ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คาราบาว"
→เบ็ดเตล็ด: ปรับปรุงเนื้อหาครั้งใหญ่ |
|||
บรรทัด 170: | บรรทัด 170: | ||
* กินลม ชมบาว: [[9 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2556]] ที่ บ้านแอ๊ด คาราบาว สัตหีบ |
* กินลม ชมบาว: [[9 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2556]] ที่ บ้านแอ๊ด คาราบาว สัตหีบ |
||
== เกร็ด == |
|||
== เบ็ดเตล็ด == |
|||
⚫ | |||
* คาราบาว เป็นวงดนตรีของ[[เอเชีย]]วงแรกที่มีรูปขึ้นบน[[ไฟแช็ก]][[ซิปโป้]]เหมือนศิลปินที่มีชื่อเสียงวงอื่น ๆ ของต่างประเทศ |
|||
⚫ | |||
* คาราบาว ได้รับฉายาจาก[[ชาวตะวันตก|ชาวต่างประเทศ]]ว่าเป็น ''[[เดอะโรลลิงสโตนส์|โรลลิ่ง สโตน]]เมืองไทย'' |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | * ประมาณปี |
||
⚫ | |||
⚫ | |||
* ในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน [[พ.ศ. 2556]] ทาง [[วอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์]] ได้ร่วมมือกับ [[เซเว่น อีเลฟเว่น|Seven Eleven]] และ Book Smlie ในการแจก Carabao MP3 Collection ซึ่งใน Mp3 จะเป็นเพลงสมัยแรกของวง |
|||
* ชื่อ คาราบาว ที่ต่อท้ายชื่อเล่นของบุคคล ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนักร้อง นักดนตรีในวงเท่านั้น แต่ในบางครั้งจะใช้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเคยร่วมงานกับวงด้วย เช่น นก คาราบาว (นักร้องประสานเสียงหญิง) ป๋อง คาราบาว (ผู้จัดการวง) เป็นต้น |
|||
* คาราบาว ได้ชื่อว่าเป็นวงที่ไม่มีสังกัดที่แน่นอน และในการออกอัลบั้มแต่ละชุด จะทำงานกับสังกัดหรือ[[ค่ายเพลง]]เป็นการเฉพาะไป เช่นอัลบั้ม [[เมด อิน ไทยแลนด์ (อัลบั้ม)|เมด อิน ไทยแลนด์]] ที่สร้างชื่อให้ในปี [[พ.ศ. 2527]] แม้ไม่ได้มีสังกัดที่แน่นอน แต่ก็มี[[จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่|แกรมมี่]]สนับสนุนอยู่ มีเพียงตั้งแต่ปี [[พ.ศ. 2545]] ได้สังกัดกับ[[วอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์]] และทางวงเคยตั้งบริษัทเพื่อดูแลผลประโยชน์ของวงขึ้นมา ในชื่อ กระบือ แอนด์ โค |
|||
== มิวสิควีดีโอของคาราบาว == |
== มิวสิควีดีโอของคาราบาว == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:25, 5 กุมภาพันธ์ 2559
คาราบาว | |
---|---|
ไฟล์:Carabao-Logo.gif | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ที่เกิด | มะนิลา, ประเทศฟิลิปปินส์ |
แนวเพลง | ร็อก, เพื่อชีวิต |
ช่วงปี | พ.ศ. 2524 - ปัจจุบัน |
ค่ายเพลง | พีค็อก, อโซน่า, แกรมมี่, แว่วหวาน, วอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์, ดี-เดย์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์, กระบือ แอนด์ โค, มองโกล |
สมาชิก | ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) ปรีชา ชนะภัย (เล็ก) เทียรี่ เมฆวัฒนา (รี่) เกริกกำพล ประถมปัทมะ (อ๊อด) ลือชัย งามสม (ดุก) ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ (หมี) ชูชาติ หนูด้วง (โก้) ธนะสิทธิ์ พันธุ์พงษ์ไทย (อ้วน) |
อดีตสมาชิก | สานิตย์ ลิ่มศิลา (ไข่) กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว) ไพรัช เพิ่มฉลาด (รัช) อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี (เล็ก) อำนาจ ลูกจันทร์ (เป้า) ศยาพร สิงห์ทอง (น้อง) |
เว็บไซต์ | http://www.carabao.net |
คาราบาว (อังกฤษ: Carabao) เป็นวงดนตรีเพื่อชีวิตและยังเป็นตำนานเพลงเพื่อชีวิตที่มีชื่อเสียงโด่งดังและยังเป็นวงที่อมตะตลอดกาล[1] ของไทย โดยมี ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) เป็นหัวหน้าวง
