เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์)
มหาอำมาตย์โท เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) | |
---|---|
เกิด | 16 มิถุนายน พ.ศ. 2419 |
เสียชีวิต | 27 มีนาคม พ.ศ. 2476 (58 ปี) |
คู่สมรส | คุณหญิงล้วน |
บิดามารดา | ขุนศรีธรรมราช (สมบุญ) ท่านน้อย |
มหาอำมาตย์โท เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) เป็นขุนนางชาวสยาม ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น ปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย สมุหพระนครบาล องคมนตรี ผู้ได้รับพระราชทานนามสกุล "เปาโรหิตย์" (Paurohitya)[1]
ประวัติ[แก้]
เจ้าพระยามุขมนตรี มีนามเดิมว่าอวบ เป็นบุตรขุนศรีธรรมราช (สมบุญ) กับท่านน้อย ซึ่งเป็นเชื้อสายของพระมหาราชครูปุโรหิตาจารย์ (บุญรอด) เกิดเมื่อวันศุกร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 7 ปีชวด ตรงกับวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2419[2] ได้เข้าเรียนหนังสือที่วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหารและที่พระตำหนักสวนกุหลาบ จนจบประโยค 2 โดยสอบไล่ได้รับรางวัลที่ 1 และได้รับประกาศนียบัตรชั้นเปรียญพิเศษของคณะศึกษาการปกครอง มณฑลอยุธยาและปราจีน ในปี พ.ศ. 2450[3]
พ.ศ. 2435 เริ่มเข้ารับราชการเป็นเสมียนในกระทรวงยุติธรรม แล้วย้ายไปอยู่กระทรวงมหาดไทย วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงพัฒนกิจวิจารณ์ ตำแหน่ง ผู้ตรวจการกองเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ถือศักดินา 400[4]แล้วเลื่อนเป็น พระวิเศษไชยชาญ ผู้ว่าราชการเมืองอ่างทอง ถือศักดินา 3000 เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2443[5]และ พระยาอินทรวิชิต เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444[6] ต่อมาในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2447 ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระยาจ่าแสนบดีศรีบริบาล เจ้ากรมมหาดไทยฝ่ายพลำพัง คงถือศักดินา 3,000[7]
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าพระราชทานสัญญาบัตรให้เป็น พระยากำแหงสงคราม รามราชภักดีพิริยพาห ตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลนครราชสีมา ถือศักดินา 10,000[8] ถึงวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2456 ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระยาราชนกูล วิบูลยภักดีพิริยพาห ปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย คงถือศักดินา 10,000[9]และยังได้ทำหน้าที่เป็นพระยายืนชิงช้า ในพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย(พระราชพิธีโล้เสาชิงช้า)ในปี พ.ศ. 2458[10][11]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตั้งท่านเป็นผู้แทนรัฐบาลสยาม ณ คณะข้าหลวงใหญ่ฝรั่งเศส-สยามประจำแม่น้ำโขงตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2470[12] ท่านก็ได้ปฏิบัติราชการได้โดยเรียบร้อยตามพระราชประสงค์ วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472 จึงทรงโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นเจ้าพระยา มีราชทินนามว่าเจ้าพระยามุขมนตรี ศรีสมุหนครบาล ราชบทมาลยมหาสวามิภักดิ์ บริรักษ์เทพธานีนิกรเกษม เปรมเปาโรหิตยาภิชาต ไตรโลกยนาถสรณธาดา มหามาตยาธิบดี อภัยพีริยบรากรมพาหุ ถือศักดินา 10,000[13]
เจ้าพระยามุขมนตรี ปฏิบัติราชการจนกระทั่งเกษียณอายุและรับพระราชทานบำนาญในปี พ.ศ. 2475[14]
เจ้าพระยามุขมนตรี ป่วยเป็นฝีผักบัวและปอดบวม ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2476 สิริอายุได้ 58 ปี ได้รับพระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ชั้นรอง 2 ชั้น ฉัตรเบญจา 4 คัน ผ้าไตร 3 ไตร เป็นเกียรติยศ[15]
ครอบครัว[แก้]
เจ้าพระยามุขมนตรี สมรสกับคุณหญิงล้วน ธิดาหลวงวารีราชายุกติ (เจ้าสัวโป๊) กับนางเสงี่ยมโปษยานนท์ มีบุตรหลายคน เช่น นายศรีศุกร์ เปาโรหิตย์ นายประโพธ เปาโรหิตย์ เป็นต้น[14]
ยศ[แก้]
- มหาอำมาตย์ตรี
- 11 กันยายน พ.ศ. 2458 มหาอำมาตย์โท[16]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2444 -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้น 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)[17]
- พ.ศ. 2443 -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น 5 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.)[18]
- พ.ศ. 2461 -
เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[19]
อ้างอิง[แก้]
- เชิงอรรถ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงมุรธาธร เรื่อง ประกาศพระราชทานนามสกุล ครั้งที่ 4, เล่ม 30, ตอน ง, 7 กันยายน 2456, หน้า 1167
- ↑ เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์, หน้า 254
- ↑ "ประวัติบุคคลสำคัญด้านกฎหมาย : เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์)". พิพิธภัณฑ์ศาลไทย. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2558. Check date values in:
|accessdate=
(help) - ↑ พระราชทานสัญญาบัตร (ลำดับที่ 11)
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตร์ขุนนาง
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง, เล่ม 21, ตอน 39, 25 ธันวาคม ร.ศ. 123, หน้า 147
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์, เล่ม 28, ตอน 0 ง, 29 ตุลาคม ร.ศ. 130, หน้า 1647
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์, เล่ม 30, ตอน ง, 20 เมษายน 2456, หน้า 147
- ↑ รายการ Lineกนก (สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี) วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2561
- ↑ รายนามพระยาผู้ยืนชิงช้า ตั้งแต่สมัย ร.5-ร.7 มีใครบ้าง ? สยามบรรณาคม
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งผู้แทนฝ่ายสยาม ณ คณะข้าหลวงใหญ่ฝรั่งเศส - สยามประจำแม่น้ำโขง, เล่ม 44, ตอน 0 ก, 14 สิงหาคม พ.ศ. 2470, หน้า 151-2
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งกรม ตั้งพระองค์เจ้าและเจ้าพระยา, เล่ม 46, ตอน 0 ก, 10 พฤศจิกายน 2472, หน้า 195-7
- ↑ 14.0 14.1 เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์, หน้า 256
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวตาย, เล่ม 51, ตอน 0 ง, 1 เมษายน 2477, หน้า 75
- ↑ พระราชทานยศและเลื่อนยศ
- ↑ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- ↑ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- ↑ พระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา
- บรรณานุกรม
- สมมตอมรพันธุ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 404 หน้า. หน้า 154-156. ISBN 974-417-534-6
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2419
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2476
- บรรดาศักดิ์ชั้นเจ้าพระยา
- องคมนตรี
- ปลัดกระทรวงมหาดไทยไทย
- ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง
- นักกฎหมายชาวไทย
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ท.จ.ว. (ฝ่ายหน้า)
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ ว.ป.ร.3
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ ป.ป.ร.3
- ผู้ได้รับเหรียญจักรพรรดิมาลา
- เสียชีวิตจากโรคปอดบวม