ธัมมจักกัปปวัตนสูตร

ส่วนหนึ่งของ | |
ศาสดา | |
จุดมุ่งหมาย | |
นิพพาน | |
พระรัตนตรัย | |
หลักปฏิบัติ | |
ศีล · สมาธิ · ปัญญา สมถะ · วิปัสสนา บทสวดมนต์ | |
คัมภีร์ | |
พระไตรปิฎก พระวินัยปิฎก · พระสุตตันตปิฎก · พระอภิธรรมปิฎก | |
หลักธรรม | |
ไตรลักษณ์ · อริยสัจ 4 · มรรค 8 · ปฏิจจสมุปบาท · มงคล 38 | |
นิกาย | |
เถรวาท · มหายาน · วัชรยาน | |
สังคม | |
ปฏิทิน · บุคคล · วันสำคัญ · ศาสนสถาน | |
การจาริกแสวงบุญ | |
สังเวชนียสถาน · การแสวงบุญในพุทธภูมิ | |
ดูเพิ่มเติม | |
คำศัพท์ หมวดหมู่ศาสนาพุทธ |
ธัมมจักกัปปวัตนสูตร[1][2] หรือเขียนอย่างภาษามคธว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (ฟัง) เป็นปฐมเทศนา เทศนากัณฑ์แรก ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระปัญจวัคคีย์[3] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสธัมมจักกัปปวัตนสูตรนี้อยู่ ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธุลีปราศจากมลทิน ก็ได้เกิดขึ้นแก่ท่านพระโกณฑัญญะ นับเป็นพระสงฆ์สาวกองค์แรกในพระพุทธศาสนา วันนั้นเป็นวันเพ็ญกลางเดือนอาสาฬหะหรือเดือน 8 เป็นวันที่พระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ บังเกิดขึ้นในโลกเป็นครั้งแรก คือมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ครบบริบูรณ์
ธัมมจักกัปปวัตนสูตร มีเนื้อหาแสดงถึงการปฏิเสธส่วนที่สุดสองอย่าง และเสนอแนวทางดำเนินชีวิตโดยสายกลางอันเป็นแนวทางใหม่ให้มนุษย์ มีเนื้อหาแสดงถึงขั้นตอนและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงอริยสัจทั้ง 4 คือ อริยมรรคมีองค์ 8 โดยเริ่มจากทำความเห็นให้ถูกทางสายกลางก่อน เพื่อดำเนินตามขั้นตอนการปฏิบัติรู้เพื่อละทุกข์ทั้งปวง เพื่อความดับทุกข์ อันได้แก่นิพพาน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา
เนื้อหา
ที่มา[แก้]
ธัมมจักกัปปวัตนสูตรมิได้เป็นพระสูตรเฉพาะที่ปรากฏอย่างโดดๆ ในพระไตรปิฎก แต่เป็นพระสูตรที่มีเนื้อหาปรากฏอยู่ในพระสูตร และกถาที่แตกต่างกัน 2 แห่ง กล่าวคือ ปรากฏเนื้อความใน ปญฺจวคฺคิยกถา ตอนปฐมเทศนา มหาขนฺธก มหาวคฺค ในพระวินัยปิฎก ซึ่งในกถานี้ในบางครั้งมีการระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แต่บางกรณีก็มิได้ระบุชื่อพระสูตร และยังปรากฏในตถาคตสุตฺตํ หรือตถาคตสูตร สมาธิวโคฺค สจฺจสํยุตฺตํ สํยุตฺตนิกาย ในพระสุตตันตปิฎก เรียกว่าธัมมจักกัปปวัตตนสูตรเช่นกัน
เนื้อหาจากปญฺจวคฺคิยกถา ตอนปฐมเทศนา มหาขนฺธก มหาวคฺค ในพระวินัยปิฎกอันเป็นที่มาของธัมมจักกัปปวัตตนสูตรนั้น มิได้ปรากฏอารัมภกถาว่า "เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา พาราณะสิยัง วิหะระติ อิสิปะตะเน มิคะทาเย ตัตระ โข ภะคะวา ปัญจะวัคคิเย ภิกขู อามันเตสิ ฯ" มีความหมายว่า "ข้าพเจ้าได้ฟังจากพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ว่า ในสมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันใกล้เมืองพาราณสีฯ ในกาลครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเตือนสติ เหล่าภิกษุปัญจวัคคีย์ให้ตั้งใจฟังและพิจารณาตามพระดำรัสของพระองค์อย่างนี้ว่า ฯ" อันเป็นอารัมภกถาที่กล่าวโดยพระอานนท์ เพื่อแสดงต่อที่ประชุมสังคายนาครั้งแรก เพื่อชี้แจงว่าพระสูตรนี้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ณ สถานที่แห่งใด และทรงตรัสแก่ผู้ใด
ส่วนเนื้อหาจากตถาคตสุตฺตํ หรือตถาคตสูตร สมาธิวโคฺค สจฺจสํยุตฺตํ สํยุตฺตนิกาย ปรากฏอารัมภกถาว่า "เอกัง สมยัง ภควา พาราณสิยัง วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเยฯ ตัตระ โข ภควา ปัญจวัคคิเย ภิกขู อามันเตสิ ฯ" มีความหมายว่า "ในสมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันใกล้เมืองพาราณสีฯ ในกาลครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเตือนสติ เหล่าภิกษุปัญจวัคคีย์ให้ตั้งใจฟังและพิจารณาตามพระดำรัสของพระองค์อย่างนี้ว่า ฯ" จากนั้นจึงเริ่มเนื้อหาของพระสูตร ซึ่งตรงกันกับในมหาวคฺคทุกประการ