ประวัติ
ก่อตั้ง
วงคาราบาวเกิดจากการก่อตั้งโดยนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีมาปัว กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ 3 คน คือแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล, เขียว - กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร และไข่ - สานิตย์ ลิ่มศิลา ขึ้นที่นั่น ในปี พ.ศ. 2523 โดยคำว่า คาราบาว เป็นภาษาตากาล็อก คือภาษาพื้นเมืองของฟิลิปปินส์ แปลว่า ควาย หรือคนใช้แรงงาน ซึ่งทางฟิลิปปินส์ถือเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นเกษตร โดยหมายจะเป็นวงดนตรีที่มีเนื้อหาเพื่อชีวิต
แอ๊ดได้มีโอกาสฟังเพลงของ เลด เซพเพลิน, จอห์น เดนเวอร์, ดิ อีเกิ้ลส์ และปีเตอร์ แฟลมตัน จากแผ่นเสียงที่ไข่สะสมไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมาทั้ง 3 คนจึงร่วมกันตั้งวงดนตรีขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า คาราบาว เพื่อใช้ในการแสดงบนเวทีในงานของมหาวิทยาลัย โดยเล่นดนตรีโฟล์คในเนื้อหาที่สะท้อนสภาพปัญหาและความเป็นจริงของสังคม
เมื่อกลับมาเมืองไทย แอ๊ดและเขียวได้ร่วมกันเล่นดนตรีในเวลากลางคืน โดยกลางวันแอ๊ดทำงานอยู่ที่การเคหะแห่งชาติ ขณะที่เขียวทำให้กับบริษัทฟิลิปปินส์ที่มาเปิดในประเทศไทย ส่วนไข่ก็ขอลาออกจากวงและแยกตัวออกไปทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ภาคใต้ ทั้งคู่ออกอัลบั้มชุดแรกของวง ในชื่อ ขี้เมา เมื่อปี พ.ศ. 2524 และแอ๊ดก็ได้ติดต่อวง โฮป ให้มาเล่นเป็นแบ็คอัพในอัลบั้มชุดนี้ แต่ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ได้มีสมาชิกในวงเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน คือเล็ก - ปรีชา ชนะภัย จากวงเพรสซิเดนท์ และออกอัลบั้มเป็นชุดที่ 2 ในชื่อ แป๊ะขายขวด โดยเล็กได้ชักชวนวงเพรสซิเดนท์ทั้งวงรวมทั้งอ๊อด - อนุพงษ์ ประถมปัทมะ มือเบสที่ตอนนั้นยังอยู่ในวงเพรสซิเดนท์ให้มาเล่นเป็นแบ็คอัพของทั้ง 3 คน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอีก
รุ่งเรือง
คาราบาว เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในอัลบั้มชุดที่ 3 ในปี พ.ศ. 2526 จากอัลบั้ม วณิพก กับสังกัดอโซน่า ด้วยเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม โดยมีทีมแบ็คอัพชุดเดิม คือวงเพรสซิเดนท์ แต่ได้หมู - พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ เข้ามาเล่นให้ด้วย และมีเนื้อหาที่แปลกแผกไปจากเพลงในยุคนั้น ๆ และดนตรีที่เป็นท่วงทำนองแบบไทย ๆ ผสมกับตะวันตก มีจังหวะที่สนุกสนาน ชวนให้รู้สึกคึกคัก เต้นรำได้ จึงสามารถแทรกตัวเองเข้าไปอยู่ในดิสโก้เทคได้เป็นเพลงแรกของไทย[2] ต่อมาในปลายปีเดียวกัน คาราบาวก็ได้ออกอัลบั้มชุดที่ 4 คือ ท.ทหารอดทน ซึ่งได้ อำนาจ ลูกจันทร์ และไพรัช เพิ่มฉลาด เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในวง ในตำแหน่งมือกลอง และมือเบสตามลำดับ แต่กลับเริ่มมีปัญหากับสังกัดอโซน่าในการทำเพลง รวมทั้งเป็นอัลบั้มแรกของวงที่มีเพลงที่ถูก คณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) สั่งห้ามนำไปเผยแพร่ออกอากาศตามสื่อต่าง ๆ คือเพลง ท.ทหารอดทน และ ทินเนอร์ แต่ถึงกระนั้น ก็ยังประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายอย่างมาก
ความโด่งดังของอัลบั้ม ท.ทหารอดทน ทำให้วงคาราบาวทั้งวงได้เป็นแขกรับเชิญในภาพยนตร์เรื่อง ปล.ผมรักคุณ รวมทั้งสมาชิกแบ็คอัพ คือ เทียรี่ เมฆวัฒนา และอ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดีด้วย พร้อมกับวงเพรสซิเดนท์
