ryder squashed".
  26. ↑ "Smackdown!:The Undertaker returns to Friday night action". SLAM! Wrestling. สืบค้นเมื่อ 27 May 2013.
  27. ↑ Benigno, Anthony. "Why hasn't The Shield been beaten yet? They work cohesively". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 24, 2013. สืบค้นเมื่อ 24 May 2013.
  28. ↑ Bishop, Matt. "Lesnar finishes off Triple H at Extreme Rules". SLAM! Wrestling. สืบค้นเมื่อ 26 May 2013.
  29. ↑ Tylwalk, Nick (August 20, 2013). "Raw: Daniel Bryan faces an even bigger uphill climb". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ June 30, 2014.
  30. ↑ Asher, Matthew (August 26, 2013). "Raw: Bryan's road through Hell continues". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ June 30, 2014.
  31. ↑ Benigno, Anthony. 14, 2013/wwe-raw-results-26155960/page-9 "Raw results: The Rhodes get golden, Orton traps Bryan and Heyman goes to 'Hell'". WWE. สืบค้นเมื่อ October 15, 2013. {{cite web}}: ตรวจสอบค่า |url= (help)
  32. ↑ "The 30-Superstar Royal Rumble Match". wwe.com. WWE. สืบค้นเมื่อ 18 December 2013.
  33. ↑ Caldwell, James. "WWE E. Chamber PPV results 2/23 (Hour 2): Shield vs. Wyatts big six-man tag, Batista vs. Del Rio, Divas Title". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 25 February 2014.
  34. ↑ Keller, Wade. "Keller's Six Pack: Raw thoughts including Hunter-Bryan beat down, Batista, Shield's turn, Bray's gimmick shift, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ March 26, 2014.
  35. ↑ Howell, Nolan (April 6, 2014). "WrestleMania XXX brings the beginning and end of eras". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ June 8, 2014.
  36. ↑ Asher, Matthew (May 5, 2014). "Daniel defends, Wyatt gets weirder and the Shield survives at Extreme Rules". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ June 8, 2014.
  37. ↑ Asher, Matthew (June 1, 2014). "WWE Payback: The Shield Evolved, Cena stood tall and Brie dropped a bombshell". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ June 8, 2014.
  38. ↑ Waldman, Jon (June 3, 2014). "Raw: Changing of the Shield". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ June 8, 2014.
  39. ↑ Tylwalk, Nick (June 17, 2014). "Raw: Money in the Bank title match gets its last two participants". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ June 18, 2014.
  40. ↑ http://bleacherreport.com/articles/2107287-wwe-raw-results-winners-grades-reaction-and-highlights-from-june-23
  41. ↑ Clapp, John. "John Cena def. Randy Orton, Bray Wyatt, Roman Reigns, Cesaro, U.S. Champion Sheamus, Kane and Alberto Del Rio to become the new WWE World Heavyweight Champion". สืบค้นเมื่อ June 29, 2014.
  42. ↑ "Caldwell's WWE SummerSlam PPV Results 8/17: Complete "virtual-time" coverage of Cena vs. Lesnar". Pro Wrestling Torch. August 17, 2014. สืบค้นเมื่อ August 18, 2014.
  43. ↑ "WWE star Roman Reigns undergoes emergency surgery". Toronto Sun. September 20, 2014. สืบค้นเมื่อ September 20, 2014.
  44. ↑ Martin, Adam (September 21, 2014). "WWE updates recovery time for Roman Reigns after surgery". WrestleView. สืบค้นเมื่อ September 24, 2014.
  45. ↑ Caldwell, James (November 21, 2014). "WWE Interviews: What has upset Roman Reigns?, why was Kane recently "very worried about the future of WWE?," Sheamus points to original content lacking on WWE Network". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ November 22, 2014.
  46. ↑ 46.0 46.1 Tylwalk, Nick (December 9, 2014). "Raw: Newer stars take most of the 2014 Slammy Awards". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ December 9, 2014.
  47. ↑ Caldwell, James (December 14, 2014). "CALDWELL'S WWE TLC PPV REPORT 12/14: Ongoing "virtual-time" coverage of Cena vs. Rollins, Ambrose vs. Wyatt, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ December 14, 2014.
  48. ↑ Benigno, Anthony. "Big Show confronted Roman Reigns". WWE. สืบค้นเมื่อ December 15, 2014.
  49. ↑ Tedesco, Mike (December 22, 2014). "WWE RAW Results - 12/22/14 (Dean Ambrose vs. Bray Wyatt)". WrestleView. สืบค้นเมื่อ December 22, 2014.
