ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษากงกัณ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
FoxBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: te:కొంకణి భాష
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.5.2) (โรบอต แก้ไข: ca:Konkani; ปรับแต่งให้อ่านง่าย
บรรทัด 16: บรรทัด 16:
|lc3=gom|ld3=ภาษากอนกานีถิ่นกัว|notice=Indic}}
|lc3=gom|ld3=ภาษากอนกานีถิ่นกัว|notice=Indic}}


'''ภาษากงกณี'''([[อักษรเทวนาครี]]: कोंकणी ; [[อักษรกันนาดา]]:ಕೊಂಕಣಿ; [[อักษรมาลายาลัม]]:കൊംകണീ ; [[อักษรโรมัน]]: Konknni) เป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยัน โดยมีคำศัพท์จากภาษาดราวิเดียนปนอยู่ด้วย ได้รับอิทธิพลจากภาษาอื่นหลายภาษา ทั้ง[[ภาษาโปรตุเกส]] [[ภาษากันนาดา]] [[ภาษามราฐี]] [[ภาษาเปอร์เซีย]] และ[[ภาษาอาหรับ]] มีผู้พูดประมาณ 7.6 ล้านคน <ref name ="ethnolog_knn">http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=knn</ref> <ref name="ethno_92010">http://www.ethnologue.com/show_family.asp?subid=92010</ref>แต่เดิมเชื่อกันว่าภาษานี้เป็นภาษาถิ่นของภาษามราฐี แต่หลักฐานที่พบภาษากอนกานีเกิดก่อนภาษามราฐีนานมาก จารึกภาษากอนกานีพบครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1730 ขณะที่จารึกภาษามราฐีพบครั้งแรก เมื่อราว พ.ศ. 2100
'''ภาษากงกณี'''([[อักษรเทวนาครี]]: कोंकणी ; [[อักษรกันนาดา]]:ಕೊಂಕಣಿ; [[อักษรมาลายาลัม]]:കൊംകണീ ; [[อักษรโรมัน]]: Konknni) เป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยัน โดยมีคำศัพท์จากภาษาดราวิเดียนปนอยู่ด้วย ได้รับอิทธิพลจากภาษาอื่นหลายภาษา ทั้ง[[ภาษาโปรตุเกส]] [[ภาษากันนาดา]] [[ภาษามราฐี]] [[ภาษาเปอร์เซีย]] และ[[ภาษาอาหรับ]] มีผู้พูดประมาณ 7.6 ล้านคน <ref name="ethnolog_knn">http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=knn</ref> <ref name="ethno_92010">http://www.ethnologue.com/show_family.asp?subid=92010</ref>แต่เดิมเชื่อกันว่าภาษานี้เป็นภาษาถิ่นของภาษามราฐี แต่หลักฐานที่พบภาษากอนกานีเกิดก่อนภาษามราฐีนานมาก จารึกภาษากอนกานีพบครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1730 ขณะที่จารึกภาษามราฐีพบครั้งแรก เมื่อราว พ.ศ. 2100


== ลักษณะ ==
== ลักษณะ ==
บรรทัด 22: บรรทัด 22:


ภาษากอนกานีมีสระพื้นฐาน 16 เสียง พยัญชนะ 36 เสียง เสียงกึ่งสระ 5 เสียง เสียงออกตามไรฟัน 3 เสียง เสียงระบายลม 1 เสียง และมีเสียงประสมจำนวนมาก ความแตกต่างของสระนาสิกเป็นลักษณะพิเศษของภาษากอนกานี
ภาษากอนกานีมีสระพื้นฐาน 16 เสียง พยัญชนะ 36 เสียง เสียงกึ่งสระ 5 เสียง เสียงออกตามไรฟัน 3 เสียง เสียงระบายลม 1 เสียง และมีเสียงประสมจำนวนมาก ความแตกต่างของสระนาสิกเป็นลักษณะพิเศษของภาษากอนกานี
===สระ===
=== สระ ===
<div style="background:transparent">
<div style="background:transparent">
{| class="IPA" cellspacing="0px" cellpadding=0 style="text-align:center; background:transparent;"
{| class="IPA" cellspacing="0px" cellpadding=0 style="text-align:center; background:transparent;"
บรรทัด 93: บรรทัด 93:
</div><noinclude>
</div><noinclude>


===พยัญชนะ===
=== พยัญชนะ ===
{|class="wikitable"
{|class="wikitable"
|+'''พยัญชนะ'''
|+'''พยัญชนะ'''
!&nbsp;||Labial||Dental||Alveolar||Retroflex||Alveopalatal||Velar||Glottal
!&nbsp;||Labial||Dental||Alveolar||Retroflex||Alveopalatal||Velar||Glottal
|-style="text-align:center"
|-style="text-align:center"
!ไม่ก้อง<br>กัก
!ไม่ก้อง<br />กัก
|{{IPA|p}}<br/>{{IPA|pʰ}}||{{IPA|t̪}}<br/>{{IPA|t̪ʰ}}||&nbsp;||{{IPA|ʈ}}<br/>{{IPA|ʈʰ}}||{{IPA|cɕ}}<br/>{{IPA|cɕʰ}}|| {{IPA|k}}<br/>{{IPA|kʰ}}||&nbsp;
|{{IPA|p}}<br />{{IPA|pʰ}}||{{IPA|t̪}}<br />{{IPA|t̪ʰ}}||&nbsp;||{{IPA|ʈ}}<br />{{IPA|ʈʰ}}||{{IPA|cɕ}}<br />{{IPA|cɕʰ}}|| {{IPA|k}}<br />{{IPA|kʰ}}||&nbsp;
|-style="text-align:center"
|-style="text-align:center"
!ก้อง<br>กัก
!ก้อง<br />กัก
|{{IPA|b}}<br/>{{IPA|bʰ}}||{{IPA|d̪}}<br/>{{IPA|d̪ʰ}}||&nbsp;||{{IPA|ɖ}}<br/>{{IPA|ɖʰ}}||{{IPA|ɟʝ}}<br/>{{IPA|ɟʝʰ}}||{{IPA|ɡ}}<br/>{{IPA|ɡʰ}}||&nbsp;
|{{IPA|b}}<br />{{IPA|bʰ}}||{{IPA|d̪}}<br />{{IPA|d̪ʰ}}||&nbsp;||{{IPA|ɖ}}<br />{{IPA|ɖʰ}}||{{IPA|ɟʝ}}<br />{{IPA|ɟʝʰ}}||{{IPA|ɡ}}<br />{{IPA|ɡʰ}}||&nbsp;
|-style="text-align:center"
|-style="text-align:center"
!ไม่ก้อง<br>เสียดแทรก
!ไม่ก้อง<br />เสียดแทรก
|&nbsp;||&nbsp;||{{IPA|s}}||&nbsp;||{{IPA|ɕ}}||&nbsp;||{{IPA|h}}
|&nbsp;||&nbsp;||{{IPA|s}}||&nbsp;||{{IPA|ɕ}}||&nbsp;||{{IPA|h}}
|-style="text-align:center"
|-style="text-align:center"
!นาสิก
!นาสิก
|{{IPA|m}}<br/>{{IPA|mʰ}}||{{IPA|n̪}}<br/>{{IPA|n̪ʰ}}||&nbsp;||{{IPA|ɳ}}<br/>{{IPA|ɳʰ}}||{{IPA|ɲ}}||{{IPA|ŋ}}||&nbsp;
|{{IPA|m}}<br />{{IPA|mʰ}}||{{IPA|n̪}}<br />{{IPA|n̪ʰ}}||&nbsp;||{{IPA|ɳ}}<br />{{IPA|ɳʰ}}||{{IPA|ɲ}}||{{IPA|ŋ}}||&nbsp;
|-style="text-align:center"
|-style="text-align:center"
!เสียงเหลว
!เสียงเหลว
|{{IPA|ʋ}}<br/>{{IPA|ʋʰ}}||&nbsp;||{{IPA|l}} {{IPA|ɾ}}<br/>{{IPA|lʰ}} {{IPA|ɾʰ}}|||{{IPA|ɭ}} {{IPA|ɽ}}||{{IPA|j}}||&nbsp;||&nbsp;
|{{IPA|ʋ}}<br />{{IPA|ʋʰ}}||&nbsp;||{{IPA|l}} {{IPA|ɾ}}<br />{{IPA|lʰ}} {{IPA|ɾʰ}}|||{{IPA|ɭ}} {{IPA|ɽ}}||{{IPA|j}}||&nbsp;||&nbsp;
|}
|}