คาราบาวประสบความสำเร็จมากที่สุดในปลายปี พ.ศ. 2527 เมื่อออกอัลบั้มชื่อว่า เมด อิน ไทยแลนด์ เป็นอัลบั้มชุดที่ 5 ซึ่งทำยอดขายได้ถึง 5,000,000 ตลับ ซึ่งเป็นสถิติยอดจำหน่ายอัลบั้มเพลงของศิลปินไทยที่สูงที่สุดของไทยที่ขณะนั้นยังไม่มีใครทำลายได้ และเมื่อคาราบาวจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก คือ คอนเสิร์ตทำโดยคนไทย ที่เวโลโดรม หัวหมาก ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ก็มียอดผู้ชมถึง 60,000 คน แต่กลับเกิดเหตุสุดวิสัยคือผู้ชมขึ้นไปชมคอนเสิร์ตบนอัฒจันทร์ที่เลิกใช้งานแล้ว และมีชมตีกันกลางคอนเสิร์ต จนกลายเป็นนิยามว่า คาราบาวเล่นที่ไหนก็มีแต่คนตีกัน[3] แอ๊ดเตือนเรื่องความปลอดภัยของอัฒจันทร์ ในที่สุดก่อนจบการแสดงครึ่งชั่วโมง และเหลือเพลงที่ยังไม่ได้แสดงอีก 3 เพลง รวมทั้งเพลง เรฟูจี ที่สุรสีห์ อิทธิกุลต้องขึ้นไปขับร้องกับวงคาราบาวด้วย และเพลงประจำคอนเสิร์ตทำโดยคนไทย คือ เมด อิน ไทยแลนด์ อัฒจันทร์ก็ได้ถล่มลงมาทับผู้ชม จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แอ๊ดจึงประกาศยุติคอนเสิร์ตโดยทันที และเพลงสุดท้ายที่แอ๊ดร้อง คือ รอยไถแปร[4]
โดยสมาชิกในวงคาราบาวในยุคนั้นเรียกว่า ยุคคลาสสิก มีสมาชิกในวงทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย
- ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) : หัวหน้าวง ร้องนำ กีตาร์ แต่งเพลงและดนตรี
- ปรีชา ชนะภัย (เล็ก) : ร้องนำ กีตาร์ แต่งเพลงและดนตรีบางส่วน
- เทียรี่ เมฆวัฒนา (รี่) : ร้องนำ กีตาร์
- กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว) : ร้องนำบางส่วนและประสานเสียง กีตาร์ ควบคุมการผลิต
- อนุพงษ์ ประถมปัทมะ (อ๊อด) : เบส
- อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี (เล็ก,ธนิสร์) : ขลุ่ย, ร้องนำบางส่วนและประสานเสียง, แซกโซโฟน, คีย์บอร์ด, ระนาด
- อำนาจ ลูกจันทร์ (เป้า) : กลอง, เพอร์คัสชั่น
ระหว่างปี พ.ศ. 2527 - พ.ศ. 2533 เรียกได้ว่าเป็นปีทองของคาราบาว โดยมีแอ๊ดเป็นผู้นำ โดยออกอัลบั้มออกมาทั้งหมด 5 ชุด ทุกชุดประสบความสำเร็จทั้งหมด ได้เล่นคอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรปหลายครั้ง รวมทั้งปี พ.ศ. 2528 วงคาราบาวได้แสดงภาพยนตร์เรื่องเสียงเพลงแห่งเสรีภาพร่วมกันทั้งวง มีหลายเพลงที่ฮิตและติดอยู่ในความทรงจำของแฟน ๆ คาราบาวจนถึงปัจจุบัน เช่น เมด อิน ไทยแลนด์, มหาลัย, เรฟูจี, บัวลอย (ถึกควายทุย ภาค ๕), คนจนผู้ยิ่งใหญ่, มะโหนก (ถึกควายทุย ภาค ๖), เจ้าตาก, เวลคัม ทู ไทยแลนด์, กระถางดอกไม้ให้คุณ, คนหนังเหนียว, บาปบริสุทธิ์, แม่สาย, ทับหลัง, รักทรหด เป็นต้น อีกทั้งได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงไทยในด้านต่าง ๆ เช่นดังนี้
- เป็นศิลปินกลุ่มแรกของไทยที่มีโฆษณาลงในปกอัลบั้มและได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ ในสังคม เช่น โค้ก
- การแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวง ที่ชื่อ ทำโดยคนไทย ในปี พ.ศ. 2528 นับเป็นคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ครั้งแรกของไทย และเป็นครั้งแรกด้วยที่มีการแสดงดนตรีในเวทีกลางแจ้ง
- อัลบั้ม เมด อิน ไทยแลนด์ ที่เป็นประวัติศาสตร์ของวงการเพลงไทย แม้จะไม่มีมิวสิกวีดีโอ แต่เมื่อเพลงได้ถูกเผยแพร่ออกไป และได้รับความนิยมถึงขีดสุด ทางรัฐบาลในขณะนั้นนำโดย พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในเนื้อหาที่รณรงค์ให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย จึงได้จัดทำมิวสิกวีดีโอขึ้นมาต่างหากเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ แต่ไม่ได้ส่งเสริมการขายอัลบั้มแต่อย่างใด
