ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มุฮัมมัด เศาะลาห์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 15: บรรทัด 15:
| years1 = 2010–2012
| years1 = 2010–2012
| clubs1 = [[El Mokawloon SC|El Mokawloon]]
| clubs1 = [[El Mokawloon SC|El Mokawloon]]
| caps1 = 38
| caps1 = 38หกหฟกห
| goals1 = 11
| goals1 = 11
| years2 = 2012–2014
| years2 = 2012–2014
| clubs2 = [[สโมสรฟุตบอลบาเซิล|บาเซิล]]
| clubs2 = [[สโมสรฟุตบอลบาเซิล|บาเซิล]]
| caps2 = 47
| caps2 = 47หฟกหกหกหก
| goals2 = 9
| goals2 = 9
| years3 = 2014–2016
| years3 = 2014–2016
| clubs3 = [[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]]
| clubs3 = [[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]]
| caps3 = 13
| caps3 = 13หฟกหฟกหฟก
| goals3 = 2
| goals3 = 2
| years4 = 2015
| years4 = 2015
| clubs4 = → [[สโมสรฟุตบอลฟีออเรนตีนา|ฟีออเรนตีนา]] (ยืมตัว)
| clubs4 = → [[สโมสรฟุตบอลฟีออเรนตีนา|ฟีออเรนตีนา]] (ยืมตัว)
| caps4 = 16
| caps4 = 16กหฟกฟหก
| goals4 = 6
| goals4 = 6
| years5 = 2015–2016
| years5 = 2015–2016
| clubs5 = → [[สโมสรฟุตบอลโรมา|โรมา]] (ยืมตัว)
| clubs5 = → [[สโมสรฟุตบอลโรมา|โรมา]] (ยืมตัว)
| caps5 = 34
| caps5 = 34หกหฟกหฟกฟห
| goals5 = 14
| goals5 = 14
| years6 = 2016–2017
| years6 = 2016–2017

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:55, 31 สิงหาคม 2563

มุฮัมมัด เศาะลาห์
เศาะลาห์ในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม มุฮัมมัด เศาะลาห์ ฆอลี[1]
วันเกิด (1992-06-15) 15 มิถุนายน ค.ศ. 1992 (31 ปี)
สถานที่เกิด Basyoun, Egypt
ส่วนสูง 1.75 m (5 ft 9 in)[2]
ตำแหน่ง กองหน้า
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
ลิเวอร์พูล
หมายเลข 11
สโมสรเยาวชน
2006–2010 El Mokawloon
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2010–2012 El Mokawloon 38หกหฟกห (11)
2012–2014 บาเซิล 47หฟกหกหกหก (9)
2014–2016 เชลซี 13หฟกหฟกหฟก (2)
2015ฟีออเรนตีนา (ยืมตัว) 16กหฟกฟหก (6)
2015–2016โรมา (ยืมตัว) 34หกหฟกหฟกฟห (14)
2016–2017 โรมา 31 (15)
2017– ลิเวอร์พูล 108 (73)
ทีมชาติ
2010–2011 อียิปต์ อายุไม่เกิน 20 ปี 11 (3)
2011–2012 อียิปต์ อายุไม่เกิน 23 ปี 11 (4)
2011– อียิปต์ 67 (41)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 2020
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2019

มุฮัมมัด เศาะลาห์ ฆอลี (อาหรับ: محمد صلاح غالى; อังกฤษ: Mohammed Salah Ghaly; เกิดวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวอียิปต์ ปัจจุบันเล่นให้กับลิเวอร์พูล และทีมชาติอียิปต์ ในตำแหน่งกองหน้า

สโมสรอาชีพ

เชลซี

โรมา

ลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2017-18

ในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ได้ตกลงย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 36.9 ล้านปอนด์ ทำลายสถิติการซื้อตัวของสโมสรที่เคยจ่ายให้กับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในการคว้าตัว แอนดี แคร์โรล กองหน้าร่างยักษ์ในราคา 35 ล้านปอนด์ (ราว 1,479 ล้านบาท) เมื่อปี 2011 เซ็นสัญญากับทีมเป็นเวลา 5 ปี และรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 90,000 ปอนด์ (ประมาณ 4.05 ล้านบาท)[3] เขาได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อหมายเลข 11 จาก โรแบร์ตู ฟีร์มีนู ที่เปลี่ยนไปเป็นหมายเลข 9[4] เขาจะเป็นนักเตะลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เมื่อเปิดการซื้อขายนักเตะช่วงฤดูร้อน เขากลายเป็นผู้เล่นอียิปต์คนแรกของลิเวอร์พูล[5] ต่อมา ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูลและทำประตูแรกในช่วงปรีซีซั่น ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วีแกนแอธเลติก ที่ดีดับเบิลยูสเตเดียม 1-1[6] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2017–18 เศาะลาห์ประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูลนัดแรกเป็นทางการและทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-3[7] ต่อมา ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบเพลย์ออฟ นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮ็อฟเฟินไฮม์ จากเยอรมัน 4-2 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮ็อฟเฟินไฮม์ 6-3 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[8] ต่อมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 4-0[9] ต่อมา ในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เซบิยา จากสเปน 2-2[10] ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เบิร์นลีย์ 1-1[11] ต่อมา ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 3-2[12]

ในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 7-0[13] ทำให้ ลิเวอร์พูลสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นทีมจากอังกฤษที่เอาชนะนอกบ้านในเกมยุโรปด้วยสกอร์ที่มากที่สุด[14] ต่อมา ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ 1-4[15] ต่อมา ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 3-0[16] ต่อมา ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 4-1[17] ต่อมา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[18]

ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับทีมเก่าของเขา เชลซี 1-1[19] ต่อมา ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ลงสนามเป็นตัวสำรองและยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สโตกซิตี ที่บริแทนเนียสเตเดียม 3-0[20] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของพรีเมียร์ลีก[21] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 7-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[22] ต่อมา ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมืองเมอร์ซีย์ไซด์ 1-1[23] ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 14 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 4-0[24] ต่อมา ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 3-3[25] ต่อมา ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 2-1[26]