==ประวัติ==
== ประวัติ ==
===จุดเริ่มต้น===
=== จุดเริ่มต้น ===
ภาษากอนกานีพัฒนาขึ้นในบริเวณ[[กอนกาน]]ซึ่งเป็นฉนวนแผ่นดินแคบๆระหว่างเขตภูเขาสหยทริและ[[ทะเลอาหรับ]]ทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย โดยเฉพาะในโคมันตัก (ปัจจุบันคือ[[กัว]]) ทฤษฎีเกี่ยวกับกำเนิดของภาษากอนกานีมีสองแบบคือ
ภาษากอนกานีพัฒนาขึ้นในบริเวณ[[กอนกาน]]ซึ่งเป็นฉนวนแผ่นดินแคบๆระหว่างเขตภูเขาสหยทริและ[[ทะเลอาหรับ]]ทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย โดยเฉพาะในโคมันตัก (ปัจจุบันคือ[[กัว]]) ทฤษฎีเกี่ยวกับกำเนิดของภาษากอนกานีมีสองแบบคือ
* ต้นกำเนิดของภาษากอนกานีคือกลุ่มพราหมณ์สรสวัต ผู้อยู่ตามฝั่ง[[แม่น้ำสรวสวตี]]ในอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว จากการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำเมื่อราว 1,357 ปีก่อนพุทธศักราช ทำให้มีการอพยพ กลุ่มผู้อพยพกลุ่มหนึ่งเข้ามาตั้งหลักแหล่งในบริเวณโคมันตัก คนกลุ่มนี้พูด[[ภาษาปรากฤต]]([[ภาษาเศารเสนี]]) ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นภาษากอนกานี<ref>[http://www.kamat.com/kalranga/konkani/konkani.htm Origins of the Konkani Language - Krishnanand Kamat]</ref>
* ต้นกำเนิดของภาษากอนกานีคือกลุ่มพราหมณ์สรสวัต ผู้อยู่ตามฝั่ง[[แม่น้ำสรวสวตี]]ในอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว จากการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำเมื่อราว 1,357 ปีก่อนพุทธศักราช ทำให้มีการอพยพ กลุ่มผู้อพยพกลุ่มหนึ่งเข้ามาตั้งหลักแหล่งในบริเวณโคมันตัก คนกลุ่มนี้พูด[[ภาษาปรากฤต]]([[ภาษาเศารเสนี]]) ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นภาษากอนกานี<ref>[http://www.kamat.com/kalranga/konkani/konkani.htm Origins of the Konkani Language - Krishnanand Kamat]</ref>
* ภาษากอนกานีเป็นภาษาท้องถิ่นที่ใช้พูดในหมู่ชาวโกกนาซึ่งถูกทำให้เป็นสันสกฤต ชนกลุ่มนี้ปัจจุบันอยู่ในทางเหนือของ[[รัฐมหาราษฏระ]]และทางใต้ของ[[รัฐคุชราต]]แต่อาจจะมีต้นกำเนิดมาจากเขตกอนกาน ผู้อพยพชาวอารยันที่เข้าสู่กอนกานนำภาษาของคนในท้องถิ่นมาใช้และเพิ่มศัพท์จากภาษาปรากฤตและ[[ภาษาสันสกฤต]]เข้าไป <ref>[http://www.colaco.net/1/nanduKonkaniRoots.htm Tracing the Roots of the Konkani Language - Dr. Nandkumar Kamat]</ref>
* ภาษากอนกานีเป็นภาษาท้องถิ่นที่ใช้พูดในหมู่ชาวโกกนาซึ่งถูกทำให้เป็นสันสกฤต ชนกลุ่มนี้ปัจจุบันอยู่ในทางเหนือของ[[รัฐมหาราษฏระ]]และทางใต้ของ[[รัฐคุชราต]]แต่อาจจะมีต้นกำเนิดมาจากเขตกอนกาน ผู้อพยพชาวอารยันที่เข้าสู่กอนกานนำภาษาของคนในท้องถิ่นมาใช้และเพิ่มศัพท์จากภาษาปรากฤตและ[[ภาษาสันสกฤต]]เข้าไป <ref>[http://www.colaco.net/1/nanduKonkaniRoots.htm Tracing the Roots of the Konkani Language - Dr. Nandkumar Kamat]</ref>


===ช่วงแรก===
=== ช่วงแรก ===
ภาษากอนกานีเป็นภาษาหลักในกัว เริ่มแรกเขียนด้วย[[อักษรพราหมี]] ต่อมาจึงเขียนด้วยอักษรเทวนาครี ใช้ในทางศาสนาและการค้ารวมทั้งในชีวิตประจำวัน
ภาษากอนกานีเป็นภาษาหลักในกัว เริ่มแรกเขียนด้วย[[อักษรพราหมี]] ต่อมาจึงเขียนด้วยอักษรเทวนาครี ใช้ในทางศาสนาและการค้ารวมทั้งในชีวิตประจำวัน


กลุ่มชนอื่นๆ ที่ใช้ภาษากอนกานีสำเนียงต่างๆ ได้แก่ชาวกอนกานมุสลิมในเขตรัตนกาลีและภัตกัล ซึ่งมีลักษณะของ[[ภาษาอาหรับ]]เข้ามาปนมาก ชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้ภาษากอนกานีคือชาวสิททิสซึ่งมาจาก[[เอธิโอเปีย]]<ref>[http://www.kamat.com/kalranga/people/siddi.htm People of India - Siddis<!-- Bot generated title -->]</ref>
กลุ่มชนอื่นๆ ที่ใช้ภาษากอนกานีสำเนียงต่างๆ ได้แก่ชาวกอนกานมุสลิมในเขตรัตนกาลีและภัตกัล ซึ่งมีลักษณะของ[[ภาษาอาหรับ]]เข้ามาปนมาก ชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้ภาษากอนกานีคือชาวสิททิสซึ่งมาจาก[[เอธิโอเปีย]]<ref>[http://www.kamat.com/kalranga/people/siddi.htm People of India - Siddis<!-- Bot generated title -->]</ref>
===การอพยพและการแยกเป็นส่วน===
=== การอพยพและการแยกเป็นส่วน ===
การเข้ามาของ[[โปรตุเกส]]ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากในหมู่ของชาวกอนกานี ชาวกอนกานีบางส่วนเปลี่ยนไปนับถือ[[ศาสนาคริสต์]]และอิทธิพลทางศาสนาของโปรตุเกสทำให้ชาวกอนกานีบางส่วนอพยพออกไป การแบ่งแยกระหว่างชาวกอนกานีที่นับถือ[[ศาสนาฮินดู]]และคริสต์ทำให้ภาษากอนกานีแตกเป็นหลายสำเนียงยิ่งขึ้น
การเข้ามาของ[[โปรตุเกส]]ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากในหมู่ของชาวกอนกานี ชาวกอนกานีบางส่วนเปลี่ยนไปนับถือ[[ศาสนาคริสต์]]และอิทธิพลทางศาสนาของโปรตุเกสทำให้ชาวกอนกานีบางส่วนอพยพออกไป การแบ่งแยกระหว่างชาวกอนกานีที่นับถือ[[ศาสนาฮินดู]]และคริสต์ทำให้ภาษากอนกานีแตกเป็นหลายสำเนียงยิ่งขึ้น