แต่เพลงของวงคาราบาวบางเพลง แอ๊ดจะแต่งโดยมีเนื้อหาส่อเสียด จึงมักจะถูก คณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) สั่งห้ามนำไปเผยแพร่ออกอากาศเสมอ ๆ ในแต่ละอัลบั้ม เฉพาะในยุคก่อตั้งจนถึงยุคคลาสสิกจะมีเพลง ท.ทหารอดทน, ทินเนอร์ ในอัลบั้ม ท.ทหารอดทน, หำเทียม ในอัลบั้ม เมด อิน ไทยแลนด์, หำเฮี้ยน ในอัลบั้ม อเมริโกย, วันเด็ก, ผู้ทน, ค.ควาย ค.คน ในอัลบั้ม ประชาธิปไตย และ พระอภัยมุณี ในอัลบั้ม ทับหลัง
แยกย้าย
ในปี พ.ศ. 2532 เป็นปีแยกตัวของวงคาราบาว โดยสมาชิกแต่ละคนได้แยกย้ายกันไปทำอัลบั้มเดี่ยวของตนเอง มีดังนี้ แอ๊ด - ยืนยง โอภากุล และอ๊อด - อนุพงษ์ ประถมปัทมะ ในชุด ทำมือ, เล็ก - ปรีชา ชนะภัย ในชุด ดนตรีที่มีวิญญาณ และมีสมาชิกในวง 4 คนที่ได้แยกตัวเป็นอิสระออกไป คือ เขียว - กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร ซึ่งได้ออกอัลบั้มเดี่ยวคือชุด ก่อกวน รวมทั้ง เทียรี่ เมฆวัฒนา, อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และเป้า - อำนาจ ลูกจันทร์ ก็ได้แยกตัวออกจากวง และออกอัลบั้มร่วมกันในชุด ขอเดี่ยวด้วยคนนะ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำอัลบั้มเดี่ยวจริง ๆ ของแต่ละคน ส่วนทางวงคาราบาวก็ได้รับสมาชิกเพิ่มเข้ามา มาแทนที่ตำแหน่งที่ออกไปคือดุก - ลือชัย งามสม และโก้ - ชูชาติ หนูด้วง ในอัลบั้ม วิชาแพะ ในปี พ.ศ. 2534 และยังคงออกอัลบั้มต่อมา แต่ในปี พ.ศ. 2536 หมี - ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ เข้ามาร่วมวงในตำแหน่งกีตาร์โซโล่ เล็ก - ปรีชา ชนะภัย จึงแยกตัวออกไป ต่อมาทางวงได้สมาชิกใหม่อีก 1 คน คือ น้อง - ศยาพร สิงห์ทอง ในอัลบั้ม แจกกล้วย ในปี พ.ศ. 2538 และในปีเดียวกันนั้น คาราบาวมีอายุครบ 15 ปี คาราบาวจึงได้ออกอัลบั้มชุดพิเศษ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันอีกครั้งของสมาชิกในยุคคาสสิกทั้ง 7 คน ในชื่อชุด หากหัวใจยังรักควาย โดยออกมาถึง 2 ชุดด้วยกัน และมีการจัดคอนเสิร์ตปิดอัลบั้มคือ คอนเสิร์ตปิดทองหลังพระ ในปี พ.ศ. 2539 แต่หลังจากคอนเสิร์ตปิดทองหลังพระ ชื่อเสียงและความนิยมของวงคาราบาวเริ่มสร่างซาลง เนื่องจากกระแสดนตรีที่เปลี่ยนไป แต่ทางวงก็ยังคงผลิตผลงานออกมาอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเล็ก - ปรีชา ชนะภัย, เทียรี่ เมฆวัฒนา ที่แยกตัวออกไปได้กลับมาร่วมวงอีกครั้งตั้งแต่อัลบั้ม อเมริกันอันธพาล ปี พ.ศ. 2541 จนถึงปัจจุบัน มีเพลงดังในช่วงตกอับนี้คือเพลง บางระจันวันเพ็ญ ในอัลบั้ม เซียมหล่อตือ หมูสยาม และทางวงก็ได้รับสมาชิกใหม่คืออ้วน - ธนะสิทธิ์ พันธุ์พงษ์ไทย ในตำแหน่งมือกลอง ขลุ่ย และแซกโซโฟนตั้งแต่อัลบั้ม สาวเบียร์ช้าง ปี พ.ศ. 2544 จนถึงปัจุบัน
คาราบาวแดง
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 คาราบาวได้กลับมาเป็นที่ฮือฮาอีกครั้งของสังคม เมื่อทางวงนำโดยแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล ร่วมทุนกับบริษัทโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงผลิตสินค้าของตัวเองออกมาวางจำหน่าย เป็นเครื่องดื่มชูกำลัง ยี่ห้อ คาราบาวแดง ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม และวงก็ได้ออกอัลบั้มชุดที่ 23 คือ นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบของคนบางกลุ่มด้วย เนื่องมาจากการที่คาราบาวเองที่เป็นวงดนตรีเพื่อชีวิต แต่คราวนี้กลับทำตัวเป็นนายทุนเสียเอง เป็นการสมควรหรือไม่ อีกทั้งยังมีแง่มุมในการสมควรหรือไม่ที่ใช้วีรกรรมของวีรชนชาวไทยในอดีตมาใช้ในโฆษณาตัวแรกของคาราบาวแดงซึ่งออกฉายครั้งแรกทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2545 เวลา 18.30 น. เช่น ชาวบ้านบางระจัน, ท้าวสุรนารี หรือยุทธนาวีเกาะช้าง เป็นต้น
