มายาสูร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มายาสูร
ประมุขแห่งตาละตาราโลก
ราชาแห่งอสูร, ไทตยะ , ทานพ & รากษส
ส่วนเกี่ยวข้องอสูร
ที่ประทับตาละตาราโลก
ข้อมูลส่วนบุคคล
คู่ครองนางอัปสรเหมา
โอลาเทวี[1](ตามคติในบางพื้นที่ท้องถิ่น)
บุตร - ธิดามายาวี
ฑันฑุภี
นางมณโฑ(ในรามายณะ)
พาละ[2][3]
นางธัญญมาลินี( ในรามายณะท้องถิ่นบางฉบับ )
บิดา-มารดา
  • อสูรศัมพระ (บิดา)
  • นางมายาวดี (มารดา)
พี่น้องศริงคเกตุ , กุมภเกตุ , และอื่นๆ

มายา (สันสกฤต: मय) หรือ มายาสูร (मयासुर , Mayāsura) เป็นราชาและประมุขผู้ยิ่งใหญ่แห่งอสูร, ทานพ , แทตย์ และ รากษส ทั้งปวง[4]ในวรรณกรรมโบราณและวรรณคดีของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู โดยบทบาทของมายาสูรเป็นรู้จักเลื่องลือในฐานะสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมยอดเยี่ยมอันหาที่ติมิได้ ในมหากาพย์มหาภารตะ มายาสภา อันหมายถึง สถานที่ประชุมที่วิจิตรดังภาพลวงตา อันได้รับการขนานนามตามชื่อของมายาสูรตนนี้ ในคติฮินดูแบบท้องถิ่นในบางพื้นที่เจ้าแม่โอลาเทวี เทพีพื้นเมื้องที่ได้รับการผสานความเชื่อเป็นหนึ่งของพระเทพีในศาสนาพราหมณ์ ฮินดูตามคติพหุเทวนิยมเป็นหนึ่งในภรรยาของอสูรตนนี้[5]

ในมหากาพย์มหาภารตะ[แก้]

มายาสูร เป็นยักษ์อันเป็นที่ปรึกษาด้านสถาปนิกของพระเวสสุกรรม และสถิตย์อยู่ในป่าขาณฑวะร่วมด้วยกับพญานาคตักษกะ ครั้งหนึ่งพระกฤษณะและอรชุนประพาสป่าขาณฑวะ ซึ่งเป็นป่าที่ต้นไม้ขึ้นหนาทึบ ได้เจอกับพระอัคนีซึ่งขอร้องให้ทั้งสองช่วยให้พระอัคนีได้เผาป่าขาณฑวะเพื่อกินสมุนไพร เพราะตนป่วยและไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะเมื่อพระอัคนีเผาป่าเมื่อใด พระอินทร์ซึ่งเป็นมิตรกับพญานาคตักษกะขอร้องให้ช่วยดับไฟให้ พระอินทร์ก็จะประทานฝนลงมาดับไฟทุกครั้ง พระกฤษณะและอรชุนจึงรับปาก พระอัคนีจึงขอร้องให้เทพวรุณ เทพเจ้าแห่งมหาสมุทรให้ธนูคาณฑีวะ นอกจากนี้ยังคืนจักรสุทรรศน์ และคทาเกาโมทกี ให้กับพระกฤษณะด้วย จากนั้นอรชุนจึงเป็นผู้ยิงธนูคาณฑีวะ สกัดกั้นสายฝน และพระกฤษณะก็เป็นสารถีให้ พระอินทร์แปลกใจมากจึงให้เหล่าคณะเทวดาบริวารมาช่วยกันซัดอาวุธลงไปสู้กับอรชุนและพระกฤษณะ แต่พระกฤษณะก็ใช้จักรสุทรรศน์ทำลายอาวุธเหล่านั้นจนหมดสิ้น พระอินทร์เมื่อทราบว่ามนุษย์ที่สู้ด้วยนั้นคืออรชุน พระโอรสของพระองค์ก็ไม่สู้รบด้วยต่อไป และปล่อยให้เรื่องของพญางูเลยตามเลย(ภายหลังพระอินทร์ลงมาตรัสบอกว่าในอนาคตพระศิวะจะให้อาวุธอานุภาพแรงสูงชื่อ ปาศุปัต แก่อรชุน) พระอัคนีจึงได้เผาป่า มเหสีของพญางูไปด้วย เหลือแต่ลูกชายที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด นอกจากนี้ในการเผาป่า ยักษ์ที่ชื่อ มายาสูร ตนนี้ก็ได้วิ่งมาหาอรชุนและร้องขอชีวิต อรชุนจึงขอชีวิตยักษ์ตนนี้ไว้ ยักษ์มายาสูรอยากตอบแทนพระคุณมากจึงไปหาพระกฤษณะและอรชุนในตอนกลางคืนพร้อมกับบอกว่าจะสร้างสิ่งก่อสร้างให้อย่างหนึ่ง พระกฤษณะแนะนำให้สร้างสภา มายาสูรจึงรีบดำเนินการตามนั้นทันที มายาสูรออกแบบสภาอย่างวิจิตรตระการตาและยังนำอัญมณีต่าง ๆ ที่ตนเคยสะสมไว้มาตกแต่งอย่างสวยงาม ทำให้ผู้คนจากเมืองอื่นมาดูกันอย่างมากมายและเรียกสภาแห่งนี้ว่า มายาสภา [6] ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ฝ่ายทุรโยธน์อิจฉาพวกปาณฑพเป็นอย่างมาก จึงสร้างสภาขึ้นมาอีก แต่สวยไม่เทียบเท่า และให้ท้าวธฤตราษฎร์เชิญยุธิษฐิระมาเล่นพนันเอาบ้านเอาเมืองกันอีกด้วย