บรรทัด 130: บรรทัด 130:


การอพยพของชาวคริสต์และฮินดูเกิดเป็น 3 ระลอก การอพยพครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2103 ซึ่งเป็นช่วงแรกที่โปรตุเกสเข้ามาปกครองกัว ครั้งที่ 2 เกิดเมื่อ พ.ศ. 2114 ในสงครามกับสุลต่านพิชปูร์ การอพยพครั้งที่ 3 เกิดขึ้นระหว่างสงครามในช่วง พ.ศ. 2226 - 2283 การอพยพในช่วงแรกเป็นผู้นับถือศาสนาฮินดู ส่วนสองครั้งหลัง ส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์
การอพยพของชาวคริสต์และฮินดูเกิดเป็น 3 ระลอก การอพยพครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2103 ซึ่งเป็นช่วงแรกที่โปรตุเกสเข้ามาปกครองกัว ครั้งที่ 2 เกิดเมื่อ พ.ศ. 2114 ในสงครามกับสุลต่านพิชปูร์ การอพยพครั้งที่ 3 เกิดขึ้นระหว่างสงครามในช่วง พ.ศ. 2226 - 2283 การอพยพในช่วงแรกเป็นผู้นับถือศาสนาฮินดู ส่วนสองครั้งหลัง ส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์
===ภาษากอนกานีในกัวของโปรตุเกส===
=== ภาษากอนกานีในกัวของโปรตุเกส ===
ในช่วงแรกของการเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส มิชชันนารีให้ความสำคัญกับการแปลคัมภีร์ศาสนาคริสต์เป็นภาษาท้องถิ่นทั้งภาษากอนกานีและ[[ภาษามราฐี]]จนกระทั่ง พ.ศ. 2227 โปรตุเกสห้ามใช้ภาษาถิ่นในเขตปกครองของตน ซึ่งถือว่าเป็นภาษาสำหรับศาสนาฮินดู ให้ใช้[[ภาษาโปรตุเกส]]เป็นภาษาราชการแทน ทำให้การใช้ภาษากอนกานีลดลงและทำให้ภาษาโปรตุเกสมีอิทธิพลต่อภาษากอนกานีสำเนียงของชาวคริสต์มาก ส่วนชาวกอนกานีที่นับถือศาสนาฮินดูใช้ภาษามราฐีเป็นภาษาทางศาสนา และจากความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างภาษากอนกานีและภาษามราฐี ทำให้ชาวกอนกานีส่วนใหญ่พูดภาษามราฐีเป็นภาษาที่สองและปัจจุบันเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันของชาวฮินดูในกัวรวมทั้งชาวกอนกานีด้วย ชาวคริสต์ชั้นสูงใช้ภาษากอนกานีกับชนชั้นที่ต่ำกว่าและยากจน ส่วนในสังคมของตนใช้ภาษาโปรตุเกส
ในช่วงแรกของการเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส มิชชันนารีให้ความสำคัญกับการแปลคัมภีร์ศาสนาคริสต์เป็นภาษาท้องถิ่นทั้งภาษากอนกานีและ[[ภาษามราฐี]]จนกระทั่ง พ.ศ. 2227 โปรตุเกสห้ามใช้ภาษาถิ่นในเขตปกครองของตน ซึ่งถือว่าเป็นภาษาสำหรับศาสนาฮินดู ให้ใช้[[ภาษาโปรตุเกส]]เป็นภาษาราชการแทน ทำให้การใช้ภาษากอนกานีลดลงและทำให้ภาษาโปรตุเกสมีอิทธิพลต่อภาษากอนกานีสำเนียงของชาวคริสต์มาก ส่วนชาวกอนกานีที่นับถือศาสนาฮินดูใช้ภาษามราฐีเป็นภาษาทางศาสนา และจากความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างภาษากอนกานีและภาษามราฐี ทำให้ชาวกอนกานีส่วนใหญ่พูดภาษามราฐีเป็นภาษาที่สองและปัจจุบันเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันของชาวฮินดูในกัวรวมทั้งชาวกอนกานีด้วย ชาวคริสต์ชั้นสูงใช้ภาษากอนกานีกับชนชั้นที่ต่ำกว่าและยากจน ส่วนในสังคมของตนใช้ภาษาโปรตุเกส


บรรทัด 138: บรรทัด 138:


สถานะของภาษากอนกานีจัดว่าน่าเป็นห่วง มีการใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการและภาษาทางสังคมในหมู่ชาวคริสต์ ในหมู่ชาวฮินดูนิยมใช้ภาษามราฐีมากกว่าและมีการแบ่งแยกระหว่างชาวคริสต์และชาวฮินดูมากขึ้น
สถานะของภาษากอนกานีจัดว่าน่าเป็นห่วง มีการใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการและภาษาทางสังคมในหมู่ชาวคริสต์ ในหมู่ชาวฮินดูนิยมใช้ภาษามราฐีมากกว่าและมีการแบ่งแยกระหว่างชาวคริสต์และชาวฮินดูมากขึ้น
===ยุคหลังได้รับเอกราช===
=== ยุคหลังได้รับเอกราช ===
หลังจากอินเดียได้รับเอกราช กัวได้รวมเข้ากับอินเดียเมื่อ พ.ศ. 2504 ได้เกิดข้อโต้แย้งในกัวเกี่ยวกับสถานะของภาษากอนกานีในฐานะภาษาเอกเทศและอนาคตของกัวว่าจะรวมเข้ากับรัฐมหาราษฏระหรือเป็นรัฐต่างหากต่อไป บทสรุปปรากฏว่ากัวเลือกเป็นรัฐต่างหากใน พ.ศ. 2510 ส่วนในด้านภาษา ภาษาที่มีการใช้มากภายในรัฐได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฮินดี ภาษามราฐี ส่วนภาษากอนกานียังไม่ได้รับการใส่ใจ
หลังจากอินเดียได้รับเอกราช กัวได้รวมเข้ากับอินเดียเมื่อ พ.ศ. 2504 ได้เกิดข้อโต้แย้งในกัวเกี่ยวกับสถานะของภาษากอนกานีในฐานะภาษาเอกเทศและอนาคตของกัวว่าจะรวมเข้ากับรัฐมหาราษฏระหรือเป็นรัฐต่างหากต่อไป บทสรุปปรากฏว่ากัวเลือกเป็นรัฐต่างหากใน พ.ศ. 2510 ส่วนในด้านภาษา ภาษาที่มีการใช้มากภายในรัฐได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฮินดี ภาษามราฐี ส่วนภาษากอนกานียังไม่ได้รับการใส่ใจ
===การกำหนดให้เป็นภาษาเอกเทศ===
=== การกำหนดให้เป็นภาษาเอกเทศ ===
ในขณะที่มีความเชื่อว่าภาษากอนกานีเป็นสำเนียงของภาษามราฐีไม่ใช่ภาษาเอกเทศ สุนิต กุมาร จัตเตร์ชี ประธานคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์แห่งชาติได้จัดการประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับข้อโต้แย้งนี้และได้บทสรุปเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ว่าภาษากอนกานีเป็นภาษาเอกเทศ <ref>[http://www.konkaniworld.com/heritage/index.asp?id=246 Sahitya Academy & Konkani Literature]</ref>
ในขณะที่มีความเชื่อว่าภาษากอนกานีเป็นสำเนียงของภาษามราฐีไม่ใช่ภาษาเอกเทศ สุนิต กุมาร จัตเตร์ชี ประธานคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์แห่งชาติได้จัดการประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับข้อโต้แย้งนี้และได้บทสรุปเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ว่าภาษากอนกานีเป็นภาษาเอกเทศ <ref>[http://www.konkaniworld.com/heritage/index.asp?id=246 Sahitya Academy & Konkani Literature]</ref>