ปัจจุบัน
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นปีที่ทางวงวางจำหน่ายอัลบั้ม ลูกลุงขี้เมา ที่ทางวงจัดทำขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีของวง ทางวงได้ปรับไลน์อัพของวงไปเป็นลักษณะแบบปัจจุบัน เนื่องจากน้อง - ศยาพร สิงห์ทอง ได้ขอลาออกจากวงจากปัญหาเรื่องสุขภาพ และได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557 ส่วนทางวงก็มีผลงานต่อมาอีก 3 ชุด โดยมีเหตุการณ์สำคัญระหว่างออกอัลบั้ม คือ ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2553 มีกระแสข่าวออกมาว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของคาราบาว เพื่อผลประโยชน์ด้านการเมือง และเพื่อให้การบริหารจัดการในวงมีความคล่องตัวมากขึ้น แต่นายวินิจ เลิศรัตนชัย ผู้บริหารบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ในฐานะผู้จัดมหกรรมดนตรี 30 ปี คาราบาว ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีของคาราบาวในวาระครบรอบ 30 ปีของวง ซึ่งแสดงเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ตลอดทั้งปี พ.ศ. 2554 - พ.ศ. 2555 เพื่อโปรโมทอัลบั้ม กำลังใจคาราบาว 30 ปี ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว[5][6] และอัลบั้มชุดล่าสุดที่วงคาราบาวออกจำหน่าย คือ สวัสดีประเทศไทย ซึ่งวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2557
จนถึงปัจจุบันนี้ คาราบาวมีอัลบั้มทั้งสิ้น 28 ชุด ไม่นับรวมถึงอัลบั้มพิเศษของทางวงหรือของสมาชิกในวง หรือบทเพลงในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากนับรวมกันแล้วคงมีไม่ต่ำกว่า 100 ชุด มีเพลงไม่ต่ำกว่า 1,000 เพลง เป็นวงดนตรีที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดทั้งในวงการดนตรีทั่วไปและวงการเพลงเพื่อชีวิต เป็นที่รู้จักของผู้คนในสังคมทุกเพศ ทุกวัย ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ฟังเพลง หรือผู้ที่นิยมในเพลงเพื่อชีวิตเท่านั้น จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ตำนานเพลงเพื่อชีวิต
สมาชิก
สมาชิกปัจจุบัน
- ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) : หัวหน้าวง, ร้องนำ, กีตาร์, แต่งเพลงและดนตรี, ประสานเสียง (พ.ศ. 2524 - ปัจจุบัน)
- ปรีชา ชนะภัย (เล็ก) : ร้องนำ, กีตาร์, แต่งเพลงและดนตรีบางส่วน, ประสานเสียง (พ.ศ. 2525 - 2535 , 2538 - 2539 , 2541 - ปัจจุบัน)
- เทียรี่ เมฆวัฒนา (รี่) : ร้องนำ, กีตาร์, ประสานเสียง (พ.ศ. 2526 - 2532 , 2538 - 2539 , 2541 - ปัจจุบัน)
- เกริกกำพล ประถมปัทมะ (อ๊อด) : เบส, ประสานเสียง (พ.ศ. 2528 - ปัจจุบัน)
- ลือชัย งามสม (ดุก) : คีย์บอร์ด, แตร, แอกคอร์เดียน, ร้องนำบางส่วน, ประสานเสียง (พ.ศ. 2534 - ปัจจุบัน)
- ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ (หมี) : กีตาร์, ประสานเสียง, แมนโดลิน (พ.ศ. 2535 - ปัจจุบัน)
ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ หรือ หมี คาราบาว เกิดวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2509จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชื่อเล่นว่า หมี เป็นมือกีตาร์ของวงคาราบาวในยุคปัจจุบัน เข้าร่วมวงกับคาราบาวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 จากอัลบั้ม ช้างไห้
ที่หมีมีสไตล์การเล่นกีตาร์ที่ดุดัน เช่น เพลง แร้งคอย, เช กูวาร่า, เปาบุ้นจิ้นกับคนตัดไม้, แม่สาว, เต่า, หลวงพ่อคูณ ถือได้ว่าเป็นผู้ที่ทำให้คาราบาวเปลี่ยนจากดนตรีแนวเพื่อชีวิตแท้ ๆ ให้กลายเป็นแนวร็อก เห็นได้ชัดในเพลง ลุงขี้เมา ที่มีการเล่นเป็นร็อกแตกต่างจากในอดีตที่เล็ก - ปรีชา ชนะภัย เล่น ชอบเล่นในสไตล์บลู ฟั๊งก์ ในอดีตเคยเป็นมือกีตาร์ของฤทธิพร อินสว่าง และวง Up the earth band และนอกจากเล่นกีตาร์ได้ดีแล้วยังเล่นแมนโดลินได้อีกด้วย