ในมหากาพย์ รามายณะ[แก้]

ใน รามายณะ มายาสูรเป็นสามีของนางอัปสรเหมา[7][8] เป็นบิดรของ มายาวี, ฑุนฑุภี นางมณโฑ และ นางธัญญมาลินี( ในรามายณะบางท้องถิ่น)[9]พระอัครมเหสีแห่งท้าวทศกัณฑ์ พระเจ้านครลงกา[10] นอกจานี้ยังเป็นผู้สร้างบุษบกนามว่า บุษปะวิมาน อันท้าวทศกัณฑ์ได้ใช้เป็นราชพาหนะและได้ก่อเหตุลักพาเจ้าแม่นางสีดามายังนครลังกาด้วย

See also[แก้]

References[แก้]

  1. https://hindupad.com/oladevi/
  2. Māṇi 1998, pp. 580–581.
  3. Dimmitt 2012, p. 348-350.
  4. Kishen SSR, SIVKISHEN (17 July 2014). Kingdom of Shiva. Diamond Pocket Books (P) Ltd. p. 321. ISBN 9781482813401. สืบค้นเมื่อ 29 June 2022.
  5. https://thewire.in/culture/corona-mata-and-the-pandemic-goddesses
  6. Mittal, J. P. (2006). History of Ancient India (A New Version) (ภาษาอังกฤษ). Atlantic Publishers & Dist. ISBN 978-81-269-0616-1.
  7. P. G. Lalye (2008). Curses and boons in the Vālmīki Rāmāyaṇa
  8. "पढ़िए, रावण की पत्नी मंदोदरी की ये 7 खास बातें". Amar Ujala (ภาษาฮินดี). สืบค้นเมื่อ 2020-09-03.
  9. "2 Wives of Ravana – and Their Legends". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-12-10. สืบค้นเมื่อ 2022-09-18.
  10. Devahish Dasgupta (2011). Tourism Marketing. Pearson Education India. p. 20. ISBN 978-81-317-3182-6. สืบค้นเมื่อ 29 January 2012.