===สถานะการเป็นภาษาราชการ===
=== สถานะการเป็นภาษาราชการ ===
กลุ่มผู้รักภาษากอนกานีได้เรียกร้องให้ภาษากอนกานีเป็นภาษาประจำรัฐกัวใน พ.ศ. 2529 ในที่สุดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 รัฐกัวยอมรับให้ภาษากอนกานีเป็นภาษาราชการของรัฐ และได้รับการยอมรับให้เป็นภาษาประจำชาติของอินเดียเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2535
กลุ่มผู้รักภาษากอนกานีได้เรียกร้องให้ภาษากอนกานีเป็นภาษาประจำรัฐกัวใน พ.ศ. 2529 ในที่สุดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 รัฐกัวยอมรับให้ภาษากอนกานีเป็นภาษาราชการของรัฐ และได้รับการยอมรับให้เป็นภาษาประจำชาติของอินเดียเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2535


บรรทัด 158: บรรทัด 158:
* ความนิยมของประชาชนที่นิยมพูดกับเด็กๆด้วยภาษาที่ใช้ทำมาหากิน ไม่ใช่ภาษาแม่ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ภาษาอังกฤษของเด็กดีขึ้น
* ความนิยมของประชาชนที่นิยมพูดกับเด็กๆด้วยภาษาที่ใช้ทำมาหากิน ไม่ใช่ภาษาแม่ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ภาษาอังกฤษของเด็กดีขึ้น
มีความพยายามที่จะฟื้นฟูภาษากอนกานีโดยเฉพาะความพยายามของเศนอย โคเอมพับ ที่พยายามสร้างความสนใจวรรณกรรมภาษากอนกานีขึ้นอีกครั้ง มีองค์ที่สนับสนุนการใช้ภาษากอนกานี เช่น กอนกาน ไทซ ยตระ ที่บริหารโดยมันเดล และองค์กรที่ใหม่กว่าอย่างเช่น วิศวะ กอนกานี ปาริศัด
มีความพยายามที่จะฟื้นฟูภาษากอนกานีโดยเฉพาะความพยายามของเศนอย โคเอมพับ ที่พยายามสร้างความสนใจวรรณกรรมภาษากอนกานีขึ้นอีกครั้ง มีองค์ที่สนับสนุนการใช้ภาษากอนกานี เช่น กอนกาน ไทซ ยตระ ที่บริหารโดยมันเดล และองค์กรที่ใหม่กว่าอย่างเช่น วิศวะ กอนกานี ปาริศัด
===การใช้หลายภาษา===
=== การใช้หลายภาษา ===
จากการสำรวจในอินเดีย ผู้พูดภาษากอนกานีพูดได้หลายภาษา ใน พ.ศ. 2544 ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศมีผู้ใช้สองภาษา 19.44% และใช้สามภาษา 7.26% ในขณะที่เฉพาะผู้พูดภาษากอนกานี มีผู้ใช้สองภาษา 74.2% และใช้สามภาษา 44.68% ทำให้ชุมชนของชาวกอนกานีเป็นชุมชนของผู้ใช้หลายภาษาในอินเดีย เหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการที่ขาดโรงเรียนที่สอนด้วยภาษากอนกานีเป็นภาษาแรกหรือภาษาที่สอง
จากการสำรวจในอินเดีย ผู้พูดภาษากอนกานีพูดได้หลายภาษา ใน พ.ศ. 2544 ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศมีผู้ใช้สองภาษา 19.44% และใช้สามภาษา 7.26% ในขณะที่เฉพาะผู้พูดภาษากอนกานี มีผู้ใช้สองภาษา 74.2% และใช้สามภาษา 44.68% ทำให้ชุมชนของชาวกอนกานีเป็นชุมชนของผู้ใช้หลายภาษาในอินเดีย เหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการที่ขาดโรงเรียนที่สอนด้วยภาษากอนกานีเป็นภาษาแรกหรือภาษาที่สอง


บรรทัด 171: บรรทัด 171:
องค์กรวิชาการสาหิตยะในอินเดียยอมรับภาษากอนกานีในฐานะภาษาเอกเทศเมื่อ พ.ศ. 2518 และภาษากอนกานีที่เขียนด้วยอักษรเทวนาครีได้เป็นภาษาราชการของกัวใน พ.ศ. 2530
องค์กรวิชาการสาหิตยะในอินเดียยอมรับภาษากอนกานีในฐานะภาษาเอกเทศเมื่อ พ.ศ. 2518 และภาษากอนกานีที่เขียนด้วยอักษรเทวนาครีได้เป็นภาษาราชการของกัวใน พ.ศ. 2530


==การแพร่กระจาย==
== การแพร่กระจาย ==
ภาษกอนกานีใช้พูดทั่วไปในเขตกอนกาน ซึ่งรวมถึง [[กัว]] ชายฝั่งตอนใต้ของรัฐมหาราษฏระ ชายฝั่งของรัฐการณาฏกะ และรัฐเกราลา แต่ละท้องถิ่นมีสำเนียงของตนเอง การแพร่กระจายของผู้พูดภาษานี้มีสาเหตุหลักจากการออพยพของชาวกัวเพื่อหลบหนีการปกครองของ[[โปรตุเกส]]
ภาษกอนกานีใช้พูดทั่วไปในเขตกอนกาน ซึ่งรวมถึง [[กัว]] ชายฝั่งตอนใต้ของรัฐมหาราษฏระ ชายฝั่งของรัฐการณาฏกะ และรัฐเกราลา แต่ละท้องถิ่นมีสำเนียงของตนเอง การแพร่กระจายของผู้พูดภาษานี้มีสาเหตุหลักจากการออพยพของชาวกัวเพื่อหลบหนีการปกครองของ[[โปรตุเกส]]