ชีวิตส่วนตัว สมรสแล้วมีลูกสาว 2 คนคือ ดาเรศ หุตะวัฒนะ และ ดารารัตน์ หุตะวัฒนะ ซึ่งปัจจุบันเป็นคอรัสให้กับคาราบาว และยังขายสุนัขที่ตลาดนัดสวนจตุจักร
- ชูชาติ หนูด้วง (โก้) : กลอง, เครื่องเคาะ (พ.ศ. 2534 - ปัจจุบัน)
ชูชาติ หนูด้วง หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โก้ คาราบาว มือกลองของวงคาราบาว มีชื่อเล่นว่า โก้ เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นชาวไทยมุสลิม จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
โก้ ตีกลองในแนวเฮฟวี่ เมทัลและเคยร่วมเป็นสมาชิกในวงดนตรีเฮฟวี่ เมทัลต่าง ๆ มาแล้ว เป็นจำนวนมาก เช่น นิวเวฟ, คาไลโดสโคป, ชัคกี้ ธัญญรัตน์ และ บลู พลาเน็ต เป็นต้น
เข้าร่วมวงคาราบาวในหน้าที่มือกลองอัลบั้มชุดที่ 11 วิชาแพะ ในปี พ.ศ. 2534 และเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในอัลบั้ม สัจจะ ๑๐ ประการ จนถึงปัจจุบัน
- ธนะสิทธิ์ พันธุ์พงษ์ไทย (อ้วน) : ขลุ่ย, กลอง, เพอร์คัสชั่น, แซ็กโซโฟน ประสานเสียง (พ.ศ. 2544 - ปัจจุบัน)
อดีตสมาชิก
- สานิตย์ ลิ่มศิลา (ไข่) : กีตาร์ (ร่วมก่อตั้งวงแต่ไม่ได้ออกอัลบั้ม)
- ไพรัช เพิ่มฉลาด (รัช) : เบส (พ.ศ. 2526 - 2527) (เสียชีวิต)
- ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี (เล็ก, ธนิสร์) : คีย์บอร์ด, แซกโซโฟน, ขลุ่ย, ร้องนำ, ร้องประสาน (พ.ศ. 2526-2532, พ.ศ. 2538-2539, พ.ศ. 2554-2555 ร่วมวงอีกครั้งในโอกาสครบรอบ 30 ปีคาราบาว)
- อำนาจ ลูกจันทร์ (เป้า) : กลอง, เพอร์คัสชั่น (พ.ศ. 2526 - 2532, พ.ศ. 2538 - 2539)
- กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว) : กีตาร์, ร้องนำ, คีย์บอร์ด, ประสานเสียง (พ.ศ. 2524 - 2534, พ.ศ. 2538 - 2539, 2541, 2550)
- ศยาพร สิงห์ทอง (น้อง) : เพอร์คัสชั่น (พ.ศ. 2538 - 2550) (เสียชีวิต)
ศยาพร สิงห์ทอง (ชื่อเล่น: น้อง; 19 กันยายน พ.ศ. 2506 ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม - 6 มีนาคม พ.ศ. 2557 (50 ปี)[7]) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ น้อง คาราบาว เป็นอดีตสมาชิกวงคาราบาว จบการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ป.ว.ส.)
น้องเคยร่วมงานกับวงดนตรีและนักดนตรีต่าง ๆ มามาก อาทิ ฟรีเบิร์ดส, ฤทธิพร อินสว่าง, พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ และยิ่งยง โอภากุล หรือ อี๊ด พี่ชายฝาแฝดของยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว หัวหน้าวง
เข้าร่วมวงคาราบาวในฐานะมือกลองเพอร์คัสชั่นและร้องประสานเสียง จากอัลบั้ม แจกกล้วย ในปี พ.ศ. 2538
ชีวิตส่วนตัว น้องสมรสแล้วและมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อเล่นว่า อะตอม น้องได้ขอลาออกจากวงไปในปี พ.ศ. 2550 เนื่องจากป่วยเป็นระยะเวลานาน[8] และได้เสียชีวิตไปในเวลาเช้าของวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557[7]
ผลงานอัลบั้มของคาราบาว
เฉพาะอัลบั้มภาคปกติของวงคาราบาว มีดังนี้
พ.ศ. 2524-2529
- ขี้เมา (พ.ศ. 2524)
- แป๊ะขายขวด (พ.ศ. 2525)
- วณิพก (พ.ศ. 2526)
- ท.ทหารอดทน (พ.ศ. 2526)
- เมด อิน ไทยแลนด์ (พ.ศ. 2527)
- อเมริโกย (พ.ศ. 2528)
- ประชาธิปไตย (พ.ศ. 2529)
พ.ศ. 2530-2538
- เวลคัม ทู ไทยแลนด์ (พ.ศ. 2530)
- ทับหลัง (พ.ศ. 2531)
- ห้ามจอดควาย (พ.ศ. 2533)
- วิชาแพะ (พ.ศ. 2534)
- สัจจะ ๑๐ ประการ (พ.ศ. 2535)
- ช้างไห้ (พ.ศ. 2536)
- รุ่นคนสร้างชาติ (พ.ศ. 2537)
- แจกกล้วย (พ.ศ. 2538)
