อำเภอหัวไทร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อำเภอหัวไทร
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Hua Sai
คำขวัญ: 
เมืองนากุ้ง ทุ่งนาข้าว จ้าวทะเล
เสน่ห์หาดทราย มากหลายศิลปิน
แผนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เน้นอำเภอหัวไทร
แผนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เน้นอำเภอหัวไทร
พิกัด: 8°2′24″N 100°16′30″E / 8.04000°N 100.27500°E / 8.04000; 100.27500
ประเทศ ไทย
จังหวัดนครศรีธรรมราช
พื้นที่
 • ทั้งหมด417.733 ตร.กม. (161.288 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2564)
 • ทั้งหมด63,258 คน
 • ความหนาแน่น151.43 คน/ตร.กม. (392.2 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 80170
รหัสภูมิศาสตร์8016
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอหัวไทร เลขที่ 195
หมู่ที่ 11 ตำบลหัวไทร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช 80170
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

หัวไทร เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

หาดหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช

อำเภอหัวไทรตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียงดังต่อไปนี้

ประวัติ[แก้]

   เดิมอำเภอหัวไทร มีชื่อที่เรียกตามหลักฐานทางราชการ ว่า "อำเภอพังไกร" เป็นอำเภอที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 รองจากอำเภอเบี้ยซัด (อำเภอปากพนังในปัจจุบัน) อำเภอพังไกร ตั้งอยู่ที่บ้านเขาพังไกร หมู่ที่ 1 ตำบลเขาพังไกร สถานที่ตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนวัดบูรณาวาสไปทางทิศเหนือประมาณ 100 เมตร ติดกับเชิงเขาพังไกร เมื่อ ร.ศ.116 อำเภอมีบ้าน 554 หลังคาเรือน มีผู้ใหญ่บ้าน 240 คน มีกำนัน 18 คน โดยมี "นายก้าน  มหาดเล็ก" ซึ่งเป็นบุตรพระดำรงเทวฤทธิ์ (กล่อม) เป็นนายอำเภอคนแรก และต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงประจันตุจุฑารักษ์"  

ต่อมาปี พ.ศ. 2460 สมัยหลวงอนุสรสิทธิกรรม (ขาว ณ นคร) เป็นนายอำเภอได้ย้ายที่ตั้งที่ว่าการอำเภอมาอยู่ที่บ้านหัวไทร หมู่ที่ 1 ตำบลหัวไทร เนื่องจากที่ว่าการอำเภอเดิมห่างไกลเส้นทางคมนาคม และได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "อำเภอหัวไทร" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อบ้าน และได้ใช้ชื่อดังกล่าวมาจนกระทั่งปัจจุบัน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2466 อำเภอหัวไทรได้ถูกลดฐานะลงเป็นกิ่งอำเภอ ขึ้นตรงต่ออำเภอปากพนัง มีแต่ปลัดอำเภอหัวหน้ากิ่งเป็นผู้รักษาการมาจนถึง พ.ศ. 2480 ได้รับการยกฐานะเป็นอำเภออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตรงกับสมัย "นายนาค ศรีวิสุทธิ" เป็นนายอำเภอ ด้วยมีข้อกำจัดเนื่องจากบริเวณพื้นที่ว่าการอำเภอแคบและไม่สามารถสร้างสถานที่ราชการเพิ่มเติมออกไปได้ จึงได้มีการพิจารณาย้ายที่ตั้งที่ว่าการอำเภอหัวไทรไปอยู่ที่หมู่ที่ 11 ตำบลหัวไทร เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2546 จนถึงปัจจุบัน และขณะนี้อำเภอหัวไทรเป็นอำเภอชั้น 2

  • 18 สิงหาคม 2450 โอนพื้นที่ตำบลทะเลน้อย ตำบลตะเครียะ ตำบลหัวป่า ตำบลบ้านพร้าว และตำบลสำโรง จากอำเภอพังไกร (อำเภอหัวไทรในปัจจุบัน) จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปขึ้นกับอำเภอปากประ (อำเภอทะเลน้อย) จังหวัดพัทลุง[1]
  • วันที่ 29 เมษายน 2460 เปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอพังไกร จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น อำเภอหัวไทร[2]
  • วันที่ 27 พฤศจิกายน 2464 โอนพื้นที่ตำบลคลองแดน จากอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปขึ้นกับกิ่งอำเภอระโนด อำเภอจะทิ้งพระ (อำเภอสทิงพระ) จังหวัดสงขลา[3]
  • วันที่ 16 กันยายน 2466 ยุบอำเภอหัวไทร ลงเป็น กิ่งอำเภอหัวไทร[4] และกำหนดให้ขึ้นการปกครองกับอำเภอปากพนัง
  • วันที่ 2 สิงหาคม 2480 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอหัวไทร อำเภอปากพนัง เป็น อำเภอหัวไทร[5][6] ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวไทร ตำบลหน้าสตน ตำบลบางนบ ตำบลบ้านราม ตำบลบางพูด ตำบลท่าซอม ตำบลทรายขาว ตำบลเขาพังไกร และตำบลแหลม
  • วันที่ 29 มกราคม 2482 ยุบตำบลบางพูด และโอนพื้นที่หมู่ 1-8 ตำบลบางพูด (ที่ถูกยุบ) ไปขึ้นกับตำบลท่าซอม[7]
  • วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลหน้าสตน แยกออกจากตำบลท่าซอม และตำบลหัวไทร ตั้งตำบลบ้านราม แยกออกจากตำบลทรายขาว ตั้งตำบลบางนบ แยกออกจากตำบลท่าซอม[8]
  • วันที่ 30 พฤษภาคม 2499 จัดตั้งสุขาภิบาลหัวไทร ในท้องที่บางส่วนของตำบลหัวไทร[9]
  • วันที่ 25 มกราคม 2509 เปลี่ยนแปลงเขตสุขาภิบาลหัวไทร[10] เพื่อความเหมาะสมในการบริหารกิจการและการทะนุบำรุงท้องถิ่น
  • วันที่ 9 ตุลาคม 2522 ตั้งตำบลควนชะลิก แยกออกจากตำบลแหลม[11]
  • วันที่ 17 มิถุนายน 2523 ตั้งตำบลรามแก้ว แยกออกจากตำบลเขาพังไกร[12]
  • วันที่ 16 กันยายน 2523 ตั้งตำบลเกาะเพชร แยกออกจากตำบลหน้าสตน[13]
  • วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะจากสุขาภิบาลหัวไทร เป็นเทศบาลตำบลหัวไทร[14] ด้วยผลของกฎหมาย
  • วันที่ 25 กรกฎาคม 2551 จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเพชร ขึ้นเป็น เทศบาลตำบลเกาะเพชร[15]
  • วันที่ 7 กันยายน 2555 จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าสตน ขึ้นเป็น เทศบาลตำบลหน้าสตน[16]