  50. ↑ Tedesco, Mike (January 5, 2015). "WWE RAW Results - 1/5/15 (The Authority resumes power)". WrestleView. สืบค้นเมื่อ January 5, 2015.
  51. ↑ Caldwell, James. "Royal Rumble PPV Report 1/25: Complete "virtual-time" coverage of Lesnar vs. Cena vs. Rollins for WWE Title, Royal Rumble, post-PPV Network show". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ January 26, 2015.
  52. ↑ "WWE Royal Rumble 2015: Live coverage, results, photos, reaction & more". The Plain Dealer. สืบค้นเมื่อ January 26, 2015.
  53. ↑ Schwartz, Nick. "Daniel Bryan was eliminated early from the Royal Rumble and fans are furious". USA Today. สืบค้นเมื่อ January 26, 2015.
  54. ↑ "Roman Reigns Profile & Match Listing". The Internet Wrestling Database. สืบค้นเมื่อ 5 February 2015.
  55. ↑ Tedesco, Mike (February 16, 2015). "WWE RAW Results - 2/16/15 (Bryan and Reigns in action)". WrestleView. สืบค้นเมื่อ February 16, 2015.
  56. ↑ Asher, Matthew. "WWE Fastlane: Questionable match endings and fan reaction may hurt 'Mania". Canoe.ca. Slam Wrestling. สืบค้นเมื่อ 24 February 2015.
  57. ↑ Tucker, Benjamin. "Raw Before Mania: WWE tries to hide Roman Reigns amongst well-developed Mania Feuds". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.
  58. ↑ Powell, John. "WrestleMania 31 the best Mania ever". Canoe.ca. Slam Wrestling. สืบค้นเมื่อ 30 March 2015.
  59. ↑ Laboon, Jeff. "Roman Reigns def. Big Show (Last Men Standing Match)". WWE. สืบค้นเมื่อ April 26, 2015.
  60. ↑ Murphy, Ryan. "WWE World Heavyweight Champion Seth Rollins won a Fatal 4-Way Match". WWE. สืบค้นเมื่อ May 17, 2015.
  61. ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE MITB PPV RESULTS 6/14: Complete "virtual-time" coverage of Dusty Rhodes 10-bell salute, WWE Title match, MITB match, Cena vs. Owens II, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ June 14, 2015.
  62. ↑ Clapp, John. "Roman Reigns vs. Bray Wyatt". WWE. สืบค้นเมื่อ June 14, 2015.
  63. ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S WWE BATTLEGROUND PPV REPORT 7/19: Complete "virtual-time" coverage of live PPV - Rollins vs. Lesnar, Cena vs. Owens III, Orton returns home, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ July 19, 2015.
  64. ↑ Tedesco, Mike. "WWE Smackdown Results - 8/06/15 (Roman Reigns vs. Rusev)". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 6 August 2015.
  65. ↑ Caldwell, James. "CALDWELL'S SUMMERSLAM REPORT 8/23: Complete "virtual-time" coverage of Lesnar vs. Taker, Title vs. Title, more matches". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 23 August 2015.
  66. ↑ Namako, Jason. "WWE RAW Results - 8/24/15 (The Dudleys, Sting return)". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 25 August 2015.
  67. ↑ "WWE Survivor Series 2015: Sheamus pins Roman Reigns to win world title". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 25 November 2015.
  68. ↑ Caldwell, James. "12/13 WWE TLC PPV results". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ 14 December 2015.
  69. ↑ 69.0 69.1 Hamlin, Jeff. "WWE Raw live results 12-14: Will the Authority punish Roman Reigns?". Wrestling Observer. สืบค้นเมื่อ 15 December 2015.
  70. ↑ Tedesco, Mike. "WWE RAW Results - 1/4/16 (Reigns vs. Sheamus)". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 4 January 2015.
  71. ↑ "Who won the Royal Rumble?". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 25 January 2016.
  72. ↑ Meltzer, Dave. "WWE Fastlane 2016 live results: Brock Lesnar vs. Roman Reigns vs. Dean Ambrose". f4wonline.com. สืบค้นเมื่อ 22 February 2016.
  73. ↑ "Did WrestleMania usher in the Roman Empire?". WWE. สืบค้นเมื่อ April 4, 2016.
  74. ↑ Melok, Bobby. "WWE World Heavyweight Champion Roman Reigns def. AJ Styles". WWE. สืบค้นเมื่อ May 2, 2016.