เศาะลาห์ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2018

ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 4-3[27] ต่อมา ในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2018 เอฟเอคัพ รอบสี่ เศาะลาห์ทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด[28] ด้วยประตูนี้ทำให้ เศาะลาห์ยิงไป 25 ประตูจาก 32 นัด ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูถึง 25 ประตูเร็วที่สุดในรอบ 102 ปี มีเพียง จอร์จ อัลเลน (1895-96) และเฟร็ด แพ็กแนม (1914-15) ที่ทำได้ด้วยจำนวนเกมน้อยกว่าเขาในประวัติศาสตร์ของสโมสร[29] ต่อมา ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ ที่สนามกีฬาจอห์นสมิท 3-0[30] ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-2[31] ต่อมา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0[32] ต่อมา ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 5-0 ด้วยประตูนี้ทำให้ เศาะลาห์ยิงไป 30 ประตูจาก 36 นัด ทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกของลิเวอร์พูลที่ยิงได้ 30 ประตูต่อหนึ่งฤดูกาล หลังจาก ลุยส์ ซัวเรซ เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2013-14 (31 ลูก) และทำให้เขาเป็นนักเตะที่ยิง 30 ประตูได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ 125 ปีของสโมสรเป็นอันดับ 2 มีเพียง จอร์จ อัลเลน (27 เกม) ที่ทำได้ไวกว่าเศาะลาห์ (36 เกม) ตามมาด้วย แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (37), เฟร็ด แพ็คแนม (39) และเฟร์นันโด ตอร์เรส (42)[33] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 23 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-1[34] ต่อมา ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 24 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0[35] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ของพรีเมียร์ลีก[36] ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล โดย เศาะลาห์ยิง 4 ประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0[37] ต่อมา ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 29 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[38] ต่อมา ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 8 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-0[39] ต่อมา ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูที่ 9 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 2-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 5-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[40] เศาะลาห์กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูต่อฤดูกาลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรตั้งแต่เข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีก หลังทำไปแล้ว 39 ประตูในทุกรายการ ทุบสถิติของ ร็อบบี ฟาวเลอร์ เคยทำไว้ 36 ลูก เมื่อฤดูกาล 1995–96 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนมีนาคมของพรีเมียร์ลีก และทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีกได้ถึงสามครั้งในฤดูกาลเดียวกัน[41] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 30 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[42] ต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 31 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน ที่เดอะฮอว์ทอนส์ 2-2[43]

ในวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2017-18 ส่งผลให้ เศาะลาห์เป็นนักเตะคนที่ 7 ของลิเวอร์พูล ที่ได้รับรางวัลนี้ถัดจาก ลุยส์ ซัวเรซ (2013-14), สตีเวน เจอร์ราร์ด (2005-06), จอห์น บาร์นส์ (1987-88), เอียน รัช (1983-84), เคนนี ดัลกลิช (1982-83) และเทอร์รี แม็คเดอร์ม็อตต์ (1979-80)[44] รวมทั้ง เศาะลาห์ยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเออีกด้วย[45] ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา โรมา 5-2[46] ต่อมา เศาะลาห์คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ (เอฟดับเบิ้ลยูเอ) ไปอีกหนึ่งรางวัล[47] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์คว้า 2 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2018[48] ต่อมา เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2017-18 ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2017–18 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เศาะลาห์ทำประตูที่ 32 ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ[49] เศาะลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 32 ประตูจาก 36 นัด ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูมากที่สุดแซง อลัน เชียเรอร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลุยส์ ซัวเรซ นับตั้งแต่ที่มีการแข่งแบบ 38 นัดต่อฤดูกาลและคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง[50]

ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018 ลิเวอร์พูล เจอกับแชมป์เก่า เรอัลมาดริด ที่สนามโอลิมปิสกีเนชันแนลสปอตส์คอมเพล็กซ์ ในเคียฟ ประเทศยูเครน เศาะลาห์ได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่จากการปะทะกับ เซร์ฆิโอ ราโมส ทำให้ เศาะลาห์เล่นต่อไม่ไหวและต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งแรก สุดท้าย ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เรอัลมาดริด 1-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างน่าเสียดาย[51]

ฤดูกาล 2018-19

ในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล เป็นเวลา 5 ปี โดยในสัญญาฉบับใหม่ไม่มีการระบุเงื่อนไขการฉีกสัญญาเอาไว้ด้วย[52] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2018–19 เศาะลาห์ทำประตูแรกในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[53] ต่อมา ในวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 1-0[54] ต่อมา ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[55] ต่อมา ในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ ที่สนามกีฬาจอห์นสมิท 1-0[56] ต่อมา ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C เศาะลาห์ยิง 2 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดสตาร์ เบลเกรด จากเซอร์เบีย 4-0[57] ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูให้ลิเวอร์พูลครบ 50 ประตูรวมทุกรายการเร็วที่สุด ด้วยจำนวน 65 นัด ทุบสถิติของ อัลเบิร์ต สตั๊บบินส์ (77 นัด) ในช่วงปลายทศวรรษ 1940[58] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 4-1[59] ต่อมา ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฟูลัม 2-0[60] ต่อมา ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-0[61] ต่อมา ในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำแฮตทริกที่ 2 ของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 4-0[62] ต่อมา ในวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นาโปลี จากอิตาลิ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะรองแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[63] ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วูลฟ์แฮมตันวันเดอเรอส์ ที่สนามกีฬาโมลีนิวส์ 2-0[64] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4-0[65] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1[66]

ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 14 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 1-0[67] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-3[68] ต่อมา ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[69] ต่อมา ในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-1[70] ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูให้กับลิเวอร์พูลครบ 50 ประตู ในพรีเมียร์ลีก จาก 69 นัด เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา เชลซี 2-0[71] ต่อมา ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 4-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู 6-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[72] ต่อมา ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 5-0[73] ต่อมา ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์พาร์ก 3-2[74]

ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 2-0 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[75] เศาะลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 22 ประตูจาก 38 นัด ทำให้ เศาะลาห์คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครองเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน ร่วมกับ ซาดีโย มาเน และ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน เศาะลาห์ทำประตูด้วยลูกจุดโทษขึ้นนำ 1-0 สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[76]

ฤดูกาล 2019-20

ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2019–20 เศาะลาห์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 4-1[77] ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[78] ต่อมา ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[79] ต่อมา ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-1[80] ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ยิง 2 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 4-3[81] ต่อมา ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เคงก์ จากเบลเยียม 4-1[82] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-1[83] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1[84] ต่อมา ในวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 3-0[85] ต่อมา ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[86] ต่อมา ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 2-0[87] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[88] จากนั้น เศาะลาห์ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม The Golden Ball ประจำทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019

ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 2-0[89] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0[90] ต่อมา ในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 2-0[91] ต่อมา ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 4-0[92] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2[93] ต่อมา ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ลงสนามนัดที่ 100 ในพรีเมียร์ลีก และทำประตูที่ 16 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 2-1[94]

ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-0[95] ต่อมา ในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 3-1[96] จบฤดูกาล เศาะลาห์ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[97]

ทีมชาติอียิปต์

ทีมเยาวชน

ทีมชุดใหญ่

เศาะลาห์ยิงประตูให้ทีมชาติอียิปต์ 5 ประตูคว้าดาวซัลโวในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา ในวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ อียิปต์ เอาชนะ คองโก 2-1 ช่วยให้ อียิปต์ ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1990 ต่อมา ทีมชาติอียิปต์เรียกตัวเศาะลาห์ติดรายชื่อ 23 คน ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดย อียิปต์ ได้อยู่กลุ่มเอ ร่วมกับ อุรุกวัย, รัสเซีย และ ซาอุดีอาระเบีย ต่อมา ในวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ไม่ได้ลงสนาม ในนัดที่ อียิปต์ พ่ายแพ้ อุรุกวัย 0-1 ต่อมา ในวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ลงสนามเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลก นัดแรก และทำประตูจากลูกจุดโทษ ในนัดที่ อียิปต์ พ่ายแพ้เจ้าภาพ รัสเซีย 1-3 ทำให้ อียิปต์ ต้องตกรอบแรกไปในที่สุด [98] ต่อมา ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในฟุตบอลโลก ในนัดที่ อียิปต์ พ่ายแพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 ทำให้ อียิปต์ คว้าอันดับสุดท้ายของกลุ่มเอ แพ้ 3 นัดรวด ตกรอบโดยไม่มีคะแนน [99]

สถิติอาชีพ

สโมสร

ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2020.[100]
สโมสร ฤดูกาล Division ลีก ฟุตบอลถ้วย ลีกคัพ Continental Other[a] รวม
ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
El Mokawloon 2009–10 Egyptian Premier League 3 0 2 0 5 0
2010–11 20 4 4 1 24 5
2011–12 15 7 0 0 15 7
รวม 38 11 6 1 44 12
บาเซิล 2012–13 Swiss Super League 29 5 5 3 16[b] 2 50 10
2013–14 18 4 1 1 10[c] 5 29 10
รวม 47 9 6 4 26 7 79 20
เชลซี 2013–14 พรีเมียร์ลีก 10 2 1 0 0 0 0 0 11 2
2014–15 3 0 1 0 2 0 2[c] 0 8 0
รวม 13 2 2 0 2 0 2 0 19 2
ฟีออเรนตีนา (ยืมตัว) 2014–15 เซเรียอา 16 6 2 2 8[d] 1 26 9
โรมา (ยืมตัว) 2015–16 34 14 1 0 7[c] 1 42 15
โรมา 2016–17 31 15 2 2 8[e] 2 41 19
รวม 65 29 3 2 0 0 15 3 83 34
ลิเวอร์พูล 2017–18 พรีเมียร์ลีก 36 32 1 1 0 0 15[c] 11 52 44
2018–19 38 22 1 0 1 0 12[c] 5 52 27
2019–20 34 19 2 0 0 0 8[c] 4 4[f] 0 48 23
2020–21 0 0 0 0 0 0 0 0 1[g] 0 1 0
รวม 108 73 4 1 1 0 35 20 5 0 153 94
รวมทั้งหมด 287 130 23 10 3 0 86 31 5 0 404 171
  1. Includes other competitive competitions such as the FA Community Shield, UEFA Super Cup, and FIFA Club World Cup
  2. Two appearances in UEFA Champions League, fourteen appearances and two goals in UEFA Europa League
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 Appearances in UEFA Champions League
  4. Appearances in UEFA Europa League
  5. Two appearances in UEFA Champions League, six appearances and two goals in UEFA Europa League
  6. One appearance in FA Community Shield, one appearance in UEFA Super Cup, two appearances in FIFA Club World Cup
  7. One appearance in FA Community Shield

ทีมชาติ

ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2019.[101]
Appearances and goals by national team and year
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
อียิปต์ 2011 2 1
2012 15 7
2013 9 7
2014 9 5
2015 4 2
2016 6 5
2017 11 5
2018 6 7
2019 5 2
รวม 67 41

