เจาจิ๋ว
เจาจิ๋ว (เฉียว โจว) | |
---|---|
譙周 | |
ทหารม้ามหาดเล็ก (散騎常侍 ซานฉีฉางชื่อ) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 263 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | โจฮวน / สุมาเอี๋ยน |
นายกองทหารม้า (騎都尉 ฉีตูเว่ย์) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 263 – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | โจฮวน / สุมาเอี๋ยน |
ที่ปรึกษาราชวัง (光祿大夫 กวางลู่ต้าฟู) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. 263 | |
กษัตริย์ | เล่าเสี้ยน |
ขุนนางที่ปรึกษารับใช้ (中散大夫 จงซ่านตาฟู) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | เล่าเสี้ยน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ค.ศ. 199[a] นครล่างจง มณฑลเสฉวน |
เสียชีวิต | ค.ศ. 270[b] |
บุตร |
|
บุพการี |
|
อาชีพ | ขุนนาง, บัณฑิต |
ชื่อรอง | ยฺหวิ่นหนาน (允南) |
บรรดาศักดิ์ | หยางเฉิงถิงโหว (陽城亭侯) |
เจาจิ๋ว[c], เจียวจิ๋ว[d], เจียวจุย[e], ต้าจิ๋ว[f] หรือเตียวเจียว[g] (ป. ค.ศ. 199[a] - 270[b]) มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า เฉียว โจว (จีน: 譙周; พินอิน: Qiáo Zhōu) ชื่อรอง ยฺหวิ่นหนาน (จีน: 允南; พินอิน: Yǔnnán) เป็นนักดาราศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ ขุนนางและนักเขียนของรัฐจ๊กก๊กในยุคสามก๊กของจีน เดิมเจาจิ๋วรับใช้เล่าเจี้ยงเจ้ามณฑลเอ๊กจิ๋ว (ครอบคลุมพื้นที่มณฑลเสฉวนและนครฉงชิ่งในปัจจุบัน) ในช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกก่อนจะกลายมาเป็นขุนนางของขุนศึกเล่าปี่ผู้ก่อตั้งรัฐจ๊กก๊กในปี ค.ศ. 221 เจาจิ๋วมีชื่อเสียงจากการเป็นอาจารย์ให้กับขุนนางจ๊กก๊ก (และภายหลังเป็นอาจารย์ให้กับขุนนางของวุยก๊กและราชวงศ์จิ้นตะวันตก) หลายคน เช่น ตันซิ่ว (陳壽 เฉิน โช่ว), หลัว เซี่ยน (羅憲), ตู้ เจิ่น (杜軫), เหวิน ลี่ (文立) และหลี่ มี่ (李密)
ในช่วงชีวิตของเจาจิ๋ว เจาจิ๋วถูกมองว่าขาดความสามารถและไม่ได้รับการเคารพจากเพื่อนขุนนางหลายคน มีเพียงหยาง ซี่ (楊戲) ที่ยกย่องเจาจิ๋วอย่างสูง ครั้งหนึ่งหยาง ซี่กล่าวว่า "ทั้งเราและคนรุ่นหลังไม่สามารถเทียบเท่าผู้อาวุโสท่านนี้ได้" หยาง ซี่จึงได้รับการยกย่องจากผู้ที่ยอมรับความสามารถของเจาจิ๋วเช่นกัน[11]
เจาจิ๋วรับราชการในราชสำนักจ๊กก๊กมาตั้งแต่เมื่อเล่าปี่ขึ้นครองราชย์ (ค.ศ. 221) จนถึงการล่มสลายของจ๊กก๊กในปี ค.ศ. 263 เจาจิ๋วเป็นที่จดจำว่าเป็นผู้ทูลโน้มน้าวให้เล่าเสี้ยนจักรพรรดิจ๊กก๊กยอมจำนนต่อวุยก๊กในปี ค.ศ. 263
ประวัติ
[แก้]เจาจิ๋วเป็นชาวอำเภอซีชง (西充縣 ซีชงเซี่ยน) เมืองปาเส (巴西郡 ปาซีจฺวิ้น) ซึ่งปัจจุบันคืออำเภอหนานปู้ (南部縣 หนานปู้เซี่ยน) มณฑลเสฉวน[12]