  75. ↑ Melok, Bobby. "WWE World Heavyweight Champion Roman Reigns def. AJ Styles". WWE. สืบค้นเมื่อ May 23, 2016.
  76. ↑ WWE Superstar Roman Reigns w/ The Junkies Pt.1. YouTube. 106.7 the Fan. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 06:40.
  77. ↑ "Roman Reigns bio". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ April 29, 2014.
  78. ↑ Barrosso, Justin (March 28, 2014). "WWE's Roman Reigns insists 'my time is now'". Boston Herald. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 30, 2014. สืบค้นเมื่อ March 30, 2014.
  79. ↑ Caldwell, James. "WWE Raw TV Report 1/26: Complete "virtual-time" coverage of replacement show for snowed-out Raw - Lesnar & Reigns confrontation, D-Bryan sit-down interview, more". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ 28 January 2015.
  80. ↑ "News/Rumors". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. December 8, 2014. สืบค้นเมื่อ December 9, 2014. Roman Reigns was married on the weekend.
  81. ↑ "WWE® Superstars Alberto Del Rio, Titus O'Neil and Roman Reigns Take on the Importance of Being a Dad in National Public Service Campaign". Reuters. June 6, 2014. สืบค้นเมื่อ June 8, 2014.
  82. ↑ Sonny, Julian (June 7, 2014). "WWE Badass Roman Reigns Has A Heart-Warming Tea Party With His Daughter (Video)". Elite Daily. สืบค้นเมื่อ June 8, 2014.
  83. ↑ "411's WWE NXT Report 12.05.12 posted by Marc Elusive on 12.06.2012".
  84. ↑ Trionfo, Richard. "WWE SmackDown report: final show before Survivor Series; Rey's in ring return; tag title match; Bryan vs. Harper; and more". PWInsider. สืบค้นเมื่อ April 29, 2014.
  85. ↑ Trionfo, Richard. "WWE Raw report: more matches for the PPV; Punk and Heyman up the verbal ante; love is a battleground". PWInsider. สืบค้นเมื่อ April 29, 2014.
  86. ↑ 86.0 86.1 86.2 Trionfo, Richard (February 7, 2014). "WWE SmackDown report: the Elimination Chamber gauntlet continues; Wyatts and Shield have messages for each other; and more". PWInsider. สืบค้นเมื่อ April 29, 2014.
  87. ↑ Trionfo, Richard. "WWE NXT report: Cesaro/Kidd for the US title; fatal four way next week to determine #1 contender; Big E Langston talks; Roman Reigns debuts on NXT". PWInsider. สืบค้นเมื่อ April 29, 2014.
  88. ↑ 88.0 88.1 88.2 88.3 88.4 Benigno, Anthony. "Editors' Choice: Who has the best arsenal in WWE? - Roman Reigns". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2015. สืบค้นเมื่อ 1 February 2015.
  89. ↑ 89.0 89.1 Tedesco, Mike. "WWE SmackDown results – 4/25/14 (The Shield attacks)". WrestleView. สืบค้นเมื่อ April 29, 2014.
  90. ↑ Caldwell, James. "Caldwell's WWE Elimination Chamber PPV Results 2/17: Complete "virtual-time" coverage of Rock-Punk II, Elimination Chamber match, Shield beats Team Cena". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ February 27, 2013.
  91. ↑ "FCW results – 1/2/12". WrestleView. สืบค้นเมื่อ May 23, 2014.
  92. ↑ Trionfo, Richard. "FCW Television Report For February 5: Steamboat/Sandow 2; Ambrose And Rollins Get A Chance For A Title Match; William Regal Gets In Trouble With Maxine". PWInsider. สืบค้นเมื่อ July 31, 2013.
  93. ↑ Trionfo, Richard. "Florida Championship Wrestling spoilers for January 8, 15, and 22". PWInsider. สืบค้นเมื่อ May 22, 2014.
  94. ↑ 94.0 94.1 Tedesco, Mike. "WWE Raw results – 9/8/14". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 17 February 2015.
  95. ↑ Tedesco, Mike. "WWE SmackDown results – 9/19/14". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 17 February 2015.
  96. ↑ Tedesco, Mike. "WWE SmackDown results – 1/2/15". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 17 February 2015.
  97. ↑ Tedesco, Mike. "WWE Raw results – 2/9/15". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 17 February 2015.
  98. ↑ Caldwell, James (May 17, 2015). "CALDWELL'S PAYBACK PPV REPORT 5/17: Complete "virtual-time" coverage of four-way WWE Title match, I Quit War, more ". Pro Wrestling Torch. Retrieved May 17, 2015.