ประตูในนามทีมชาติ

International goals by date, venue, cap, opponent, score, result and competition
No. Date Venue Cap Opponent Score Result Competition Ref.
1 8 October 2011 Cairo International Stadium, Cairo, Egypt 2 ธงชาติไนเจอร์ ไนเจอร์ 2–0 3–0 2012 Africa Cup of Nations qualification [102]
2 27 February 2012 Thani bin Jassim Stadium, Doha, Qatar 3 ธงชาติเคนยา เคนยา 1–0 5–0 Friendly [103]
3 29 March 2012 Khartoum Stadium, Khartoum, Sudan 6 ธงชาติยูกันดา ยูกันดา 1–1 2–1 [104]
4 31 March 2012 Khartoum Stadium, Khartoum, Sudan 7 ธงชาติชาด ชาด 1–0 4–0 [105]
5 22 May 2012 Al Merrikh Stadium, Omdurman, Sudan 10 ธงชาติโตโก โตโก 2–0 3–0 [106]
6 3–0
7 10 June 2012 Stade du 28 Septembre, Conakry, Guinea 12 ธงชาติกินี กินี 3–2 3–2 2014 FIFA World Cup qualification [107]
8 15 June 2012 Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt 13 Flag of the Central African Republic สาธารณรัฐแอฟริกากลาง 2–1 2–3 2013 Africa Cup of Nations qualification [108]
9 6 February 2013 Vicente Calderón Stadium, Madrid, Spain 18 ธงชาติชิลี ชิลี 1–2 1–2 Friendly [109]
10 9 June 2013 National Sports Stadium, Harare, Zimbabwe 20 ธงชาติซิมบับเว ซิมบับเว 2–1 4–2 2014 FIFA World Cup qualification [110]
11 3–1
12 4–2
13 16 June 2013 Estádio da Machava, Maputo, Mozambique 21 ธงชาติโมซัมบิก โมซัมบิก 1–0 1–0 [111]
14 14 August 2013 El Gouna Stadium, El Gouna, Egypt 22 ธงชาติยูกันดา ยูกันดา 2–0 3–0 Friendly [112]
15 10 September 2013 El Gouna Stadium, El Gouna, Egypt 23 ธงชาติกินี กินี 3–2 4–2 2014 FIFA World Cup qualification [113]
16 5 March 2014 Tivoli-Neu, Innsbruck, Austria 27 ธงชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 2–0 2–0 Friendly [114]
17 30 May 2014 Estadio Nacional Julio Martínez Prádanos, Santiago, Chile 28 ธงชาติชิลี ชิลี 1–0 2–3 [115]
18 10 October 2014 Botswana National Stadium, Gaborone, Botswana 32 ธงชาติบอตสวานา บอตสวานา 2–0 2–0 2015 Africa Cup of Nations qualification [116]
19 15 October 2014 Cairo International Stadium, Cairo, Egypt 33 ธงชาติบอตสวานา บอตสวานา 2–0 2–0 [117]
20 19 November 2014 Stade Mustapha Ben Jannet, Monastir, Tunisia 35 ธงชาติตูนิเซีย ตูนิเซีย 1–0 1–2 [118]
21 14 June 2015 Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt 37 ธงชาติแทนซาเนีย แทนซาเนีย 3–0 3–0 2017 Africa Cup of Nations qualification [119]
22 6 September 2015 Stade Omnisports Idriss Mahamat Ouya, N'Djamena, Chad 38 ธงชาติชาด ชาด 3–1 5–1 [120]
23 25 March 2016 Ahmadu Bello Stadium, Kaduna, Nigeria 40 ธงชาติไนจีเรีย ไนจีเรีย 1–1 1–1 [121]
24 4 June 2016 National Stadium, Dar es Salaam, Tanzania 42 ธงชาติแทนซาเนีย แทนซาเนีย 1–0 2–0 [122]
25 2–0
26 9 October 2016 Stade Municipal de Kintélé, Brazzaville, Republic of the Congo 44 Flag of the Republic of the Congo สาธารณรัฐคองโก 1–1 2–1 2018 FIFA World Cup qualification [123]
27 13 November 2016 Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt 45 ธงชาติกานา กานา 1–0 2–0 [124]
28 25 January 2017 Stade de Port-Gentil, Port-Gentil, Gabon 49 ธงชาติกานา กานา 1–0 1–0 2017 Africa Cup of Nations [125]
29 1 February 2017 Stade de l'Amitié, Libreville, Gabon 51 ธงชาติบูร์กินาฟาโซ บูร์กินาฟาโซ 1–0 1–1 (4–3 p) 2017 Africa Cup of Nations [126]
30 5 September 2017 Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt 55 ธงชาติยูกันดา ยูกันดา 1–0 1–0 2018 FIFA World Cup qualification [127]
31 8 October 2017 Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt 56 Flag of the Republic of the Congo สาธารณรัฐคองโก 1–0 2–1 2018 FIFA World Cup qualification [128]
32 2–1
33 23 March 2018 Letzigrund, Zürich, Switzerland 57 ธงชาติโปรตุเกส โปรตุเกส 1–0 1–2 Friendly [129]
34 19 June 2018 Krestovsky Stadium, Saint Petersburg, Russia 58 ธงชาติรัสเซีย รัสเซีย 1–3 1–3 2018 FIFA World Cup [130]
35 25 June 2018 Volgograd Arena, Volgograd, Russia 59 ธงชาติซาอุดีอาระเบีย ซาอุดีอาระเบีย 1–0 1–2 [131]
36 8 September 2018 Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt 60 ธงชาติไนเจอร์ ไนเจอร์ 3–0 6–0 2019 Africa Cup of Nations qualification [132]
37 5–0
38 12 October 2018 Al Salam Stadium, Cairo, Egypt 61 ธงชาติเอสวาตินี เอสวาตินี 4–0 4–1 [133]
39 16 November 2018 Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt 62 ธงชาติตูนิเซีย ตูนิเซีย 3–2 3–2 [134]
40 26 June 2019 Cairo International Stadium, Cairo, Egypt 65 Flag of the Democratic Republic of the Congo สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 2–0 2–0 2019 Africa Cup of Nations [135]
41 26 June 2019 Cairo International Stadium, Cairo, Egypt 66 ธงชาติยูกันดา ยูกันดา 1–0 2–0 2019 Africa Cup of Nations [136]