บิดาของเจาจิ๋วชื่อเฉียว ปิน (譙𡸫) ชื่อรอง หรงฉื่อ (榮始) เชี่ยวชาญคัมภีร์ช่างชู (尚書) รวมถึงคัมภีร์อื่น ๆ และตำราถู (圖) กับเว่ย์ (緯)[13] ที่ว่าการเมืองและที่ว่าการมณฑลเชิญเฉียว ปินมารับราชการ แต่เฉียว ปินปฏิเสธทั้งหมด ที่ว่าการมณฑลแต่งตั้งให้เฉียว ปินเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยเพื่อนอาจารย์ (師友從事 ชือโหย่งฉงชื่อ) เป็นการชั่วคราว[14]
เจาจิ๋วกำพร้าบิดาตั้งแต่อยู่ในวัยเด็ก อาศัยอยู่กับมารดาและพี่ชาย[15] เมื่อเจาจิ๋วเติบโตขึ้นชอบศึกษาคัมภีร์โบราณ ครอบครัวเจาจิ๋วมีฐานะยากจนแต่เจาจิ๋วก็ยังไม่หางานทำ เอาแต่ท่องตำราและมีความสุขกับการหัวเราะเพียงลำพังจนลืมกินลืมนอน[16] เจาจิ๋วศึกษาหกคัมภีร์อย่างลึกซึ่ง เชี่ยวชาญการเขียนอักษรวิจิตร มีความรู้ด้านดาราศาสตร์แต่ไม่สนใจมากนัก เจาจิ๋วไม่ค่อยสนใจของนักปราชญ์หลายคนจึงไม่ได้อ่านทั้งหมด[17] เจาจิ๋วมีร่างสูง 8 ฉื่อ (尺) มีรูปร่างหน้าตาเรียบง่าย มีนิสัยจริงใจไม่เติมแต่ง[18] เจาจิ๋วไม่มีทักษะการโต้วาทีอย่างมีไหวพริบ แต่มีความรู้ในเชิงลึกและมีความฉลาดจากภายใน[19]
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม
[แก้]หมายเหตุ
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 ชีวประวัติเจาจิ๋วในสามก๊กจี่ระบุว่าในศักราชไท่ฉื่อ (泰始; ค.ศ. 265-274) ปีที่ 5 ในรัชสมัยของสุมาเอี๋ยน (ค.ศ. 269) เจาจิ๋วกล่าวว่าตนได้ล่วงเข้าอายุ 70 ปี (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก)[1] เมื่อคำนวณแล้ว ปีเกิดของเจาจิ๋วจึงควรเป็น ค.ศ. 199
- ↑ 2.0 2.1 สามก๊กจี่ระบุว่าเจาจิ๋วเสียชีวิตในฤดูหนาวของศักราชไท่ฉื่อ (泰始; ค.ศ. 265-274) ปีที่ 6 ในรัชสมัยของสุมาเอี๋ยน[2]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 53[3] และตอนที่ 70[4]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 63[5] ตอนที่ 77[6] และตอนที่ 86[7]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 78[8]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 83[9]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 84[10]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ([泰始]五年,予常为本郡中正,清定事讫,求休还家,往与周别。周语予曰:“昔孔子七十二、刘向、杨雄七十一而没,今吾年过七十,庶慕孔子遗风,可与刘、杨同轨,恐不出后岁,必便长逝,不复相见矣。”) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ ([泰始]六年秋, ... 至冬卒。