เนื้อหาในพระสูตร[แก้]
เนื้อหาที่เป็นประเด็นหลักในพระพุทธพจน์ที่ปรากฏในธัมมจักกัปปวัตนสูตรโดยสรุป มีดังนี้ (ฟัง เนื้อหาหัวใจธัมมจักกัปปวัตนสูตรบาลี)
|
||
– ธัมมจักกัปปวัตนสูตร |
กล่าวโดยสรุป ธัมมจักกัปปวัตนสูตร แสดงถึง
- ส่วนที่สุดสองอย่าง ที่พระพุทธศาสนาปฏิเสธ อันได้แก่ "กามสุขัลลิกานุโยค" คือการหมกมุ่นอยู่ในกามสุข และ "อัตตกิลมถานุโยค" คือการทรมานตนให้ลำบากโดยเปล่าประโยชน์หรือทุกรกิริยา "คือการกระทำกิจที่ทำได้โดยยาก" คือ การอดอาหาร
- มัชฌิมาปฏิปทา คือปฏิปทาทางสายกลางที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสรู้ ได้แก่ มรรคมีองค์แปด
- อริยสัจสี่ คือธรรมที่เป็นความจริงอันประเสริฐสี่ประการ
ส่วนที่สุดสองอย่าง[แก้]
ส่วนที่สุดสองอย่างอันบรรพชิตไม่ควรเสพ คือ
- การประกอบตนให้พัวพันด้วยกามสุขในกามทั้งหลาย เป็นธรรมอันเลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
- การประกอบความเหน็ดเหนื่อยแก่ตน (เช่น บำเพ็ญทุกรกิริยา) เป็นความลำบาก ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ปฏิปทาทางสายกลาง[แก้]
ปฏิปทาสายกลาง ไม่เข้าไปใกล้ที่สุดสองอย่างนั้น ที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน
ปฏิปทาสายกลางนั้น ได้แก่ อริยมรรคมีองค์ 8 คือ
- ปัญญาเห็นชอบ (สัมมาทิฏฐิ)
- ความดำริชอบ (สัมมาสังกัปปะ)
- เจรจาชอบ (สัมมาวาจา)
- การงานชอบ (สัมมากัมมันตะ)
- เลี้ยงชีวิตชอบ (สัมมาอาชีวะ)
- พยายามชอบ (สัมมาวายามะ)
- ระลึกชอบ (สัมมาสติ)
- ตั้งจิตมั่นชอบ (สัมมาสมาธิ)
อริยสัจสี่[แก้]
อริยสัจสี่ ธรรมที่เป็นความจริงอันประเสริฐสี่ประการ คือ
- ทุกขอริยสัจ คือ ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ความประจวบด้วยสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์
- ทุกขสมุทัยอริยสัจ คือ ตัณหา ประกอบด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน มีปกติเพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
- ทุกขนิโรธอริยสัจ คือ ตัณหาดับโดยไม่เหลือด้วยมรรค คือวิราคะ สละ สละคืน ปล่อยไป ไม่พัวพัน
- ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ คือ อริยมรรคมีองค์แปด
- อริยสัจสี่นี้
- ทุกขอริยสัจ ควรกำหนดรู้
- ทุกขสมุทัยอริยสัจ ควรละเสีย
- ทุกขนิโรธอริยสัจ ควรทำให้แจ้ง
- ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ คือ อริยมรรคมีองค์แปด ควรเจริญ
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ราชบัณฑิตยสถาน. (2553). กฎหมายตราสามดวง : พระทำนูน ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน. ISBN 9786167073118. หน้า 144.
- ↑ ราชบัณฑิตยสถาน. (ม.ป.ป.). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. [ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2554. (หาคำ "ธรรมจักร")
- ↑ พระไตรปิฎก เล่มที่ 4 พระวินัยปิฎก เล่มที่ 4 มหาวรรค ภาค 1 ธัมมจักกัปปวัตนสูตร. พระไตรปิฏกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก [1]. เข้าถึงเมื่อ 9-6-52
- พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). "พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์".
- สุรีย์ มีผลกิจ-วิเชียร มีผลกิจ "พระพุทธกิจ 45พรรษา".
- ธัมมจักกัปปวัตตนวรรคที่ 2 ตถาคตสูตรที่ 1 พระไตรปิฎก เล่มที่ 19
ดูเพิ่ม[แก้]
- วันอาสาฬหบูชา วันที่พระพุทธเจ้าแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร
- ธรรมจักรสูตร ธัมมจักกัปปวัตนสูตรที่ปรากฏในพระไตรปิฎกภาษาจีน
- ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ภาษาสันสกฤต ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ภาษาสันสกฤต
![]() |
วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: |
![]() |
วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: |