สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน)
Pinkanakorn Development Agency (Public Organization) | |
ตราสัญลักษณ์ของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) | |
ภาพรวมสำนักงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 |
ยุบเลิก | 15 เมษายน พ.ศ. 2562[1] |
หน่วยงานสืบทอด | |
ประเภท | องค์การมหาชน |
เขตอำนาจ | จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่เชื่อมโยง |
สำนักงานใหญ่ | 33 หมู่ 12 ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ |
งบประมาณต่อปี | 137,122,900 บาท (พ.ศ. 2568)[2] |
ฝ่ายบริหารสำนักงาน |
|
ต้นสังกัดสำนักงาน | สำนักนายกรัฐมนตรี |
เอกสารหลัก | |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) |
สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) (อังกฤษ: Pinkanakorn Development Agency (Public Organization)) เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพิงคนคร (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2556 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 โดยมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ที่เชื่อมโยงหรือต่อเนื่องกับเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพการเป็นแหล่งท่องเที่ยวกับทั้งเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว
ประวัติ
[แก้]สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จัดตั้งขึ้นจากเจตนารมณ์ที่จะพัฒนาพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และบริเวณที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งมีศักยภาพสูงมีความพร้อมในด้านต่างๆ โดยคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งหน่วยงานรูปแบบพิเศษขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2556 ประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้ในวันถัดมา และคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแลหน่วยงาน[3]
ในปีงบประมาณแรกที่จัดตั้ง สำนักงานฯได้รับงบประมาณสูงถึง 744.31 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการในพื้นที่ แต่ถึงแม้จะได้รับงบประมาณสูงในช่วงปีแรก กลับไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรมแม้แต่โครงการเดียว ทั้งหมดนี้เกิดจากความล้มเหลวของผู้บริหารและปัญหาภายใน มีความพยายามสรรหาผู้อำนวยการถึงเจ็ดครั้งแต่ล้มเหลวทุกครั้งจากการเล่นพรรคเล่นพวก และถูกแทรกแซงจากภาคการเมือง[4]
ด้วยความที่ไม่มีผลงานที่จับต้องได้ ทำให้สำนักงานฯถูกลดงบประมาณลงตามลำดับ จนเมื่อเกิดการรัฐประหาร รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าไปตรวจสอบและปลดผู้บริหาร รวมทั้งตั้งคณะกรรมการพิงคนครขึ้นมาเพื่อกำกับดูแล จนกระทั่งมีการยุบเลิกสำนักงานฯ ตามประกาศพระราชกฤษฎีกาฯ [1] โดยได้ดำเนินการถ่ายโอนอำนาจและหน้าที่ฯ ไปยังบริษัทธนารักษ์พัฒนสินทรัพย์ จำกัด (สำหรับศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ) และขณะนี้อยู่ระหว่างการถ่ายโอนอำนาจและหน้าที่ฯ ไปยังองค์การสวนสัตว์ (สำหรับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี)[5]
ประธานกรรมการ
[แก้]- อุดม พัวสกุล (1 ตุลาคม พ.ศ. 2556[6] - 1 เมษายน พ.ศ. 2558[7])
- สุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ (1 เมษายน พ.ศ. 2558 - 30 กันยายน พ.ศ. 2558)
- ปวิณ ชำนิประศาสน์ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 - 12 มีนาคม พ.ศ. 2561)
- กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร (13 มีนาคม พ.ศ. 2561 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2563)
- รองศาสตราจารย์ ดร. ณอคุณ สิทธิพงศ์ (31 มีนาคม พ.ศ. 2563 - ปัจจุบัน)
-
สัญลักษณ์ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
หน่วยงานในการดูแล
[แก้]- เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โอนมาจากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)
- ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา รับโอนมาจากสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อมาได้โอนกิจการไปอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 พระราชกฤษฎีกา ยุบเลิกสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2562, 2019-04-12 (in ไทย)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๘, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
- ↑ ครม.มอบ"ปลอดประสพ"ดูแลสำนักงานพัฒนาพิงคนคร[ลิงก์เสีย]
- ↑ "อดีตผอ.พิงค์นครร้องทหารช่วย หลังบอร์ดตั้งคนใหม่". เดลินิวส์. เชียงใหม่. 2018-10-16. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-15. สืบค้นเมื่อ 2018-10-16.
- ↑ "ยุบพิงคนคร!! มีผล 15 เม.ย. 62 โอนศูนย์ประชุมให้ธนารักษ์ ไนท์ซาฟารีโอนไปสวนสัตว์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-02-08. สืบค้นเมื่อ 2021-02-08.
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร (จำนวน ๗ ราย ๑. นายอุดม พัวสกุล ฯ)
- ↑ รายงานการติดตามแผนและผลการดำเนินงานด้านการตรวจสอบ[ลิงก์เสีย]