อองเลี้ยน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อองเลี้ยน (หวาง เหลียน)
王連
หัวหน้าเลขานุการของอัครมหาเสนาบดี
(丞相長史 เฉิงเซี่ยงจ๋างสื่อ)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์เล่าเสี้ยน
หัวหน้ารัฐบาลจูกัดเหลียง
นายกองทหารม้าประจำการ
(屯騎校尉 ถุนฉีเซี่ยวเว่ย์)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 223 (223) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์เล่าเสี้ยน
หัวหน้ารัฐบาลจูกัดเหลียง
ขุนพลผู้ฟื้นฟู (興業將軍 ซิงเย่เจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. ? (?)
เจ้าเมืองจ๊ก
(蜀郡太守 สู่จฺวิ้นไท่โฉฺ่ว)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. ? (?)
นายกองสำนักเกลือ
(司鹽校尉 ซือเหยียนเซี่ยวเว่ย์)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. ? (?)
นายอำเภอกว่างตู (廣都令 กว่างตูลิ่ง)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. ? (?)
นายอำเภอฉือฟาง (什邡令 ฉือฟางลิ่ง)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 214 หรือหลังจากนั้น (214 หรือหลังจากนั้น) – ค.ศ. ? (?)
นายอำเภอจื่อถง (梓潼令 จื่อถงลิ่ง)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. 214 (214)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดไม่ทราบ
นครหนานหยาง มณฑลเหอหนาน
เสียชีวิตป. ค.ศ. 223[1]
บุตรหวาง ชาน
อาชีพขุนนาง
ชื่อรองเหวินอี๋ (文儀)
บรรดาศักดิ์ผิงหยางถิงโหฺว
(平陽亭侯)

อองเลี้ยน (เสียชีวิต ป. ค.ศ. 223)[1] มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า หวาง เหลียน (จีน: 王連; พินอิน: Wáng Lián) ชื่อรอง เหวินอี๋ (จีน: 文儀; พินอิน: Wényí) เป็นขุนนนางของรัฐจ๊กก๊กในยุคสามก๊กของจีน

ประวัติ[แก้]

อองเลี้ยนเป็นชาวเมืองลำหยง (南陽郡 หนานหยางจฺวิ้น) ซึ่งปัจจุบันอยู่บริเวณนครหนานหยาง มณฑลเหอหนาน[2] อองเลี้ยนเดินทางเข้ามณฑลเอ๊กจิ๋ว (ครอบคลุมพื้นทีของมณฑลเสฉวนและนครฉงชิ่งในปัจจุบัน) ในช่วงเวลาระหว่าง ค.ศ. 194 ถึง ค.ศ. 214 ในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เมื่อเล่าเจี้ยงเป็นเจ้ามณฑลเอ๊กจิ๋ว อองเลี้ยนรับราชการเป็นนายอำเภอ ( ลิ่ง) ของอำเภอจื่อถง (梓潼縣 จื่อถงเซี่ยน) ภายใต้เล่าเจี้ยงในเวลานั้น[3]

ระหว่างปี ค.ศ. 212 ถึง ค.ศ. 214[4] ขุนศึกเล่าปี่รบกับเล่าเจี้ยงในสงครามแย่งชิงมณฑลเอ๊กจิ๋ว เมื่อทัพของเล่าปี่เข้าโจมตีอำเภอจื่อถง อองเลี้ยนสั่งให้ทหารซ่อนหลังกำแพงเมืองและปิดประตู ปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อเล่าปี่ เล่าปี่ประทับใจอองเลี้ยนที่จงรักภักดีต่อเล่าเจี้ยง จึงยกเลิกการโจมตีอำเภอจื่อถง[5]

ในปี ค.ศ. 214[4] หลังเล่าปี่ยึดครองมณฑลเอ๊กจิ๋วสำเร็จ ได้รับอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของเล่าเจี้ยงส่วนใหญ่มารับราชการกับตน เวลานั้นเล่าปี่ตั้งให้อองเลี้ยนเป็นนายอำเภอของอำเภอฉือฟาง (什邡縣 ฉือฟางเซี่ยน) และภายหลังให้เป็นนายอำเภอของอำเภอกวางตู (廣都縣 กวางตูเซี่ยน; ปัจจุบันอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตชฺวางหลิว นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน) อองเลี้ยนปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดีและภายหลังได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกองสำนักเกลือ (司鹽校尉 ซือเหยียนเซี่ยวเว่ย์) ทำหน้าที่ดูแลและควบคุมการผลิตและการค้าเกลือและเหล็ก สำนักเกลือภายใต้การนำของอองเลี้ยนมีรายได้มหาศาลจากผลกำไรและภาษี ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นอองเลี้ยนยังเสนอชื่อผู้ใต้บังคับบัญชาบางคนที่มีศักยภาพสูง เช่น ลิหงี (呂乂 ลฺหวี่ อี้) ตอกี๋ (杜祺 ตู้ ฉี) และหลิว ก้าน (劉幹) แนะนำให้เลื่อนหรือแต่งตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้น[6] ภายหลังอองเลี้ยนได้รับตำแหน่งเพิ่มเติมเป็นเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉฺ่ว) ของเมืองจ๊ก (蜀郡 สู่จฺวิ้น; ปัจจุบันอยู่บริเวณใจกลางนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน) และขุนพลผู้ฟื้นฟู (興業將軍 ซิงเย่เจียงจฺวิน)[7]