==ระบบการเขียน==
== ระบบการเขียน ==


ภาษากอนกานีเขียนด้วยอักษณหลายชนิด ทั้ง [[อักษรเทวนาครี]] [[อักษรโรมัน]] (เริ่มสมัยอาณานิคมของโปรตุเกส) [[อักษรกันนาดา]] ใช้ในเขตมันกาลอร์ และชายฝั่งของรัฐการณาฏกะ [[อักษรอาหรับ]]ในหมู่ผู้นับถือศาสนาอิสลามที่เรียกว่า ภัทกาลี ชนกลุ่มนี้หันมานับถือ[[ศาสนาอิสลาม]]ในสมัยสุลต่านทิบบู อยู่ในเขตรัฐการณาฏกะ มีผู้เขียนด้วย[[อักษรมาลายาลัม]]กลุ่มเล็กๆในเกราลา แต่ปัจจุบันเริ่มหันมาใช้อักษรเทวนาครีแทน
ภาษากอนกานีเขียนด้วยอักษณหลายชนิด ทั้ง [[อักษรเทวนาครี]] [[อักษรโรมัน]] (เริ่มสมัยอาณานิคมของโปรตุเกส) [[อักษรกันนาดา]] ใช้ในเขตมันกาลอร์ และชายฝั่งของรัฐการณาฏกะ [[อักษรอาหรับ]]ในหมู่ผู้นับถือศาสนาอิสลามที่เรียกว่า ภัทกาลี ชนกลุ่มนี้หันมานับถือ[[ศาสนาอิสลาม]]ในสมัยสุลต่านทิบบู อยู่ในเขตรัฐการณาฏกะ มีผู้เขียนด้วย[[อักษรมาลายาลัม]]กลุ่มเล็กๆในเกราลา แต่ปัจจุบันเริ่มหันมาใช้อักษรเทวนาครีแทน
บรรทัด 304: บรรทัด 304:
ในกรนาฏกะที่มีผู้พูดภาษากอนกานีจำนวนมาก ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้ใช้อักษรกันนาดาเขียนภาษากอนกานีในโรงเรียนท้องถิ่นแทนอักษรเทวนาครี ในปัจจุบันไม่มีอักษรชนิดใดหรือสำเนียงใดเป็นที่เข้าใจหรือได้รับการยอมรับจากทุกส่วน การที่ขาดสำเนียงที่เป็นกลางและเข้าใจกันได้ทั่วไป ทำให้ผู้พูดภาษากอนกานีต่างสำเนียงกันต้องสื่อสารกันด้วยภาษาอื่น
ในกรนาฏกะที่มีผู้พูดภาษากอนกานีจำนวนมาก ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้ใช้อักษรกันนาดาเขียนภาษากอนกานีในโรงเรียนท้องถิ่นแทนอักษรเทวนาครี ในปัจจุบันไม่มีอักษรชนิดใดหรือสำเนียงใดเป็นที่เข้าใจหรือได้รับการยอมรับจากทุกส่วน การที่ขาดสำเนียงที่เป็นกลางและเข้าใจกันได้ทั่วไป ทำให้ผู้พูดภาษากอนกานีต่างสำเนียงกันต้องสื่อสารกันด้วยภาษาอื่น


==อ้างอิง==
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==


*[http://www.konkanisammelan.org/ Konkani Sammelan: Biennial event in North America]
* [http://www.konkanisammelan.org/ Konkani Sammelan: Biennial event in North America]
*[http://www.ourkarnataka.com/learn_konkani/learn_konkani_main.htm Learn GSB Konkani online]
* [http://www.ourkarnataka.com/learn_konkani/learn_konkani_main.htm Learn GSB Konkani online]
*[http://www.mangalorean.com/konkani/archive.php?ltype=Lesson Learn Mangalorean Konkani online]
* [http://www.mangalorean.com/konkani/archive.php?ltype=Lesson Learn Mangalorean Konkani online]
*[http://www.ethnologue.com/show_family.asp?subid=1575 Ethnologue report for Konkani]
* [http://www.ethnologue.com/show_family.asp?subid=1575 Ethnologue report for Konkani]
*[http://www.kamat.com/kalranga/konkani/konkani.htm The Origins of the Konkani Language]
* [http://www.kamat.com/kalranga/konkani/konkani.htm The Origins of the Konkani Language]
*[http://www.india-seminar.com/2004/543/543%20madhavi%20sardesai.htm Mother Tongue blues by Madhavi Sardesai]
* [http://www.india-seminar.com/2004/543/543%20madhavi%20sardesai.htm Mother Tongue blues by Madhavi Sardesai]
*[http://www.kamat.com/kalranga/konkani/prominent_konkanis.htm List of Prominent Konkanis]
* [http://www.kamat.com/kalranga/konkani/prominent_konkanis.htm List of Prominent Konkanis]
*[http://www.goakonkaniakademi.org/konkaniweb/language-literature.htm An excellent article on Konkani history and literature by Goa Konkani Academi]
* [http://www.goakonkaniakademi.org/konkaniweb/language-literature.htm An excellent article on Konkani history and literature by Goa Konkani Academi]
*[http://www.savemylanguage.org/ Online Konkani (GSB) dictionary]
* [http://www.savemylanguage.org/ Online Konkani (GSB) dictionary]
{{อินคูเบเตอร์|kok}}
{{อินคูเบเตอร์|kok}}
{{ภาษาราชการอินเดีย}}
{{ภาษาราชการอินเดีย}}
{{อินโด-อิหร่าน}}
{{อินโด-อิหร่าน}}

[[หมวดหมู่:ภาษาในประเทศอินเดีย|กอนกานี]]
[[หมวดหมู่:ภาษาในประเทศอินเดีย|กอนกานี]]


[[bn:কোঙ্কণী ভাষা]]
[[bn:কোঙ্কণী ভাষা]]
[[br:Konkaneg]]
[[br:Konkaneg]]
[[ca:Llengua konkani]]
[[ca:Konkani]]
[[cs:Konkánština]]
[[cs:Konkánština]]
[[cy:Konkaneg]]
[[cy:Konkaneg]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:39, 4 มกราคม 2554

ภาษากงกณี
कोंकणी Konknni ಕೊಂಕಣಿ കൊംകണീ koṃkaṇī
ประเทศที่มีการพูดอินเดีย
ภูมิภาคกอนกาน
จำนวนผู้พูด7.6 ล้านคน(ค่าประมาณ)  (ไม่พบวันที่)
ตระกูลภาษา
ระบบการเขียนอักษรเทวนาครี(ทางการ), อักษรละติน, อักษรกันนาดา, อักษรมาลายาลัม และ อักษรอาหรับ
รหัสภาษา
ISO 639-2kok
ISO 639-3มีหลากหลาย:
kok – ภาษากอนกานี (ทั่วไป)
knn – ภาษากอนกานี (เฉพาะ)
gom – ภาษากอนกานีถิ่นกัว

ภาษากงกณี(อักษรเทวนาครี: कोंकणी ; อักษรกันนาดา:ಕೊಂಕಣಿ; อักษรมาลายาลัม:കൊംകണീ ; อักษรโรมัน: Konknni) เป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยัน โดยมีคำศัพท์จากภาษาดราวิเดียนปนอยู่ด้วย ได้รับอิทธิพลจากภาษาอื่นหลายภาษา ทั้งภาษาโปรตุเกส ภาษากันนาดา ภาษามราฐี ภาษาเปอร์เซีย และภาษาอาหรับ มีผู้พูดประมาณ 7.6 ล้านคน [1] [2]แต่เดิมเชื่อกันว่าภาษานี้เป็นภาษาถิ่นของภาษามราฐี แต่หลักฐานที่พบภาษากอนกานีเกิดก่อนภาษามราฐีนานมาก จารึกภาษากอนกานีพบครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1730 ขณะที่จารึกภาษามราฐีพบครั้งแรก เมื่อราว พ.ศ. 2100