- 15 ปี คาราบาว : หากหัวใจยังรักควาย (พ.ศ. 2538)
พ.ศ. 2540-ปัจจุบัน
- เส้นทางสายปลาแดก (พ.ศ. 2540)
- เช' ยังไม่ตาย (พ.ศ. 2540)
- อเมริกันอันธพาล (พ.ศ. 2541)
- พออยู่พอกิน (พ.ศ. 2541)
- เซียมหล่อตือ (พ.ศ. 2543)
- สาวเบียร์ช้าง (พ.ศ. 2544)
- นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ (พ.ศ. 2545)
- สามัคคีประเทศไทย (พ.ศ. 2548)
- 25 ปี คาราบาว : ลูกลุงขี้เมา (พ.ศ. 2550)
- โฮะ (พ.ศ. 2552)
- กำลังใจคาราบาว 30 ปี (พ.ศ. 2554)
- สวัสดีประเทศไทย (พ.ศ. 2556)
คอนเสิร์ตครั้งสำคัญ
- ทำโดยคนไทย : 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ที่ เวโลโดรม สนามกีฬาหัวหมาก
- คอนเสิร์ตรับใช้ชาติ : 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 ที่ สวนสยาม
- คอนเสิร์ตเวลคัม ทู อิสานเขียว : 27 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ที่ สนามกีฬากองทัพบก
- 10 ปี ฅนคาราบาว : 25 พฤษภาคม - 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ที่ เอ็มบีเค ฮอลล์ มาบุญครอง เซนเตอร์
- คอนเสิร์ตปิดทองหลังพระ : 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2539 ที่ อินดอร์สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก
- 15 ปี เมด อิน ไทยแลนด์ : 25 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
- 20 ปี คาราบาว เรื่องราวของคน ดนตรี และเขาควาย : 21 กุมภาพันธ์ - 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
- เมด อิน ไทยแลนด์ ภาค 2546 สังคายนา : 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- นาวาคาราบาว : 30 เมษายน พ.ศ. 2548 ที่ หอประชุมกองทัพเรือ
- คอนเสิร์ตบาว-ปาน แฟนบาวได้หวาน แฟนปานได้โจ๊ะ : 5 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
- คอนเสิร์ต 25 ปี มนต์เพลงคาราบาว : 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- เราจะเป็นคนดี : 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ที่ อินดอร์สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก
- 25 ปี คาราบาว : คอนเสิร์ต บาวเบญจเพส : 1 ธันวาคม - 2 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- เดอะ ไดอารี่ ออฟ คาราบาว คอนเสิร์ต : 12 มกราคม พ.ศ. 2551 ที่ โบนันซ่า เขาใหญ่ (เลื่อนไปแสดงเป็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 แทน)
- Road to Country Carabao & Friend : 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่ โบนันซ่า เขาใหญ่
- คาราบาว 3 ช่า สามัคคี ตอนลูกทุ่งแฟนเทเชีย : 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- คอนเสิร์ตเพลงคนดนตรีโลก คาราบาว-ขุนอิน : 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ที่ โรงละครสำนักพิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ปันดาวคืนดิน : 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บาว-ปาน บิ๊กแมตช์คอนเสิร์ต : 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 ที่ ยามาฮ่า สเตเดี้ยม เมืองทองธานี
- คาราบาว ข้าวตราฉัตร จากแรง.. เป็นรวง..เป็นเรา : 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี
- คาราบาว เวโลโดรม รีเทิร์น คอนเสิร์ต : 19 มีนาคม - 20 มีนาคม พ.ศ. 2554 ที่ เวโลโดรม สนามกีฬาหัวหมาก
- คาราบาว นิว เยียร์ เอกซ์โป : 21 ธันวาคม - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (เลื่อนมาจากกำหนดเดิม คือเดือนพฤศจิกายน เหตุเพราะน้ำท่วม)
- คาราบาว ไฟนอล ฟินาเล : 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ที่ สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต (เลื่อนมาจากกำหนดเดิม คือวันที่ 3 มิถุนายน และ 29 กรกฎาคม 2555)