เกียรติประวัติ

สโมสร

บาเซิล

เชลซี

ลิเวอร์พูล

ทีมชาติ

อียิปต์

  • African Youth Championship Bronze Medal: 2011
  • Africa Cup of Nations: Runner-up 2017

รางวัลส่วนตัว

  • CAF Most Promising Talent of the Year: 2012
  • UAFA Golden Boy: 2012
  • Swiss Super League Player of the Year: 2013
  • SAFP Golden Player: 2013
  • El Heddaf Arab Footballer of the Year: 2013, 2017, 2018
  • A.S. Roma Player of the Season: 2015–16
  • Globe Soccer Awards Best Arab Player of the Year: 2016
  • CAF Team of the Year: 2016, 2017, 2018
  • CAF Africa Cup of Nations Team of the Tournament: 2017
  • Premier League Player of the Month: พฤศจิกายน 2017, กุมภาพันธ์ 2018, มีนาคม 2018
  • PFA Player of the Month: พฤศจิกายน 2017, ธันวาคม 2017[137], กุมภาพันธ์ 2018[138], มีนาคม 2018[139], ธันวาคม 2018[140], มกราคม 2019, เมษายน 2019
  • BBC African Footballer of the Year: 2017[141], 2018[142]
  • African Footballer of the Year: 2017[143], 2018[144]
  • BBC Goal of the Month: ธันวาคม 2017, กุมภาพันธ์ 2018, เมษายน 2019, กันยายน 2019
  • Goal's Arab Player of the Year: 2017, 2018
  • PFA Players' Player of the Year: 2017–18
  • FWA Footballer of the Year: 2017–18[145]
  • Premier League Golden Boot: 2017–18, 2018–19
  • Premier League Player of the Season: 2017–18
  • PFA Team of the Year: 2017–18
  • Liverpool Player of the Season: 2017–18
  • Liverpool Players' Player of the Season: 2017–18
  • PFA Fans' Player of the Year: 2017–18[146]
  • UEFA Champions League Squad of the Season: 2017–18
  • Onze d'Argent: 2017–18
  • Honorary Citizen of the Chechen Republic: 2018
  • UEFA Men's Player of the Year Award: 2018 (3rd place), 2019 (6th place)
  • UEFA Champions League Forward of the Season: 2017–18 (2nd place), 2018–19 (4th place)
  • FIFA Puskás Award: 2018[147]
  • Football Supporters' Federation Player of the Year: 2018
  • The Best FIFA Men's Player: 2018 (3rd place), 2019 (4th place)
  • FIFA FIFPro World11 2nd team: 2018
  • FIFA FIFPro World11 nominee: 2019 (5th forward)
  • FIFA Club World Cup Golden Ball: 2019
  • Goal 50: 2018 (3rd place), 2019 (3rd place)
  • Football Supporters' Federation Player of the Year: 2018
  • Ballon d'Or: 2018 (6th place), 2019 (5th place)
  • Time 100: 2019
  • ESM Team of the Year: 2017–18
  • ประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของลิเวอร์พูล: (2018–19: เจอกับ เชลซี ในวันที่ 14 เมษายน 2018)
  • IFFHS Men's World Team: 2018, 2019
  • GQ Middle East Man of The Year Award: 2019
  • FIFA World Cup qualification (CAF) top scorer: 2014 (shared)
  • Standard Chartered Liverpool Player of the Month: สิงหาคม 2017[148], กันยายน 2017[149], พฤศจิกายน 2017[150], ธันวาคม 2017[151], กุมภาพันธ์ 2018[152], มีนาคม 2018[153], เมษายน 2018[154], ตุลาคม 2018[155], ธันวาคม 2018[156], เมษายน 2019[157], สิงหาคม 2019[158], มกราคม 2020[159]
  • ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์: สิงหาคม 2017[160], กันยายน 2017, พฤศจิกายน 2017[161], ธันวาคม 2017[162], กุมภาพันธ์ 2018[163], มีนาคม 2018[164], สิงหาคม 2018[165], ตุลาคม 2018[166], ธันวาคม 2018[167], สิงหาคม 2019[168], กันยายน 2019[169], ธันวาคม 2019[170], มกราคม 2020[171], กุมภาพันธ์ 2020[172]