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

อำเภอหัวไทรแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 11 ตำบล 99 หมู่บ้าน ได้แก่

ลำดับ อักษรไทย อักษรโรมัน จำนวนหมู่บ้าน จำนวนประชากร
(ธันวาคม 2565)[17]
แผนที่
1. หัวไทร Hua Sai
12
10,430
2. หน้าสตน Na Saton
9
10,028
3. ทรายขาว Sai Khao
12
7,638
4. แหลม Laem
12
6,128
5. เขาพังไกร Khao Phang Krai
10
6,476
6. บ้านราม Ban Ram
8
3,503
7. บางนบ Bang Nop
9
1,944
8. ท่าซอม Tha Som
9
2,896
9. ควนชะลิก Khuan Chalik
6
4,864
10. รามแก้ว Ram Kaeo
5
2,076
11. เกาะเพชร Ko Phet
9
6,810

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

ท้องที่อำเภอหัวไทรประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 12 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลตำบลหัวไทร ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลหัวไทรและบางส่วนของตำบลหน้าสตน
  • เทศบาลตำบลเกาะเพชร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเกาะเพชรทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลหน้าสตน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหน้าสตน (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลหัวไทร)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหัวไทร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวไทร (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลหัวไทร)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทรายขาวทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลแหลม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแหลมทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลเขาพังไกร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเขาพังไกรทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านราม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านรามทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบางนบ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางนบทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลท่าซอม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าซอมทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลควนชะลิก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลควนชะลิกทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลรามแก้ว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลรามแก้วทั้งตำบล

อ้างอิง[แก้]

  1. "แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ย้ายที่ว่าการอำเภอปากประเมืองพัทลุง ไปตั้งที่บ้านนางตุงเรียกว่าอำเภอทะเลน้อย โอนตำบลมะกอกใต้มะกอกเหนือจากเขตอำเภอทะเลน้อยขึ้นอำเภอเมืองพัทลุง และโอนตำบลต่างๆ รวม ๕ ตำบล จากเขตอำเภอพังไกรเมืองนครศรีธรรมราชมาขึ้นอำเภอทะเลน้อย เมืองพัทลุง" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 24 (20): 521. August 18, 1907.
  2. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนชื่ออำเภอ เก็บถาวร 2011-11-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เล่ม 34 หน้า 65 วันที่ 29 เมษายน 2460
  3. "ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔ [ในท้องที่มณฑลนครศรีธรรมราช]" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 38 (0 ก): 464–480. November 27, 1921.
  4. "ประกาศ เรื่อง จัดเปลี่ยนแปลงท้องที่ในเขตมณฑลนครศรีธรรมราช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 40 (0 ก): 110–111. September 16, 1923.
  5. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ตั้งอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 54 (0 ง): 850–851. August 2, 1937.
  6. "แก้คำผิด ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๓ ตอนที่ ๒๑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ตั้งอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช หน้า ๘๕๑" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 54 (0 ง): 1670. November 8, 1937.
  7. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตตำบลในจังหวัดนครศรีธรรมราช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 56 (0 ง): 3292–3293. January 29, 1939.
  8. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งตำบลในจังหวัดต่าง ๆ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (26 ง): 1114–1433. June 10, 1947. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-09. สืบค้นเมื่อ 2021-09-11.
  9. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลหัวไทร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 73 (45 ง): (ฉบับพิเศษ) 83-84. May 30, 1956.
  10. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตสุขาภิบาลหัวไทร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 83 (8 ง): 308–309. January 25, 1966.
  11. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอชะอวด อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 96 (174 ง): 3480–3487. October 9, 1979.
  12. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอชะอวด อำเภอหัวไทร และอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 97 (93 ง): 1796–1803. June 17, 1980.
  13. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอหัวไทร และอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 97 (144 ง): 3181–3186. September 16, 1980.
  14. "พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะของสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ. ๒๕๔๒" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 116 (9 ก): 1–4. February 24, 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2021-09-11.
  15. "จัดตั้งเทศบาลจากองค์การบริหารส่วนตำบล เกาะเพชร เป็น เทศบาลตำบล". July 25, 2008. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)
  16. "เปลี่ยนฐานะจาก องค์การบริหารส่วนตำบลหน้าสตน เป็น เทศบาลตำบลหน้าสตน". September 7, 2012. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)
  17. "ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร". stat.bora.dopa.go.th.