ลักษณะ

ภาษากอนกานีเป็นภาษาที่มีความหลากหลายในด้านการเรียงประโยคและรูปลักษณ์ของภาษา ไม่อาจจำแนกได้ว่าเป็นภาษาที่ใช้การเน้นเสียงหรือเป็นภาษาที่มีวรรณยุกต์ [3] เป็นภาษาที่แยกเสียงสั้นยาวของสระเช่นเดียวกับภาษาในกลุ่มอินโด-อารยันอื่นๆ พยางค์ที่มีสระเสียงยาวมักเป็นพยางค์ที่เน้น

ภาษากอนกานีมีสระพื้นฐาน 16 เสียง พยัญชนะ 36 เสียง เสียงกึ่งสระ 5 เสียง เสียงออกตามไรฟัน 3 เสียง เสียงระบายลม 1 เสียง และมีเสียงประสมจำนวนมาก ความแตกต่างของสระนาสิกเป็นลักษณะพิเศษของภาษากอนกานี

สระ

Front Near-front Central Near-back Back
Close
i •
• u
ɪ •
• ʊ
e •
• ɵ
• o
ɛ •
ʌ • ɔ
a •
• ɒ
Near‑close
Close‑mid
Mid
Open‑mid
Near‑open
Open

พยัญชนะ

พยัญชนะ
  Labial Dental Alveolar Retroflex Alveopalatal Velar Glottal
ไม่ก้อง
กัก
p

t̪ʰ
  ʈ
ʈʰ

cɕʰ
k
 
ก้อง
กัก
b

d̪ʰ
  ɖ
ɖʰ
ɟʝ
ɟʝʰ
ɡ
ɡʰ
 
ไม่ก้อง
เสียดแทรก
    s   ɕ   h
นาสิก m

n̪ʰ
  ɳ
ɳʰ
ɲ ŋ  
เสียงเหลว ʋ
ʋʰ
  l ɾ
ɾʰ
ɭ ɽ j    

ประวัติ

จุดเริ่มต้น

ภาษากอนกานีพัฒนาขึ้นในบริเวณกอนกานซึ่งเป็นฉนวนแผ่นดินแคบๆระหว่างเขตภูเขาสหยทริและทะเลอาหรับทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย โดยเฉพาะในโคมันตัก (ปัจจุบันคือกัว) ทฤษฎีเกี่ยวกับกำเนิดของภาษากอนกานีมีสองแบบคือ

  • ต้นกำเนิดของภาษากอนกานีคือกลุ่มพราหมณ์สรสวัต ผู้อยู่ตามฝั่งแม่น้ำสรวสวตีในอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว จากการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำเมื่อราว 1,357 ปีก่อนพุทธศักราช ทำให้มีการอพยพ กลุ่มผู้อพยพกลุ่มหนึ่งเข้ามาตั้งหลักแหล่งในบริเวณโคมันตัก คนกลุ่มนี้พูดภาษาปรากฤต(ภาษาเศารเสนี) ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นภาษากอนกานี[4]
  • ภาษากอนกานีเป็นภาษาท้องถิ่นที่ใช้พูดในหมู่ชาวโกกนาซึ่งถูกทำให้เป็นสันสกฤต ชนกลุ่มนี้ปัจจุบันอยู่ในทางเหนือของรัฐมหาราษฏระและทางใต้ของรัฐคุชราตแต่อาจจะมีต้นกำเนิดมาจากเขตกอนกาน ผู้อพยพชาวอารยันที่เข้าสู่กอนกานนำภาษาของคนในท้องถิ่นมาใช้และเพิ่มศัพท์จากภาษาปรากฤตและภาษาสันสกฤตเข้าไป [5]

ช่วงแรก

ภาษากอนกานีเป็นภาษาหลักในกัว เริ่มแรกเขียนด้วยอักษรพราหมี ต่อมาจึงเขียนด้วยอักษรเทวนาครี ใช้ในทางศาสนาและการค้ารวมทั้งในชีวิตประจำวัน

กลุ่มชนอื่นๆ ที่ใช้ภาษากอนกานีสำเนียงต่างๆ ได้แก่ชาวกอนกานมุสลิมในเขตรัตนกาลีและภัตกัล ซึ่งมีลักษณะของภาษาอาหรับเข้ามาปนมาก ชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้ภาษากอนกานีคือชาวสิททิสซึ่งมาจากเอธิโอเปีย[6]

การอพยพและการแยกเป็นส่วน

การเข้ามาของโปรตุเกสทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากในหมู่ของชาวกอนกานี ชาวกอนกานีบางส่วนเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์และอิทธิพลทางศาสนาของโปรตุเกสทำให้ชาวกอนกานีบางส่วนอพยพออกไป การแบ่งแยกระหว่างชาวกอนกานีที่นับถือศาสนาฮินดูและคริสต์ทำให้ภาษากอนกานีแตกเป็นหลายสำเนียงยิ่งขึ้น

ภาษานี้แพร่ไปสู่เขตจนระหรือกรวลี (ชายฝั่งของการณตกะ) โกกัน-ปัตตะ (ชายฝั่งกอนกาน ส่วนของรัฐมหาราษฏระ) และรัฐเกราลาในช่วง 500 ปีหลัง การอพยพของชาวกอนกานีมีสาเหตุมาจากการปกครองกัวของโปรตุเกส

การอพยพของชาวคริสต์และฮินดูเกิดเป็น 3 ระลอก การอพยพครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2103 ซึ่งเป็นช่วงแรกที่โปรตุเกสเข้ามาปกครองกัว ครั้งที่ 2 เกิดเมื่อ พ.ศ. 2114 ในสงครามกับสุลต่านพิชปูร์ การอพยพครั้งที่ 3 เกิดขึ้นระหว่างสงครามในช่วง พ.ศ. 2226 - 2283 การอพยพในช่วงแรกเป็นผู้นับถือศาสนาฮินดู ส่วนสองครั้งหลัง ส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์

ภาษากอนกานีในกัวของโปรตุเกส

ในช่วงแรกของการเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส มิชชันนารีให้ความสำคัญกับการแปลคัมภีร์ศาสนาคริสต์เป็นภาษาท้องถิ่นทั้งภาษากอนกานีและภาษามราฐีจนกระทั่ง พ.ศ. 2227 โปรตุเกสห้ามใช้ภาษาถิ่นในเขตปกครองของตน ซึ่งถือว่าเป็นภาษาสำหรับศาสนาฮินดู ให้ใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการแทน ทำให้การใช้ภาษากอนกานีลดลงและทำให้ภาษาโปรตุเกสมีอิทธิพลต่อภาษากอนกานีสำเนียงของชาวคริสต์มาก ส่วนชาวกอนกานีที่นับถือศาสนาฮินดูใช้ภาษามราฐีเป็นภาษาทางศาสนา และจากความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างภาษากอนกานีและภาษามราฐี ทำให้ชาวกอนกานีส่วนใหญ่พูดภาษามราฐีเป็นภาษาที่สองและปัจจุบันเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันของชาวฮินดูในกัวรวมทั้งชาวกอนกานีด้วย ชาวคริสต์ชั้นสูงใช้ภาษากอนกานีกับชนชั้นที่ต่ำกว่าและยากจน ส่วนในสังคมของตนใช้ภาษาโปรตุเกส