ในปี ค.ศ. 223 หลังเล่าเสี้ยนขึ้นเป็นจักพรรดิแห่งรัฐจ๊กก๊ก อองเลี้ยนได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกองทหารม้าประจำการ (屯騎校尉 ถุนฉีเซี่ยวเว่ย์) และเป็นหัวหน้าเลขานุการ (長史 จ๋างสื่อ) ของจูกัดเหลียงผู้เป็นอัครมหาเสนาบดี (丞相 เฉิงเซี่ยง) อองเลี้ยนยังได้รับบรรดาศักดิ์เป็นผิงหยางถิงโหฺว (平陽亭侯)[8]

ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 223 และ ค.ศ. 224 เมื่อเกิดกบฏขึ้นในภูมิภาคหนานจงทางตอนใต้ของจ๊กก๊ก จูกัดเหลียงต้องการนำทัพจ๊กก๊กในการทัพปราบกบฏและสยบภูมิภาคหนานจงด้วยตนเอง อองเลี้ยนคัดค้านอย่างหนักแน่นกล่าวว่าจูกัดเหลียงมีสถานะที่สำคัญจึงไม่ควรเสี่ยงไปยังภูมิภาคหนานจงที่อันตราย แต่จูกัดเหลียงยืนกรานว่าจะนำการทัพด้วยตนเองเพราะกังวลว่าไม่มีขุนพลจ๊กก๊กคนใดที่มีความสามารถเพียงพอสำหรับภารกิจนี้ อย่างไรก็ตาม ความจริงใจของอองเลี้ยนก็ทำให้จูกัดเหลียงพิจารณาทบทวนอยู่หลายครั้ง[9] ก่อนที่ในที่สุดจะตัดสินใจไปในการทัพเมื่อต้นปี ค.ศ. 225[10]

อองเลี้ยนเสียชีวิตหลังจากนั้นอีกไม่นาน อาจจะเป็นราวปี ค.ศ. 223[1] หลังอองเลี้ยนเสียชีวิต หวาง ชาน (王山) บุตรชายของอองเลี้ยนสืบทอดบรรดาศักดิ์และศักดินาของบิดา หวาง ชานรับราชการเป็นขุนนางของจ๊กก๊กเช่นเดียวกับบิดา โดยมีตำแหน่งสูงสุดเป็นเจ้าเมืองเจียงหยาง (江陽郡 เจียงหยางจฺวิ้น; ปัจจุบันอยู่บริเวณนครเน่ย์เจียง มณฑลเสฉวน)[11]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 de Crespigny, Rafe (2007). A Biographical Dictionary of Later Han to the Three Kingdoms 23-220 AD. Leiden: Brill. p. 824. ISBN 9789004156050.
  2. (王連字文儀,南陽人也。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 41.
  3. (劉璋時入蜀,為梓潼令。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 41.
  4. 4.0 4.1 จือจื้อทงเจี้ยน เล่มที่ 66–67.
  5. (先主起事葭萌,進軍來南,連閉城不降,先主義之,不彊偪也。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 41.
  6. (及成都旣平,以連為什邡令,轉在廣都,所居有績。遷司鹽校尉,較鹽鐵之利,利入甚多,有裨國用,於是簡取良才以為官屬,若呂乂、杜祺、劉幹等,終皆至大官,自連所拔也。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 41.
  7. (遷蜀郡太守、興業將軍,領鹽府如故。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 41.
  8. (建興元年,拜屯騎校尉,領丞相長史,封平陽亭侯。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 41.
  9. (時南方諸郡不賔,諸葛亮將自征之,連諫以為「此不毛之地,疫癘之鄉,不宜以一國之望,冒險而行」。亮慮諸將才不及己,意欲必往,而連言輒懇至,故停留者乆之。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 41.
  10. จือจื้อทงเจี้ยน เล่มที่ 70.
  11. (會連卒。子山嗣,官至江陽太守。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 41.

บรรณานุกรม[แก้]