  99. ↑ Marc Middleton (Mar 2, 2015). "WWE Monday Night RAW Results 3/2/15". Lords of pain. Retrieved March 2, 2015.
  100. ↑ "WWE Fastlane PPV results – 2/22/15". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 26 February 2015.
  101. ↑ Caldwell, James (October 26, 2015). "10/26 WWE Raw Results – CALDWELL’S Live Report on HIAC fall-out". Pro Wrestling Torch. Retrieved October 26, 2015.
  102. ↑ Seife, Andy. "The 50 coolest maneuvers of all time – #46 Roman Reigns' Superman Punch". WWE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 June 2014. สืบค้นเมื่อ 1 February 2015. A jumping, cross-body right hand
  103. ↑ Caldwell, James. "WWE News: Big Roman Reigns Interview – Reigns address criticism of his skills & WWE placing him in top position, jabs C.M. Punk's "voice of voiceless," talks getting rich, but not famous, more (w/Analysis)". PWTorch.com. สืบค้นเมื่อ 31 January 2015.
  104. ↑ "SmackDown: Ziggler and Reigns end the Rollins Show". Canoe.ca. Slam Wrestling. สืบค้นเมื่อ 26 February 2015.
  105. ↑ "Raw: A stunning return steals the spotlight from Edge and Christian". Canoe.ca. Slam Wrestling. สืบค้นเมื่อ 26 February 2015.
  106. ↑ "WWE Fastlane PPV results – 2/22/15". wrestleview.com. สืบค้นเมื่อ 26 February 2015.
  107. ↑ "Raw: Orton leaves Authority with questions". Canoe.ca. Slam Wrestling. สืบค้นเมื่อ 26 February 2015.
  108. ↑ "Leakee – NXT Profile". NXT Wrestling. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 24, 2012. สืบค้นเมื่อ February 14, 2014.
  109. ↑ "Raw Five-Point Preview: Feb. 16, 2015". WWE. สืบค้นเมื่อ 14 February 2015.
  110. ↑ "Roman Reigns General Information". Wrestling Data. 3 January 2013. สืบค้นเมื่อ 3 January 2013.
  111. ↑ "Point/counterpoint: Was Seth Rollins' betrayal of The Shield the best or worst decision of his career? Counterpoint: Seth Rollins is a traitor". WWE. สืบค้นเมื่อ 14 February 2015.
  112. ↑ "Roman Reigns receives stitches: photos". WWE. สืบค้นเมื่อ 14 February 2015.
  113. ↑ "The 5 coolest things that happened in the 2014 Royal Rumble Match -Roman Reigns fractures the record". WWE. สืบค้นเมื่อ 14 February 2015.
  114. ↑ "Roman Reigns vs. Luke Harper: Raw, January 12, 2015 (3:13)". สืบค้นเมื่อ 14 February 2015.
  115. ↑ "WWE NXT TV report Thursday, 15 November 2012". Wrestling Observer. สืบค้นเมื่อ 14 February 2015.
  116. ↑ "WWE: Special Op (The Shield) - Single by Jim Johnston". WWE. iTunes. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 26, 2013. สืบค้นเมื่อ February 26, 2013.
  117. ↑ "WWE: The Truth Reigns (Roman Reigns) – Single". iTunes. สืบค้นเมื่อ June 28, 2014.
  118. ↑ Pro Wrestling Illustrated. 34 (2): 42–43. 2014. {{cite journal}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  119. ↑ "Pro Wrestling Illustrated (PWI) 500 for 2015". The Internet Wrestling Database. สืบค้นเมื่อ October 5, 2015.
  120. ↑ 120.0 120.1 Meltzer, Dave (January 27, 2014). "Jan 27 2014 Wrestling Observer Newsletter: 2013 Annual awards issue, best in the world in numerous categories, plus all the news in pro-wrestling and MMA over the past week and more". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, California: 1–37. ISSN 1083-9593.
  121. ↑ "Roman Reigns' first reign". WWE. สืบค้นเมื่อ November 22, 2015.
  122. ↑ "Roman Reigns' second reign". WWE. สืบค้นเมื่อ 15 December 2015.
  123. ↑ "The Shield's first WWE Tag Team Championship reign".
  124. ↑ "WWE.com Roman Reigns won 2015 Royal Rumble Match".
  125. ↑ Martin, Adam (December 8, 2014). "Early 2014 WWE Slammy Award winners announced". WrestleView. สืบค้นเมื่อ December 9, 2014.

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ โรแมน เรนส์
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=โรแมน_เรนส์&oldid=6506956"