ผู้อพยพชาวกอนกานีนอกกัวยังคงใช้ภาษากอนกานีและภาษามีความแตกต่างกันมากยิ่งขึ้น มีการเขียนภาษากอนกานีด้วยอักษรเทวนาครีในรัฐมหาราษฏระ ในขณะที่ผู้พูดในรัฐกรนาฏกะเขียนด้วยอักษรกันนาดา

การฟื้นฟูภาษากอนกานี

สถานะของภาษากอนกานีจัดว่าน่าเป็นห่วง มีการใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการและภาษาทางสังคมในหมู่ชาวคริสต์ ในหมู่ชาวฮินดูนิยมใช้ภาษามราฐีมากกว่าและมีการแบ่งแยกระหว่างชาวคริสต์และชาวฮินดูมากขึ้น

ยุคหลังได้รับเอกราช

หลังจากอินเดียได้รับเอกราช กัวได้รวมเข้ากับอินเดียเมื่อ พ.ศ. 2504 ได้เกิดข้อโต้แย้งในกัวเกี่ยวกับสถานะของภาษากอนกานีในฐานะภาษาเอกเทศและอนาคตของกัวว่าจะรวมเข้ากับรัฐมหาราษฏระหรือเป็นรัฐต่างหากต่อไป บทสรุปปรากฏว่ากัวเลือกเป็นรัฐต่างหากใน พ.ศ. 2510 ส่วนในด้านภาษา ภาษาที่มีการใช้มากภายในรัฐได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฮินดี ภาษามราฐี ส่วนภาษากอนกานียังไม่ได้รับการใส่ใจ

การกำหนดให้เป็นภาษาเอกเทศ

ในขณะที่มีความเชื่อว่าภาษากอนกานีเป็นสำเนียงของภาษามราฐีไม่ใช่ภาษาเอกเทศ สุนิต กุมาร จัตเตร์ชี ประธานคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์แห่งชาติได้จัดการประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับข้อโต้แย้งนี้และได้บทสรุปเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ว่าภาษากอนกานีเป็นภาษาเอกเทศ [7]

สถานะการเป็นภาษาราชการ

กลุ่มผู้รักภาษากอนกานีได้เรียกร้องให้ภาษากอนกานีเป็นภาษาประจำรัฐกัวใน พ.ศ. 2529 ในที่สุดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 รัฐกัวยอมรับให้ภาษากอนกานีเป็นภาษาราชการของรัฐ และได้รับการยอมรับให้เป็นภาษาประจำชาติของอินเดียเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2535

ปัญหา

ภาษากอนกานีเป็นภาษาที่ใกล้ตายเพราะ

  • การแตกแยกเป็นส่วนๆของภาษากอนกานี ทำให้ไม่มีสำเนียงกลางที่เข้าใจระหว่างกันได้
  • การแพร่หลายของวัฒนธรรมตะวันตกในอินเดีย
  • ชาวกอนกานีที่นับถือศาสนาฮินดูในกัวและบริเวณชายฝั่งของรัฐมหาราษฏระ ส่วนใหญ่ใช้ภาษามราฐีได้ด้วย
  • ผู้นับถือศาสนาอิสลามหันไปใช้ภาษาอูรดู
  • ปัญหาการติดต่อของชาวกอนกานีที่มีศาสนาต่างกัน และภาษากอนกานีไม่ได้เป็นภาษาสำคัญทางศาสนา ชาวกอนกานีมักติดต่อในกลุ่มที่นับถือศาสนาเดียวกันและหลีกเลี่ยงการติดต่อระหว่างกลุ่มที่มีศาสนาต่างกัน
  • การอพยพของชาวกอนกานีไปยังบริเวณอื่นๆของอินเดียและทั่วโลก
  • การขาดโอกาสที่จะเรียนภาษากอนกานีในโรงเรียน มีโรงเรียนที่สอนภาษากอนกานีไม่กี่แห่งในกัว ประชาชนที่อยู่นอกเขตที่ใช้ภาษากอนกานีไม่มีโอกาสได้เรียนภาษากอนกานีแม้ตะในแบบไม่เป็นทางการ
  • ความนิยมของประชาชนที่นิยมพูดกับเด็กๆด้วยภาษาที่ใช้ทำมาหากิน ไม่ใช่ภาษาแม่ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ภาษาอังกฤษของเด็กดีขึ้น

มีความพยายามที่จะฟื้นฟูภาษากอนกานีโดยเฉพาะความพยายามของเศนอย โคเอมพับ ที่พยายามสร้างความสนใจวรรณกรรมภาษากอนกานีขึ้นอีกครั้ง มีองค์ที่สนับสนุนการใช้ภาษากอนกานี เช่น กอนกาน ไทซ ยตระ ที่บริหารโดยมันเดล และองค์กรที่ใหม่กว่าอย่างเช่น วิศวะ กอนกานี ปาริศัด

การใช้หลายภาษา

จากการสำรวจในอินเดีย ผู้พูดภาษากอนกานีพูดได้หลายภาษา ใน พ.ศ. 2544 ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศมีผู้ใช้สองภาษา 19.44% และใช้สามภาษา 7.26% ในขณะที่เฉพาะผู้พูดภาษากอนกานี มีผู้ใช้สองภาษา 74.2% และใช้สามภาษา 44.68% ทำให้ชุมชนของชาวกอนกานีเป็นชุมชนของผู้ใช้หลายภาษาในอินเดีย เหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการที่ขาดโรงเรียนที่สอนด้วยภาษากอนกานีเป็นภาษาแรกหรือภาษาที่สอง

การใช้หลายภาษาไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่เป็นการชี้ให้เห็นว่าภาษากอนกานีเป็นภาษาที่ไม่เกิดการพัฒนา ผู้พูดภาษากอนกานีที่ใช้ภาษามราฐีในกัวและมหราราษฏระเชื่อว่าภาษากอนกานีเป็นสำเนียงของภาษามราฐี

ข้อโต้แย้งระหว่างภาษากอนกานีและภาษามราฐี

มีการกล่าวอ้างมานานแล้วว่าภาษากอนกานีเป็นสำเนียงของภาษามราฐีและไม่ใช่ภาษาเอกเทศ ซึ่งมีเหตุผลหลายประการ ได้แก่ ความใกล้เคียงระหว่างภาษามราฐีและภาษากอนกานี ความใกล้เคียงทางภูมิศาสตร์ระหว่างกัวและมหาราษฏระ อิทธิพลอย่างชัดเจนของภาษามราฐีต่อภาษากอนกานีสำเนียงที่ใช้พูดในรัฐมหาราษฏระ การที่ภาษากอนกานีมีวรรณกรรมน้อยและชาวกอนกานีที่นับถือศาสนาฮินดูจะใช้ภาษามราฐีเป็นภาษาที่สอง ทำให้งานเขียนของ Jose Pereira ใน พ.ศ. 2514 กล่าวว่าภาษากอนกานีเป็นสำเนียงของภาษามราฐี งานเขียนของ S. M. Katre ใน พ.ศ. 2509 ได้ใช้การศึกษาทางประวัติศาสตร์สมัยใหม่และเปรียบเทียบสำเนียงของภาษากอนกานีหกสำเนียงได้สรุปว่าจุดกำเนิดของภาษากอนกานีต่างจากภาษามราฐี เศนอย โคเอมพับ ผู้มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูภาษากอนกานี ได้ต่อต้านการใช้ภาษามราฐีในหมู่ชาวฮินดูและการใช้ภาษาโปรตุเกสในหมู่ของชาวคริสต์