อ้างอิง

  1. "Mohamed Salah". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 17 May 2014.
  2. "Player Profile: Mohamed Salah". chelseafc.com.
  3. ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญาคว้าตัวโมฮาเหม็ด เศาะลาห์ เรียบร้อยแล้ว
  4. ยืนยันเศาะลาห์ใส่เบอร์เสื้อหมายเลข 11 ในฤดูกาลหน้า
  5. สัมภาษณ์แรกของเศาะลาห์: ‘ผมรู้สึกได้ถึงความรัก – ผมจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อลิเวอร์พูล’
  6. เศาะลาห์ยิงประเดิมให้ลิเวอร์พูลตีเสมอวีแกน 1-1
  7. ลิเวอร์พูลถูกวัตฟอร์ดตามตีเสมอในนาทีสุดท้าย
  8. ลิเวอร์พูลคว้าชัยเหนือฮอฟเฟ่นไฮม์ ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มแชมเปียนส์ลีก
  9. ลิเวอร์พูลถล่มอาร์เซนอลขาดลอยที่แอนฟิลด์
  10. ลิเวอร์พูลถูกเซบิยาตีเสมอในเกมแรกของแชมเปียนส์ลีก
  11. ลิเวอร์พูลแบ่งแต้มกับเบิร์นลีย์ที่แอนฟิลด์
  12. ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนเลสเตอร์ถึงคิง เพาเวอร์ สเตเดียม
  13. ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มหรูถล่มมาริบอร์ในแชมเปียนส์ลีก
  14. ลิเวอร์พูลเฉลิมฉลองการทำลายสถิติในค่ำคืนยุโรปที่มาริบอร์
  15. ลิเวอร์พูลพ่ายสเปอร์สที่เวมบลีย์
  16. ลิเวอร์พูลเก็บชัยพร้อมรั้งจ่าฝูงกลุ่ม อี แชมเปียนส์ลีก
  17. เศาะลาห์เหมาสองประตูในเกมลิเวอร์พูลถล่มเวสต์แฮม
  18. เศาะลาห์เหมาสองประตูอีกครั้งในเกมถล่มเซาท์แฮมป์ตัน
  19. ลิเวอร์พูลเสมอเชลซี 1-1
  20. ซูเปอร์ซับ! เศาะลาห์เหมาสองให้ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มสโต๊ก ซิตี้
  21. เศาะลาห์ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน ของพรีเมียร์ลีก
  22. คูตินโญ่กดแฮตทริก! ลิเวอร์พูลถล่มสปาร์ตัก มอสโก 7-0 พร้อมเข้ารอบแชมเปียนส์ลีก
  23. ลิเวอร์พูลเสมอเอฟเวอร์ตันในเกมดาร์บี
  24. ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มบอร์นมัธ พร้อมเก็บคลีนชีต
  25. ลิเวอร์พูลเก็บหนึ่งแต้ม ในเกมสุดมันส์ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม
  26. ลิเวอร์พูลพลิกจากตามหลัง กลับมาคว้าชัยชนะที่แอนฟิลด์
  27. ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนฯ ซิตี้ ไปอย่างสุดมันส์ 4-3
  28. ลิเวอร์พูลพ่ายเวสต์บรอม ตกรอบเอฟเอ คัพ
  29. 25 ประตูใน 32 เกม: อีกหนึ่งสถิติใหม่ของเศาะลาห์
  30. ลิเวอร์พูลกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะที่ฮัดเดอร์สฟิลด์
  31. ลิเวอร์พูลแบ่งแต้มกับสเปอร์สในเกมสุดดราม่าในนาทีสุดท้าย
  32. ลิเวอร์พูลบุกไปคว้าสามแต้มที่เซาท์แฮมป์ตัน
  33. 5 สิ่งที่เราชื่นชอบจากเกมลิเวอร์พูลชนะปอร์โต้
  34. ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 2 หลังถล่มเวสต์แฮม
  35. ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มพร้อมคลีนชีต
  36. เศาะลาห์ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก
  37. เศาะลาห์กด 4 ประตูให้ลิเวอร์พูลถล่มวัตฟอร์ด 5-0
  38. ลิเวอร์พูลไล่กลับมาชนะพาเลซ พร้อมขยับขึ้นอันดับ 2
  39. ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือแมนฯ ซิตี้ ในเกมแชมเปียนส์ลีก เลกแรก
  40. ลิเวอร์พูลไปย้ำแค้นแมนฯ ซิตี้ พร้อมทะลุตัดเชือกชปล.
  41. โมฮาเหม็ด เศาะลาห์ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคม สร้างประวัติศาสตร์ให้กับพรีเมียร์ลีก
  42. ลิเวอร์พูลคว้า 3 แต้ม จากประตูของ 3 ประสาน
  43. ลิเวอร์พูลถูกเวสต์บรอมไล่ตีเสมอท้ายเกม
  44. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ
  45. โมฮาเหม็ด เศาะลาห์ ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ
  46. ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะเหนือโรม่าในเกมเลกแรก รอบรองฯ แชมเปียนส์ลีก
  47. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าว
  48. เศาะลาห์คว้ารางวัลใหญ่ในงานประกาศรางวัลนักเตะลิเวอร์พูล (LFC Players' Awards)
  49. ฉลองชุดใหม่! ลิเวอร์พูลปิดฉากพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2017-18 ด้วยสามแต้ม และคลีนชีต
  50. เศาะลาห์คว้ารางวัลรองเท้าทองคำ พร้อมกับทำสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก
  51. ลิเวอร์พูลพ่ายเรอัลมาดริด ในเกมชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีก
  52. ซาลาห์เซ็นสัญญาใหม่ระยะยาวกับลิเวอร์พูล
  53. Match Report: หงส์แดงถล่มขุนค้อน 4-0 คว้าสามแต้มแรกของฤดูกาล 2018-19
  54. Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนไบรท์ตันจากประตูของซาลาห์
  55. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะ 6 นัดรวดในพรีเมียร์ลีก หลังถล่มเซาท์แฮมป์ตันที่แอนฟิลด์
  56. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนฮัดเดอร์สฟิลด์
  57. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มเร้ดสตาร์ 4-0 ในแชมเปียนส์ลีก (วิดีโอ)
  58. ซาลาห์ทำสถิติยิง 50 ประตู ให้กับลิเวอร์พูลได้รวดเร็วที่สุด (วิดีโอ)
  59. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มคาร์ดิฟฟ์ 4-1
  60. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ต้อนฟูแล่ม 2-0 (วิดีโอ)
  61. Match Report: ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้ม หลังบุกชนะวัตฟอร์ด 3-0
  62. Match Report: แฮตทริกของซาลาห์พาลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มอย่างงดงาม
  63. Match Report: ลิเวอร์พูลเบียดนาโปลีผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมเปียนส์ลีก
  64. Match Report: ซาลาห์ และฟาน ไดจ์ค ยิงคนละประตูช่วยลิเวอร์พูลบุกชนะวูล์ฟส์
  65. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มนิวคาสเซิล 4-0 ในวันบ็อกซิงเดย์
  66. Match Report: ลิเวอร์พูลพลิกจากตามหลัง ถล่มอาร์เซนอล 5-1
  67. Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนไบรท์ตันคว้าสามแต้ม
  68. Match Report: ซาลาห์เบิ้ลให้ลิเวอร์พูลเฉือนพาเลซ 4-3
  69. Match Report: ลิเวอร์พูลกลับขึ้นสู่จ่าฝูงหลังเอาชนะบอร์นมัธที่แอนฟิลด์
  70. Match Report: ลิเวอร์พูลขึ้นจ่าฝูงอีกครั้ง หลังบุกชนะเซาท์แฮมป์ตัน
  71. Match Report: ลิเวอร์พูลเอาชนะเชลซี 2-0 ในเกมสุดเร้าใจที่แอนฟิลด์
  72. Match Report: ลิเวอร์พูลกด 4 ประตูผ่านเข้ารอบรองฯ แชมเปียนส์ลีก
  73. Match Report: ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะอย่างสวยงามเหนือฮัดเดอร์สฟิลด์ 5-0