- กินลม ชมบาว: 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ที่ บ้านแอ๊ด คาราบาว สัตหีบ
เกร็ด
- เทปแรกของรายการ แฟนพันธุ์แท้ ที่ออกอากาศเมื่อคืนวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2543 คือตอนของวง คาราบาว และจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ได้จัดในตอนคาราบาวมาแล้วถึง 2 ครั้ง
- อัลบั้มทุกชุด จะมีข้อเขียนในลักษณะความในใจของแอ๊ด คาราบาว อยู่เสมอ นับเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของคาราบาว ยกเว้นอัลบั้ม ประชาธิปไตย ที่มาเขียนบนปกอัลบั้ม 30 ปี คาราบาว - ประชาธิปไตย (วางจำหน่ายเมื่อปี 2554) ในภายหลัง
- ในปี พ.ศ. 2528 มีการสร้างภาพยนตร์ของทางวงออกมา ชื่อ เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ เขียนบทโดยแอ๊ด คาราบาว นำแสดงโดยสมาชิกของวงทั้งหมด ในปัจจุบันได้มีการทำเป็นวีซีดีออกมาจำหน่าย
- ประมาณปี พ.ศ. 2545 สมาชิกของวงคาราบาวได้ตัดสินใจรวบรวมเพลงที่โดนสั่งห้ามเผยแพร่ ห้ามออกอากาศมารวบรวมเป็นชุดโดยใช้ชื่อชุดว่า ห้ามออกอากาศ เป็นการรวบรวมเพลงในยุคแรกที่ถูก คณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) สั่งห้ามออกอากาศ โดยให้ทาง กระบือ แอนด์ โค จัดจำหน่าย
- ในปี พ.ศ. 2548 อาร์เอส และ วอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์ ได้ทำอัลบั้มชุดพิเศษ โดยวงดนตรีคาราบาว และ ปาน - ธนพร แวกประยูร ในชื่ออัลบั้ม หนุ่มบาว-สาวปาน โดยเป็นอัลบั้มที่ทำขึ้นเฉพาะกิจระหว่าง 2 สุดยอดนักร้องคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนทั่วประเทศ
- ในปี พ.ศ. 2552 คาราบาว และ ปาน ได้ออกอัลบั้มอีกหนึ่งชุด คือ บาว + ปาน รีเทิร์น ถือเป็นการปิดฉากของโปรเจ็กต์หนุ่มบาว-สาวปาน
มิวสิควีดีโอของคาราบาว
อัลบั้ม เมด อิน ไทยแลนด์
- เมด อิน ไทยแลนด์ [a 1]
อัลบั้ม ประชาธิปไตย
- ประชาธิปไตย
- เจ้าตาก
- ผู้ทน
- ตาตี๋
อัลบั้ม เวลคัม ทู ไทยแลนด์
- เวลคัม ทู ไทยแลนด์
- กระถางดอกไม้ให้คุณ
- สบายกว่า
- เทวดาถ้าจะแย่
อัลบั้ม ทับหลัง
- ทับหลัง
- รักทรหด
- แม่สาย
- หนุ่มสุพรรณ (2)
อัลบั้ม ห้ามจอดควาย
- สัญญาหน้าฝน
- ผ้าขี้ริ้ว
- ดิบแดก
- ปอดแหก
อัลบั้ม วิชาแพะ
- พ่อหลี
- บิ๊กสุ
- หัวใจรำวง
- นายกอ
- นรกคอรัปชั่น
อัลบั้ม สัจจะ ๑๐ ประการ
- สัจจะ ๑๐ ประการ
- สามช่าจงเจริญ
- น้ำ
อัลบั้ม ช้างไห้
- ช้างไห้
- ยายสำอาง
- แร้งคอย
- ปกากะญอ
- ทายาทตระกูลหยี
อัลบั้ม รุ่นคนสร้างชาติ
- คนสร้างชาติ
- หลวงพ่อคูณ
- เปาบุ้นจิ้นกับคนตัดไม้
- ตาดี [a 2]
อัลบั้ม แจกกล้วย
- กำนันผู้ใหญ่บ้าน
อัลบั้ม หากหัวใจยังรักควาย
- หลงวัฒน์
- บุญหมา
อัลบั้ม พออยู่พอกิน
- พออยู่พอกิน
- นายร้อย
- ลมพัดใจเพ
อัลบั้ม เซียมหล่อตือ
- เซียมหล่อตือ
- บางระจันวันเพ็ญ [a 3]
- รักเธอคนเดียว
- รักสุดราง
อัลบั้ม สาวเบียร์ช้าง - โฮะ
- มีทุกเพลง [a 4]
ภาพยนตร์
อ้างอิง
- ↑ นิธิ เอียวศรีวงศ์, โขน, คาราบาว, น้ำเน่า และหนังไทย : ว่าด้วยเพลง, ภาษา และนานามหรสพ (สำนักพิมพ์มติชน, พ.ศ. 2538) ISBN 974-7115-57-3
- ↑ ใครจะว่าร้องเพลงให้ควายฟัง ฉันว่ายังมีคนที่เข้าใจ
- ↑ ตีกันทำไม เขาให้ไปดูคอนเสิร์ต!
- ↑ Your Memory : ปี 2528 อัฒจันทร์ถล่มในคอนเสิร์ตคาราบาว
- ↑ “เนวิน” เทกโอเวอร์ “คาราบาว” รับอีเวนต์มหาดไทย-หาเสียงเสื้อน้ำเงิน เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์
- ↑ 'วินิจ' ปัด 'เนวิน' ซื้อ 'คาราบาว' ทำคอนเสิร์ตเพื่อการเมือง ไทยรัฐออนไลน์
- ↑ 7.0 7.1 สิ้นแล้ว อดีตมือกลองวงคาราบาว ศยาพร สิงห์ทอง หรือน้อง คาราบาว
- ↑ ประวัติส่วนตัว ศยาพร สิงห์ทอง น้อง