การรวมของกัวเข้ากับอินเดียเมื่อ พ.ศ. 2504 เป็นเวลาที่รัฐในอินเดียมีการจัดตัวใหม่ตามเส้นแบ่งทางภาษา มีความต้องการที่จะรวมกัวเข้ากับรัฐมหาราษฏระเพราะในกัวมีผู้พูดภาษามราฐีจำนวนมาก และภาษากอนกานีถูกจัดให้เป็นสำเนียงของภาษามราฐี ดังนั้นสถานะของภาษากอนกานีในฐานะภาษาเอกเทศหรือเป็นสำเนียงของภาษามราฐีจึงเป็นหัวข้อทางการเมืองในการรวมรัฐกัวด้วย

องค์กรวิชาการสาหิตยะในอินเดียยอมรับภาษากอนกานีในฐานะภาษาเอกเทศเมื่อ พ.ศ. 2518 และภาษากอนกานีที่เขียนด้วยอักษรเทวนาครีได้เป็นภาษาราชการของกัวใน พ.ศ. 2530

การแพร่กระจาย

ภาษกอนกานีใช้พูดทั่วไปในเขตกอนกาน ซึ่งรวมถึง กัว ชายฝั่งตอนใต้ของรัฐมหาราษฏระ ชายฝั่งของรัฐการณาฏกะ และรัฐเกราลา แต่ละท้องถิ่นมีสำเนียงของตนเอง การแพร่กระจายของผู้พูดภาษานี้มีสาเหตุหลักจากการออพยพของชาวกัวเพื่อหลบหนีการปกครองของโปรตุเกส

ระบบการเขียน

ภาษากอนกานีเขียนด้วยอักษณหลายชนิด ทั้ง อักษรเทวนาครี อักษรโรมัน (เริ่มสมัยอาณานิคมของโปรตุเกส) อักษรกันนาดา ใช้ในเขตมันกาลอร์ และชายฝั่งของรัฐการณาฏกะ อักษรอาหรับในหมู่ผู้นับถือศาสนาอิสลามที่เรียกว่า ภัทกาลี ชนกลุ่มนี้หันมานับถือศาสนาอิสลามในสมัยสุลต่านทิบบู อยู่ในเขตรัฐการณาฏกะ มีผู้เขียนด้วยอักษรมาลายาลัมกลุ่มเล็กๆในเกราลา แต่ปัจจุบันเริ่มหันมาใช้อักษรเทวนาครีแทน

อักษรที่ใช้เขียนภาษากอนกานี
IPA อักษรเทวนาครีปรับปรุง อักษรเทวนาครีมาตรฐาน อักษรละติน อักษรกันนาดา อักษรมาลายาลัม อักษรอาหรับ
/ɵ/ o ಅ/ಒ ?
/aː/ a ?
/i/ i ?
/iː/ i ?
/u/ u ?
/uː/ u ?
/e/ e ?
/ɛ/ e ?
æ no symbol /e/ ಎ or ಐ ?
/ɵi/ ai/oi ?
/o/ o ?
/ɔ/ o ?
/ɵu/ au/ou ?
/ⁿ/ अं अं om/on ಅಂ അം ?
/k/ k ಕ್ ക് ک
/kʰ/ kh ಖ್ ഖ് که
/g/ g ಗ್ ഗ് ک
/gʱ/ gh ಘ್ ഘ് گه
/ŋ/ ंग ng ങ് ڭ
/ts/ च़ च़ ch ಚ್ ത്സ് څ
/c/ ch ಚ್ ച് چ
/cʰ/ chh ಛ್ ഛ് چه
/z/ ज़ ज़ z ? ز
/ɟ/ j ಜ್ ജ് ج
/zʰ/ झ़ झ़ zh ಝ್ ? زه
/ɟʱ/ jh ಝ್ ഝ് جه
/ɲ/ nh ഞ് ڃ
/ʈ/ tt ಟ್ ട് ټ
/ʈʰ/ tth ಠ್ ഠ് ټه
/ɖ/ dd ಡ್ ഡ് ډ
/ɖʱ/ ddh ಢ್ ഢ് ډه
/ɳ/ nn ಣ್ ണ് ڼ
/t̪/ t ತ್ ത് ت
/t̪ʰ/ th ಥ್ ഥ് ته
/d̪/ d ದ್ ദ് د
/d̪ʰ/ dh ಧ್ ധ് ده
/n/ n ನ್ ന് ن
/p/ p ಪ್ പ് پ
/f/ फ़ f ಫ್ ? ف
/b/ b ಬ್ ബ് ب
/bʱ/ bh ಭ್ ഭ് به
/m/ m ಮ್ മ് م
/j/ i/e/ie ಯ್ യ് ې
/ɾ/ r ರ್ ര് ر
/l/ l ಲ್ ല് ل
/ʃ/ x ಶ್ ഷ് ش
/ʂ/ x ಷ್ ശ് ?
/s/ s ಸ್ സ് س
/ɦ/ h ಹ್ ഹ് ?
/ɭ/ ll ಳ್ ള് ?
/ʋ/ v ವ್ വ് ڤ

การเขียนและหัวข้อเรื่องสำเนียง

ปัญหาทางด้านการใช้ระบบการเขียนหลายชนิดและสำเนียงที่ต่างกันกลายเป็นปัญหาสำคัญในการทำให้ภาษากอนกานีเป็นเอกภาพ การตัดสินใจให้ใช้อักษรเทวนาครีเป็นอักษรทางการและให้สำเนียงอันตรุซเป็นสำเนียงมาตรฐานทำให้มีข้อโต้แย้งตามมา สำเนียงอันตรุซเป็นสำเนียงที่ชาวกัวส่วนใหญ่ไม่เข้าใจและต่างจากภาษากอนกานีสำเนียงอื่น และอักษรเทวนาครีมีการใช้น้อยเมื่อเทียบกับอักษรโรมันในกัวและอักษรกันนาดาในบริเวณชายฝั่งของรัฐกรนาฏกะ ชาวคริสต์คาทอลิกในกัวได้ใช้อักษรโรมันในการเขียนงานวรรณกรรมและต้องการให้อักษรโรมันเป็นอักษรทางการเทียบเท่าอักษรเทวนาครี

ในกรนาฏกะที่มีผู้พูดภาษากอนกานีจำนวนมาก ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้ใช้อักษรกันนาดาเขียนภาษากอนกานีในโรงเรียนท้องถิ่นแทนอักษรเทวนาครี ในปัจจุบันไม่มีอักษรชนิดใดหรือสำเนียงใดเป็นที่เข้าใจหรือได้รับการยอมรับจากทุกส่วน การที่ขาดสำเนียงที่เป็นกลางและเข้าใจกันได้ทั่วไป ทำให้ผู้พูดภาษากอนกานีต่างสำเนียงกันต้องสื่อสารกันด้วยภาษาอื่น

อ้างอิง

  1. http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=knn
  2. http://www.ethnologue.com/show_family.asp?subid=92010
  3. Caroline Menezes (The National Institute for Japanese language, Tokyo, Japan). "The question of Konkani?" (PDF). Project D2, Typology of Information Structure". สืบค้นเมื่อ 2008-02-10.{{cite web}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  4. Origins of the Konkani Language - Krishnanand Kamat
  5. Tracing the Roots of the Konkani Language - Dr. Nandkumar Kamat
  6. People of India - Siddis
  7. Sahitya Academy & Konkani Literature

แหล่งข้อมูลอื่น