  74. Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนนิวคาสเซิล พร้อมยึดจ่าฝูงก่อนเกมสุดท้ายของฤดูกาล
  75. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวูล์ฟสที่แอนฟิลด์ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล
  76. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกหลังชนะสเปอร์ส 2-0
  77. Match Report: ลิเวอร์พูลประเดิมเก็บ 3 แต้มแรกในเกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีก
  78. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ หลังดวลจุดโทษชนะเชลซี
  79. Match Report: ซาลาห์กดสองประตูให้ลิเวอร์พูลชนะอาร์เซนอล 3-1
  80. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือนิวคาสเซิลที่แอนฟิลด์
  81. Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนซัลซ์บวร์ก 4-3 ในแชมเปียนส์ลีก
  82. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มเกงค์ในเกมแชมเปียนส์ลีก
  83. Match Report: ลิเวอร์พูลแซงกลับมาชนะสเปอร์ส 2-1
  84. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะแมนฯ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์
  85. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปชนะบอร์นมัธพร้อมเก็บคลีนชีต
  86. Match Report: ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบแชมเปียนส์ลีกหลังบุกคว้าชัยเหนือซัลซ์บวร์ก
  87. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวัตฟอร์ด
  88. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คลับ เวิลด์ ที่กาตาร์
  89. Match Report: ลิเวอร์พูลเริ่มต้นปี 2020 ด้วยการเก็บชัยชนะเหนือเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 2-0
  90. Match Report: ประตูจากฟาน ไดจ์ค และ ประตูท้ายเกมจากซาลาห์ ช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  91. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มพร้อมเก็บคลีนชีตในเกมกับเวสต์แฮม
  92. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มเซาท์แฮมป์ตัน 4-0
  93. Match Report: มาเน่ทำประตูชัยให้ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะที่แอนฟิลด์
  94. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะบอร์นมัธในเกมพรีเมียร์ลีก
  95. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มพาเลซ 4-0 ที่แอนฟิลด์
  96. Match Report: ลิเวอร์พูลเยือนไบรท์ตันพร้อมเก็บสามแต้มกลับเมอร์ซีย์ไซด์
  97. อัลบั้มภาพ: ทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
  98. ‘รัสเซีย’ ต้อน ‘อียิปต์’ จ่อเข้ารอบทีมแรกฟุตบอลโลก2018 เรียกข้อมูลเมื่อ 10-10-2018 จาก ข่าวสด วันที่ 20 มิถุนายน 2561 - 03:00 น.
  99. ซาอุดิอาระเบีย ยิงนาทีสุดท้ายคว่ำ อียิปต์ จบอันดับ 3 คว้าชัยนัดแรกรอบ 24 ปี เรียกข้อมูลเมื่อ 10-10-2018 จาก ข่าวสด วันที่ 25 มิถุนายน 2561 - 23:06 น
  100. "Mohamed Salah". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 23 September 2015.
  101. Mohamed.html "มุฮัมมัด เศาะลาห์". National Football Teams. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016. {{cite web}}: ตรวจสอบค่า |url= (help)
  102. Kingsley Kobo (8 October 2011). "Egypt 3–0 Niger: The Pharaohs thrash the Mena, who qualify nonetheless". Goal.com. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  103. Ahmed Abd El Rasoul (27 February 2012). "'Mourning' Pharaohs hammer Kenya in Doha friendly". Al-Ahram. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  104. "Egypt/Uganda: Nation beats Uganda 2–1 in friendly in Sudan". AllAfrica.com. 30 March 2012. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  105. Mahmoud Elassal (1 April 2012). "Egypt crush Chad 4–0 in friendly game". Al-Ahram. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  106. "Egypt 3–0 Togo: Mohamed Salah nets brace in Pharaohs win". Goal.com. 23 May 2012. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  107. "Guinea 2–3 Egypt: Aboutrika brace and Salah's last-gasp winner power Pharaohs in Conakry". Goal.com. 10 June 2012. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  108. "Egypt 2–3 Central African Republic: Momi double stuns Pharaohs in Alexandria". Goal.com. 15 June 2012. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  109. Habib El Magrissy (6 February 2013). "Egypt fall to Chile in Madrid". KingFut. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  110. "Egypt thrash Zimbabwe 4–2 to secure 12-point lead". starafrica.com. 9 June 2013. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  111. "Egypt qualify for the final World Cup qualifying play-offs after beating Mozambique 1–0". EPFA Egypt.com. 16 June 2013. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  112. "Egypt beat Uganda 3–0 as friendly goes ahead despite political upheaval". Al-Ahram. 14 August 2013. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  113. Hatem Maher (10 September 2013). "Egypt maintain perfect World Cup qualifying run with 4–2 win". Al-Ahram. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  114. Hatem Maher (5 March 2014). "Egypt give Gharib winning start with 2–0 victory over Bosnia". Al-Ahram. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  115. "Egypt fall 3-2 in Santiago to World Cup-bound Chile". KingFut. 31 May 2014. สืบค้นเมื่อ 18 February 2019.
  116. Hatem Maher (10 October 2014). "Egypt revive Nations Cup hopes with 2–0 win in Botswana". Al-Ahram. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  117. "Egypt seal double over Botswana in 2015 AFCON qualifying". KingFut. 15 October 2014. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  118. "RELIVE: Tunisia v Egypt (2015 AFCON qualifiers)". Al-Ahram. 19 November 2014. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  119. "Salah leads Egypt to 3–0 thrashing of Tanzania". africanfootball.com. 14 June 2015. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  120. Omar Zaazou (6 September 2015). "Morsi hat-trick helps Egypt thump Chad 5–1 away from home". Al-Ahram. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  121. "Afcon 2017: Salah scores late leveller for Egypt against Nigeria". BBC Sport. 25 March 2016. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  122. Khaled Ali (4 June 2016). "Salah brace against Tanzania seals AFCON comeback". KingFut. สืบค้นเมื่อ 27 July 2016.
