สิทธิ จิรโรจน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิทธิ จิรโรจน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ดำรงตำแหน่ง
23 มิถุนายน พ.ศ. 2523 – 19 มีนาคม พ.ศ. 2526
นายกรัฐมนตรีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
ก่อนหน้าประเทือง กีรติบุตร
ดำรงตำแหน่ง
7 พฤษภาคม พ.ศ. 2526 – 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529
ถัดไปประจวบ สุนทรางกูร
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด25 เมษายน พ.ศ. 2463
จังหวัดธนบุรี
เสียชีวิต10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 (89 ปี)
โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ กรุงเทพฯ
ศาสนาพุทธ
คู่สมรสคุณหญิงจวบ จิรโรจน์
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ไทย
สังกัด กองทัพบกไทย
กองอาสารักษาดินแดน
ยศ พลเอก
นายกองใหญ่[1]

พลเอก สิทธิ จิรโรจน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 2 สมัย พล.อ.สิทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2463 ที่ตำบลบางหว้า อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี เป็นบุตรชายของนายทองดีและนางสร้อย จิรโรจน์ จบการศึกษาจากโรงเรียนวัดรางบัวและโรงเรียนวัดนวลนรดิศ โรงเรียนเทคนิคทหารบก (รุ่นเดียวกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี 4 สมัยและประธานองคมนตรีในรัชกาลปัจจุบัน) โดยเรียนดีเคยสอบได้ที่ 1 โรงเรียนเสนาธิการทหารบกรุ่นที่ 21 และวิทยาลัยการทัพบกรุ่นที่ 5

ประวัติ[แก้]

ชีวิตราชการทหารบกเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 เริ่มตั้งแต่เป็นผู้บังคับหมวด แล้วผ่านขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นผู้ช่วยทูตทหารบก ประจำกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เจ้ากรมส่งกำลังบำรุง เจ้ากรมยุทธการทหารบก ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก รองเสนาธิการทหารบก ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เสนาธิการทหารบก รองผู้บัญชาการทหารบก จนกระทั่งเกษียณอายุราชการในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม[2]

พล.อ.สิทธิได้รับฉายาว่า "เปาบุ้นจิ้น" อันเนื่องจากเป็นนายทหารที่ซื่อตรงตลอดชีวิตราชการ

ชีวิตการเมือง เริ่มด้วยการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2514 และ พ.ศ. 2515 เป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2516 หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา สมาชิกสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 2 สมัย ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2523 จนถึง 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529 ในรัฐบาลที่มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี (คณะรัฐบาลชุดที่ 42[3] และ 43)[4]

ซึ่งในระหว่างการดำรงตำแหน่งนี้ พล.อ.สิทธิได้มีนโยบายจัดระเบียบสังคมจนเป็นที่กล่าวขานอย่างมาก โดยเฉพาะการสั่งปิดสนามม้าด้วยเหตุผลว่า เป็นอบายมุข[5]

พล.อ.สิทธิ ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)[6] ซึ่งยึดอำนาจจากรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ให้ตรวจสอบทรัพย์สินของนักการเมืองในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย 25 คน รวมทั้ง พล.อ.ชาติชายด้วย แม้ต่อมา คตส.จะมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ของนักการเมืองหลายคนตกเป็นของแผ่นดิน แต่ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า คำสั่งของ คตส.ไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2534 เนื่องจากคำสั่งยึดทรัพย์เป็นอำนาจของฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่อำนาจของ คตส. จึงไม่อาจยึดทรัพย์ใครได้เลยสักคน

ชีวิตส่วนตัว พล.อ.สิทธิ สมรสกับคุณหญิงจวบ จิรโรจน์ มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 4 คน เป็นหญิง 3 ชาย 1

พล.อ.สิทธิ จิรโรจน์ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุได้ 89 ปี[7]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย[แก้]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ[แก้]

  •  มาเลเซีย :
    • พ.ศ. 2515 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์ปัง กวน เนการา ชั้นที่ 3[17]

อ้างอิง[แก้]

  1. พระราชทานยศนายกองใหญ่
  2. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ
  3. พระบรมราชโองการ ประกาศ รัฐมนตรีลาออกและตั้งรัฐมนตรี (นายประเทือง กีรติบุตร พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งพลเอก สิทธิ จิรโรจน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแทน)
  4. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๔ ราย)
  5. หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับที่ 22,036 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
  6. ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 26 (เป็นปฏิวัติโดยแท้ เรื่อง ให้อายัดและห้ามจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สิน)
  7. พล.อ.สิทธิ จิรโรจน์ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ด้วยโรคชรา
  8. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๗ ตอนที่ ๖๓ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๓, ๑๘ เมษายน ๒๕๒๓
  9. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๑ ตอนที่ ๒๒๙ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๙, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๗
  10. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๖ ตอนที่ ๙๓ ง หน้า ๒๒๔๕, ๑๒ มิถุนายน ๒๕๒๒
  11. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๘๖ ตอนที่ ๑๑๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๖, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๒
  12. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๙๕ ตอนที่ ๘๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๑, ๑๐ สิงหาคม ๒๕๒๑
  13. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม ๘๕ ตอนที่ ๘๙ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๓ ตุลาคม ๒๕๑๑
  14. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๗๐ ตอนที่ ๗๘ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๔๔, ๒๓ ธันวาคม ๒๔๙๖
  15. รายนามผู้ได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี ประจำปี ๒๕๒๖ จากเว็บไซต์ thaiscouts
  16. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๘๘ ตอนที่ ๑๒๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๙, ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๔
  17. SENARAI PENUH PENERIMA DARJAH KEBESARAN, BINTANG DAN PINGAT PERSEKUTUAN TAHUN 1972.