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ ("เจาจิ๋วที่ปรึกษาจึงว่า ท่านคิดนี้ชอบ อนึ่งข้าพเจ้าเห็นดาวสำหรับเมืองเสฉวนนั้นหายไป มีดาวดวงใหญ่ขึ้นแทนที่รัศมีสว่างดังพระจันทร์ มีดาวน้อยล้อมเปนบริวารอยู่หลายดวง แล้วข้าพเจ้าได้ยินเด็ก ๆ ในเมืองเสฉวนทำเพลงเล่นว่า แม้ผู้ใดจะใคร่กินเข้าใหม่จงคอยให้เจ้าใหม่มาครองเมืองเถิด ก็จะได้กินสมความคิด อุยก๋วนเล่าป๊าได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ชักกระบี่ออกจะฆ่าเจาจิ๋วเสีย เล่าเจี้ยงก็เข้าห้ามปรามไว้") "สามก๊ก ตอนที่ ๕๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ ("เจาจิ๋วขุนนางผู้ใหญ่ได้ฟังดังนั้นจึงว่าแก่ขงเบ้งว่า เพลาคืนนี้ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูฤกษ์บน เห็นดาวประจำเมืองฝ่ายเหนือมีรัศมีบริบูรณ์อยู่ มหาอุปราชก็มีสติปัญญาหลักแหลมรู้การทั้งปวง ซึ่งจะยกไปตีเมืองฮูโต๋นั้นเกลือกจะป่วยการเสียเปล่า") "สามก๊ก ตอนที่ ๗๐". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ ("ขงเบ้งจึงหาเคาเจ้งเจียวจิ๋วแลขุนนางทั้งปวงมาปรึกษาว่า บัดนี้โจผีทำลายล้างพระเจ้าเหี้ยนเต้เสียแล้ว ควรเราจะยกเล่าปี่ขึ้นเปนเจ้าแผ่นดินสืบวงศ์พระเจ้าเหี้ยนเต้ไว้ เจียวจิ๋วจึงว่า ข้าพเจ้าดูขอบขันธเสมาเมืองเสฉวนเห็นอัศจรรย์ประหลาทหลายประการ อนึ่งดวงดาวประจำตัวเล่าปี่ก็มีรัศมีสว่างดังพระจันทร์ ซึ่งจะยกเล่าปี่ให้เปนเจ้าสืบพระวงศ์นั้นควรแล้ว") "สามก๊ก ตอนที่ ๖๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ ("เจียวจิ๋วโหรได้ฟังขงเบ้งว่าดังนั้น จึงทูลพระเจ้าเล่าเสี้ยนว่า ข้าพเจ้าดูในตำราแล้วเห็นดาวมหาอุปราชเมืองเรานี้เสร้าหมอง อันดาวประจำเมืองฝ่ายเหนือนั้นรุ่งเรือง อนึ่งชาวเมืองเราเลื่องลือกันว่า เวลากลางคืนได้ยินใบสนธิ์ซึ่งต้องลมนั้น เหมือนเสียงคนร้องไห้อื้ออึงอยู่ ซึ่งมหาอุปราชจะยกไปครั้งนี้ขอให้งดไว้ก่อน พระเจ้าเล่าเสี้ยนยังมิได้ตรัสประการใด") "สามก๊ก ตอนที่ ๗๗". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ ("เจียวจิ๋วจึงทูลขัดว่า อันธรรมเนียมโบราณซึ่งจะตั้งตัวเปนเจ้าแผ่นดินนั้น จะได้อาศรัยกำลังผู้อื่นหามิได้ ย่อมเพียรพยายามได้เปนดีด้วยปัญญาความคิดแลกำลังของตัว เมื่อแลต่อด้วยข้าศึกมิได้เข้าไปนบนอบเมืองกังตั๋งนั้น ใช่ว่าเมืองกังตั๋งจะตั้งมั่นเปนเอกโทอยู่ก็หาไม่ ก็จะเสียแก่วุยก๊กเปนมั่นคง นานไปก็ต้องกลับไปคำนับเขา ก็จะมิได้อัปยศเปนสองซ้ำไปหรือจะต้องการอันใด ถ้าเข้าคำนับแก่พระเจ้าวุยก๊กเสียครั้งนี้เห็นจะได้อายแต่ครั้งเดียว ขอให้พระองค์ดำริห์ดูเถิด") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๖". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ ("เจียวจุยจึงทูลว่า เวลาคืนนี้ข้าพเจ้าเห็นดาวสำหรับมหาอุปราชตกลงข้างทิศตวันตกเฉียงเหนือ ข้าพเจ้าเห็นว่าจะมีภัยแก่มหาอุปราช ซึ่งพระองค์ทรงพระสุบินก็เห็นยุติกัน พระเจ้าเล่าเสี้ยนแจ้งดังนั้นก็ยิ่งเสร้าหมองไม่สบายเลย") "สามก๊ก ตอนที่ ๗๘". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ ("เกียงอุยได้ฟังดังนั้นก็ดีใจจึงว่า ถ้ากระนั้นเห็นเราจะทำการใหญ่สำเร็จครั้งนี้เปนมั่นคง จึงปรึกษาต้าจิ๋วขุนนางผู้ใหญ่ว่า เราจะทำเรื่องราวขึ้นกราบทูลพระเจ้าเล่าเสี้ยนเปนใจความว่า จะขออาสาไปตีเมืองวุยก๊กถวาย ท่านจะเห็นประการใด ต้าจิ๋วจึงทอดใจใหญ่ว่า บัดนี้พระเจ้าเล่าเสี้ยนก็ไม่ว่ากิจการบ้านเมือง เชื่อฟังแต่คำฮุยโฮขันที ชวนกันเสพย์สุราทุกวันมิได้ขาด อนึ่งตัวท่านแต่ทำการมาก็เสียทีเปนหลายครั้ง แม้เราคิดอ่านรักษาบ้านเมืองไว้ให้มั่นคงจะดีกว่า") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ ("เตียวเจียวจึงทูลว่า เวลาคืนนี้ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูเห็นดาวเมืองเราวิปริตฤกษ์บนหาดีไม่ แลซึ่งเกียงอุยจะอาสายกไปนั้นเห็นจะไม่มีชัยชนะ ขอพระองค์จงห้ามไว้ก่อน พระเจ้าเล่าเสี้ยนจึงตอบว่า บัดนี้เขามารับอาสาเราเอง แลซึ่งจะห้ามไว้นั้นไม่ควร จำเราจะให้เขาไป ถ้าภายหลังเห็นเพลี้ยงพลํ้าประการใดแล้วเราจึงจะห้าม เตียวเจียวจึงซ้ำทูลทัดทานถึงสามครั้ง เห็นพระเจ้าเล่าเสี้ยนมิฟังถ้อยคำแล้วก็ลาไป คิดน้อยใจทำอุบายเปนป่วยมิได้มาคิดราชการเลย") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๔". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ September 21, 2023.
- ↑ (又時人謂譙周無當世才,少歸敬者,唯戲重之,常稱曰:「吾等後世,終自不如此長兒也。」有識以此貴戲。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 45.
- ↑ (譙周字允南,巴西西充國人也。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ (父𡸫,字榮始,治《尚書》,兼通諸經及圖緯。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ (州郡辟請,皆不應,州就假師友從事。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ (周幼孤,與母兄同居。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ (既長,耽古篤學,家貧未嘗問產業,誦讀典籍,欣然獨笑,以忘寢食。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ (研精《六經》,尤善書札,頗曉天文,而不以留意;諸子文章非心所存,不悉遍視也。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ (身長八尺,體貌素樸,性推誠不飾。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
- ↑ (無造次辯論之才,然潛識內敏。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 42.
บรรณานุกรม
[แก้]- ตันซิ่ว (คริสต์ศตวรรษที่ 3). สามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อ).
- เผย์ ซงจือ (คริสต์ศตวรรษที่ 5). อรรถาธิบายสามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อจู้).
- ล่อกวนตง (คริสต์ศตวรรษที่ 14). สามก๊ก (ซันกั๋วเหยี่ยนอี้).