  123. "Egypt earn comeback win at Congo to lead World Cup qualifying group". Al-Ahram. 9 October 2016. สืบค้นเมื่อ 9 October 2016.
  124. "Egypt 2 Ghana 0: Salah, Said put Black Stars in trouble". Yahoo Sports. 13 November 2016. สืบค้นเมื่อ 13 November 2016.
  125. "Egypt v Ghana: AFCON 2017 – as it happened". The Guardian. 25 January 2017. สืบค้นเมื่อ 25 January 2017.
  126. "Burkina Faso 1–1 Egypt (3–4 pens): AFCON 2017 semi-final – as it happened". The Guardian. 1 February 2017. สืบค้นเมื่อ 1 February 2017.
  127. "2018 World Cup: Egypt leapfrog Uganda at top of Group E". BBC Sport. 5 September 2017. สืบค้นเมื่อ 5 September 2017.
  128. "Liverpool star Mo Salah sends Egypt to Russia 2018 with winner in fifth minute of added time against Congo". Daily Mirror. 8 October 2017. สืบค้นเมื่อ 8 October 2017.
  129. "Salah goal spoiled by Ronaldo double as Portugal earn 2–1 win over brave Egypt". Al-Ahram. 5 September 2017. สืบค้นเมื่อ 23 March 2018.
  130. Amy Lawrence (19 June 2018). "Russia all but qualify for knockout stage with win over Mo Salah's Egypt". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 18 February 2019.
  131. Mahmoud Khaled (25 June 2018). "Egypt finish bottom of World Cup group after last-gasp defeat to Saudi Arabia". KingFut. สืบค้นเมื่อ 18 February 2019.
  132. Luke McBride (8 September 2018). "Aguirre's first game ends in Egypt beating Niger 6-0 in AFCON qualifier". KingFut. สืบค้นเมื่อ 18 February 2019.
  133. Mahmoud Khaled (12 October 2018). "Handy victory for Egypt against Eswatini in AFCON qualifiers". KingFut. สืบค้นเมื่อ 18 February 2019.
  134. Ali Ismail (16 November 2018). "Egypt beat Tunisia in thrilling form in AFCON qualifiers". KingFut. สืบค้นเมื่อ 18 February 2019.
  135. "Africa Cup of Nations round-up: Mohamed Salah scores for Egypt to send them into last 16". Sky Sports. 26 June 2019. สืบค้นเมื่อ 26 June 2019.
  136. "Egypt secures Group A top spot as they down Uganda 2-0". KingFut. 30 June 2019. สืบค้นเมื่อ 30 June 2019.
  137. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพีเอฟเอ
  138. เศาะลาห์คว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำเดือนกุมภาพันธ์
  139. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ประจำเดือนมีนาคม ของพีเอฟเอ
  140. ซาลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพีเอฟเอ
  141. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปีของบีบีซี
  142. ซาลาห์คว้ารางวัลนักฟุตบอลแอฟริกันแห่งปีของ BBC
  143. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปีของซีเอเอฟ
  144. ซาลาห์คว้ารางวัลนักเตะแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปีของซีเอเอฟ
  145. เศาะลาห์รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าว
  146. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะแห่งปีของพีเอฟเอ จากการโหวตของแฟนๆ
  147. ซาลาห์คว้ารางวัลปุสกัส อวอร์ด
  148. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม
  149. เศาะลาห์เหมารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม และประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน
  150. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน
  151. เศาะลาห์ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ประจำเดือนธันวาคม
  152. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสโมสรลิเวอร์พูลประจำเดือน ก.พ.
  153. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน เป็นครั้งที่ 6!
  154. เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนครั้งที่ 7
  155. ซาลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน ต.ค. ของลิเวอร์พูล
  156. ซาลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เดือนธันวาคม (วิดีโอ)
  157. โม ซาลาห์ คือผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายนของลิเวอร์พูล
  158. ซาลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคมของลิเวอร์พูล (วิดีโอ)
  159. ซาลาห์คว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคมของลิเวอร์พูล
  160. ประตูหลุดเดี่ยวของเศาะลาห์ในชัยชนะเหนืออาร์เซนอล คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน ส.ค.
  161. เศาะลาห์คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน
  162. รางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน ธ.ค. ของลิเวอร์พูล
  163. ประตูโซโล่เดี่ยวของเศาะลาห์คว้าประตูประจำยอดเยี่ยมเดือนกุมภาพันธ์
  164. รางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคมของลิเวอร์พูล
  165. ซาลาห์คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูล เดือนสิงหาคม
  166. เผยรางวัลประตูยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูลสำหรับเดือนตุลาคม (วิดีโอ)
  167. ซาลาห์คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน ธ.ค.
  168. ซาลาห์คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน ส.ค. ของลิเวอร์พูล
  169. ซาลาห์คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน ก.ย. ของลิเวอร์พูล
  170. ซาลาคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนธ.ค.
  171. ซาลาห์คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคมของลิเวอร์พูล
  172. ซาลาห์คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์

หงส์แดงมีเสียว สองยักษ์ใหญ่ พร้อมดึงตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์

แหล่งข้อมูลอื่น